มีคนเคยพูดไว้ว่าความทรงจำต่างๆมากมายจะผุดขึ้นมา
เมื่อเรากำลังจะตาย โดยเฉพาะเรื่องที่เคยทำให้เสียใจ
หยางเฉินก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบกับชะตากรรมนี้
ภาพเหตุการณ์แรกที่แวบเข้ามาในจิตใจของหยางเฉิน
หลังจากที่ถูกใส่ร้าย เขาต้องการที่จะอธิบายแต่เขาไม่มีวิธีที่จะพูดมันออกมา อาการบาดเจ็บสาหัสที่เขาได้รับมันยากที่จะฝืนทน
ส่วนผู้ร้ายตัวจริงนั้นยืนอยู่ตรงหน้าและพูดจาอวดดีใส่หน้าเขา
“ข้านี่แหล่ะที่ฆ่า
ข้าทำมัน แล้วจะทำไม? ถึงตอนนี้แล้วก็คงไม่มีใครเชื่อเจ้า?
เจ้าฆาตกร!” หยางซีแสยะยิ้มขณะที่ยืนอยู่ข้างหน้าหยางเฉินและพูดขึ้นด้วยเสียงดังชัดเจน
“ข้ามีอะไรจะบอก เจ้าคงจะอยากรู้...ข้าปล่อยข่าวออกไป
แล้วเชิญอาจารย์นิกายสรรค์ยิ่งใหญ่...ข้าฆ่าเขา...และข้านี่แหล่ะที่ใส่ร้ายเจ้า แล้วจะทำไม”
“ไอ้สารเลว!”
อาการบาดเจ็บของหยางเฉินหนักขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่สามารถทำอะไรหยางซีได้เลย
ทำได้เพียงพูดขึ้นด้วยเสียงอันอ่อนแรง
“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร?
เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรกับผลไม้สวรรค์หมื่นปีอย่างนั้นเหรอ? ตักน้ำใส่กะโหลกแล้วชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง”
หยางซีระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ว่าเจ้าเป็นผู้ต้องสงสัย
โดยบอกว่าเจ้านั้นละโมบต้องการผลไม้สวรรค์ของท่านอาจารย์ และลอบสังหารเขา
เมื่อนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่รู้เรื่องนี้จึงมอบผลไม้สวรรค์หมื่นปีให้ข้าเป็นรางวัล
จากนั้นจึงทำการไล่ฆ่าเจ้า เจ้าคงต้องโทษตัวเองที่เจ้ามันไม่ทันโลก
และที่เจ้าไม่เชื่อฟังข้า ไม่ยอมปล่อยมือจากผลไม้สวรรค์หลังจากนั้นเป็นยังไง?
ไอ้พวกชาวนาชั้นต่ำที่เป็นแค่ผู้มาอาศัยอย่างเจ้า
คิดจะมายึดเอาผลไม้สวรรค์อย่างนั้นเหรอ เจ้าลูกสำส่อน เจ้าเนรคุณ เจ้ากล้าแม้กระทั่งปฏิเสธข้า?”
........
ภาพเหตุการณ์ที่สองปรากฏ
อาจารย์หญิงผู้งดงามของหยางเฉิน ถูกบังคับโดยปรมาจารย์นิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ที่จะใช้เธอเป็นกระถางปรุงยา
อาจารย์หญิงยอมที่จะตายมากกว่าที่จะยินยอม
“หยางเฉิน...เจ้ารีบหนีไป
ไม่ต้องห่วงข้า จำไว้ไม่ต้องคิดที่จะล้างแค้นให้ข้าในสิบล้านปี....ไป...ไปเดี๋ยวนี้
เจ้าต้องอยู่รอด!” และแล้วอาจารย์ผู้งดงามก็ได้จากไป แม้ขณะที่เขากำลังจะตายเขายังจำได้ถึงสายตาของผู้เป็นอาจารย์ได้ดี
มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด
“ท่านอาจารย์
มันเป็นความผิดของข้าเอง ข้าทำให้ท่านต้องตาย” หยางเฉินคุกเข่าให้กับอาจารย์หญิงแล้วร้องไห้อย่างขมขื่น
เพื่อผลประโยชน์จากผลไม้สวรรค์เพียงผลเดียว
หยางซีถึงกับใส่ร้ายหยางเฉิน และตอนนี้มันเกี่ยวข้องแม้กระทั่งกับนิกายของเขาเอง
ปรมาจารย์นิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่นั้นได้ค้นพบโดยไม่คาดคิดว่า
อาจารย์ผู้งดงามของหยางเฉินนั้น แท้จริงแล้วเธอนั้นเกิดมาพร้อมรากจิตวิญญาณที่สมบูรณ์อันหาได้ยาก
จึงได้ตัดสินใจที่จะนำเธอไปเป็นกระถางปรุงยาของเขา สี่นักบ่มเพาะพลังระดับผลิดอก จากนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ได้ล้อมรอบพระราชวังหยางบริสุทธิ์ไว้
ตอนนี้ไม่มีถนนขึ้นไปบนฟ้า ไม่มีประตูทะลุลงดิน ไม่มีทางที่จะหนีไปได้
“หยางเฉิน
เจ้าไปซะ” อาจารย์หญิงผู้งดงามส่งสายตาที่มั่นคงไปยังเขา ด้วยสุดยอดเคล็ดวิชาโลหิตหลบหนี
ได้ส่งให้หยางเฉินหนีออกจากวงล้อมไปได้ และภาพสุดท้ายที่เห็นคืออาจารย์หญิงได้ทำลายระดับพลัง
ผลิดอก ของตัวเอง
“ท่านอาจารย์!”
