เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

GDN 088 เครื่องจักรสังหาร



ขบวนเรือรบของครอบครัวอี่ ระดับชั้นแอร์วอล์ค

เรือรบยังคงมุ่งหน้าต่อไป อี่เว่ยเว่ยขังตัวเองภายในห้องของเธอตลอด 24 ชั่วโมงได้ผ่านมา นับตั้งแต่รายงานข่าวเรื่องวิกฤติใหญ่ในอาณาจักรสาบสูญ A-19 อี่เว่ยเว่ยแทบจะไม่กินอะไรเลยและเธอก็รู้สึกหดหู่ไปอย่างสุดขีด

เพราะเธอเป็นแค่เด็กโง่ อี่เว่ยเว่ยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทั้งหมดที่เธอรู้ก็คือว่ามันรู้สึกเหมือนว่าเธอได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญมาก ขณะที่เธอหลับตาลง ภาพเงาของฮั่นหลางอยู่ภายในสมองของเธอ

บางทีอาจเป็นเพราะฮั่นหลางให้อะไรกับเธออย่างที่ไม่มีใครสามารถทำได้ และนั่นคืออิสรภาพ เมื่ออยู่ข้างฮั่นหลาง อี่เว่ยเว่ยสามารถสวมชุดเดรส อุ้มลูกสุนัขขี้เล่นและทำสิ่งต่างๆมากมายที่เธออยากทำ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ สิ่งเหล่านี้ค่อยๆฝังแน่นเข้าไปในจิตใจ

อี่เว่ยเว่ยนอนบนเตียง เอาแล็ปท็อปและเริ่มดูข่าวสด ตอนนี้ทุกสายตาในทางช้างเผือกยังจับตามองโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่อาณาจักรสาบสูญ A-19

"ตามข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับจากทางพันธมิตรทางช้างเผือก เมื่อได้ประกาศเปิดใช้งานอาณาจักรสาบสูญ A-19 อย่างเป็นทางการ ตอนนี้ได้ผ่านไป 24 ชั่วโมง ปรากฏจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 98.1% หมายความว่าในหมู่หนึ่งแสนเอสเปอร์ที่มีพรสวรรค์เหลือเพียง 1900 คนที่ยังมีชีวิตอยู่"

"ตอนนี้โปรดต้อนรับแขกพิเศษของเรา ศาสตราจารย์พรานเดลลี่ เพื่ออธิบายให้เราทราบว่า ตัวเลขเหล่านี้มีความหมายจริงๆว่าอย่างไร? และในหมู่ของผู้รอดชีวิตจะมีสักกี่คนที่จะสามารถผ่านอีก 29 วันที่เหลือไปได้?"

ศาสตราจารย์พรานเดลลี่เกาศีรษะของเขาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "หากจะพูดออกมาตามตรง เราควรจะดีใจที่เอสเปอร์ทั้งหนึ่งแสนคนไม่ได้ถูกฆ่าทั้งหมด หลังจากที่อาณาจักรสาบสูญถูกเปิดใช้งาน มีเพียงจำนวนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในอัตราที่สูง ตอนนี้ผมมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าผู้รอดชีวิตได้ออกจากจุดทางเข้าซึ่งเป็นห้องโถงมืดแล้ว"

"เราทุกคนรู้ดีว่าเมื่อออกจากห้องโถงมืดพวกเขาจะเผชิญกับโลกมิติที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงโลกนี้กว้างใหญ่ถึงแม้ว่ามันจะยังเป็นอันตรายอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่การฆ่าอย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่เกิดขึ้นในห้องโถงมืด ดังนั้นเหล่าเอสเปอร์ 1900 รายยังคงมีโอกาสรอดชีวิตได้จนกว่าอาณาจักรสาบสูญจะยกเลิกการใช้งาน"

