สำหรับโอสถที่ต้องเผชิญสามภัยสวรรค์
นับเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้และหาได้ยากมาก
แต่จากนั้นมันยังคงมีความสามารถในการหลบหนีได้อีก
มันเป็นความรู้ที่นักปรุงโอสถทั้งหลายไม่เคยรู้มาก่อน
ไม่ได้หมายความว่าที่พวกเขาร่ำเรียนมานั้นผิด แต่ยาเม็ดคว้าสวรรค์นั้น จริง ๆ
แล้วฝืนกฏเกณฑ์สวรรค์ เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ควรครอบครอง
ผู้ที่ปรุงโอสถคว้าครองสวรรค์ในครั้งสุดท้าย
ไม่ได้บันทึกเกี่ยวกับ สิ่งที่จะบังเกิดหลายอย่าง ทั้งการดึงดูดสามภัยสวรรค์ก็ดี
การรู้จักหลบหนีก็ดี ไม่ได้บันทึกไว้โดยไม่รู้สาเหตุ
ความรู้ที่หยางเฉินล่วงรู้นั้นมาจากโลกจิตวิญาณ
เขาจึงล่วงรู้สิ่งเหล่านี้และรู้ว่าที่พวกนั้นทำต้องล้มเหลว
แต่ต้องยอมรับในสิ่งที่นักปรุงโอสถทั้งสามทำมาจนถึงขั้นนี้
โดยเฉพาะทักษะการควบคุมความร้อน เพียงแต่โชคยังไม่ดีพอ
เพราะเพียงเรื่องรักษาระดับอุณหภูมิ ยังไม่ถึงคว้าสวรรค์ได้
เคยมีผลรายงานว่าเคยมีเพียงครั้งเดียวที่พบความสำเร็จในการปรุงโอสถเม็ดยาคว้าสวรรค์ในเขตแดนโลกมนุษย์
แต่เพียงครั้งเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้รู้กันโดยทั่วไป …นี่น่าจะเป็นครั้งที่สอง
จากที่หยางเฉินได้เตือนเรื่องการหลบหนีของเม็ดยาคว้าครองสวรรค์
ทำให้ผู้อาวุโสหวูตื่นตัวและตื่นเต้น ไม่เผลอเรอ เพราะถ้าเกิดเหตุจริง คงจะดูไร้สาระมากถ้าเกิดการผิดพลาด
เสียงฟ้าร้องดังใกล้เข้ามาควบคู่ไปกับเสียงดิ้นรนและหมุนวนในเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ
ที่ดูจะสั่นรุนแรงมากขึ้น
ไม่ว่าใครย่อมดูออกว่าตอนนี้หยางเฉินไม่สามารถกดดันมันได้ แต่ทั้งเติ้งอี้ ซูเฟิง
เค่อเหลียนหยุน ล้วนไม่กล้าที่จะทำแทน ด้วยเกรงว่าอาจจะพลาดท่า
ทำให้ล้มเหลวในนาทีสุดท้าย
“ระวังด้วย
..ยาเม็ดสำเร็จแล้ว !”
