วันพรุ่งนี้เป็นวันปีใหม่ของปฏิทินโลก
ก่อนปีใหม่ทั้งหลี่อู่และกลุ่มคนสุดท้ายที่กำลังเคลื่อนย้ายออกจากฐานทัพใต้โดยเรือรบพร้อมเสบียง
และได้มุ่งเดินทางมาถึงที่รกร้างนาซคาทางตอนใต้ของเปรู สำนักงานใหญ่ของกองพันที่ 1
และอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นBที่ยังไม่ได้พัฒนา ทั้งหมดตั้งอยู่ในที่แห่งเดียวกัน
หากนั่งอยู่บนเครื่องบิน
เมื่อมองลงมา สิ่งแรกที่มองเห็นคือแนวยาวของฐานนาซคาที่รู้จักกันดี ซึ่งเป็นแนวที่ทอดยาวออกไปหลายกิโลเมตร
มันประกอบไปด้วยรูปแบบที่มีชีวิตชีวา มันถูกสลักอยู่เหนือทุ่งหญ้า ต้นกำเนิดของพวกมันยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
ในขณะที่เรือรบได้ข้ามรูปแบบที่น่าอัศจรรย์เหล่านั้นมา
ชั้นบรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน เมื่อเรือรบระหว่างดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้ปรากฏออกสู่สายตาของพวกเขา
นี่คือป้อมปราการอากาศยานระดับลาดตระเวนแอตแลนติกความยาวของมันครอบคลุมมากกว่า
1500 เมตร ความกว้างขยายไปเกือบ 400 เมตร สูง30 ชั้น บรรจุ 6
ปืนใหญ่หลักที่ด้านหน้าและด้านหลัง 18 ปืนใหญ่กำลังสำรอง อีก 4 ขีปนาวุธ สองตอร์ปิโดอวกาศที่เตรียมพร้อม
และสองเป้าหลอก และอื่นๆ ป้อมปราการระดับลาดตระเวนแอตแลนติกมีชุดของอาวุธหนักที่เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
เรือลาดตระเวนแอตแลนติกบรรทุกลูกเรือ800คน
เป็นเรือลาดตระเวนของรัฐบาลกลาง ระหว่างดาวเคราะห์ ภาระหน้าที่ของแอตแลนติกจึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลก
แม้ว่าเรือลาดตระเวนแอตแลนติกจะมีอาวุธที่น่าทึ่ง
แต่ก็มีเพียงแค่ลำเดียว มันไม่สามารถปกป้องทุกมุมโลกได้ เหล่าไรเดอร์เหล่านี้จึงได้ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้
โดยการเข้าโจมตีและหลบหนีก่อนที่เรือลาดตระเวนแอตแลนติกจะมาถึง
หลังจากข้ามเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติกแล้ว
พวกเขาก็เห็นกองบัญชาการกองพันที่ 1 ซึ่งเป็นประตูสู่อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB
อาคารทรงกลมสีขาวจำนวนมากล้อมรอบทางเข้าสู่อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB เอสเปอร์มากกว่า 10,000 คนกำลังเฝ้าระวังเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติก ดังนั้นหากมีเรือรบของไรเดอร์ที่วางแผนที่จะทำลายอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นBของโลกอีกครั้ง พวกเขาจะต้องตรวจสอบว่าพวกเขาจะสามารถทำได้หรือไม่
วันคริสต์มาสเพิ่งผ่านพ้นไป
มันเป็นช่วงเวลาของการส่งท้ายปีเก่า แต่ไม่มีแสงไฟที่มีสีสันหรือการฉลองที่ฐาน
พื้นที่ของเหล่าเฮอคิวลิสยังอยู่ท่ามกลางความสันโดษ อยู่ห่างเพียงไม่กี่ไมล์สนามบิน
ฮั่นหลางและหลี่อู่ขึ้นรถจี๊ปไปที่ฐาน
ระหว่างทางเขาเห็นทหารหลายคนวิ่งจ๊อกกิ้งในยามค่ำคืน บางคนถือหนังสือหนาและเรียนหนังสือใต้แสงไฟกลางแจ้งและสถานที่ฝึกอบรมก็ดูหนาแน่นเช่นกัน
รถจี๊ปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของฐาน
หลี่อู่มองไปรอบๆและพูดออกมาด้วยเสียงต่ำๆว่า "ปีหน้า จะมีการประชุมกาแลคซี ทุกคนในกองทัพต่างเริ่มประสาทหลอนมากขึ้น
