EGT 1301
เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของเผ่าแสงจันทร์เมื่อใดก็ตามที่สหายเก่าเหล่านี้เห็นเด็กเอลฟ์ของเผ่าอื่น ๆ ดวงตาสีเขียวของพวกเขาจะสว่างขึ้น
แต่…
พวกเขาไม่สามารถระงับอาการของตนเองได้แม้แต่นิดเดียว!
เอลฟ์ทั้งห้ามองไปที่เฉินหยานเซียวซึ่งเกือบถูกฝังอยู่และในที่สุดก็รู้ว่าพวกเขาดูเหมือนจะทำมากเกินไป
พวกเขาดึงเฉินหยานเซียวออกจากกองสิ่งของต่าง ๆ ทันทีและจัดการเอาสิ่งของของพวกเขาไปทางด้านข้าง โดยไม่สนใจแม้แต่น้อยที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกับเอลฟ์ของชนเผ่าของพวกเขา สมบัติอันมีค่าเหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขา!
เฉินหยานเซียวในที่สุดก็ได้รับอิสรภาพของเธอ เธอนั่งบนเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมา ท่ามกลางความกระตือรือร้นของหวู่เอิน และคนอื่น ๆ
ลองนึกภาพในหลายพันปีจำนวนเอลฟ์ในเผ่าขนาดใหญ่เช่นนี้ก็ลดลงเรื่อย ๆ ในสามหรือสี่ร้อยปีพวกเขาได้ดูสหายและผู้อาวุโสของพวกเขาตายไปทีละคนโดยไม่มีการเกิดใหม่ของเด็กคนใด
พวกเขารอมานานกว่าสี่ร้อยปีและความหวังสี่ร้อยปี ในที่สุดพวกเขาก็คิดว่าเผ่าแสงจันทร์จะถูกลบหายไปหลังจากการตายของพวกเขา แต่ตอนนี้พวกเขาได้เห็นเด็กน้อยที่ดีมาก
สหายกำลังเข้าร่วมพวกเขารู้สึกประหลาดใจอะไรแบบนี้?
เผ่าเอลฟ์ไม่สนใจเรื่องสายเลือดมากนัก สิ่งที่พวกเขาสนใจคือความเชื่อของชนเผ่าของพวกเขาที่สามารถส่งผ่านลงไป
ตราบเท่าที่ยังมีเอลฟ์อยู่ในเผ่าของพวกเขา ชื่อของเผ่าแสงจันทร์ก็จะไม่ถูกลืม
“วิธีที่พวกเขาต้อนรับเจ้าเป็นสิ่งที่พิเศษ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รังเกียจมัน” อาวุโสเย่วกล่าวปลอบใจเฉินหยานเซียวและแอบมองไปที่ชายชราทั้งหลาย
มันไม่ง่ายเลยที่จะหาเอลฟ์อิสระที่มีชีวิตชีวาเพื่อเข้าร่วมเผ่าของพวกเขา ด้วยความสามารถที่ดี หากพวกเขาทำให้เฉินหยานเซียวกลัวจนหนี เขาจะต้องเล่นงานพวกเขาทั้งหมด
หวู่เอินและคนอื่น ๆ ยืนเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ รู้สึกอายมาก พวกเอลฟ์ที่อายุใกล้จะพันปี ในตอนนี้กลับทำตัวเป็นเหมือนเด็ก
นี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการมานานหลายร้อยปีและตอนนี้มันได้รับการเติมเต็มในที่สุด ดังนั้นจะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไร?
“ข้าไม่รังเกียจ ข้าชอบ…อาจารย์หวู่เอินและคนอื่น ๆ” เฉินหยานเซียวคิดเกี่ยวกับการเพิ่ม “อาจารย์” ต่อหน้าชื่อหวู่เอิน เนื่องจากปรากฏว่าพวกเขาชอบมันมาก
การได้ยินคำว่า "อาจารย์หวู่เอิน" ทำให้หัวใจของหวู่เอินเบิกบานใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหลงใหล
อ้าว!
เสี่ยวเซียวเรียกเขาว่าอาจารย์หวู่เอิน!
