เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

GDN 066 ความตายของลั่วอี้หวิน


หลังจากนิ่งอึ้งไปนาน หลงฉวนและหลี่อู่ก็ตั้งสติได้อีกครั้ง เมื่อเห็นกองเศษเหล็กที่ก่อนหน้านี้มันเคยเป็นเครื่องวัดค่าพลังกาย สีหน้าของพวกเขาสามารถออกมาด้วยความสนใจอย่างเห็นชัดเจน

ฮั่นหลาง เจ้าทำอะไร?” หลี่อู่เอ่ยถามออกมา

ฮั่นหลางกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ ผมบอกแล้ว ว่ามีเพียงเอสเปอร์สายพันธุ์กายภายเท่านั้นที่ใช้เครื่องนี้ แต่พวกคุณก็ยังคงยืนยันว่าให้ผมลองดู แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?”

หลี่อู่และหลงฉวนต่างมองหน้ากันเงียบๆ ให้ตายเถอะ เครื่องวัดค่าพลังกายถูกทำลายลงโดยฮั่นหลาง แต่ทำไมหมัดที่แลดูปวกเปียกของฮั่นหลางถึงทรงพลัง? พวกเขาก็ยังไม่รู้...

หลงฉวนหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกไปว่า  บางทีนี้อาจเป็นการโจมตีโดยธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของฮั่นหลาง มันทำให้ระบบวงจรภายในของตัวเครื่องเกิดระเบิดขึ้น สรุปได้ว่าหลังจากการทดสอบนี้อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าขณะนี้ฮั่นหลางไม่ได้มีเพียงแค่เขตแดนสิ้นสลายซึ่งสามารถช่วงชิงพลังพิเศษของศัตรูได้ นอกจากนี้เขายังพรั่งพร้อมไปด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่ออีกด้วย

หลี่อู่พยักหน้ากล่าวว่า สูญสิ้นถือเป็นพลังแห่งความมืด ฮั่นหลางตอนนี้เจ้าได้มีฉายาใหม่นอกจาก ฮันกระดูกแกร่ง ผู้คนยังเรียกเจ้าว่าปีศาจแห่งความมืดเพราะความโหดเหี้ยมไร้ความปราณีของเจ้าในสนามรบ

ในเวลานี้เรายังได้กวาดเอาสมบัติกลับมาจากเป็นจำนวนมาก กองเรือรบของเราได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 12 ลำ ทั้งเรายังได้ทำลายล้างเหล่าไรเดอร์และโจรสลัดไปถึง 13 กลุ่มและยึดทรัพย์สมบัติที่พวกมันปล้นมาได้เป็นจำนวนมากจากถ้ำที่ซ่อนของพวกมัน โดยการประเมินเบื้องต้น มูลค่าจากสมบัติที่ได้มาทั้งหมดนี้มีมูลค่ามากกว่า สองพันล้าน GC”

ดังนั้นเราทั้งสองและทาลินจึงได้พูดคุยกันเล็กน้อยและตัดสินใจที่จะรับสมัครเอสเปรอ์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมทั้งหมดจากสหพันธ์เข้ามาในกองทัพและอีกไม่นานโลกก็จะมีกองพลเอสเปอร์เป็น 10 กองพลและกองเรือรบที่ยอดเยี่ยมเพิ่มขึ้น

การขยายกองพลทหารจะต้องซื้อเสบียงและอุปกรณ์จำนวนมาก ดังนั้นเราจึงต้องการติดต่อกับเพื่อนผู้ลึกลับของเจ้า

ฮันหลาง พยักหน้าและกล่าวว่า การจัดซื้อไม่เป็นปัญหา โลกเป็นบ้านของผม การทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อบ้านของตนเอง มันเป็นหน้าที่ของคนภายในบ้านอยู่แล้ว แต่คุณรู้...

