เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2564

MRHAN 001-005

 MRHAN 001 เธอต้องหนี

 

 

 

หลู่หม่านกำลังนอนลงบนพื้นอย่างหมดกำลัง สภาพแวดล้อมรายล้อมไปด้วยเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา ในขณะที่เธอมองดูคนรักในวัยเด็กอุ้มน้องสาวของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

 

"เ**ย!" หลู่หม่านจ้องไปที่คู่รักไร้ยางอายที่อยู่ข้างหน้าเธอ

 

“พี่สาว คุณติดคุกไปแล้ว และคุณก็จะไม่มีอนาคตที่ดี แม้ว่าคุณจะได้รับการปล่อยตัวออกมาแล้วก็ตาม แม่ของคุณก็ตายไปแล้วด้วย ไม่มีใครในโลกที่ห่วงใยคุณอีกต่อไป แล้วจะเป็นอย่างไร ยังจะมีประโยชน์อะไรกับการมีชีวิตอยู่ต่อไป?"

 

“คุณสองคนวางแผนเพื่อทำให้ฉันเข้าคุก ทำให้แม่ของฉันเสียชีวิต และตอนนี้เธอก็ต้องการชีวิตของฉันด้วย!” ร่างกายของหลู่หม่านอ่อนแอ และดวงตาของเธอก็แดงก่ำด้วยความโกรธ

 

“เธอสมควรได้รับทั้งหมดนี้” เหอเจิ้งไป๋กล่าว “ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอจะต้องบอกคนอื่นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอทำลายสิ่งที่เรามีในตอนนี้”

 

“หลับให้สบายนะพี่สาว พ่อรู้เรื่องนี้หมดแล้ว และได้เตรียมสถานที่ฝังศพอันเป็นมงคลไว้แล้วด้วย เขาจำสิ่งที่พี่ทำเพื่อตระกูลหลู่ได้ และจะไม่ทำร้ายพี่แม้หลังจากที่พี่ตายไปแล้ว” หลู่ฉีกล่าวอย่างอ่อนโยน

 

หลู่หม่านหัวเราะดัง ๆ ดวงตาของเธอแดงก่ำ

 

นั่นคือพ่อที่ให้กำเนิดของเธอเอง แต่สำหรับหลู่ฉี เขาต้องการที่จะฆ่าลูกสาวของเขาเองด้วยซ้ำ!

 

พ่อและคนรักในวัยเด็กของเธอคือผู้ชายที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ

 

ทว่าพ่อของเธอยอมรับหลู่ฉีว่าเป็นลูกสาวของเขาเท่านั้น ในขณะที่คนรักในวัยเด็กของเธอก็ถือว่าหลู่ฉีเป็นสมบัติ ในขณะที่ห่วงใยเธอเพียงเล็กน้อย

 

และตอนนี้ทั้งสองคนอยากให้เธอตาย!

 

เมื่อเห็นเศษแก้วที่อยู่ข้างมือของเธอ ทันใดนั้นหลู่หม่านก็กดมือของเธอลงบนพวกมัน ความเจ็บปวดรุนแรงที่แผ่ซ่านผ่านฝ่ามือของเธอทำให้จิตใจของเธอปลอดโปร่ง

 

หลู่หม่านกัดฟันของเธอ ก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่หลู่ฉีอย่างกะทันหัน

 

หลู่ฉีกรีดร้อง เมื่อถูกหลู่หม่านผลักลงมา

 

“หลู่หม่าน ปล่อยเธอ!” เหอเจิ้งไป๋ตะโกนเสียงดัง มุ่งหน้าไปช่วยหลู่ฉี

 

หลู่หม่านใช้กำลังทั้งหมดของเธอเพื่อดึงหลู่ฉีเข้าไปในเปลวไฟและอ้าปากเพื่อกัดหูของหลู่ฉี

 

หลู่ฉีส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา

 

เลือดไหลออกจากซอกฟันของหลู่หม่าน พร้อมกับกล่าวว่า "ในเมื่อแกต้องการให้ฉันตาย เช่นนั้นก็มาตายไปพร้อมกับฉันด้วย!"

 

“ไม่ ปล่อยฉัน! พี่เหอ ช่วยฉันด้วย!” หลู่ฉีกรีดร้องด้วยความกลัว อย่างไรก็ตาม เปลวเพลิงได้เริ่มกลืนกินทั้งหลู่หม่านและหลู่ฉีแล้ว

 

ขณะที่เหอเจิ้งไป๋รีบวิ่งไป ตู้เสื้อผ้าที่โดนไฟไหม้ก็ตกลงมาที่เขา

 

หลู่หม่านเห็นสีหน้าของเหอเจิ้งไป๋บิดเบี้ยวด้วยความกลัว ขณะที่เขาติดอยู่ใต้ตู้เสื้อผ้า

 

ด้วยใบหน้าแดงก่ำ จากเงาสะท้อนของเปลวเพลิง หลู่หม่านจึงสาปแช่ง "พวกแกทั้งสองสมควรที่จะตายอย่างน่าสยดสยอง"

 

ในที่สุดเธอก็ใช้กำลังสุดท้ายของเธอดึงหลู่ฉีเข้าไปในเปลวไฟด้วยกำลังของตัวเธอเอง

 

 

***

 

หลังจากที่หลู่หม่านเปิดเปลือกตาขึ้น พร้อมกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ราวกับมาเธอเพิ่งมาจากขุมนรก แต่ทว่า เธอกลับรู้สึกตกใจเมื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเธอในขณะนี้