"นอกจากนี้นักรบที่รอดชีวิตยังเป็นชนชั้นสูงทั้งหมด ส่วนใหญ่ของเอสเปอร์ระดับล่างหรือเหล่าเอสเปอร์ที่มีพลังอ่อนแออาจได้รับการกำจัดสรุปได้ว่าผมยังคงมองโลกในแง่ร้ายกับผลที่จะตามมาหลังจาก 29 วันหนทางยังอีกยาว และไม่มีใครรู้ว่าจริงๆเกิดอะไรขึ้นภายในอาณาจักรสาบสูญ A-19 นั่น"

พิธีกรถามออกไปอย่างรวดเร็วว่า "ศาสตราจารย์กำลังบอกว่าการออกจากห้องโถงมืดหมายถึงความปลอดภัยชั่วคราว ศาสตราจารย์พอที่จะอธิบายถึงโครงสร้างภายในของอาณาจักรสาบสูญได้หรือไม่"

ศาสตราจารย์พรานเดลลี่พยักหน้า "โดยรวมแล้ว อาณาจักรสาบสูญ A-19 เปรียบเสมือนโลกที่สมบูรณ์และไม่ได้แตกต่างไปจากโลกที่เราอาศัยอยู่ผมได้กล่าวถึงจุดทางเข้าซึ่งเป็นห้องโถงมืด หลังจากที่ออกจากห้องโถงมืดและก่อนที่จะเข้าสู่อาณาจักรสาบสูญมันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความปลอดภัยชั่วคราว"

"ภัยคุกคามที่แท้จริงคือโลกภายในอาณาจักรสาบสูญจะไม่คงเดิมเมื่อเวลาผ่านไป จะมีการเปิดเผยทางเข้าหรือสวิตช์ที่ซ่อนอยู่มากขึ้นซึ่งเป็นโอกาสที่เอสเปอร์จะสามารถหาสมบัติและพิมพ์เขียวล้ำค่าได้อย่างมากมาย"

"แต่ในเวลาเดียวกันสัตว์อสูรมืดที่เพิ่มขึ้นหรือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าสัตว์อสูรมืดก็จะปรากฏในอาณาจักรสาบสูญนี้ เป็นเหมือนขั้นตอนที่ค่อยๆเพิ่มความยากลำบาก"

พิธีกรรู้สึกลังเลในขณะที่ถามออกไป "ศาสตราจารย์กำลังหมายถึง ภายในอาณาจักรสาบสูญนั้นมีระบบการจัดการ เพื่อเพิ่มความยากลำบากในการที่จะมีชีวิตอยู่รอด นั่นหมายความว่าในช่วงสองสามวันสุดท้ายก่อนจะครบกำหนด มันจะเข้าถึงระดับความยากลำบากระดับสูงสุดซึ่งเป็นอันตรายที่สุดใช่หรือไม่?”

ศาสตราจารย์ พรานเดลลี่พยักหน้ารับ "มันเป็นเช่นนี้เสมอ นอกจากนี้ อาณาจักรสาบสูญ A-19 ยังแตกต่างจากอาณาจักรสาบสูญอื่นๆ เดิมทีมันเป็นพื้นที่ฝึกฝนทหารสำหรับอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อพวกเขาจากไป พวกเขายังใส่สัตว์อสูรมืดและสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมากเข้าไปในนั้นอีกด้วย ดังนั้น..."

เฮ้อ ~

อี่เว่ยเว่ยรู้สึกว่าหัวใจของเธอสั่นไหว ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนที่ขี้กลัว แต่เมื่อได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ยากลำบากของผู้เข้าร่วมทดสอบในอาณาจักรสาบสูญที่ต้องเผชิญ ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอกลัวจริงๆ เธอไม่กล้าที่จะฟังข่าวเหล่านี้อีกต่อไป

"ฮั่นหลาง เจ้าต้องมีชีวิตอยู่แน่ๆ" อี่เว่ยเว่ยขดตัวอยู่บนเตียงและดวงตาของเธอก็คลอเบ้าด้วยน้ำตา

......

