ฮั่นหลางและอีกสองคนไม่ได้ไปไกล
หลังจากผ่านถ้ำรูปตัวยู ด้านหน้า เผยให้เห็นพื้นที่กว้างออกไป
โลกใต้ดินกว้างใหญ่ โครงกระดูกของสัตว์ประหลาดยักษ์โผล่ออกมาจากพื้นทราย
ไม่มีโครงกระดูกที่สมบูรณ์
โครงกระดูกทั้งหมดของเหล่าสัตว์ประหลาดแตกหักและกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณรอบๆ
แม้ว่ากระดูกจะไม่สมบูรณ์
แต่ก็ไม่ยากที่จะคาดเดาได้ จากความยาวของกระดูกสีขาวเหล่านี้ว่าเจ้าของโครงกระดูกยักษ์นั้นคืออะไร
หนึ่งในโครงกระดูกที่โผล่ออกมาจากทราย มันมีความยาวมากกว่าหลายพันเมตร
หลันเฟิงขมวดคิ้วและพูดว่า
"นี่เป็นสัตว์อสูรมืด"
ฮั่นหลางรู้สึกตกใจและถามออกไปอย่างแปลกใจว่า
"เจ้ารู้ได้อย่างไร?"
หลันเฟิงเดินเข้าไปใกล้โครงกระดูก
และชี้ไปที่กระดูกต้นแขนสั้นและยาวอย่างละข้างและพูดว่า "อารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์กำลังพยายามที่จะบรรลุขีดจำกัดของวิวัฒนาการ
และสัตว์อสูรมืดเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด สิ่งที่เรียกว่าสัตว์อสูรมืด ความจริงแล้วเป็นเพียงการรวบรวมยีนของสัตว์หลายชนิดไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าดุร้ายหรือแม้กระทั่งสัตว์สวรรค์มารวมกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มากที่สุด”
“ดังนั้นโครงกระดูกของสัตว์อสูรมืดมักมีคุณสมบัติที่ไม่สมมาตร
เหมือนสองแขนหน้านี้ ข้างหนึ่งมีลักษณะแหลมคมในขณะที่อีกข้างใหญ่และแข็งแรง"
"เหตุผลที่มันเป็นอย่างนี้
ก็เพราะว่าสิ่งมีชีวิตในยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ติดตั้งสองแขนเพื่อให้สามารถทำงานที่แตกต่างกันได้
แขนข้างหนึ่งจะใช้ในการจับและแขนอีกข้างจะใช้ในการเจาะหลังจากที่เหยื่อถูกจับ"
ขณะที่หลันเฟิงพูด เขายังได้สาธิต
ด้วยการคว้าหินด้วยมือขวาและทำการตัดด้วยแขนซ้ายเบาๆ
"ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่ไหม?
อารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ไม่ต้องการความสมมาตร แต่เป็นการทำงาน
เจ้าเคยเห็นพวกมันมาก่อน สัตว์อสูรมืดบางตัวมีหัวสองหัวและบางตัวก็มีสามตัว
อารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ได้ออกแบบไว้ด้วยวิธีนี้ ก็เพราะว่ายิ่งมีหัวมาก
พวกมันก็สามารถมองดูได้ทุกทิศทาง แล้วถ้าพวกมันถูกเพิ่มความสามารถในการตรวจจับ โดยการติดตั้งระบบสำรวจโซนาร์
(จับคลื่นเสียงสะท้อน) เหมือนค้างคาวตัวหนึ่งแล้วล่ะก็ มันก็จะเป็นสัตว์อสูรมืดที่มีประสิทธิภาพมาก"
ฮั่นหลางพยักหน้าเล็กน้อย
"งั้นเจ้าก็กำลังจะบอกว่า สัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านี้ก็เป็นสัตว์อสูรมืด แต่ทำไมพวกมันถึงมาอยู่ใต้ดิน
ทำไมเราถึงไม่เห็นพวกมันเมื่อเรายังคงอยู่ข้างบน?"
หลันเฟิงตอบว่า
"บางทีอาจเป็นเพราะความยากลำบากที่มากเกินไปและอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ล้มเหลว
ดังนั้นพวกเขาจึงละทิ้งสัตว์อสูรมืดที่ตายเหล่านี้ให้อยู่ที่นี่"
ฮั่นหลางยิ้มและพูดออกมาว่า
"หลันเฟิงเจ้ารู้มากจริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่เจ้ามีความฝันมากมาย
นั่นเป็นเพราะเจ้ารู้ทุกอย่าง"
แลนซ์กล่าวว่า
"ผู้ชายคนนี้เป็นนายน้อยของครอบครัวทะเลสาบสวรรค์สีน้ำเงิน (TL:
ชื่อ หลันเฟิง แปลว่าเมเปิ้นสีน้ำเงิน) มีครูสอนอย่างน้อย 800 ถึง 1000 คน นับตั้งแต่เขาเกิด ดังนั้นข้าจึงไม่แปลกใจเลยที่
หลันเฟิงจะรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี"
หลันเฟิงไม่ได้ปฏิเสธเขาเพียงแค่ยักไหล่
ก่อนจะมองไปที่เนินทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่อยู่ใต้ดิน และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
"ข้ารู้สึกแย่ พวกเราอาจจะเข้าใกล้ศูนย์ผลิตยีนโดยไม่รู้ตัว"
ชูววว ~
ทันใดนั้นสีหน้าของฮั่นหลางและแลนซ์ก็ซีดลง
มีศูนย์ผลิตยีนอยู่ภายในอาณาจักรสาบสูญทุกแห่ง
มันเป็นสถานที่ที่ผลิตสัตว์อสูรมืด สาเหตุที่ทำให้มนุษย์สามารถสำรวจอาณาจักรสาบสูญได้ยากก็เพราะศูนย์ผลิตยีนเหล่านั้น
และเนื่องจากศูนย์ผลิตยีนเป็นที่ที่มีสัตว์อสูรมืด
มันจึงอันตรายมากเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะมีสัตว์อสูรชนิดไหนที่กำลังเฝ้าอยู่ที่นั่น
สีหน้าของแลนซ์ดูจะกังวลมากๆ
เขาถามออกมาด้วยเสียงต่ำๆว่า "หลันเฟิง เจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ?"
หลันเฟิงพยักหน้าก่อนจะมองไปรอบๆโครงกระดูกของสัตว์อสูรมืดที่อยู่รอบตัวพวกเขาและกล่าวออกมาว่า
"ถ้าข้าเดาไม่ผิด โครงกระดูกเหล่านี้เป็นต้นแบบที่ล้มเหลว พวกมันจึงถูกโยนออกมาจากศูนย์ผลิต
ดังนั้นตอนนี้พวกเราก็น่าที่จะอยู่ไม่ไกลจากศูนย์ผลิตมากนัก"
"หากวิเคราะห์ตั้งแต่เริ่มแรก
ฮั่นหลางได้ใช้พลังที่มากเกินในการทดสอบจนทำให้หอคอยลอยฟ้าตกลงมาจากฟากฟ้า ซึ่งทำให้พื้นโลกแตก
และหลังจากนั้นพวกเราก็ถูกไล่ล่าโดยเหล่าสัตว์อสูรมืด พวกเราจึงกระโดดลงไปในหุบเหวและมาโผล่ที่ชั้นใต้ดินลึกซึ่งไม่มีใครเคยมาก่อน
พวกเราวิ่งเข้ามาในสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้มากมาย จากข้อมูลที่ข้ามี ข้าคาดการณ์ว่าเราอยู่ไม่ไกลจากศูนย์ผลิตยีน”
"ข้าอ่านข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรสาบสูญมากมาย
ในอาณาจักรสาบสูญระดับสูงทุกที่จะมีศูนย์ผลิตยีน และโดยปกติแล้วศูนย์ผลิตเหล่านี้จะถูกซ่อนลึกลงไปในใต้พื้นดิน
และตอนนี้เราอยู่ใต้ดินที่ลึกลงไปไม่น้อยกว่าหลายพันกิโลเมตรจากพื้นดิน และนั่นอาจจะลึกพอที่จะพบศูนย์ผลิตได้"
แลนซ์และฮั่นหลางทั้งสองต่างพยักหน้า
ก่อนที่ฮั่นหลางจะกล่าวว่า "ดูเหมือนว่านับตั้งแต่ตอนนี้พวกเราจะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ
แลนซ์เจ้าคงต้องทำหน้าที่สำรวจเหมือนเมื่อก่อน แต่เจ้าต้องทิ้งสัญลักษณ์ไว้บ้างและถ้าเจ้าตกอยู่ในอันตราย
หลันเฟิงและข้าจะคอยสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มที่"
"พวกเรากำลังอยู่ในที่แปลกประหลาดนี้ถ้าเราต้องการออกไป
เราก็ต้องก้าวไปข้างหน้า"
แลนซ์พยักหน้าอย่างหนักและพูดอย่างจริงจังว่า
"เข้าใจแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้า"
หลังจากตระหนักว่าพวกเขาได้เข้ามาใกล้ศูนย์กลางฐานลับของอาณาจักรสาบสูญ
A-19
ฮั่นหลางและอีกสองคนก็เริ่มระวังตัวมากขึ้นและแม้กระทั่งการพูดคุยกันเป็นครั้งคราวในก่อนหน้านี้ก็ลดน้อยลง
พวกเขาใช้เวลาถึง 3 วันเต็มๆ เพื่อเดินออกจากทะเลทรายใต้ดินนี้ ที่เป็นสถานที่ที่มีโครงกระดูกของสัตว์อสูรมืดถูกทิ้ง
ในตอนนี้พวกเขาก็มาถึงกำแพงหินที่ดูเหมือนรังผึ้ง
บนกำแพงหินสีดำมีถ้ำนับไม่ถ้วนเชื่อมต่อกันและกัน
ราวกับเป็นเขาวงกตไม่มีที่สิ้นสุด
......
