เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

GDN 124 การหายไปของใบเมเปิ้ลโบราณ



ฮั่นหลางไม่อาจเชื่อสายตาของตัวเอง คฤหาสน์ขนาดมหึมาตั้งตระหง่านข้างใต้ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

เส้นทางปูด้วยหินสีน้ำเงิน กำแพงที่สร้างด้วยหยกขาว หินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านที่ด้านนอกของประตูที่มีสลักคำไว้ว่า ใบเมเปิ้ลโบราณ

นี่เป็นมุมมองที่เป็นไปไม่ได้ แต่ที่ด้านหน้าของคฤหาสน์ครอบครัวอี่ไม่มียามรักษาประตู หรือยามรักษาความปลอดภัยหรือสิ่งอื่นใด แต่กลับมีนักท่องเที่ยวและประชาชนมากมายที่สัญจรไปมาได้อย่างอิสระ มีเต็นท์จำนวนมากตั้งอยู่บนพื้นหญ้า บางกลุ่มของคนหนุ่มสาวเริ่มก่อกองไฟบาร์บีคิวและร้องเพลง

คฤหาสน์เก่าแก่ที่ร่ำรวยกลายเป็นแบบนี้? มันเป็นเหมือนตลาดหรือสวนสาธารณะ!

คนขับรับเงินพร้อมกับหัวเราะออกมาและพูดว่า "เซอร์ บางทีท่านอาจยังไม่รู้ว่า ครอบครัวเมเปิ้ลโบราณได้จากไปแล้ว ตอนนี้คฤหาสน์ของพวกเขาได้กลายเป็นสวนสาธารณะและเปิดให้ทุกคนเข้ามาใช้ได้"

"จากไป? ครอบครัวอี่จากไปไหน?" ฮั่นหลางถามออกไปด้วยความอยากรู้

คนขับรถยักไหล่ "ใครจะรู้ ครอบครัวที่ร่ำรวยนี้ ไม่เคยบอกกำหนดเวลา หรือจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของพวกเขากับคนธรรมดาเช่นพวกเรา"

คนขับรถได้จากไปแล้ว เหลือเพียงฮั่นหลางที่ยังรู้สึกอึ้ง เขาเดินไปตามกระแสของผู้เข้าชมคฤหาสน์ของครอบครัวอี่

การมาเยี่ยมในครั้งนี้ ฮั่นหลางมีจุดประสงค์อยู่สองประการ อย่างแรกคือการมาเยี่ยมเยียน อี่เว่ยเว่ย และประการที่สองฮั่นหลางต้องการรู้ว่าครอบครัวอี่ มีความสามารถในการทำนายภัยพิบัติได้อย่างไรในอาณาจัการสาบสูญ A-19

แต่ในตอนนี้ ครอบครัวอี่ได้จากไป ทิ้งไว้แต่คฤหาสน์ที่แออัดด้วยผู้คน

มีทัวร์นำนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ ฮั่นหลางเงยหน้ามองและฟังคำอธิบายของไกด์ทัวร์

"สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่รัก นี่คือที่ตั้งของครอบครัวใบเมเปิ้ลที่มีชื่อเสียง ในเวลานี้ มรดกแห่งนี้ได้ถูกเปิดให้เข้าชมได้ฟรี พันธมิตรทางช้างเผือกเองไม่ได้สร้างมันขึ้นมา ปัจจุบันนี้มันมีอายุถึง 7600 ปี"

"คฤหาสน์นี้ครอบครองพื้นที่ถึง 30% ของพื้นที่ของหุบเขาเมเปิ้ลของเรา มีทางเข้ามากกว่า 1000 และนี่เป็นเพียงหนึ่งในนั้น"

"นอกจากนี้ครอบครัวอี่ ยังมีเรือบิน สนามบินและแม้กระทั่งมหาสมุทรส่วนตัว! ตามสารานุกรมกาแลคซีฉบับล่าสุด ระบุว่าความมั่งคั่งของครอบครัวอี่ สามารถถูกจัดอยู่ในอันดับ 50 ในทางช้างเผือก

นักท่องเที่ยวที่อยากรู้อยากเห็นได้ยกมือขึ้นและถามออกไปว่า "ในเมื่อพวกเขาโดดเด่นมาก ทำไมพวกเขาจึงจากไป?"

