เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2561

GDN 137 เรือรบขวานปีศาจ



บ้านของต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ภายในห้องของฮั่นหลาง

ฮั่นหลางได้โทรทางไกลไปที่โลกเขาเห็นหลี่อู่อยู่เพียงลำพัง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนก็ตามสำหรับคนที่อยู่ห่างไกลออกมา หัวใจของพวกเขาย่อมคิดถึงบ้านเสมอ ดังนั้นฮั่นหลางจึงมักจะติดต่อโลกเป็นระยะ ๆ เสมอ

"ทำไมถึงมีแค่คุณ?" ฮั่นหลางถามหลี่อู่ออกไปด้วยความอยากรู้

หลี่อู่กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า "ช่วงนี้มันยุ่งมาก ฐานการผลิตเรือธงจะเริ่มใช้งานได้ภายใน 2-3 วันอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ที่เจ้าจากไปหลงฉวน และทาลิน ต่างพากันกินและนอน ใช้ชีวิตอยู่ที่ฐานการผลิต"

"ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หลงฉวนและทาลินต้องการที่จะอยู่ที่นั่นเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย พวกเขาฝากสวัสดีเจ้ามาด้วย"

"ฐานการผลิตเกือบพร้อมใช้งานแล้ว?! เยี่ยมมาก!" ฮั่นหลางยกกำปั้นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ทุกครั้งที่เขาได้ยินข่าวดีของโลกเขาจะรู้สึกได้รับแรงกระตุ้น

หลี่อู่พยักหน้าเอากระดาษพิมพ์เขียว 4 ชิ้นยืนไปที่ด้านหน้าฮั่นหลางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ภายใน 3 นี้ฐานการผลิตจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ หลงฉวนบอกให้ข้าขอความเห็นจากเจ้า เรื่องยานอวกาศขนาดเล็กสี่โมเดล พวกเราควรให้ความสำคัญกับการผลิตแบบไหน?

"อืม ข้าไม่ได้คาดคิดเรื่องนี้มาก่อน โลกมีพิมพ์เขียวมากเกินไปและตอนนี้ไม่แน่ใจที่จะเลือกชนิดโมเดลของเรือรบที่จะทำการผลิต มันเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึง!"

ฮั่นหลางตอบออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ข้อเสนอแนะของข้า พวกเราควรเน้นไปที่ความเชี่ยวชาญมากกว่าปริมาณโมเดลของเรือรบ เรือรบเหล่านี้มีความแตกต่างกันมากในแง่ของโครงสร้างและวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างสิ้นเชิง ถ้าเราผลิตทั้ง 4 โมเดลในเวลาใกล้ๆกันคนงานจะต้องเปลี่ยนกระบวนการผลิตหลายอย่าง มันเป็นความสูญเสียในการผลิตอย่างต่อเนื่อง อีกอย่างทหารก็จะต้องได้รับการฝึกอบรมแยกต่างหาก หากดูจากประสิทธิภาพที่แตกต่างกันและคุณลักษณะของเรือรบธงแต่ละแบบ มันก็จะลำบากมากเกินไป!"

"ขั้นแรกให้เลือกเรือธงมาแบบเดียวและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและประสิทธิภาพการฝึกอบรมให้สูงสุด"

"เมื่อเรามีกองทัพเรือรบแรกของเรา มันก็จะไม่มีใครกล้าที่จะคิดที่จะคุกคามโลกอีกต่อไป จากนั้นเราจะพิจารณาเรื่องการผลิตเรือประเภทอื่น ๆ"

หลี่อู่พยักหน้า "นั่นคือสิ่งที่หลงฉวนและข้าคิดเช่นกัน หลังจากที่ทุกสิ่งที่โลกต้องการในตอนนี้คือการสร้างรากฐานตัวเองให้แข็งแกร่ง ยกตัวเองให้สูงขึ้นในทางช้างเผือก และแน่นอนวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำเช่นนี้คือการมีกองทัพเรือที่แข็งแกร่งพอ! ข้าตกลงที่จะจัดตั้งกองทัพเรือรบและสร้างความชำนาญในรูปแบบที่แตกต่างกัน"

"แต่เรือรบทั้งสี่โมเดลนี้มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน เราต้องเลือกเพียงแบบเดียว"

ฮั่นหลางยิ้มและพูดว่า "ผมขอแนะนำให้ใช้โมเดล ขวานปีศาจ"

"ขวานปีศาจ?"

