เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561

GDN 097 ใกล้กับศูนย์ผลิตยีน



ฮั่นหลางและอีกสองคนไม่ได้ไปไกล หลังจากผ่านถ้ำรูปตัวยู ด้านหน้า เผยให้เห็นพื้นที่กว้างออกไป

โลกใต้ดินกว้างใหญ่ โครงกระดูกของสัตว์ประหลาดยักษ์โผล่ออกมาจากพื้นทราย

ไม่มีโครงกระดูกที่สมบูรณ์ โครงกระดูกทั้งหมดของเหล่าสัตว์ประหลาดแตกหักและกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณรอบๆ

แม้ว่ากระดูกจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่ยากที่จะคาดเดาได้ จากความยาวของกระดูกสีขาวเหล่านี้ว่าเจ้าของโครงกระดูกยักษ์นั้นคืออะไร หนึ่งในโครงกระดูกที่โผล่ออกมาจากทราย มันมีความยาวมากกว่าหลายพันเมตร

หลันเฟิงขมวดคิ้วและพูดว่า "นี่เป็นสัตว์อสูรมืด"

ฮั่นหลางรู้สึกตกใจและถามออกไปอย่างแปลกใจว่า "เจ้ารู้ได้อย่างไร?"

หลันเฟิงเดินเข้าไปใกล้โครงกระดูก และชี้ไปที่กระดูกต้นแขนสั้นและยาวอย่างละข้างและพูดว่า "อารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์กำลังพยายามที่จะบรรลุขีดจำกัดของวิวัฒนาการ และสัตว์อสูรมืดเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด สิ่งที่เรียกว่าสัตว์อสูรมืด ความจริงแล้วเป็นเพียงการรวบรวมยีนของสัตว์หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าดุร้ายหรือแม้กระทั่งสัตว์สวรรค์มารวมกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มากที่สุด

ดังนั้นโครงกระดูกของสัตว์อสูรมืดมักมีคุณสมบัติที่ไม่สมมาตร เหมือนสองแขนหน้านี้ ข้างหนึ่งมีลักษณะแหลมคมในขณะที่อีกข้างใหญ่และแข็งแรง"

"เหตุผลที่มันเป็นอย่างนี้ ก็เพราะว่าสิ่งมีชีวิตในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ติดตั้งสองแขนเพื่อให้สามารถทำงานที่แตกต่างกันได้ แขนข้างหนึ่งจะใช้ในการจับและแขนอีกข้างจะใช้ในการเจาะหลังจากที่เหยื่อถูกจับ"

ขณะที่หลันเฟิงพูด เขายังได้สาธิต ด้วยการคว้าหินด้วยมือขวาและทำการตัดด้วยแขนซ้ายเบาๆ

"ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม? อารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ไม่ต้องการความสมมาตร แต่เป็นการทำงาน เจ้าเคยเห็นพวกมันมาก่อน สัตว์อสูรมืดบางตัวมีหัวสองหัวและบางตัวก็มีสามตัว อารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ออกแบบไว้ด้วยวิธีนี้ ก็เพราะว่ายิ่งมีหัวมาก พวกมันก็สามารถมองดูได้ทุกทิศทาง แล้วถ้าพวกมันถูกเพิ่มความสามารถในการตรวจจับ โดยการติดตั้งระบบสำรวจโซนาร์ (จับคลื่นเสียงสะท้อน) เหมือนค้างคาวตัวหนึ่งแล้วล่ะก็ มันก็จะเป็นสัตว์อสูรมืดที่มีประสิทธิภาพมาก"

ฮั่นหลางพยักหน้าเล็กน้อย "งั้นเจ้าก็กำลังจะบอกว่า สัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านี้ก็เป็นสัตว์อสูรมืด แต่ทำไมพวกมันถึงมาอยู่ใต้ดิน ทำไมเราถึงไม่เห็นพวกมันเมื่อเรายังคงอยู่ข้างบน?"

หลันเฟิงตอบว่า "บางทีอาจเป็นเพราะความยากลำบากที่มากเกินไปและอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ล้มเหลว ดังนั้นพวกเขาจึงละทิ้งสัตว์อสูรมืดที่ตายเหล่านี้ให้อยู่ที่นี่"

ฮั่นหลางยิ้มและพูดออกมาว่า "หลันเฟิงเจ้ารู้มากจริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่เจ้ามีความฝันมากมาย นั่นเป็นเพราะเจ้ารู้ทุกอย่าง"

แลนซ์กล่าวว่า "ผู้ชายคนนี้เป็นนายน้อยของครอบครัวทะเลสาบสวรรค์สีน้ำเงิน (TL: ชื่อ หลันเฟิง แปลว่าเมเปิ้นสีน้ำเงิน) มีครูสอนอย่างน้อย 800 ถึง 1000 คน นับตั้งแต่เขาเกิด ดังนั้นข้าจึงไม่แปลกใจเลยที่ หลันเฟิงจะรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี"