ไกด์ทัวร์หันไปมองและตอบกลับไปว่า "แม้ว่าครอบครัวอี่จะมีประวัติอันยาวนาน แต่พวกเขาต่างไปจากทุกครอบครัวใหญ่อื่นๆในทางช้างเผือก พวกเขาพัฒนาตัวเองอยู่นอกทางช้างเผือก"

"แม้ว่าครอบครัวอี่จะมีขนาดใหญ่มาก แต่ก็มีสมาชิกครอบครัวที่แท้จริงมีน้อยมาก ในตอนนี้มีเพียงสองคนที่มีสายเลือดของใบเมเปิ้ลที่แท้จริง นั่นคือ อี่กูฮง ที่พวกเรารู้จักกันดีและอีกคนหนึ่งเป็นหลานสาวของเขา อี่เว่ยเว่ย"

"ทั้งหมดนี้แม้ว่าครอบครัวอี่จะอาศัยอยู่ในทางช้างเผือก แต่ก็ไม่ใช่ครอบครัวทางช้างเผือกที่แท้จริง ขบวนเรือของพวกเขาเดินทางออกนอกทางช้างเผือกอยู่ตลอดเวลา และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกครอบครัวเพียงไม่กี่คนในครอบครัวอี่ นั่นอาจเป็นสาเหตุให้พวกเขาออกจากทางช้างเผือกไป"

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหัวข้ออย่างฉับพลัน ไกด์นำเที่ยวเริ่มกระซิบบอกว่า "แต่มันกลับมีข่าวลือมาว่า อี่เว่ยเว่ยไม่ใช่หลานสาวของอี่กูฮง ทุกคนที่อาศัยอยู่ในหุบเขาเมเปิ้ลรู้ว่า อี่กูฮงไม่เคยแต่งงาน แต่ 14 ปีก่อนเขาก็กลับมาพร้อมกับเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง บอกว่าเธอเป็นหลานสาวของเขา ในเวลานั้นคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ทุกคนต่างกังขามาก อี่กูฮงไม่มีลูก แล้วเขาจะกระโดดไปมีหลานสาวได้อย่างไร

จากนั้นนักท่องเที่ยวคนอื่นก็ยกมือขึ้นและถามว่า "ครอบครัวอี่ร่ำรวย ซึ่งพวกเขาได้ครอบครองแหล่งทรัพยากรในหุบเขาเมเปิ้ล ตอนนี้พวกเขาได้จากไป พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ที่นี่ควรที่จะมีความสุข ถูกต้องหรือไม่?"

ไกด์ทัวร์เริ่มโกรธขึ้นทันที เขาหยิกตัวเองแล้วพูดออกมาด้วยเสียงสูงว่า "เจ้าพูดอะไร! ครอบครัวอี่ไม่เพียงแต่ไม่รังเกียจเรา เมื่อใดก็ตามที่เป็นวันหยุดที่สำคัญหรืองานแต่งงานหรือมีเด็กแรกเกิด ครอบครัวอี่ก็จะส่งของขวัญให้พวกเราเสมอ แล้วเราจะไม่ต้อนรับครอบครัวอี่ให้อยู่ในหุบเขาเมเปิ้ลได้อย่างไร?"

"ดูคฤหาสน์นี้สิ มันมีอายุหลายพันปีและค่าใช้จ่ายของมันก็มหาศาล ท่านอี่กูฮงทำเพียงแค่โบกมือให้ก่อนที่เขาจะจากไป และเปิดคฤหาสน์ให้เข้ามาใช้แบบฟรีๆและเขาก็ทิ้งเงินจำนวนมหาศาลให้กับเราด้วย"

"ตอนนี้ เมื่อปราศจากครอบครัวอี่ เราเพียงหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว ทำร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงกับคฤหาสน์และขายของที่ระลึก เหตุผลที่ครอบครัวอี่เปิดคฤหาสน์ฟรี เพราะพวกเขากลัวว่าพวกเราชาวหุบเขาอาจจะมีเงินไม่เพียงพอและอดอยาก"

