เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2561

ZX 71 การอ่านมากนั่นคือประโยชน์


“ เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใคร?”

ผู้อาวุโสหวู เพียงแค่กวาดสายตาอย่างรวดเร็วไปที่เปลวไฟในมือของหยางเฉิน แต่เขาไม่ได้สนใจกับคำถามของหยางเฉินมากนัก เขากลับรู้สึกสนใจที่จะค้นหาคำตอบว่า หยางเฉินรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาบ้าง เขาไม่เคยเผยใบหน้าของเขาต่อหน้านักบ่มเพาะที่มาฝึกที่หลุมดักเซียน แม้กระทั่งตอนที่เขาฆ่าเผิงฮุ่ย ซึ่งเขาก็กระทำการอย่างลับๆ โดยหามีผู้ใดล่วงรู้

“ หญ้าฟ้าครามชั้นสูงนี้เป็นส่วนผสมหลักในการปรุงยาเม็ดคว้าสวรรค์ มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะใช้มันได้คือท่านผู้อาวุโสหวู”
มีเพียงหยางเฉินเท่านั้น ที่หาได้กังวลอะไรมาก ขณะที่เขาพิจารณาเหตุผลในการอธิบายของเขาอย่างช้าๆ

"ความรู้และประสบการณ์ของเจ้าช่างไม่ธรรมดา!"
ผู้อาวุโสหวูพยักหน้าเบา ๆและเอ่ยชมยกย่องเขา แต่เขาก็ยังคงค่อนข้างงุนงง เพียงผู้เยาว์ระดับรวบรวมลมปราณก็น่าประหลาดใจที่รู้ถึงส่วนผสมของยาเม็ดคว้าสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้

“เจ้าเด็กซื่อบื้อคนนี้ จดจำข้อมูลทั้งหมดของหอลี้ลับแห่งตำหนักเก้าปฐพี พระราชวังหยางบริสุทธิ์ ไว้ในหัวหมดแล้ว”
คำพูดของ หยางเฉิน ได้ขจัดความสงสัยในจิตใจของผู้อาวุโสหวู  เจ้าเด็กที่ได้เรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วใน หอลี้ลับสำหรับเขาที่รู้เรื่อง หญ้าฟ้าครามและยาเม็ดคว้าสวรรค์นั้น หาใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ถึงแม้ว่าท่วงท่าในการควบคุมไฟของหยางเฉิน จะพิเศษและเขายังได้ดูดซับเปลวไฟที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างเปลวไฟแก่นพิภพ แต่ผู้อาวุโสหวูยังคงไม่มั่นใจแม้แต่น้อย เขาหยิบเศษของหญ้าฟ้าครามขึ้นมา แล้วชี้ให้หยางเฉินเห็นเพื่อปรับแต่งจุดนั้น

หยางเฉิน ยังคงสงบและใจเย็น ตอนที่เขาเห็นหญ้าฟ้าครามลอยอยู่ ทันใดนั้นเปลวเพลิงก็ลุกขึ้นทันที ราวกับว่ามันห่อหุ้มหญ้าฟ้าครามไว้ภายใน มันค่อยๆลอยเข้าไปหาเขา และถูกวางลงสู่มือของหยางเฉิน เปลวเพลิงสีแดงเข้มที่ล้อมรอบหญ้าฟ้าคราม เริ่มที่จะสัมผัสมันและอีกไม่นานมันกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับหญ้าฟ้าคราม

หญ้าฟ้าครามเริ่มค่อยๆเปลี่ยนเป็นผงและทันทีหลังจากนั้น มันกลายเป็นของเหลว ภายใต้การควบคุมเปลวเพลิงของหยางเฉิน มันยังคงเปลี่ยนรูปร่างไม่หยุดหย่อน ในช่วงเวลาหนึ่งมันกลายเป็นรูปเครื่องประดับ หลังจากนั้นครู่หนึ่งมันกลายเป็นหม้อน้ำสีเขียว สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดก็คือหญ้าฟ้าครามนั้นคงสีเขียวแกมน้ำเงินไว้ได้ตั้งแต่ต้นโดยหาได้มีแม้แต่การเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

