เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

ZX 054 นักปรุงยาระดับสอง


เจ้าต้องการเข้าหลุมดักเซียน?”

คำถามนี้ตูเชี่ยนซึ่งมีความปรารถนาดีต่อหยางเฉินโพล่งออกมา เพราะเขาไม่เข้าใจ ด้วยระดับรวบรวมลมปราณของหยางเฉิน ต่อให้มีกระบี่บิน ก็ยังไม่อาจต้านทานสัตว์อสูรใต้พิภพเหล่านั้นได้ การกระทำแบบนี้มันผิดธรรมชาติของหยางเฉิน

จริงสิ

หยางเฉินเชื้อเชิญตูเชี่ยนนั่งด้านหน้าเขา พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

ข้ากล่าวคำร้องขอต่อท่านผู้นำแล้ว ข้าไม่กลับคำแน่

แล้ว..เจ้าถึงความอันตรายของหลุมดักเซียนแล้วใช่ไหม?”

มันไม่ใช่ว่าทุกคนต้องไปขัดเกลาตนในที่อันตรายอย่างนั้น ตูเชี่ยนอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับก่อตั้งรากฐาน ยังไม่เคยไปที่นั่นเลย

อาจาร์ยอา ข้าศึกษาทุกอย่างในหอลี้ลับของตำหนักเก้าปฐพี แล้วท่านว่าข้ารู้หรือไม่

การที่ตูเซียนกังวลเกี่ยวกับตัวเขาทำให้หยางเฉินรู้สึกซึ้งใจมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการเคารพความรู้สึกของเขา หยางเฉินจึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว

"อย่างไรก็ตามประมุขพระราชวังได้กล่าวไว้แล้ว ว่าให้เตรียมตัวให้พร้อม และข้าก็คิดว่าคงไม่สายเกินไปที่จะไป หลังจากที่ข้าได้เตรียมตัวแล้วอย่างแท้จริง  ในก่อนหน้านี้ข้าได้ต่อสู้เพื่อคุณสมบัตินั้นแล้ว และนั่นคือทั้งหมด"

วาจานี้ลบล้างความกังวลในหัวใจของตูเชี่ยนไป การยอมถอยสักก้าวเมื่อพบพานสิ่งที่เกินต้านทานย่อมเป็นวิธีที่ดี เป็นที่รู้กันดีว่า แม้หลุมดักเซียนจะเป็นที่ที่อันตราย แต่ประโยชน์ที่จะได้รับก็มีอยู่มาก ถ้ารอดตายแม้จะได้ฝึกตนในนั้นเพียงไม่กี่ปี ก็เพียงพอต่อการทำให้เป็นคนที่มีอำนาจและร่ำรวยได้ นั่นเป็นเป้าหมายของผู้ที่เข้าไป หยางเฉินก็เป็นอีกคนที่ได้รับคุณสมบัติในการจะได้เข้าไป เขามีจุดมุ่งหมายลึกลึกมากมายรออยู่เบื้องหน้า

ดีแล้วล่ะ อันดับแรกที่ต้องมีเลยคือเรื่องของคุณสมบัติ ฉะนั้นมันไม่สายเกินหรอก เมื่อเจ้าบรรลุระดับก่อสร้างรากฐาน

เจ้าคงไม่ไปที่นั่น ก่อนที่จะถึงระดับก่อสร้างรากฐานก่อนหรอกนะ

อาจารย์อา จริงๆ แล้ว ข้าตั้งใจว่าอีกสองเดือน ข้าจะไป

หยางเฉินบอกแผนของเขาออกไปตรงๆ ด้วยรอยยิ้ม ทำให้ตูเชี่ยนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แม้ว่าเจ้าจะไปแต่ด้วยระดับบ่มเพาะของเจ้า เจ้าจะไม่สามารถที่จะผ่านการตรวจสอบสำหรับผู้มาใหม่ได้ แล้วเจ้าจะไปอยู่ต่อไปได้ยังไง?”

ตูเชี่ยนไม่รู้จะพูดอะไรอีก ทำได้เพียงปั้นยิ้มที่หน้าของเขา แล้วถามอย่างเข้มงวด

"เจ้าจะไม่สามารถทนต่อสัตว์จิตวิญญาณระดับต่ำที่สุดในใต้พิภพได้! ทำไมเจ้าต้องเอาชีวิตไปทิ้ง?"

ข้าไม่ได้ว่าจะเอาชีวิตไปทิ้งนะอาจารย์อา ท่านลืมหรือเปล่าว่าข้า สามารถปรุงยาได้!

หยางเฉินไม่ได้บอกแผนการทั้งหมดของเขา เพียงแค่พูดสร้างความมั่นใจให้ตูเชี่ยนเท่านั้น

"ภายในหลุมดักเซียน แม้ว่าจะมีเพียงยาเม็ดลมปราณระดับที่สอง มันก็เป็นที่ต้องการกับหลายๆคน ถ้าข้ามีสมุนไพรที่เพียงพอ ข้าก็สามารถแลกเปลี่ยนสร้างประโยชน์มากมายได้"

ยาเม็ดลมปราณระดับที่สอง

เมื่อตูเชี่ยนได้ยินเช่นนี้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

เจ้า..สามารถปรับแต่งยาเม็ดลมปราณระดับที่สองได้งั้นตอนนี้เจ้าเป็นนักปรุงยาระดับที่สอง? “

ตูเชี่ยนได้แต่ตกใจ ประหลาดใจต่อสิ่งที่หยางเฉินจะทำ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญการปรุงยายังไม่สามารถปรับแต่งยาเม็ดลมปราณระดับที่สองได้  ถ้าข่าวนี้รั่วไหลไปนอกนิกาย พวกนักปรุงยาจำนวนมากคงบ้าแน่ๆ!

ยาระดับที่หนึ่งหมายถึงมีการปรับแต่งหนึ่งครั้ง

ยาระดับที่สองหมายถึงมีการปรับแต่งสองครั้ง…. ประสิทธิภาพจะเพิ่มเป็นสองเท่า….

และสำหรับนักปรุงยาที่แข็งแกร่งที่สุด ขีดจำกัดที่ทำได้ในระดับสูงสุดในการปรับแต่งเม็ดยา คือเก้าครั้ง

ทุกๆครั้งที่มีการปรับแต่งยกระดับของยานั้น ประสิทธิภาพจะเพิ่มอย่างมาก เพียงแต่มันเป็นอะไรที่ยากยิ่ง ..แม้แต่หยางเฉินเมื่อชีวิตก่อนหน้านั้นเป็นสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม เมื่อชาติก่อนเขาก็เป็นแค่ผู้ปรุงยาระดับที่หก ..แต่วิธีกลั่นสกัดนั้นสำหรับที่นี่ไม่ใช่สิ่งทั่วไปที่ใครจะสามารถทำได้!...

แต่ในชีวิตตอนนี้ของหยางเฉิน แม้แต่ผู้ดูแลหอโอสถ จูเฉินเตา บุคคลที่ผู้คนจำนวนมากชื่นชมในทักษะการปรุงยาของเขา  ..ผู้ที่คู่ควรกับคำว่า..อัจฉริยะ! ..ก็พึ่งถึงระดับปรุงยาในระดับสามเมื่อไม่นานนี้

ในขณะนี้ตูเชี่ยนได้ถูกบังคับให้ต้องยอมรับแผนการกลั่นสกัดยาของหยางเฉิน แม้แต่จูเฉินเตาก็ก้าวนำหน้าหยางเฉินเพียงก้าวเดียว ตูเชี่ยนไม่กล้าที่จะกล่าวออกมาดังๆ เขาตกตะลึงไม่คาดฝัน แม้กระทั่งในใจเขาก็คงลืมกระทั่งชื่อจูเฉินเตา

..สำหรับหยางเฉิน ยาอายุวัฒนะระดับที่สอง ..ไม่ต่างอะไรกับกับการปรุงยาเม็ดลมปราณ     โดยอาศัยเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณเขาสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ถ้าไม่กลัวว่าการปรับแต่งยาอายุวัฒนะระดับที่สามจะทำให้ทั้วโลกแตกตื่น เขาคงทำเรียบร้อยไปแล้ว

ภายในที่พักของหยางเฉิน หลังจากที่เขาให้คำแนะนำแก่คนรับใช้ทั้งสี่ของเขา เขาก็นั่งลงเพื่อเตรียมความพร้อมและนำเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ ออกมาเพื่อตรวจตรา ….ลำแสงไม่มากนักปรากฏบนยอดเขาภูเขาเหมยชิง หยางเฉินเผยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แล้วหยิบหลอมแก่นจิตวิญญาณออกมา หลังจากนั้นก็รอคอยพวกเขาอย่างสงบ

เป็นที่แน่นอนว่า ศักดิ์ฐานะของนักปรุงยาระดับสอง คือเกราะป้องกันตัวที่ดี ชื่อเสียงที่เขาสร้างตอนขึ้นบันไดสวรรค์ ใช้ได้เฉพาะเมื่ออยู่ภายในนิกายเท่านั้น แต่ถ้าในฐานะผู้ปรุงยาระดับที่สองแล้ว มันเจิดจรัสยิ่งกว่านักบ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์ทีเดียว โดยเฉพาะแง่ความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญพร้อมที่จะฆ่าอัจฉริยะที่ไมใช่นิกายของตน ….แต่จะไม่แตะนักปรุงยา แม้แต่แค่นักปรุงยาระดับที่หนึ่ง!

เมื่อได้รับการยืนยันแน่ชัด ตูเชี่ยนเร่งรีบจากไปเพื่อรายงานเรื่องราวนี้ต่อเบื้องบนของนิกาย และในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกทราบซึ้งที่หยางเฉินได้บอกเรื่องราวนี้ กับเขาเท่านั้นราวกับได้รับของขวัญที่มีค่า

ตั้งแต่ตอนอยู่หอเก้าปฐพีและหอต้อนรับ ตูเชี่ยนคอยดูแลหยางเฉินมาโดยตลอด กระทั่งแม้เผชิญหน้ากับผู้รับมอบอำนาจดูแลซูเฮิง ต่อมาเมื่อหยางเฉินปรุงยาเม็ดสวินฉี ยิ่งทำให้เบื้องบนเห็นคุณค่าของเขา แล้วในตอนนี้หยางเฉินสามารถกลายเป็นนักปรุงยาระดับสอง หลังจากที่ตูเชี่ยนรายงานขึ้นไปยังเบื้องบน เหล่าผู้อาวุโสจะต้องมองการณ์ไกลว่าใครที่ทุ่มเทให้กับนิกาย และยังสร้างประโยชน์ให้กับนิกายเป็นอย่างมาก

ภายในที่พักของหยางเฉิน หลังจากให้แนวทางแก่ผู้รับใช้ทั้งสี่ เขานั่งเตรียมพร้อมนำเตาหลอมจิตวิญาณล้ำเลิศออกมาตรวจตรา ….ลำแสงไม่มากนักปรากฏบนยอดเขาเหยเซียงพุ่งเข้าไปในตัวหยางเฉิน หยางเฉินผลักเตาออกไป ใบหน้าเปื้อนยิ้ม สายตาจับอยู่ที่ประกายแสง นั่งรอคอยอย่างสงบ

ในชั่วพริบตาแสงเหล่านั้นปรากฏเหนือตำหนักเก้าปฐพี พวกเขามีรัสมีแสงรูปดาบ ทันทีที่แสงเหล่านั้นสลายไปภายในลานเล็กๆที่หน้าที่พำนักของหยางเฉินก็ปรากฏภาพเงาของคนให้เห็นจางๆ ก่อนที่หยางเฉินจะเห็นได้ชัดว่าเป็นใคร เสียงของจูเฉินเตามาถึงหูของเขาแล้ว

หยางเฉิน ..เจ้าปรับแต่งยาระดับสอง?”  เป็นเสียงของจูเฉินเตา

ใช่แล้ว อาจารย์อา” 

หยางเฉินคำนับแล้วตอบในทันที แล้วเงยหน้าขึ้นช้าๆ

หยางเฉินตอบกลับและโค้งคำนับ แล้วค่อยๆเงยหน้าของเขา จากนั้นก็พบว่านอกเหนือจากตูเชี่ยน และ ผู้ดูแลหอโอสถจูเฉินเตา และที่น่าแปลกใจแม้กระทั่งประมุขพระราชวังหยางบริสุทธิ์ก็มาเยือนที่พำนักเล็กๆของเขา

จูเฉินเตารู้สึกใจร้อนอย่างมาก เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน เขารีบหยิบกองสมุนไพรออกมาจากกระเป๋าใบเล็กๆของเขาเทออกมา และกล่าวอย่างจริงจัง

ทำสิ ต่อหน้าข้าเดี๋ยวนี้

เสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและมีความสุข ราวกับว่าเขาไม่คิดว่าหยางเฉินจะโป้ปด

ระหว่างที่ไม่ได้พบกันมานาน ดูเหมือนว่าจะทำให้จูเฉินเตามีความก้าวหน้าขึ้น  แม้หยางเฉินจะไม่สามารถบ่งบอกระดับการบ่มเพาะของจูเฉินเตา แต่เห็นได้ชัดว่าลมปราณดูแข็งแกร่งขึ้น อาจกล่าวได้ว่าทักษะการควบคุมไฟของหยางเฉินมีส่วนช่วยให้เขามีความเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น ส่งผลไปถึงพลังที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

ถึงแม้ประมุขพระราชวังไม่ได้เอ่ยอันใด แต่สายตาที่จ้องอยู่นั้น เต็มไปด้วยการชื่นชมต่อศิษย์ภายนอก ศิษย์ภายนอกหยางเฉินสร้างความประหลาดใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก

นอกเหนือจากผู้ดูแลหอโอสถและประมุขพระราชวัง หยางเฉินพบว่ายังมี ซีเชิงซิน ผู้ดูแลหอฑูตต่างแดนของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ ทุกคนมองมาที่หยางเฉิน ซีเชินซินพยักหน้าเล็กน้อยราวกับเชารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

แม้ว่าสมุนไพรเหล่านี้ไม่อาจเปรียบเทียบกับผลไม้หยางล้ำเลิศ แต่นับว่าเหลือเฟือสำหรับการปรุงยาเม็ดลมปราณ

หยางเฉินไม่ได้โต้แย้งอันใด เขานำเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณออกมา จัดแจงวางลงบนลานและเตรียมกลั่นสกัดยา เขามีทีท่าตั้งใจกลั่นสกัดยานั่นคือด้านที่ท่านผู้นำเห็น ในทางตรงกันข้ามหยางเฉินไม่ได้เกิดความกังวลว่าจะเกิดผิดพลาดอะไรเลยแม้แต่น้อย

ท่านผู้นำและจูเฉินเตาจ้องมองเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณด้วยตาเป็นประกาย มันเป็นที่แน่ชัดว่าด้วยเตาหลอมนี้ได้ถูกปรับแต่งแล้วอย่างแท้จริง เนื่องจากเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณนี้เป็นอาวุธวิเศษซึ่งได้รับการปรับแต่งแล้ว นอกจากหยางเฉินแล้วไม่มีผู้ใดสามารถใช้มันได้อีก

มันเป็นเตาหลอมที่จูเฉินเตามอบเป็นของขวัญแก่หยางเฉิน ดังนั้น .. เพียงชำเลืองมอง จูเฉินเตา บอกกับตัวเองได้เลยว่าสมรรถนะของเตาได้ยกระดับสูงขึ้นมาก ในช่วงเวลาสั้นๆ ของปีนี้ เขาได้แต่รู้สึกเสียใจที่ดูเหมือนเขาจะเริ่มแก่แล้ว

ยาเม็ดลมปราณเป็นยาแก้โรคได้ทุกชนิดแต่มีระดับต่ำกว่ายาอายุวัฒนะมากนัก ยิ่งเป็นยาระดับหนึ่งการปรับแต่งง่ายมาก และเหมาะกับศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณ แม้แต่จูหลินผู้รับใช้ของเขาซึ่งไม่นับเป็นผู้มีพรสวรรค์อันใด ยังเคยทำมาแล้ว สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อสร้างรากฐานแล้วย่อมไม่ใส่ใจยาประเภทนี้

แต่ว่า..ยาเม็ดลมปราณระดับสองย่อมเป็นอะไรที่แตกต่าง เมื่อผ่านการปรับแต่งอีกครั้ง มันไม่ได้ด้อยกว่ายาบ่มเพาะระดับผลิดอกที่ถูกใช้โดยผู้เชี่ยวชาญระดับก่อสร้างรากฐาน แม้ต้นทุนการผลิตจะลดลง แต่ประภาพก็สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยาบ่มเพาะระดับผลิดอก

ภายใต้การเฝ้าดูของประมุขพระราชวังและผู้ดสองตำหนัก หยางเฉินยังคงทำไปเรื่อยๆอย่างไม่มีความตึงเครียดแต่อย่างใด หลังจากจัดการกับกองสมุนไพร เขาก็ก้าวเข้าหาเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ และเริ่มการปรับแต่ง

ในชีวิตครั้งก่อน เขาไม่เคยปรับแต่งยาเม็ดลมปราณ แต่ในชีวิตนี้เขาทำมาหลายสิบครั้งแล้ว ด้วยประสบการณ์สองชีวิต เขาจึงรู้อย่างแจ่มแจ้ง ผู้เฝ้าดูอยู่ด้านข้างมองหยางเฉินที่มือหนึ่งถือเตาหลอม ขณะมืออีกข้างควบคุมเปลวไฟ ขั้นตอนการใส่สมุนไพร ทีละอย่างทีละอย่าง  อย่างชำนาญและเรียบง่าย เมื่อเห็นการทำงานของเขาอย่างเงียบๆภายใต้แรงกดดันของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามจึงพยักศีรษะยอมรับต่อภาพที่กำลังเกิดขึ้น

 จูเฉินเตาและซีเชิงซินเคยเห็นการปรุงยาของหยางเฉินมาแล้วจึงไม่มีความประหลาดใจใดๆ  ..แต่ นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านผู้นำเห็นทักษะการควบคุมไฟที่เกือบจะสมบูรณ์ของหยางเฉิน  สีหน้าของเขาจริงจังจนไม่มีใครรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง หยางเฉินก็ปรุงยาเม็ดลมปราณเรียบร้อย แต่สมุนไพรที่จูเฉินเตาตระเตรียมมามีมากพอที่จะปรุงยาหรือปรับแต่งเพื่อยกระดับของเตาหลอมด้วยทักษะที่เขาสะสมมา เขานำยาเม็ดลมปราณนับร้อยจากเตาหลอมแล้วทำความสะอาดของเสียที่อยู่ตกค้างในเตา แล้วเขาก็เข้าสู่การปรับแต่งยาเม็ดลมปราณระดับหนึ่งในเตาหลอมอีกครั้ง

ตอนนี้เขาไม่ได้เพิ่มสมุนไพรเป็นพิเศษแต่อย่างใด แต่ใช้ทั้งสองมือจับเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ และเริ่มควบคุมความหนาแน่นของเปลวไฟ ..อย่างช้าๆยาเม็ดลมปราณระดับที่หนึ่งเริ่มได้รับการชำระล้าง

การชำระล้าง(สิ่งปนเปื้อน) ของเม็ดยาเป็นอะไรที่พิถีพิถัน ถ้ามีความเผลอเรอแม้เพียงแวบเดียว เปลวไฟอาจเผาเม็ดยาให้กลายเป็นผง หยางเฉินได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในขณะนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาทั้งหมดรู้สึกต้องกลั้นลมหายใจด้วยความกังวลว่าจะไปรบกวนหยางเฉิน หยางเฉินเป็นเพียงศิษย์ระดับรวบรวมลมปราณ  แต่เขากลับประสบความสำเร็จในการชำระล้างครั้งนี้ แม้แต่แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับก่อสร้างรากฐานก็ยังต้องระมัดระวังอย่างมากในการชำระล้างเม็ดยา

หยางเฉินยังคงต้องใช้เวลาอีกแปดชั่วโมงเพื่อทำมันบริสุทธิ์มากขึ้น  ทุกคนในที่นี้ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใด ที่จะรบกวนเขาตั้งแต่ต้นจนจบ

เปลวไฟเรียวเล็กลามเลียไปตามผิวเม็ดยา พลังจิตวิญญาณที่หมุนเวียนภายในเตาหลอม ชักนำให้สิ่งปนเปื้อนค่อยไหลออกจากเตาหลอม กระบวนการเหล่านี้ได้ใช้เวลาแปดชั่วโมงจึงจะเสร็จสมบูรณ์ หยางเฉินก็ใช้กลวิธีของเขาในการนำเม็ดยาออกจากเตาและบรรจุลงในขวดหยก

เมื่อเสร็จสิ้นการปรับแต่ง จูเฉินเตาคว้าขวดหยกจากมือของหยางเฉิน เขาหยิบยาออกมาส่วนหนึ่ง ก่อนที่จะยื่นให้ประมุขพระราชวัง และจูเชิงซินคนละเม็ด และมือของเขากำลังถือเม็ดยาเม็ดหนึ่ง จากยาจำนวนมากในมือของเขา

หลังจากการปรับแต่งครั้งที่สอง ยาเม็ดก็มีขนาดหดลง และผิวเรียบลื่นให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมยินดียามสัมผัส บนผิวด้านนอกของเม็ดยามีเส้นบางๆเหมือนเส้นเลือดดำล้อมรอบตัวยา กลิ่นหอมสมุนไพรที่อยู่ด้านนอกเม็ดยาจางลงเล็กน้อย แต่นั่นก็เป็นเพราะกลิ่นที่แท้จริงได้ถูกผนึกไว้ภายใน

วิธีทดสอบของจูเฉินเตาโยนยาเม็ดลมปราณระดับสองนี้เข้าปาก  หลับตา เริ่มใช้สัมผัสตรวจสอบ
ประมุขพระราชวังและจูเชิงซิน หยุดการสำรวจเม็ดยา พุ่งความสนใจไปที่จูเฉินเตา เฝ้ารอให้เขาลืมตา

พลังจิตวิญญาณมากจริงๆ แถมออกฤทธิ์เร็วมาก ..เป็นที่แน่ชัดว่านี่ล่ะยาเม็ดลมปราณระดับสอง
ในเวลาสั้นๆ เขาก็ลืมตาและกล่าววิจารณ์ ..และทันทีที่ได้ยิน ท่านผู้นำและซีเชิงซินตาเป็นประกาย

หลังจากช่วงเวลาสั้นๆที่จูเฉินเตาได้ลืมตาขึ้น และให้การตัดสินถึงคุณสมบัติของเม็ดยา เมื่อประมุขพระราชวังและซีเชิงซินได้ยินก็เผยความยินดีขึ้นที่ใบหน้าของพวกเขา

 “หยางเฉิน  ยาชนิดใดบ้างที่เจ้าปรับแต่งได้?”

หลังจากหายประหลาดใจ ประมุขพระราชวังได้เอ่ยถาม

มีเพียงยาเม็ดสวินฉี และยาเม็ดลมปราณ

ขณะกล่าว หยางเฉินก็ดูมีสีหน้าลำบากใจ เอ่ยต่อ

ก็มียาบางชนิด ที่เพียงแต่เคยดู แต่ยังไม่เคยได้ทดลอง

อาจารย์ที่สอนพลังจิตและความรู้เรื่องยานี่ล้วนอยู่ในหอลี้ลับ ไม่มีใครสอนเจ้า?"

ท่านผู้นำพยักหน้าไม่ได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับเรื่องยา  แต่ถามหยางเฉินในเรื่องอื่นๆ

ใช่ ข้าศึกษาด้วยตัวเอง”  เขาตอบพร้อมพยักหน้ายอมรับ

นี่เป็นการเผยความลับที่ไม่ควรปกปิดอยู่แล้วของตำหนักต้อนรับและตำหนักเก้าปฐพี ยิ่งกว่านั้นหยางเฉินไม่ต้องการเสแสร้งยกความดีให้ซูเฮิงอยู่แล้ว

เอาล่ะ วางใจและไปหลุมดักเซียน จำไว้..แก่นพลังจิตวิญญาณ ที่ได้มันจะเป็นประโยชน์ในภายภาคหน้าต่อถ้ำอมตะของเจ้า

การแสดงออกทางสีหน้าของท่านผู้นำ ยากที่จะคาดเดาในสิ่งที่เขาคิด และน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาก็ไม่ยินดียินร้าย มีเพียงแต่ประโยคสุดท้ายที่เผยถึงความคิดของเขาในขณะนี้


จากนี้เป็นต้นไป หากยังมีผู้ใดพยายามที่จะพูดว่าเจ้าเป็นเพชรฆาตอีก จงฆ่ามันซะ!..ถ้าเจ้าไม่สามารถฆ่ามันได้ด้วยตัวเอง กลับมาที่พระราชวัง วิหารพิทักษ์กฏจะให้ความช่วยเหลือเพื่อกำจัดมัน!

7 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ12 กันยายน 2560 เวลา 06:44

    ให้ท้ายกันเต็มๆ เลยฮะท่านผู้นำ

    ตอบลบ
  2. มีแบ็คที่ใหญ่สักที

    ตอบลบ
  3. มีคนให้ท้ายงี้ก็มันก็จะว้อนทีนหน่อยๆนะ5555

    ตอบลบ
  4. นักปรุงยาไปนิยายเรื่องไหนเป็นได้เฮจริงๆ 555

    ตอบลบ
  5. มีแบ็คหนุนหลังล่ะ แต่ถึงไม่มีก็คงไม่เป็นอะไรอยู่แล้วมั้ง?

    ตอบลบ
  6. ในที่สุดก็กลายเป็นคนสำคัญ

    ตอบลบ