ระบบมิราเคิลสตาร์ อาณาจักรสาบสูญ A-19

เป็นการทดสอบที่มีความยากลำบากสูงในระดับที่ 7 มันได้ผ่านมาแล้ว 18 ชั่วโมงโดยไม่หยุด และฮั่นหลางยังคงถูกล้อมรอบด้วยฝูงออร์ค พวกมันจะยืนขึ้นและท้าทายฮั่นหลางทีละตัว และฮั่นหลางก็จะต้องเอาชนะทุกตัวหรือมิฉะนั้นเขาจะถูกตัดออก

รอบๆตัวเขาเป็นอาคารที่ยุบตัว ลักษณะเป็นเมืองที่ถูกเผาไหม้ การทดสอบนี้เป็นการจำลอง ฮั่นหลางเป็นผู้รอดชีวิตจากการโจมตีและอยู่ภายใต้การล้อมศัตรูนับไม่ถ้วน

โชคดีที่มันไม่ใช่เหมือนการโจมตีจากการล้อม แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ท้าทายไม่สิ้นสุด มันเป็นเวลานานนับ 18 ชั่วโมงและฮั่นหลางได้ฆ่าฝ่ายตรงข้ามไปแล้วนับไม่ถ้วนแล้ว แต่การทดสอบยังไม่สิ้นสุด

ออร์คอีกตัว ยืนขึ้น ก้าวเดินไปบนเศษหินหรืออิฐและแสดงกล้ามเนื้อของมันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กของมันออกมา

ออร์คเป็นชื่อที่ฮั่นหลางเรียกพวกมัน คนเหล่านี้ไม่ได้ดูเหมือนมนุษย์หน้าผากของพวกมันแคบและยาวกว่า จมูกชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า และแถวของเขี้ยวขึ้นแบบไม่เป็นระเบียบในปากของพวกมัน พวกมันสวมหนังสัตว์และร่างกายของพวกมันถูกปกคลุมด้วยเครื่องประดับที่ทำจากกระดูกสัตว์ ส่วนใหญ่มีความสูงราวๆสองเมตร

ในทางช้างเผือกนอกเหนือจากมนุษย์ ยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆจำนวนมาก แต่เนื่องจากมนุษย์มีพลังมากขึ้น สถานการณ์การดำรงชีพของเผ่าพันธุ์ต่างดาวจึงยากขึ้น พวกเขาต้องทำงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เฒ่าโม้ จากเผ่าพันธุ์กุย ที่ทำงานในฐานะสกินเนอร์หรือเเผ่าพันธุ์มายาซึ่งโดยทั่วไปมักทำงานเป็นมือสังหาร

ตอนนี้เผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาดนี้ ทหารทุกคนของพวกมันต่างเป็นสายพันธุ์ที่มีพลังทางกายภาพ อาศัยพลังที่โหดร้ายในการสู้รบและต่อสู้อย่างสัตว์ นั่นเป็นเหตุผลที่ฮั่นหลางเรียกพวกมันว่า ออร์ค

สไตล์การต่อสู้ของ ออร์ค เป็นเรื่องง่าย แต่กล้าหาญ พวกมันไม่ได้พูดอะไร และพวกมันลุกขึ้นยืนและเริ่มโจมตีฮั่นหลางด้วยความรุนแรงในทันที หลังจากที่อีกคนถูกฆ่า อีกคนก็ยืนขึ้นเพื่อต่อสู้กับฮั่นหลางและมันก็เหมือนจะวนแบบนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

อ๊ากก ~

คนนี้ก็เหมือนกับออร์คที่ผ่านมา ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเสียงคำรามและพุ่งกำปั้นไปที่ฮั่นหลาง

