ขบวนเรือรบของครอบครัวอี่
ระดับชั้นแอร์วอล์ค
เรือรบยังคงมุ่งหน้าต่อไป
อี่เว่ยเว่ยขังตัวเองภายในห้องของเธอตลอด 24 ชั่วโมงได้ผ่านมา นับตั้งแต่รายงานข่าวเรื่องวิกฤติใหญ่ในอาณาจักรสาบสูญ
A-19
อี่เว่ยเว่ยแทบจะไม่กินอะไรเลยและเธอก็รู้สึกหดหู่ไปอย่างสุดขีด
เพราะเธอเป็นแค่เด็กโง่
อี่เว่ยเว่ยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทั้งหมดที่เธอรู้ก็คือว่ามันรู้สึกเหมือนว่าเธอได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญมาก
ขณะที่เธอหลับตาลง ภาพเงาของฮั่นหลางอยู่ภายในสมองของเธอ
บางทีอาจเป็นเพราะฮั่นหลางให้อะไรกับเธออย่างที่ไม่มีใครสามารถทำได้
และนั่นคืออิสรภาพ เมื่ออยู่ข้างฮั่นหลาง อี่เว่ยเว่ยสามารถสวมชุดเดรส อุ้มลูกสุนัขขี้เล่นและทำสิ่งต่างๆมากมายที่เธออยากทำ
แต่ก็ไม่สามารถทำได้ สิ่งเหล่านี้ค่อยๆฝังแน่นเข้าไปในจิตใจ
อี่เว่ยเว่ยนอนบนเตียง เอาแล็ปท็อปและเริ่มดูข่าวสด
ตอนนี้ทุกสายตาในทางช้างเผือกยังจับตามองโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่อาณาจักรสาบสูญ A-19
"ตามข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับจากทางพันธมิตรทางช้างเผือก
เมื่อได้ประกาศเปิดใช้งานอาณาจักรสาบสูญ A-19 อย่างเป็นทางการ
ตอนนี้ได้ผ่านไป 24 ชั่วโมง ปรากฏจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 98.1% หมายความว่าในหมู่หนึ่งแสนเอสเปอร์ที่มีพรสวรรค์เหลือเพียง
1900 คนที่ยังมีชีวิตอยู่"
"ตอนนี้โปรดต้อนรับแขกพิเศษของเรา
ศาสตราจารย์พรานเดลลี่ เพื่ออธิบายให้เราทราบว่า ตัวเลขเหล่านี้มีความหมายจริงๆว่าอย่างไร? และในหมู่ของผู้รอดชีวิตจะมีสักกี่คนที่จะสามารถผ่านอีก 29 วันที่เหลือไปได้?"
ศาสตราจารย์พรานเดลลี่เกาศีรษะของเขาและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า
"หากจะพูดออกมาตามตรง เราควรจะดีใจที่เอสเปอร์ทั้งหนึ่งแสนคนไม่ได้ถูกฆ่าทั้งหมด
หลังจากที่อาณาจักรสาบสูญถูกเปิดใช้งาน มีเพียงจำนวนผู้เสียชีวิตที่อยู่ในอัตราที่สูง
ตอนนี้ผมมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าผู้รอดชีวิตได้ออกจากจุดทางเข้าซึ่งเป็นห้องโถงมืดแล้ว"
"เราทุกคนรู้ดีว่าเมื่อออกจากห้องโถงมืดพวกเขาจะเผชิญกับโลกมิติที่ประดิษฐ์ขึ้นโดยอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงโลกนี้กว้างใหญ่ถึงแม้ว่ามันจะยังเป็นอันตรายอยู่
แต่มันก็ไม่ใช่การฆ่าอย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่เกิดขึ้นในห้องโถงมืด
ดังนั้นเหล่าเอสเปอร์ 1900 รายยังคงมีโอกาสรอดชีวิตได้จนกว่าอาณาจักรสาบสูญจะยกเลิกการใช้งาน"
