ฐานนาซคา ภายในห้องของฮั่นหลางเงียบงันอย่างน่าใจหาย
ไม่มีใครคิดว่าฮั่นหลางตัดสินใจแน่วแน่ที่จะจากโลกไป เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะลากโลกเข้าสู่ปัญหาที่ยากลำบาก
ตอนนี้โลกมีทุกอย่างพร้อมแล้ว
มีเงินทุน นักรบต่างดาวของคลาร์ก และบุคลากรทางเทคนิคระดับมืออาชีพกำลังได้รับการฝึกอบรมและมีฐานการผลิตเรือธง
โลกกำลังถูกยกระดับขึ้นในทางช้างเผือก มันเป็นสิ่งที่โลกรอคอยมาอย่างยาวนาน ในตอนนี้มันก็เหมือนกับว่าอยู่ใกล้ๆเพียงแค่เอื้อมมือ
สิ่งเดียวที่ขาดไปนั่นก็คือเวลา
ฮั่นหลางเลือกที่จะออกจากโลกเพื่อซื้อเวลาอันมีค่า เวลาเพื่อชัยชนะ ถ้าเขาไม่ทำเช่นนี้
ศัตรูก็คงจะจะกดดันฮั่นหลางและสืบสวนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและยังก่อกวนโลกไม่เลิก
การก่อกวนอาจเป็นเรื่องรองๆลงไป
แต่ถ้าพวกเขาค้นพบว่าโลกนี้มีฐานการผลิตเรือธง ซึ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยอารยธรรมในยุคก่อนประวัติศาสตร์
นั่นอาจจะเป็นสงคราม! และมันไม่ใช่สิ่งที่ฮั่นหลางต้องการที่จะเห็น
พรึบ ~
หลงฉวน หยิบขวดใส่ยาเร่งอนุภาคศูนย์คลื่นสมองขึ้นมาดู
ตัวเขาเองนั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนเขาหันหลังกลับและกำลังที่จะออกไป
"หลงฉวน คุณจะไปที่ไหน?"
"ฮั่นหลางบอกไว้ว่า
ยานี้สามารถช่วยผมในการฟื้นฟูและซ่อมแซมความเสียหายในบริเวณศูนย์คลื่นสมองได้"
"แต่ยาเหล่านี้
ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพ เมื่อคุณใช้ยาตัวนี้แล้ว สมองของคุณจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์
และไม่มีทางที่จะเพิ่มระดับได้อีกในอนาคต คุณควรพิจารณาเรื่องนี้ก่อนหรือไม่?"
หลงฉวนหยุด เขาไม่หันกลับมาและเขาตอบว่า
"พิจารณา? ไม่จำเป็นเลย! ผมไว้วางใจในตัวฮั่นหลาง!"
"สองปี สองปีที่ผ่านมาฮั่นหลางทำเพื่อโลกมามากมายเท่าไหร่?
ตั้งแต่ต้นจนจบ ฮั่นหลางแบกรับทุกอย่าง!"
"ตอนนี้ฮั่นหลางต้องออกจากโลกไปเพื่อปกป้องโลก
และในช่วงเวลาที่เขาจากโลกไป เพื่อช่วยให้โลกเก่งขึ้นในทางช้างเผือก มันเป็นความรับผิดชอบของพวกเรา!"
"ผมไม่สนใจว่า
ผมจะไม่สามารถเพิ่มระดับของผมได้ในอนาคต แม้ว่าผมจะต้องทำลายเนื้อหรือทำลายกระดูกของตัวเอง
ผมก็ไม่ลังเล!"
ข่าวฮั่นหลางออกจากโลกไป
ได้ถูกแผ่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าฮั่นหลางจะรื้อถอนอาคารรัฐสภาของรัฐบาลกลางด้วยมือของเขา
แต่ก็ยังไม่มีใครเชื่อว่าฮั่นหลางกำลังทรยศต่อโลก ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่าฮั่นหลางมีปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ในช่วงเวลาที่ทุกคนบนโลกเสียใจมากที่ฮั่นหลางจากไป
ฮั่นหลางไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรมากนัก เขากลับรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ที่แผงควบคุมของเรือรบขนาดเล็กระดับเหยี่ยวเวหา
ฮั่นหลางได้เชื่อมต่อกับดาร์คเน็ตเพื่อพบกับผู้เล่นยามค่ำคืนและต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
ฮั่นหลางยังได้บอกพวกเขาถึงสาเหตุที่ทำไมเขาถึงจากโลกมาเช่นนี้
"ถ้าข้าเป็นเจ้า
ข้าก็คงเลือกที่จะทำเช่นนี้ ในตอนนี้โลกมีแผนการณ์ที่แน่ชัด มันเป็นวิธีเดียวที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ
ปล่อยสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตให้ผ่านไป เป็นไปได้เราก็อยากจะพบเจ้าด้วยเช่นกัน"
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายได้ลดเสียงของเขาเบาลงในขณะที่พูดออกไป "แต่มองจากสีหน้าของเจ้าในตอนนี้
ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เศร้าใจ"
ฮั่นหลางยิ้ม "ข้าก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
แต่ข้ารู้สึกตื่นเต้นมากกว่า"
"ตื่นเต้น?