ดังนั้นเมื่อหลงฉวนเสนอให้มีการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่มีใครตอบรับเขา นั่นคือความกดดันที่ทุกคนรู้สึกในตอนนี้"
"มากับปู่ ปู่จะพาเจ้าไปดูกลุ่มของคนหนุ่มที่เข้าร่วมในการสอบวัดแรงกดดัน"
ฐานนาซคามีอาคารทรงกลมที่แยกต่างหากไว้สำหรับกลุ่มที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่กำลังเข้าร่วมการประชุมกาแลคซี
พวกเขาถือว่าฮั่นหลางเป็นหนึ่งในนั้นดังนั้นหลี่อู่จึงพาเขาไปดูเพื่อนๆในอนาคตของเขา
"แผนกของเจ้าคือหน่วยขยายทีมพรสวรรค์ของสำนักงานใหญ่
แต่เดิมมีมอนสเตอร์น้อย 7 ตัวที่อายุต่ำกว่า 30 ปี แต่เข้าถึงระดับ 4 ดาว
ในตอนนี้เรามีมาเพิ่มอีก 42 เอสเปอร์ที่ถูกเลือกมาจากทั่วโลก
เพื่อเป็นความหวังในการเข้าร่วมปารประชุมกาแลคซี รวมทั้งหมด 49 คน"
"หัวหน้าของเจ้าคือหลงฉวน
เขาเป็นกัปตันเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติก เขายุ่งอยู่เสมอเจ้าอาจไม่ได้เจอเขาบ่อย
เพื่อนของเจ้า เฉิงจงก็มาที่นี่ด้วย"
ฮั่นหลางพยักหน้า เขาเคยได้ยินชื่อของหลงฉวนซึ่งเป็นอาจารย์1ใน3คนของคลาร์ก เทียบได้กับหลี่อู่ และทาลิน
ทั้งสามนี้มีส่วนทำให้โลกไม่ได้ตกเป็นอาณานิคมของดาวเคราะห์อื่น
ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดครอบครองตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลสหรัฐ
โดยหลี่อู่เป็นหัวหน้าของศูนย์บริหารอาณาจักรสาปสูญ ทาลินเป็นหัวหน้าสำนักงานใหญ่และหลงฉวนซึ่งครอบครองอำนาจทางทหารที่สำคัญที่สุดของโลกในมหาสมุทรแอตแลนติก
ในค่ายฝึกอบรมก็ไม่มีการเฉลิมฉลองเช่นกัน
ฮั่นหลางและหลี่อู่เดินตรงไปยังศูนย์ฝึกอบรม มีเพียงแต่ภูเขาไขมันเฉินจงกำลังฝึกกล้ามเนื้อขาของเขา
ในขณะที่ออกกำลังกายเขาก็ยังเคี้ยวเนื้อไม่หยุด
เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ฮั่นหลางเห็นเขาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
ในตอนนี้เฉินจงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขามีแก้มป่องและท้องใหญ่ที่เกือบจะติดกับสวรรค์
“ฮั่นหลาง!”
เฉิงจงเห็นฮั่นหลาง
ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งเข้ามาหา ในขณะที่มือยังถือถังเนื้อ เขาวิ่งขึ้นมาบนชั้นโลหะผสมของศูนย์ฝึกอบรม
ทำให้ทั้งชั้นสั่นสะเทือน
"น้องชาย ข้าคิดถึงนายมาก!"
เฉินจงตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดูรักใคร่เป็นอย่างมาก
ฮั่นหลางมองไปรอบๆ
"ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่ แล้วหลวงจีนละ?"
เฉินจง เบ้ปากของเขาและพูดว่า
"หลวงจีนไม่ผ่านการสอบวัดแรงกดดันและถุกปลด ตอนนี้เขาอยู่ในทีมโจมตี"
มีคนอื่นอีกหลายคนในห้องฝึกอบรม
และบุคลิกภาพแบบเปิดเผยของเฉินจง ก็แผลงฤทธิ์ออกมาอีกครั้ง เขาลากฮั่นหลางเข้าไปในห้องและแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก
หลี่อู่ยังคงมีงานอื่นๆรออยู่
เขาจึงออกไปก่อน เฉินจงกระตือรือร้นพาฮั่นหลางไปทัวร์รอบอาคาร รัฐบาลสหรัฐใช้เงินจำนวนมากในกลุ่มเยาวชนที่มีแนวโน้มนี้
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมกาแลคซี ศูนย์ฝึกอบรมมีรังไหมเสมือนสำหรับทุกคนและอุปกรณ์การฝึกอบรมทุกประเภท
เป็นเวลานานตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นเฉินจง
พวกเขาจึงคุยกันอย่างลืมตัวจนกระทั่ง ฮั่นหลางได้ยินเสียงที่เย็นชาดังมาเข้าหู
"เจ้าคือฮั่นหลาง?"