แต่ทั้งหมดนี้หาได้สำคัญอะไร หยางเฉินจำได้อย่างชัดเจนว่าผู้อาวุโสหวู ขอร้องให้ปรับแต่งและกลั่นสกัดให้บริสุทธิ์ แม้ว่าการกลั่นสกัดไม่ได้เป็นปัญหา แต่ขั้นตอนการทำให้บริสุทธิ์ยังคงมีปัญหาหลงเหลืออยู่

ภายใต้การเผาไหม้ของเปลวไฟแก่นพิภพทีละเล็กทีละน้อย ร่องรอยของสิ่งสกปรกหลายสีเริ่มไหลออกจากของเหลวสีเขียว ปรากฏแสงภายในและติดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว สิ่งสกปรกหลากสีเหล่านี้เริ่มค่อยๆลดน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อน้ำสีขาวเริ่มซึมออก หยางเฉินก็รู้ว่ามีหญ้าชนิดอื่นผสมอยู่ในหญ้าฟ้าครามนี้ ซึ่งยังถือว่าเป็นสิ่งเจือปนไม่บริสุทธิ์

หลังจากผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน สิ่งสกปรกก็หยุดไหลออกมาจากน้ำสีเขียว หยางเฉินควบคุมเปลวเพลิง แล้วเปลี่ยนมันเป็นวงแหวนถ้วยเพลิง ซึ่งเขาเคยถือของเหลวสีเขียวและใส่มันลงไปต่อหน้า ผู้อาวุโสหวู

ของเหลวสีเขียวในเปลวเพลิงดูเหมือนจะเป็นของเหลวโปร่งใส แต่สีเขียวที่เห็นนั้นคือทำให้รู้สึกมีความสุขเมื่อมองไปที่มัน แม้ว่าจะเป็นของเหลว ความหนืดของมันยังไม่เพิ่มขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยเมื่อถูกความร้อน ผู้อาวุโสหวูค่อยๆเอื้อมมือออกมาและวางมันลงในของเหลว ส่วนที่เขาสัมผัสถูกควบแน่นทันทีที่ปลายนิ้ว และทิ้งถ้วยเพลิงไว้ในมือของหยางเฉิน ทันทีที่เขาดึงนิ้วขึ้น
หยางเฉินเอาถ้วยเพลิงออก และรอการพิจารณาของผู้อาวุโสหวูอย่างใจเย็น ผู้อาวุโสหวูขยับนิ้วของเขามาอยู่ตรงหน้าดวงตาทั้งสองข้าง และใช้ญาณของเขาเพ่งตรงทะลุไปที่หญ้าฟ้าคราม

ทั้งก้อนเป็นสีฟ้าอมเขียว เกือบไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ อวบและน่าหลงใหล สามารถมองเห็นได้จากปลายข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง มันโปร่งใสและมีสีเขียวแกมน้ำเงินกระจายอยู่ในนั้น ทันทีที่เขาถือไว้ในมือ เขารู้สึกได้ถึงความรู้สึกอ่อนโยน เมื่อเทียบในตอนที่หยางเฉินได้รับลักษณะของหญ้าฟ้าครามดีขึ้นกว่าอย่างน้อยสิบเท่า

"เจ้าเป็นคนแรกในระดับรวบรวมลมปราณ ที่ข้าเห็นว่าทำได้ด้วยมือเปล่านี้!”

