SOT 325-326

SOT 325 โทษประหาร!

 

เมื่อเจ้าหน้าที่อาวุโสของโรงเรียนสุนัขตำรวจในมูโจว เห็นสายเรียกจากหัวอี้ หัวใจของเขาก็กระโจน เขากังวลว่ามีบางอย่างผิดปกติกับสุนัขตัวใดตัวหนึ่งที่พวกเขาส่งไปหรือ หัวอี้จะมีหนังที่หนาพอที่จะขอสุนัขเพิ่มอีก

"สวัสดีเพื่อนร่วมชั้นเก่า!" ระดับเสียงของหัวอี้เพิ่มขึ้น ดูเหมือนเขาจะอารมณ์ดี

เจ้าหน้าที่อาวุโสก็ระวังอยู่แล้ว "เกิดอะไรขึ้น? พูดตามตรง เราไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมชั้น"

"สหาย แล้วกันงั้น ยังไงก็เถอะ อย่ามัวแต่หาเรื่องกันนัก ฉันมีข่าวสำหรับคุณ"

"ดีหรือไม่ดี"

"ดีนะ ฉันคิดว่า"

“พูดมา ไม่ว่าในกรณีใดอย่าแม้แต่จะคิดที่จะขอสุนัขเพิ่มอีก คนจำนวนมากคัดค้านการกู้ยืมเงินและฉันยังคงต้องพูดคุยกับพวกเขาให้สงบลง"

"ดูสิ คุณยังมัวแต่พูด้รื่องไร้สาระ ทำไมคุณไม่ฟังสิ่งที่ฉันจะพูดและคอยตัดสินใจ"

“คุณกำลังบอกว่าคุณกำลังจ้องสุนัขตัวหนึ่งของเราอีกครั้งเหรอ?”

"เราจับกุม Dog Butcher"

เจ้าหน้าที่อาวุโสกำลังจะด่าว่าเขาอีกครั้ง แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อ "Dog Butcher" เขาก็จริงจังและกำหมัดของเขาแน่น "นี่เรื่องตลกใช่ไหม?"

ชื่อ "Dog Butcher" ได้ทิ้งรอยแผลที่ลบไม่ออกให้กับพวกเขาโดยเฉพาะผู้ฝึกสอนสองสามคนที่ได้เห็นการสังหารสุนัขอันเป็นที่รักของพวกเขา เป็นเวลาหลายปี แต่พวกเขาก็ยังไม่หายดี

"ฉันส่งสำเนาของผลลัพธ์การจับคู่ DNA ให้คุณหากคุณยังไม่เชื่อฉัน คุณสามารถส่งใครบางคนมาเพื่อยืนยันตัวตนของเขาได้ ถ้าเป็น Dog Butcher จริง ๆ ฉันจะปล่อยเขาไว้ในการตัดสินใจของคุณ หลังจากที่ฉันสอบสวนเขาเรื่องนั้นเสร็จแล้ว ว่าไง ฟังดูดีไหม?"  หัวอี้กล่าวต่อว่า "ด้วยเป็นการขอบคุณ คุณสามารถส่งลูกสุนัขชั้นยอดเพิ่มอีก 10 ตัว"

"นั่นเป็นไปไม่ได้! พวกเราหมดลูกสุนัข Class A แล้วเราเพิ่งส่งมอบให้คนอื่นไป อย่างมากฉันสามารถให้คุณได้อีกสองคนตัว แต่เดี๋ยวก่อน พวกคุณจับ Dog Butcher จริงๆหรือไม่?"

"แน่นอน!" หัวอี้รักษาอาการสงบของเขาไว้ “คุณควรตัดสินใจในไม่ช้า Dog Butcher มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมบางอย่าง หลังจากที่ฉันเสร็จสิ้นการสอบสวน ฉันจะต้องทำการเคลื่อนไหวที่สำคัญบางอย่าง มันอาจดึงดูดความสนใจอย่างมาก ถ้ามีใครมาขอเขาฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะสามารถหยุดพวกเขาได้"

"ฉันไม่สนใจสิ่งที่คุณต้องทำ คุณต้องเก็บ Dog Butcher ให้ฉัน!"

ในท้ายที่สุดคำขอของหัวอี้สำหรับสุนัขเพิ่มได้รับการตกลงเมื่อตัวตนของ Dog Butcher ได้รับการยืนยัน เจ้าหน้าที่อาวุโสที่โรงเรียนสุนัขตำรวจไม่ได้เชื่อในสิ่งที่หัวอี้พูดทั้งหมด เขาไม่รู้ว่าสุนัขตัวแรกที่เขาส่งไปหวายอยู่ในเงื่อนไขอะไร เขาจะรอคนที่เขาส่งไปยังฐานหวายเพื่อรายงานกลับ หากฐานไม่ปลอดภัยเพียงพอเขาจะไม่ส่งลูกพี่ลูกน้องของมันไปอีก ลูกสุนัขเหล่านั้นคือลูกของพวกเขา!

หลังจากไตร่ตรองเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ก็โทรศัพท์ออกไปสองสามครั้ง

หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่โรงเรียนตำรวจสุนัข

หัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ของกองทัพ มูโจว

สาขาท้องถิ่นของสำนักต่อต้านการลักลอบการค้าโลก

เมื่อถึงเวลาที่หัวอี้ได้ยินโทรกลับมาจากมูโจว พวกเขาได้รวบรวมทีมตรวจสอบที่พร้อมจะออกเดินทางสู่ฐานหวาย

ตอนนี้ฐานหวายและเจ้าหน้าที่ในมูโจวได้ร่วมมือกันแล้วมันจะยากสำหรับคนอื่น ๆ ที่จะต้าน เมื่อพวกเขาพร้อมที่จะเข้าแทรกแซง Dug Butcher อาจถูกประหารใน มูโจว แล้ว

แต่ก่อนที่ผู้คนจากมูโจวจะไปถึง หัวอี้จะต้องระมัดระวังกับบุคคลที่สร้างความไม่สงบบนสนามหญ้าของเขา

ฝางจ้าวจูงเจ้าขนหยิก พร้อมด้วยโจวยูและหยานเปี่ยวกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของพวกเขาในสตูดิโอหวายภาพยนตร์คอมเพล็กซ์ พวกเขาเดินทางตอนกลางคืนอีกครั้งด้วยรถจี๊ปที่ยืมมาจากฐานหวายเพื่อให้เจ้าขนหยิกอยู่ภายใต้การคุ้มครอง

กลับไปที่สนามหญ้าของพวกเขาเอง โจวยูและหยานเปี่ยวรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น พวกเขาไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะถามคำถามบนฐาน แต่ตอนนี้พวกเขากลับมา พวกเขาจะจัดการถาม

"บอสทำไมคุณไม่ฆ่า Dog Butcher เขาเกือบจะยิงเจ้าขนหยิก!" โจวยูถาม

หยานเปี่ยวพยักหน้าเห็นด้วย "มันจะง่ายกว่าไหมถ้าจะทำให้เขาหายตัวไปในป่า หากเขามีการเชื่อมต่อที่ทรงพลังเขาอาจถูกลักพาตัวขณะกำลังขนส่ง คนที่ฐานมีแนวโน้มที่จะยอมแพ้เมื่อพวกเขาพบกัน เราไม่สามารถคาดหวังให้พวกเขาแก้แค้นได้อย่างแน่นอน"

"Dog Butcher ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าสุนัขบริการที่มียศหลายตัวในมูโจว ฉันถามเขา เพราะเขามีความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในมูโจว" ฝางจ้าว ตอบ

