เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560

GDN 049 ฐานนาซคา


วันพรุ่งนี้เป็นวันปีใหม่ของปฏิทินโลก ก่อนปีใหม่ทั้งหลี่อู่และกลุ่มคนสุดท้ายที่กำลังเคลื่อนย้ายออกจากฐานทัพใต้โดยเรือรบพร้อมเสบียง และได้มุ่งเดินทางมาถึงที่รกร้างนาซคาทางตอนใต้ของเปรู สำนักงานใหญ่ของกองพันที่ 1 และอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นBที่ยังไม่ได้พัฒนา ทั้งหมดตั้งอยู่ในที่แห่งเดียวกัน

หากนั่งอยู่บนเครื่องบิน เมื่อมองลงมา สิ่งแรกที่มองเห็นคือแนวยาวของฐานนาซคาที่รู้จักกันดี ซึ่งเป็นแนวที่ทอดยาวออกไปหลายกิโลเมตร มันประกอบไปด้วยรูปแบบที่มีชีวิตชีวา มันถูกสลักอยู่เหนือทุ่งหญ้า ต้นกำเนิดของพวกมันยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้

ในขณะที่เรือรบได้ข้ามรูปแบบที่น่าอัศจรรย์เหล่านั้นมา ชั้นบรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน เมื่อเรือรบระหว่างดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้ปรากฏออกสู่สายตาของพวกเขา

นี่คือป้อมปราการอากาศยานระดับลาดตระเวนแอตแลนติกความยาวของมันครอบคลุมมากกว่า 1500 เมตร ความกว้างขยายไปเกือบ 400 เมตร สูง30 ชั้น บรรจุ 6 ปืนใหญ่หลักที่ด้านหน้าและด้านหลัง 18 ปืนใหญ่กำลังสำรอง อีก 4 ขีปนาวุธ สองตอร์ปิโดอวกาศที่เตรียมพร้อม และสองเป้าหลอก และอื่นๆ ป้อมปราการระดับลาดตระเวนแอตแลนติกมีชุดของอาวุธหนักที่เตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี

เรือลาดตระเวนแอตแลนติกบรรทุกลูกเรือ800คน เป็นเรือลาดตระเวนของรัฐบาลกลาง ระหว่างดาวเคราะห์ ภาระหน้าที่ของแอตแลนติกจึงมีบทบาทสำคัญในการปกป้องโลก

แม้ว่าเรือลาดตระเวนแอตแลนติกจะมีอาวุธที่น่าทึ่ง แต่ก็มีเพียงแค่ลำเดียว มันไม่สามารถปกป้องทุกมุมโลกได้ เหล่าไรเดอร์เหล่านี้จึงได้ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้ โดยการเข้าโจมตีและหลบหนีก่อนที่เรือลาดตระเวนแอตแลนติกจะมาถึง

หลังจากข้ามเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติกแล้ว พวกเขาก็เห็นกองบัญชาการกองพันที่ 1 ซึ่งเป็นประตูสู่อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB

อาคารทรงกลมสีขาวจำนวนมากล้อมรอบทางเข้าสู่อาณาจักรสาปสูญระดับชั้นB เอสเปอร์มากกว่า 10,000 คนกำลังเฝ้าระวังเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติก ดังนั้นหากมีเรือรบของไรเดอร์ที่วางแผนที่จะทำลายอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นBของโลกอีกครั้ง พวกเขาจะต้องตรวจสอบว่าพวกเขาจะสามารถทำได้หรือไม่

วันคริสต์มาสเพิ่งผ่านพ้นไป มันเป็นช่วงเวลาของการส่งท้ายปีเก่า แต่ไม่มีแสงไฟที่มีสีสันหรือการฉลองที่ฐาน พื้นที่ของเหล่าเฮอคิวลิสยังอยู่ท่ามกลางความสันโดษ อยู่ห่างเพียงไม่กี่ไมล์สนามบิน

ฮั่นหลางและหลี่อู่ขึ้นรถจี๊ปไปที่ฐาน ระหว่างทางเขาเห็นทหารหลายคนวิ่งจ๊อกกิ้งในยามค่ำคืน บางคนถือหนังสือหนาและเรียนหนังสือใต้แสงไฟกลางแจ้งและสถานที่ฝึกอบรมก็ดูหนาแน่นเช่นกัน

รถจี๊ปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของฐาน หลี่อู่มองไปรอบๆและพูดออกมาด้วยเสียงต่ำๆว่า "ปีหน้า จะมีการประชุมกาแลคซี ทุกคนในกองทัพต่างเริ่มประสาทหลอนมากขึ้น ดังนั้นเมื่อหลงฉวนเสนอให้มีการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่มีใครตอบรับเขา นั่นคือความกดดันที่ทุกคนรู้สึกในตอนนี้"

"มากับปู่ ปู่จะพาเจ้าไปดูกลุ่มของคนหนุ่มที่เข้าร่วมในการสอบวัดแรงกดดัน"

ฐานนาซคามีอาคารทรงกลมที่แยกต่างหากไว้สำหรับกลุ่มที่มีพรสวรรค์มากที่สุดที่กำลังเข้าร่วมการประชุมกาแลคซี พวกเขาถือว่าฮั่นหลางเป็นหนึ่งในนั้นดังนั้นหลี่อู่จึงพาเขาไปดูเพื่อนๆในอนาคตของเขา

"แผนกของเจ้าคือหน่วยขยายทีมพรสวรรค์ของสำนักงานใหญ่ แต่เดิมมีมอนสเตอร์น้อย 7 ตัวที่อายุต่ำกว่า 30 ปี แต่เข้าถึงระดับ 4 ดาว ในตอนนี้เรามีมาเพิ่มอีก 42 เอสเปอร์ที่ถูกเลือกมาจากทั่วโลก เพื่อเป็นความหวังในการเข้าร่วมปารประชุมกาแลคซี รวมทั้งหมด 49 คน"

"หัวหน้าของเจ้าคือหลงฉวน เขาเป็นกัปตันเรือรบลาดตระเวนแอตแลนติก   เขายุ่งอยู่เสมอเจ้าอาจไม่ได้เจอเขาบ่อย เพื่อนของเจ้า เฉิงจงก็มาที่นี่ด้วย"

ฮั่นหลางพยักหน้า เขาเคยได้ยินชื่อของหลงฉวนซึ่งเป็นอาจารย์1ใน3คนของคลาร์ก เทียบได้กับหลี่อู่ และทาลิน ทั้งสามนี้มีส่วนทำให้โลกไม่ได้ตกเป็นอาณานิคมของดาวเคราะห์อื่น

ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดครอบครองตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลสหรัฐ โดยหลี่อู่เป็นหัวหน้าของศูนย์บริหารอาณาจักรสาปสูญ ทาลินเป็นหัวหน้าสำนักงานใหญ่และหลงฉวนซึ่งครอบครองอำนาจทางทหารที่สำคัญที่สุดของโลกในมหาสมุทรแอตแลนติก

ในค่ายฝึกอบรมก็ไม่มีการเฉลิมฉลองเช่นกัน ฮั่นหลางและหลี่อู่เดินตรงไปยังศูนย์ฝึกอบรม มีเพียงแต่ภูเขาไขมันเฉินจงกำลังฝึกกล้ามเนื้อขาของเขา ในขณะที่ออกกำลังกายเขาก็ยังเคี้ยวเนื้อไม่หยุด

เมื่อเทียบกับครั้งแรกที่ฮั่นหลางเห็นเขาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ในตอนนี้เฉินจงเปลี่ยนไปอย่างมาก เขามีแก้มป่องและท้องใหญ่ที่เกือบจะติดกับสวรรค์

ฮั่นหลาง!

เฉิงจงเห็นฮั่นหลาง ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งเข้ามาหา ในขณะที่มือยังถือถังเนื้อ เขาวิ่งขึ้นมาบนชั้นโลหะผสมของศูนย์ฝึกอบรม ทำให้ทั้งชั้นสั่นสะเทือน

"น้องชาย ข้าคิดถึงนายมาก!" เฉินจงตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดูรักใคร่เป็นอย่างมาก

ฮั่นหลางมองไปรอบๆ "ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่ แล้วหลวงจีนละ?"

เฉินจง เบ้ปากของเขาและพูดว่า "หลวงจีนไม่ผ่านการสอบวัดแรงกดดันและถุกปลด ตอนนี้เขาอยู่ในทีมโจมตี"

มีคนอื่นอีกหลายคนในห้องฝึกอบรม และบุคลิกภาพแบบเปิดเผยของเฉินจง ก็แผลงฤทธิ์ออกมาอีกครั้ง เขาลากฮั่นหลางเข้าไปในห้องและแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก

หลี่อู่ยังคงมีงานอื่นๆรออยู่ เขาจึงออกไปก่อน เฉินจงกระตือรือร้นพาฮั่นหลางไปทัวร์รอบอาคาร รัฐบาลสหรัฐใช้เงินจำนวนมากในกลุ่มเยาวชนที่มีแนวโน้มนี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมกาแลคซี ศูนย์ฝึกอบรมมีรังไหมเสมือนสำหรับทุกคนและอุปกรณ์การฝึกอบรมทุกประเภท

เป็นเวลานานตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นเฉินจง พวกเขาจึงคุยกันอย่างลืมตัวจนกระทั่ง ฮั่นหลางได้ยินเสียงที่เย็นชาดังมาเข้าหู

"เจ้าคือฮั่นหลาง?"