ผู้อาวุโสหวู ไม่ได้ตระหนี่คำชมเชยเมื่อยกย่องหยางเฉิน คนที่อยู่ตรงหน้าของเขามียาเม็ดที่ดีที่สุด มีพรสวรรค์ที่สุดในหมู่คนทุกคนที่เขาเคยพบ แต่เขาก็อยู่เพียงระดับรวบรวมลมปราณเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถประสบความสำเร็จที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นก็ไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะการควบคุมไฟมันเป็นเพียงขอบเขตของความสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ใช่เพราะระดับการบ่มเพาะของเขาถูกจำกัดไว้ แม้แต่ผู้อาวุโสหวูก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

"ผู้อาวุโสหวู ยกย่องข้าเกินไป!"
หยางเฉินแสดงความถ่อมตนอย่างสง่างาม มองไปที่ดวงตาของผู้อาวุโสหวูเขาก็ถอนหายใจอีกครั้ง
"ข้าต้องการที่จะกลั่นสกัดยาคว้าสวรรค์ ซึ่งข้าต้องการความช่วยเหลือจากนักปรุงยาระดับสูงคนอื่นๆน้องชาย เจ้าสนใจไหม"

ผู้อาวุโสหวูตรวจสอบแล้วว่ายาของหยางเฉิน มีการผสมผสานทักษะจึงชักชวนเขาทันที
"นี่เป็นสิ่งที่ข้าต้องการ!"

หยางเฉินตกลงพร้อมกับรอยยิ้มที่เหยียดออกทั่วทั้งใบหน้า ได้รับเชิญจากผู้เชี่ยวชาญระดับออกผล เพื่อทำงานร่วมกัน ทิ้งประโยชน์ที่เขาจะได้รับในภายหลังเพียงเพื่อให้สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการปรุงของ ยายึดสวรรค์ ช่างโชคดีนักเพราะนี่เป็นโอกาสดีที่จะได้รับ ถ้าเขาไม่คว้าโอกาสนี้เขาจะไม่เป็นคนโง่หรือ?

นอกจากนั้น หยางเฉิน ต้องการสร้างภาพตัวเองให้เป็นนักปรุงยาระดับสูง ถ้าเขาอ้างเรื่องนี้กับผู้อาวุโสหวูที่จะสร้างมัน นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ซึ่งไม่มีใครกล้าที่จะสงสัยได้ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับออกผล ก็ขอความช่วยเหลือจากหยางเฉิน นั่นไม่ชัดเจนที่จะแสดงถึงจุดของเขาหรือ?
การกลั่นสกัดยาคว้าสวรรค์ คล้ายกับยาเม็ดลมปราณ มันจำเป็นต้องผสมส่วนผสมและหลอมมันเข้าด้วยความประณีต นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า 'คว้าสวรรค์' หากได้รับการสกัดอย่างแท้จริงความแตกต่างไม่มากเมื่อเทียบกับอาวุธเวทหายากอันดับแรก แน่นอนมันไม่จำเป็นต้องมีส่วนผสมระดับสูง แต่กระบวนการกลั่นสกัดถูกแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอนทุกขั้นตอนเป็นพันหรือหมื่นครั้งซับซ้อนกว่าการปรุงยาเม็ดพื้นฐาน
นี่อาจเป็นยาระดับที่สูงที่สุดในโลกมนุษย์ แม้กระทั่งกับประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของ หยางเฉิน ในฐานะเซียนอมตะทองคำ เขาไม่เคยมีส่วนร่วมในกระบวนการ เขาไม่เคยแม้แต่จะเห็นการกลั่นสกัดยาคว้าสวรรค์ อาจกล่าวได้ว่าตราบใดที่เขาสามารถปรับสูตรยาคว้าสวรรค์ ได้สำเร็จเขาก็สามารถเปรียบเทียบกับนักปรุงยาระดับสูงยาเม็ดระดับสี่ได้
เมื่อหยางเฉินและผู้อาวุโสหวูเดินออกจากที่พักของหยางเฉิน ความโกลาหลก็บังเกิดในทันที หยางเฉินไม่ได้ออกจากที่พักมานานแล้ว เมื่อคนต้องการให้หยางเฉินปรุงยาให้กับพวกเขา พวกเขาจะต้องมาหาหยางเฉินและทำให้เขาพอใจ สถานการณ์เช่นนี้ที่เขาจะออกไปหลังจากเสร็จสิ้นการร้องขอของคนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าของผู้อาวุโสหวู ก่อนหน้านี้ พวกเขาทั้งหมดกำลังมองหาเขา อย่างรวดเร็วมันดูราวกับว่า ตราบใดที่หยางเฉินต้องการ พวกเขาพร้อมที่จะปะทะ ทันที
ผู้อาวุโสหวู แทบจะไม่ใส่ใจกับมัน เขายกมือขึ้นและทันทีที่ หยางเฉิน ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสว่างและภายในแสงทั้งสองบินออกจากหมู่บ้านหลีโลวโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ แต่กลุ่มคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังหมู่บ้านหลีโลวไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น มองไปที่แสงสว่างที่กำลังจางหายไป พวกเขามองหน้ากันด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
"เกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่นานมานี้? ท่านปรมาจารย์โดนใครพาตัวไป ได้อย่างไร
"เกิดอะไรขึ้น?"
ตามคาดเดา ในที่สุดผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่อยู่ที่นี่กล่าวด้วยเสียงริษยาอย่างไร้ที่เปรียบ:
"คนเมื่อไม่นานมานี้เป็น ผู้อาวุโสหวู แห่งสภาผู้อาวุโสทั้งห้า เขาได้พาปรมาจารย์หยางไป "
เมื่อกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องได้ยินคำพูดของเขาไม่มีใครสงสัย ทุกคนเริ่มคาดเดาได้หลังจากนี้ ทำไมผู้อาวุโสหวูพาหยางเฉินไป
ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสหวูไม่ต้องการสร้างปัญหาให้กับหยางเฉิน ดังนั้นจึงอาจสันนิษฐานได้ว่าเขาจะไม่เป็นอันตรายต่อหยางเฉิน นอกจากนี้ถ้าเขาอยากจะลงโทษหยางเฉิน สำหรับบางสิ่งบางอย่าง เขาเพียงแค่ใช้ความพยายามเล็กน้อยเพียงยกนิ้วของเขา ทำไมเขาถึงต้องจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเขาเอง?
จากท่าทีของหยางเฉินไม่มีความทุกข์ร้อน มีความเป็นไปได้สองประการ หนึ่งคือการที่เขาต้องการที่จะฝึกฝนให้หยางเฉิน อีกประการหนึ่งคือเขาต้องการอะไรบางอย่างจากหยางเฉิน มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับหยางเฉิน
ทุกคนรู้ทันทีว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญถึงได้ใช้โทนเสียงริษยาแบบนี้จนกระทั่งอธิบายให้พวกเขาฟัง พวกเขาก็เริ่มรู้สึกริษยาในใจ ถ้าผู้อาวุโสหวูให้ความสำคัญกับพวกเขาจะมีประโยชน์อันใด ที่พวกเขาจะไม่รับ?
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามทุกคนมีประสงค์ที่จะประจบประแจงหยางเฉิน และการที่ได้รู้จักสนิทสนมกับเขาเป็นอะไรที่ทำให้มีความสุขในขณะนี้ หลังจากที่พวกเขาได้เจอผู้อาวุโสหวู ยาเม็ดที่หยางเฉินกลั่นสกัดก็ราคาพุ่งสูงเฉียดฟ้าในทันที พวกเขาคิดว่าพวกเขาได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับหยางเฉิน ดังนั้นพวกเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งสนิทสนมกับหยางเฉินเท่าใดพวกเขาก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากเท่านั้น
ในขณะที่หยางเฉินไม่ได้รู้สึกใส่ใจอะไรกับเรื่องนี้ ในตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้มีส่วนร่วมในการกลั่นสกัดเม็ดยาคว้าสวรรค์ แม้ว่าเขาจะเป็นเซียนอมตะทองคำก่อนจะเกิดใหม่ แต่เขาก็ยังรู้สึกสนใจเป็นอย่างมากในยาเม็ดท้าทายสวรรค์ ไม่ต้องพูดถึงที่เขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสหวู ผู้ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งแม้กระทั่งในโลกแห่งจิตวิญญาณ
ด้วยความเร็วที่ผู้อาวุโสหวูพาหยางเฉินบินในขณะนี้น่าจะเป็นสมบัติวิเศษไม่ใช่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเขา หยางเฉินรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในหลุมดักเซียนแล้วในตอนนี้ พื้นด้านล่างที่พวกเขาบินอยู่ได้กลายเป็นผืนดิน การออกนอกอาณาเขตหลุมดักเซียนจะมีเขตอาคมอยู่ มิฉะนั้นด้วยความเร็วในขณะนี้มีโอกาสอยู่มากจะโดนโจมตีโดยสัตว์อสูรใต้พิภพหากอยู่ในหลุมดักเซียน
เมื่อมองไปที่ทิวทัศน์บนพื้นดินร่างกายของหยางเฉินก็สั่นเล็กน้อย เขามองไปที่ผู้อาวุโสหวูด้วยความสงสัยและถามเขาว่า
“ผู้อาวุโสหวู เราพร้อมที่จะหลุดพ้นจากความเป็นอมตะ เป็นไปได้หรือ?”
"ข้าได้เริ่มต้นการกลั่นสกัด ยาคว้าสวรรค์ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา!"
ผู้อาวุโสหวูรู้ได้ทันทีว่าหยางเฉินหมายถึงอะไรเมื่อพูดประโยคสุดท้าย เขาชื่นชมอย่างมากกับความเฉลียวฉลาดของหยางเฉิน
ระหว่างพวกเขาทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องมีความลับใดๆอีก การที่ผู้อาวุโสหวูต้องการกลั่นสกัดยาเม็ดคว้าสวรรค์เป็นเรื่องธรรมชาติที่เราจะต้องการก้าวขึ้นสู่โลกแห่งจิตวิญญาณ หยางเฉินรู้สึกตกใจในเรื่องนี้ที่ผู้อาวุโสหวูได้ทำข้อตกลงกับบรรดาผู้นำนิกายต่างๆทุกนิกายเขาไม่มีทางทิ้งหลุมดักเซียน ถ้าการขึ้นสู่สวรรค์ของเขาไม่ได้ใกล้เข้ามา การเดินทางออกมาของเขาได้อธิบายทุกอย่างไว้อย่างชัดเจน