หยางเฉินคร่ำครวญอย่างน่าอนาถที่สามารถได้ยินเป็นระยะไกลหลายสิบลี้
.....
ภาพเหตุการณ์ที่สามได้ปรากฏ
มันเป็นช่วงเวลาหลังจากที่หยางเฉินมีอำนาจ ก่อนหน้านี้หยางเฉินได้พยายามอย่างมากในการฝึกบ่มเพาะพลังจนในที่สุดเขาก็มีอำนาจมากขึ้น
เขาได้ฝึกอย่างหนักเพื่อการแก้แค้นและเขาก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้ว
แต่เขาไม่คาดคิดว่าสุดท้ายแล้วเขายังต้องอยู่ตัวคนเดียว และจะต้องเผชิญหน้ากับนิกายอื่นๆที่คล้ายกับนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่
เขานั้นไร้ซึ่งผู้ช่วยหรือผู้สนับสนุนใดๆ และในที่สุด สิ่งที่เขาทำได้คือพยายามขึ้นไปเพื่อมีอำนาจที่มากยิ่งขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาขึ้นมามีอำนาจ
เขายังต้องเผชิญหน้ากับผู้สนับสนุนนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งจิตวิญญาณและโลกแห่งนิรันดร์
“อำนาจของเจ้า
มันก็คือขยะดีดีนี่เอง ข้าจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับใครก็ตามที่จะต่อกรกับข้าจะได้รู้ว่าจะพบจุดจบเช่นไร”
ผู้ซึ่งเป็นอดีตปรมาจารย์นิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่
ปัจจุบันเป็นรองอาจารย์นิกายสวรรค์ล้ำเลิศ ส่งเสียงข่มขู่คุกคามมายังหยางเฉิน
ทุกคนสามารถมองเห็นสถานการณ์อันน่าอนาถของหยางเฉิน
นิกายสวรรล้ำเลิศนั้นทรงพลังอย่างมาก ทุกคนกลัวเกินกว่าที่จะมีปากเสียง
มันสามารถเป็นบทเรียนให้กับทุกคน และหยางเฉินนั้นทุกข์ทรมานราวกับได้เผชิญมานับพันปี
.....
จากนั้นไม่นาน
ความทรงจำของหยางเฉินก็ปรากฏภาพเมื่ออาจารย์หญิงได้มอบดาบบินอันแรกให้กับเขา
“หยางเฉิน นี่เป็นดาบประกายแสง
ข้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ เจ้ามีพรสวรรค์ที่ดีจงตั้งใจฝึกฝนต่อไป!” นิ้วมือที่เรียวยาวผิวเรียบลื่นดังหยกชั้นดีได้ส่งมอบดาบให้กับเขา
มันเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขบนเส้นทางของการบ่มเพาะพลัง
ฉากนั้นได้หยุดค้างพร้อมกับความเจ็บปวดกำลังเสียดแทงเขา
หยางเฉินส่งเสียงร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“อ้าก...”