การอุทิศชีวิตให้กับครอบครัวนั้นมีค่าอย่างแท้จริง!
เห็นลักษณะที่พึงพอใจของหวู่เอิน คนที่เหลือ เหลียงฉิว ฉิงซวน คังหยานและจิงหยูต่างพากันยักไหล่ทีละคน มองไปที่เฉินหยานเซียวอย่างมีความสุข เหมือนกับชายชราที่ถูกทอดทิ้งที่น่าสงสารคนหนึ่ง
ปากของเฉินหยานเซียวกระตุกเล็กน้อย สีหน้าของเธอค่อนข้างแข็งทื่อเมื่อเธอพูดว่า “อาจารย์เหลียงฉิว อาจารย์ฉิงซวน อาจารย์คังหยานและอาจารย์จิงหยูก็ปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเช่นกัน พวกเขาเป็นมิตรกับข้าอย่างมาก”
เสี้ยววินาทีถัดมา เอลฟ์ทั้งสี่คนที่มีอายุรวมกันเกือบสองพันปีต่างพากันรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
ความเศร้าก่อนหน้าบนใบหน้าของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าพวกเขาถูกดึงขึ้นมาจากนรกไปสวรรค์
เฉินหยานเซียวดูการแสดงออกที่ชัดเจนของกลุ่มสหายผู้อาวุโสต่อหน้าเธอและรู้สึกได้ถึงความไร้สาระของพวกเขา อาจเทียบได้กับคนโง่ทั้งห้าในครอบครัวของเธอ
อาวุโสเย่วดูฉากต่อหน้าเขาด้วยรอยยิ้ม เขาอายุมากที่สุดในสมาชิกเผ่าแสงจันทร์ เขาเคยไปเมืองรัศมีจันทร์มาก่อนและมีประสบการณ์มากมายแล้วเขาจึงค่อนข้างนิ่งสงบ
“นั่นเป็นสิ่งที่ดี หากมีอะไรที่ไม่เหมาะกับเจ้า เจ้าสามารถบอกข้าได้ ถูกต้องข้าได้จัดห้องไว้ให้เจ้าไว้แล้ว ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นก่อน” อาวุโสเย่วพาเฉินหยานเซียวไปที่ห้องของเธอ หวู่เอินและคนอื่น ๆ ก็ต้องการ
ตาม แต่อาวุโสเย่วพูดอย่างเย็นชาทันทีว่า “หลังจากที่ข้าพาหยานเซียวไปดูห้อง ข้าไม่ต้องการเห็นกองสิ่งของที่อยู่ที่นี่”
EGT 1302
หวู่เอินและคนอื่น ๆ ที่กำลังจะก้าวออกไป ต่างพากันถอนกลับอย่างเงียบ ๆ พวกเขาต่างมองดูอย่างเศร้า ๆ ไปที่ด้านหลังของผู้อาวุโสเย่วและเฉินหยานเซียว ได้เท่านั้น
เมื่อร่างทั้งสองหายตัวไปจากสายตาของพวกเขา พวกเขารีบเข้าไปหาหลันซือ
“หลันซือ เจ้ามากเกินไป เจ้าเคยพบเสี่ยวเซียวก่อนพวกเรา ทำไมเจ้าไม่บอกเราเลยเหรอ?” เหลียงฉิวบ่นหลันซือที่ “ทำลับๆล่อๆ” สำหรับการไปพบเฉินหยานเซียวเป็นการส่วนตัว ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ใจร้ายและไม่ซื่อสัตย์!
หลันซือมองไปที่สหายหลายคนพร้อมด้วยรอยยิ้มและตอบว่า “ข้าไม่รู้ว่าเธอเป็นเอลฟ์ ที่หวู่เย่วนำเข้ามาที่เผ่า เธอไม่ได้ใส่ตราของเผ่าแสงจันทร์ในเวลานั้นและข้าก็ไม่ได้ติดตราของข้าด้วย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงไม่สังเกตเห็น”
"อะไร? ทำไมเธอไม่ใส่มัน? ข้าคิดว่าตราของชนเผ่าของเรานั้นค่อนข้างดี…” คังหยานก็เศร้าเล็กน้อย เป็นไปได้หรือไม่ที่เฉินหยานเซียวไม่รู้?