โจวยู เข้าใจความคิดของฝางจ้าวในทันที เขาหัวเราะเบา ๆ “นั่นเป็นเรื่องจริงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการมอบเขาให้กับกลุ่มคนในมูโจว พวกเขาคงอยากที่จะขย้ำเขาอย่างเต็มที่”

คนในมูโจวมีอารมณ์ที่รุนแรง เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใครก็ตามที่ทำให้พวกเขาโกรธ - พวกเขาจะถูกผูกมัดเพื่อทำให้ชีวิตของคนเหล่านั้นมีความสุข เมื่อคนในมูโจวดื้อ พวกเขาคล้ายกับสุนัขล่าสัตว์ พวกเขาจะทำทุกอย่าง ไม้แม้แต่จะกัด

"การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถูกตัด" หยานเปี่ยวประกาศในทันใด "มันเป็นสตูดิโอหวายฟิล์มคอมเพล็กซ์ทั้งหมด มีย่านบันเทิงใหม่หลายแห่งเกิดขึ้น และย่านที่กำลังก่อสร้าง"

โจวยูมองไปข้างนอก "บอส ฐานจะต้องเปิดเผยการดำเนินการ พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหว"

การสอบปากคำของ Dog Butcher ต้องยอมแพ้บางสิ่งบางอย่างและตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องลงมือ หัวอี้ก็เต็มไปด้วยอารมณ์เช่นกัน เขามองหาข้ออ้างที่จะปราบปรามในบางครั้ง นี่เป็นข้ออ้างที่สมบูรณ์แบบ

การมาถึงของยานพาหนะทางทหาร ทำให้สิ่งต่าง ๆ รู้สึกสะเทือนไปทั่วย่านบันเทิง สายตาของทหารติดอาวุธนั้นดูเหมือนจะก่อให้เกิดความวุ่นวาย

"เกิดอะไรขึ้น?"

"มีการจลาจล?"

"มันเป็นทหารจากฐานหวาย"

"ทำไมต้องเกิดความวุ่นวาใครที่ f * ck ถูกฆ่าตาย นี่มันค่อนข้างจะเปิดตัวขนานใหญ่!"

เจ้าหน้าที่ติดอาวุธ ยังอยู่ข้างบนในขณะที่ยานเกราะติดตั้งและกองทหารมากมายบุกเข้าไปในอาคาร นอกจากนี้ยังมีสุนัขบริการที่ใส่ชุดกันกระสุนที่ประดับด้วยโลโก้หวาย ที่ดมกลิ่นอยู่รอบ ๆ

ในพื้นที่ที่มีการตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผู้อยู่อาศัยได้รับข้อความจากฐานทัพทหารหวาย ส่วนสำคัญคือฐานกำลังทำการค้นหาที่ไม่ได้กำหนดไว้ในพื้นที่ใกล้เคียง ผู้อยู่อาศัยควรทำตามคำแนะนำและไม่ต้องตกใจหรือพยายามหนี มิฉะนั้นอาจถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัย ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดพวกเขาอาจถูกยิงพลาด ดังนั้นคนที่ดื่มเหล้าก็ควรจับตาดูเพื่อนและเพื่อนร่วมงานที่มีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นก่อปัญหาเมื่อพวกเขาเมา

ในไม่ช้าเสียงปืนเสียงดังสนั่นและเสียงระเบิดดังขึ้นในหนึ่งในย่านบันเทิงใหม่

นี่เป็นคืนที่นอนไม่หลับสำหรับนักฉวยโอกาสที่เดินทางมาหวายเพื่อทำเงินด่วน

หัวอี้เคลื่อนไหวอย่างเด็ดขาดในครั้งนี้ เขาต้องการให้ผู้ขุดทองเหล่านั้นรู้ว่าใน หวาย เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ ไม่มีใครกล้ารบกวน ก่อปัญหาบนสนามหญ้าของฉัน!

"ให้ความร่วมมือ ไม่จำเป็นต้องกังวล การค้นหาเหล่านี้จะเพิ่มความถี่มากขึ้น เราอาจคุ้นเคยกับพวกเขาในตอนนี้" ฝางจ้าวบอกกับโจวยูและหยานเปี่ยว

"รับทราบบอส"

หลังจาก โจวยูและหยานเปี่ยวออกไปแล้ว ฝางจ้าว เข้าไปในห้องที่ประตูถูกปิดอยู่ เพื่อที่จะเห็นว่า เจ้าขนหยิกยังเล่นเกมอยู่

ฝางจ้าวถอดเข็มฉีดยาออกจากชุดอุปกรณ์การแพทย์ของเขา

"เจ้าขนหยิก ได้เวลาสำหรับการเจาะเลือด"

เจ้าขนหยิกซึ่งหมกมุ่นอยู่กับเกมของมัน เพียงแค่ส่งเสียงรับ

ฝางจ้าวจิ้มเจ้าขนหยิกด้วยเข็มฉีดยา

เข็มงอ

ฝางจ้าวเปลี่ยนเข็มใหม่และดึงที่ปลายหูหนึ่งของเจ้าขนหยิกซึ่งถูกปกคลุมด้วยหมวกของเกมบางส่วน "เจาะเลือด!"

คราวนี้เจ้าขนหยิกก็เปลี่ยนสายตาจากจอมาที่ฝางจ้าวในที่สุด มันกระดิกหางของมันและส่งเสียงครวญครางอย่างน่าพอใจ

ฝางจ้าวปล่อยหูฟังลงบนหูเจ้าขนหยิก ครั้งนี้เข็มผ่านไปในหนังมันได้

หลังจากเจาะเลือด ฝางจ้าวตรวจสอบเข็มที่โค้งงอ "เอาละ กลับไปเล่นเกมของเธอต่อ"

ฝางจ้าวหยดเลือดที่เขาเจาะมาจากเจ้าขนหยิกไปบนอุปกรณ์ทดสอบขนาดเล็กที่เขาเอามาจากชุดอุปกรณ์แพทย์ระบุระดับโลหะในเลือดของเจ้าขนหยิก มันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การอ่านอื่น ๆ ของมันดูเป็นเรื่องปกติ สิ่งเดียวที่ ฝางจ้าว ไม่รู้คือ ระดับโลหะสูงนี้จะเป็นชั่วคราวหรือถาวร

เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้

ฝางจ้าวจดจำข้อมูลทิ้งกระบอกฉีดยาและเข็มแล้วล้างอุปกรณ์ทดสอบของข้อมูล จากนั้นเขาก็ดูข้อความบนสายรัดข้อมือของเขา

เขาไม่สามารถติดต่อผู้คนนอกดาวเคราะห์หวายได้ แต่เขายังคงสามารถติดต่อกับผู้คนในระยะที่กำหนดได้

การค้นหาใกล้จะเสร็จสิ้น ทหารจับกุมคนได้ประมาณ 20 คนและปิดไนท์คลับสองแห่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษ

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเริ่มต้นต่อเมื่อรถทหารถอยออกไปจากโรงถ่ายภาพยนตร์ แต่ไม่มีการรายงานข่าวออนไลน์เกี่ยวกับการปฏิบัติการ

ฝางจ้าวงงงวย

ไม่ใช่ความตั้งใจของหัวอี้ที่จะทำการแถลงและส่งข้อความถึงคนที่มีโปรไฟล์สูงเกินไป? มันเป็นการดำเนินการที่เป็นธรรมและเด็ดขาดโดยสิ้นเชิง โดยไม่จำเป็นต้องเก็บซ่อนไว้ ทำไมไม่มีใครรั่วไหลคำพูดของการปฏิบัติการนี้ออกมา?