ความสนใจของทุกคนไปรวมที่เมฆของสามภัยสวรรค์
ที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อสักครู่ ความตื่นตระหนกของพวกเขา
ทำให้ลืมใส่ใจทักษะการจัดการยาเหลวและการจัดเก็บ จนกระทั่งได้ยินวาจาหยางเฉิน จึงตระหนักถึงสิ่งที่พลาดไป
เกิดความรู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง
ซึ่งทักษะของทุก ๆ
คนนั้นเป็นสิ่งที่ตกทอดมาของแต่ละนิกาย
เมื่อมันพลาดไปแล้วไม่ทราบว่าเมื่อใดจะมีโอกาสอีก
เพียงแต่บัดนี้ไม่ใช่เวลามามัวเสียใจ
จึงพากันลืมตาให้กว้างเข้าไว้ เพื่อไม่ให้พลาดสามภัยสวรรค์ของโอสถนี้
ฝาของเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณพุ่งออกไป
และประกายแสงสีเขียวพุ่งขึ้นสู่นภาตามออกมาทันที
ผู้อาวุโสหวูที่เตรียมพร้อมนานแล้ว
พุ่งตามประกายภาพของแสงสีเขียวนั้นในทันที แต่ยังมิได้กระทำสิ่งใด
แม้ว่าเขาจะมีพลังเพียงพอที่จะจัดการมัน
แต่ก็ทราบดีว่าไม่ควรไปต่อต้านกับการลงทัณฑ์จากสามภัยสวรรค์
เมื่อทุกคนเห็นอย่างแจ่มชัด …มันเป็นดั่งภาพมังกรเนื้อหยกเขียว
ตอนที่เข้าไปในเตาหลอมล้ำเลิศ มันเป็นกากยาสีดำ แต่ออกมาที่เห็น….อะไรจะเป็นไปได้เช่นนี้ เมื่อทั้งเติ้งอี้ ซูเฟิง เค่อเหลียนหยุน
เห็นภาพมังกรหยกนี้ แทบจะตบกะโหลกตัวเอง ที่พลาดพลั้งขั้นตอนสำคํญ
ในการศึกษาทักษะการจัดการยาเหลวและการปรุงตอนสุดท้ายนี้
ยามนี้มันเลยเวลาที่จะมาเสียใจแล้วล่ะ
สิ่งที่ไม่คาดคิดที่กำลังจะอุบัติขึ้นที่เบื้องหน้า …สามภัยสวรรค์
นั่นต่างหากที่ต้องใส่ใจ แล้วใครล่ะจะมาจมอยู่กับคำว่าเสียใจ ?
เปรี้ยง..!
ท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม
สายฟ้าฟาดเข้าไปที่มังกรหยก ที่ลอยอยู่กลางอากาศ อย่างแจ่มชัด แต่ราวกับว่าประกายสายฟ้านั้นแค่ชโลมผิวพรรณของมัน
มิได้ผลกระทบใดแม้แต่น้อย
สายฟ้าฟาดลงไป ..เก้าครั้ง
แต่ละครั้งที่ตามมาทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่ละสายขนาดข้อมือมนุษย์ รวมกันราวสายน้ำ
ภายใต้ประกายสายฟ้าที่คลุ้มคลั่ง โอสถเม็ดยาคว้าครองสวรรค์ดูจะไม่กระทบกระเทือน หากแต่ดูมันจะมีปราณแห่งยาเพิ่มมากยิ่งขึ้นหลังสายฟ้าฟาด
ราวกับประกายฟ้านี้ประทานสิ่งดี ๆ ให้แก่มัน หลังจากล้างบาปของมันด้วยสายฟ้า
หลังสายฟ้าฟาดเก้าครั้ง
สายฟ้าของสามภัยสวรรค์ก็เป็นอันจบลง หมู่เมฆอันน่ากลัวก็กระจายหายไป