หยางเฉินยังคงส่งเสียงร้องอันเจ็บปวดต่อไป
มันทำให้ฝูงชนแตกตื่น
“ใครกันที่กล้าส่งเสียงรบกวนออกมา?” เสียงที่แฝงด้วยอารมณ์โกรธดังออกมา จากนั้นไม่นานปรากฏเงามนุษย์คนหนึ่งออกมาอย่างช้าๆ
เขากำลังจ้องมองหยางเฉินที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน
“เนื่องจากเจ้าส่งเสียงรบกวนที่หน้าประตูนิกายอย่างไม่มีเหตุผลมันช่างหยาบคายยิ่งนัก
สิ่งที่เจ้าทำมันทำให้เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมการทดสอบรากจิตวิญญาณในวันนี้!”
หยางเฉินยังไม่มีเวลาที่จะเห็นได้ชัดว่า
คนที่ปรากฏต่อหน้าเขารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ชายคนนั้นก็ทำการโบกชายแขนเสื้อมันทำให้ร่างของหยางเฉินปลิวลอยไปในอากาศ
แขนและขาแกว่งอย่างไร้ทิศทาง บินออกไปจากสถานที่แห่งนี้
“ตูม” หยางเฉินร่วงหล่นสู่พื้นเสียงดังสนั่น
ผ่านไปนานเขาก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้
เขารู้สึกถึงความเจ็บนั่นหมายความว่าเขายังมีชีวิตอยู่
เขารอดตายจากเคล็ดสุดยอดปีศาจระเบิดร่างของมารเฒ่าอี้ได้ยังไง?
มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ทำไมเขารู้สึกเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย? เมื่อไหร่กัน
หยางเฉินรู้สึกดีใจ ขณะที่เขาพยายามจะเดินลมปราณเพื่อรักษาบาดแผล เขากลับพบว่าในร่างกายของเขาไม่มีพลังเวทหลงเหลืออยู่เลย
มันยากที่จะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น หยางเฉินได้พยายามอีกครั้ง
มันก็ยังส่งผลออกมาเช่นเดิมเขาได้สูญเสียพลังเวททั้งหมด? มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขาในทันที
อัตราการเต้นหัวใจของเขาเร็วขึ้น ทันใดนั้นหยางเฉินคิดถึง...ประตูนิกาย? ทดสอบรากจิตวิญญาณ? มันคือนรกอะไรกัน?
ณ ขณะนี้หยางเฉินพบว่าเขาไม่ได้อยู่ในสนามรบการต่อสู้ของเหล่าปีศาจชั่วร้ายในโลกแห่งนิรันดร์
แต่สถานที่นี้มันแปลกมาก บริเวณรอบๆมีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเขียวชะอุ่ม
เนินเขา ลำธารที่มีน้ำใสแจ๋ว หมอกที่ลอยอยู่ในอากาศ มันเป็นสถานที่ที่ดีเหมาะแก่การฝึกบ่มเพาะ
ขณะที่เขาพยายามที่จะลุกขึ้นด้วยเท้าทั้งสองข้างของเขา
หยางเฉินพบว่าตัวเองสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบ เมื่อสัมผัสบริเวณเอวเขารับรู้ถึงมีดตัดไม้
บูมมม...จิตใจของหยางเฉินระเบิดเหมือนฟ้าผ่า
ทันใดเขาก็เข้าใจว่านี่เป็นการทดสอบรากจิตวิญญาณของนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ ในวันที่เขากำลังเผชิญกับเคล็ดมารเฒ่าอี้ระเบิดร่าง
เขายังไม่ตาย แต่เขากลับย้อนไปในวัยเด็กของเขา
"นี่คือด้านนอกประตูนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ในโลกมนุษย์!"
จากสิ่งที่เขามองเห็น ดูเหมือนว่าเขาจะย้อนเวลามาเกิดใหม่เมื่อ หมื่นปีที่แล้ว
และเขาได้หลงลืมคนเหล่านั้นไปเกือบหมดแล้ว
แต่ไม่ว่านานแค่ไหน เวลาก็ไม่สามารถกำจัดความเกลียดชังของเขาที่มีต่อนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ออกไปได้
หยางซีได้เข้าร่วมนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่หลังจากนั้นได้ฆ่าปรมาจารย์นิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่
แต่ทว่าใส่ร้ายเขา... ทุกอย่างยังคงฝังอยู่ในใจ...
ความทุกข์ทรมานทั้งหลายที่เกิดขึ้น มันเกี่ยวข้องกับนิกายนี้!