ฝางจ้าวเรียกดูเพิ่มเติม

ทั้งหมดที่เขาสามารถหาได้คือข้อความที่คลุมเครือจากคนดัง B-list บางคนที่ตกตะลึงเล็กน้อย ไม่มีการเอ่ยถึงทหาร เมื่อพวกเขาถูกกดดันให้อธิบายรายละเอียด พวกเขาทำเพียงแค่อธิบายและโพสต์ออกไปว่ามันเป็นเพียงปฏิกิริยาที่มีต่อฝันร้ายหรือเหตุการณ์อื่น ๆ

พวกเขาไม่กล้าพูดถึงกองทัพ

กองกำลังสื่อบันเทิงซึ่งมักตีพิมพ์รายการที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับคนดังที่สตูดิโอหวายฟิล์มคอมเพล็กซ์ก็เงียบกริบ

พวกเขาไม่ต้องการยุ่งกับทหาร

นักข่าวบันเทิงยังคงหลงเหลืออยู่ในขณะที่เพื่อนร่วมงานของพวกเขาหายตัวไปกลางดึก พวกเขาทุกคนรู้ว่าการรายงานเกี่ยวกับคนดังก็โอเค แต่ข่าวเกี่ยวกับการทหารไม่ได้จำกัด พวกเขาไม่มีความปรารถนาที่จะตาย

ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าพอที่จะรายงานการดำเนินการของคืนนี้

ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในย่านบันเทิง

นักข่าวบันเทิงบางคนที่ตะกายกลับไปที่โรงแรมเพื่อพบกัน

"การค้นหาได้มาถึงข้อสรุป ฉันได้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอแล้ว เมื่ออินเทอร์เน็ตกลับมาเป็นปกติ ฉันควรส่งเรื่องไหม"

"คุณสามารถยื่นเอกสารได้หรือไม่"

"ลืมไปเถอะไม่มีทางที่ฐานทัพหวายจะให้เรายื่นเรื่องที่ทำให้เกิดผลเสียต่อกองทัพ"

"ไม่เลย! ถ้าคุณยืนกรานที่จะส่งเรื่อง กรุณาสลับห้องก่อน อย่าลากเราลงไปกับคุณ ฉันไม่มีเจตนาจะถูกจับกุมโดยทหารในตอนกลางคืน"

"ผู้บังคับบัญชาของเรา บอกเราว่าควรหลีกเลี่ยงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ"

นักข่าวบันเทิงอีกกลุ่มหนึ่งกำลังสนทนากันในห้องอื่นที่โรงแรมเดียวกัน

พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของยุคทองที่สตูดิโอหวายฟิล์มคอมเพล็กซ์ภายใต้ปรากฏการณ์ "ยุคก่อตั้ง" พวกเขาต้องตั้งสำนักงานที่นี่มาไม่น้อยกว่าสองปีที่ผ่านมา

“แล้วเราควรทำอย่างไรดี เราควรยื่นหรือไม่ ฉันรู้สึกว่าเราได้รับวัสดุที่ดี คืนนี้ในหมู่คนที่ถูกทหารจับเป็นนักแสดง B-list"

"โชคชะตามักเข้าข้างคนกล้า!"

"มาเถอะ โยนลูกเต๋ากัน!"

นักข่าวกลุ่มนี้ไม่ทิ้งสกูปใหญ่มาก่อน ตอนนี้พวกเขามีโชคที่ผิดปกติในการสะดุดเรื่องใหญ่ พวกเขาไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย สำหรับพวกเขาที่จะส่งผ่านสิ่งที่ได้มาได้ยากเช่นนี้ ไม่มีทาง!

ถ้าอย่างนั้นเราจะสามารถจัดไฟล์ได้ ถ้าเราทำไม่ได้สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เราจะถูกขังไว้โดยกองทัพเป็นเวลาสองสามวัน มันจะไม่เลวร้ายขนาดนั้น "นักข่าวที่สร้างการทำนายไม่เชื่อมั่นในตัวเองนัก"

"ตกลงฉัน ... ยื่นฟะ-ไฟล์"

"อะไร?"

"คุณสามารถยื่นไฟล์ได้ไหม"

คนอื่น ๆ ในห้องมองเขาที่จ้องมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

"... คุณสามารถจัดเก็บไฟล์ได้จริงหรือเปล่า"

“นั่นหมายความว่าเรื่องราวของคุณไม่ได้ถูกตรวจสอบโดยกองทัพหรือไม่ พวกเขาพลาดหรือเปล่า”

ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถข้ามทหารหวายได้ หากหวายมีเจตนาในการตัดทอนเรื่องราวบางอย่างเนื่องจากพวกเขาเข้าใจในเทคโนโลยี

"ทำไมเราไม่ลองเรื่องอื่น"

นักข่าวดำเนินการอย่างรวดเร็ว พวกเขายื่นภาพบางส่วนที่พวกเขาเพิ่งถ่ายพร้อมกับข้อความสั้น ๆ

พวกเขาประสานนิ้วของพวกเขาเข้าด้วยกัน และกัดฟันของพวกเขา

พวกเขากดปุ่ม "ส่ง"

ติง! อัปโหลดไฟล์สำเร็จ

"..."

ช่วงเวลาสั้น ๆ แห่งความเงียบงัน

"มีใครเคาะ?"

"ไม่มีวี่แววของคนส่งอาหารส่งถึงที่พัก?"

อีกสองนาทีต่อมา

ขณะที่พวกเขาดูรายการข่าวที่พวกเขาเพิ่งส่งออกไป อย่างรวดเร็วนักข่าวรู้สึกว่าเลือดท่วมท้นและร้อนแรงราวกับว่าพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างแท้จริง

เราเป็นระเบิด f * cking!

"รีบหน่อย รีบหน่อย ..เรามาแก้ไขภาพกล้องวงจรปิดที่เราได้รับ คุณตัดต่อมันเร็วเข้า! คุณไม่ต้องการให้ฉันแสดงวิธีดึงดูดผู้ชมจำนวนมากใช่ไหม และคุณอย่าลืมซื้อไลค์และจัดอันดับ!"

นักข่าวบันเทิงคนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นในไม่ช้า

"นี่ ... ไม่ถูกเซ็นเซอร์จริงเหรอ?'

"ทหารไม่ได้กำจัดสหายเหล่านี้ในเวลานี้เหรอ?"

"F * ck เราก็มีสกู๊ปด้วย!"

"เร็วเข้าและส่งออกไป!"

ตอนนี้พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกจับกุม นักข่าวบันเทิงก็เริ่มกล้าหาญ พวกเขาออกไปข้างนอกและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติโดยใช้หัวข้อข่าวที่ถูกผูกไว้เพื่อกระตุ้นการโต้เถียงและเขียนเรื่องราวในแบบที่มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เกิดการอภิปราย พวกเขามีวันภาคสนามที่นำเหตุการณ์ออกจากบริบท สำหรับตอนนี้พวกเขาหลีกเลี่ยงการผลิตที่แท้จริง แต่ไม่ว่าฝูงจะคาดการณ์จากภาพและวิดีโอที่พวกเขายื่น - มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขาแล้ว

การสนทนาออนไลน์พัฒนาขึ้นตามที่นักข่าวบันเทิงคาดการณ์ไว้

"น่ากลัว มาตัดสินจากภาพคุณจะคิดว่าการจลาจลเกิดขึ้นกับหวาย?"