ฮั่นหลางยิ้มออกมา ชื่อเสียงของครอบครัวอี่ไม่เลวเลยทีเทียว

ไม่ได้พบกับอี่เว่ยเว่ย และไม่สามารถค้นหาความจริงได้ ฮั่นหลางรู้สึกผิดหวังนิดหน่อยในขณะที่เดินเข้าไปในคฤหาสน์

คฤหาสน์ขนาดใหญ่ดังกล่าวมีพื้นที่เทียบเท่ากับทวีปยุโรปและเอเชีย ไม่มีทางที่จะเดินทางรอบสถานที่ทั้งหมดโดยใช้เวลาเพียงแค่สองสามปี

ฮั่นหลาง! ฮั่นหลาง!

เมื่อฮั่นหลางกำลังจะจากไปเขาก็ได้ยินคนที่เรียกเขา

ฮั่นหลางหันกลับไปมองด้วยความอยากรู้ เขาก็เห็นสาวน้อยข้างคอกขายของที่ระลึก อายุประมาณ 17 หรือ 18 ปี ผมสีน้ำตาลมีกระบนจมูกของเธอ เธอดูสวยน่ารัก

"เป็นคุณชายจริงๆด้วย! คุณชายมาหาคุณหนูของเราใช่หรือไม่?"

"เจ้าคือ?"

"ข้าเป็นแม่บ้านของคุณหนูอี่ ชื่อว่าอิงอิง คุณชายไม่เคยเห็นข้ามาก่อน แต่ข้าเห็นท่าน ครั้งสุดท้ายที่ระบบมิราเคิลสตาร์ พวกเราทุกคนซ่อนอยู่หลังหน้าต่างที่จุดสูงสุด เมื่อคุณชายมาหาคุณหนูในวันนั้น" อิงอิงกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น

"โอ้ วันนั้นนั่นเอง ว่าแต่ว่าอี่เว่ยเว่ยไปไหน?"

"ข้าไม่รู้ แต่ครอบครัวของข้าเคยทำงานให้ครอบครัวอี่ บางทีพวกเขาอาจรู้อะไรบางอย่าง รอข้าครู่หนึ่ง"

จากนั้นเธอก็วิ่งไปที่คอกของเธอเพื่อรวบรวมสิ่งต่างๆ

หลังจากที่เธอเก็บของเสร็จ เธอก็เลื่อนรถเหาะขนาดเล็กซึ่งดูคล้ายกับสกู๊ตเตอร์ แต่ไม่มีล้อและใช้ระบบขับเคลื่อนแบบแม่เหล็กไฟฟ้า ออกมา

ชูววว ~

อิงอิงพาฮั่นหลางขับรถเข้าไปในบริเวณรอบๆคฤหาสน์ของตระกูลอี่ จนพวกเขามาถึงทะเลสาบ บริเวณนั้นมีบ้านไม้มากมาย มันดูราวกับบ้านพักตากอากาศ

อิงอิงชี้ไปที่ทะเลสาบและบ้านไม้ข้างทะเลสาบและกล่าวว่า "เมื่อท่านลอร์ดและคุณหนูจากไป ข้ารับใช้ที่ไม่ต้องการออกจากที่ไป ท่านลอร์ดได้มอบบ้านให้กับทุกคน บริเวณนี้เป็นของพวกเรา"

"พ่อ! พ่อ! คุณชายฮั่นหลางอยู่ที่นี่!"