ฮั่นหลางหันกลับไปและเห็น
7 คนเดินเข้ามาในศูนย์ฝึกอบรม พวกเขาทั้งหมดยังดูหนุ่มสาวจริงๆ และความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างพวกเขาและคนอื่นๆก็คือพวกเขาแต่ละคนอยู่ในชุดรบที่มีคุณภาพที่ดีและติดป้ายเกียรติยศ
4 ดาวบนหน้าอกของพวกเขา
ฮั่นหลางรู้ว่าพวกเขาเป็นตำนานอัจฉริยะ
7 คนจากสำนักงานใหญ่ ความสามารถในการเข้าถึง 4 ดาวก่อนอายุ 30 ปี คนเหล่านี้ทุกคนมีศักยภาพที่ไร้ที่ติ
สำหรับฮั่นหลาง เฉินจงและคนอื่นๆพวกเขาที่อยู่ในแผนก ทุกคนล้วนเป็นเอสเปอร์ระดับ 3
ดาว
ดูเหมือนว่าเหล่าอัจฉริยะเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มคนที่ชอบสังคมนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มที่มีผมสีบลอนด์ สูงเพรียว ที่เดินนำกลุ่มออกมา แววตาของเขาดูเหมือนจะพยายามครอบงำควบคุมทุกคน
เขามีริมฝีปากที่ค่อนข้างบาง ในขณะที่ตะโกนเรียกชื่อฮั่นหลางอย่างเย็นชา
หากพูดเกี่ยวกับพวกเขาความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างฮั่นหลางกับอัจฉริยะ
7 คนนี้ ก็คือแรงดึงดูดที่แท้จริงของแต่ละบุคคล แม้ว่าระดับของเขาจะไม่สูงนัก แต่ฮั่นหลางก็ต่อสู้ในการต่อสู้ที่แท้จริง
เห็นเลือดและยังได้เห็นการสู้รบที่โหดร้ายและไร้ความปรานีในไลฟ์สดแห่งความตาย แม้ว่าฮั่นหลางจะอายุน้อยกว่า
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสงบมากกว่าอีกฝ่ายอยู่มาก
ฮั่นหลางยิ้มออกมาบางๆ ยื่นมือออกไปพร้อมที่จะจับมือ
"ฉัน ฮั่นหลาง ไม่ทราบว่าพี่ชายชื่ออะไร?"
เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ร่างสูงลังเลที่จะเอื้อมมือออกไป
อย่างไม่เต็มใจและยื่นมือออกไปนิดหน่อย "แปะมือ (high
five)" กับฝ่ามือของฮั่นหลางและขมวดคิ้ว "เจ้ามาสายมาก ในตอนนี้ทุกคนก็อยู่พร้อมกันแล้ว"
"เช่นที่เคยพูดไป ไม่มีกฎ
ไม่มีผล คืนนี้เราจะเลือกผู้บัญชาการกองพันและรองผู้บัญชาการกองพัน เพื่อให้เราสามารถมีเสียงและมีแกนนำในการทำกิจกรรมต่อไปได้"
ฮั่นหลางไม่ได้คัดค้านใดๆ
แต่เฉินจงถอยกลับไปยืนด้านข้างๆ
เฉินจงดูเหมือนจะโกรธพวกเขาเล็กน้อย
"คนเหล่านี้น่ารำคาญที่สุดเพียงเพราะพวกเขาอยู่ในระดับที่สูงกว่า พวกเขาไม่แสดงความเคารพต่อบรรดานักรบ3ดาวที่มาใหม่ พวกเขาไม่แม้แต่จะฝึกฝนกับเราและพวกเขาก็ทำตัวเหมือนอยู่คนเดียว"
หลังจากที่ได้พูดคุยกับเฉินจง
ฮั่นหลางรู้ว่าเด็กหนุ่มผมทองที่ชื่อว่า ซินเบิร์ก มาจากเยอรมัน อยู่ที่ระดับ 4
ดาวขั้นกลาง และในหมู่ 49 คนในค่ายฝึกเขาเป็นคนเดียวที่มาถึงระดับดังกล่าว
แน่นอนว่าในการต่อสู้ ระดับไม่ได้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง
ประสบการณ์ความกล้าหาญ ความแข็งแกร่งและอื่นๆต่างก็เป็นปัจจัยสำคัญทั้งหมด
ซินเบิร์กมีท่าทีที่เป็นผู้นำที่ดีมาก
เขารวบรวมทั้งหมด 49 คนเข้าห้องฝึกฝน และพูดด้วยเสียงต่ำๆว่า "ฉันขอแนะนำให้เราดำเนินการต่อสู้แบบจำลองเพื่อเลือกผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการ
หลังจากนั้นทุกคนต้องฟังการเตรียมการของผู้บัญชาและขยายแผนกนี้ให้เป็นทีมรบที่แข็งแกร่งที่สุดและโดยเร็วที่สุด"