"นอกจากนี้นักรบที่รอดชีวิตยังเป็นชนชั้นสูงทั้งหมด
ส่วนใหญ่ของเอสเปอร์ระดับล่างหรือเหล่าเอสเปอร์ที่มีพลังอ่อนแออาจได้รับการกำจัดสรุปได้ว่าผมยังคงมองโลกในแง่ร้ายกับผลที่จะตามมาหลังจาก
29 วันหนทางยังอีกยาว และไม่มีใครรู้ว่าจริงๆเกิดอะไรขึ้นภายในอาณาจักรสาบสูญ A-19 นั่น"
พิธีกรถามออกไปอย่างรวดเร็วว่า
"ศาสตราจารย์กำลังบอกว่าการออกจากห้องโถงมืดหมายถึงความปลอดภัยชั่วคราว ศาสตราจารย์พอที่จะอธิบายถึงโครงสร้างภายในของอาณาจักรสาบสูญได้หรือไม่"
ศาสตราจารย์พรานเดลลี่พยักหน้า
"โดยรวมแล้ว อาณาจักรสาบสูญ A-19
เปรียบเสมือนโลกที่สมบูรณ์และไม่ได้แตกต่างไปจากโลกที่เราอาศัยอยู่ผมได้กล่าวถึงจุดทางเข้าซึ่งเป็นห้องโถงมืด
หลังจากที่ออกจากห้องโถงมืดและก่อนที่จะเข้าสู่อาณาจักรสาบสูญมันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความปลอดภัยชั่วคราว"
"ภัยคุกคามที่แท้จริงคือโลกภายในอาณาจักรสาบสูญจะไม่คงเดิมเมื่อเวลาผ่านไป
จะมีการเปิดเผยทางเข้าหรือสวิตช์ที่ซ่อนอยู่มากขึ้นซึ่งเป็นโอกาสที่เอสเปอร์จะสามารถหาสมบัติและพิมพ์เขียวล้ำค่าได้อย่างมากมาย"
"แต่ในเวลาเดียวกันสัตว์อสูรมืดที่เพิ่มขึ้นหรือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าสัตว์อสูรมืดก็จะปรากฏในอาณาจักรสาบสูญนี้
เป็นเหมือนขั้นตอนที่ค่อยๆเพิ่มความยากลำบาก"
พิธีกรรู้สึกลังเลในขณะที่ถามออกไป
"ศาสตราจารย์กำลังหมายถึง ภายในอาณาจักรสาบสูญนั้นมีระบบการจัดการ
เพื่อเพิ่มความยากลำบากในการที่จะมีชีวิตอยู่รอด นั่นหมายความว่าในช่วงสองสามวันสุดท้ายก่อนจะครบกำหนด
มันจะเข้าถึงระดับความยากลำบากระดับสูงสุดซึ่งเป็นอันตรายที่สุดใช่หรือไม่?”
ศาสตราจารย์ พรานเดลลี่พยักหน้ารับ
"มันเป็นเช่นนี้เสมอ นอกจากนี้ อาณาจักรสาบสูญ A-19 ยังแตกต่างจากอาณาจักรสาบสูญอื่นๆ เดิมทีมันเป็นพื้นที่ฝึกฝนทหารสำหรับอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์
เมื่อพวกเขาจากไป พวกเขายังใส่สัตว์อสูรมืดและสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมากเข้าไปในนั้นอีกด้วย
ดังนั้น..."
เฮ้อ ~
อี่เว่ยเว่ยรู้สึกว่าหัวใจของเธอสั่นไหว
ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนที่ขี้กลัว แต่เมื่อได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ยากลำบากของผู้เข้าร่วมทดสอบในอาณาจักรสาบสูญที่ต้องเผชิญ
ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอกลัวจริงๆ เธอไม่กล้าที่จะฟังข่าวเหล่านี้อีกต่อไป
"ฮั่นหลาง เจ้าต้องมีชีวิตอยู่แน่ๆ"
อี่เว่ยเว่ยขดตัวอยู่บนเตียงและดวงตาของเธอก็คลอเบ้าด้วยน้ำตา
......