หลี่อู่ยิ้มและเอ่ยขัดจังหวะฮั่นหลางว่า  ข้ารู้ ข้ารู้  อุปกรณ์และยาที่เจ้าได้รับมาถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่เป็นที่ยอมรับ แต่มันใกล้จะถึงเวลาจัดงานชุมนุมแห่งทางช้างเผือกแล้ว เราไม่สามารถจะสนใจในเรื่องนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นเพียงแค่มั่นใจและซื้อทุกอย่างที่เจ้ารู้สึกว่าเหมาะสมตราบเท่าที่มันยังสามารถใช้งานได้ นอกเหนือจากอุปกรณ์และยา เราจำเป็นต้องแบ่งบางส่วนไปซ่อมเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติกจำเป็นต้องซ่อมแซมส่วนที่เสียหายร้ายแรง แต่คราวนี้เราจะใช้วิศวกรของเราเอง มันไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดงบประมาณแต่เรายังได้ฝึกกลศาสตร์ด้วย

ทั้งสามเดินและพูดคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับการทหารและอนาคตของโลก ปัจจุบันทหารระดับสูงของโลก ได้ยอมรับโดยไม่มีใครโต้แย้งว่า ฮั่นหลางเป็นชายหนุ่มผู้มีอัจฉริยะภาพสูง ซึ่งน่าจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหนึ่งในพวกเขาในอนาคต ด้วยเหตุนี้หลงฉวนและหลี่อู่จึงบอกฮั่นหลางในสิ่งที่พวกเขารู้และไม่ได้พยายามปิดบังอะไร

ฮั่นหลางได้ถามถึงอาการเจ็บป่วยของหลงฉวน แม้ว่าเขาได้พยายามรักษาชีวิตของหลงฉวนไว้ แต่สภาพของเขาก็ไม่ดีขึ้นเลยและทำให้เขาต้องพึ่งพารถเข็น ฮั่นหลางลอบตัดสินใจว่าเขาจะเรียนรู้วิทยาการทางด้านยาเพิ่มเติมและดูว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือหลงฉวนได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามหลงฉวนนั้นเป็นดั่งจิตวิญญาณของทหารบนโลกไม่ว่าจะเป็นยุทธวิธีหรือการสู้รบ หากสูญเสียเขาไปมันจะเป็นการสูญเสียที่ร้ายแรงและน่าเศร้าสำหรับโลก

พวกเขาเพิ่งจะออกจากค่ายฝึกฝน ขณะนั้นเฉินจงที่แสดงท่าทางไม่พอใจและต้องการลากฮั่นหลางออกไปดื่มด้วยกัน 

เกิดอะไรขึ้น? ใครทำให้นายโกรธ?” ฮั่นหลางถามออกไปอย่างอยากรู้อยากเห็น 

อย่าไปพูดถึงมันเลย! ไม่ใช่ว่าเราได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่มาหรือไง? ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจใช้ประโยชน์จากแรงผลักดันนี้และทดลองดูว่าฉันจะสามารถผ่านการทดสอบแรงกดดันรอบสุดท้ายได้ไหม เพื่อที่ฉันจะได้รับหนึ่งที่นั่งในงานชุมนุมแห่งทางช้างเผือกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่ว่าให้ตายเถอะ! เมื่อฉันเข้าสู้สงครามทุกคนกลับมุ่งเป้ามาที่ฉัน! และใครบางคนยังตัดหัวของฉัน! แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการต่อสู้ในระบบเสมือนจริงและฉันก็ไม่ได้ตาย แต่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอาย! ฉันอับอายจนคิดอยากจะฆ่าตัวตาย!

ฮั่นหลางรู้สึกตกใจสับสนเล็กน้อยและถามว่า มันเป็นการทดสอบต่อสู้แบบไหน? ทำไมพวกเขาทั้งหมดถึงตั้งเป้าหมายไปที่นาย?”

ในครั้งนี้ มันเป็นการแข่งขันช่วงชิงเหรียญประทับ ทุกคนจะมีเหรียญห้อยอยู่บนหน้าอกของตนเองและนายต้องพยายามช่วงชิงเหรียญประทับของผู้อื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องตัวเองด้วย ยิ่งนายได้รับเหรีญมากเท่าไหร่คะแนนของนายก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ฉันได้หลบซ่อนตัวอยู่ในสถานที่บางแห่งและได้เห็นผู้คนกำลังต่อสู้กันอยู่ดังนั้นฉันจึงต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายด้านหน้านี้พยายามจะทำให้บางสิ่งเกิดขึ้น แต่พวกมันทุกคนนั้นดันหยุดต่อสู้กันในทันทีหลังจากที่พบเห็นฉันและมุ่งเป้ามาที่ฉันแทน!เฉินจงกล่าวออกมาด้วยความโกรธ