"ดังนั้นมันกลับกลายเป็นว่าหวายวุ่นวาย ฐานหวายอยู่เหนือการควบคุม!'

"ใครให้สิทธิ์แก่พวกเขา"

"กลยุทธ์ไหวพริบเหล่านี้ ปฏิบัติโดยทหารหวายเหรอ?

การโต้เถียงออนไลน์ยังคงดำเนินต่อไปอีกสองสามวัน แต่ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ ผู้บัญชาการของฐานทัพทหารถูกด่าว่า ทหารยังละเว้นจากการแสดงความคิดเห็น ในที่สุดเมื่อน้ำท่วมข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตทุกวันความสนใจของผู้คนก็เปลี่ยนไปที่อื่น

จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อสำนักต่อต้านการลักลอบการค้าโลกได้ออกแถลงการณ์ขอบคุณฐานหวาย สำหรับการจับฆาตกรสุนัขบริการที่มียศหลายตัว

คำแถลงนี้รวมถึงประวัติของสุนัขบริการที่เป็นตัวแทนอีกหลายรายที่ถูกฆ่าตาย โดยระบุความสำเร็จหลักของพวกมัน วันที่และสถานที่ของการเสียชีวิตของพวกมัน ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมทั้งหมดเป็นบุคคลเดียวกันคือ Dog Butcher

เขตการทหารของ มูโจว แถลงการณ์ว่า: "ใน มูโจว การสังหารสุนัขที่มียศเหล่านี้ จะต้องได้รับโทษสูงสุด ประหารชีวิต"

ฐานหวายตามมาอย่างรวดเร็ว: "บนฐานหวาย การฆาตกรรมสุนัขบริการที่มียศนั้นก็มีโทษประหารชีวิตสูงสุดด้วยเช่นกัน"

คำสั่งนี้ยังรวมถึงลิงก์ไปยังวิดีโอที่มีผู้บัญชาการไหว หัวอี้ปรากฏอยู่

หัวอี้อยู่ในชุดทหารและพูดด้วยน้ำเสียงอึมครึมและมั่นคงส่งสัญญาณความมุ่งมั่นของเขาที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยบนหวายและขับไล่อิทธิพลชั่วร้ายใด ๆ "หวายเป็นดาวเคราะห์ที่สวยงาม มันเป็นสถานที่เพาะปลูก ที่ศิลปะเจริญรุ่งเรือง มันไม่ใช่ดินแดนที่ไร้กฎหมาย เราอยู่ที่นี่ที่ฐานทัพทหารหวาย..."

ร้านข่าวสำคัญส่วนใหญ่รายงานข้อความและให้รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินงานหวาย ไม่มีการจลาจล ทหารบุกเข้าไปในสถานประกอบการที่ผิดกฎหมายหลายแห่ง ไนท์คลับสองแห่งปิดตัวลงในคืนนั้นมีสถานที่ต้องห้ามในสถานที่และเป็นสถานที่ดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย

อาชีพของดาราที่เกี่ยวข้องอยู่ในผ้าขี้ริ้ว

เมื่อผู้คนใน มูโจว ได้ยินชื่อ "Dog Butcher" พวกเขาก็บ้าคลั่ง

"โทษประหาร! มันเป็นโทษประหาร! ดียิ่งขึ้นถ้ามีการถ่ายทอดสดการประหาร!'

"การถ่ายทอดสดไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ต้องมีการตัดสินประหารชีวิตใน มูโจว!"

"Dog Butcher? ประโยคประหารชีวิตเป็นเรื่องง่ายสำหรับขยะชิ้นนั้น!"

“F * ck ไอ้ตัวนี้ฆ่าสุนัขบริการจำนวนมากที่เลื่อนยศ เขาทำอะไรกับสุนัข?”

"คนที่ไม่ใช่ชาวมูโจว อาจไม่รู้จัก Dog Butcher มากนัก มาให้ฉันบอกความสัมพันธ์ของเขากับสุนัข ... "

การอภิปรายรอบใหม่เกิดขึ้นทางออนไลน์

แต่สิ่งที่ประชาชนไม่รู้ก็คือจุดศูนย์กลางของการจับ Dog Butcherร์ คือสุนัขตัวเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะมาทำงานบนฐานหวายและนักแต่งเพลงที่เพิ่งถ่ายทำ "ยุคก่อตั้ง" เสร็จ

ตอนนี้ฝางจ้าวพร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว

เจ้าขนหยิกต้องอยู่ห่างจากความโดดเด่น ไม่มีแม้แต่นักแสดงและทีมงานของ "ยุคก่อตั้ง" ที่รู้ว่าฝางจ้าวได้นำสุนัขของเขามาที่หวาย ดังนั้นฐานหวายแอบส่งเจ้าขนหยิกจากสตูดิโอหวายภาพยนตร์คอมเพล็กซ์ไปยังท่ายานอวกาศหวาย ฝางจ้าวสั่งให้โจวยูและหยานเปี่ยวคอยดูแลเจ้าขนหยิกในขณะที่เขาเดินทางไปพร้อมกับนักแสดงและทีม "ยุคก่อตั้ง" ที่เหลือ

ที่กระสวยอวกาศนักแสดงและลูกเรือก็ตะกายขึ้นเรือ ผู้มาทีหลังเห็นเหตุการณ์แปลก ๆ

ไม่ไกลนัก กองทัพทหารจ้องมาที่ฝางจ้าว ในหมู่พวกเขาเป็นพันเอกที่จ้องมองมาที่ฝางจ้าวด้วยสายตาที่เศร้าและเต็มไปด้วยอารมณ์

ทหารกำลังจ้องมองอย่างดุดันไปที่นักแสดงและทีมงานข่มขู่พวกเขา แต่เมื่อพวกเขาเปลี่ยนสายตาไปที่ฝางจ้าว ใบหน้าของพวกเขาก็อ่อนลง

นักแสดงและทีมงานที่เห็นฉากนี้ ต่างสั่นสะเทือนและมีอาการขนลุก พวกเขาขึ้นยานอวกาศอย่างรวดเร็วเพื่อแบ่งปันฉากกับคนอื่น

"ฝางจ้าวต้องมีความสัมพันธ์กับพวกเขา ทหารจากฐานหวายจ้องมาที่เราอย่างเยือกเย็นและเมื่อพวกเขามองไปที่ฝางจ้าวก็ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นการมาส่งพ่อที่จะต้องจากไปนาน! เลือกปฏิบัติ!"

"นั่นไม่สามารถเป็นไปได้" นักแสดงและทีมงานที่ขึ้นมสก่อนหน้านี้ไม่น่าเชื่อ "เราทุกคนรู้ว่า ฝางจ้าว รู้จักผู้คนจากฐานหวาย แต่เขาไม่ได้มีอะไรที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน"

"ใช่ เขามี! คุณต้องเชื่อฉัน! ฉันสาบานว่าฉันเห็นน้ำตาในดวงตาของทหาร!"