 

เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องพักในโรงแรม และบนพรมห่างจากเธอประมาณ 4 ถึง 5 ฟุต มีชายคนหนึ่งนอนจมอยู่ในแอ่งเลือด

 

ฉากนี้หลู่หม่านรู้สึกคุ้นเคยกับมันอย่างมาก เนื่องจากเธอเคยผ่านสถานการณ์นี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตามนั่นก็ผ่านมาเป็นเวลานานมากแล้ว ราวกับว่ามันเคยเกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ

 

ชีวิตที่ผ่านมาของเธอ…

 

หลู่หม่านรู้สึกสับสนเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้นในทันใด เธอน่าจะตายในกองไฟ แต่ทำไม เธอยังมีชีวิตอยู่ มันเป็นไปได้อย่างไร??

 

เธอยกมือทั้งสองขึ้นและพบว่าตัวเองถือโคมไฟตั้งโต๊ะเปื้อนเลือดอยู่ในมือขวา ด้วยความตกใจ เธอรีบโยนมันทิ้งไป

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งแขนและมือของเธอไม่ได้รับอันตราย ขาวสะอาด และไม่มีรอยขีดข่วนใด ๆ เลย

 

หลังจากมองดูชายคนนั้นอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็สามารถยืนยันความสงสัยของเธอได้ เมื่อเห็นใบหน้าของเขา ว่าเธอกลับมาแล้ว ย้อนกลับมาเมื่อตอนที่เธออายุ 22 ปี

 

ในชีวิตที่แล้วของเธอ ในช่วงเวลานี้ เธอเป็นผู้ช่วยของหลู่ฉี หลู่ฉีเข้าสู่วงการบันเทิงเมื่ออายุ 16 ปี และเมื่อตอนอายุ 20 ปี หลู่ฉีก็กลายเป็นดาราดังไปแล้ว

 

ความฝันของหลู่หม่านไม่เคยที่จะต้องการเข้าสู่วงการบันเทิงมาก่อน และยิ่งน้อยลงไปอีกกับความต้องการที่จะมาเป็นผู้ช่วย เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นนักออกแบบแฟชั่น

 

อย่างไรก็ตาม เพียงเพราะว่าหลู่ฉีอายุน้อยกว่าเธอ 2 ปี และอยากเป็นนักแสดง หลู่ฉีหยวน บิดาผู้ให้กำเนิดของหลู่หม่านถึงกับลงทุนในบริษัทผลิตภาพยนตร์เพียงเพื่อสนับสนุนหลู่ฉี เขายังกลัวว่า 'ผู้บริสุทธิ์' หลู่ฉีจะพ่ายแพ้ในวงการบันเทิงที่ซับซ้อน ดังนั้นเขาจึงบังคับให้หลู่หม่าน ลูกสาวผู้ที่เขาให้กำเนิด ซึ่งเคยเรียนการออกแบบแฟชั่นในเวลานั้น ลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาเป็นผู้ช่วยของหลู่ฉี อันที่จริงทุกคนในบริษัทรู้จักแต่หลู่ฉี ว่าเป็นลูกสาวของตระกูลหลู่ และไม่รู้ว่า หลู่หม่าน เป็นลูกสาวของตระกูล หลู่ เช่นกัน

 

แม้ว่าเธอจะเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลหลู่ ซึ่งเป็นลูกสาวโดยสายเลือดของหลู่ฉีหยวน แต่ทว่ามีแต่หลู่ฉี ที่เข้ามาอยู่ในตระกูลหลู่เท่านั้น เพราะแม่ของเธอแต่งงานเข้าครอบครัวหลู่ ซึ่งได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นทายาทที่แท้จริงของตระกูลหลู่

 

แต่เธอไม่เคยกังวลเรื่องนี้ เพราะเธอยังต้องรักษาอาการเจ็บป่วยของแม่ ถ้าเธอเดินจากไปด้วยความโกรธ จะเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเธอ?

 

ผู้ชายที่กำลังนอนอยู่บนพรมเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง หลู่ฉีต้องการเป็นนางเอกในภาพยนตร์ของเขา และมาที่ห้องของโรงแรมนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับบทบาทนี้

 

มาหารือประชุม ในห้องของโรงแรม หารืออะไรกัน?

 

หลู่ฉีเข้าใจมันอย่างชัดเจน แต่แม้หลู่ฉีหยวนก็ไม่มีอำนาจพอที่จะขอความกรุณาจากผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้

 

แม้ว่าตระกูลหลู่จะร่ำรวย แต่พวกเขายังขาดจุดยืนหยัดในสังคม

 

หลู่ฉีได้เรียกหลู่หม่านให้มาหารือประชุมเช่นกัน แต่เขาแทบจะไม่พูดเลยก่อนที่เขาจะเริ่มสัมผัสหลู่ฉีอย่างไม่เหมาะสม และยังต้องการให้หลู่หม่าน เข้าร่วมด้วย หลู่ฉีจึงตัดสินใจให้หลู่หม่านอยู่ต่อและสร้างความบันเทิงให้กับผู้กำกับด้วย ในขณะที่เธอออกไปก่อน

 

แน่นอนหลู่หม่านปฏิเสธและเริ่มผลักและดันหลู่ฉี ดังนั้นเพื่อให้หลู่หม่าน ปล่อยเธอไป หลู่ฉีได้นำโคมไฟตั้งโต๊ะที่วางไว้บนโต๊ะมาตีหัวของหลู่หม่านจนทำให้หลู่หม่านหมดสติ

 

แต่เมื่อเธอโบกสะบัดโคมไฟไปรอบๆ ปลายโคมไฟที่แหลมเป็นโลหะได้ตวัดไปโดนคอของผู้กำกับจนทำให้เลือดไหลออกมาทันที

 

เมื่อหลู่หม่านตรวจสอบเวลา เธอจำได้ว่าเหลือเวลาอีกประมาณสองนาทีก่อนที่จะมีคนเข้ามาจับกุมเธอ

 

ชีวิตในฝันร้ายของเธอเริ่มต้นจากจุดนั้นเป็นต้นมา

 

เธอต้องหนี!