แม้ว่าหยางเฉินไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับความเร็วในการบินของสมบัติวิเศษของอาวุโสหวู แต่นี่ก็เป็นสมบัติล้ำค่าประเภทอุปกรณ์บินชิ้นหนึ่ง ที่สามารถทำให้คนทั่วไปทุบตีเมื่อแย่งชิงได้ ภายในไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาได้เดินทางมาไกล ซึ่งปกติแล้วหยางเฉินต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองเดือน
ในขณะที่บินด้วยความเร็วสูง หยางเฉินไม่ได้วัดระยะทางดังนั้นเขาจึงค่อยๆเริ่มคิดถึงว่าถ้าตัวเองบินด้วยสมบัติวิเศษล้ำค่านี้ สมบัติวิเศษเวทนี้มีรูปร่างกลายเรือกระสวย และในขณะนี้หยางเฉืนอยู่บนเรือกับผู้อาวุโสหวู แต่โชคร้ายที่เรือลำนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก เพียงสองคนที่นั่งอยู่ก็เกือบจะไม่มีพื้นที่เหลือเลย โดยส่วนใหญ่พวกเขาสามารถใช้งานพอดีกับโต๊ะทำงานขนาดเล็กที่มีชาบางอย่างนั่นคือขีดจำกัดของมัน
"นี่คือเรือบินล้ำเลิศที่ได้รับจากการขัดเกลาจากชายชราคนนี้ เพื่อให้ได้ความเร็วที่มากขึ้น ข้าต้องเสียสละพื้นที่บางส่วนไป"
เท่าที่เขาเห็นหยางเฉินคร่ำครวญถึงพื้นที่ คำอธิบายนั้นก็ปรากฏชัดอยู่บนใบหน้าของผู้อาวุโสแล้ว เรือบินหลบหนีล้ำเลิศเป็นสมบัติล้ำค่าของอาวุโสหวูที่เขาภาคภูมิใจอย่างมาก มากไปกว่านั้น สมบัติวิเศษนี้ค่อนข้างเป็นที่ร้จักกันในโลกบ่มเพาะ ส่วนใหญ่เมื่อนักบ่มเพาะได้ยินชื่อของมันก็จะแสดงอาการอิจฉาตาร้อนและประหลาดใจบนใบหน้า แต่เขาคิดว่าหยางเฉินคงเป็นข้อยกเว้น
ผู้อาวุโสหวูรู้สึกประหลาดใจว่าการคาดเดาของเขาไกลจากความเป็นจริง เมื่อหยางเฉินกะขนาดของสมบัติวิเศษจากนั้นก็ค่อยๆพยักหน้าตอบ
"น่าสมเพช!"
ในชีวิตก่อนหน้าของเขา หยางเฉินได้พบเจอสมบัติวิเศษมาทุกชนิด เรือกระสวยหลบหนีล้ำเลิศนี้เป็นเพียงแค่ขยะระดับต่ำในสายตาของหยางเฉินเท่านั้น นั่นคือการประเมินของเขาที่มอบให้กับความสามารถของผู้อาวุโสหวู
ผู้อาวุโสหวูรู้สึกตกตะลึงในคำตอบของหยางเฉิน ถ้าหยางเฉินไม่เคยได้ยินชื่ออันยิ่งใหญ่ของเรือหลบหนีล้ำเลิศมันก็เป็นเรื่องที่โชคร้ายของหยางเฉิน นักบ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณเพียงคนหนึ่งเช่นหยางเฉินจะสามารถเข้าใจถึงบางสิ่งบางอย่างเช่นสมบัติวิเศษระดับสูงหรือ?
ผู้อาวุโสหวูไม่ได้เป็นนักบ่มเพาะทั่วไปดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีความคิดแบบคนทั่วๆไป ในการตัดสินประเมินนี้ แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของหยางเฉินจะต่ำมาก แต่เขาก็รู้ถึงยาเม็ดคว้าสวรรค์ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการควบคุมธาตุไฟของเขามีระดับที่สูงในความเรียบง่าย แม้เขาจะรู้จักนักบ่มเพาะหลายๆคนในหมู่ผู้คนไม่มีใครกล้าที่จะทิ้งการบ่มเพาะระดับของตนไปพัฒนาการควบคุมธาตุไฟเช่นหยางเฉิน เนื่องจากเขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการกลั่นสกัดยาแล้ว การประเมินของเขาเกี่ยวกับเรือหลบหนีล้ำเลิศก็เป็นเพียงการพูดจาส่งเดชเท่านั้น