ฮั่นหลางรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นในทันที แต่ก่อนอื่นเขาพยายามเอ่ยปลอบเฉินจงไปว่า อย่าไปกังวลเลย นายอาจจะก้าวลงไปในหลุมพราง บางทีคนเหล่านี้อาจมาจากกลุ่มเดียวกันและพวกเขาก็แสร้งทำเป็นต่อสู้กันเพื่อเป็นเหยื่อล่อ ยังคงมีเวลาอีก 2 เดือนกว่าจะหมดกำหนดเวลาสำหรับการทดสอบนี้ เพียงแค่สงบใจลงและฝึกฝนนายยังมีโอกาสอยู่

ดีเฉินจงพยักหน้าที่มืดมนของเขาและพูดขึ้นว่า ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้น ฉันจะกลับไปกินจนกว่าจะหนักถึง 800 ปอนด์แล้วไปแข่งขันอีกครั้ง

ฮั่นหลางไม่ได้พูดอะไรต่อ สายลมในคืนนี้ที่นาคซานั้นรุนแรงขึ้นมาก พื้นทรายที่รกร้างว่างเปล่าถูกแรงลมโหมพัดขึ้นจนดูราวกับทรายนั้นกำลังเริงระบำอยู่
ไม่มีใครรู้ว่าจักรวรรดิ์แซลลี่ได้จัดเตรียมข่ายกับดักไว้ในการทดสอบแรงกดดันและปัญหาที่เกิดขึ้นกับเฉินจง มันเป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น

……

ลั่วอี้หวินเป็นทหารที่อายุน้อยที่สุดในค่ายฝึก เธออายุเพียง 16 ปีและมีลักษณะทั่วไปของสาวจีนภาคใต้ ผิวสวยตัวเล็กร่างบางๆ และมีรอยยิ้มน่ารักสดใส ตอนที่เธอหัวเราะจะเผยลักยิ้มออกมา เด็กหญิงตัวเล็กๆ มักจะชอบซ่อนตัวอยู่ในห้องและดูอนิเมะในขณะที่สวมชุดเจ้าหญิงสีชมพู

เมื่อพูดถึงลั่วอี้หวินและฮั่นหลาง พวกเขามีสิ่งที่ชอบร่วมกัน อย่างเช่นทั้งสองคนชอบช็อคโกแลตร้อนพวกเขาจึงมักจะพบเจอกันที่ส่วนเครื่องดื่มร้อนในโรงอาหารบ่อยๆ ฮั่นหลางสงสัยว่าเธอน่าจะมีน้ำหนักไม่ถึง 70 ปอนด์และเขาน่าจะยกเธอขึ้นได้เพียงใช้นิ้วแค่นิ้วเดียว

แม้จะรู้ว่า ลั่วอี้หวินเป็นเอสเปอร์อายุน้อยที่ครอบครองสายพันธุ์เสียงซึ่งค่อนข้างหายากและมีพรสวรรค์มากที่เดียว แต่ฮั่นหลางรู้สึกว่าคนที่ขี้อายอย่างลั่วอี้หวินไม่เหมาะที่จะเป็นทหาร

วันนี้เขาก็เดินเข้าไปในค่ายฝึกเช่นปกติและเห็นลั่วอี้หวินอีกครั้ง โดยปกติดวงตากลมโตที่ดูน่ารัก ในตอนนี้กลับปรากฏเป็นสีชมพูอย่างกับลูกพีชเนื่องจากการร้องไห้ เธอถือกระเป๋าสะพายไหล่ปกคลุมด้วยตุ๊กตาของเล่นและกำลังเดินออกมากับแอนบีเบ้

เมื่อเห็นฮั่นหลาง ลั่วอี้หวินขบริมฝีปากของเธอ พยายามที่จะไม่ร้องไห้ แต่น้ำตาก็ยังไหลหยดออกมาราวกับลูกปัดที่หลุดออกจาสายร้อย เธอก้มหน้าลงหลบตาฮั่นหลางและพูดขึ้นเสียงเบาว่า พี่ฮั่นหลาง ขอบคุณในการดูแลที่ผ่านมา ลาก่อน