ไม่ไกลจากประตูขึ้นเครื่อง

ผู้พันพูดกับฝางจ้าวด้วยเสียงเศร้าของเขา "ฝางจ้าวแล้วกลับมาเยี่ยมเราอีก  เรายินดีต้อนรับคุณเสมอ โอ้ใช่แล้วคุณมีส่วนร่วมในสตูดิโอหวายฟิล์มคอมเพล็กซ์ คุณจะต้องกลับมาอีกแน่นอน จำไว้ว่าให้นำเจ้าขนหยิกมาด้วย พวกเราที่สถานีอวกาศรักเขา!" ผู้พันพูดต่อ "ฉันรู้ว่าเวลาเจ้าขนหยิกมีอารมณ์และชอบที่จะฉีกโซฟาและเคี้ยวรองเท้า แต่มันเป็นสุนัขที่ดี! ถ้าคุณรู้สึกไม่ดี อย่าขายมัน แค่ส่งมันมาที่หวาย เราจะดูแลมัน"

ฝางจ้าว: "คุณกำลังคิดมากเกินไป"

เจ้าขนหยิกไม่เคยฉีกเก้าอี้โซฟาหรือเคี้ยวรองเท้าเมื่อมันอยู่ที่บ้าน

ผู้พันก็ยืนกราน "ฉันแค่หมายความว่า จำไว้ว่า ถ้าคุณไม่ต้องการมันอีกต่อไป ให้นึกถึงเราไว้ก่อน!” ฐานทหารหวายจะยิ่งร่ำรวยและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผู้พันยังคงโบกมืออย่างแรงเมื่อ ฝางจ้าวเดินเข้าไปในห้องโดยสาร "อย่าลืมนะฝางจ้าว!"

ผู้โดยสารที่อยากรู้อยากเห็นพูดกับฝางจ้าว เมื่อเขาขึ้นยานบินว่า "ฝางจ้าว ดูเหมือนว่าคนจากฐานทัพทหารของหวาย จะคิดถึงคุณจริงๆ"

ฝางจ้าว: "ใช่ นิดหน่อย"

ไม่ สุนัขของฉันคือสิ่งที่พวกเขาคิดถึง

SOT 326 จบแล้ว!

 

ฝางจ้าวกลับโลกพร้อมกับกลุ่มนักแสดงและทีมงานกลุ่มสุดท้าย โม่หลางหวังว่าฝางจ้าวจะอยู่ต่อไปอีกซักครู่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคำถามในการแต่งเพลงดังนั้น ฝางจ้าวจึงกลับช้า

แต่เมื่อ ฝางจ้าวออกเดินทางจากดาวเคราะห์หวาย ยังมีสมาชิกลูกทีมบางคนที่จัดการทำโพสต์โปรดักชั่นและคนอื่น ๆ ที่ต้องการทัวร์รอบ ๆ ดาวเคราะห์กวาย ที่ยังคงอยู่ต่อไป

โม่หลางได้ทำแก่นเรื่องตอนจบของซีรีส์ 10 นาทีเสร็จแล้วและเขาตัดสินใจที่จะเรียกครอบครัวของเขาไปเยี่ยมชมพื้นที่ที่สวยงามบนดาวเคราะห์หวายและอาจค้นหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมเพื่อแต่งเพลง ดังนั้นเขาไม่ได้กลับมาพร้อมกับฝางจ้าว

เพราะเขาจะกลับไปในภายหลัง เมื่อฝางจ้าวกลับสู่โลกหัวข้อข่าวบันเทิงต่าง ๆ ในแต่ละทวีปได้ถูกครอบครองโดยผู้ที่กลับมาก่อนหน้านี้ แม้ว่าฤดูกาลที่เก้าของ "ยุคก่อตั้ง" ยังไม่เสร็จสิ้นการออกอากาศ แต่ฝางจ้าวในซีรีส์ยังไม่ได้รับอาหารกล่องเบนโตะและ ฝางจ้าวก็ไม่ค่อยถูกพูดถึงในการแจ้งเตือนข่าว

เมื่อนักแสดงจาก "ยุคก่อตั้ง" กลับมาและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ และยอมรับการสัมภาษณ์ พวกเขาไม่ค่อยพูดถึง ฝางจ้าว เว้นแต่นักข่าวหรือผู้จัดรายการบางคนถาม พวกเขาจะพูดประโยคสั้น ๆ หนึ่งหรือสองประโยค จุดประสงค์ในการพูดเกี่ยวกับ ฝางจ้าว คืออะไร? เพื่อแข่งขันกับตัวเองเพื่อครอบครองข่าว? คนเหล่านี้ก็ไม่ได้โง่เหมือนกัน

ความสนใจของคนจำนวนมากถูกดึงดูดโดยข่าวที่มีความหมายมากกว่า ฝางจ้าว ที่ไม่ได้รับการกล่าวถึงมาเป็นเวลานาน เขาก็ค่อยๆจางหายไปจากสายตาของผู้คน

ตอนนี้ ฝางจ้าว ได้กลับมาและก่อนหน้านี้เขาไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูด

หลังจากที่ปฏิเสธข้อเสนอแนะของ บริษัท ในการแจ้งข่าวการกลับมาของเขาฝางจ้าว กลับไปที่เมืองฉีอันเพื่อแยกแยะเรื่องบางเรื่อง

เขากลับไปที่บ้านของเขาในเมืองฉีอัน หุ่นยนต์อัจฉริยะรับผิดชอบดูแลห้องของเขา แม้แต่การให้อาหารของทากทะเลผสม "Spiky Hare" ก็ทำโดยหุ่นยนต์

หลังจากออกไปนานอพาร์ทเมนต์ก็ยังคงสะอาดเหมือนเดิมและอากาศก็สดชื่น หุ่นยนต์อัจฉริยะช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก กวาดถูพื้นรดน้ำต้นไม้ใช้ปุ๋ยควบคุมคุณภาพอากาศ ฯลฯ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ

กระถางบอนไซสีเขียวชอุ่มในอพาร์ทเมนท์มีการเจริญเติบโตที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันมีกระถางสองต้นกำลังถึงฤดูกาลออกดอก กลีบดอกไม้นั้นอ่อนโยนและสวยงาม ...

ไม่ถูก!

ฝางจ้าวกวาดสายตาของเขาไปทั่วและไม่เห็นต้นบอนไซต้นอื่น ๆ ในอพาร์ทเมนท์กำลังออกดอก

บอนไซเหล่านี้ถูกทิ้งไว้โดย ซิวจิ้ง เมื่อเขาส่งมอบอพาร์ทเมนท์ให้กับฝางจ้าว ฝางจ้าวจำได้ว่ามีกระถางเหล่านี้ห้าอัน ถ้าสองกระถางออกดอก แล้วอีกสามกระถางล่ะ

ฝางจ้าวไม่คุ้นเคยกับดอกไม้เหล่านี้ที่เพาะปลูกในยุคใหม่ แต่เขาสามารถเปรียบเทียบใบไม้ของพวกเขาได้ หลังจากการค้นหาอย่างพิถีพิถัน เขาพบว่ากระถางสามใบต่างก็มีใบเหมือนกัน แน่นอนจากการค้นคว้าของเขา

แต่ทำไมพวกมันถึงไม่มีดอก แม้ว่ามันจะไม่ตาย แต่บอนไซทั้งสามนั้นก็เตี้ยกว่าอีกสองกระถางในห้องนั่งเล่น

เมื่อกลับมาเพื่อลาดตระเวนดินแดนของตัวเอง เจ้าขนหยิกวิ่งเข้าไปในห้องทำงาน และเห็นฝางจ้าวจ้องมองที่กระถางบอนไซบนโต๊ะของเขา ด้วยอยากรู้อยากเห็น มันลุกขึ้น ฟุดฟิดจมูก และสูดดม มันหยุดชั่วขณะหนึ่งแล้วหันไปดูที่ถังเก็บน้ำข้างๆ

"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!" หลังจากเห่าไม่กี่ มันก็หันไปมอง ฝางจ้าว จากนั้นก็หันกลับมาสนใจถังน้ำและเริ่มเห่าอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น