ทำไม?" ต้นกำเนิดไร้จุดหมายรู้สึกสับสนและถามออกไป
ฮั่นหลางยักไหล่ของเขา
"นับแต่ที่ข้าได้กลับสู่โลกในครั้งล่าสุด ทุกอย่างก็ลำบากมาก ข้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นนายพล
หลงฉวนและคนอื่นๆมาหาข้าเพื่อพูดคุยในเรื่องเล็กๆน้อยๆ และข้าก็ต้องมีส่วนร่วมในงานต่างๆและงานปาร์ตี้สังสรรค์
มันยุ่งเกินไป ยุ่งมาก จนข้าไม่สามารถหาเวลาฝึกได้เลย"
"งั้นเหรอ?"
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายลูบเคราของเขาและพูดออกมา
"ดังนั้นในความคิดของข้า
มันไม่ได้เป็นเพียงช่วงวิกฤติ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยน ข้าไม่ต้องการเกียรติยศที่ได้รับจากโลก
และข้าก็ไม่ต้องการให้คนอื่นหันมาบูชาข้า ข้าต้องการเป็นนักรบที่แท้จริงและแข็งแกร่งมากขึ้น!”
"อาจารย์ เคยบอกข้าในก่อนหน้านี้ว่า
หมัดทะลายดาว มี 7 แบบและข้าได้เรียนรู้ในรูปแบบแรกเท่านั้น
ถ้าข้าสามารถเรียนรู้รูปแบบที่เหลืออีก 6 รูปแบบ ข้าก็จะสามารถวิ่งไปทั่วจักวาลนี้ได้
ข้าต้องการจะบรรลุเป้าหมายนี้โดยเร็วที่สุด!" ฮั่นหลางกล่าวออกมาด้วยความตั้งมั่นที่หนักแน่น
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายและผู้เล่นยามค่ำคืน
พวกเขาต่างตกใจ วิกฤติครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยน? ดูเหมือนว่าฮั่นหลางรู้มานานแล้วว่าจะต้องทำอย่างไรในอนาคต
และการจากโลกมาไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่รีบร้อนปราศจากการวางแผนใดๆ
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายยิ้มออกมา
ฮั่นหลางในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาเรียนรู้ไม่มีทางใกล้เคียงกับ หมัดทะลายดาว
แต่มันคือทักษะการต่อสู้ต้องห้าม หกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า
สามารถทำลายวงโคจรนรกทั้ง
9 แห่ง! ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถที่จะทำลายล้าง 6 เส้นทางแห่งการกลับชาติมาเกิด!
ฮั่นหลางต้องการที่จะเชี่ยวชาญในศาสตร์ที่เรียกว่า
การโจมตีของปีศาจหกเส้นทางแห่งความว่างเปล่า... เป้าหมายที่เขาตั้งไว้สำหรับตัวเองไม่ได้สูง
หากแต่มันเป็นเป้าหมายที่สูงมาก!
"ข้าควรจะบอกความจริงกับเขาหรือเปล่า?"
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายหยุดคิดชั่วครู่และก็รีบส่ายหัวออกมา
"ถ้าเขารู้ว่า หกเส้นทางแห่งความว่างเปล่าเป็นทักษะการต่อสู้ต้องห้าม ยากที่จะเรียนรู้
บางทีเขาอาจจะถอยหลัง? ข้าควรที่จะโกหกเขาต่อไป"
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
พูดอย่างดุเดือดว่า "ฮั่นหลางหลังจากที่เจ้าได้เป็นแชมป์การสำรวจอาณาจักรสาบสูญ
ไม่ต้องพูดถึงโลก เจ้ามีแฟนคลับมากมายในทางช้างเผือก พวกเขาต่างชื่นชมเจ้า เจ้าพร้อมแล้วที่จะละทิ้งเกียรติยศทั้งหมด?"