“เอ่อ…” หลันซือรู้สึกค่อนข้างอึดอัด เขาอาจจะเดาเหตุผลได้บ้าง ตามที่หวู่เย่วพูด เฉินหยานเซียวควรได้รับการฝึกในค่ายฝึกขั้นสูง แต่หลันซือ ก็เห็นเธอ ที่ควรจะได้รับการฝึกอย่างเข้มงวด ... นั่นหมายความว่าเด็กน้อยบางคนแอบออกมาด้วยตัวเธอเอง การไม่ใส่ตราของเผ่าแสงจันทร์ก็เพื่อต้องหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตามนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของ เฉินหยานเซียว หลังจากทั้งหมด มันจะไม่ดีสำหรับหลันซือที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ในหมู่คนเหล่านี้ในห้องนั้นง่ายที่จะโค่นล้ม พวกเขาสามารถเข้าใจความลึกลับได้โดยไม่ต้องยากลำบากเพียงแค่คิดถึงมันอยู่ครู่หนึ่ง
“บอกมาหลันซือ เสี่ยวเซียวต้องการที่จะดัดแปลงคันธนูอะไร? เจ้ายังมีเวลานำที่จะมันกลับมา เราสามารถพูดคุยเรื่องนี้ด้วยกัน อ่า" คังหยานมองดูหลันซือด้วยรอยยิ้ม เขาไม่สามารถละทิ้งเรื่องแบบนี้ไปที่หลันซือคนเดียว!
หลันซือตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ได้มีปัญหาใด ๆ กับสิ่งนั้น แต่ธนูของ หยานเซียวที่ขอให้ข้าแก้ไขคือสิ่งที่ข้าได้สร้างขึ้นพร้อมกับสหายของข้า เมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ข้าไม่รู้ว่ามันลงเอยมาอยู่ในมือของหยานเซียว ได้อย่างไร มันคือโชคชะตา”
“เจ้ากำลังพูดถึงเขาอยู่หรือไม่?” คังหยานตกใจเล็กน้อย แม้ว่าหลันซือ ไม่ได้พูดถึงชื่อเขาออกมา แต่เขาก็รู้ว่าสหายคนนี้เป็นใคร
“ธนูที่เสี่ยวเซียวมอบให้กับเจ้า มันคือ…บารอนม่วง?” รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของหวู่เอินก็เริ่มแข็งทื่อ
หลันซือพยักหน้า
การแสดงออกของพวกเอลฟ์ในห้องเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หวู่เอินและคนอื่น ๆ ต่างคุ้นเคยกับคันธนูที่เรียกว่าบารอนม่วง พวกเขาเคยเห็นมาก่อน พวกเขายังมีโอกาสได้ดื่มด้วยกันกับสหายของหลันซือ คนนั้น...
สายตาของหวู่เอินและผู้อื่นต่างมองไปที่ขาของหลันซือซึ่งคลุมด้วยผ้าห่มขนาดเล็กโดยไม่ได้ตั้งใจ
ปรากฏแสงกระพริบรบกวนในสายตาของพวกเขา
“ข้าคิดว่าการสร้างคันธนูใหม่สำหรับเสี่ยวเซียว มันจะดีกว่าบารอนม่วง…ไม่ต้องทำต่อไปอีกแล้ว” คังหยานกล่าวออกมาด้วยความลังเล
ถ้ามันไม่ใช่บารอนม่วงนี้ หลันซือก็คงไม่เป็นเช่นในปัจจุบัน
หลันซือส่ายหน้าเบา ๆ
“ข้าไม่เคยต้องการมาก่อน แต่ข้าไม่คิดว่าหลังจากผ่านไปหลายปี จริง ๆ แล้วมันจะกลับมาอยู่ในมือของข้าอีกครั้ง เนื่องจากมันเป็นโชคชะตา ทำไมข้าจึงควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้แม้ว่าข้าต้องการที่จะดำเนินการดัดแปลงบารอนม่วง ข้ายังต้องการกิ่งไม้จากต้นไม้แห่งชีวิตก่อน ไม่อย่างนั้นบารอนม่วงก็ยังไม่สามารถทำให้สำเร็จได้” หลันซือรู้ว่าพวกเขาเป็นห่วง แต่เหมือนที่พวกเขาไม่สามารถสร้างบารอนม่วงได้สำเร็จในปีนั้น ในตอนนี้ ...