ฮั่นหลางแอบร้องไห้อยู่ข้างใน ในหมู่ทุกประเภทของเอสเปอร์ เอสเปอร์ที่เกี่ยวข้องกับความความแข็งแกร่งนั้นจะเป็นประเภทที่ฮั่นหลางต้องการที่จะหลีกเลี่ยงมากที่สุด เขตแดนสิ้นสลายของฮั่นหลางไม่สามารถทำอะไรกับกล้ามเนื้อขนาดใหญ่เหล่านั้นได้

ฮั่นหลางสามารถลากคนที่สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าลงมาที่พื้นได้ เขาสามารถจัดการกับคนที่มีพลังพิเศษเกี่ยวกับน้ำให้จมน้ำตายได้ และเขาสามารถจัดการกับเหล่าเอสเปอร์ที่มีพลังไม่ว่าจะ สายฟ้า ไฟและน้ำแข็ง โดยการริบพลังพิเศษเหล่านั้น ผลักพวกเขาทั้งหมดให้เข้าสู่สถานะที่ไร้ค่า! แต่สำหรับฝ่ายตรงข้ามที่มีความแข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน ฮั่นหลางจะสามารถทำอะไรได้?

ชูววว ~

กำปั้นของนักรบออร์ค ก็เหมือนกับค้อนเหล็กขนาดใหญ่และกระแทกลงไปที่ศีรษะของฮั่นหลาง กำปั้นพุ่งไปทางเขา เสียงของพลังหมัดดังออกมาราวกับฟ้าร้อง!

ฮั่นหลางไม่สามารถมองเห็นจุดจบของสงครามเหล่านี้ได้ และเริ่มสงสัยว่าการต่อสู้ประเภทนี้จะใช้เวลาทั้งเจ็ดวันเจ็ดคืนหรือไม่

ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วฮั่นหลางก็คงรู้สึกมึน ฮั่นหลางจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่เข้มแข็ง แต่กับคู่ต่อสู้ธรรมดาแต่มีจำนวนมากเหล่านี้ เขาไม่สามารถใช้จุดแข็งของเขาได้อย่างเต็มที่

ตาของฮั่นหลางยึดติดกับกำปั้นของข้าศึกไว้แน่น ร่างกายของเขาเอียงไปทางซ้าย

หลังจากช่วงเวลาแห่งการต่อสู้เป็นเวลานาน ฮั่นหลางได้เรียนรู้ที่จะคาดการณ์ทิศทางการโจมตีของศัตรูและเรียนรู้ที่จะลดปริมาณพลังงานที่ใช้ไปในการฆ่าแต่ละครั้ง ศัตรูมีจำนวนมากและฮั่นหลางไม่ทราบว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะดำเนินต่อไปนานแค่ไหน ดังนั้นการประหยัดยาและพลังงานกลายเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดสำหรับตอนนี้

การโจมตีและการตอบโต้ของฮั่นหลางจึงเป็นธรรมชาติมากขึ้น เขาเพียงแค่หันร่างของเขาลงไปด้านข้างเพื่อหลบกำปั้น และร่างกายของเขาที่ขนานไปกับพื้นดิน ก่อนที่จะกลับมาในจุดเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ กำปั้นขวาของเขาเริ่มรวบรวมพลังแห่งความมืด เมื่อฮั่นหลางไปถึงด้านหลัง และชกไปตรงตำแหน่งหัวใจของออร์คจากด้านหลัง!

บูมมม!

หมัดมืด!

พลังแห่งความมืดทะลุร่างกายของฝ่ายตรงข้ามตรงจากด้านหลังทำให้หัวใจของเขาบดขยี้!

ไร้ซึ่งคำถาม มันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการโจมตี ฮั่นหลางไม่ได้ใช้ท่าทางพิเศษหรือกินพลังงานเพิ่ม ฮั่นหลางใช้การต่อยหนึ่งครั้งเพื่อตีจุดที่สำคัญที่สุด และหนึ่งหมัดก็เพียงพอที่จะคร่าชีวิตของฝ่ายตรงข้าม!