“ใช่!”
"ข้าเป็นครูที่เข้มงวดมาก
เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะอดทนกับการฝึกของข้าได้?"
“ได้!”
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ~
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายเริ่มหัวเราะเสียงดังออกมา
แววตาของเขาเปล่งประกายคมกล้าออกมาก่อนจะบอกว่า "เอาล่ะ! ในเมื่อเจ้าเลือกเส้นทางนี้
ก็มาหาข้าตามที่อยู่ของข้า ข้าจะสอนเจ้า หกเส้นทาง... ข้าหมายถึงหมัดทะลายดาว!"
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายรู้สึกภาคภูมิใจมาก
ในขณะที่ผู้เล่นยามค่ำคืนที่อยู่ด้านข้างเริ่มที่จะไม่สามารถนั่งนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
จากนั้นฮั่นหลางก็หันไปคำนับผู้เล่นยามค่ำคืนและพูดว่า
"อาจารย์ ข้าอยากเรียนรู้วิธีใช้ยาเสพติดที่เป็นพิษจากท่าน"
ผู้เล่นยามค่ำคืนรู้สึกตกใจและเขาก็ขมวดคิ้ว
"ดูคำพูดของเจ้า ยาเสพติดที่เป็นพิษเป็นเพียงสาขาเล็กๆในด้านเภสัชวิทยา ซึ่งขอบเขตอันแท้จริงของเภสัชวิทยานั้นกว้างใหญ่มาก"
"อย่างไรก็ตามแต่
ในตอนนี้ข้ารู้สึกเบื่อมาก และข้าก็อยู่ใกล้กับ ต้นกำเนิดไร้จุดหมาย หลังจากที่เจ้ามา
ข้าจะสอนเจ้าบางอย่างเท่าที่เจ้าสามารถเรียนรู้มันได้ มันก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า"
ฮั่นหลางพยักหน้าอย่างหนักแน่นใส่แผนที่นำทางกาแลคซี
ที่เป็นที่ตั้งของคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของเขา และถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"หือ? อาจารย์ทั้งสองอาศัยอยู่ข้างนอกทางช้างเผือก?"
ผู้เล่นยามค่ำคืนยิ้มก่อนจะกล่าวออกมาว่า
"มันก็อยู่ข้างนอกทางช้างเผือกจริงๆ แต่ก็ยังคงสามารถเชื่อมต่อกับทางช้างเผือกได้อยู่เสมอ
อาจถือได้ว่าเป็นวงล้อมในระยะใกล้ มันเป็นอาณาจักรที่ถูกลืม เป็นสถานที่พิเศษมาก บางทีเจ้าอาจจะชอบที่นี่"
ฮั่นหลางตั้งระบบนำทางอัตโนมัติของเขา
และปิดช่องทางการสื่อสารแบบเรียลไทม์กับผู้เล่นยามค่ำคืนและต้นกำเนิดไร้จุดหมาย จากนั้นเขาก็เทช็อกโกแลตร้อนและนั่งอยู่บนที่นั่งกัปตันตัวใหญ่
ข้างนอก โลกใบเล็กได้หายลับไปจากสายตาแล้ว
มันถูกแทนที่ด้วยท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด แต่ฮั่นหลางกลับไม่ได้รู้สึกหดหู่แต่อย่างใด
ไม่ช้าก็เร็ว คนๆหนึ่งจำเป็นที่จะต้องเลือกเส้นทางสำหรับตัวเอง
การเดินทางของฮั่นหลางไม่ได้เกิดจากภาวะซึมเศร้า
แต่เป็นเพราะเขาต้องการที่จะไล่ตามเป้าหมายที่สูงขึ้น!