อิงอิงกระตือรือร้นมาก เธอเดินเข้าไปในบ้านไม้และลากพ่อเธอออกมา พ่อของเธออายุราว 60 ปี ผิวสีน้ำตาลอ่อนและแขนขาด

พวกเขาเป็นข้ารับใช้ของครอบครัวอี่ อิงอิงและพ่อของเธอทั้งหมดจึงมีนามสกุลต่อท้ายว่าอี่ มันเป็นกฎของใบเมเปิ้ลโบราณ ตั้งแต่ผู้นำจนถึงข้ารับใช้ ถึงแม้ว่าตัวตนของพวกเขาจะดูแตกต่างกัน แต่ทุกคนต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกัน

อิงอิงกระตือรือร้นนำเก้าอี้สองตัวออกไปข้างนอกและวิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมเครื่องดื่มบางอย่าง

ฮั่นหลางและพ่อของอิงอิงเดินออกมาที่ลานข้างๆบ้านและเริ่มถามเรื่องครอบครัวอี่

พ่อของอิงอิงขมวดคิ้ว ก่อนที่เขาจะลดเสียงของเขาลงและกล่าวว่า "เหตุผลที่ท่านลอร์ดตัดสินใจ จากไปมันเริ่มมาจากเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา"

"ในความเป็นจริง ทั้งหุบเขาเมเปิ้ลต่างรู้ว่าคุณหนูไม่ใช่หลานสาวของท่านลอร์ดจริงๆ เธอถูกนำตัวกลับมาจากข้างนอกทางช้างเผือก เราไม่รู้ว่าที่ใด แต่ท่านลอร์ดรักคุณหนูมาก เมื่อตอนที่คุณหนูอายุแค่สองขวบ ท่านลอร์ดได้พาคนไปนอกทางช้างเผือกและการเดินทางในครั้งนั้นใช้เวลาถึงห้าปี เมื่อพวกเขากลับมา คุณหนูก็อายุได้ 7 ขวบ"

"ข้าได้ยินจากเพื่อนๆ ที่เดินทางไปในกองเรือรบว่า เหตุผลที่ท่านลอร์ดออกไปเป็นเวลานานนั้นก็เพื่อตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของคุณหนู หลังจากนั้นหนึ่งปี คุณหนูก็อายุ 8 ปี ท่านลอร์ดพักอยู่กับคุรหนูหนึ่งปี ก่อนที่จะอออกจากทางช้างเผือกไปอีกครั้ง คราวนี้ก็ใช้เวลา 7 ปี"

ฮั่นหลางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า "อี่กูฮง จากไปเมื่อ อี่เว่ยเว่ย อายุได้ 8 ปี และกลับมาอีกครั้งหลังจากนั้น 7 ปี เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาในช่วงการชุมนุมทางช้างเผือก?"

พ่อของอิงอิงพยักหน้าและกล่าวว่า "ถูกต้อง แน่นอนเราได้รับข้อความของท่านลอร์ดในวันที่คุณชายออกไปเที่ยวกับคุณหนู ท่านลอร์ดห้ามมิให้คุณหนูเข้าไปในอาณาจักรสาบสูญ มิฉะนั้นคุณหนูก็คงจะเข้าไปในอาณาจักรสาบสูญ A-19 พร้อมกับคุณชายแล้ว"

"หลังจากวันที่คุณชายเข้าไปในอาณาจักรสาบสูญ A-19 คุณหนูได้เดินทางกลับบ้าน ไม่นานหลังจากนั้นท่านลอร์ดก็กลับมาถึง ข้ารับใช้ที่เคยทำงานให้กับครอบครัวอี่ ทั้งชีวิตของเราไม่เคยได้เห็นท่านลอร์ดที่มีสภาพที่ย่ำแย่ แต่ละรุ่นของใบเมเปิ้ลต่างเป็นนักรบ ท่านลอร์ดเป็นนักรบชั้นนำในทางช้างเผือก"

"แต่เมื่อท่านลอร์ดกลับมาถึงบ้าน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล มันทำให้เขาดูแก่ขึ้นอีกยี่สิบสามสิบปี"

"และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ดูแปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น ท่านลอร์ดได้ปลดข้ารับใช้ที่ไม่เต็มใจที่จะออกจากทางช้างเผือกทั้งหมด ก่อนที่จะเตรียมการเดินทางออกจากทางช้างเผือกไปกับเขาในชั่วเวลาเพียงข้ามคืน และนำกองทัพเรือและคนที่เหลือทั้งหมดออกจากทางช้างเผือกในเช้าวันรุ่งขึ้น"