ระบบมิราเคิลสตาร์ อาณาจักรสาบสูญ
A-19
เป็นการทดสอบที่มีความยากลำบากสูงในระดับที่
7 มันได้ผ่านมาแล้ว 18 ชั่วโมงโดยไม่หยุด และฮั่นหลางยังคงถูกล้อมรอบด้วยฝูงออร์ค พวกมันจะยืนขึ้นและท้าทายฮั่นหลางทีละตัว
และฮั่นหลางก็จะต้องเอาชนะทุกตัวหรือมิฉะนั้นเขาจะถูกตัดออก
รอบๆตัวเขาเป็นอาคารที่ยุบตัว
ลักษณะเป็นเมืองที่ถูกเผาไหม้ การทดสอบนี้เป็นการจำลอง ฮั่นหลางเป็นผู้รอดชีวิตจากการโจมตีและอยู่ภายใต้การล้อมศัตรูนับไม่ถ้วน
โชคดีที่มันไม่ใช่เหมือนการโจมตีจากการล้อม
แต่ก็เป็นการแข่งขันที่ท้าทายไม่สิ้นสุด มันเป็นเวลานานนับ 18 ชั่วโมงและฮั่นหลางได้ฆ่าฝ่ายตรงข้ามไปแล้วนับไม่ถ้วนแล้ว
แต่การทดสอบยังไม่สิ้นสุด
ออร์คอีกตัว ยืนขึ้น ก้าวเดินไปบนเศษหินหรืออิฐและแสดงกล้ามเนื้อของมันที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กของมันออกมา
ออร์คเป็นชื่อที่ฮั่นหลางเรียกพวกมัน
คนเหล่านี้ไม่ได้ดูเหมือนมนุษย์หน้าผากของพวกมันแคบและยาวกว่า จมูกชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า
และแถวของเขี้ยวขึ้นแบบไม่เป็นระเบียบในปากของพวกมัน พวกมันสวมหนังสัตว์และร่างกายของพวกมันถูกปกคลุมด้วยเครื่องประดับที่ทำจากกระดูกสัตว์
ส่วนใหญ่มีความสูงราวๆสองเมตร
ในทางช้างเผือกนอกเหนือจากมนุษย์
ยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆจำนวนมาก แต่เนื่องจากมนุษย์มีพลังมากขึ้น สถานการณ์การดำรงชีพของเผ่าพันธุ์ต่างดาวจึงยากขึ้น
พวกเขาต้องทำงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เฒ่าโม้ จากเผ่าพันธุ์กุย ที่ทำงานในฐานะสกินเนอร์หรือเเผ่าพันธุ์มายาซึ่งโดยทั่วไปมักทำงานเป็นมือสังหาร
ตอนนี้เผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาดนี้
ทหารทุกคนของพวกมันต่างเป็นสายพันธุ์ที่มีพลังทางกายภาพ อาศัยพลังที่โหดร้ายในการสู้รบและต่อสู้อย่างสัตว์
นั่นเป็นเหตุผลที่ฮั่นหลางเรียกพวกมันว่า ออร์ค
สไตล์การต่อสู้ของ ออร์ค
เป็นเรื่องง่าย แต่กล้าหาญ พวกมันไม่ได้พูดอะไร และพวกมันลุกขึ้นยืนและเริ่มโจมตีฮั่นหลางด้วยความรุนแรงในทันที
หลังจากที่อีกคนถูกฆ่า อีกคนก็ยืนขึ้นเพื่อต่อสู้กับฮั่นหลางและมันก็เหมือนจะวนแบบนี้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
อ๊ากก ~
คนนี้ก็เหมือนกับออร์คที่ผ่านมา
ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเสียงคำรามและพุ่งกำปั้นไปที่ฮั่นหลาง
ฮั่นหลางแอบร้องไห้อยู่ข้างใน
ในหมู่ทุกประเภทของเอสเปอร์ เอสเปอร์ที่เกี่ยวข้องกับความความแข็งแกร่งนั้นจะเป็นประเภทที่ฮั่นหลางต้องการที่จะหลีกเลี่ยงมากที่สุด
เขตแดนสิ้นสลายของฮั่นหลางไม่สามารถทำอะไรกับกล้ามเนื้อขนาดใหญ่เหล่านั้นได้
ฮั่นหลางสามารถลากคนที่สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าลงมาที่พื้นได้
เขาสามารถจัดการกับคนที่มีพลังพิเศษเกี่ยวกับน้ำให้จมน้ำตายได้ และเขาสามารถจัดการกับเหล่าเอสเปอร์ที่มีพลังไม่ว่าจะ
สายฟ้า ไฟและน้ำแข็ง โดยการริบพลังพิเศษเหล่านั้น ผลักพวกเขาทั้งหมดให้เข้าสู่สถานะที่ไร้ค่า!