ความหวังที่จะทำมันให้เสร็จนั้นยังคงน้อยมาก
ต้นไม้แห่งชีวิตเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหัวใจของพวกเอลฟ์ มันจะยากแค่ไหนที่จะได้กิ่งก้านของมันมา?
“แค่ระวัง ถ้าเจ้าต้องการข้า ข้าจะไปกับเจ้า” คังหยานตบไหล่ของ หลันซือ และให้การสนับสนุนเขา
EGT 1303
ในอีกด้านหนึ่ง เฉินหยานเซียว ถูกพาไปที่ห้องของเธอโดยอาวุโสเย่ว แต่หลังจากอาวุโสเย่วเปิดประตู เฉินหยานเซียวกลายเป็นหิน
ภายในห้องที่กว้างขวาง ดอกไม้ที่เปล่งประกายระยิบระยับ หลังจากที่พวกมันสัมผัสกับสายลมที่อ่อนโยน เสียงคมชัดของสายลมที่พัดกระดิ่งที่แขวนอยู่ที่ประตู ภาพวาดผีเสื้อสีชมพูที่ประดับผนังห้องดูมีชีวิตชีวาและเหมือนจริง
ก้อนหินสีชมพูที่ปกคลุมพื้นอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเธอ นอกจากนี้ยังมีโต๊ะไม้สีขาวที่สวยงาม เก้าอี้สีขาว โต๊ะเครื่องแป้งสีขาว เตียงขนาดใหญ่สีขาว ...
ในห้องทั้งหมดนอกจากสีชมพูมีแค่สีขาวเท่านั้น ทุกที่ให้บรรยากาศที่น่าหลงใหลกับเด็กผู้หญิง
เฉินหยานเซียวยังคงนิ่งเงียบเมื่อเธอมองดูห้องผู้หญิงที่เต็มไปด้วยฟองสีชมพูที่ลอยอยู่รอบ ๆ หัวใจที่แข็งแกร่งของเธอดูราวกับจะได้รับแรงกระแทกจากกำปั้นของผู้ชายคนหนึ่ง
นี้…
มันดูเด็กน้อยมากเกินไป!
ห้องนี้มีความรุนแรงจนถึงขั้นสุดยอดดังนั้น เฉินหยานเซียวจึงรู้สึกกระอักกระอ่วน
ในบางแง่มุมเฉินหยานเซียวไม่ได้เป็นเหมือนหญิงสาวตัวน้อยมากนัก
"เจ้าชอบมันหรือไม่? จิงหยูไปปรึกษาพวกเอลฟ์ของหลายเผ่าและรวมความชอบของผู้หญิงเอลฟ์มาเพื่อสร้างห้องให้เจ้า” อาวุโสเย่วไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าแปลก ๆ บนใบหน้าเล็ก ๆ ของเฉินหยานเซียว แม้ว่าในเผ่าแสงจันทร์จะมีเพียงเอลฟ์หนุ่มเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีเอลฟ์หญิง
ครอบครัวของพวกเขา หากปราศจากการชี้นำของเอลฟ์หญิง พวกเขาสามารถถามและเรียนรู้จากผู้อื่นโดยไม่รู้สึกละอายใจ
อาวุโสเยว่ค่อนข้างพอใจกับห้องนี้มาก สีชมพูและละเอียดอ่อนช่างดูน่ารักจริงๆ!
“ข้า…ชอบ…” ขยะ! เฉินหยานเซียวพูดคำถัดไปภายในใจ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามนี่ก็ยังคงเป็นห้องที่เผ่าแสงจันทร์จัดให้เธออย่างระมัดระวัง มันไร้ยางอายเกินไปหากเธอจะทำตัวเป็นคนช่างเลือกและเลือกห้องอื่น
มันก็แค่เป็นห้องสีชมพู!
ที่เลวร้ายที่สุดปู่ตัวเล็กผู้นี้ก็จะกลายเป็นสาวน้อยโลลิสีชมพูตัวน้อย!