ฮั่นหลางหันกลับไปและเห็น 7 คนเดินเข้ามาในศูนย์ฝึกอบรม พวกเขาทั้งหมดยังดูหนุ่มสาวจริงๆ และความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างพวกเขาและคนอื่นๆก็คือพวกเขาแต่ละคนอยู่ในชุดรบที่มีคุณภาพที่ดีและติดป้ายเกียรติยศ 4 ดาวบนหน้าอกของพวกเขา

ฮั่นหลางรู้ว่าพวกเขาเป็นตำนานอัจฉริยะ 7 คนจากสำนักงานใหญ่ ความสามารถในการเข้าถึง 4 ดาวก่อนอายุ 30 ปี คนเหล่านี้ทุกคนมีศักยภาพที่ไร้ที่ติ สำหรับฮั่นหลาง เฉินจงและคนอื่นๆพวกเขาที่อยู่ในแผนก ทุกคนล้วนเป็นเอสเปอร์ระดับ 3 ดาว

ดูเหมือนว่าเหล่าอัจฉริยะเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มคนที่ชอบสังคมนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มที่มีผมสีบลอนด์ สูงเพรียว ที่เดินนำกลุ่มออกมา แววตาของเขาดูเหมือนจะพยายามครอบงำควบคุมทุกคน เขามีริมฝีปากที่ค่อนข้างบาง ในขณะที่ตะโกนเรียกชื่อฮั่นหลางอย่างเย็นชา

หากพูดเกี่ยวกับพวกเขาความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างฮั่นหลางกับอัจฉริยะ 7 คนนี้ ก็คือแรงดึงดูดที่แท้จริงของแต่ละบุคคล แม้ว่าระดับของเขาจะไม่สูงนัก แต่ฮั่นหลางก็ต่อสู้ในการต่อสู้ที่แท้จริง เห็นเลือดและยังได้เห็นการสู้รบที่โหดร้ายและไร้ความปรานีในไลฟ์สดแห่งความตาย แม้ว่าฮั่นหลางจะอายุน้อยกว่า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสงบมากกว่าอีกฝ่ายอยู่มาก

ฮั่นหลางยิ้มออกมาบางๆ ยื่นมือออกไปพร้อมที่จะจับมือ "ฉัน ฮั่นหลาง ไม่ทราบว่าพี่ชายชื่ออะไร?"

เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ร่างสูงลังเลที่จะเอื้อมมือออกไป อย่างไม่เต็มใจและยื่นมือออกไปนิดหน่อย "แปะมือ (high five)" กับฝ่ามือของฮั่นหลางและขมวดคิ้ว "เจ้ามาสายมาก ในตอนนี้ทุกคนก็อยู่พร้อมกันแล้ว"

"เช่นที่เคยพูดไป ไม่มีกฎ ไม่มีผล คืนนี้เราจะเลือกผู้บัญชาการกองพันและรองผู้บัญชาการกองพัน เพื่อให้เราสามารถมีเสียงและมีแกนนำในการทำกิจกรรมต่อไปได้"

ฮั่นหลางไม่ได้คัดค้านใดๆ แต่เฉินจงถอยกลับไปยืนด้านข้างๆ

เฉินจงดูเหมือนจะโกรธพวกเขาเล็กน้อย "คนเหล่านี้น่ารำคาญที่สุดเพียงเพราะพวกเขาอยู่ในระดับที่สูงกว่า พวกเขาไม่แสดงความเคารพต่อบรรดานักรบ3ดาวที่มาใหม่ พวกเขาไม่แม้แต่จะฝึกฝนกับเราและพวกเขาก็ทำตัวเหมือนอยู่คนเดียว"

หลังจากที่ได้พูดคุยกับเฉินจง ฮั่นหลางรู้ว่าเด็กหนุ่มผมทองที่ชื่อว่า ซินเบิร์ก มาจากเยอรมัน อยู่ที่ระดับ 4 ดาวขั้นกลาง และในหมู่ 49 คนในค่ายฝึกเขาเป็นคนเดียวที่มาถึงระดับดังกล่าว

แน่นอนว่าในการต่อสู้ ระดับไม่ได้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ประสบการณ์ความกล้าหาญ ความแข็งแกร่งและอื่นๆต่างก็เป็นปัจจัยสำคัญทั้งหมด

ซินเบิร์กมีท่าทีที่เป็นผู้นำที่ดีมาก เขารวบรวมทั้งหมด 49 คนเข้าห้องฝึกฝน และพูดด้วยเสียงต่ำๆว่า "ฉันขอแนะนำให้เราดำเนินการต่อสู้แบบจำลองเพื่อเลือกผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการ หลังจากนั้นทุกคนต้องฟังการเตรียมการของผู้บัญชาและขยายแผนกนี้ให้เป็นทีมรบที่แข็งแกร่งที่สุดและโดยเร็วที่สุด"