"เจ้าพูดออกมาได้ยังไง?"
ผู้อาวุโสหวูถามออกมาด้วยน้ำเสียงต้องการคำแนะนำโดยไม่มีร่องรอยของการเยาะหยันหยางเฉินที่เป็นเพียงผู้เยาว์ที่มีระดับการบ่มเพาะระดับต่ำ
ในสายตาของผู้อาวุโสหวูได้ยกคุณค่าของหยางเฉินขึ้นอีกระดับหนึ่ง เขาได้พบเห็นคนมาจำนวนมากมายที่ดูถูกคนอ่อนแอเพราะความแข็งแกร่งของตัวเองสูงขึ้น ในชีวิตก่อนหน้าของหยางเฉินไม่เคยได้ติดต่อกับผู้อาวุโสหวู ดังนั้นเขาจึงไม่ทราบว่าผู้อาวุโสหวูเป็นคนอย่างไร สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับออกผลที่ก้าวขึ้นสู่โลกแห่งจิตวิญญาณไม่เพียงแต่มีความสุภาพต่อนักบ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณเท่านั้น แต่ยังถามความคิดเห็นของเขาโดยไม่ได้สนใจใบหน้าของตนเอง
"เมื่อท่านต้องการปรับแต่งสมบัติวิเศษนี้อีกครั้งให้ใช้เคล็ดวิชาเส้นทางเซียนปรับแต่งเพื่อหลอมรวมสมบัติวิเศษนี้กับเส้นทางเซียน"
หยางเฉินไม่มีความรู้สึกร่วมใดๆในความคิดนั้น จึงอธิบายอย่างใจเย็นว่าเขารู้อะไร
"แม้ว่าจะต้องใช้ทักษะเล็กน้อย แต่ในท้ายที่สุดก็จะสะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ในกระเป๋าจัดเก็บล่อสายตาคนโลภนี่ยังไม่ใช่ระดับสูงสุดของสมบัติล้ำค่า”
วิธีนี้ใช้กันโดยทั่วไปในโลกแห่งจิตวิญญาณ แต่ไม่มีใครอยากทำเล่นชั้นในโลกมนุษย์ ผู้อาวุโสหวูจะรู้เรื่องนี้ในเร็วๆนี้หลังจากที่ขึ้นไปอีกโลกหนึ่ง แต่ในโลกมนุษย์นั้นน้อยคนมากที่จะต้องการใช้ส่วนผสมและพลังเวทย์เพียงเพื่อปรับแต่งสมบัติวิเศษประเภทบิน คนจำนวนมากคิดว่ามันเป็นการกระทำที่สูญเปล่า
เช่นเดียวกับในตอนนี้ผู้อาวุโสหวูเหมือนตื่นจากความฝันได้พบกับทางสว่าง ในอดีตเมื่อเขาพบความยุ่งยากในการจัดการอาวุธเวทนี้เขาก็จะหลีกเลี่ยงทันที ดังนั้นมันช่วยไม่ได้ที่เขาไม่สมควรถูกยกย่อง
"ถูกต้อง! เรื่องง่ายๆแบบนี้ทำไมข้าถึงไม่คิดให้ได้เร็วกว่านี้? "
หลังจากจบคำพูดยกย่องแล้ว เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของหยางเฉินในทันทีด้วยรอยยิ้ม เขาถามด้วยความสงสัย:
"เจ้าเป็นนักเพาะปลูกระดับรวบรวมลมปราณ จริงๆหรือ?"
"เจ้าหนูคนนี้อ่านหนังสือเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้น"
หยางเฉินยื้มตอบกลับไป ในกรณ๊ใดๆ เขาได้บอกแล้วว่าเขาเรียนรู้ทุกอย่างในหอลี้ลับดังนั้นความคิดพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ผู้อาวุโสหวูพยักหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ภายในใจเขาได้วางแผนไว้แล้ว ระหว่างกลั่นสกัดเม็ดยาคว้าสวรรค์เขาจะใช้เวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้กับหยางเฉิน และเขาต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความรู้ทั้งหมดที่หยางเฉินได้เรียนรู้มา ปัจจุบันการบ่มเพาะไม่ได้มีคอขวดใดๆ สิ่งที่เขาต้องการคือเวลาและความเข้าใจอย่างฉับพลัน ก่อนหน้านี้เขามองเพียงสิ่งที่เกี่ยวกับการบ่มเพาะแต่เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่เพียงพอจ้องมองและจับมือของหยางเฉินไว้แน่น

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2561 เวลา 18:39

    ผู้สนับสนุนรายใหญ่เพิ่มอีกรายแล้ว

    ตอบลบ