ฮั่นหลางพร้อมด้วยหุ่นยนต์ที่อยู่ในสภาพดีอีก
2 ตัว ตัดสินใจที่จะไปสำรวจดูสนามรบตามที่เฒ่าโม้และต้นกำเนิดไร้จุดหมายได้พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้มาก
หุ่นยนต์ทั้งสองเป็นแบบโปรแกรมรวบรวมข้อมูล
เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้ายในภูมิประเทศที่มีความซับซ้อน แขนของพวกมันจะติดตั้งเครื่องมือขุดเจาะเอาไว้
และเนื่องจากพวกมันไม่ได้มีชิปความคิดติดตั้งไว้ พวกมันจึงทำตามที่ฮั่นหลางสั่งเท่านั้น
ฮั่นหลางทำการสั่งให้พวกมันนั่งลงบนรถและรอ พวกมันวิ่งไปที่รถแล้วนั่งรอเหมือนเป็นเด็กดี
เฒ่าโม้บอกฮั่นหลางว่าหุ่นยนต์ที่ฮั่นหลางออกคำสั่งนั้น
มันเคยเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในสมัยก่อน ชื่อว่า R7
ทำจากโลหะผสมระดับสูง มีร่างกายที่เหมือนกันมนุษย์ มีแขนและขา สูงราวๆ1.8 เมตร เชื่อมต่อและควบคุมโดยใช้พอร์ตสื่อสารจากดาร์คเน็ต
หลังจากเตรียมพร้อมแล้วฮั่นหลางโบกมือลาเฒ่าโม้และต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
ก้าวเข้าไปในรถก่อนที่รถจะวิ่งไปบนสะพานเหล็กที่เชื่อมต่อกับสนามรบ
เฒ่าโม้สั่งให้หุ่นยนต์ตัวอื่นๆหยิบอุปกรณ์ที่ฮั่นหลางต้องการและบรรจุลงในเรือขนส่งอุตสาหกรรมของเขา
เพื่อรอที่จะออกจากดาวเคราะห์แล้วนำพวกมันไปทำความสะอาดก่อนส่งพวกมันไปยังโลก
......
เพียงชั่วพริบตา ฮั่นหลางก็ได้เดินทางออกมาไกลจากฐานของเฒ่าโม้
จนกลายเป็นจุดสีดำเล็กๆอยู่ทางข้างหลังเขา ที่เบื้องหน้าของฮั่นหลางเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาล
หลังจากการระเบิดนิวเคลียร์อย่างโหดร้ายบนดินแดนแห่งนี้ ทุกชีวิตได้จากไป ในตอนนี้อาจมีเพียงเฒ่าโม้และหุ่นยนต์ที่มีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ใบนี้
ยานพาหนะนี้เรียกว่า รถเหาะ
ซึ่งเป็นพาหะที่ใช้กันทั่วไปในการขนส่งที่ทางช้างเผือก มันไม่มีล้อ หากแต่ใช้ระบบกันสะเทือนแม่เหล็กลอยอยู่ห่างจากพื้นดินประมาณ
1 เมตร โดยใช้เครื่องยนต์เจ็ทเทอร์โบ 2 เครื่องยนต์ทำการขับเคลื่อนด้วยพลังสูง ความเร็วสูงสุดที่มันสามารถขับเคลื่อนได้อยู่ที่
3000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รถเหาะของเฒ่าโม้ไม่มีหลังคาส่วนบน
แต่มีกล่องบรรทุกสินค้าเช่นรถบรรทุกทั่วๆไปมันดูเรียบง่าย นอกจากนี้เฒ่าโม้ยังเป็นวิศวกรที่สามารถซ่อมแซมอุปกรณ์หุ่นยนต์ที่ซับซ้อนได้
ด้วยการปรับแต่งของเขา รถเหาะ จึงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันก็ดีเยี่ยม
มันถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่นที่มีประสิทธิภาพ หลังจากที่เปิดเครื่องทรายที่อยู่เบื้องหลังรถเหาะถูกเป่าออกไปไกลขณะที่รถพ่นควันไอเสียออกมา
ฮั่นหลางออกคำสั่งให้หุ่นยนต์เร่งความเร็วให้มากขึ้น
เนื่องจากความต้านทานต่ออากาศและเสียงไม่เป็นภัยคุกคามต่อเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถเพลิดเพลินกับความเร็วได้อย่างเต็มที่
หลังจากนั้นเพียง 2 ชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงใจกลางสนามรบ
ที่นี่เขาเห็นดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ที่เกิดจากการระเบิด