"ใช่แล้วขวานปีศาจไม่เพียงแต่จะดูเหมือนเป็นเรือรบที่ใช้ในสงครามใต้พิภพ ในบรรดาโมเดลทั้งสี่รุ่น ถึงแม้ว่าขวานปีศาจจะไม่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันหรือไม่ได้แข็งแกร่งในการโจมตีมากที่สุด แต่ก็มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีที่สุด"

"ไม่เพียงแค่ขวานปีศาจจะสามารถบรรจุลูกเล่นได้นับพันชนิด มันยังเต็มไปด้วยปืนใหญ่ระยะยาวและติดตั้งชุดทักษะต่าง ๆไว้รอบเรือรบด้วย เนื่องจากเราไม่ได้ตั้งใจที่จะผลิตเรือรบลาดตระเวนหรือเรือรบขนาดเล็ก หากแต่เราต้องการที่จะมีเรือรบประจัญบาน เพราะเราต้องการสร้างกองทัพเรือรบของเราโดยตรง นอกจากนั้นขวานปีศาจยังติดตั้งระบบปืนใหญ่ที่ทรงพลัง ซึ่งมันจะมีประโยชน์มากในการสู้รบ"

ฮั่นหลางถามว่า "อะไรที่คุณรู้สึกว่าเป็นคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของกองทัพเรือรบของเรา?"

หลี่อู่คิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "อาวุธ?"

ฮั่นหลางตอบว่า "มันเป็นปริมาณ! ตราบเท่าที่โลกสามารถผลิตจำนวนเรือธงได้มากพอในเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันก็จะไม่มีใครกล้าที่จะมากลั่นแกล้งเรา! ปริมาณนี้ไม่จำเป็นต้องมากกว่าเรือรบของดาวเคราะห์บริหารถาวรทั้ง 12 ในทางช้างเผือก แต่ก็ต้องสามารถทำให้ ดาวเคราะห์เช่นอาณาจักรแซลลี่ตกใจได้!"

เหตุผลที่ข้าเลือกขวานปีศาจเป็นเพราะมันเป็นเรือรบที่มีความคล่องตัวที่ไม่เหมือนใคร ความเร็ว โครงสร้างที่เรียบง่าย และเวลาในการใช้ผลิตก็สั้นที่สุด"

"ด้วยเวลาที่เท่ากัน ที่เราใช้ผลิตยานอวกาศขนาดใหญ่ได้เพียงหนึ่งลำ มันสามารถผลิตเรือรบที่คล่องตัวระดับขวานปีศาจได้ถึง 2 ลำ มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ถูกต้องไหม?"

หลี่อู่พยักหน้า "เจ้าพูดถูก แม้ว่าเกราะที่ใช้สร้างเรือรบชนิดนี้จะบางกว่าเล็กน้อยเพื่อความคล่องตัว แต่มันก็ยังคงเป็นเรือรบธง! พวกมันก็เป็นเรือธง! ไม่กี่ปีหลังจากนี้ เราจะมีกองทัพเรือรบขวานปีศาจ เราจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราสามารถข่มขวัญศัตรูได้!"

"ว่าแต่ว่า พี่น้องทุกคนคิดถึงเจ้า เจ้าจะกลับมาเมื่อไหร่?"

ฮั่นหลางยักไหล่ของเขาและพูดว่า "เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้า ข้ายังมีความผิดทางอาญาในกาแลคซีอยู่ในขณะนี้ และถ้าข้ากลับไป ข้าอาจนำปัญหากลับบ้านไปด้วย"

หลี่อู่ถอนหายใจและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

ทุกคนรู้ว่าฮั่นหลางรักบ้านของเขาและเขาก็เป็นคนที่เต็มใจที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับบ้านของเขา แต่โชคชะตาก็มักจะกลั่นแกล้งอยู่เสมอ ผู้ที่รักชาติเช่นฮั่นหลางไม่สามารถกลับไปบ้านได้ และต้องเดินทางไปในเขตชานเมืองทางช้างเผือกที่ยากลำบากราวกับนรก

ภายในใจของทุกคนต่างกำลังคิดถึงในทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮั่นหลางได้ช่วยเหลือและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโลก มันได้กลายเป็นพลังที่กระตุ้นให้ทหารทั้งหมดที่เหลืออยู่บนโลกต้องการที่จะปกป้องมัน ในตอนนี้ทุกคนบนโลกต่างมีความกระตือรือร้นในการสร้างอนาคตร่วมกัน

ฮั่นหลางและหลี่อู่คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง เขาและหลี่อู่คุยกันอย่างสม่ำเสมอมันถูกเก็บเป็นความลับไว้ จากนั้นฮั่นหลางก็ปิดช่องทางการสื่อสารแล้วออกเดินทางไปยังดาวเคราะห์ดวงที่ 8

หลังจากการต่อสู้กับหวังฉิน ฮั่นหลางต้องการสร้างเรือที่ดีกว่าของเดิม ดังนั้นต้นกำเนิดไร้จุดหมาย จึงแนะนำอู่ต่อเรือบนดาวเคราะห์ดวงที่ 8 ที่เรียกว่า ป่าสน

อู่ต่อเรือป่าสนตั้งอยู่บนดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ดวงที่ 8 อู่ต่อเรือกินพื้นที่ทั้งดวงจันทร์ หลังจากขอร่อนลงจอดแล้ว ยานอวกาศของฮั่นหลางได้บินไปถึงสนามบินเขามองไปรอบ ๆ และเห็นเรือเหาะจำนวนมากที่จอดอยู่รอบ ๆ พวกมันรอการซ่อมแก้ไข ส่วนใหญ่เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่เช่นเรือรบพิฆาตและเรือลาดตระเวนที่ดูแล้วล้วนไม่ธรรมดา

ฮั่นหลางลงจากเรือเหาะมองไปรอบ ๆ และพบว่าเรือรบที่จอดอยู่ที่นี่เป็นโมเดลที่พบได้บ่อยที่สุดในทางช้างเผือกเช่นระดับเหยี่ยวเวหา อีรีส  สุนัขล่าเนื้อ ฮัมมิ่งเบิร์ด และอื่น ๆ

"เจ้าคือฮั่นหลางใช่หรือไม่?" ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดทำงานสีน้ำเงินเดินเข้ามาหาเขาจากระยะไกล เขาดูอ่อนน้อมถ่อมตนมาก

ฮั่นหลางพยักหน้า ยิ้มและพูดออกมาว่า "ใช่ข้าคือฮั่นหลางที่โทรมานัดเมื่อวานนี้"

ชายหนุ่มเช็ดน้ำมันออกจากมือแล้วพูดว่า "ข้าคือโม่เซียวเป่ย อูสงหลินคือเจ้านายของข้า เขาอยู่ในห้องปฏิบัติการรอเจ้าอยู่ในตอนนี้"

ฮั่นหลางจับมือกับโม่เซียวเป่ย และเดินตามเขาไปในโรงเก็บของที่ดัดแปลงเป็นสถานปฏิบัติการ

ป่าสน (TL: คือคำแปลของคำว่าสงหลิน) อู่ต่อเรือได้รับการตั้งชื่อตามเจ้าของเรือและในไม่ช้า ฮั่นหลาง ก็ได้พบ อูสงหลิน ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากต้นกำเนิดไร้จุดหมาย เขาเป็นชายชรามีแผลเป็นบนใบหน้า สวมแว่นสายตาแปลก ๆ

อูสงหลินบอกโม่เซียวเป่ยให้นำเครื่องดื่มมาบริการ ก่อนที่เขาเองจะนั่งลงกับฮั่นหลางข้างโต๊ะไม้ที่ดูเรียบง่ายภายในโรงเก็บของ เขาโยนแว่นตาออกไปด้านข้าง อุปกรณ์ชนิดนี้สามารถมองเห็นผ่านชั้นเกราะของเรือรบดวงดาวเพื่อตรวจสอบว่าชั้นโครงสร้างยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่

"พี่ชายไร้จุดหมายเป็นอย่างไรบ้าง? ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าไปพังบ้านของราชวงศ์สายฟ้าหวังเมียนมาเมื่อวานนี้?" อูสงหลินนั่งลงก่อนจะเริ่มคุยเรื่องข่าวซุบซิบ

ฮั่นหลางยิ้มออกไปเฝื่อน ๆ ก่อนจะกล่าวออกมาว่า "ไม่ใช่เรา มันฝีมือของอาจารย์ไร้จุดหมายและคนอื่น ๆ ที่ทำมัน ข้าเพียงแค่ดู"

"อาจารย์? เจ้าเรียกไร้จุดหมายว่าอาจารย์?" อูสงหลินรูสึกลังเลและถามออกไปว่า "พี่ชายไร้จุดหมาย ตกลงรับเจ้าเป็นศิษย์ของเขา?"

ฮั่นหลางอธิบายออกไปในทันทีว่า "ไม่ใช่ มันเป็นแค่คำนำหน้าชื่อเพื่อแสดงความเคารพ ข้าติดตามและกำลังเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากพวกเขา"

“พวกเขา? เจ้าไม่เพียงแต่เรียนรู้จากไร้จุดหมาย แล้วมีใครอื่นอีก? อู้หวิน? คืนทะลาย?" อูสงหลินถามออกไปด้วยความอยากรู้

"ก็เรียนรู้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพวกเขาทั้งหมด"

โอ้ ~

สายตาของอูสงหลินเปล่งประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

โม่เซียวเป่ยนำน้ำแร่และแล็ปท็อปที่แสดงรูปแบบต่าง ๆ ของเรือเหาะ"

อูสงหลิน กล่าวว่า "เนื่องจากเจ้าได้รับการแนะนำให้มาที่นี่โดยพี่ชายไร้จุดหมาย ดังนั้นก็ถือว่าเจ้าก็เป็นหนึ่งในพวกเรา โปรดทำตัวตามสบาย ไม่ทราบว่าน้องฮั่นหลาง ต้องการเรือรบรุ่นไหน?"

ฮั่นหลางตอบว่า "ข้าคงต้องข้ามรุ่นใหญ่ ข้าบินเพียงคนเดียว ดังนั้นข้าชอบเรือขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ราชวงศ์สายฟ้าหวังฉินมีหรือมีเรือรบเงินที่มีประสิทธิภาพที่น่าทึ่ง แต่ข้าไม่เห็นรูปแบบภายนอกที่คล้ายกัน"

ชิ้ง ~

เมื่ออูสงหลินได้ยินฮั่นหลางพูดเช่นนั้น เขาส่งเสียงขึ้นจมูกและพูดออกมาอย่างไม่เห็นด้วย "ข้ารู้ว่าเรืออินทรีเป็นเรือรบของขบวนคุ้มกันพิเศษ มันก็เป็นผลงานที่ดูน่าสนใจ นอกจากนี้หวังฉินก็ปรับเปลี่ยนมันนิดหน่อย มันก็แค่ดูโอเค"

"แค่โอเค?" ฮั่นหลางรู้สึกงงงวยและพูดออกมาว่า "ข้าต่อสู้กับมันมาเมื่อไม่นานมานี้ เรือลำนั้นมันมีพลังมาก"

อูสงหลินและโม่เซียวเป่ยต่างก็หัวเราะออกมา ก่อนที่โม่เซียวเป่ยจะตอบว่า "แม้แต่คนภายนอกก็เข้าใจว่ามันเป็นเรือรบระดับสูง มันสามารถจมเรือรบธรรมดาได้ มันไม่ได้พิสูจน์ว่ามันเป็นเรือที่มีประสิทธิภาพ"

ฮั่นหลางลังเลอยู่ครู่หนึ่งและถามออกมาว่า "แล้วสิ่งใดที่ถือว่ามีประสิทธิภาพ?"

โม่เซียวเป่ยตอบออกไปว่า "แน่นอนว่าต้องเป็นเรือรบธรรมดาที่สามารถจมเรือรบชั้นยอดได้! เจ้านายของข้าเคยผลิตเรือโจรสลัดให้กับพวกนอกกฎหมาย

"เรือโจรสลัดเป็นเรือที่อ่อนแอ แต่สามารถปลดปล่อยพลังมหาศาลได้มากกว่าเรือรบในระดับเดียวกัน เราจะไม่ใส่งานมากเกินไปบนพื้นผิว แต่เรามุ่งเน้นที่ด้านในมากขึ้น"

"เน้นด้านใน?" ฮั่นหลางถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ตัวอย่างเช่น การติดตั้งเครื่องทำลายสัญญาณรบกวนสองเครื่องและลำแสงหยุดนิ่งคู่หนึ่ง?"

โม่เซียวเป่ยและอูสงหลินเจ้านายของเขาเริ่มหัวเราะอีกครั้ง ก่อนที่โม่เซียวเป่ยจะกล่าวออกมาว่า "ปกติแล้วเราจะไม่แนะนำให้ติดตั้ง เครื่องทำลายสัญญาณรบกวนหรือลำแสงหยุดนิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถลดความเร็วของศัตรูได้ แต่ไม่สามารถหยุดพวกเขาจากการหลบหนีทางประตูมิติได้ อีกอย่างเราอาจใช้พื้นที่นี้สำหรับเครื่องยนต์ทำลาย...

"เราเพียงแค่ติดตั้งเครื่องยนต์ทำลายโดยตรงและปัญหาทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไข เครื่องยนต์ทำลายสามารถยิงคลื่นแม่เหล็กย้อนกลับที่มีประสิทธิภาพเกินพิกัด และทำให้เครื่องยนต์หมดสภาพเมื่อมันถูกล็อก และหากเครื่องยนต์ใด ๆ ที่กระแทกโดน เรือจะถูกเผาไหม้ในทันทีและกลายเป็นเศษเหล็กหลอมละลาย พวกมันก็จะไม่สามารถแม้แต่จะเคลื่อนที่ขึ้นไปบนท้องฟ้าได้”

"เครื่องยนต์ทำลายจะส่งผลร้ายต่อผู้คนบนเรือ นอกจากนี้แม้ว่าเจ้าจะทำลายเครื่องยนต์ของพวกมันได้ และได้ไว้ชีวิตศัตรูหลังจากการโจมตี พวกเขาก็จะยังคงต้องรอความตายอยู่บนเรือเนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งผิดกฎหมายในกลุ่มพันธมิตรทางช้างเผือก"

"ในตอนแรกเราจะใช้เรือที่ดูธรรมดา แล้วทำให้อุปกรณ์ปกติเปลี่ยนไปเป็นอุปกรณ์ที่น่ากลัวและร้ายแรงที่สุด และเรือเหล่านั้นจะถูกเรียกว่าเรือโจรสลัด นอกจากพลังในการสู้รบจะแข็งแกร่งแล้ว มันยังดูตบตาได้ดีเนื่องจากมันมีขนาดเล็กทำให้เรือลำใหญ่คิดว่ามันเป็นเหยื่อที่เรียบง่าย"

ทั้งโม่เซียวเป่ยและอูสงหลินได้แนะนำฮั่นหลาง ให้เห็นถึงลักษณะต่าง ๆของเรือโจรสลัด มันทำให้ฮั่นหลางรู้สึกตกใจมากเมื่อเขาได้ฟัง

ไม่มีคนดีในอาณาจักรที่ถูกลืม

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้นกำเนิดไร้จุดหมายกล่าวว่าอูสงหลินสามารถทำให้เรือที่แย่ที่สุดกลายเป็นเรือที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างที่โหดร้ายและมีเจตนาที่ชั่วร้ายที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น