เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

GDN 078 เรื่องฉุกเฉินและคนที่กลับมาจากทางไกล


ที่ตั้งอาณาจักรสาบสูญ A-19 นั้นมีชื่อว่าระบบมิราเคิลสตาร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่สถานที่จัดชุมนุมทางช้างเผือก

หนึ่งสัปดาห์ต่อมาฮั่นหลางและแพนยูลินได้มาถึงขอบของระบบมิราเคิลสตาร์ สังเกตจากหน้าต่างดาดฟ้า ดวงดาวมีวงแหวนสีเหลืองขุ่นล้อมรอบ เรือหลายขนาดที่มีขนาดแตกต่างกันมาจากทุกมุมของทางช้างเผือก และพวกเขากำลังได้รับคำแนะนำในการเข้าสู่ระบบ

อย่างไรก็ตามทางช้างเผือกมีดาวเคราะห์มนุษย์มากกว่า 13,000 ดาวเคราะห์ พวกเขาทั้งหมดมารวมกันที่นี่เพื่อการประชุม เรือเหาะขนาดใหญ่ หรือเล็กมากกว่าแสนลำได้มาที่นี่ บนขอบของดวงดาวมีกองเรือรบมากขึ้นเรื่อยๆ

อาณาจักรสาบสูญ A-19 ตั้งอยู่บนดาวเคราะห์ดวงที่ 3 ของระบบ และดาวเคราะห์ดวงที่ 4 คือที่ซึ่งผู้แทนจากทุกดาวเคราะห์จะเข้าร่วมการประชุม ฮั่นหลางจำเป็นต้องขึ้นบกครั้งแรกบนดาวเคราะห์ดวงที่ 4 และรอจนกว่าจะมีการเปิดใช้งานการสำรวจอาณาจักรโบราณ และจากนั้นเขาจะมุ่งหน้าไปยังดาวเคราะห์ดวงที่ 3

เรือเหาะเหยี่ยวเวหาประสบความสำเร็จในการร่อนลงจอด ฮั่นหลางและแพนยูลินเดินทางไปยังโรงแรมที่สงวนไว้ให้สหพันธ์โลกซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตสีเทาอยู่ที่ชานเมือง

จากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของผู้เข้าร่วมการชุมนุนในแต่ละดาวเคราะห์ จะถูกลดหย่อนตามลำดับความสำคัญกันไป คุณอาจที่จะสามารถมองเห็นที่พักของ 12 สมาชิกถาวรเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในดาวเคราะห์ดวงที่ 4 หรือสร้างคฤหาสน์สุดหรูชั่วคราวเพื่อรองรับ

แต่สำหรับโลกและดาวเคราะห์ผู้สังเกตการณ์รายอื่นๆในกลุ่มพันธมิตรทางช้างเผือก จะอาศัยอยู่ในโรงแรมสามัญราคาประหยัดในเขตชานเมือง

ฮั่นหลางได้เฝ้าสังเกตผู้แทนบางส่วนจากดาวเคราะห์อื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในโรงแรมของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดต่างมีสีหน้ากังวล ในทางช้างเผือกมีกฎป่าที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจะใช้หลังจากที่เสร็จสิ้นการชุมนุมทางช้างเผือก ดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่อ่อนแอมักจะถูกยึดครองโดยดาวเคราะห์ที่มีอำนาจอื่นๆหรือถูกจัดตั้งเป็นอาณานิคม สถานการณ์ของพวกเขาไม่ได้ดีไปกว่าสหพันธ์โลก

ฮั่นหลางไม่ค่อยพิถีพิถันในเรื่องของสภาพแวดล้อมนัก หลังจากนั่งลงในโรงแรมราคาถูก เขายังคุยกับต้นกำเนิดไร้จุดหมาย เกี่ยวกับอาณาจักรสาบสูญ หรือเทคนิคการต่อสู้ขณะที่แพนยูลินก็ไม่ได้พัก เมื่อสักครู่เขาได้พาทีมของเขาไปเยี่ยมบางดาวเคราะห์ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโลก เพื่อพยายามหาแรงสนับสนุน