บางส่วนของระเบิดเหล่านี้ไม่เพียงแต่ระเบิดบนพื้นดินเท่านั้น แต่ในอากาศก็มีผลกระทบด้วยเช่นกัน
มันก่อให้เกิดคลื่นกระแทกที่ส่งผลให้อวัยวะภายในของทหารถูกกระแทกจนบาดเจ็บและล้มตายมากขึ้น
ดาวเคราะห์มหาอำนาจที่อยู่ในระดับจักรวรรดิขนาดใหญ่ในทางช้างเผือกมีความแข็งแกร่งที่น่าทึ่ง
ในสงครามครั้งนี้เป็นสงครามระหว่างจักรวรรดิจือจูกับสาธารณรัฐลูแลน เพียงแค่นับเอสเปอร์เพียงอย่างเดียว
ทั้งสองฝ่ายได้สูญเสียเอสเปอร์มากถึง 20 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับโลกที่มีเอสเปอร์เพียงแค่15,000คน
ในจำนวนนี้รวมถึงเอสเปอร์ที่ไม่ใช่นักสู้ พวกเขาอาจเป็นนักดาราศาสตร์
หรือบางคนที่ฟันของเขาสามารถเติบโตได้อย่างราวเร็ว หรือคำนวนได้เร็วขึ้น
เห็นได้ชัดว่ามีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ระหว่างโลกกับมหาอำนาจในทางช้างเผือกเหล่านั้น
มีผู้กล่าวไว้ว่าดาวเคราะห์ที่มีอำนาจมากที่สุดในทางช้างเผือกนั้นมาจาก
12 สมาชิกถาวรของพันธมิตรทางช้างเผือก แต่ละดาวเคราะห์มีเอสเปอร์อย่างน้อย 100
ล้านคน สำหรับดาวเคราะห์ที่มีอำนาจดังกล่าวการทำลายโลกนั้นทำได้ง่ายเหมือนกับการดีดนิ้วเพียงแค่ครั้งเดียว
สนามรบในสมัยโบราณแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ควบคู่ไปกับหุ่นยนต์ที่นำโดยเฒ่าโม้ พวกเขาทำการสำรวจที่แห่งนี้มามานานหลายสิบปี
ในตอนนี้ไม่มีอุปกรณ์ใดที่ยังหลงเหลืออยู่ในสายตาของพวกเขา
ในความเป็นจริง ฮั่นหลางก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะหาสิ่งที่มีค่าในสนามรบโบราณนี้
เพราะถึงแม้หากจะค้นพบ พวกมันก็จะถูกนำออกไปโดยเฒ่าโม้ ในตอนนี้เขาเพียงต้องการที่จะได้รับความรู้สึกของบรรยากาศของสนามรบ
แม้ในสนามรบตอนนี้ดูเหมือนทะเลทรายที่ว่างเปล่า
แต่มีสิ่งหนึ่งที่จะไม่ตายเมื่อกาลเวลาได้ผ่านไป หากแต่เติบโตมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น
นั่นคือจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อของเหล่าทหาร
สายลมพัดผ่านและน้ำที่เย็นเยือก
นักรบออกจากบ้านแต่ไม่เคยกลับมา
ทะเลทรายแห้งแล้งพร้อมด้วยบรรยากาศอันหนาวเหน็บ
นักรบที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญต่างจบชีวิตลง
ณ ที่แห่งนี้
แต่วิญญาณของพวกเขายังคงหลงเหลืออยู่
ก่อนจะถึงเวลาพลบค่ำ
เสียงครวญครางของพายุทะเลทรายดังแว่วออกมา
(TL: แปลจากบทกวีจีน)
ฮั่นหลางจินตนาการถึงฉากสงครามในปีนั้น
ภาพแม่น้ำเลือดที่ไหลเจิ่งนองอยู่บนทะเลทราย ก่อนที่เขาจะรู้ตัว ในตอนนี้เขาได้ขับรถผ่านใจกลางของสนามรบจนมาถึงจุดสิ้นสุดของทะเลทราย
เผชิญหน้ากับเนินภูเขาย่อมๆ
ฮั่นหลางหยุดอยู่ข้างเนินดังกล่าว
เขามองไปที่เวลา มันได้ผ่านไป 5 ชั่วโมงแล้ว เห็นได้ชัดกว่า 10,000 กิโลเมตรมันเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่ได้มีประสบการณ์เฉพาะตัวที่จะเข้าใจความสุขที่ฮั่นหลางได้รับในขณะที่ขี่รถเหาะ
แม้ว่าฮั่นหลางรู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะเก็บเกี่ยวอะไรได้จากที่แห่งนี้
แต่สำหรับการเดินทางบนสนามรบนี้ อย่างน้อยเขาควรได้รับสิ่งของที่เป็นของที่ระลึก เขาจะไม่ยอมกลับบ้านด้วยมือเปล่า