หัวใจของเฉินหยานเซียว กำลังร้องไห้ แต่สีหน้าของเธอยังคงยิ้ม
เธอไม่ต้องการเห็นการแสดงออกที่น่าผิดหวังของเหล่าเอลฟ์ที่หลงใหลและจริงใจเหล่านี้
อย่างไรก็ตามห้องเป็นเพียงที่อยู่อาศัยของเธอ!
ชมพูขาวดำหรือมีสีสัน ... เธอสามารถมีชีวิตได้ไม่ว่าสีจะเป็นเช่นไร!
“เป็นการดีที่เจ้าชอบ พักสมองสักพัก ข้าจะให้หวู่เอินและคนอื่น ๆ เตรียมสิ่งที่พวกเขามอบให้เจ้าไว้ให้อย่างถูกต้อง เจ้าอาจที่จะชอบอะไรซักอย่าง ถ้าไม่ ก็อย่าบังคับตัวเองให้ยอมรับ ข้าจะขอให้พวกเขานำมาให้เจ้าในภายหลัง เจ้าสามารถเลือกอะไรก็ได้ที่เจ้าชอบ เจ้าต้องจำไว้ว่าเจ้าเป็นสมาชิกของเผ่าแสงจันทร์อยู่แล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องสงวนท่าทีมากเกินไปและไม่จำเป็นต้องสุภาพ เราเป็นปู่ของเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพกับปู่ของเจ้าเองจริงหรือไม่?” อาวุโสเย่วมองที่เฉินหยานเซียวพร้อมด้วยรอยยิ้ม เขารู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริง
เขามีความสุข ในที่สุดเผ่าแสงจันทร์ก็มีสายเลือดใหม่และเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงของชนเผ่าแสงจันทร์
หลังจากผ่านไปหลายร้อยปีพวกเขาอาจจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่ตราบใดที่เฉินหยานเซียวยังคงอยู่ในทวีปเทพจันทรา เผ่าแสงจันทร์ก็จะไม่หายไป
“ขอบคุณ” เสียงของเฉินหยานเซียวค่อนข้างแหบ มีร่องรอยของความรู้สึกผิดอยู่ในใจ ถ้าเธอเป็นเอลฟ์ที่ถูกทิ้งจริง ๆ เมื่อเผชิญกับการปฏิบัติที่ดีของอาวุโสเย่วและคนอื่น ๆ บางทีเธออาจจะรู้สึกขอบคุณจริงๆจากก้นบึ้งของหัวใจของเธอและอยู่ในเผ่าแสงจันทร์ตลอดกาล
อย่างไรก็ตามเธอชัดเจนมากว่าวันหนึ่งเธอจะจากทวีปจันทราเพื่อกลับไปยังทวีปคังหมิง
หลังจากที่เธอจากไป เอลฟ์ของเผ่าแสงจันทร์ก็จะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
เฉินหยานเซียวบางครั้งก็มีเหตุผลมากและก็เป็นคนใจดำมาก แต่หลังจากเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่จริงใจของเธอ เธอยินดีที่จะคิดสิ่งต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของพวกเอลฟ์อาวุโสเหล่านี้
EGT 1304
หมายเหตุ: ขอปรับคำเล็กน้อยเนื่องจากมีอาชีพใหม่เกิดขึ้น
ทวีปคังหมิง อาชีพนักเวท/นักเวทมนต์ดำ - ร่ายเวท ตาข่ายเวท
ทวีปเทพจันทรา: อาชีพนักอาคม - ลงอาคม เขตอาคม
หากเธอพบเอลฟ์ที่ดีสำหรับเผ่าแสงจันทร์ ก่อนที่เธอจะจากไป มันอาจเป็นวิธีหนึ่งในการทำให้เผ่าแสงจันทร์สามารถดำรงอยู่ต่อไป
เฉินหยานเซียว คิดขึ้นมาภายในใจ ก่อนที่เธอจะออกจากทวีปเทพจันทรา เธอต้องค้นหาเอลฟ์ที่ดี และปล่อยให้พวกเขาสานต่อความเชื่อของเผ่าแสงจันทร์ !