กลับคืนสู่สภาพเดิม ๆ เหล่าผู้รับใช้ในหมู่บ้านของผู้อาวุโสหวู
ที่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์นี้ ต่างได้รับกำไรมหาศาลสำหรับชีวิต
ที่ได้เปิดโลกทรรศน์กว้างไกลยิ่งขึ้น
ในขณะที่พวกเขากำลังจมอยู่ในความสุข
พลันนึกได้ …มันรีบดีใจเร็วเกินเหตุ
หลังสามภัยสวรรค์ เจ้ามังกรกลับดูปราดเปรียวยิ่งขึ้น ในขณะที่รูปร่างดูจะเล็กลง
แต่ปราณยาที่ออกมาแน่นหนาและมีพลังมาก มันบินฉวัดเฉวียนในอากาศ ..จากนั้น
ผู้อาวุโสหวูพลันพบว่าเริ่มมีพลังไฟหยินแผดเผาจากเบื้องบน
สามภัยสวรรค์ ประกอบไปด้วย สายฟ้า
ไฟหยินและวาตะภัย ที่ผู้บ่มเพาะมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ระดับก่อลำต้นข้ามไประดับผลิดอก
ต้องเผชิญภัยพิบัติสายฟ้า ระดับผลิดอกไปสู่ระดับออกผลต้องพบภัยจากไฟหยิน
และในการที่ระดับออกผลจะขึ้นสู่โลกจิตวิญญาณต้องเจอวาตะภัย ..ไม่มีผู้ใดที่จะไปคิดว่า
ยาเม็ดคว้าครองสวรรค์ต้องมาผจญสิ่งเหล่านี้
เติ้งอี้ ซูเฟิง
เค่อเหลียนหยุนและฟั่นฉาน เบิกตากว้างจ้องมองไปที่โอสถคว้าครองสวรรค์
การแผดเผาจากไฟหยินต่อหน้าต่อตา สำหรับพวกเขาแล้ว ประดุจของขวัญที่สวรรค์ประทาน
เป็นข้อมูลเพื่อการเตรียมตัวในภายหน้า แม้ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะจะยังไม่พอ
จะว่าไป สำหรับผู้อาวุโสหวูแล้ว
ภัยไฟหยินมิมีอะไร เขาเคยผ่านเมื่อนานมาแล้ว ตอนเข้าสู่ผู้เชี่ยวชาญระดับออกผล
แต่เมื่อเห็นโอสถคว้าครองสวรรค์กำลังเข้าสู่สภาวะที่เขาเคยพานพบ
เขาก็คาดถึงผลนั้นได้
ไฟหยินจากสามภัยสวรรค์ .. ไร้เสียง …ไร้รูปแบบ
จะมีทั้งหมดเก้าครั้ง ทุกคนต้องสังเกตจากการะเปลี่ยนแปลงของโอสถ
เพราะในทุกครั้งที่โดนโจมตี เจ้าโอสถดูเหมือนจะหดตัวลง เมื่อโดนครบเก้าครั้ง
ขนาดคงเหลือเท่าลูกพลัม
“ผู้อาวุโสหวู
ดูท่าเจ้าโอสถของเรายังไม่แกร่งพอที่จะผ่านภัยจากลมพายุได้ ท่านคงต้องช่วยอีกแรงแล้วล่ะ”
ทันใด
เป็นเสียงที่หยางเฉินตะโกนบอกผู้อาวุโสหวูจากด้านล่าง
ได้ยินเช่นนั้น ทุก ๆ คน
รวมทั้งผู้อาวุโสหวู ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ของโอสถคว้าครองสวรรค์
หลังจากที่มีชีวิตรอด มันก็อาจจะมีพลังอำนาจเพิ่มมากขึ้นในทันที
เหล่าผู้บ่มเพาะทั้งหลายนั้นเคยเห็นอำนาจเช่นนี้มาก่อนหรือ? นี่เป็นโอกาสที่จะได้พบและหาที่อื่นอีกไม่ได้!
ทุกคนที่คิดถึงประโยคนี้รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