"เราทุกคนเป็นอัจฉริยะของกองทัพทั้งหมดเห็นด้วยที่จะเลือกฉันเป็นผู้สมัครสำหรับตำแหน่งผู้บัญชาการ เจ้ามาสาย เจ้าสามารถเลือกผู้สมัครในตอนนี้"

ฮั่นหลางเริ่มรู้สึกขุ่นเคืองเขาไม่ค่อยประทับใจกับการตัดสินใจของซินเบิร์ก หลังจากที่ทุกคนอยู่ในค่ายฝึกเดียวกันและกำลังต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียวกันไม่จำเป็นต้องแยกแยะระหว่างสมาชิกที่มีประสบการณ์และผู้เข้าร่วมสาย

ซินเบิร์กสะบัดผมสีบลอนด์ของเขา ก่อนที่จะสำรวจผู้ชมที่อยู่รอบๆและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า "ถ้าพวกเจ้าไม่มีความคิดเห็น ฉันจะเป็นผู้บัญชาการและฉันจะแต่งตั้งแอนบีเบ้เป็นรองผู้บัญชาการ ซึ่งเป็นสมาชิกที่โดดเด่นมากในหมู่พวกเราสมาชิกเก่า "

แอนบีเบ้เป็นสาวที่มีชีวิตชีวามาก ดูเหมือนว่าจะมีอายุ20 ต้นๆ เธอมีผิวสีแทนพร้อมด้วยขาเรียว เมื่อซินเบิร์กกล่าวถึงเธอ เธอยิ้มและโบกมือให้ทุกคน เห็นได้ชัดว่าเธอมีบุคลิกเปิดเผยและร่าเริง

"ฉันไม่เห็นด้วย!"

ในขณะที่การตัดสินใจเกือบจะตกลงกัน เฉินจงก็ตะโกนออกมาว่า "ฉันคิดว่าฮั่นหลางมีคุณสมบัติที่ดีกว่าเจ้า ในการที่จะเป็นผู้บัญชาการกองพัน ซึ่งมันแตกต่างจากพวกเราในตอนที่ เขาเคยต่อสู้กับศัตรูนับสิบคนเพื่อปกป้องอาณาจักรสาปสูญระดับชั้นC ถ้าหากจะพูดถึงประสบการณ์การต่อสู้ ฮั่นหลางมีมากกว่าเจ้ามากกว่า 100 เท่า! ถ้าเป็นเจ้าที่ทำการต่อสู้เช่นฮั่นหลางในวันนั้น เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถปิดกั้นพวกเขาได้หรือไม่?"

เฉินจงจับมือของฮั่นหลางอย่างฉับพลัน นั่นทำให้ฮั่นหลางอึ้งไปเล็กน้อย ในตอนนี้สีหน้าของซินเบิร์กดูไม่ค่อยดี เขามักคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะและคิดว่าเขาดีกว่าคนอื่นอยู่เสมอ

"ถ้าไม่พอใจ เจ้ากล้าที่จะต่อสู้?" ซินเบิร์กกล่าวออกมาอย่างเย็นชา


"แน่นอน เจ้าคิดว่าเรากลัวเจ้าหรือ?!" เฉินจงรีบตอบรับในทันที พร้อมทั้งม้วนแขนเสื้อขึ้นเผยให้เห็นแขนที่ใหญ่กว่าต้นขาของคนอื่น

6 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ18 ธันวาคม 2560 เวลา 23:29

    ลองนึกถึงฉากในเกมที่เล่นๆ ไปซักพักแล้วจะเจอ NPC โผล่มาให้ภารกิจสิ นี่มันพี่เฉินชัดๆ

    รอบที่แล้วก็ลากพระเอกเข้าสอบ ต่อมาก็ลากไปเปิดตัวสู้กับไรเดอร์ต่างโลกครั้งแรกอย่างกับ Event บังคับแน่ะ
    คราวนี้ก็ได้ไฟว์กับเอสเอสเปอร์ 4 ดาวเพื่อชิงตำแหน่ง ผบ.

    ี่แล้วก็รู้สึกว่าจะเป็น Event บังคับที่ปฏิเศษไม่ได้ซะด้วยสิฮะ!!!!!

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ผมว่าแอนบีเบ้ น่าจะชื่อ แอน เป่ยเป่ย มากกว่านะครับหลังจากไปดำอิ้งมา เพราะมันเขียน ann beibei อะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อัน เป่ยเป้ยครับจริงๆ

      ลบ
    2. ช่วงแรกของการแปล ผู้แปลไม่ได้เก่งเรื่องการออกเสียงจีน แปลเอาเร็ว นี่คือมือสมัครเล่นค่ะ และเรื่องนี้แปลจบไปนานละ ผู้แปลคงไม่กลับไปแก้ไขค่ะ นางแค่ตัวประกอบค่ะ

      ลบ