มันเป็นคืนที่เงียบสงัด ในไม่ช้าเวลาเช้าได้มาเยือน ฮั่นหลางมีพลังงานต้นกำเนิดเพื่อปกป้องร่างกายของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องนอนมาก เขาออกจากโรงแรมไปก่อนช่วงเวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้น ก่อนอื่นเขาต้องการตรวจสอบการทำงานของสังคมที่มาจากต่างดาวเคราะห์และประการที่สอง เขาได้สัญญาไว้กับอี่เว่ยเว่ย เพื่อไปหาเธอ หลังจากที่เขามาถึงที่นี่

ในล็อบบี้ ฮั่นหลางได้พบกับทีมงานของแพนยูลินขณะที่เดินทางกลับมา พวกเขาเดินออกไปเมื่อวานนี้ช่วงบ่ายและออกไปทุกคืน ในตอนนี้พวกเขาดูเหนื่อยจริงๆ ดวงตาหมองคล้ำและอารมณ์หดหู่

เมื่อได้เห็นฮั่นหลาง แพนยูลินพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อรวบรวมพลังและพยายามสนทนาแบบสบายๆกับเขา เมื่อรู้ว่าฮั่นหลางต้องการไปดูรอบๆเมืองแพนยูลินไม่ได้พูดอะไรออกมา

หลังจากที่แพนยูลิน ขึ้นไปบนลิฟต์ ฮั่นหลางจึงคว้าแขน โรดส์ ซึ่งเป็นเลขานุการของแพนยูลิน เอาไว้และถามออกไปว่า "สถานการณ์เป็นอย่างไร?"

โรดส์มองไปรอบๆ และเมื่อไม่เห็นใคร จากนั้นเขาก็ถอนหายใจและกระซิบออกมาว่า "แย่มาก ตลอดทั้งคืนเราได้ไปเยือนคณะผู้แทนไม่กี่แห่งที่ค่อนข้างคุ้นเคยกับโลก แต่ทั้งสองปฏิเสธอย่างดี หรือไม่ก็ตอบปฏิเสธพวกเราอย่างสุภาพ แต่สาธารณรัฐไอบีเรียที่มีความสัมพันธ์ที่ดีงามกับเราในอดีต แทบจะเตะเราออกมา"

"มีข่าวลือว่าจักรวรรดิแซลลี่ได้ติดสินบนดาวเคราะห์สมาชิกถาวร สาธารณรัฐแก็งส์ และหลังจากเริ่มการชุมนุมทางช้างเผือก สาธารณรัฐแก็งส์ก็จะสนับสนุนแนวคิดของจักรวรรดิแซลลี่ในการตั้งรกรากบนโลกอย่างเต็มที่ ด้วยอำนาจของพวกเรา พวกเราแทบจะไม่มีอำนาจใดๆที่จะจัดการกับจักรวรรดิแซลลี่ได้ ไม่ต้องพูดถึงถ้าเรามีสาธารณรัฐแก็งส์เป็นฝ่ายตรงข้าม"

จริงๆแล้วฮั่นหลางก็รู้มานานแล้วว่าสหพันธ์โลกจะต้องเผชิญกับปัญหาที่ไม่คาดคิดในชุมนุมทางช้างเผือก แม้กระทั่งหนึ่งใน 12 สมาชิกถาวร สาธารณรัฐแก็งส์จะสนับสนุนจักรวรรดิแซลลี่ ซึ่งยังคงทำให้ฮั่นหลางแปลกใจเล็กน้อย สาธารณรัฐแก็งส์มีอำนาจมากพอที่จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพันธมิตร

เมื่อโรดส์มองเห็นความกังวลของฮั่นหลาง เขายังคงพยายามยิ้มและพูดออกมาเล่นๆว่า "คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการเมือง เราได้เตรียมที่จะหลอกพวกเขาว่าเป็นหลานชายและขอร้องให้ปู่ย่าช่วย"

นายกแพนยูลินไม่ยอมแพ้ง่ายๆเช่นกัน ถ้าคนเหล่านี้ไม่ช่วยเรา เราก็ยังสามารถไปหาคนอื่นได้ ในระยะนี้คุณเพียงแค่ต้องดูแลการแข่งขันและไม่ให้สิ่งอื่นๆมารบกวนคุณ การเมืองมันมืดมนมากและปัญญาอ่อน"

ฮั่นหลางพยักหน้าและกล่าวคำอำลากับโรดส์ จากนั้นเขาก็ขึ้นรถแท็กซี่ไปในเมือง

ระบบมิราเคิลสตาร์เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐแมงซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกถาวรของพันธมิตรทางช้างเผือก ในความเป็นจริง อาณาจักรสาบสูญระดับ A ทั้งหมด 38 แห่ง อยู่ในมือของพันธมิตร เกือบทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมของสมาชิกถาวรเช่น สาธารณรัฐแก็งส์ และ สาธารณรัฐแมง และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงเป็นยักษ์ใหญ่ในทางช้างเผือก

สำหรับมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในทางช้างเผือก การปรากฏตัวของอาณาจักรสาบสูญในระดับสูงมีความหมายพิเศษ อาณาจักรสาบสูญระดับสูงเหล่านี้มีผลประโยชน์มหาศาล ถ้าคุณพบพิมพ์เขียวของเรือรบจากอาณาจักรสาบสูญที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์ มันจะทำเงินได้มากแค่ไหน? หากคุณพบอุปกรณ์เทพสงคราม จำนวนเงินที่คุณจะได้รับนั้นมากเท่าไหร่? หากคุณได้รับหนังสือพันธุศาสตร์ที่สามารถเพิ่มระดับของทหารทั้งหมดในดาวเคราะห์ได้ มูลค่าของพวกมันนั้นมีค่ามากเท่าไหร่?

ในแง่ที่เรียบง่ายอาณาจักรสาบสูญจากอารยธรรมก่อนประวัติศาสตร์คือวิทยาศาสตร์ ความแข็งแกร่ง และที่สำคัญที่สุดคือเงิน!

สมาชิกถาวร 12 ดาวเคราะห์ของกลุ่มพันธมิตรทางช้างเผือก แต่ละสมาชิกจะควบคุมอาณาจักรสาบสูญรดับ A อย่างน้อย 3 แห่ง และ กลุ่มดาวเคราะห์ที่เป็นสมาชิกไม่ถาวรจำนวน 128 รายได้ควบคุมอาณาจักรสาบสูญระดับ B อย่างน้อย 3 แห่ง จักรวรรดิแซลลี่ต้องการที่จะตั้งรกรากบนโลกเพราะอาณาจักรสาบสูญระดับ B ด้วยอาณาจักรสาบสูญและผลงานที่สร้างขึ้น จักรวรรดิแซลลี่ก็น่าจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นสมาชิกที่ไม่ถาวรของพันธมิตรทางช้างเผือก

เนื่องจากระบบมิราเคิลสตาร์เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐแมง ดังนั้นระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมถึงระดับความมั่งคั่งนั้นหาตัวจับได้ยากหากเทียบกับโลก แม้แต่รถแท็กซี่ที่ฮั่นหลางขึ้นมาก็เป็นแบบขับเคลื่อนกึ่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มันไม่ได้มีล้อและรถก็ลอยเหนือพื้นราวครึ่งเมตร ส่งเสียงรบกวนหรือการสั่นสะเทือนเมื่อขับรถน้อยมาก

เมืองที่ฮั่นหลางอยู่ในขณะนี้มีประชากรราวๆ 12 พันล้านคน ดังนั้นผู้คนนับล้านจากทั่วกาแลคซีได้มาอาศัยอยู่ที่นี่ในช่วงระยะเวลาของการชุมนุมจึงมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อเมืองนี้ หากเมื่อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก็จะพบสวนที่สร้างขึ้นบนท้องฟ้า ตึกระฟ้าที่ทะยานผ่านเมฆ ระบบขนส่งสาธารณะที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและอื่นๆอีกมากมายที่ยังคงรักษาการดำเนินงานของเมืองใหญ่ขนาดนี้เอาไว้

หลังจากฮั่นหลางได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของทีมตัวแทนของโลกเขาไม่ได้มีอารมณ์ไปเที่ยวรอบเมืองอีกต่อไปดังนั้นเขาจึงให้แท็กซี่พาเขาไปหาอี่เว่ยเว่ยโดยตรง

ไม่ใช่ว่าฮั่นหลางกำลังหมดหวังกับความงามของอี่เว่ยเว่ย แต่เขาสัญญาว่าจะมากับเธอหนึ่งวัน และผู้ชายก็ต้องรักษาคำพูดของตัวเอง

สถานที่ที่อี่เว่ยเว่ยอยู่นั้นเป็นอีกด้านหนึ่งของเมืองและอยู่ในเขตชานเมืองรถแท็กซี่พาฮั่นหลางผ่านเมืองและเขาวางพาดหัวของเขาบนหน้าต่างรถ ไม่มีกะจิตกะใจที่จะคิดใดๆตลอดเส้นทาง

เมื่อรถแท็กซี่หยุดลงฮั่นหลางก็พบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับพระราชวังที่มีกุญแจล็อคโลหะผสมสีดำ มีธงใบเมเปิ้ลสีแดงขนาดใหญ่อยู่ด้านบน เมื่อมองผ่านประตูเขาสามารถมองเห็นถนนสายหลักที่ปูด้วยหินอ่อนสีขาวและป่าโดยรอบ

"ครอบครัวของอี่เว่ยเว่ยรวยมาก" ฮั่นหลางคิดอย่างเงียบๆ

เขากำลังจะกดกริ่งประตู ในทันทีทันใดประตูเปิดออกและมีกลุ่มทหารที่กำลังตื่นเต้นได้ปรากฏตัว พวกเขาทั้งหมดแต่งตัวได้ดีและตาของพวกเขาเปล่งประกายขึ้นหลังจากที่ได้เห็นฮั่นหลาง

"คุณฮั่นหลาง เชิญเข้ามาข้างใน!" ทหารที่มีผิวดำร่างใหญ่ รีบกล่าวเชื้อเชิญในทันที

ฮั่นหลางขมวดคิ้วเล็กน้อย และเขาสงสัยว่าคนเหล่านี้รู้จักเขาได้อย่างไรมันอาจเป็นไปได้ว่าอี่เว่ยเว่ยแจ้งให้ทราบล่วงหน้า?

ฮั่นหลางพยักหน้า เดินเข้าไปข้างใน ภายใต้การเฝ้ามองของทุกคน เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความไม่สบายใจ

"ดูสิ เขาคือฮั่นหลาง!"

"โอ้ นี่คงเป็นฮั่นหลาง!"

"หล่อมาก และเจ้าสามารถบอกได้ว่าเขามีพรสวรรค์!"

"เป็นคนมีคุณธรรมและมีพรสวรรค์!"

"เขาดูเหมือนจะผอมไปหน่อย ว่าไหม"

ชูววว ~

เพื่อนร่วมงานทุกคนหันมองไปทหารที่บ่นว่าฮั่นหลางผอมไปหน่อย เขารีบหดหัวกลับด้วยความหวาดกลัว

สถานการณ์นี้ล้วนแปลกมาก จู่ๆคนจำนวนมากก็ออกมา มีคนทุกประเภทตั้งแต่ยามไปจนถึงป้าที่กวาดพื้น พวกเขาทั้งหมดกำลังมองมาที่ฮั่นหลางและยังคงแอบพึมพำกับคนอื่นๆ ฮั่นหลางรู้สึกเหมือนเป็นลิงในสวนสัตว์...

......

บริเวณรอบนอกของทางช้างเผือก ส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้

มือสังหาร ผู้ลอบสังหารระดับสูงที่พ่ายแพ้ ในที่สุดก็ได้ออกจากช่องทางการลำเลียงมิติ

เรือสำราญสำหรับการเดินทางระดับสูง ได้รับการออกแบบสำหรับการสำรวจกาแลคซีที่ห่างไกล มันถูกติดตั้งโครงสร้างที่ทนทานโดยใช้โลหะน้ำหนักเบา สี่ชุดของเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ระบบไฮเบอร์เนชั่น ระบบการปลูกผัก ระบบเรดาร์คอยติดตามที่ซับซ้อนและชุดของอุปกรณ์ระดับสูงสุดที่ออกแบบมาสำหรับการสำรวจทางไกล

ในขณะนี้เรือที่มีราคาแพงมากนี้ ดูจะเป็นที่น่าอับอายเล็กน้อย อุปกรณ์ป้องกันพลังงานเสียหาย แม้แต่หุ้มเกราะก็ถูกเปิดออกโดยการโจมตีบางส่วน และโครงสร้างของชั้นป้องกันชั้นสุดท้ายของเรือรบก็ถูกเปิดออกมาหลายแห่ง

โดยไม่ต้องสงสัยเรือลำนี้ได้รับเสียหายอย่างหนัก และมันก็แทบจะไม่สามารถหลบหนีด้วยลมหายใจครั้งสุดท้ายได้ หลังจากการเดินทางที่ยาวนานท่ามกลางอันตรายที่ไม่อาจจินตนาการได้ เรือเริ่มพังไปบางส่วน

ในห้องนักบิน มีเพียงชายชราคนหนึ่งที่มีเครายาว เขาไม่ได้โกนหนวด และไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเวลานานและเริ่มมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ส่งออกมา

ฟู่ ~

ชายชราคนหนึ่งฉีดสารสีแดงเข้าตัวเอง และดวงตาของเขาเร่าร้อนที่เต็มไปด้วยชีวิตใหม่พร้อมกับมองไปรอบๆห้องนักบินที่มีเครื่องหมายใบเมเปิลสีแดงจำนวนมาก ดูเหมือนจะเป็นรูปเดียวกับสัญลักษณ์ที่ด้านหน้าบ้านของอี่เว่ยเว่ย

ชายชรายืนขึ้นและกดปุ่มไม่หยุดนิ่งเพื่อตั้งปลายทางเที่ยวบินถัดไป จากนั้นเขาก็เริ่มเหนื่อยและนอนไปบนเก้าอี้

วิ้งงง ~

ชายชราหายใจเข้าอย่างแรงก่อนที่เขาจะดึงภาพโฮโลแกรมออกจากกระเป๋า มันเป็นภาพของสาวสวย เธอดูสวยมากในชุดหนังสีดำพร้อมด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก ไม่ใช่ว่า อี่เว่ยเว่ย?

อี่เว่ยเว่ย ในรูปนั้นเป็นรูปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนที่เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ และตอนนี้เธอเป็นสาววัยรุ่นที่เพิ่งค้นพบความรัก

ใบหน้าเย็นชาของชายชราก็ค่อยๆอ่อนลง หลังจากที่ได้เห็นอี่เว่ยเว่ย จากนั้นดวงตาของเขากลับมาสู่ความพยายามอีกครั้ง

"ข้าไม่สามารถตายที่นี่ได้"


"ข้าต้องกลับไปก่อนที่จะเริ่มชุมนุมทางช้างเผือก มิฉะนั้นมันจะสายเกินไป!" ชายชราคนนั้นยังคงพูดพึมพำ

2 ความคิดเห็น: