ศูนย์บริหารอาณาจักรสาปสูญ
ฐานทัพขั้วโลกใต้
ฐานทัพถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศที่ร้อนใจและกระวนกระวาย
ในที่สุดฮั่นหลางก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่เห็นหลี่อู่หรืออู๋ตี้เป็นเวลานาน พวกเขากำลังทำงานอย่างหนักในอาณาจักรสาปสูญไม่สงสัยเลยว่าทำไมศูนย์ฝึกฝนถึงว่างเปล่าอยู่เสมอ
เอสเปอร์ส่วนใหญ่แท้จริงถูกจู่โจมและพวกเขากำลังต่อสู้เสี่ยงชีวิตอยู่ภายในอาณาจักรที่สาปสูญ...
ฮั่นหลางไม่มีความเข้าใจในความคืบหน้าของในการสำรวจอาณาจักรสาปสูญ
ดูเหมือนว่าการสำรวจอาณาจักรสาปสูญ
ค่อนข้างจะแตกต่างจากโครงการสำรวจทางโบราณคดี ที่นี่มีเอสเปอร์จำนวนมากประจำการภายในอาณาจักรสาปสูญและดูเหมือนจะอันตรายอย่างยิ่ง
มีเอสเปอร์ บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิตถูกหามออกมาจากอาณาจักรสาปสูญอยู่เสมอ
และทีมแพทย์ก็เป็นแผนกที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในฐานทัพ
แม้แต่ภารโรงที่ฐานทัพก็เริ่มระวังมากขึ้นกว่าเดิม
ก้าวเดินของทุกคนเร็วขึ้นอย่างมากและไม่มีใครพูดคุยกันด้วยเสียงดังในที่สาธารณะอีกต่อไป
สถานภาพของฮั่นหลางเป็นกรณีพิเศษเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกของศูนย์บริหารเอสเปอร์
แต่เขาก็ไม่มีหน้าที่อะไรในสถานที่แห่งนี้ หลี่อู่ต้องการที่จะทดแทนบุญคุณและปล่อยให้ฮั่นหลางใช้สถานที่ฝึกในที่ฐานทัพ
ตอนนี้ค่าสถานะพลังพิเศษของฮั่นหลางอยู่ที่
983 หน่วยแล้ว เขาอยู่ชายขอบของดินแดนระดับ 3 ดาว
ตอนเที่ยงคืนฮั่นหลางเขียนรายงานดัชนียาอย่างปกติแล้วตั้งเป็นโพสต์ตามกำหนดเวลาและตรงดิ่งไปหาต้นกำเนิดไร้จุดหมาย
“มันเกินความคาดหมายไปเล็กน้อย
ที่เจ้ามาใกล้จะก้าวเข้าระดับ 3 ดาว ภายในเดือนเดียว
เป็นความเร็วที่บ้าจริงๆ ข้าเริ่มกังวลว่าการเร่งพัฒนาการนี้จะทำให้รากฐานไม่มั่นคงและเกิดผลข้างเคียงอื่นๆ”
ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจในความก้าวหน้าที่รวดเร็วของฮั่นหลาง
แม้กระทั่งอาจจะมีความภาคภูมิใจ เขาเริ่มคุยกับฮั่นหลางมากขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีตฮั่นหลางต้องระมัดระวังและถามคำถามเพียง 3 ข้อด้วยความกลัวว่าจะทำให้ต้นกำเนิดไร้จุดหมายรู้สึกหงุดหงิด
แต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าฮั่นหลางจะถามเขา 30 คำถามติดต่อกัน
เขาก็จะยังคงตอบคำถามทีละคำถาม
นิ้วมือของฮั่นหลางกำลังพิมพ์บนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
“มันไม่ควรเกิดขึ้นใช่ไหม? ทุกวันผมทุ่มความพยายามอย่างมากในการออกกำลังกายขั้นพื้นฐานเหล่านั้น
ผมได้ยินจากคนอื่นว่าเอสเปอร์นักรบปกติเริ่มเรียนรู้ เคล็ดวิชาการต่อสู้ในระดับที่สูงขึ้นเมื่อพวกเขามาถึงระดับ
2 ดาว
แต่ผมยังคงฝึกพื้นฐานและดูเหมือนว่าผมควรจะดำเนินการฝึกตามแบบแผนของพวกเขา”
ต้นกำเนิดไร้จุดหมายรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย
“ทำไมเจ้าถึงต้องไปสนใจสิ่งที่คนอื่นทำ? พวกเขาเริ่มเรียนรู้ทักษะการต่อสู้เมื่ออยู่ที่ระดับระดับ
2 ดาวเพราะปกติแล้วพวกเขาจะใช้เวลา 1-2
ปีในการก้าวขึ้นสู่ ระดับ 2 ดาว แต่เจ้าใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนเท่านั้นมันจะเป็นแบบเดียวกันได้อย่างไร?”
ฮั่นหลาง ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “อาจารย์อย่าเพิ่งโกรธ
ผมก็แค่บอกว่ามัน... และสำหรับความสำเร็จของผมจนถึงวันนี้
ผมรู้สึกว่ามันเป็นเพราะความช่วยเหลือของอาจารย์ ไม่อย่างนั้นผมจะไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จใกล้เคียงกับผมในตอนนี้ เร็วๆนี้ผมจะผลักดันตนเองขึ้นสู่ระดับ 3 ดาวอาจารย์มีคำแนะนำอื่นๆอีกไหม?”
ต้องยอมรับว่า
ฮั่นหลางนั้นแท้จริงรู้ว่าสิ่งที่จะสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนอารมณ์อาจารย์ของเขานั้นคือการอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพ
ฮั่นหลางค้นพบว่าต้นกำเนิดไร้จุดหมาย มีสภาวะอารมณ์เหมือนเด็กน้อย เขามักจะโกรธง่ายเป็นประจำ
แต่เขาก็จะลืมเรื่องที่โกรธไปอย่างรวดเร็วในภายหลัง
“ด้วยศักยภาพของเจ้า
เจ้าจะต้องขึ้นสู่ระดับ 3 ดาวอย่างแน่นอน
ดังนั้นเป้าหมายหลักยังคงมีอยู่นั่นก็คือรักษารากฐานของเจ้าให้มีความเสถียรภาพ
พรุ่งนี้เจ้าสามารถไปฝึกฝนในพื้นที่ -50 องศาของบ่อน้ำได้
เมื่อถึงระดับ 3 ดาวแล้วให้กลับขึ้นฝั่งทันทีสวมชุดรบและกลับลงไปในน้ำ”
“การฝึกฝนในน้ำที่หนาวเย็นโดยทั่วไปเป็นการสำรวจศักยภาพและตอนนี้ที่เจ้ากำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนั้นบางครั้งเจ้าจะต้องหยุดพักและมุ่งเน้นไปที่การรักษาเสถียรภาพพลังงานใหม่ที่เจ้าเพิ่งได้รับ
คืนนี้ทำตามสิ่งที่ข้าพูดและมันจะดีสำหรับตัวเจ้า”
ฮั่นหลางพยักหน้า “เข้าใจครับ ผมจะไปฝึกฝนทันทีและจะรายงานกลับไปหาอาจารย์เมื่อผมทำเสร็จแล้ว”
“เอาล่ะ ไปได้
อย่าได้ลืมใช้ยาพลังงานต้นกำเนิดในปริมาณที่เหมาะสม”
……
ฮั่นหลางนำชุดรบของเขารวมทั้งกริชไทเทเนียมและเดินไปยังบ่อน้ำที่คุ้นเคยด้วยอารมณ์อันน่ารื่นรมย์
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในวันนี้ยังคงเป็น
ชายผมทอง ชาลี และชายจมูกใหญ่ที่ชื่อโฟลีแมน ทุกคืนฮั่นหลางจะพบพวกเขาที่ทางเข้า
ดังนั้นพวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนกันแล้วในตอนนี้
ชาร์ลีเป็นชายที่ชอบยิ้ม
เขามีบุคลิกที่ดีและมักจะล้อเลียนฮั่นหลางเสมอว่าจะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้เพราะอยู่ในน้ำเย็นนานๆ
ชายจมูกใหญ่ โฟลีแมนเป็นชายที่จริงจัง
ดวงตาของเขามักจดจ่ออยู่กับฮั่นหลางตลอดเวลา ระดับชั้นที่ฮั่นหลางได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้
ฮั่นหลางไม่ควรอยู่ใกล้ประตูทางเข้าสู่อาณาจักรสาปสูญ และสายตาที่แสดงเจตนาของลีแมนราวกับว่าฮั่นหลางจะถูกโยนออกไป
ถ้าเขาก้าวเข้ามาใกล้ๆประตูทางเข้าสู่อาณาจักรสาปสูญ
เมื่อเห็นฮั่นหลางจากระยะไกล
ชาร์ลียิ้มและตะโกนว่า “นายมาตรงเวลาอีกแล้ว ฮั่นหลาง ฉันบอกนายก่อนหน้านี้ ปู่ฉันบอกว่า...“
โดยไม่รอให้ชาร์ลีพูดจบ
ฮั่นหลางพูดแทรกขึ้นมาว่า “ฉันรู้ ฉันรู้
อยู่ในน้ำเย็นนานเกินไปและฉันจะไม่สามารถมีบุตรได้
นายเป็นคนที่น่าเบื่อจริงๆทุกวันทำแต่เรื่องตลกเดิมๆ ฉันจะบอกว่า ลูกสาวนั้นก็ดีเยี่ยมเช่นกัน
เมื่อตอนแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่ เธอมักจะบอกว่าลูกสาวก็เหมือนเสื้อกันหนาวผ้าฝ้ายตัวน้อย
และท่านเสียใจเสมอที่ไม่ได้ให้กำเนิดน้องสาวตัวน้อยให้ฉัน”
“เอานี่
นี่เป็นของว่างตอนเที่ยงคืนสำหรับนายสองคน”
ฮั่นหลางยิ้มขณะที่เขายื่นถุงที่เต็มไปด้วยอาหารให้แก่ทั้งสองคน
ทั้งสองคนนี้ไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ออกไปไหนได้ และฮั่นหลางมักจะเข้ามาราวๆตอนสามโมงเช้าดังนั้นเขาจึงนำอาหารมาให้
ฮั่นหลางกำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางเล็กๆที่ทางด้านข้าง
แต่จู่ๆประตูอาณาจักรสาปสูญก็ถูกเปิดขึ้นอู๋ตี้เดินออกมาและเห็นฮั่นหลาง
“พี่ห้า
ผมไม่เห็นพี่มาหลายวัน เกิดอะไรขึ้นที่ด้านล่างนั้นเหรอ?” อู๋ตี้เป็นลูกศิษย์ที่เด็กที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ทั้ง
5 ของหลี่อู๋ ดังนั้นฮั่นหลางจึงเรียกเขาว่าพี่ห้า
อู๋ตี้ถอนหายใจยาวออกมา
“เสียสละไปมากมาย... แต่สุดท้ายเราก็ใกล้ที่จะควบคุมมันได้แล้ว”
ฮั่นหลางถามซอกแซกออกไปว่า
“ผมไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอาณาจักรสาปสูญจริงๆ
แต่ผมเห็นว่าพี่น้องของเราทุกคนในฐานทัพเป็นห่วงและกังวลมาก
นอกจากนี้ยังมีพี่น้องที่ได้รับบาดเจ็บหลายรายที่ถูกแบกหามออกไป… ขอขอบคุณสำหรับการทำงานหนัก!”
อู๋ตี้ส่ายหน้า “พี่น้องของเราเสียสละชีวิตของพวกเขา การทำงานหนักของเราจึงไม่มีอะไรเทียบได้กับผลงานของพวกเขา
เจ้าไม่ทราบความสำคัญของอาณาจักรสาปสูญนี้ว่าหมายถึงอะไรสำหรับโลก
เนื่องจากเราอยู่ในขั้นสุดท้ายของการควบคุมมันข้าจะบอกเจ้า
ตราบเท่าที่เราสามารถรักษาความปลอดภัยของอาณาจักรสาปสูญนี้ไว้ได้ มันเป็นความหวังสำหรับโลก!”
“ตอนนี้โครงการที่ใหญ่ที่สุดสำหรับโลกคือเงิน
เจ้าเห็นอุปกรณ์ที่ชาร์ลี และโฟลีแมนกำลังสวมอยู่หรือเปล่า? ทั้งหมดนี้มาจากตลาดมือสองในอวกาศและคุณภาพก็เพียงแค่ใช้ได้
และโลกของเราแผนกบริหารอาณาจักรสาปสูญ คุณภาพอุปกรณ์ดีกว่าแผนกอื่น”
“กองทัพโลกทั้งหมดมีเรือรบเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถ
เดินทางข้ามผ่านทางช้างเผือกได้และยังคงเป็นสิ่งที่ คลาร์ก
ได้รับมาจากงานชุมนุมกาแลคซีครั้งล่าสุด เรามีเอสเปอร์ทหาร ประมาณ 15,000 คน แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาวุธหรืออุปกรณ์ใดๆแม้แต่การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านฝึกฝน”
“ถ้าเราสามารถลงไปถึงอาณาจักรสาปสูญได้
โลกก็จะมีโอกาสและโอกาสนั้นก็จะนำมาซึ่งรายได้ เราสามารถเก็บเกี่ยวจากอาณาจักรสาปสูญเพื่อค้าขายแลกเปลี่ยน
GC ซื้ออุปกรณ์บางอย่างสำหรับกองกำลังของเราและถ้าเราโชคดีเราก็สามารถซื้อเรือบินรบอีกสักลำ
ตอนนี้เจ้าบอกมาสิว่าอาณาจักรสาปสูญมีความหมายเท่าใดต่อเรา”
ฮั่นหลางรู้สึกตกใจ “หมายความว่าโลกจะได้รับการยอมรับว่าเป็นกลุ่มดาวแห่งทางช้างเผือกอย่างแท้จริง
นั่นหมายถึงว่าในที่สุดเราก็สามารถสร้างทหารเอสเปอร์ที่แท้จริงได้
มันหมายถึงความหวังของโลกนี้?!”
อู๋ตี้ตอบด้วยความตื่นเต้น
“ถูกต้อง! นั่นเป็นเหตุผลที่อาจารย์บอกว่า แม้ว่าเขาจะต้องตายในอาณาจักรสาปสูญครั้งนี้
เขาจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราใช้อาณาจักรสาปสูญนี้เพื่อโลกและอนาคตของมนุษย์บนโลกนี้เป็นความรับผิดชอบของเรา
พี่น้องทุกคนในที่นั่นได้สาบานต่อพระเจ้า แม้ว่าจะต้องจ่ายด้วยชีวิตของพวกเขา
แต่พวกเขาก็ยังคงยึดอาณาจักรสาปสูญไว้ได้จนถึงในปัจจุบันนี้!”
อาจจะเป็นเพราะเกือบเสร็จสิ้นแล้วอารมณ์ของอู๋ตี้ก็ดีขึ้นมาก
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถคุยกับฮั่นหลางได้เล็กน้อย
และได้ทำให้เลือดของฮั่นหลางเดือดระอุขึ้น!
แม้ว่าฮั่นหลางจะ
ไม่ทราบว่าที่จริงมีอะไรเกิดขึ้น แต่ด้วยอัตราการเสียชีวิต 40% กองกำลังจู่โจมที่ยังคงอยู่ในนั่น พวกเขาทั้งหมดเป็น
ลูกผู้ชายที่แท้จริง!
“ข้าไม่สามารถพูดได้มากกว่านี้
ข้าต้องไปที่ศูนย์ควบคุม ไม่มีสัญญาณตอบรับในอาณาจักรสาปสูญ และสำนักงานใหญ่ยังคงรอรายงานของข้าอยู่”
อู๋ตี้ตบไหล่ฮั่นหลางและเริ่มเดินไปยังศูนย์ควบคุมด้วยก้าวที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
อย่างไรก็ตามฮั่นหลางตระหนักได้ว่า อู๋ตี้กำลังเดินกะโผลกกะเผลกดูเหมือนขาของเขาจะได้รับบาดเจ็บ
“ดูเหมือนผลลัพท์จะปรากฎในคืนนี้
ขออธิษฐานต่อพระเจ้าให้ไม่มีอะไรผิดพลาด” ฮั่นหลางกำลังคิดทบทวนเกี่ยวกับสิ่งที่อู๋ตี้เพิ่งพูดและเขาก็พูดกับตัวเองว่า
“หลังจากคืนนี้ฉันก็จะเป็นนักรบ ระดับ 3 ดาว ฉันจะขอสมัครเข้าร่วมทีมจู่โจมและเสนอตัวเองเข้าร่วมสนับสนุนด้วย”
Thank you
ตอบลบ