พวกเขาเริ่มสั่นเทาไปด้วยความอิจฉาที่พวกเขาไม่สามารถบินขึ้นไปและสังเกตุมันได้ในระยะใกล้ๆ
เหล่านักปรุงโอสถทั้งสาม
ละอายใจแทบเอาศีรษะมุดพื้นดิน เมื่อได้ยินหยางเฉินกล่าวถึง
บางสิ่งที่เม็ดโอสถรับสืบทอดมา ความอ่อนแอของสิ่งที่รับสืบทอดมานั้น
มันเกิดจากความผิดพลาดของกรรมวิธีในการกลั่น ที่หยางเฉินเคยเตือน ….เมื่อคิดถึงเรื่องราวตั้งแต่เริ่ม
ที่พวกเขาดูถูกหยางเฉินแล้ว ได้แต่ต้องทนด้วยความละอายใจ
ตอนที่ผู้อาวุโสหวูได้ยินนั้น
ร่างของเขายังลอยอยู่บนกลางอากาศ ไม่สามารถหยุดได้ในทันที
ภัยจากลมพายุอันเป็นทัณฑ์สุดท้ายของสามภัยสวรรค์ เขาเคยพบเห็นมาแล้ว
แต่ไม่ได้มีส่วนร่วม แต่สามภัยสวรรค์ที่โอสถคว้าครองสวรรค์กำลังเผชิญนี้
นับเป็นสิ่งล้ำค่าวิเศษสุดสำหรับการขึ้นสู่อีกเขตแดนของเขา
ทั้งด้วยสายตา และทุกประสาทสัมผัส
ล้วนรวมอยู่ที่ด้านเหนือศรีษะระหว่างฝ่ามือทั้งสองของเขา ที่เจ้ามังกรลอยอยู่
พลังแห่งจิตวิญญาณการรับรู้ของเขาปกคลุมไปทั่ว
ไม่มีสิ่งใดในอาณาบริเวณนั้นที่จะหลบพ้นการรับรู้ของเขาไปได้
..กายของเขาสั่นไหว
อันเกิดจากความตื่นเต้น รอคอยการมาของวาตะภัย การรับรู้ทางจิตวิญญาณของคนอื่นๆ
ที่กล้าส่งเข้ามาตรวจสอบในบริเวณนี้ได้ถูกสะท้อนกลับโดยผู้อาวุโสหวูโดยไม่มีข้อยกเว้น
คราวนี้เขาจะไม่ยอมให้ผู้ใดเข้ามายุ่งกับโอกาสของเขากับทัณฑ์สวรรค์ วาตะภัย
เหล่าคนทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่าง
ล้วนรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้อาวุโสหวูในยามนี้
จึงได้พากันหยุดใช้พลังจิตสำนึกการรับรู้ในการสำรวจทันที
ใช้ได้เพียงสายตาเพ่งดูเจ้าโอสถคว้าครองสวรรค์เท่านั้น
วาตะภัยได้เริ่มเข้ามาโดยไม่มีวี่แวว
ไม่มีผู้ใดรู้ได้นอกจากผู้อาวุโสหวู วาตะภัยที่ไม่ทราบที่มานี้
ได้ปรากฏที่ภายในโอสถทันที ..นี่ถ้าผู้อาวุโสหวูไม่แผ่จิตสำนึกการรับรู้ปกคลุมไว้
เขาก็จะไม่รู้ได้เช่นกัน
ภายใต้สายตาของทุกคน
..เม็ดขนาดลูกพรุนของโอสถคว้าครองสวรรค์ลดขนาดลงในทันที
ผู้อาวุโสหวูถึงกับเลิกคิ้ว
..ตามบันทึก ..วาตะภัยของสามภัยสวรรค์จะเข้าสู่ภายในหกแกนหลักของร่างกาย
ผ่านจุดตันเถียน พุ่งเข้าทวารทั้งเก้าช่อง ทำลายเลือดเนื้อภายในร่างนั้น
ขนาดของมันยิ่งดูเล็กลง นั่นใช่หมายถึง เลือดเนื้อของมันกำลังถูกทำลายมั๊ย ?
งั้นสิ่งที่เห็นก็น่าจะเป็นดั่งที่หยางเฉินได้บอกไว้ว่า
พลังตกทอดมาของมันไม่แกร่งพอ
แต่ถึงบัดนี้
ยังไม่เป็นปัญหาต่อโอสถครองสวรรค์ แต่แม้ผู้อาวุโสหวูจะรู้
ก็มิได้คลายความระมัดระวัง เพราะตอนนี้ วาตะลูกที่สองมาถึงละ
….แล้วลูกที่สอง ที่สาม
แต่ละลูกที่ผ่านไป โอสถคว้าสวรรค์ยิ่งดูเล็กลง ในที่สุดภายใต้การเฝ้าระวังของผู้อาวุโสหวู
เมื่อลูกที่หกผ่านไปโอสถคว้าสวรรค์ก็ถึงขีดจำกัดของแล้ว
ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อภาพที่ปรากฏของเจ้ามังกรตัวเล็ก
ที่กระเสือกกระสนดิ้นรนภายใต้การกระหน่ำของวาตะทั้งหกครั้ง …ขดตัวเป็นลูกบอล
แล้วเปลี่ยนเป็นเม็ดยาสีโลหิต อันเป็นสภาพจริง ที่ผิวภายนอกสลักด้วยรูปมังกรหยก
ที่เชิดศีรษะขึ้น ผู้อาวุโสหวูทราบดี ถึงสัญลักษณ์รูปร่างเช่นนี้
เพราะมันใช้องค์ประกอบจิตวิญญาณมังกรพิษมาเป็นพลังจิตของโอสถ
จิตใต้สำนึกของพลังจิตของโอสถได้ถูกลบล้างหมดแล้ว
เหลือเพียงเจตจำนงที่จะต่อต้านการลงทัณฑ์จากสวรรค์แล้วขึ้นสู่เขตแดนใหม่
โชคร้ายที่มันต่อต้านได้หกลูก …ยังคงเหลืออีกสามอันสุดท้าย
แต่ไหนเลยสวรรค์จะหยุดเพราะเจ้าโอสถหมดฤทธิ์
…แล้ววาตะภัยลูกที่เจ็ดก็ปรากฏในทันใด
ผู้อาวุโสหวูเองได้ตระเตรียมรออยู่แล้ว จึงปล่อยพลังจิตวิญญาณอันทรงพลัง
เข้าไปในโอสถคว้าสวรรคเพื่อต่อต้านลมจากวาตะภัยในทันที
นี่เป็นประสบการณ์ที่ทุกคนเฝ้าฝันถึง
ต่อให้เป็นโอสถอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกันกับโอสถคว้าสวรรค์
ก็ใช่ว่าจะต้องมีอะไรที่ต้องใช้ความพยายามขนาดนี้ …สามภัยสวรรค์เป็นกำไรที่มหาศาลต่อทุกคนโดยเฉพาะผู้อาวุโสหวู
ถึงแม้การปรุงยาครั้งนี้ต่อให้ล้มเหลวก็ยังคุ้มค่า !
ฉับพลันที่พลังแห่งลมของสามภัยสวรรค์มันสัมผัสกับพลังจิตวิญญาณที่ต่อต้านมัน
มันก็หันมาโจมตีตามทิศทางที่มา นั่นคือร่างของผู้อาวุโสหวู
ซึ่งเขาเองก็เริ่มที่จะทำทุกสิ่งเพื่อต้านทานวาตะภัยนี้
และรับรู้ถึงพลังที่พยายามสร้างความเสียหายแก่ร่างกายเขา
วาตะภัยที่กระหน่ำโจมตีเม็ดโอสถคว้าสวรรค์นั้น
ย่อมมิอาจเทียบได้กับสามภัยสวรรค์ที่เคยเกิดกับตัวผู้อาวุโสหวู
เมื่อมันเคลื่อนผ่านร่างกายภายในทั้งห้า บรรดาเครื่องในทั้งหก
ผู้อาวุโสหวูเพียงรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่า
ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาบริสุทธิ์ขึ้นเมื่อมันผ่านพ้นไป
บางทีนี่อาจเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งของการก้าวสู่เขตแดนจิตวิญญาณ
แต่เดิมเป็นเพียงวาตะภัยสำหรับเม็ดโอสถคว้าสวรรค์
แต่ในตอนนี้เป็นผู้อาวุโสหวูที่ได้รับผลประโยชน์ด้วยความยินดี …เขาจึงหัวเราะ
เมื่อวาตะภัยลูกที่เจ็ดนี้ผ่านพ้นไป …และตามมาด้วย …คลื่นลมลูกที่แปด …ลูกที่เก้า
วาตะภัยอันเป็นทัณฑ์สุดท้ายของสามภัยสวรรค์นั้น ได้เพิ่มพูนประสบการณ์ในเรื่องนี้เขา
และเพิ่มความแข็งแกร่งร่างกายยิ่งขึ้น
เมื่อวาตภัยผ่านพ้นไป
เม็ดโอสถเริ่มสั่นสะเทือน ทำท่าราวกับลูกธนูหลุดจากแหล่ง …หายไปจากสายตาในทันที
ทำให้เกิดเสียงร้องครางอย่างประหลาดและตระหนกตกใจแก่ผู้อยู่เบื้องล่าง
ราวกับเป็นการท้าทายของสวรรค์ มันสามารถหลบหนีจากเตาหลอมโอสถได้จริงหรือ?