จากนั้น เฉินหยานเซียวก็ได้เพิ่มงานใหม่ให้กับตัวเอง
เป็นเพราะลักษณะนิสัยของหยานเซียว ในการตอบแทน หยดน้ำแห่งความเมตตาด้วยความงดงามในฤดูใบไม้ผลิ เช่นที่กลุ่มคนในเมืองตะวันไม่เคยลับจงรักภักดีต่อเธอแบบถวายหัว!
เธอเป็นคนที่ไม่เคยทิ้งคนของตัวเองไว้เบื้องหลัง
หลังจากนั้นไม่นานอาวุโสเย่วก็ปล่อยให้หวู่เอินและคนอื่น ๆ ส่งสิ่งของไปที่ห้องของเฉินหยานเซียว ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อชวนเชื่อสิ่งของของพวกเขาและปล่อยให้ เฉินหยานเซียว ดูพวกมันเองอย่างไม่จริงจัง
เฉินหยานเซียวสังเกตว่าจำนวนของสิ่งเหล่านี้มากกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย เธอนั่งลงที่โต๊ะและมองดูของขวัญที่มาจากหัวใจของพวกเอลฟ์เผ่าแสงจันทร์อย่างระมัดระวัง
ทั้งหวู่เอินและฉิงซวนเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขามองบของขวัญให้กับเฉินหยานเซียวเป็นยาในจำนวนมาก
และสูตรยาปรุงเหล่านี้ก็ดีกว่าสูตรยาระดับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาที่เฉินหยานเซียวซื้อ
ก่อนหน้านี้ในบ้านการค้าเหล่านั้น พวกมันมีค่ามาก ๆ
หนึ่งในยาเหล่านี้คือ ยาปรุงชิงทรัพย์ระดับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาศักดิ์สิทธิ์ เฉินหยานเซียวยังเคยใช้ยาชนิดนี้มาก่อน มันให้ผลเป็นเวลาที่แตกต่างจากกัน จากไม่กี่วินาที ไปเป็นไม่กี่นาที และในขณะที่อยู่ภายใต้ผลของยาชนิดนี้ ความเร็วของผู้ดื่มจะลดลงครึ่งหนึ่ง การดำเนินการจะค่อนข้างช้า อย่างไรก็ตามยาปรุงชิงทรัพย์ระดับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อความเร็วเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เวลาที่ส่งผลยังลากยาวไปถึงสิบห้านาที!
อย่างไรก็ตามยาปรุงชนิดนี้มีไว้เพื่อซ่อนรูปลักษณ์ของใครคนหนึ่งเท่านั้น หากมีบางสิ่งที่คล้ายกับเวทมนต์อยู่รอบ ๆ ผู้ที่ดื่มสามารถตรวจจับได้ อย่างไรก็ตามมันยังคงเป็นยาที่ยอดเยี่ยมสำหรับการโจมตีและหลบหนี
นอกจากนี้ยังมียาแก้พิษตามธรรมชาติที่เรียกว่า ยาเกิดใหม่
เฉินหยานเซียวได้เห็นยาชนิดนี้ในคัมภีร์ยาเท่านั้น ไม่มียาชนิดนี้แม้แต่ขวดเดียวในทวีปคังหมิง
เพื่อปรุงยาชนิดนี้ นักปรุงยาจะต้องไปถึงจุดสูงสุดของระดับผู้เชี่ยวชาญปรุงยาศักดิ์สิทธิ์
ยาเกิดใหม่ เป็นไปตามชื่อโดยนัยสามารถฟื้นคืนชีพผู้เสียชีวิต นี่เป็นยาที่ทรงพลังอย่างหนึ่ง ยิ่งถ้ามีใครได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ตายเกินสิบนาที สมองของและหัวใจพวกเขาไม่เสียหายจากนั้นการดื่มยาเกิดใหม่ทันทีสามารถนำพวกเขากลับมามีชีวิตได้
นี่เป็นยาที่สามารถทำให้ใครบางคนลุกขึ้นมาจากความตาย แต่หลังจากดื่มยาที่เกิดใหม่แล้ว บุคคลที่ฟื้นคืนชีพจะไม่กลับมาเป็นปกติทันที พวกเขาจะตกอยู่ในสภาวะถูกระงับแทน การเคลื่อนไหว องค์ประกอบการรักษาจำนวนมากในยาเกิดใหม่จะค่อยๆซ่อมแซมอาการบาดเจ็บในร่างกาย
ยกเว้นหัวใจและสมองอวัยวะภายในและหลอดเลือดดำที่เสียหายทั้งหมดสามารถฟื้นตัวได้
อย่างไรก็ตามยาเกิดใหม่นี้สามารถใช้ได้กับผู้ที่เพิ่งเสียชีวิตเท่านั้น หากมีคนที่ยังมีชีวิตอยู่
ต้องการใช้มันเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บภายในผลที่ตามมาก็คือความตาย
ผลของยาที่เกิดใหม่นั้นมีความท้าทายอย่างมากต่อระเบียบธรรมชาติและข้อกำหนดที่รุนแรงมากเช่นกัน
เฉินหยานเซียว ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยาเกิดใหม่นี้!