จากอมตะทองคำที่ยิ่งใหญ่กลับมายังโลกมนุษย์ หยางเฉินไม่รู้ที่จะอธิบายความรู้สึกของเขานอกเหนือจากความเกลียดชังออกมาได้อย่างไร
แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอน เขายังมีชีวิตอยู่ หนึ่งแสนวันสวรรค์ของเขาได้หายไป
ตอนนี้อย่างน้อยเขายังมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญมากที่สุด
คนที่ชกเขานั้นเป็นแค่คนที่มีฝีมือในการชกต่อยที่ธรรมดาอย่างน้อยเขาสามารถลุกนั่งได้
ถึงแม้ว่าจะยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ในเวลานี้ มันดูเหมือนมีบางสิ่งดึงเขาไว้
จนกระทั่งกลุ่มคนจำนวนหลายสิบคนเดินออกมาจากประตูนิกายแล้วตรงมาทางเขา
มันทำให้หยางเฉินรู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มผ่อนคลาย จากนั้นจึงสามารถลุกขึ้นยืนได้
"โชคร้ายจริงๆ!
"ข้าพลาดอีกแล้วปีนี้!"
เสียงถอนหายใจดังออกถี่ๆ
มันดังมาจากฝูงชนที่เพิ่งออกมาจากประตูนิกาย สองสามคนที่อยู่ในรุ่นเดียวกันนั้นมาจากหมู่บ้านเดียวกันกับหยางเฉิน
ในขณะที่มองเห็นหยางเฉินพยายามที่จะลุกขึ้น พวกเขารีบวิ่งเข้ามาช่วย
"ดีอย่างน้อยข้าก็มีโอกาสที่จะลอง เฉินเอ๋อโชคร้าย
วันนี้เขาไม่มีแม้แต่จะได้รับโอกาส!" ชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่ามีหัวใจที่อบอุ่น
ปัดฝุ่นให้กับหยางเฉินขณะที่พูด
"ดี ไปกันเถอะ แล้วเราจะกลับมา!" ไม่มีใครที่ได้รับโอกาสในวันนี้ และเมื่อทุกคนตามมาเขาก็พูดว่า "เรายังคงต้องเดินทางกลับบ้านอีกหนึ่งเดือน ไปกันเถอะ! ในปีหน้าอาจจะยังมีโอกาส!"
"ลืมมันไปซะ
โชคชะตาของรากจิตวิญญาณอมตะคือโชคชะตาแห่งสวรรค์ ไม่ได้ในปีนี้ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ในปีหน้า
มันไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน" ขณะที่เดินไปบนถนน
พร้อมกับที่ใครบางคนถอนหายใจ
"อย่าพูดอย่างนั้น รากจิตวิญญาณจะต้องอาศัยช่วงเวลาที่ดี
เมื่อร่างกายเติบโตขึ้น รากกระดูกก็จะปรากฏออกมาในบางเวลา บางทีเวลาการเติบโตของข้าอาจจะเป็นปีนี้
ดังนั้นข้าก็จะมีโชคชะตาของรากจิตวิญญาณอมตะในปีหน้า!" พูดตามตรง
คือคนเราก็เต็มไปด้วยความหวังเกี่ยวกับร่างกายของเขาเอง
"ปีนี้หยางซีและหยางลานนี่โชคดีจริงๆ ตอนนี้ท่านอาจารย์อาวุโสหยางนั้นโดดเด่นเป็นอย่างมากที่หลานชายและหลานสาวของเขาทั้งคู่นั้นมีการบ่มเพาะพลังรากจิตวิญญาณ"ท่ามกลางความผิดหวัง และมีบางคนที่ประสบความสำเร็จมันย่อมเป็นปกติที่ทุกคนจะพูดขึ้นมาด้วยความอิจฉา
หยางซีและหยางลาน หยางเฉินเคยได้ได้ยินทั้งสองชื่อ
ความทรงจำที่เต็มไปด้วยฝุ่นถูกปัดขึ้นมาอีกครั้ง
มันถูกดึงขึ้นมาจากส่วนลึกของความทรงจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หยางซี
หยางเฉินเกลียดเข้ากระดูก ถ้าไม่ใช่มันอาจารย์ของเขาก็คงไม่ต้องติดร่างแหไปด้วย
ถ้าไม่ใช่มันหยางเฉินก็ไม่ต้องอยู่อย่างอัปยศอดสูต้องมีชีวิตอยู่อย่างหลบซ่อนและต้องร้องขอความเมตตาจากผู้อื่น
อาจพูดได้ว่าความอัปยศอดสูมากกว่าครึ่งหนึ่งมันมาจากหยางซีนี่เอง