โดยไม่รู้ว่า เทคนิคการฆ่าของฮั่นหลางกำลังพัฒนาขึ้นในอัตราที่บ้าคลั่ง

กำปั้นมืดของฮั่นหลางมีพลัง แต่ในอดีตฮั่นหลางมักจะใช้กำลังเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าการชกหนึ่งครั้งสามารถทำให้ศัตรูแตกเป็นชิ้นๆและระเบิดขึ้นและลอยออกไปเหมือนบอลลูน!

แต่ตอนนี้เขาต้องการที่จะประหยัดพลัง ฮั่นหลางไม่สามารถใช้กำลังเต็มที่ได้อีกต่อไป แต่จำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดและฆ่าโดยใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและเร็วที่สุด

"พวกเจ้าหมดแล้วหรือยัง?! ดี เข้ามา! ข้าจะฆ่าเจ้าไม่ช้าก็เร็ว!" ฮั่นหลางตะโกนออกไป เขากำลังพยายามให้กำลังใจตัวเอง

ถึงกระนั้น มันก็ยังเป็นการต่อสู้สิบแปดชั่วโมงโดยที่ไม่หยุด ฮั่นหลางจำไม่ได้ว่าเขาจัดการไปแล้วกี่คน เมื่อเปรียบเทียบความเครียดที่เขาต้องอดทนจากการทดสอบแรงกดดันแล้วกับการทดสอบครั้งนี้มันห่างชั้นกันจนไม่เห็นฝุ่น วิธีการที่อารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ใช้ในการฝึกทหารของพวกเขาเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากกว่ามนุษย์เป็นอย่างมาก

ชูววว ~

เมื่อฮั่นหลางตะโกนประโยคนั้นออกมา และคิดว่าการสู้รบจะเกิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด สภาพแวดล้อมก็หายไปอย่างกะทันหัน เหล่าออร์คที่น่าเกลียด ก็หายไป รอบๆภายในหอคอยลอยฟ้ากลับมามืดอีกครั้ง

หน้าจอสว่างขึ้น

"สังหารหนึ่งพันคน เสร็จสมบูรณ์"

"เวลาที่ใช้ 18 ชั่วโมง 4 นาที 5 วินาที"

"การประเมิน: เครื่องจักรสังหาร ระดับเริ่มต้น..."

ฮั่นหลางอ่านคำในหน้าจอนั้น ดูเหมือนว่าเขาฆ่าคนไปมากโดยไม่รู้ตัว? พันคน ใช้เวลาสังหารไป 18 ชั่วโมงและ 4 นาที ดังนั้นโดยเฉลี่ยหนึ่งนาทีต่อการฆ่าหนึ่งคน?!

เครื่องจักรสังหาร ระดับเริ่มต้น?

ฮั่นหลางไม่ชอบชื่อที่เขาได้รับ

ชูววว ~

ทันใดนั้นหน้าจอก็กระพริบอีกครั้งและข้อความที่สองก็โผล่ขึ้นมา และมันทำให้ฮั่นหลางเกือบจะร้องไห้!

"หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมงแล้วให้เริ่มต้นการทดสอบเครื่องจักรสังหารระดับกลาง เป้าหมายฆ่า 10,000 คน!"

ในที่สุดฮั่นหลางก็ตระหนักได้ว่าหอคอยลอยฟ้าระดับที่ 7 นี้เป็นสถานที่ที่ฝึกเครื่องจักรสังหาร!

เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการฆ่าหนึ่งพันเป้าหมาย และตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 10,000 เป้าหมาย?!

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ15 มีนาคม 2561 เวลา 00:43

    1,000 ใน 18 ชั่วโมง รอบหน้าเจอ 10,000!!!!
    วางยา, วางกับดักเลยครับเพ่ ไม่งั้นไม่รอดชัวร์

    ตอบลบ
  2. โห.... มันนัคเคิล ใส่มือไหม พลังหมดกันพอดี

    ตอบลบ