 

ขณะที่หลู่หม่านกำลังจะปีนออกทางหน้าต่าง เธอก็เห็นโคมไฟตั้งโต๊ะที่วางอยู่ข้างๆเธอ

 

ในชีวิตที่ผ่านมา หลู่ฉีใช้เวลาในตอนที่เธอหมดสติไปเช็ดรอยนิ้วมือของตัวเองออกและเปลี่ยนเป็นลายนิ้วมือของหลู่หม่าน

 

ในชีวิตที่แล้วของเธอ เธอไม่ได้ตื่นไวขนาดนี้ หลังจากที่พนักงานโรงแรมเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็ยังสลบอยู่ และโคมไฟในมือของเธอกลายเป็นหลักฐานว่าเธอได้ทำร้ายผู้กำกับ

 

อย่างไรก็ตาม คราวนี้ หลู่หม่านทำความสะอาดรอยนิ้วมือบนโคมไฟตั้งโต๊ะ และสำรวจบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง ยืนยันว่าไม่มีผมของเธอเหลืออยู่แม้แต่เส้นเดียว

 

เมื่อเหลือเวลาไม่ถึงนาที เธอก็ปีนออกไปทางหน้าต่าง

 

 

 

 

 

MRHAN 002 นี่...คงจะไม่ใช่หานโจวหลี่ใช่ไหม

 

 

 

ขณะที่หลู่หม่านกระโดดออกจากหน้าต่าง ก็มีคนผลักประตูเปิดเข้ามา

 

อย่างไรก็ตาม หลู่หม่านไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป

 

โชคดีที่มีระเบียงนอกหน้าต่างมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเธอที่จะยืนหลังจากที่เธอกระโดดออกไป

 

ทางหน้าต่าง หลู่หม่านเห็นว่าคนในห้องของโรงแรมกำลังวางแผนที่จะตรวจสอบระเบียง เธอจึงเหลียวมองซ้ายขวา และรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าหน้าต่างของห้องพักโรงแรมทางขวาเปิดอยู่

 

เธออดทนต่อความกลัวความสูง เธอปีนขึ้นไปทางหน้าต่างทางขวาของเธอ ปีนเข้าไปอย่างรวดเร็วจนสะดุดและล้มลงบนพรมพร้อมกับเสียงดัง 'ตุบ'

 

เธอกลิ้งตัวไปสองตลบก่อนที่จะหยุดนิ่ง เมื่อจู่ๆ ก็มีเท้าคู่หนึ่งสวมรองเท้าแตะปรากฏอยู่ในสายตาของเธอ

 

เท้าคู่นี้ใหญ่กว่าเธอมาก และเมื่อมองเพียงครั้งเดียวเธอก็สามารถบอกได้ว่าพวกมันเป็นของผู้ชาย เล็บเท้าของเขาถูกตัดแต่งอย่างเรียบร้อย และเมื่อดวงตาของเธอขยับขึ้นไป เธอเห็นน่องที่เปลือยเปล่าของเขา ซึ่งเรียวยาวและตรง แม้แต่ขาท่อนล่างของเขาก็ดูยาวกว่าขาของคนทั่วไป

 

เมื่อยกศีรษะขึ้นอีกนิด เธอก็รู้ว่ามีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายของเขาไว้ ดังนั้นเธอจึงสามารถเห็นกล้ามท้องที่ชัดเจนของเขาได้ ผู้ชายคนนี้มีรูปร่างที่ยอดเยี่ยมจนสามารที่จะทำให้ใครๆ ก็อยากจะโยนตัวเองใส่เขา

 

อย่างไรก็ตาม เธอชะงักเมื่อเห็นหน้าเขา ราวกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า

 

นี่… ไม่ใช่หานโจวหลี่ใช่ไหม

 

ในชาติที่แล้ว เธอไม่มีโอกาสได้เห็นเขาอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ เธอเคยเห็นเขาจากระยะไกลในบางครั้งในฐานะผู้ช่วยของหลู่ฉี

 

หานโจวหลี่ เป็น CEO ของบริษัทหานมีเดีย และมักปรากฏในรายงานข่าวของสื่อ

 

แม้จะมีใบหน้าที่หล่อเหลาและเป็นเจ้าของวงการบันเทิงมากกว่าครึ่ง แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องนินทาว่าเขาอยู่กับดาราสาวคนไหนเลย

 

ดังนั้นเขาจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าเสมอ และหญิงสาวหลายคนที่มีจินตนาการโรแมนติกก็จะถือว่าเขาเป็นสามีในอุดมคติของพวกเขา

 

แต่ทำไมเขาถึงมาที่นี่? เธอครุ่นคิด

 

จะเป็นไปได้ไหมว่าในชาติที่แล้ว เขาจะอยู่ห้องนี้อยู่แล้ว?