หลันเฟิงไม่ได้ปฏิเสธเขาเพียงแค่ยักไหล่ ก่อนจะมองไปที่เนินทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่อยู่ใต้ดิน และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ข้ารู้สึกแย่ พวกเราอาจจะเข้าใกล้ศูนย์ผลิตยีนโดยไม่รู้ตัว"

ชูววว ~

ทันใดนั้นสีหน้าของฮั่นหลางและแลนซ์ก็ซีดลง

มีศูนย์ผลิตยีนอยู่ภายในอาณาจักรสาบสูญทุกแห่ง มันเป็นสถานที่ที่ผลิตสัตว์อสูรมืด สาเหตุที่ทำให้มนุษย์สามารถสำรวจอาณาจักรสาบสูญได้ยากก็เพราะศูนย์ผลิตยีนเหล่านั้น

และเนื่องจากศูนย์ผลิตยีนเป็นที่ที่มีสัตว์อสูรมืด มันจึงอันตรายมากเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะมีสัตว์อสูรชนิดไหนที่กำลังเฝ้าอยู่ที่นั่น

สีหน้าของแลนซ์ดูจะกังวลมากๆ เขาถามออกมาด้วยเสียงต่ำๆว่า "หลันเฟิง เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ?"

หลันเฟิงพยักหน้าก่อนจะมองไปรอบๆโครงกระดูกของสัตว์อสูรมืดที่อยู่รอบตัวพวกเขาและกล่าวออกมาว่า "ถ้าข้าเดาไม่ผิด โครงกระดูกเหล่านี้เป็นต้นแบบที่ล้มเหลว พวกมันจึงถูกโยนออกมาจากศูนย์ผลิต ดังนั้นตอนนี้พวกเราก็น่าที่จะอยู่ไม่ไกลจากศูนย์ผลิตมากนัก"

"หากวิเคราะห์ตั้งแต่เริ่มแรก ฮั่นหลางได้ใช้พลังที่มากเกินในการทดสอบจนทำให้หอคอยลอยฟ้าตกลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งทำให้พื้นโลกแตก และหลังจากนั้นพวกเราก็ถูกไล่ล่าโดยเหล่าสัตว์อสูรมืด พวกเราจึงกระโดดลงไปในหุบเหวและมาโผล่ที่ชั้นใต้ดินลึกซึ่งไม่มีใครเคยมาก่อน พวกเราวิ่งเข้ามาในสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้มากมาย จากข้อมูลที่ข้ามี ข้าคาดการณ์ว่าเราอยู่ไม่ไกลจากศูนย์ผลิตยีน

"ข้าอ่านข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรสาบสูญมากมาย ในอาณาจักรสาบสูญระดับสูงทุกที่จะมีศูนย์ผลิตยีน และโดยปกติแล้วศูนย์ผลิตเหล่านี้จะถูกซ่อนลึกลงไปในใต้พื้นดิน และตอนนี้เราอยู่ใต้ดินที่ลึกลงไปไม่น้อยกว่าหลายพันกิโลเมตรจากพื้นดิน และนั่นอาจจะลึกพอที่จะพบศูนย์ผลิตได้"

แลนซ์และฮั่นหลางทั้งสองต่างพยักหน้า ก่อนที่ฮั่นหลางจะกล่าวว่า "ดูเหมือนว่านับตั้งแต่ตอนนี้พวกเราจะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ แลนซ์เจ้าคงต้องทำหน้าที่สำรวจเหมือนเมื่อก่อน แต่เจ้าต้องทิ้งสัญลักษณ์ไว้บ้างและถ้าเจ้าตกอยู่ในอันตราย หลันเฟิงและข้าจะคอยสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่"

"พวกเรากำลังอยู่ในที่แปลกประหลาดนี้ถ้าเราต้องการออกไป เราก็ต้องก้าวไปข้างหน้า"

แลนซ์พยักหน้าอย่างหนักและพูดอย่างจริงจังว่า "เข้าใจแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า"

หลังจากตระหนักว่าพวกเขาได้เข้ามาใกล้ศูนย์กลางฐานลับของอาณาจักรสาบสูญ A-19 ฮั่นหลางและอีกสองคนก็เริ่มระวังตัวมากขึ้นและแม้กระทั่งการพูดคุยกันเป็นครั้งคราวในก่อนหน้านี้ก็ลดน้อยลง

พวกเขาใช้เวลาถึง 3 วันเต็มๆ เพื่อเดินออกจากทะเลทรายใต้ดินนี้ ที่เป็นสถานที่ที่มีโครงกระดูกของสัตว์อสูรมืดถูกทิ้ง ในตอนนี้พวกเขาก็มาถึงกำแพงหินที่ดูเหมือนรังผึ้ง

บนกำแพงหินสีดำมีถ้ำนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อกันและกัน ราวกับเป็นเขาวงกตไม่มีที่สิ้นสุด

......