"เราทุกคนเป็นอัจฉริยะของกองทัพทั้งหมดเห็นด้วยที่จะเลือกฉันเป็นผู้สมัครสำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการ
เจ้ามาสาย เจ้าสามารถเลือกผู้สมัครในตอนนี้"
ฮั่นหลางเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองเขาไม่ค่อยประทับใจกับการตัดสินใจของซินเบิร์ก
หลังจากที่ทุกคนอยู่ในค่ายฝึกเดียวกันและกำลังต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกันไม่จำเป็นต้องแยกแยะระหว่างสมาชิกที่มีประสบการณ์และผู้เข้าร่วมสาย
ซินเบิร์กสะบัดผมสีบลอนด์ของเขา
ก่อนที่จะสำรวจผู้ชมที่อยู่รอบๆและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า "ถ้าพวกเจ้าไม่มีความคิดเห็น
ฉันจะเป็นผู้บัญชาการและฉันจะแต่งตั้งแอนบีเบ้เป็นรองผู้บัญชาการ ซึ่งเป็นสมาชิกที่โดดเด่นมากในหมู่พวกเราสมาชิกเก่า
"
แอนบีเบ้เป็นสาวที่มีชีวิตชีวามาก
ดูเหมือนว่าจะมีอายุ20 ต้นๆ เธอมีผิวสีแทนพร้อมด้วยขาเรียว เมื่อซินเบิร์กกล่าวถึงเธอ
เธอยิ้มและโบกมือให้ทุกคน เห็นได้ชัดว่าเธอมีบุคลิกเปิดเผยและร่าเริง
"ฉันไม่เห็นด้วย!"
ในขณะที่การตัดสินใจเกือบจะตกลงกัน
เฉินจงก็ตะโกนออกมาว่า "ฉันคิดว่าฮั่นหลางมีคุณสมบัติที่ดีกว่าเจ้า ในการที่จะเป็นผู้บัญชาการกองพัน
ซึ่งมันแตกต่างจากพวกเราในตอนที่ เขาเคยต่อสู้กับศัตรูนับสิบคนเพื่อปกป้องอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นC ถ้าหากจะพูดถึงประสบการณ์การต่อสู้ ฮั่นหลางมีมากกว่าเจ้ามากกว่า 100
เท่า! ถ้าเป็นเจ้าที่ทำการต่อสู้เช่นฮั่นหลางในวันนั้น เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถปิดกั้นพวกเขาได้หรือไม่?"
เฉินจงจับมือของฮั่นหลางอย่างฉับพลัน
นั่นทำให้ฮั่นหลางอึ้งไปเล็กน้อย ในตอนนี้สีหน้าของซินเบิร์กดูไม่ค่อยดี เขามักคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะและคิดว่าเขาดีกว่าคนอื่นอยู่เสมอ
"ถ้าไม่พอใจ เจ้ากล้าที่จะต่อสู้?"
ซินเบิร์กกล่าวออกมาอย่างเย็นชา
"แน่นอน เจ้าคิดว่าเรากลัวเจ้าหรือ?!"
เฉินจงรีบตอบรับในทันที พร้อมทั้งม้วนแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแขนที่ใหญ่กว่าต้นขาของคนอื่น
ลองนึกถึงฉากในเกมที่เล่นๆ ไปซักพักแล้วจะเจอ NPC โผล่มาให้ภารกิจสิ นี่มันพี่เฉินชัดๆ
ตอบลบรอบที่แล้วก็ลากพระเอกเข้าสอบ ต่อมาก็ลากไปเปิดตัวสู้กับไรเดอร์ต่างโลกครั้งแรกอย่างกับ Event บังคับแน่ะ
คราวนี้ก็ได้ไฟว์กับเอสเอสเปอร์ 4 ดาวเพื่อชิงตำแหน่ง ผบ.
ี่แล้วก็รู้สึกว่าจะเป็น Event บังคับที่ปฏิเศษไม่ได้ซะด้วยสิฮะ!!!!!
ขอบคุณครับ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบผมว่าแอนบีเบ้ น่าจะชื่อ แอน เป่ยเป่ย มากกว่านะครับหลังจากไปดำอิ้งมา เพราะมันเขียน ann beibei อะครับ
ตอบลบอัน เป่ยเป้ยครับจริงๆ
ลบช่วงแรกของการแปล ผู้แปลไม่ได้เก่งเรื่องการออกเสียงจีน แปลเอาเร็ว นี่คือมือสมัครเล่นค่ะ และเรื่องนี้แปลจบไปนานละ ผู้แปลคงไม่กลับไปแก้ไขค่ะ นางแค่ตัวประกอบค่ะ
ลบ