 

แล้วเขาเห็นว่าเกิดความวุ่นวาย ในขณะที่เธอถูกตำรวจพาตัวไปหรือไม่?

 

หานโจวหลี่มองดูเธออย่างเย้ยหยัน “ฉันเคยเห็นผู้หญิงหลายคนที่ชอบเหวี่ยงตัวใส่ฉัน แต่ฉันไม่เคยเห็นใครปีนผ่านหน้าต่างมาเพื่อจะจะโยนตัวเองมาที่ฉัน”

 

ขณะที่หานโจวหลี่ก้มลงเล็กน้อย ดวงตาของหลู่หม่านก็ถูกดึงดูดไปยังผ้าเช็ดตัวที่เขาพันรอบเอว ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะหลุดออกมาทุกเมื่อตามการเคลื่อนไหวของเขา

 

วินาทีถัดมา ขากรรไกรล่างของเธอถูกจับด้วยนิ้วเรียวยาวของเขา “เราอยู่ที่ความสูง 26 ชั้น ดูเหมือนว่าคุณต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก"

 

ขณะที่หลู่หม่านกำลังจะพูดก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากระเบียงด้านนอก

 

“เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มีใครอยู่ที่นี่ พวกเขาหนีออกไปจากระเบียงหรือ?”

 

หลู่หม่านหยุดนิ่งกับเสียงนั้น

 

ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือชาตินี้ เธอจะไม่มีวันลืมเสียงนี้

 

เสียงนี้เป็นเสียงของแฟนสารเลวของเธอ เหอเจิ้งไป๋ ซึ่งต่อมาเขาก็กลายมาเป็นคู่หมั้นของเธอ

 

ในชาติที่แล้ว ผู้กำกับยังไม่ตาย เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงเท่านั้น

 

ขณะที่เธอถูกคุมขังในข้อหาก่ออาชญากรรมโดยเจตนาทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และเธอได้รับโทษจำคุกแปดปี เนื่องจากผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ทันทีที่เธอมีปัญหา ผู้ชายคนนั้นได้บอกกับสื่อทันทีว่าเขาเลิกรากับเธอนานแล้ว และไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับเธออีกต่อไป

 

แต่ถ้าเป็นเพียงแค่นั้น เธอคงไม่เกลียดเขา เธอคงต้องรับสภาพนั้นไป เพราะเธอเคยตาบอด จนเธอตกหลุมรักเขา

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้รับการปล่อยตัวจากคุก เธอพบว่าเขากลายเป็นคู่หมั้นของหลู่ฉี และทั้งสองก็ได้รับความชื่นชมจากสาธารณชนในฐานะคู่รักทองคำ

 

ปรากฎว่าก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาได้เห็นกันแล้ว

 

ดังนั้น หลังจากที่หลู่ฉีทำร้ายใครซักคนและหนีไปได้ คนที่เธอขอความช่วยเหลือคือเหอเจิ้งไป๋

 

มันเป็นความคิดของเขาที่จะกลับมาที่ห้องพักในโรงแรมพร้อมกับหลู่ฉี เพื่อลบร่องรอยทั้งหมดที่เธอทิ้งไว้เบื้องหลังและกล่าวโทษหลู่หม่าน

 

ไม่น่าแปลกใจที่เธอต้องประสบกับปัญหาในตอนนั้น! ดังนั้นเมื่อเธอมองหาเขาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา เธอก็ไม่พบเขา ปรากฎว่าการวางกับดัก เป็นความคิดของเขามาโดยตลอด

 

เหอเจิ้งไป๋ถึงกับดูถูกเหยียดหยามเมื่อเห็นเธอหลังจากที่เธอได้รับการปล่อยตัวจากคุก โดยกล่าวว่า “เธอควรใช้กระจกส่องดูตัวเองในตอนนี้ แม้แต่ในตอนนั้น เธอก็ไม่คู่ควรกับฉัน และในตอนนี้ เธอยิ่งไม่คู่ควรกับฉันมากกว่าเดิม"

 

เขาก็หยิบธนบัติเงินมูลค่าสิบหยวนออกมาก่อนที่จะโยนไปให้เธอราวกับว่าเธอเป็นขอทาน

 

 

 

 

MRHAN 003 ใครที่น่าถูกยั่วยวน ก็ต้องถูกยั่วยวน

 

 

10 หยวน เขาพยายามกำจัดเธอราวกับว่าเธอเป็นขอทาน

 

เหอเจิ้งไป๋ นายน้อยคนที่สองของ หลงฉิงคอร์ปอเรชั่น ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เก่งที่สุด และยังเป็นโปรดิวเซอร์ที่มีความสามารถ ก็สามารถหาธนบัตร 10 หยวนในกระเป๋าเงินของเขาได้ มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขามาก [1]

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเอง กริ่งประตูห้องพักในโรงแรมก็ดังขึ้น

 

ขณะที่หานโจวหลี่หันศีรษะไปรอบ ๆ เขาก็ปล่อยมือที่กรามล่างของเธอโดยไม่รู้ตัว

 

หลู่หม่านใช้โอกาสนี้ผลักมือออกและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ใกล้เคียง

 

ดวงตาของ หานโจวหลี่หรี่ลงเมื่อได้ยินเสียง ‘คลิก’ ขณะที่ หลู่หม่าน ล็อคประตูห้องน้ำ

 

ขณะที่เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เขาคิดว่าเธอเข้ามาทางหน้าต่างได้อย่างไร และเกิดความโกลาหลในห้องของโรงแรมข้างๆ และหัวเราะอย่างเย็นชาก่อนจะเดินไปเปิดประตู

 

ที่ด้านนอกประตูมีตำรวจ 2 นาย ผู้จัดการโรงแรม พนักงานโรงแรม และชายหญิงที่ไม่คุ้นเคย

 

เมื่อเห็นชายที่อยู่ข้างหน้าเขา เหอเจิ้งไป๋รู้สึกประหลาดใจ และถัดจากเขา หลู่ฉีก็ประหลาดใจเช่นกัน ยังไงก็ตามพวกเขาสามารถพบหานโจวหลี่ ที่นี่!

 

ไม่มีใครเคยคิดว่า หานโจวหลี่จะอยู่ห้องข้างๆ!

 

ด้วยความตื่นเต้น หลู่ฉีเริ่มหายใจอย่างรวดเร็ว

 

“คุณชายหาน เราขอโทษที่ต้องมารบกวนคุณ” ผู้จัดการกล่าว “แขกห้องข้าง ๆ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และผู้ต้องสงสัยน่าจะหนีออกไปได้ไม่นานแล้ว เราขอถามคุณได้ไหมว่าคุณพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือไม่”

 

ริมฝีปากของหานโจวหลี่ยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นคือผู้ต้องสงสัยที่ทำร้ายใครซักคนใช่ไหม?

 

ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่มีเสน่ห์จากด้านหลังหานโจวหลี่ “หลี่ ทำไมคุณใช้เวลานานจัง ฉันรอคุณนานแล้วน้า…”

 

เสียงนี้ไพเราะมากจนทำให้ขาของผู้คนอ่อนแรง อย่างไรก็ตาม ทุกคนยกเว้นหลู่ฉี ได้รับผลกระทบจากมันในทางใดทางหนึ่ง ทำให้ทุกคนหันไปมองที่มาของเสียง เหอเจิ้งไป๋และหลู่ฉีตะลึงเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น

 

ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลู่หม่าน

 

เสียงที่มีเสน่ห์นั้น ดังมาจากหลู่หม่าน ผู้ที่ไม่มีความโรแมนติก?

 

เหอเจิ้งไป๋ขยี้ตาอย่างไม่เชื่อ

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องสงสัยเลยเกี่ยวกับผู้หญิงที่สวมผ้าเช็ดตัวและเดินตรงเข้ามาหาพวกเขา เธอเป็นได้แค่ หลู่หม่าน เท่านั้น!

 

ผ้าขนหนูสีขาวทำให้ผิวของเธอดูขาวขึ้นและอ่อนเยาว์ขึ้น เหอเจิ้งไป่ไม่รู้ว่าผิวของเธอเรียบเนียนราวกับไหม และเขาก็ไม่รู้ว่ารูปร่างของเธอนั้นเจิดจ้ามากจนผู้คนไม่อยากละสายตาไปจากมัน เพราะกลัวว่าจะพลาดแม้เพียงพริบตาเดียว

 

ใช่ เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

 

นั่นเป็นเพราะหลู่หม่านเป็นคนเจ้าระเบียบและหัวโบราณ ไม่เคยปล่อยให้เขาแตะต้องเธอ

 

แต่ตอนนี้ เธอกลับนุ่งแต่ผ้าเช็ดตัว เธอยืนอยู่ในห้องของหานโจวหลี่

 

หานโจวหลี่ หันหลังให้กับผู้คนที่อยู่นอกประตู เลิกคิ้วไปที่หลู่หม่าน

 

หลู่หม่านพยายามระงับอาการประหม่า และรวบรวมความกล้าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของหญิงสาวผู้เย้ายวน ส่ายสะโพกที่เพรียวบางของเธอขณะที่เธอเดินไปทางหานโจวหลี่ อย่างสบาย ๆ

 

โชคดีที่เป็นผู้ช่วยของหลู่ฉี เธอได้เรียนรู้ทักษะการแสดงในขณะที่ดูภาพยนตร์ของเธอ

 

เธอเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของหานโจวหลี่ ก่อนที่จะเขย่งปลายเท้า คล้องแขนของเธอรอบคอเขา

 

หานโจวหลี่หรี่ตาลงเล็กน้อย สงบสติอารมณ์และสงบนิ่ง ในขณะที่เขารอดูว่าเธอต้องการที่จะทำอะไร

 

เขาเป็นเหมือนเสือดาวขี้เกียจ เบื่อหน่าย เมื่อจ้องมองเหยื่อที่วิ่งอยู่ข้างหน้าเขา เขาสามารถฆ่าเหยื่อได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่เขาต้องการเล่นกับมันก่อน

 

ขณะที่เขายังคงนิ่ง หลู่หม่านก็เห็นว่าเขาไม่ต้องการร่วมมือกับเธออย่างเห็นได้ชัด เธอจึงรั้งตัวเธอและขยับเข้าไปใกล้ เธอหลับตาราวกับคาดว่ากำลังจะถูกฆ่าตาย และกดริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเขา

 

คุณพระช่วย!!

 

เธอได้จูบเทพบุตรจริงๆ!

 

ทันใดนั้น หลู่หม่านรู้สึกว่าชีวิตในอดีตของเธอช่างสูญเปล่า การใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์และดีงามมีประโยชน์อย่างไร?