แม้แต่จะเป็นเพียงแค่กริชมันก็ดีพอสำหรับเขา
ดังนั้นฮั่นหลางจึงตัดสินใจเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นเนินเขา
การขับรถในทะเลทรายเพียงแค่ควบคุมความเร็วเท่านั้น
แต่การขับรถในพื้นที่ที่เป็นเนินเขานี้จำเป็นต้องใช้ทักษะมากขึ้น ฮั่นหลางชะลอความเร็วและขับไปตามหุบเขาที่อยู่ระหว่างเนินเขา
การเปลี่ยนความเร็วอย่างฉับพลันส่งผลให้ศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วงของหุ่นยนต์ที่ขับรถเหาะเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
รวมทั้งแรงกดดันที่อยู่ในบริเวณนี้ก็แตกต่างจากตอนที่อยู่ในทะเลทราย
อีกสองชั่วโมงได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ฮั่นหลางยังไม่สามารถค้นพบสิ่งใดๆ ไม่มีแม้แต่เศษซากที่เหลืออยู่ในสนามรบหลัก โดยไม่ต้องพูดถึงบริเวณนอกสนามรบนี้
"ดี เวลาหมดแล้ว
ถึงเวลาที่จะต้องกลับไป"
ฮั่นหลางเอียงพวงมาลัยและเตรียมพร้อมที่จะหันหน้ากลับไปที่ค่าย
ฮั่นหลางยังคงเป็นเพียงผู้เริ่มต้นในการขับรถ
เขาเร่งความเร็วให้เร็วขึ้นในขณะที่บินอยู่ระหว่างเนินเขา เขารู้สึกกังวลนิดหน่อยเมื่อมีการเปิดใช้งานความเร็วในระดับนี้
ทันใดนั้น เขาไม่สามารถหยุดและควบคุมมันได้ รถเหาะหมุนและลอยออกไปด้านข้าง”
"อึก!
ความเร็วมากเกินไป!"
ฮั่นหลางสบถออกมา
พร้อมดึงเบรคมื่อทันที ในตอนนี้เมื่อมีแรงตรงข้าม ตัวเร่งความเร็วเริ่มตอบสนอง
จนรถเขย่าอย่างรุนแรง ส่งผลให้รถลอยคว้างไปบนท้องฟ้า
ซู่ ~
ในตอนนี้มันมาถึงจุดที่ยากลำบากที่จะหยุด
มันอยู่ห่างเพียงไม่กี่เมตรจากกองเล็กๆ มันยากที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ ฉากที่น่าตื่นเต้นของการปะทะได้เกิดขึ้น
ฮั่นหลางหันไปตรวจสอบหุ่นยนต์
งานเข้าแล้ว เขาและรถเหาะยังอยู่ในสภาพดีอยู่ แต่หุ่นยนต์ทั้งสองถูกโยนออกจากกล่องเก็บสินค้า
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วง ก่อนที่จะจอดลงบนเนิน
ฮั่นหลางรีบรีบเร่งออกไปขุดหุ่นยนต์โง่สองตัวออกจากดิน
มันคืออะไร?
ทันใดนั้นฮั่นหลางรู้สึกเย็นเยือก
ในขณะที่เขากำลังขุดเอาหุ่นยนต์และดึงมันออกมาจากดิน เขาสังเกตเห็นว่าพื้นดินเบื้องล่างนั้นกลวง
มันดูเหมือนจะเป็นทางเข้าของถ้ำ ก่อนหน้านี้ทางเข้าปกคลุมด้วยดินมันจึงไม่ได้ถูกสำรวจหรือค้นพบ
ฮั่นหลางทำการขุดชั้นดินออกไปจนในที่สุดเขาก็สามารถที่จะเห็นถ้ำจากมุมด้านบน
"มานี่ ขุดเปิดรูนี้แล้วลองดูสิว่าในนั้นมีอะไร"
ฮั่นหลางออกคำสั่งหุ่นยนต์สองตัวที่รวบรวมข้อมูล
จากนั้น ฮั่นหลางและหุ่นยนต์สองตัวต่างขุดดินจนสามารถเปิดทางเข้าขนาดใหญ่พอสำหรับพวกเขา
หุ่นยนต์เปิดไฟสว่างขึ้นมาและนำทางฮั่นหลางเข้าไปในถ้ำ
ถ้ำเป็นรูปแบบธรรมชาติไม่ใหญ่มากนัก
ในพื้นที่ที่เคยถูกระเบิดของนิวเคลียร์ ในตอนนั้นมันอาจสั่นสะเทือนจนทำให้ทางเข้าถ้ำถูกปิดกั้น
แสงที่ส่องไปที่ก้นถ้ำ ทำให้ฮั่นหลางมองเห็นเงามืดสองร่าง
ขอบคุณครับ
ตอบลบพี่ฮั่นพี่อัพ Luck มาเต็ม 255 เลยใช่มั๊ยครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสนุกม้ากกก
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