ที่ทะเลสาบที่ฮั่นหลางและอีกสองคนเคยอยู่เมื่อสามวันก่อน

ร่างของใครคนหนึ่งได้ปรากฏโดยไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน ร่างของเขาคลุมด้วยผ้าลินินเผยให้เห็นดวงตาสีดำคู่หนึ่ง ที่ดูคล้ายกับนักพรต

เขาเดินเข้าไปในน้ำและได้เห็นศพของปลาประหลาดที่ถูกสังหารโดยฮั่นหลางและอีกสองคน

เขาส่ายหน้าเล็กน้อย นักพรตได้เดินขึ้นมาจากทะเลสาบพร้อมด้วยชุดของผ้ากระสอบแล้วมุ่งหน้าไปที่สุสานของเหล่าทหารในอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์

มองไปข้างหน้าสุสาน ทุกศพถูกขุดขึ้นมาจนดูยุ่งเหยิง กระดูกของทหารปรากฏอยู่บนพื้นสัมผัสอากาศ กะโหลกศีรษะแตกละเอียดเพื่อเอาผลึกควบแน่น แม้แต่อาวุธที่ติดอยู่ในหลุมฝังศพก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

"ขโมย! ไอ้โจรเลว!"

นักพรตในชุดผ้ากระสอบ ร่างของเขาสั่นสะท้าน ก่อนที่เขาจะตะโกนออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง

จากนั้นจู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาจ้องมองตรงโดมหินสีดำ เสียงแหลมดังออกมาจากลำคอของเขา

อู้ววว ~ ~ ~

อู้ววว ~ ~ ~

เสียงที่ดังออกมา ไม่ได้เหมือนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากมนุษย์ แต่เหมือนเสียงร้องของปีศาจในนรก!

สองชั่วโมงผ่านไปและเสียงฝีเท้าเริ่มเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

มันเป็นกลุ่มของสัตว์อสูรมืด กลุ่มที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดาเหล่าสัตว์อสูรมืดยักษ์ที่น่ากลัว!

พวกมันดูเหมือนไดโนเสาร์แร็พเตอร์ แต่มีความโหดมากขึ้น พวกมันต่างปกคลุมด้วยเปลือกหอยแข็งคล้ายกับตัวลิ่น กรงเล็บด้านหน้าทั้งสองข้างมีขนาดเดียวกับกรงเล็บนกอินทรีขนาดใหญ่ ขาทั้งสองข้างที่รองรับร่างใหญ่มีความหนาและทรงพลัง ปากของมันแยกออกจากกันเผยให้เห็นแนวของฟันที่ดูราวกับเหล็กที่แหลมคม

ชูววว ~

สัตว์อสูรมืดแรพเตอร์นับหลายพันตัวได้มาถึงที่ด้านข้างของชายหนุ่มที่สวมชุดกระสอบแปลกๆ พวกมันยกศีรษะขึ้นมา ดวงตาสีดำของพวกมันเปล่งประกายความเย็นเหยียบออกมา ราวกับว่าเป็นกองทัพสัตว์อสูรมืดที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

ปึก ~

ชายผิวดำที่สวมชุดกระสอบกระโดดขึ้นไปบนหลังของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีกล้ามเนื้อมากที่สุดบรรดาสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์ มันยกศีรษะของมันขึ้น ก่อนจะปลดปล่อยเสียงออกมา

เสียงดังกึกก้อง ~

กองทัพของเหล่าสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์เริ่มวิ่งผ่านถ้ำรูปตัวยูและมาถึงทะเลทรายซึ่งเป็นสุสานของสัตว์อสูรมืดยักษ์

สัตว์อสูรมืดแรพเตอร์รวมตัวกันมากขึ้น ในตอนนี้พวกมันมีมากกว่าหมื่นตัวในเวลาสั้นๆ

อวู้วววว ~

ชายประหลาดหน้าเริ่มส่งเสียงที่น่ากลัวอีกครั้ง และกองทัพสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์ต่างโห่ร้องก่อนที่จะเคลื่อนทัพข้ามทะเลทรายด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ มันดูเหมือนภายในไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาจะสามารถจับฮั่นหลางและอีกสองคนได้

"มันมีกลิ่นอายของความมืด?"

"ราชามาที่นี่ด้วยเหรอ?"

ทำไมราชาถึงมากับมนุษย์เหล่านี้?”

ชายประหลาดที่สวมใส่ผ้ากระสอบส่ายศีรษะขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง

ปัก ~

เขาตบไปที่หัวสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์อย่างแรงซึ่งทำให้มันส่งเสียงร้องออกมาดังๆด้วยความเจ็บปวด

"มันแปลกมาก วิ่งเร็วเข้า!" เขาโบกมือและสั่งการลงไป

หลังจากนั้นแขนสีดำผอมเหมือนเถาองุ่น แต่คมเหมือนมีดขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากภายใต้ผ้ากระสอบ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่ใช่มนุษย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น