แต่สำหรับฝ่ายตรงข้ามที่มีความแข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน ฮั่นหลางจะสามารถทำอะไรได้?
ชูววว ~
กำปั้นของนักรบออร์ค ก็เหมือนกับค้อนเหล็กขนาดใหญ่และกระแทกลงไปที่ศีรษะของฮั่นหลาง
กำปั้นพุ่งไปทางเขา เสียงของพลังหมัดดังออกมาราวกับฟ้าร้อง!
ฮั่นหลางไม่สามารถมองเห็นจุดจบของสงครามเหล่านี้ได้
และเริ่มสงสัยว่าการต่อสู้ประเภทนี้จะใช้เวลาทั้งเจ็ดวันเจ็ดคืนหรือไม่
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วฮั่นหลางก็คงรู้สึกมึน
ฮั่นหลางจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่เข้มแข็ง แต่กับคู่ต่อสู้ธรรมดาแต่มีจำนวนมากเหล่านี้
เขาไม่สามารถใช้จุดแข็งของเขาได้อย่างเต็มที่
ตาของฮั่นหลางยึดติดกับกำปั้นของข้าศึกไว้แน่น
ร่างกายของเขาเอียงไปทางซ้าย
หลังจากช่วงเวลาแห่งการต่อสู้เป็นเวลานาน
ฮั่นหลางได้เรียนรู้ที่จะคาดการณ์ทิศทางการโจมตีของศัตรูและเรียนรู้ที่จะลดปริมาณพลังงานที่ใช้ไปในการฆ่าแต่ละครั้ง
ศัตรูมีจำนวนมากและฮั่นหลางไม่ทราบว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะดำเนินต่อไปนานแค่ไหน
ดังนั้นการประหยัดยาและพลังงานกลายเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุดสำหรับตอนนี้
การโจมตีและการตอบโต้ของฮั่นหลางจึงเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เขาเพียงแค่หันร่างของเขาลงไปด้านข้างเพื่อหลบกำปั้น และร่างกายของเขาที่ขนานไปกับพื้นดิน
ก่อนที่จะกลับมาในจุดเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ กำปั้นขวาของเขาเริ่มรวบรวมพลังแห่งความมืด
เมื่อฮั่นหลางไปถึงด้านหลัง และชกไปตรงตำแหน่งหัวใจของออร์คจากด้านหลัง!
บูมมม!
หมัดมืด!
พลังแห่งความมืดทะลุร่างกายของฝ่ายตรงข้ามตรงจากด้านหลังทำให้หัวใจของเขาบดขยี้!
ไร้ซึ่งคำถาม มันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการโจมตี
ฮั่นหลางไม่ได้ใช้ท่าทางพิเศษหรือกินพลังงานเพิ่ม ฮั่นหลางใช้การต่อยหนึ่งครั้งเพื่อตีจุดที่สำคัญที่สุด
และหนึ่งหมัดก็เพียงพอที่จะคร่าชีวิตของฝ่ายตรงข้าม!