ฝางจ้าว หันไปดูที่ถังเก็บน้ำ

ด้วยหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ให้อาหารตามเวลาที่กำหนดทากทะเลไฮบริดนี้ไม่ได้ดูแตกต่างไปจากที่ฝางจ้าวทิ้งไว้ ก่อนหน้านี้มันขดตัวเป็นลูกบอลและลอยอยู่ในถังเก็บน้ำอย่างเกียจคร้าน เดือยแหลมที่ละเอียดอ่อนและอ่อนนุ่มปกคลุมร่างกายทั้งหมดเคลื่อนไหวไปพร้อมกับระลอกคลื่นในน้ำ ดูเหมือนลูกบอลที่อ่อนนุ่มและดูนุ่มนวล

เมื่อเห็นฝางจ้าวมองไปที่ถังเก็บน้ำ แต่ไม่พูดอะไรเลย เสียงเห่าของเจ้าขนหยิกก็ยิ่งดังขึ้น

"เอาล่ะ ฉันรู้ว่ามันมีปัญหา" ฝางจ้าวตบเจ้าขนหยิกเบา ๆ และไปที่เปิดกล้องเพื่อดูวิดีโอความปลอดภัย

ติดตั้งระบบตรวจสอบในทุกห้องในอพาร์ตเมนต์ โดยปกติเมื่อ ฝางจ้าว อยู่ที่บ้านเขาจะปล่อยทิ้ง แต่เมื่อเขาไม่อยู่ระบบจะเปิดใช้งาน

ฝางจ้าวอยู่ห่างไกลเพื่อไปถ่ายทำ "ยุคก่อตั้ง" นานเกินไปและระบบการตรวจสอบถูกเปิดใช้งาน ฝางจ้าว ยุ่งมากเกินไปในระหว่างการถ่ายทำดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตรวจสอบระบบการตรวจสอบอย่างระมัดระวังและดูเพียงข้อมูลที่หุ่นยนต์อัจฉริยะส่งมาให้เขาเท่านั้น รู้ว่าทุกอย่างในบ้านเป็นเรื่องปกติ - กวาด ถู รดน้ำต้นไม้ เพิ่มปุ๋ย เลี้ยง "กระต่าย" ตามกำหนดเวลา งานที่ทำเสร็จทั้งหมดเหล่านี้เสร็จตรงเวลาและสัญญาณสำคัญของ "กระต่าย" ใน ถังเก็บน้ำได้รับการบำรุงรักษาในระดับปกติ ดังนั้นฝางจ้าว ไม่ต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมตอนนี้ ฝางจ้าว นำภาพการเฝ้าระวังออกมาจากภายในห้องทำงานของเขาและกรองกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวกับถังเก็บน้ำ ในเวลาไม่นานมีคลิปวิดีโอมากกว่า 40 คลิปปรากฏขึ้น

เปิดวิดีโอแรก ฝางจ้าวทันทีเห็นกระต่ายในถังเก็บน้ำเริ่มเปลี่ยนร่างของมัน มันเกาะติดกับผนังของถังเก็บน้ำ หลังจากนั้นมันก็เปิดฝาที่ด้านบนของถังเก็บน้ำ ซึ่งไม่ได้ปิดผนึกแน่นเกินไป ปลายด้านหนึ่งของ "กระต่าย" ยังคงเกาะอยู่กับผนังของถังเก็บน้ำในขณะที่อีกปลายของมันสำรวจพืชกระถางที่อยู่ใกล้กับถัง

ใบของพืชแต่ละใบมีขนาดเท่ากับไข่เป็ด หลังจากกินใบเดียวอย่างรวดเร็ว "กระต่าย" ก็หวนกลับเข้าไปในแท้งค์น้ำ ร่างของมันก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างช้า ๆ จนกระทั่งมันเป็นสีเดียวกับใบไม้ที่เพิ่งกิน!

จาก "กระต่าย" สีขาวมันกลายเป็น "กระต่าย" สีเขียว

ผ่านหน้าต่างของการศึกษา แสงแดดส่องลงบนถังเก็บน้ำบนโต๊ะ “กระต่าย” ที่ขดตัวเป็นก้อนอีกครั้งแกว่งไปมาหูทั้งสองข้างกวัดแกว่งใหญ่ ดูเหมือนจะมีชีวิตชีวามากกว่าเดิมเหมือนอยู่ในอารมณ์ดี

ฝางจ้าวจำได้ว่าพ่อแม่พันธุ์ของสายพันธุ์ผสมนี้ได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นทากทะเลที่สามารถสังเคราะห์แสงได้เหมือนพืช

ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นทุกอย่าง

เมื่อก่อนบนดาวเคราะห์ไป่จี มันกินพริกที่ซาโร่โยนเข้าไป ตอนนี้เมื่อกินใบไม้มันก็ยังคงปกติ ฝางจ้าวได้รับสัญญาณสำคัญของ "กระต่าย" และพวกมันอยู่ในช่วงปกติ

สิ่งที่น่าประหลาดใจสำหรับ ฝางจ้าว คือทากทะเลสามารถผลักฝาถังน้ำออกมาได้ แม้ว่าฝาจะไม่ล็อค แต่การกดเปิดก็ต้องใช้ความแข็งแรง ไม่เพียงเท่านั้นตัวทากทะเลสามารถยืดร่างกายและค้นหาพืชที่อยู่นอกแท้งค์น้ำได้อย่างแม่นยำ ...

เพราะมันมียีนต่างดาว ฝางจ้าว ไม่สามารถเปรียบเทียบกับทากทะเลพื้นเมืองได้

ฝางจ้าวส่ายศีรษะ เขาตรวจสอบวิดีโอในภายหลัง

หลังจากการปฏิบัติในครั้งแรกด้วยการกัดแทะใบ "กระต่าย" ก็รู้ว่าไม่มีอันตรายหรือภัยคุกคามในสภาพแวดล้อมทำให้มันมีความกล้าหาญเพิ่มขึ้น หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเมื่อร่างกายของมันกลับมาเป็นสีขาวจากสีเขียว มันจะสำรวจด้านนอกอีกครั้งและแทะใบไม้

หลังจากที่มันกัดลงบนต้นไม้ กระถางบนโต๊ะจนกระทั่งหดสั้นกว่าเดิม มันก็ตั้งเป้าไปที่ต้นอื่น ๆ ในห้องทำงาน

นอกจากกระถางสามใบที่ยังไม่ได้ออกดอกแล้ว ยังมีต้นอื่นอีก กระถางอีกสองใบอยู่ห่างออกไปเล็กน้อยและอยู่บนพื้นดังนั้นทากทะเลอาจออกจากถังเก็บน้ำไว้ในช่วงเวลาสั้น ๆ

การดูทากทะเลเปิดและปิดฝาอย่างเชี่ยวชาญ ฝางจ้าวหรี่ตา ดูเหมือนว่าเขาจะต้องล็อคฝาถังเก็บน้ำในอนาคต

หลังจากเปลี่ยนกระถางต้นไม้ไม่กี่ต้นในห้องทำงานที่หดสั้นลงและเปลี่ยนกับพืชชนิดอื่นที่เจริญเติบโตได้ดี ฝางจ้าว ส่งข้อความไปยังผู้เพาะพันธุ์ของทากทะเลไฮบริดและเตรียมที่จะทิ้งมันไว้กับเขาชั่วคราว