ที่ทะเลสาบที่ฮั่นหลางและอีกสองคนเคยอยู่เมื่อสามวันก่อน
ร่างของใครคนหนึ่งได้ปรากฏโดยไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน
ร่างของเขาคลุมด้วยผ้าลินินเผยให้เห็นดวงตาสีดำคู่หนึ่ง ที่ดูคล้ายกับนักพรต
เขาเดินเข้าไปในน้ำและได้เห็นศพของปลาประหลาดที่ถูกสังหารโดยฮั่นหลางและอีกสองคน
เขาส่ายหน้าเล็กน้อย
นักพรตได้เดินขึ้นมาจากทะเลสาบพร้อมด้วยชุดของผ้ากระสอบแล้วมุ่งหน้าไปที่สุสานของเหล่าทหารในอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์
มองไปข้างหน้าสุสาน
ทุกศพถูกขุดขึ้นมาจนดูยุ่งเหยิง กระดูกของทหารปรากฏอยู่บนพื้นสัมผัสอากาศ กะโหลกศีรษะแตกละเอียดเพื่อเอาผลึกควบแน่น
แม้แต่อาวุธที่ติดอยู่ในหลุมฝังศพก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
"ขโมย! ไอ้โจรเลว!"
นักพรตในชุดผ้ากระสอบ ร่างของเขาสั่นสะท้าน
ก่อนที่เขาจะตะโกนออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
จากนั้นจู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมอง
ดวงตาจ้องมองตรงโดมหินสีดำ เสียงแหลมดังออกมาจากลำคอของเขา
อู้ววว ~ ~ ~
อู้ววว ~ ~ ~
เสียงที่ดังออกมา ไม่ได้เหมือนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากมนุษย์
แต่เหมือนเสียงร้องของปีศาจในนรก!
สองชั่วโมงผ่านไปและเสียงฝีเท้าเริ่มเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
มันเป็นกลุ่มของสัตว์อสูรมืด
กลุ่มที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดาเหล่าสัตว์อสูรมืดยักษ์ที่น่ากลัว!
พวกมันดูเหมือนไดโนเสาร์แร็พเตอร์
แต่มีความโหดมากขึ้น พวกมันต่างปกคลุมด้วยเปลือกหอยแข็งคล้ายกับตัวลิ่น กรงเล็บด้านหน้าทั้งสองข้างมีขนาดเดียวกับกรงเล็บนกอินทรีขนาดใหญ่
ขาทั้งสองข้างที่รองรับร่างใหญ่มีความหนาและทรงพลัง ปากของมันแยกออกจากกันเผยให้เห็นแนวของฟันที่ดูราวกับเหล็กที่แหลมคม
ชูววว ~
สัตว์อสูรมืดแรพเตอร์นับหลายพันตัวได้มาถึงที่ด้านข้างของชายหนุ่มที่สวมชุดกระสอบแปลกๆ
พวกมันยกศีรษะขึ้นมา ดวงตาสีดำของพวกมันเปล่งประกายความเย็นเหยียบออกมา
ราวกับว่าเป็นกองทัพสัตว์อสูรมืดที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ปึก ~
ชายผิวดำที่สวมชุดกระสอบกระโดดขึ้นไปบนหลังของสัตว์ตัวหนึ่งที่มีกล้ามเนื้อมากที่สุดบรรดาสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์
มันยกศีรษะของมันขึ้น ก่อนจะปลดปล่อยเสียงออกมา
เสียงดังกึกก้อง ~
กองทัพของเหล่าสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์เริ่มวิ่งผ่านถ้ำรูปตัวยูและมาถึงทะเลทรายซึ่งเป็นสุสานของสัตว์อสูรมืดยักษ์
สัตว์อสูรมืดแรพเตอร์รวมตัวกันมากขึ้น
ในตอนนี้พวกมันมีมากกว่าหมื่นตัวในเวลาสั้นๆ
อวู้วววว ~
ชายประหลาดหน้าเริ่มส่งเสียงที่น่ากลัวอีกครั้ง
และกองทัพสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์ต่างโห่ร้องก่อนที่จะเคลื่อนทัพข้ามทะเลทรายด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
มันดูเหมือนภายในไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาจะสามารถจับฮั่นหลางและอีกสองคนได้
"มันมีกลิ่นอายของความมืด?"
"ราชามาที่นี่ด้วยเหรอ?"
“ทำไมราชาถึงมากับมนุษย์เหล่านี้?”
ชายประหลาดที่สวมใส่ผ้ากระสอบส่ายศีรษะขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง
ปัก ~
เขาตบไปที่หัวสัตว์อสูรมืดแรพเตอร์อย่างแรงซึ่งทำให้มันส่งเสียงร้องออกมาดังๆด้วยความเจ็บปวด
"มันแปลกมาก
วิ่งเร็วเข้า!" เขาโบกมือและสั่งการลงไป
หลังจากนั้นแขนสีดำผอมเหมือนเถาองุ่น
แต่คมเหมือนมีดขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากภายใต้ผ้ากระสอบ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่ใช่มนุษย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น