โชคดีที่หยางเฉินมาเกิดใหม่ในช่วงเวลานี้ มันเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะเริ่มฝึกบ่มเพาะ
นั่นก็หมายความว่ามีความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเขาได้ ระหว่างที่เดินกลับหมู่บ้านตามหลังทุกคน
หยางเฉินได้วางแผนการณ์มากมายไว้ในใจ
เขาค่อนข้างโชคดีที่ถูกเหวี่ยงออกมาจากประตูนิกายเพราะเสียงร้องของเขา
ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับผู้ที่มาจากนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะข่มความโกรธไว้ได้อย่างไร ในตอนนี้เขาไม่มีพลังเวทใดๆ เขาสู้ไม่ได้แม้กระทั่งลูกศิษย์ชั้นต่ำสุด
หยางเฉินไม่สนใจแม้จะไม่ถูกเลือก จากความทรงจำในช่วงเวลาหลายหมื่นปีที่ผ่านมาของเขามันเต็มไปด้วยประสบการณ์การบ่มเพาะ
การที่จะเข้าสู่นิกายหรือไม่ ก็ไม่ได้มีความหมายอันใดสำหรับเขา
ครั้งหนึ่งในชีวิตของหยางเฉินเคยอยู่ในระดับสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิม
ดังนั้นไม่มีอะไรเลยที่จะมีผลต่อความรู้สึกของเขาไม่ว่าจะเมื่อตอนมีชีวิตในก่อนหน้านี้
หรือตอนที่บรรลุโลกแห่งนิรันดร์
นิกายในโลกมนุษย์นอกจากพระราชวังหยางบริสุทธิ์แล้วจะมีที่ใหนที่อยู่ในสายตาของหยางเฉิน?
จะเป็นอย่างไรหากหยางเฉินไม่เข้าสู่โลกแห่งนิรันดร์โดยการอาศัยประสบการณ์การบ่มเพาะในชีวิตเช่นที่ผ่านมาของเขา?
อย่างแย่ที่สุด เขาก็จะเดินตามทางเหมือนในชีวิตที่ผ่านมา ได้รับสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิมอีกครั้ง
แต่เขาไม่อยากจะเดินตามทางเส้นเดิม? ถูกใส่ร้ายโดยหยางซี
ถูกตามล่าโดยนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ ถูกเหยียบย่ำโดยนิกายสวรรค์ล้ำเลิศ? เมื่อสิ่งเหล่านี้ผ่านมาในสมอง ความคิดอันเฉียบแหลมก็ผุดขึ้นมาภายในใจของเขาทันที
ก่อนที่มารเฒ่าอี้จะระเบิดร่าง
มันได้บอกสิ่งต่างๆมากมาย ก่อนที่จะเตรียมตัวตายพร้อมกันกับหยางเฉิน มันบอกแม้กระทั่งเคล็ดวิชาปีศาจที่ใช้ในการปรับปรุงรากจิตวิญญาณก่อนการบ่มเพาะ
มารเฒ่าอี้นั้นอาละวาดในโลกแห่งนิรันดร์มาหลายศตวรรษ
ทหารแห่งสวรรค์นับหมื่นและเหล่าแม่ทัพไม่อาจจะทำอะไรมันได้ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ถูกหักหลังจากคนทรยศ
วางกับดักปล่อยตาข่ายโดยทหารแห่งสวรรค์นับแสนนายที่ล้อมจับมัน แต่กระนั้นมันก็ยังสามารถสร้างแม่น้ำเลือดขึ้นมาจนได้
สุดท้ายแล้วเมื่อมันได้รับบาดเจ็บสาหัส มันได้ใช้สุดยอดเคล็ดวิชาปีศาจระเบิดร่าง
เพื่อที่จะฆ่าทหารสวรรค์นับแสนให้ตายตกไปกับมันด้วย
เหตุผลว่าทำไมมารเฒ่าอี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในโลกแห่งนิรันดร์
เพราะหนึ่งในห้าธาตุของมัน รากจิตวิญญาณธาตุไฟ มันเป็นรากจิตวิญญาณอันสมบูรณ์
โชคดีที่หยางเฉินรู้จักวิธีเพิ่มระดับรากจิตวิญญาณ นอกจากนั้นเขายังมีรากจิตวิญญาณธาตุไฟ
ณ ขณะนี้เขายังไม่ได้เริ่มบ่มเพาะ นี่ไม่ใช่สวรรค์ให้โอกาสนี้กับเขาหรอกหรือ?
ด้วยความคิดนี้ทำให้หัวใจของหยางเฉินเต้นแรง ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่เขามีอำนาจในโลกจิตวิญญาณและขึ้นมามีอำนาจในโลกแห่งนิรันดร์
เขายังไม่ได้ลืมความตื่นเต้นเช่นนี้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ยังเป็นภาวะที่กลับตัวก็ไม่ได้จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึง
เคล็ดวิชาปีศาจมันก็คือการฆ่าคนเพื่อดูดซับแก่นพลังชีวิต
เพื่อเสริมรากจิตวิญญาณให้กับตัวเอง
ตัวหยางเฉินเองเป็นสุดยอดอมตะทองคำดั้งเดิมที่กลับมาเกิด
นี่ข้าต้องฝึกเคล็ดวิชาปีศาจ? มารเฒ่าอี้นั้นฆ่าคนนับหมื่น
มันจำเป็นจริงๆหรือที่จะต้องฆ่าคนนับหมื่นเพื่อการฝึก? หากใช้ประสบการณ์ของข้าที่ผ่านมานับหมื่นปี
ความแตกต่างแบบไหนที่จะสามารถเป็นไปได้?
จิตใจด้านหนึ่งต้องการฆ่าเพื่อเพิ่มรากจิตวิญญาณ
อีกด้านหนึ่งคือการฝึกตามปกติทั้งสองความคิดในใจของหยางเฉินใจไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้
(TL: กลับมาที่ด้านมืดของจิตใจ)
"เจ้าลืมไปแล้ว? หยางเฉินเจ้าลืมได้มันอย่างไร"เสียงพูดดังขึ้นมาในหัวของเขา
"เจ้าลืมแล้วเหรอว่าอาจารย์ของเจ้าต้องอับอายจนต้องฆ่าตัวตาย?
เจ้าลืมวิธีที่หยางซีใส่ร้ายเจ้าและเจ้าก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้สักอย่างเดียว?
หลังจากนั้นนิกายสวรรค์ล้ำเลิศยังทำกับเจ้า ราวกับเจ้าเป็นข้าทาส
และสร้างความอับอายให้กับเจ้า? เจ้าคงไม่ได้ลืมทุกอย่างไปหมดแล้วนะ?
เจ้ามันขี้ขลาด ชีวิตที่ผ่านมานั้นเจ้าเป็นพวกขี้แพ้ แล้วเจ้าจะยังต้องการใช้ชีวิตเป็นพวกขี้แพ้เช่นเดิม?”
"ไม่...!" หยางเฉินแผดเสียงดังออกมา
เขาย้อนกลับไปยังความทรงจำทั้งหมดมันทำให้หัวใจของเขาขื่นขม อาจารย์หญิงของเขากำลังจะตายไปพร้อมกับดวงตาที่สวยงามของเธอ
หลังจากพวกคนเหล่านั้นที่ดักจับเขาไว้ เหล่ามนุษย์สวรรค์ดูเลวร้ายยิ่งกว่าสุนัขบ้า
สุดท้ายความทรงจำมาหยุดที่อาจารย์หญิงถือดาบประกายแสงและมอบมันให้กับเขา
"ไม่!" ช่วงเวลาแห่งความยินดีนี้ข้าไม่อนุญาตให้ใครก็ตามมาทำลาย
"ปล่อยให้เป็นภาระของข้า แม้ว่าข้าจะกลายเป็นปีศาจ ข้าก็จะปกป้องท่าน
นับจากนี้ไปท่านจะมีความสุขและปลอดภัย"
หลังจากกล้ำกลืนฝืนทนมานับหมื่นปีในชีวิตที่ผ่านมา
หลังจากที่ตัดสินใจเด็ดขาด หยางเฉินสงบลงทันที มองไปที่ประตูสูงใหญ่ของนิกายสวรรค์ยิ่งใหญ่ด้วยสายตาเยาะเย้ย
เขาหัวเราะอย่างเย็นชาและจากไป
"ท่านอาจารย์ ท่านรอข้าก่อน รอข้ากลับไปที่นิกายของท่านอีกครั้ง เหตุโศกนาฏกรรมที่ผ่านมา มันจะไม่เกิดขึ้นอีก" หยางเฉินตะโกนก้องอยู่ในใจ เขาสาบานออกไปว่า "ชีวิตที่แล้วท่านช่วยข้าด้วยทุกสิ่งที่ท่านมี ในชีวิตนี้ข้าจะช่วยส่งเสริมท่านให้ถึงสวรรค์!"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น