 

เพราะเธอกลับถูกคนอื่นรังแก ถูกแฟนหนุ่มทรยศ และถึงกับถูกน้องสาวที่เป็นลูกเลี้ยงของพ่อของเธอใส่ร้าย นอกจากนี้เธอยังถูกพ่อของเธอทอดทิ้งอีกด้วย ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เธอเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง

 

อย่างไรก็ตาม คราวนี้เธอไม่อยากใช้ชีวิตแบบนั้นอีก!

 

เธอต้องการดูแลแม่ของเธอ และล้างแค้น เธอจะไม่เป็นผู้ที่มีความปราถนาดี มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ และถูกคนรังแก ไม่มีอีกต่อไป!!

 

ในชีวิตนี้ เธอปรารถนาที่จะบรรลุทุกสิ่งที่เธอปรารถนา

 

นอกจากนี้ เธอยังตั้งเป้าที่จะชำระแค้นกับชายและหญิงที่ชั่วร้ายสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำกับเธอ

 

ส่วนเทพบุตรชายข้างๆ ใครที่น่าถูกยั่วยวน ก็ต้องถูกยั่วยวน!

 

[1]: ในกรณีนี้ ธนบัตร 10 หยวนมีมูลค่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่เหอเจิ้งไป่มักใช้

 

 

 

 

MRHAN 004 เธอเคยถูกคนงี่เง่าวางแผนร้ายในชีวิตที่ผ่านมา

 

 

 

หลังจากแตะริมฝีปากของเขา หลู่หม่านตัดสินใจว่าเธออาจจะไปต่อและด้วยเหตุนี้จึงเริ่มจูบแบบเบา ๆ กับเทพบุตรผู้นี้

 

ในที่สุด เมื่อริมฝีปากของทั้งสองแยกออกจากกัน หัวใจของเธอก็เต้นแรง และใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ

 

เธอลดตาลง มองดูหานโจวหลี่ผ่านขนตาและเห็นว่าดวงตาของเขามืดลงเช่นกัน

 

หลู่หม่านไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปและเลียริมฝีปากของ หานโจวหลี่อีกครั้ง

 

เมื่อดวงตาของหานโจวหลี่หรี่ลง เธอสามารถเห็นได้ว่าดวงตาของเขามีประกายแวววาวที่อันตราย

 

มือของเขาซึ่งเดิมวางอยู่ข้างๆ จู่ๆ ก็คว้ามาที่หลังเอวของเธอ

 

ทันทีที่เขาสัมผัสเธอ เขาก็สามารถมั่นใจได้ว่าภายใต้ผ้าเช็ดตัวไม่มีอะไรจริงๆ และมันไม่ใช่แค่การแสดงเท่านั้น

 

ผู้หญิงคนนี้ต้องการทำอะไรกันแน่?

 

อย่างไรก็ตาม หานโจวหลี่ไม่มีเวลาที่จะสอบถามเพิ่มเติมอีกต่อไปเนื่องจากมีเสียงตะโกนโกรธจากนอกประตู "หลู่หม่าน!"

 

หลู่หม่านหันกลับไป พร้อมกับปล่อยแขนออกจากตัวหานโจวหลี่ แต่เธอแปลกใจที่เขาไม่ต้องการปล่อยเธอไป

 

ฝ่ามือของเขายังคงกดทับที่หลังเอวของเธอ ตอนแรกเธอไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเอวของเธอร้อนมาก ราวกับว่าถูกตีตราด้วยเศษเหล็กร้อน

 

หลู่หม่านเงยหน้าขึ้น จนสบตาที่โกรธแค้นของ เหอเจิ้งไป๋ “หลู่หม่าน นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่”

 

หลู่หม่านเชิดคางขึ้น เยาะเย้ย “คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่”

 

ถึงตอนนี้ เหอเจิ้งไป๋สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่

 

ทั้งสอง หานโจวหลี่และหลู่หม่าน สวมผ้าเช็ดตัวเท่านั้น พวกเขาจะทำอะไรได้อีก?

 

“เธอทรยศฉัน!” เหอเจิ้งไป๋ชี้ไปที่หลู่หม่านอย่างโกรธเคือง “เธอนอกใจฉันมานานแค่ไหนแล้ว?”

 

หลู่หม่านยิ้มเบา ๆ “ไม่นานไปกว่าที่คุณนอกใจฉันแล้วไปคบกับหลู่ฉี”

 

ในขณะนั้นผู้จัดการโรงแรมและพนักงานต่างเบิกตากว้างแล้วหันไปมองหลู่ฉี

 

ปัจจุบัน หลู่ฉี เป็นดาราดังที่สื่อจับตาทุกการเคลื่อนไหว น้อยมากที่จะมีข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์

 

ในตอนนี้หลู่หม่านกำลังอ้างว่า หลู่ฉีคบกับเหอเจิ้งไป๋!

 

“ข่าวลืออะไรเนี่ย!” การแสดงออกของเหอเจิ้งไป๋เปลี่ยนไป

 

แม้แต่ใบหน้าของหลู่ฉีก็เกร็งขึ้น เธอไม่คิดจะบอกทุกคนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเหอเจิ้งไป๋ แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

 

ถ้ามีคนรู้ตอนนี้ เธอจะกลายเป็นมือที่สาม

 

“ฉันโกหก?” เมื่อเห็นว่าหานโจวหลี่ยังคงไม่ยอมปล่อย เธอตัดสินใจที่จะเอนตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขา และโอบเขาด้วยใบหน้าที่สวยงามที่มีอำนาจทำลายล้างและเสน่ห์เย้ายวน

 

อย่างไรก็ตาม เธอมีโอกาสใช้ประโยชน์จากเทพบุตรผู้นี้ และรู้สึกว่าเธอไม่ได้สูญเสียอะไร

 

“ตอนนี้น้องสาวสุดที่รักของฉันกำลังสวมสร้อยคอที่คุณมอบให้เธอเพื่อแสดงความรักของคุณ ที่ด้านหลังจี้ ก็มีชื่อของคุณและวันที่คุณทั้งคู่อยู่ด้วยกันสลักเอาไว้ คุณเอาออกมาตรวจสอบดูสิ” หลู่หม่านแนะนำ

 

เมื่อเธอคิดย้อนกลับไปในชาติที่แล้ว เธอนี่มันโง่มากจริง ๆ

 

มีหลักฐานมากมายเกี่ยวกับทั้งสองคน แต่เธอก็ทำเหมือนคนตาบอด เธอมองไม่เห็นหลักฐานทั้งๆ ที่อยู่ต่อหน้าเธอ

 

ตอนนี้เธอได้เห็นและเข้าใจทุกอย่างแล้ว ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเหอเจิ้งไป๋โง่เขลาเพียงใด ที่ได้ทิ้งหลักฐานที่แน่ชัดไว้ให้เธอใช้ต่อต้านเขา

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ คนงี่เง่าคนนี้ประสบความสำเร็จในการวางแผนกับเธอ เธอได้ตายอย่างไม่ถูกต้องจริงๆ

 

เมื่อเห็นความรู้สึกผิด และหน้าตาบูดบึ้งในดวงตาของเหอเจิ้งไป๋ สมองของหลู่หม่านก็เต็มไปด้วยความโกรธ

 

เธอกับเหอเจิ้งไป๋เป็นคู่รักตั้งแต่ในวัยเด็ก ไม่อย่างนั้น แม้ว่าเธอจะมีสถานะในครอบครัวอย่างไร และพ่อของเธอก็เอ็นดูแค่น้องสาวผู้เป็นลูกเลี้ยงเพียงคนเดียวของเธอ เธอก็คงจะคบกับเหอเจิ้งไป๋ไม่ได้จริงๆ

 

แต่คุณนายเหอเป็นเพื่อนสนิทกับแม่ของหลู่หม่านและความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดีมาก ดังนั้นเมื่อหลู่หม่านยังเด็ก คุณนายเหอมักจะพาเหอเจิ้งไป๋ไปเล่นที่บ้านตระกูลหลู่

 

ในที่สุด หลังจากคบกันมาระยะหนึ่ง มิตรภาพของทั้งคู่ก็เบ่งบานเป็นความรัก

 

แม้ว่าหลู่ฉีหยวนจะมีความสัมพันธ์กับแม่ของหลู่ฉี เซี่ยชิงหยาง และหย่ากับแม่ของหลู่หม่าน เหอเจิ้งไป๋ก็ไม่ได้ทิ้งเธอ กลับสงสารเธอ และปฏิบัติต่อเธอดียิ่งขึ้นไปอีก

 

และเป็นเพราะเธอมีความทรงจำที่ดี จำได้ว่าเขาปฏิบัติต่อเธอดีเพียงใด เธอไม่เคยนึกภาพการทรยศของเขาเลย

 

 

 

 

 

MRHAN 005 น่าแปลกที่หานโจวหลี่ ไม่ได้เปิดเผยความจริง

 

 

 

หลู่หม่านยิ้มอย่างเย็นชา เซี่ยชิงหยาง แม่ของ หลู่ฉี เป็นผู้หญิงที่ทำลายครอบครัวของเธอ และในทำนองเดียวกัน ตอนนี้หลู่ฉีก็มาเป็นมือที่สามที่แทรกเข้ามาระหว่างความสัมพันธ์ของหลู่หม่านและเหอเจิ้งไป๋ เธอขโมย เหอเจิ้งไป๋จากหลู่หม่าน

 

แต่หลู่หม่านก็ไม่สนใจอีกต่อไป เธอไม่ได้สงสารตัวเองที่ถูกชายสารเลวทิ้งเธอไป

 

ตอนนี้ ทั้งหมดที่เธอต้องการคือให้พวกเขาจ่ายชำระหนี้แค้นที่พวกเขาวางกับดักกลอุบายและที่พวกเขาทำให้เธอต้องทุกข์ทรมานในชีวิตก่อนหน้านี้!

 

ยิ่งหลู่หม่านพูดมากเท่าไหร่ เหอเจิ้งไป๋ก็รู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น และเธอก็จ้องมาที่เขาด้วยท่าทางเหยียดหยาม “ตั้งแต่ที่คุณทั้งสองคนคบกัน ฉันก็คิดว่าเราเลิกรากันแล้ว แต่คุณก็หน้าหนาพอที่จะยืนอยู่ตรงนี้และพูดว่าฉันทรยศคุณ”

 

“หยุดคำพูดที่ไม่มีหลักฐานเดี๋ยวนี้!” หลู่ฉีกล่าวอย่างกังวล

 

ถ้าพวกเขาอยู่แต่เพียงลำพัง เธอคงไม่คิดจะใช้เหอเจิ้งไป๋เพื่อปลุกปั่นหลู่หม่าน

 

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลู่หม่านไม่สนใจเหอเจิ้งไป๋อีกต่อไป และหลู่ฉี ปฏิเสธที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกเรียกว่าเป็นผู้ทำลายบ้านคนอื่น

 

“แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่พยายามทีจะปีนป่ายเพื่อเข้าสังคม และถูกจับได้ คุณกลับพยายามที่จะพลิกลิ้นและใส่ร้ายเรา!”

 

"ใส่ร้าย?" จู่ๆ หลู่หม่านก็ปล่อยลดแขนลงจากตัวของหานโจวหลี่ และคราวนี้ หานโจวหลี่ก็ไม่รั้งเธอไว้และปล่อยเธอเดินไป

 

หลู่หม่านจับผ้าเช็ดตัวของเธอไว้เพื่อป้องกันไม่ให้หลุด เธอก้าวไปข้างหน้าเพื่อยืนตรงหน้าหลู่ฉี

 

จากนั้นเธอก็กางแขนออกและคว้าสร้อยคอที่หลู่ฉีสวมอยู่และดึงออกมา

 

การกระทำของหลู่หม่านนั้นคาดไม่ถึงเกินไป หลู่ฉีไม่คิดว่าหลู่หม่านจะทำสิ่งนั้นและด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่ได้ระวังเลย

 

หลู่หม่านบีบจี้บนสร้อยคอแล้วแสดงให้พวกเขาดู “เหอเจิ้งไป๋ สลักชื่อ ในภาษาจีน”

 

ที่ด้านหลังของจี้สลักชื่อ เหอเจิ้งไป๋ และ หลู่ฉี ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยรูปหัวใจ

 

ความจริงถูกเปิดเผยแล้ว และข้อแก้ตัวใดๆ ก็ตามที่เหอเจิ้งไป๋และหลู่ฉีพยายามจะอ้างก็ไร้ประโยชน์

 

ไม่ใช่ว่าทุกคนโง่

 

เป็นไปได้ไหมที่ทั้งคู่แกะสลักจี้เพื่อความสนุกสนาน?

 

อย่าล้อเล่น!

 

“เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว โปรดแก้ปัญหาเป็นการส่วนตัว” ตำรวจคนหนึ่งหันไปถามหลู่หม่าน “คุณหลู่ คุณอยู่ที่นี่มาตลอดหรือเปล่า”

 

"ใช่" หลู่หม่านหันกลับไปที่ด้านข้างของหานโจวหลี่ และโอบแขนของเธอไว้รอบเอวของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหานโจวหลี่ไม่ได้เปิดเผยความจริง

 

เขาเพียงก้มหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

 

หลู่หม่านยิ้มขอบคุณหานโจวหลี่ ไม่ว่าเหตุผลของเขาจะเป็นเช่นไร โดยที่ไม่เปิดเผยความจริง เขาได้ช่วยเหลือเธออย่างมาก

 

"มีอะไรหรือเปล่า?" หลู่หม่านถาม

 

เธอไม่ได้อยู่ที่นั่นมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นการถามคำถามนี้จึงถือเป็นเรื่องปกติ

 

ตำรวจอธิบาย “แขกที่พักในห้องข้าง ๆ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการช่วยเหลือแล้ว”

 

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันอยู่ที่นี่มาตลอด ถ้าไม่เชื่อก็เช็คกล้องวงจรปิดได้” หลู่หม่านกล้าพูดแบบนั้น เพราะเธอรู้ว่ากล้องวงจรปิดบริเวณนี้ของโรงแรมใช้งานไม่ได้

 

ในชีวิตที่แล้วของเธอ หลังจากที่เธอประสบปัญหา หลู่ฉีได้ไปหาเหอเจิ้งไป๋ทันที และบังเอิญว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นของตระกูลเหอ

 

แม้ว่าเหอเจิ้งไป๋ต้องการที่ทำอะไรบางอย่าง เขาก็แค่พูดออกมา

 

เขาเพิ่งโทรหาตำรวจหลังจากที่เขาช่วยหลู่ฉีทำลายหลักฐาน

 

ในอดีตของเธอ ผู้กำกับภาพยนตร์โชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าการรักษาของเขาจะล่าช้าไปบ้าง

 

ปัจจุบัน หลู่หม่านกำลังเดิมพันที่นี่ โดยหวังว่าทุกอย่างจะเป็นแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตก่อนของเธอ

 

เมื่อสังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของตำรวจ เธอรู้ว่าการเดิมพันของเธอได้รับผลตอบแทน

 

“แต่สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจคือ ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ห้องถัดไป แล้วคุณมาที่นี่เพื่อตามหาฉันทำไม” หลู่หม่านมีสีหน้าสับสน

 

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีโอกาสตอบ หลู่ฉีรีบพูดขึ้นว่า "ไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนบอกฉันว่ามาหาผู้กำกับหรอกเหรอ?"

 

หลู่หม่านยิ้มเยาะ หลู่ฉีตัดสินใจทำให้หลู่หม่านกลายเป็นแพะรับบาปของเธอไปแล้ว

 

หลู่ฉีขโมยพ่อและแฟนของเธอไปแล้ว แต่นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับเธอ เธอยังคงต้องการทำร้ายหลู่หม่านมากยิ่งขึ้น

 

“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร ฉันเป็นแค่ผู้ช่วย ฉันจะมีธุระอะไรกับผู้กำกับ? เธอกำลังบอกว่าฉันอยากมีบทแสดงเป็นของตัวเอง?” หลู่หม่านพูดพร้อมกับยกโทรศัพท์มือถือในมือของเธอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น