บนโลกมีพี่น้องหลายคนที่รักโลกมากเท่ากับฮั่นหลาง
ดังนั้นฮั่นหลางจึงสามารถปล่อยให้พวกเขาจัดการกับภารกิจบนโลกได้ ในขณะที่เขามุ่งหน้าไปตามเป้าหมายที่สูงขึ้น
บางทีหลังจากกลับมาโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ฮั่นหลางอาจที่จะทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจได้เป็นอย่างมาก
ฮั่นหลางค่อยๆหลับตาลง
นอกจากการพัฒนาตัวเองแล้ว ฮั่นหลางยังมีเรื่องที่ต้องห่วงอีกด้วยนั่นคือเรือรบรุ่นสอง
หลังจากที่ฮั่นหลางศึกษาอย่างรอบคอบ
เขาสังเกตเห็นว่าเรือรบรุ่นสองเป็นเรือรบที่ข้ามรุ่น มันมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าเรือลาดตระเวนหนัก
หากแต่มีขนาดเท่ากับเรือรบขนาดเล็ก และอาวุธเรือรบของมันก็อยู่เหนือกว่าระดับเรือรบประจัญบาน
มันข้ามรุ่นไปถึงสองระดับด้วยกัน
ทั้งความเร็วและความคล่องตัวล้วนมีมากกว่าเรือรบขนาดเล็ก
อีกทั้งยังมีอาวุธที่แข็งแกร่งกว่าเรือรบประจัญบาน แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าสิ่งที่เรือดวงดาวรุ่นสองนี้มีความสุดยอดอย่างไร
มันยากที่จะผลิตเรือรบรุ่นสองที่มีประสิทธิภาพนี้บนโลกในขณะนี้
แม้ว่าโลกจะมีฐานการผลิตเรือธงที่ดีมาก แต่มันก็สามารถผลิตเรือธงได้เท่านั้น ถ้าฮั่นหลางต้องการผลิตเรือรบรุ่นสอง
เขาจะต้องมีฐานการผลิตเรือที่ดีเยี่ยม และมีมาตรการรักษาความปลอดภัยและการรักษาความลับที่เข้มงวดมาก
ฮั่นหลางมีเงินเพียงพอ
แต่จะรักษาความลับได้อย่างไรเขายังไม่ได้วางแผนมาก่อน
ในเวลานี้ ฮั่นหลางออกจากโลก
ไม่ใช่แค่การตัดสินใจอย่างกะทันหัน แต่มันเป็นอะไรบางอย่างที่เขาตั้งใจที่จะทำมานานแล้ว
หลังจากที่ครุ่นคิดมานานพอสมควร
ฮั่นหลางก็ตระหนักว่าเมื่อนานมาแล้วในยุคที่ยังมีอันตรายอยู่รอบด้าน หากใครอยากจะมีชีวิตอยู่
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือดาวเคราะห์ดวงใด พวกเขาจะต้องเก็บไพ่ตายไว้สักสองสามใบ
ในช่วงสองปีที่ผ่านมาฮั่นหลางเล่นบทบาทแนวหน้าของโลกเพื่อเอาชนะอุปสรรคและสร้างเส้นทางเพื่อให้โลกก้าวไปข้างหน้า
แต่ตอนนี้โลกปลอดภัย และมีความสามารถมากพอที่จะปกป้องตัวเองได้ฮั่นหลางจึงตัดสินใจที่จะหายตัวไปอย่างรวดเร็วและมุ่งมั่นที่จะกลายเป็นไพ่ใบนั้นสำหรับโลก
บ่มเพาะร่างกายให้แข็งแกร่ง ฝึกฝนและปฏิบัติอย่างเข้มงวด และผลิตเรือดวงดาวรุ่นสองที่ทรงพลัง
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวิกฤติของโลก
แม้ว่าฮั่นหลางจะยังเด็ก
แต่สิ่งที่เขาตั้งเป้าหมายไว้นั้นสูงมากกว่าคนส่วนใหญ่
ฮั่นหลางมองไปยังแผนที่ของกาแลคซี
ก่อนที่จะยิ้มออกมา "มันอยู่ในเส้นทางพอดี น่าจะแวะไปหาอี่เว่ยเว่ยเสียหน่อย ก่อนที่จะไปอาณาจักรที่ถูกลืม"
ชูววว ~
ห้าวันต่อมาเรือรบเหยี่ยวเวหาของฮั่นหลางได้ลงจอดที่ดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า
หุบเขาเมเปิ้ล
จากหน้าต่าง เมื่อมองลงไปที่พื้นดิน
มีใบเมเปิ้ลสีแดงปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นในป่าหรือด้านข้างของถนนในเมือง