ฮั่นหลางตั้งสติไม่ทัน เขางุนงงไปหลายวินาทีก่อนจะเอ่ยลาตอบ

เฉินจงเดินเข้าไปในห้องโถงตามหลังฮั่นหลาง และลั่วอี้หวินก็คำนับเขาพร้อมกับเอ่ยลาเสียงเบา

เกิดอะไรขึ้น?” ฮั่นหลางเอ่ยถามเฉินจงอย่างสับสน

เฮ้ออ ~

เฉินจงมีใบหน้าที่ขมขื่นถอนหายใจและพูดออกมาว่า สาวน้อยอี้หวิน ถูกกำจัดดังนั้นเธอจึงออกจากค่ายฝึกฝนเพื่อไปรายงานต่อศูนย์บริหาร ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะส่งสาวน้อยคนนี้ไปประจำการที่ไหน เธอทั้งขี้ขลาดและขี้อาย

ในขณะนั้น แอนบีเบ้กำลังปลอบขวัญลั่วอี้หวินอยู่ไม่ไกลจากประตู เธอหันกลับมาที่ห้องโถงและพูดกับฮั่นหลางว่า สาวน้อยอี้หวินเป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ ไม่เพียงแค่เธอถูกกำจัด ไอ้พวกคนเหล่านั้นยังได้อัพโหลดวิดีโอตอนตัดหัวของเธอลงบนอินเทอร์เน็ต เธออายุแค่ 16 ทั้งยังไม่บรรลุนิติภาวะ มันมากเกินกว่าที่เธอจะรับได้!

ฮั่นหลางรู้สึกตกใจและถามว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ?! เอามาให้ฉันดู

แอนบีเบ้พยักหน้าและพาฮั่นหลางไปที่จอของคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มเข้าสู่เว็บไซต์วิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในทางช้างเผือกและค้นหาวิดีโอ

ภายในคลิปมีกลุ่มเอสเปอร์จากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆกำลังห้อมล้อมลั่วอี้หวินตัวน้อย ในวีดีโอเห็นได้ชัดว่าสาวน้อยอี้หวินกำลังตกใจมาก สาวน้อยที่ถูกล้อมรอบไปด้วยชายฉกรรจ์ 7- 8 คน พวกเขาไม่เพียงเอาชนะสาวน้อยอี้หวินลงได้แต่ยังกล่าวดูถูกเธอด้วยคำพูดที่หยาบคาย

ฮั่นหลางกำหมัดแน่นขึ้น ไอ้พวกเวรนั่น!

สาวน้อยอี้หวินเปิดปากและระเบิดคลื่นเสียงดังสนั่นขึ้น เอสเปอร์สายพันธุ์เสียงทั้งหมดอาศัยการปลดปล่อยคลื่นความถี่ในการโจมตี เคยมีคนกล่าวไว้ว่าเมื่อไปถึงระดับหนึ่งแล้วเอสเปอร์สายพันธุ์เสียงสามารถปลดปล่อยคลื่นเสียงรบกวนที่สามารถคุกคามศัตรูได้ด้วยภาพลวงตา แม้ว่าจะไม่ใช่พลังที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังเป็นทักษะเฉพาะที่มีประโยชน์มาก

หนูน้อย เจ้ากล้าที่จะต่อต้านงั้นหรือ! มาดูว่าข้าจะสามารถฉีกปากเล็กๆของเจ้าได้ไหม!ชายร่างใหญ่ไม่คาดคิดว่าสาวน้อยอี้หวินจะโจมตีตอบโต้กลับมาอย่างรุนแรงจนทำให้พวกเขารู้สึกเวียนหัวมากจากคลื่นกระแทกหูของเขามีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา

เขาชกอย่างโกรธแค้นไปที่ใบหน้าของลั่วอี้หวินด้วยกำปั้นของเขา ลักยิ้มสดใสบนใบหน้าของสาวน้อยอี้หวินถูกทำให้ราบเรียบ แก้มเล็กๆสีชมพูของเธอบวมเป่งขึ้น และชายฉกรรจ์คนอื่นๆได้ติดตามมาก้าวเท้าขึ้นมาเหนือตัวของสาวน้อยอี้หวินและหัวเราะขึ้นเสียงดัง
ชั๊ว ~