"ถ้าคุณชายไปตรวจสอบที่คฤหาสน์ จะเห็นว่าท่านลอร์ดรีบร้อนที่จะจากไป เขาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งเก้าอี้โยกที่เขาโปรดปรานเอาไว้"

เมื่อพูดถึงตอนนี้ อิงอิงได้นำชาและขนมมาที่ลานข้างบ้าน เธอวางไว้ข้างหน้าของฮั่นหลางและพ่อของเธอ จากนั้นนั่งบนเก้าอี้และนั่งฟังอยู่เงียบๆ

ฮั่นหลางกำลังงงและถามว่าทำไมท่านอี่กูฮงจึงกังวลมาก? คืนนั้นพ่อบ้านอี่หัวก็ตักเตือนข้า ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในอาณาจักรสาบสูญ"

พ่อของอิงอิงส่ายหน้าและพูดว่า "ข้าไม่แน่ใจ อี่หัวเป็นหัวหน้าพ่อบ้านในครอบครัวอี่ ซึ่งท่านลอร์ดไว้วางใจเป็นอย่างมาก บางทีท่านลอร์ดอาจบอกอะไรบางอย่างกับเขา"

"มีคนบอกว่าคุณหนูได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้ท่าน ก่อนที่เธอจะจากไป แต่มันถูกโยนเข้าไปในเตาผิงโดยท่านลอร์ด และคุณหนูก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน"

อิงอิงใช้มือข้างหนึ่งลูบคางของเธอ ก่อนจะพูดออกมาว่า "ใช่ ใช่แล้ว มันมีอะไรบางอย่าง ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นในวันนั้น เราได้ยินเสียงคุณหนูร้องไห้อยู่ภายในห้องด้วย แต่ท่านลอร์ดกำลังโกรธคุณหนู ซึ่งเป็นสิ่งที่หาดูได้ยากมาก ท่านลอร์ดกล่าวว่า ได้วางครอบครัวเป็นเดิมพัน พวกเขาจะต้องไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้"

"เดิมพัน?" ฮั่นหลางขมวดคิ้วและพึมพำออกมา

เมื่อเห็นว่าท้องฟ้ากำลังมืด และเขาจะไม่ได้รับข่าวใดๆเพิ่มอีก ฮั่นหลางจึงกล่าวอำลาพ่อและลูกสาว ก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่และเดินทางกลับไปที่สนามบิน

หุบเขาเมเปิ้ล เป็นดาวเคราะห์ที่สวยงาม ฮั่นหลางเห็นใบเมเปิ้ลสีแดงสุดลูกหูลูกตาทั้งสองด้านของถนน ในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่ในความเงียบ

อี่เว่ยเว่ยหลานสาวของอี่กูฮง ดูเหมือนจะเป็นคนลึกลับมาก เขาบอกกับอี่หัวไม่ให้อี่เว่ยเว่ยเข้าไปในอาณาจักรสาบสูญ และผลที่ตามมาคือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นภายในอาณาจักรสาบสูญ แม้ว่าฮั่นหลางโชคดีพอที่จะมีชีวิตรอดกลับออกมา แต่เมื่อคิดย้อนกลับไป เขาก็อดที่จะรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้

ตอนนี้อี่กูฮงนำครอบครัวทั้งหมดออกจากทางช้างเผือกไปภายไว้ในคืนเดียว มันอาจเป็นไปได้ไหมว่าเขามีความสามารถในการทำนายที่แม่นยำมาก?

ชูววว ~

สมองของเขาเต็มไปด้วยคำถาม ในขณะที่เรือรบเหยี่ยวเวหาบินขึ้นและมุ่งหน้าไปที่อาณาจักรที่ถูกลืม

ถึงแม้ว่าฮั่นหลางจะไม่ได้พบอี่เว่ยเว่ยในครั้งนี้ แต่การได้พบกับอาจารย์ผู้ลึกลับสองคน ผู้เล่นยามค่ำคืนและต้นกำเนิดไร้จุดหมาย ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ฮั่นหลางรอมานาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น