หลังจากได้รับการอัพเดตเกี่ยวกับเรื่องงานจากทางด้านข้างของ Silver Wing แล้ว ฝางจ้าว ก็ให้ หยานเปี่ยวและโจวยูพักและกลับไปหาครอบครัวของพวกเขา ท้ายที่สุดพวกเขาก็จากไปนานมาก

เมื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แล้วฝางจ้าวก็นำเจ้าขนหยิกและมุ่งหน้าไปยังเมืองหยานเป่ยอย่างเงียบ ๆ เพื่อเยี่ยมปู่ทวดฝางและย่าทวดฝาง

ที่ หยานเป่ย ที่พักผู้เกษียณ

ปู่ทวดฝางมีแขกมาเยี่ยมวันนี้ เขาเป็นรุ่นน้องที่เขาเคยแนะนำก่อนจะเกษียณ

จูเนียร์คนนี้ทำได้ค่อนข้างดีตอนนี้ หลังจากถูกย้ายออกไปห้าหรือหกปีบุคคลนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งและตอนนี้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยหัวหน้าสำนักในภูมิภาคหนึ่งของทวีป คราวนี้เขากลับมาที่เมืองหยานเป่ยเพื่อเยี่ยมญาติและได้มาเยี่ยมหัวหน้าเก่า อย่างปู่ทวดฝาง

ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำงานภายใต้ปู่ทวดฝางทุกคนรู้ว่าชายชราคนนี้ชอบแนะนำรุ่นน้องและคนรุ่นใหม่ของเขา เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ไม่มีลูกและหลานของเขากลายเป็นบุคคลที่มีความสามารถมาก ในทางตรงกันข้ามผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทุกคนขึ้นไปพร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่และได้อันดับที่อย่างน้อยก็คล้ายกับปู่ทวดฝางก่อนที่เขาจะเกษียณ

“เสี่ยวเหว่ยดูพวกคุณทุกคนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและสูง ฉันก็มีความสุขมาก พวกคุณทุกคนเก่งมาก!” ปู่ทวดฝางอยู่ในสวนของที่พักผู้เกษียณอายุ เขาเอนกายลงบนไม้เท้าขณะที่เขาเดินบนเส้นทางที่มีหินก้อนเล็กอย่างช้า ๆ โดยไม่รีบร้อน

มีความชันขึ้นเนินเล็กน้อยที่ด้านหน้าพวกเขา ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเหว่ยรีบไปข้างหน้าและคอยสนับสนุนปู่ทวดฝาง "ถ้าคุณไม่คอยช่วยฉันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันจะไม่มีวันปีนขึ้นไปบนความสูงในปัจจุบันของฉัน"

ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักเหว่ย เสียใจในหัวใจของเขา เขาถูกย้ายออกไปและไม่ได้กลับมาเป็นเวลาห้าถึงหกปี ตอนนี้เขามีเวลาที่จะกลับมาและมาเยี่ยมหัวหน้าเก่าของเขาที่ช่วยนำทางเขาในอดีต เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย

ก่อนที่เขาจะถูกย้ายออกไป ชายชราอาจจะอายุมากและมีผมสีเงินเต็มหัว แต่ร่างกายของเขายังคงมีสุขภาพดี แต่เพียงห้าหรือหกปี ตอนนี้เขาใช้ไม้เท้าและเดินช้า ขาของเขาดูเหมือนจะไม่มีพละกำลังมาก

หัวหน้าเก่า แก่มากแล้ว!

ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนา เท้าของปู่ทวดฝางหยุดทันที

ข้างเขา ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักมองตามสายตาของชายชรา

ไม่ไกลเกินไปนัก มีทหารผ่านศึกที่เกษียณแล้วคนหนึ่ง ที่ด้านข้างของเขาเป็นเด็ก เจ้าหนูตัวนี้ก็ดูคุ้นเคย เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นดาวทางการเมืองที่เติบโตขึ้นในเมือง หยานเป่ย เมื่อสองวันก่อนเขาได้กล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญ

ที่ด้านนั้นชายชราและเด็กวัยรุ่นกำลังคุยกันแบบเบา ๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งทหารผ่านศึกผู้ชราก็ส่งเสียงหัวเราะดังออกมามากมาย

ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักเหว่ยมองไปที่ชายชราที่ข้างเขา  ดวงตาของหัวหน้าเก่านี้มีความอิจฉาอย่างชัดเจน

"อิจฉามากจริง ๆ" ปู่ทวดฝางพูดพึมพำ

ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักเหว่ยถอนหายใจภายในใจของเขา หัวหน้าเก่ายังไม่มีลูกหลานที่โดดเด่นในตระกูลฝาง เขารู้สึกเสียใจที่เขาไม่มีทายาทที่เหมาะสม ในอดีตยังมีคนที่พูดติดตลกว่าปู่ทวดฝางได้ให้คำแนะนำและให้คำปรึกษากับคนจำนวนมาก แต่ในตอนท้ายของวันนั้นทุกคนที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งไม่ได้มาจากตระกูลฝาง

ครั้งสุดท้ายที่ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักเหว่ยได้เยี่ยมหัวหน้าเก่า น้ำเสียงของปู่ทวดฝางฟังดูหดหู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้หลังจากผ่านไปห้าหรือหกปีหัวหน้าเก่าก็ดูเหมือนจะยอมรับและเคลื่อนไหวต่อไป เขาไม่ได้มีความรู้สึกที่ไม่ได้ยอมจำนนอีกต่อไปและยังมีอารมณ์ที่จะทำฟาร์มปลูกพืชกับภรรยาผู้เฒ่าของเขา

เมื่อคิดถึงเรื่องทั้งหมดนี้ในใจ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักเหว่ยปลอบใจชายชรา "ครอบครัวของคุณมีบางอย่างที่ไม่เลวร้ายมากเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่พวกเขาทำได้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว"

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ปู่ทวดฝางหัวเราะเบา ๆ "หยุดพยายามประจบ พวกเขาเมื่อเทียบกับคนปกติแน่นอนว่าพวกเขาทำได้ค่อนข้างดี แต่เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในระบบเดียวกันพวกเขาก็ถือว่าได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำแล้วเท่านั้นการสนับสนุนที่ฉันให้แก่พวกเขานั้นไม่น้อยไปกว่าสิ่งที่ฉันให้กับคุณทั้งหมด หากพวกเขาไม่สามารถลุกขึ้นได้นั่นเป็นเพราะพวกเขาขาดความสามารถหรือไม่มีความทะเยอทะยาน"

มีสมาชิกของครอบครัวฝางในกองทัพและรัฐบาล แต่พวกเขาไม่ถือว่าโดดเด่น ในตอนแรกปู่ทวดฝางช่วยพวกเขาเพียงเล็กน้อย แต่พวกเขาไปได้ไกลแค่ไหน

"ฉันไม่สามารถสนับสนุนพวกเขาตลอดทางเส้นทางของตัวเอง อนาคตของตัวเองยังคงต้องต่อสู้เพื่อด้วยมือของตัวเอง" ปู่ทวดฝางถอนหายใจ "ตอนนี้ฉันเกษียณแล้ว ฉันยิ่งไม่สามารถไปกับพวกเขาได้ในเส้นทางของพวกเขา คนรุ่นใหม่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องด้วยตัวเอง ฉันอายุมากแล้วและไม่ต้องการที่จะกังวลมากนัก ที่ดินด้านหลังสถานที่เกษียณอายุและปลูกพืชกับภรรยาชราของฉันเพื่อความสนุกสนาน?”