ในทางช้างเผือก สัญลักษณ์เมเปิ้ลสีแดงเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสัญลักษณ์ของ
ตะกูลโบราณ ตระกูลอี่ และทุกคนย่อมรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี
หากจะพูดอย่างจริงจัง
แต่เดิมใบเมเปิ้ล*ไม่ได้ขึ้นตรงต่อดาวเคราะห์ใดๆ พวกเขาเป็นครอบครัวที่เป็นอิสระโดยปราศจากความจงรักภักดีต่อจักรวรรดิเนื่องจากตระกูลใบเมเปิ้ลโบราณมีชื่อเสียงในทางช้างเผือกไม่มีดาวเคราะห์ใดที่จะอาจหาญหาเรื่องหรือสร้างความเดือดให้กับพวกเขา
ดังนั้นมันจึงยังมีสันติภาพอยู่เสมอ
TL: ใบเมเปิ้ลโบราณ
มันหมายถึงตระกูลอี่โบราณ (อี่ หมายถึงใบไม้ในภาษาจีน)
ย้อนหลังไปถึงประวัติศาสตร์ของครอบครัวใบเมเปิ้ลโบราณ
มันเป็นเพียงเรื่องราวของการผจญภัยของมนุษย์ที่อยู่นอกทางช้างเผือก คนในครอบครัวตระกูลอี่
ตั้งแต่สมัยโบราณไม่ได้อยู่ในทางช้างเผือกนานเกินไปพวกเขาทั้งหมดชอบสำรวจพื้นที่ที่ไม่รู้จักที่อยู่นอกกาแลคซี
พวกเขาต้องการที่จะสำรวจอาณาจักรที่รกร้างที่อยู่นอกทางช้างเผือก
ซึ่งอาจจะมีเหมืองแร่ที่มีค่าให้ค้นหา มันท้าทายใบเมเปิ้ลโบราณเป็นอย่างมาก
เมื่อต้องการรับเส้นทางการเดินเรือที่ปลอดภัย
ในการเดินทางนอกทางช้างเผือก ทุกคนจะต้องคิดถึงใบเมเปิ้ลโบราณ
แม้ว่าเรือบรรทุกสินค้าที่เดินทางมาในถิ่นทุรกันดาร
ตราบเท่าที่พวกเขาจ่ายเงินเพื่อรับโลโก้ของใบเมเปิ้ลติดที่บนเรือของพวกเขาแล้ว โจรสลัดกาแลคซีทั้งหมดที่อยู่นอกทางช้างเผือกจะไม่เข้ามาสร้างปัญหาให้กับพวกเขา
นั่นเป็นวิธีการที่ครอบครัวของอี่เว่ยเว่ยสร้างรายได้
ชื่อเสียงและความมั่งคั่ง ครอบครัวตระกูลอี่เป็นบุคคลระดับชั้นนำในทางช้างเผือก
หลังจากจ่ายค่าจอดเรือและภาษีเรียบร้อยแล้ว
ฮั่นหลางก็ขึ้นรถแท็กซี่และมุ่งหน้าไปยังที่อยู่ของครอบครัวอี่
ฮั่นหลางรู้สึกสนใจอี่เว่ยเว่ยเล็กน้อย
ส่วนใหญ่มาจากความเรียบง่ายของเด็กผู้หญิงคนนี้
ฮั่นหลางเคยพาอี่เว่ยเว่ยออกไปเที่ยวออกมาก่อน
เนื่องจากพลังพิเศษ ของเธอ อี่เว่ยเว่ยจึงสามารถติดต่อโลกภายนอกได้เล็กน้อย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอเห็น
กระโดดขึ้นและลงไปรอบๆฮั่นหลาง เธอมีความสุขมากๆ ดังนั้นมันจึงทำให้อารมณ์ของฮั่นหลางดีขึ้นด้วย
คนสองคนมีความสุขนั่นป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
อี่เว่ยเว่ยเห็นได้ชัดว่ารู้สึกมีความสุขเมื่ออยู่กับฮั่นหลาง และฮั่นหลางก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ชอบเธอ
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ฮั่นหลางคิดที่จะไปเยี่ยมอี่เว่ยเว่ย
"เซอร์ เราถึงแล้ว"
คนขับรถแท็กซี่ได้หยุดรถและหันมาพูดกับฮั่นหลาง
ฮั่นหลางมองออกไปนอกหน้าต่าง
เขารู้สึกตกใจก่อนที่จะเรียกสติกลับคืนมา
"นี่คือครอบครัวอี่?"
“ครับ”
"ครอบครัวใบเมเปิ้ลโบราณ?"
"ใช่นี่เป็นที่ตั้งของครอบครัวตระกูลอี่"
"เกิดอะไรขึ้นกับสถานที่แห่งนี้?"
ฮั่นหลางรู้สึกงุนงงก่อนจะถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น