โดยไม่รู้ว่า เทคนิคการฆ่าของฮั่นหลางกำลังพัฒนาขึ้นในอัตราที่บ้าคลั่ง
กำปั้นมืดของฮั่นหลางมีพลัง
แต่ในอดีตฮั่นหลางมักจะใช้กำลังเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าการชกหนึ่งครั้งสามารถทำให้ศัตรูแตกเป็นชิ้นๆและระเบิดขึ้นและลอยออกไปเหมือนบอลลูน!
แต่ตอนนี้เขาต้องการที่จะประหยัดพลัง
ฮั่นหลางไม่สามารถใช้กำลังเต็มที่ได้อีกต่อไป
แต่จำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดและฆ่าโดยใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดและเร็วที่สุด
"พวกเจ้าหมดแล้วหรือยัง?! ดี เข้ามา! ข้าจะฆ่าเจ้าไม่ช้าก็เร็ว!" ฮั่นหลางตะโกนออกไป เขากำลังพยายามให้กำลังใจตัวเอง
ถึงกระนั้น มันก็ยังเป็นการต่อสู้สิบแปดชั่วโมงโดยที่ไม่หยุด
ฮั่นหลางจำไม่ได้ว่าเขาจัดการไปแล้วกี่คน เมื่อเปรียบเทียบความเครียดที่เขาต้องอดทนจากการทดสอบแรงกดดันแล้วกับการทดสอบครั้งนี้มันห่างชั้นกันจนไม่เห็นฝุ่น
วิธีการที่อารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ใช้ในการฝึกทหารของพวกเขาเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากกว่ามนุษย์เป็นอย่างมาก
ชูววว ~
เมื่อฮั่นหลางตะโกนประโยคนั้นออกมา
และคิดว่าการสู้รบจะเกิดขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด สภาพแวดล้อมก็หายไปอย่างกะทันหัน
เหล่าออร์คที่น่าเกลียด ก็หายไป รอบๆภายในหอคอยลอยฟ้ากลับมามืดอีกครั้ง
หน้าจอสว่างขึ้น
"สังหารหนึ่งพันคน
เสร็จสมบูรณ์"
"เวลาที่ใช้ 18
ชั่วโมง 4 นาที 5 วินาที"
"การประเมิน: เครื่องจักรสังหาร
ระดับเริ่มต้น..."
ฮั่นหลางอ่านคำในหน้าจอนั้น
ดูเหมือนว่าเขาฆ่าคนไปมากโดยไม่รู้ตัว? พันคน ใช้เวลาสังหารไป
18 ชั่วโมงและ 4 นาที ดังนั้นโดยเฉลี่ยหนึ่งนาทีต่อการฆ่าหนึ่งคน?!
เครื่องจักรสังหาร ระดับเริ่มต้น?
ฮั่นหลางไม่ชอบชื่อที่เขาได้รับ
ชูววว ~
ทันใดนั้นหน้าจอก็กระพริบอีกครั้งและข้อความที่สองก็โผล่ขึ้นมา
และมันทำให้ฮั่นหลางเกือบจะร้องไห้!
"หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมงแล้วให้เริ่มต้นการทดสอบเครื่องจักรสังหารระดับกลาง
เป้าหมายฆ่า 10,000 คน!"
ในที่สุดฮั่นหลางก็ตระหนักได้ว่าหอคอยลอยฟ้าระดับที่
7 นี้เป็นสถานที่ที่ฝึกเครื่องจักรสังหาร!
เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการฆ่าหนึ่งพันเป้าหมาย
และตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 10,000 เป้าหมาย?!
ขอบคุณครับ
ตอบลบ1,000 ใน 18 ชั่วโมง รอบหน้าเจอ 10,000!!!!
ตอบลบวางยา, วางกับดักเลยครับเพ่ ไม่งั้นไม่รอดชัวร์
โห.... มันนัคเคิล ใส่มือไหม พลังหมดกันพอดี
ตอบลบ