เมื่อกล่าวถึงพื้นที่ที่อยู่ด้านหลังสถานที่เกษียณอายุแล้วปู่ทวดฝางก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีการจำกัด ที่ดินที่สามารถนำออกมาได้และมันก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้กับพื้นที่เพาะปลูกของมูโจว พื้นที่ทั้งหมดสำหรับทหารผ่านศึกเก่าของสถานที่เกษียณเพื่อปลูกพืชของตัวเองเพื่อความสนุกสนานและในขณะที่เวลาของพวกเขาผ่านไป

เมื่อได้ยินเสียงของหัวหน้าเก่าที่ไม่ได้ฟังดูมืดมน ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักเหว่ยหัวเราะเบา ๆออกมา "เยี่ยมมากเมื่อเด็ก ๆ และลูกหลานของคุณมาเยี่ยมคุณสามารถเลือกผักเพื่อทำอาหารได้"

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อได้ยินสิ่งนี้ปู่ทวดฝางอุทานออกมาว่า "ไม่มีทาง! ที่ดินที่ฉันเช่าเป็นเพียงแปลงเล็ก ๆ ทุกอย่างเติบโตขึ้นเพื่อตัวเราเอง ฉันไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาได้กินหรอก! จะไม่ให้ใครเลย!"

ในขณะที่เขากำลังพูด ผู้ชราและชายหนุ่มเดินผ่านมาจากด้านหน้า

ทหารผ่านศึกคนนั้นจ้องเขม็งไปที่ปู่ทวดฝางด้วยความประหลาดใจ "เฮ้เฒ่าฝาง ฉันเห็น เสี่ยวจ้าวสมาชิกครอบครัวของคุณ ดูเหมือนว่าเขาจะมุ่งหน้าไปยังที่พักของคุณและดูเหมือนว่าเขาจะถือตะกร้าใส่สิ่งของเต็มไปหมด ฉันคิดว่าคุณกลับบ้านแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณยังเดินอยู่ข้างนอก"

ปู่ทวดฝางหยุดอยู่ชะงักชั่วครู่ "อะไรนะ เสี่ยวจ้าวของฉันกลับมาแล้วเหรอ? หญิงชรารู้ล่วงหน้าแน่นอน และจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้บอกฉัน!" หลังจากนั้นเขาก็มีความสุข "เสี่ยวจ้าวของฉันกลับมาแล้ว!"

เมื่อรู้ว่าฝางจ้าวมาถึงแล้ว ปู่ทวดฝางไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้จึงหันหลังเดินกลับ เขายังบอกหัวหน้าผู้ช่วยสำนัก "เสี่ยวเหว่ยเราจะพูดคุยกันต่อเมื่อเรากลับไป! ถ้าคุณยุ่ง ก็ไปข้างหน้าก่อน ฉันได้รับความตั้งใจอย่างดีจากคุณและฉันขอบคุณมากที่คุณยังจำคนแก่ได้ ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่คุณทำ อาจมีภารกิจสำคัญอื่น ๆ เข้ามาในแบบของคุณและขอให้คุณเจริญก้าวหน้าในอาชีพเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ! เสี่ยวจ้าวของฉันมาหาฉัน ดังนั้นฉันจะกลับบ้านก่อน ... โอใช่ คุณรู้จักเสี่ยวจ้าวครอบครัวของฉันหรือเปล่า คุณเคยดู 'ยุคก่อตั้ง' แล้วหรือยัง? บทบาทที่เขาเล่นในรายการนั้นคือ ฝางจ้าว!"

ผู้ช่วยหัวหน้าสำนัก: "... " เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ทันใดนั้นเขารู้สึกโง่เล็กน้อย

เมื่อมองดูหัวหน้าเก่ากลับมาก้าวไปข้างหน้าเขา เขากำลังจะมุ่งหน้าไปข้างหน้าเพื่อให้ยืมแขนเพื่อรับการสนับสนุนเมื่อเขาเห็นหัวหน้าเก่ายกขาขึ้นและกระโดด หลังจากนั้นเขาก็วิ่งเหยาะๆช้าๆ

ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักในบางภูมิภาค: "... "

แต่ปู่ทวดฝางไม่ได้วิ่งไปไกล เขาแค่จะวิ่งไปหาฝางจ้าว

"ฮ่าฮ่า เสี่ยวจ้าวกลับมาแล้ว ดี ดี ดี! ดูเหมือนว่าคุณจะน้ำหนักลด การถ่ายทำมันยากลำบาก ... ไม่ยากเหรอมันจะไม่ยากได้ยังไง! อย่าโกหกฉัน ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมัน ฉันตรวจสอบข่าวทุกวัน!"

หัวหน้าสำนักผู้ช่วยที่ถูกทิ้งให้อยู่ในจุดเดิมของเขาเห็นเขาหัวเราะอย่างขำขันเหมือนปู่ย่าที่เคร่งขรึมราวกับมีดอกไม้กำลังเบ่งบานอยู่บนใบหน้าของเขา เสียงของเขาก็สูงขึ้นไปหลายระดับและเขาก็เต็มไปด้วยพลังงาน

“เสี่ยวจ้าวเจ้ากลับมาในเวลาที่ถูกต้อง ฉันได้เช่าที่ดินบนเนินเขาด้านหลัง สถานที่นี้มันเป็นที่เพาะปลูก อีกสักหน่อยฉันจะไปและเลือกผักที่ได้ที่แล้วและปรุงให้คุณ ถ้าคุณกินมันไม่หมด คุณสามารถเก็บมันไปกินที่บ้านต่อ... ไม้เท้านี้? มันเป็นแฟชั่นออนไลน์ ทุกคนในสถานที่เกษียณอายุต้องการซื้อพวกมัน ดังนั้นฉันจึงต้องทำตามเทรน เมื่อพวกเขาทำการสั่งซื้อจำนวนมาก มันค่อนข้างมีความหมายและสามารถใช้เป็นอาวุธได้ ใครก็ตามที่พยายามจะยุ่งกับฉันจะได้ลิ้มรสไม้เท้าของฉัน!" ปู่ทวดฝางจับแขนข้างหนึ่งของฝางจ้าว เมื่อพวกเขาเดินกลับ ในขณะที่แขนอีกข้างหมุนไม้เท้าเพื่อความสนุก

“คุณจะพักที่นี่สองสามวัน ... หยุดพัก ดี ดี ดีแล้ว คุณควรพักที่นี่ ฉันไม่ได้แตะห้องที่คุณนอนในครั้งล่าสุด มาดู 'ยุคก่อตั้ง' ด้วยกัน! ที่นี้ฤดูกาลที่เก้าเกือบจะจบแล้ว แต่เราไม่ได้ดูคุณตาย ... ฟู่! ฟู่! เราไม่ได้ดูตอนที่ตัวละครที่คุณแสดงนั้นล้มในการต่อสู้ คุณพร้อมที่จะดูมันกับเราแล้วหรือยัง!"

คนชราที่อยู่โดยรอบในสถานที่เกษียณอายุที่ได้ยินคำพูดของปู่ทวดฝาง: "... "

อะไร? หนุ่มผู้นั้น ฝางจ้าว จะพักที่นี่สองสามวัน?

มันจบแล้ว!

จะไม่มีวันสงบสุขอีกต่อไป!

ตาแก่ฝาง หัวของเขาจะต้องบวมอย่างแน่นอนในวันพรุ่งนี้!

เสียงอันยิ่งใหญ่ของปู่ทวดฝางค่อยๆจางหายไปตามระยะทาง

ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเขา

มันเหมือนกับว่าฉันเพิ่งไปเยี่ยมหัวหน้าตัวปลอม