เงาร่างผู้อาวุโสหวูที่คอยระมัดระวังอยู่แล้วหายไปในทันที
เขาจะปล่อยมันให้หนีได้อย่างไร ?
…ชั่วพริบตา เขาก็ปรากฏตัวในอีกทิศทางนึง ในมือมีโอสถสีหยก
ขนาดไข่นกสั่นอยู่
ต่อหน้าต่อตาของทุกคน ผู้อาวุโสหวู ผนึกมันไว้ด้วยยันต์อาคม
จากนั้นนำเอากล่องหยกเล็ก ๆ ที่สลักด้วยอักขระอาคมออกมา
แล้วนำเจ้าโอสถเข้าไปไว้ในนั้นอย่างระมัดระวัง แล้วปิดผนึกไว้
ผู้อาวุโสหวูยังลอยตัวบนอากาศ
ในขณะที่ทุกคนต่างเข้าใจว่า เขาคงจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น แต่เขาคล้ายคิดอะไรได้
ส่ายศีรษะ แล้วนำกล่องขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยอักขระอาคมออกมา
แล้วนำกล่องหยกเมื่อครู่ยัดไปในนั้น
แม้กระทั่งตอนนี้ก็ดูจะยังไม่พอใจและยังไม่อาจสงบใจ
เขานำหินหยก กล่องหยกขนาดต่าง ๆ ออกมาวางที่นั่น แล้วทำการลงอักขระอาคมผนึก
แล้วเริ่มใส่ซ้อนกันลงไปตามขนาดทีละอันละอัน
เมื่อเห็นเช่นนั้น นอกจากหยางเฉินแล้ว
ทุกคนล้วนตกตะลึง ยิ่งผู้อาวุโสหวูจริงจังมากเท่าใด
มันยิ่งแสดงถึงขีดการท้าทายสวรรค์ของโอสถนั้น พวกเขาทั้งหมดได้อดทนติดตามเจ้าโอสถคว้าสวรรค์นี้มาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งตอนนี้
และเมื่อผู้อาวุโสหวูลงมาอยู่ที่เบื้องหน้าทุกคน
และพวกเขาพบว่ากล่องหยกใบใหญ่ที่บรรจุกล่องหยกเล็กที่มีโอสถคว้าสวรรค์อยู่นั้น
ได้ถูกเก็บเข้ากระเป๋ามิติเรียบร้อยแล้ว มันสร้างความสงสัยและกระวนกระวายต่อพวกเขา
“ในพวกเจ้าน่ะ
ไม่มีใครที่จะควบคุมโอสถนี้ได้นะ !”
ผู้อาวุโหวูส่ายศีรษะ
พลางอธิบายด้วยรอยยิ้ม ยิ่งสร้างความอิจฉาแก่พวกเขายิ่งขึ้น
“อ่า ..รึว่าพวกท่าน
ลองถามเด็กน้อยหยางดู ว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ?”
ผู้อาวุโสหวูเตือนทุกคนว่าไม่สามารถควบคุมโอสถได้ก่อนที่ใครจะตอบสนอง
ผู้อาวุโสหวูก็เปิดปากพูดอีกครั้งกับเค่อเหลียนหยุน
“เฮ้…เมื่อเจ้ากล้าที่จะพนัน เจ้าก็ต้องพร้อมที่จะเสีย
เจ้ามอบไฟพระอาทิตย์แท้จริงไปซะ ก่อนที่ข้าจะจากไป ข้าจะหาเปลวไฟใหม่แก่เจ้า”
อ่าวไฟที่ให้น้องหยางเป็นของปลอมหรือครับเนีย
ตอบลบไฟของอีกคนที่พนันกับประเอกไว้ครับ
ลบอาวยังไม่ไ้มอบเปลวไฟเหรอ อ่านมาไงเนี่ยกำ555+
ตอบลบ