นักรบที่แข็งแกร่งนำใบมีดคล้ายดวงดาว ชูขึ้นสูงไปในอากาศและแนบไว้ที่คอระหงของสาวน้อยอี้หวิน ขณะนี้เธออยู่ในสภาพที่สกปรกจากการถูกรุมทุบตี เธอไร้ซึ่งกำลังจะต่อต้านเธอทำได้เพียงมองไปยังท้องฟ้าที่ว่างเปล่าด้วยดวงตาไร้ซึ่งประกายความหวัง

ไป ตาย ซะ!

นักรบที่แข็งแกร่ง ตะโกนขึ้นและเหวี่ยงมีดคมในมือ

ฉับ!~

ฮั่นหลางไม่อาจทนได้อีกต่อไปกระแทกหมัดไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์และทำลายมันอย่างสมบูรณ์

นั่นมันไม่สมควรที่จะทำ!” แม้มันจะเป็นการต่อสู้ในระบบเสมือนจริง ฮั่นหลางรู้สึกโกรธ ความโกรธภายในกายของเขารุกไหม้ราวกับเพลิงที่โหมกระหน่ำ เธออายุเพียง 16 ปี เธอเป็นเพียงเด็กสาวตัวน้อยที่อ่อนแอ ไอ้เวรพวกนั้นเป็นสัตว์เดรัจฉานประเภทใดกัน?!

เฉินจงที่อยู่ด้านข้างก็โกรธเช่นกัน มันเป็นเรื่องบัดซบอะไรกัน มันเหมือนกับการแข่งขันชิงเหรียญประทับรอบแรกของฉัน ฉันก็ได้พบกับกลุ่มคนที่อยากจะเอาหัวของฉันราวกับว่าพวกเขามีข้อตกลงกันมาก่อนแล้ว

แอนบีเบ้ ก้มหน้าลงกัดฟันและพูดด้วยเสียงต่ำว่า นายรู้ไหมว่ามันโหดร้ายมากขนาดไหน? ถ้านายแพ้ในการแข่งขันชิงเหรียญประทับรอบแรกนายยังมีโอกาสแข่งขันได้อีกครั้ง แต่กับสาวน้อยอี้หวินนี้เป็นการแข่งขั้นครั้งที่สองแล้ว เธอถูกทรมานอย่างโหดร้ายถึงสองครั้ง

ชิ้ง ~

เปลวเพลิงแห่งความโกรธประทุขึ้นมาจากดวงตาของฮั่นหลางเขาหันกลับไปมองแอนบีเบ้

แอนบีเบ้กล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ หลังจากที่นายกลับมา นายก็สนใจเพียงแต่การฝึกฝนของตัวเองและไม่มีเวลามาพูดคุยกับทุกคน ภายในเดือนเดียวเหลือคนในค่ายฝึกอยู่เพียง 18 คน แม้แต่ปาร์กเกอร์ก็ยังถูกกำจัด นอกจากนี้เขายังถูกตัดหัวและลงวิดีโอออนไลน์ด้วยเหมือนกัน

ฮั่นหลางตกใจขึ้นมาในทันที ปาร์กเกอร์นั้นเป็นเอสเปอร์ระดับ 4 ดาว ในหมู่อัจฉริยะของค่ายฝึกฝน ฉายาของเขาคือ ปาร์กเกอร์ไอ้หนุ่มหัวรุนแรง แม้แต่เขาก็ยังถูกกำจัด? นั้นมัน...

แอนบีเบ้หยุดพูดชั่วคราวและกล่าวต่อไปว่า ตอนนี้โลกถูกมองว่าเป็นตัวตลกในการทดสอบแรงกดดันและยังมีคนทำเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเหยียดหยามและคลิปตัดหัวของ ลั่วอี้หวินและปาร์กเกอร์แล้วอีกหลายๆคน เว็บไซต์นี่ มีชื่อว่า ชุมนุมเชือดหมู


เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนจงใจฆ่าพวกเรา!แอนบีเบ้กระซิบบอก

1 ความคิดเห็น: