เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2563

EGT 1656-1660


EGT 1656 คนตัวเล็ก ดูสิว่าข้าจะทำให้เจ้าตายได้อย่างไร (3)

เสียงกรีดร้องที่โศกเศร้าดังก้องเข้าไปในหูของเฉินหยานเซียว ก่อนที่เธอจะเรียกหงส์ไฟกลับเข้ามาที่ร่างกายของเธอแล้วมองดูสมาชิกของราชวังทลายดาวที่ถูกขับไล่ออกไปเนื่องจากเปลวไฟสีน้ำเงิน ด้วยรอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าของเธอ

เจ้าตัวน้อย มาดูสิว่าเจ้าจะยังต้องการกำจัดข้าใช่หรือไม่? ดูสิว่า ข้า ย่าตัวน้อย จะทำให้พวกเจ้าตายได้อย่างไร” เฉินหยานเซียวเยาะเย้ยแล้วดื่มยาระดับผู้เชี่ยวชาญและวิ่งออกไปเหมือนสายลม

ช่วงเวลาที่เธอออกจากเส้นทาง เฉินหยานเซียวหันไปมองปุ่มปิดเปิดประตูที่ผนังห้องในทันที เธอยกฝ่ามือของเธอก่อนผลักออกไปอย่างแรง เพื่อทุบทำลายปุ่มควบคุมการปิดเปิดบนกำแพงด้วยหมัดอันทรงพลัง

เศษหินแข็งพังทลาย มีคราบเลือดปรากฏบนกำปั้นของเฉินหยานเซียว แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขของการแก้แค้น

เพื่อทำลายปุ่มปิดเปิดประตู มันก็เป็นการทำลายชีวิตของทุกคนในห้องปฏิบัติการ สถานที่แห่งนี้มันได้กลายเป็นหลุมฝังศพที่เฉินหยานเซียวได้สร้างขึ้นมาเอง

คนเหล่านั้นจะถูกฝังภายใต้ดินไปตลอดกาล

เฉินหยานเซียวไม่ปล่อยให้เปลวไฟสีน้ำเงินกระจายออกไปทั่วราชวังทลายดาว เพราะหากเปลวไฟเหล่านี้ได้สัมผัสกับอากาศภายนอก พวกมันจะแพร่กระจายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากเปลวไฟกระจายออกไปอย่างทั่วถึงในบริเวณรอยแยกที่ถูกลืม มันจะทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่และใครจะรู้ว่าเปลวไฟเหล่านี้สามารถเผาไหม้ไปจนถึงดินแดนรกร้างได้หรือไม่

หากเป็นเช่นนั้น มันจะไม่คุ้มค่า

ตัวเลือกทำให้ห้องปฏิบัติการใต้ดินเป็นพื้นที่ปิดกั้น จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากอากาศภายในไม่ถูกเผาไหม้จนหมด เปลวไฟสีน้ำเงินจะไม่ถูกดับ

ผู้คนที่อยู่ในราชวังทลายดาวจะอยู่ที่นั่นตลอดไปเพื่อรับความสุขจากความตาย

ต่อไป ใครดี?” เฉินหยานเซียวหันหลังกลับ การอำพรางใบหน้าของเธอได้ถูกลบล้างออกไปแล้ว เธอคลุมเสื้อคลุมสีดำเพื่อปกปิดร่างกายบอบบางของเธอ  แววตาของเธอเปล่งประกายด้วยความเยือกเย็นและความตั้งใจในการฆ่าฉายชัดออกมา

นี่เป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารมื้อใหญ่ยังคงรออยู่ในภายหลัง ราชวังทลายดาวยังจะต้องเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงความสนุกสนานของการทำลายล้างที่ข้าได้นำมาให้เจ้า

เฉินหยานเซียวยังคงดำเนินการต่อไป และไม่มีใครใน ราชวังทลายดาวที่จะสามารถหยุดยั้งรอยเท้าของเธอ นี่เป็นการใช้ทักษะการอำพรางซ่อนตัวในฐานะโจรเทพเจ้าอย่างเต็มรูปแบบ

ไม่ว่าจะมีผู้คนที่มีอำนาจมากเท่าไรในราชวังทลายดาว ด้วยสร้อยแสงจันทร์ เฉินหยานเซียวสามารถซ่อนรัศมีทักษะยอดเยี่ยมที่สุดของโจรเทพเจ้าเอาไว้ได้ ในขณะที่บรรเลงเพลงนรกในห้องปฏิบัติการภายใต้พระราชวังทั้งเจ็ดแห่งราชวังทลายดาว

วางกองไฟทำลายและฝังทุกสิ่งทุกอย่างข้อได้เปรียบ โดยธรรมชาติของเฉินหยานเซียว ต้องการทำลายห้องทดลองในขณะที่มีคนเพียงไม่กี่คนที่อยู่

ห้องปฏิบัติการถูกปิดผนึกนี้ จะไม่ถูกค้นพบปุ่มเปิดจนกระทั่งครึ่งชั่วโมงผ่านไป

ห้องปฏิบัติการที่มีไว้เพื่อรวบรวมยาเม็ด

อย่างไรก็ตามมันก็สายเกินไป

ด้วยความกลัวว่าจะมีใครบางคนบุกรุกห้องทดลอง ราชวังทลายดาวจึงใช้ประตูเพชรโดยเฉพาะ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าประตูปกติถึงสิบตันเพื่อปิดทางเข้า และตอนนี้ไม่มีปุ่มเปิดประตูอีกแล้ว แม้ว่ามันจะถูกโจมตีด้วยพลังเวทมนต์ มันก็จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงในการทำลายประตูเพชร

และเวลานั้นก็เพียงพอแล้วที่เปลวไฟสีน้ำเงินจะกลืนกินทุกสิ่ง!

ห้องทดลองทั้งเจ็ดถูกกวาดล้างทำลายทีละแห่ง มันทำให้เกิดความวุ่นวายภายในราชวังทลายดาว

ปราชญ์นับไม่ถ้วนได้ถูกเรียกตัวมาให้ทำลายเพชรที่ขวางทางเข้า

ในขณะที่ราชวังทลายดาวจากบนลงล่างอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ร่างเล็ก ๆ ในเสื้อคลุมได้ออกไปท่ามกลางความตื่นตระหนก

หลังจากเธอก้าวออกไปได้หนึ่งร้อยเมตรจากราชวังทลายดาว เฉินหยานเซียวหันหลังให้กับราชวังทลายดาว เดินตรงไปยังกองทัพปีศาจที่รวมตัวกันไม่ไกล ท่ามกลางเสียงคำรามไม่รู้จบ

แสดงความเคารพต่อเจ้าเมือง!” ปีศาจทั้งหมดคุกเข่าบนเข่าข้างหนึ่งเพื่อทักทายผู้บัญชาการของพวกเขาด้วยดวงตาที่ศรัทธาที่สุด!




EGT 1657 คนตัวเล็ก ดูสิว่าข้าจะทำให้เจ้าตายได้อย่างไร (4)

เมื่อกองทัพมาถึง สงครามก็ตะเริ่มขึ้นในอีกไม่นานจากนี้

ในครั้งนี้การต่อสู้จะเริ่มโดยเฉินหยานเซียว และการต่อสู้จะถูกครอบงำโดยเธอ!

มีเพียงพวกปีศาจและพวกเราเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ต่อสู้ในสงครามนี้ หงส์ไฟและสัตว์ในตำนานและสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ไม่สามารถมีส่วนร่วมในสงครามนี้ได้” เฉินหยานเซียวไม่สามารถค้นพบว่าอะไรคือสิ่งพิเศษของราชวังทลายดาวในการจัดการกับสัตว์เวท แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

พลังของเธอประกอบด้วยปีศาจอันดับสูงมากกว่าสองหมื่นตน แม้แต่ ซิ่ว เทพสงครามผู้นี้ก็อยู่ข้างพวกเขา

ราชวังทลายดาวเพิ่งถูกจุดประกายไฟในหลายสถานที่และตอนนี้ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายในกลุ่มผู้คนอย่างสมบูรณ์ ทุกอย่างอยู่ในสถานะของความผิดปกติ

สมาชิกในห้องทดลองหลายแห่งล้วนแต่เป็นชนชั้นสูงในราชวังทลายดาว ดังนั้นเฉินหยานเซียวเพิ่งจะกำจัดสมาชิกที่ยอดเยี่ยมหลายร้อยคนโดยไม่ต้องออกแรง

เข้าใจ” มันเป็นเรื่องยากที่หงส์ไฟจะมีลักษณะของการเชื่อฟังโดยไม่มีความเย่อหยิ่ง

ยังไงก็ตาม เสี่ยวเซียวเจ้าได้รับรู้อะไรบ้างจากการเข้าไปในราชวังทลายดาวสองสามวันนี้?” ถังนาจื่อถามออกไปด้วยความอยากรู้ ในขณะที่เขามองเฉินหยานเซียวที่เพิ่งกลับมา

เฉินหยานเซียวเข้าไปในราชวังทลายดาววางสามวันนี้และไม่ค่อยได้ส่งข้อความถึงเทาเที่ย

ใบหน้าของเฉินหยานเซียว แสดงรอยยิ้มชั่วร้าย เธอยักไหล่และพูดเบา ๆ ราวกับปุยเมฆ “ไม่มีอะไรนอกจากข้าได้เรียนรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ในราชวังทลายดาว และทำให้พวกเขามีปัญหาเล็กน้อยระหว่างทาง”

ถังนาจื่อมองดูเฉินหยานเซียวอย่างสงสัย เขาไม่รู้สึกว่า "ปัญหาเล็กน้อย" ที่ออกมาจากปากของเฉินหยานเซียวจะเล็กน้อยจริง ๆ

เมื่อมองดูทวีปคังหมิงทั้งหมดเขากลัวว่าผู้หญิงผู้นี้เป็นคนเดียวที่สามารถวิ่งเข้ามาเหยียบจมูกราชวังทลายดาวและหลบซ่อนอยู่นาน

ปัญหาแบบไหน? บอกพวกเรา พวกเราอยากรู้" ฉีเซียเองก็อยากรู้อยากเห็น

เฉินหยานเซียวกล่าวอย่างไม่เป็นทางการ “ข้าพบห้องปฏิบัติการที่พวกเขาทำการสกัดกลั่นพลังลมปราณและพลังเวท ข้าก็เลยอัญเชิญหงส์ไฟไปที่นั่นและวางเพลิงห้องทดลองหลายแห่ง ข้าเชื่อว่าผู้คนในห้องทดลองเหล่านั้นจะเสียชีวิตก่อนที่พวกเขาจะหนีออกมาได้”

คำพูดของเฉินหยานเซียวทำให้ ถังนาจื่อและคนอื่น ๆ ตกใจ

นี่เป็นเรื่องจริง…ที่ว่าเป็น “ปัญหาเล็กน้อย” ใช่หรือไม่!

ไม่เป็นไรกับการวิ่งไปที่ราชวังทลายดาวและอยู่ที่นั่นสองสามวัน แต่การทำให้เกิดความเสียหายของห้องทดลองเมื่อเธอจากมา…พวกเขาทุกคนสามารถจินตนาการได้ว่า มันจะเกิดความโกลาหลขึ้นในราชวังทลายดาวอย่างไรในตอนนี้

การเข้าห้องปฏิบัติการของราชวังทลายดาวจะต้องไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ผู้นี้ไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าไปข้างในได้ เธอยังสามารถทำลายมันให้ราบคาบ มันทำให้ผู้คนนมัสการเธอ

เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวอีกครั้ง มันเหมือนกับว่าการเผาไหม้นักปราชญ์ชั้นสูงมากกว่าร้อยของ ราชวังทลายดาวเป็นเหมือนการเผาไหม้มดไม่กี่ตัว

ถ้าผู้คนในราชวังทลายดาวได้ยินในสิ่งที่เธอพูด พวกเขาจะไม่โกรธโดยตรงจนถึงกับอาเจียนออกมาเป็นเลือดหรือไม่?

มันเป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อย มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วที่จะแสดงให้ดีได้ในภายหลัง” เฉินหยานเซียวไม่รู้สึกว่าการกระทำของเธอบ้ามากขนาดไหน

ในความเป็นจริง หากเธอไม่กลัวว่าเปลวไฟสีน้ำเงินจะออกจากการควบคุมในอนาคต เธอก็อยากจะใช้เปลวไฟเหล่านั้นเพื่อเผาราชวังทลายดาวทั้งหมดจนให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

จิ๊ จิ๊ ดุร้ายดุร้ายเกินไป เจ้าฆ่าคนจำนวนมากเพียงแค่ลงมือครั้งเดียว ถ้าเราไม่ทำงานหนัก เราจะไม่ถูกมองด้วยสายตาที่ดูถูกหรือไม่” ถังนาจื่อถอนหายใจอย่างไม่หยุดหย่อน

ร้อยคนหรือมากกว่านั้น เฉินหยานเซียว ฆ่าคนที่ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาเหล่านั้นคือชนชั้นสูงของราชวังทลายดาว! อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสองชั้นยอด!

ฮ่า ไม่มี อาอู๋ ในศึกครั้งนี้ เจ้าต้องระวัง” เฉินหยานเซียวอ้าปากพูดด้วยรอยยิ้ม

คราวนี้ไม่มีตำแหน่งหมอเวท ดังนั้นความปลอดภัยในการต่อสู้แต่ละครั้งก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง

ไม่ต้องกังวลเราจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง” ถังนาจื่อยิ้มอย่างมั่นใจ

เฉินหยานเซียวพยักหน้าและมองดูซิ่วที่นิ่งเงียบ เธอรู้ว่าถึงแม้เขาจะไม่พูดมากเกินไปก็ตาม เขาก็จะสนับสนุนเธออย่างเงียบ ๆ จากด้านหลัง


 

EGT 1658 ภัยพิบัติ (1)

ในราชวังทลายดาว ฝูงชนกำลังอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิง นักปราชญ์เฟิง นำสมาชิกหลายร้อยคนมายืนอยู่ตรงหน้าของห้องปฏิบัติการที่ปิดผนึกโดยใบหน้าของเขากลายเป็นสีดำเหมือนก้นหม้อ

เกิดอะไรขึ้นเหรอ!" ปราชญ์เฟิงคำรามถามออกมา

เรา…เราไม่รู้” ผู้คนที่อยู่ข้างๆมองสถานการณ์ด้วยความสยองขวัญ ห้องปฏิบัติการทั้งเจ็ดในราชวังทลายดาวถูกโจมตีอย่างลึกลับ ข้อความทั้งหมดถูกปิดกั้นและปุ่มปิดเปิดถูกทำลายอย่างสมบูรณ์

มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะทำลายเพชรในเวลาอันสั้น

สีหน้าของนักปราชญ์เฟิง เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ห้องปฏิบัติการเจ็ดแห่งถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่ละแห่งห่างกันไม่เกินห้านาที อย่าพูดถึงว่ามีคนเปิดการโจมตีครั้งใหญ่ในช่วงระหว่างนั้น

แม้ว่าผู้กระทำผิดจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเต็มที่ มันจะต้องใช้เวลาประมาณสามนาทีในการเดินทางจากห้องปฏิบัติการหนึ่งไปยังอีกที่ และการปิดผนึกทางเข้าของห้องปฏิบัติการทั้งหมดอาจทำในช่วงเวลาห้านาที

พวกเขาเข้าไปไม่ได้และคนในห้องทดลองก็ไม่สามารถออกมาได้ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากภายใน

ระเบิดมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราต้องช่วยชีวิตผู้คนข้างในโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” หัวใจของนักปราชญ์เฟิงแทบจะมีเลือดหยดลงมา

ผู้คนในห้องปฏิบัติการเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน ราชวังทลายดาว พวกเขาไม่เพียงแต่จะเหนือกว่าในด้านความแข็งแรง แต่ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในเคล็ดวิชาการปลูกถ่ายพลังเวทและพลังลมปราณ หากคนเหล่านี้ประสบอุบัติเหตุ

การสูญเสียของวังก็จะนับไม่ถ้วน

"รับทราบ!"

จอมเวท และ จอมเวทชั้นยอดหลายร้อยคนเริ่มโจมตีประตูเพชรอย่างบ้าคลั่ง เสียงคำรามสะท้อนดังไปทั่วทั้งห้องโถง

การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับบนของราชวังทลายดาว

ชายชราผมสีเทา ที่รายล้อมไปด้วยฝูงชนเดินไปข้างหน้าปราชญ์เฟิง

ทุกคนแสดงความหวาดกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อพวกเขาเห็นชายชรา หลังจากเห็นเขาแล้ว ใบหน้าของนักปราชญ์เฟิงก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและวิ่งไปข้างหน้าเพื่อคุกเข่าบนเข่าข้างหนึ่ง

ท่านเจ้าวัง”

ชายชราที่ด้านหน้านักปราชญ์เฟิงไม่ได้เป็นใคร หากแต่เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งที่เก่าแก่ที่สุดของราชวังทลายดาว

เขาเป็นหนึ่งในมนุษย์ผู้มีอำนาจที่รอดชีวิตจากการต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ เขามีอายุนับหมื่นปี มันเกินขีดจำกัดอายุของมนุษย์ไปแล้ว

ในโลกแห่งพลังลมปราณและพลังเวท มนุษย์มีความสามารถยืดอายุของพวกเขาโดยการปรับปรุงความแข็งแกร่งของตัวเอง

ช่วงชีวิตของคนธรรมดา อย่างมากที่สุดก็มีอายุขัยเพียงประมาณ 100 ปี อย่างไรก็ตามช่วงชีวิตของผู้ที่อยู่ด้านบนจะขยายยืดออกไป เนื่องจากความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าของพวกเขา

แต่ที่มากที่สุดมันจะเป็นเพียงไม่กี่พันปี ในปัจจุบันนอกเหนือจากเจ้าวังของราชวังทลายดาว ในทั้งทวีปคังหมิง ไม่มีคนที่สองที่จะมีอายุถึงพันปี

สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” เจ้าวังมองดูนักปราชญ์เฟิงอย่างไร้อารมณ์

สมาชิกที่ได้รับคำสั่ง กำลังทำลายประตูเพชรของห้องปฏิบัติการทั้งเจ็ดใน…ในอีกสิบนาที จากนั้นเราควรจะสามารถผ่านเข้าไปได้” ปราชญ์เฟิงสั่นเทา ไม่ว่าความสูงส่งและอำนาจที่ทรงพลังของเขาจะเป็นอย่างไรในสายตาของคนอื่น เมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าวัง มันก็เป็นเพียงมดตัวน้อย

มีมนุษย์ที่มีอำนาจมากกว่ายี่สิบคนที่แต่เดิมได้สร้างราชวังทลายดาว หลังจากสิ้นสุดสงครามการต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ พวกเขาดูถูกทุกสิ่งในแผ่นดิน

หลีกเลี่ยงโลกของคนทั่วไปและสร้างราชวังทลายดาว ที่ซ่อนเร้นอยู่ในรอยแยกที่ถูกลืม

เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มผู้มีอำนาจดั้งเดิมได้เสียชีวิตไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหลือเพียงผู้รอดชีวิตคือเจ้าวังคนปัจจุบันของราชวังทลายดาว สำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ พวกเขาเป็นเพียงคนที่มีความแข็งแกร่งเหนือกว่าคนทั่วไป เมื่อความสามารถของพวกเขาถูกเปิดเผยพวกเขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมองค์กรโดยชายชรา


 

EGT 1659 ภัยพิบัติ (2)

ไม่มีใครรู้ถึงความแข็งแกร่งของเจ้าวังแห่งราชวังทลายดาว เมื่อนักปราชญ์เฟิงเข้าร่วมกับราชวังทลายดาว

เจ้าวังได้เริ่มต้นการบ่มเพาะแบบปิดประตูเป็นเวลานานและจะออกมาเป็นครั้งคราวเท่านั้น ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ของราชวังทลายดาว ล้วนเกี่ยวข้องกับปราชญ์ไม่กี่คน

ทุกวันนี้ความแข็งแกร่งของนักปราชญ์เฟิงนั้นมาถึงจุดสูงสุดของผู้ดำรงอาชีพขั้นสองชั้นยอด เขาห่างอีกเพียงก้าวเดียวจากอาณาจักรของผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์

ผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของผู้ดำรงชีพขั้นสอง

ในบรรดาปราชญ์หลายคนในราชวังทลายดาว มีปราชญ์สองคนที่ผ่านทะลวงดินแดนนี้ได้สำเร็จ

ดินแดนแห่งผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเป็นที่สองรองจากการดำรงอยู่ของเจ้าวัง

ความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์ก็เพียงพอที่จะแข่งขันกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

นอกเหนือจากที่อยู่ในตำแหน่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพทั้งหกนั้นเป็นของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ด้านบนสุดของทวีปคังหมิง

ปราชญ์สองคนของราชวังทลายดาวเป็นผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ผู้ก่อตั้ง ราชวังทลายดาวนั้นแข็งแกร่งเพียงไร

สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือรัศมีที่พวกเขารู้สึกจากเจ้าวังนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง

เร่งมือ” เจ้าวังขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่พอใจคำตอบของนักปราชญ์เฟิง

เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยชีวิตผู้คนที่อยู่ข้างใน” ปราชญ์เฟิงแอบเช็ดเหงื่อเย็นของเขาออกไป

อีกสิบนาทีต่อมาเพชรที่กั้นทางเข้าก็ถูกเป่าออกไปจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อย่างไรก็ตามในทันทีที่เพชรแตกออกไป คลื่นความร้อนก็พุ่งออกมาจากทางเดินและอากาศร้อนก็เผาไหม้คนหลายคนโดยตรงที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า

ช่างเป็นอุณหภูมิที่สูงมาก!” ปราชญ์เฟิงอาลัยอย่างลับๆและมองอย่างระมัดระวังไปที่เจ้าวังที่เคยยืนข้างเขาโดยไม่ตั้งใจ

คลื่นร้อนยังคงไหลออกมาจากทางเดินและในขณะที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปในห้องปฏิบัติการ

ลางสังหรณ์ ลางร้ายเกิดขึ้นในใจของทุกคน

คลื่นความร้อนกินเวลาห้าหรือหกนาทีก่อนที่มันจะลดลง เมื่ออุณหภูมิภายในไม่ร้อนเกินไป นักปราชญ์เฟิง พาคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปในห้องทดลองซึ่งถูกปิดตายไปเกือบครึ่งชั่วโมง

อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเข้าไปในห้องปฏิบัติการพวกเขาก็ตกตะลึงกับทุกสิ่งที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา

สถานที่แห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทุกชนิดตอนนี้ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง ในห้องขนาดใหญ่ไม่มีอะไรหลงเหลือ ยกเว้นชิ้นส่วนเหล็กที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น

ผนังที่ฝังลึกใต้พื้นดินเป็นโลกที่เชื่อมต่อกับรอยแยกที่ถูกลืม  แต่ผนังรอบ ๆห้องปฏิบัติการได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยและผืนดินอันกว้างใหญ่ของดินที่ถูกเผาไหม้ได้แข็งตัวอยู่รอบตัวพวกเขา

ห้องปฏิบัติการทั้งหมดดูเหมือนจะถูกเผาด้วยเปลวไฟขนาดใหญ่

เกิดอะไรขึ้นที่นี่…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” นักปราชญ์เฟิงกลืนน้ำลายในปาก ทุกอย่างที่อยู่ต่อหน้าเขามันเกินความเข้าใจของเขา

มันเป็นกลิ่นของเปลวไฟสีน้ำเงิน” ไม่มีใครรู้ว่า เมื่อเจ้าวังเข้ามาในห้องทดลองที่ถูกกวาดล้างเมื่อไหร่ เขาหรี่ตาเล็กน้อย เขารับรู้ถึงกลิ่นที่หลงเหลือในห้องปฏิบัติการ แม้ว่าเปลวไฟจะได้หายไปแล้ว

หลังจากการเผาไหม้ในอากาศยังคงมีกลิ่นจาง ๆ ซึ่งผสมกับสารอื่น ๆ เมื่อสูดดมเข้าไปแล้วจะรู้สึกเจ็บปวดในปอดราวกับถูกไฟไหม้

มีคนทำลายเตาหลอมและเผาทุกอย่างที่นี่ด้วยเปลวไฟสีน้ำเงิน” เจ้าวังกล่าวด้วยใบหน้าที่สงบ

นอกเหนือไปจากกลิ่นของควันไฟสีน้ำเงิน อากาศก็ยังปะปนอยู่กับพลังลมปราณและพลังเวทที่เป็นอิสระจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าพลังเหล่านี้มาจากผู้ที่ถูกไฟเผาไหม้จนระเหยออกไป

ห้องปฏิบัติการที่มีผู้มีอำนาจหลายสิบคนถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง!




EGT 1660 ภัยพิบัติ (3)

ในขณะนี้แม้แต่ใบหน้าที่ไม่อาจหยั่งรู้ของเจ้าวังแห่งราชวังทลายดาว ก็ไม่น่าดูสุดขีด

ไปตามล่าคนที่ทำสิ่งนี้” เจ้าวังลดเสียงของเขาลง แต่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความโกรธอย่างชัดเจน ภายใต้การแสดงออกที่สงบของเขา

ตอนนี้ห้องปฏิบัติการทั้งเจ็ดถูกทำลายไม่เพียงแต่ร่างทดลอง ขยะทดลองและบุคลากรในห้องปฏิบัติการจะเสียชีวิตเท่านั้น

เปลวไฟสีน้ำเงินที่หายากก็หายไป

เจ้าวังรู้สึกโกรธจนบ้าคลั่งอย่างแท้จริง

เขาไม่สนใจนักทดลองที่ตายแล้วเพราะถ้าเขาต้องการ โอวหยางฮันหยูสามารถฝึกอบรมคนที่มีความสามารถ ในการใช้เคล็ดวิชาการปลูกถ่าย แม้ว่าขยะเหล่านั้นจะหายไป มันก็มีผู้ดำรงชีพขั้นสองมากมายในราชวังทลายดาว และเขาสามารถจับพวกเขาบางคนเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องสังเวยได้

มันจะไม่มีอะไรผิดปกติกับมันโดยสิ้นเชิง

แต่เปลวไฟสีน้ำเงินจากโอวหยางฮันหยูนั้นทำได้ยากมาก ชื่อที่แท้จริงของเปลวไฟสีน้ำเงินคือ

เพลิงนรก” มันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเทพและปีศาจดับสูญในเวลาเดียวกัน

และวิญญาณของพวกเขารวมตัวกันก่อนที่พวกเขาจะเหือดหายไป เพลิงนรกทั้งหมดนี้มาจากสงครามระหว่างเทพเจ้าและปีศาจเมื่อหลายพันปีก่อน หลังจากการต่อสู้ที่นับไม่ถ้วน การทำลายล้างของเทพเจ้า ความตายและการบาดเจ็บล้มตายของปีศาจอย่างมหาศาล มันก่อกำเนิดเพลิงนรกเล็กน้อยนี้

เจ้าวังรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้วที่เขาจะได้เพลิงนรกอีกต่อไป

หลังจากที่เหล่าเทพเจ้าเสียชีวิตไปแล้วอย่างสิ้นเชิง

หากคิดว่าสิ่งแปลกประหลาดนี้ถูกทำลายไปทันทีมันก็ทำให้เขาอยากจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด

ถ้า เฉินหยานเซียวรู้ว่าต้นกำเนิดของเปลวไฟสีน้ำเงินนั้นดุร้าย เธอจะไม่ปิดห้องทุกห้องหรืออย่างน้อยก็จะเก็บเพลิงนี้ไว้กับตัวสักเล็กน้อย

ตอนนี้ไฟที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเพลิงนรกดับไปแล้ว เมื่อปราศจากเพลิงนรก หากพวกเขาต้องการดำเนินการปลูกถ่าย ทั้งความเร็วและความบริสุทธิ์จะลดลงอย่างมาก

อาจกล่าวได้ว่าปัญหาที่เฉินหยานเซียวสร้างขึ้นส่งผลโดยตรงต่อข้อจำกัดที่ดีของความคืบหน้าในอนาคตของราชวังทลายดาว

อย่างไรก็ตาม เฉินหยานเซียวไม่รู้ถึงเรื่องนี้ 

ความโกรธของเจ้าวังแพร่กระจายไปทั่วราชวังทลายดาว และแม้แต่ในหมู่พวกเขาเอง

พวกเขาเริ่มมองหาตัวบุคคลที่น่าสงสัยอย่างบ้าคลั่ง

แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่พบแม้แต่เส้นขนของผู้ร้ายและไม่มีใครรู้ว่าภัยพิบัติเกิดขึ้นได้อย่างไร

ในขณะที่ ราชวังทลายดาวทั้งหมดกำลังยุ่งกับการค้นหาผู้กระทำความผิด เฉินหยานเซียวได้นำกองทัพปีศาจของเธอมาที่ประตูของราชวังทลายดาว

ยามหลายคนที่ทางเข้าต่างตกตะลึงเมื่อเห็นกองทัพขนาดใหญ่เช่นนี้ พวกเขาร้องโหยหวน วิ่งเข้าไปในวังและรายงานข่าวไปยังเจ้าวังที่กดดัน

มีใครบางคนบุกเข้ามา? ใครกัน?” เจ้าวังกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ของเขาในห้องโถงใหญ่ของราชวัง

การสูญเสียเพลิงนรก มันทำให้เขาเดือดดาล ตอนนี้มีคนงี่เง่าที่ต้องการฆ่าตัวตาย แม้แต่กล้าที่จะนำทหารมาโจมตีราชวังทลายดาวของเขา พวกเขาดูเหมือนจะไม่ถนอมชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก

ตอบเจ้าวัง ผู้นำกองทัพ…ดูเหมือนจะเป็น เฉินหยานเซียว”

เป็นเธอเหรอ” ใบหน้าของเจ้าวังเปิดเผยร่องรอยของความประหลาดใจ เนื่องจากโอวหยางฮันหยู ทุกคนในราชวังทลายดาว จากบนลงล่างเห็นภาพของเฉินหยานเซียว

แม้กระนั้นเจ้าวังก็ไม่ได้มองเธอด้วยสายตาที่ประเมินค่าเธอไว้สูง เธอไม่ได้มีค่าอย่างยิ่งในสายตาของเขา

สองสามครั้งที่พวกเขายิงเข้าใส่เธอ คนหนึ่งทำเพื่อไว้หน้าราชวังทลายดาว และอีกด้านคือเพื่อสร้างความดีความชอบกับโอวหยางฮันหยู

อาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่ต้นจนจบหัวหน้าของราชวังทลายดาว ไม่ได้เห็นเฉินหยานเซียวอยู่ในสายตาของเขาเลย

เฉินหยานเซียว พร้อมกับปีศาจนับหมื่นมุ่งหน้าเข้ามาหาเรา” พวกยามกลืนน้ำลาย

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นมืออาชีพขั้นที่สอง แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นกองทัพมหึมาของปีศาจอันดับสูงเช่นนี้มาก่อน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น