มียาเกิดใหม่เพียงขวดเดียวและเฉินหยานเซียวไม่ทราบว่า หวู่เอินหรือฉิงซวนที่เป็นคนมอบให้
แต่เธอเชื่อว่าแม้ในทวีปเทพจันทรา ยาเกิดใหม่นั้นหายากเหมือนขนนกเฟิงหวงและยูนิคอร์นมีเขา แต่พวกเขากลับยินดีที่จะมอบให้เธอ ...
เฉินหยานเซียวยิ้มบาง ๆ และไม่สามารถอธิบายได้ว่าหัวใจเธอเต้นแรงแค่ไหน
หากใครก็ตามสามารถขายยาเกิดใหม่ได้เพียงขวดเดียวก็เพียงพอที่จะซื้อหลายร้อยเมืองในทวีปคังหมิง!
นี่มีค่ามากกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์หนึ่งร้อยปี!
EGT 1305
นอกจากยาแล้วยังมีธนูสามคันและกระบอกบรรจุลูกธนูสิบหรือมากกว่านั้น
นอกจากคังหยานจะได้มอบคันธนูให้กับเฉินหยานเซียวแล้ว หยานเซียวยังพบธนูทองคำที่สร้างโดยหลันซือ
ผู้สร้างทุกคนจะทิ้งสัญลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครไว้บนอาวุธที่พวกเขาสร้างขึ้น เครื่องหมายที่ปรากฏบนคันธนูทองคำเหมือนกับที่อยู่บนบารอนม่วงของเธอ เฉินหยานเซียว รู้ทันทีว่านี่คือของขวัญที่หลันซือเพิ่มมาในภายหลัง
คันธนูทั้งสามนี้ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของสิ่งประดิษฐ์และสามารถเทียบได้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ร้อยปีของตระกูลมังกรฟ้า...
เฉินหยานเซียวมีถึงสามคัน!
นี่คือความหรูหราอย่างแท้จริง!
เฉินหยานเซียวจ้องไปที่ธนูทั้งสาม ใจของเธอมีแผนการแล้ว ก่อนที่บารอนม่วงจะดัดแปลงได้อย่างสมบูรณ์ เธอจะใช้หนึ่งในนั้นในระหว่างนี้ สำหรับอีกสองคัน ที่สร้างมาจากยอดฝีมือที่โดดเด่นมันจะน่าเสียดายที่จะไม่ใช้พวกมัน
เธอตั้งใจที่จะถวายดอกไม้ให้กับพระพุทธเจ้า จากการที่เธอได้ยืมธนูจากอันหราน หนึ่งคันเธอจะมอบให้แก่อันหราน และอีกอันสำหรับหลี่เสี่ยวเว่ย เมื่อเธอกลับไปยัง ทวีปคังหมิง
แน่นอนเฉินหยานเซียวจะขออนุญาตจากคังหยานและ หลันซือก่อน ท้ายที่สุดมันเป็นของขวัญที่เขามอบให้
กระบอกลูกธนูสิบกว่ากระบอก แต่ละอันถูกลงอาคม
ในโลกของเอลฟ์มีอาชีพที่แปลกประหลาดมาก - นักอาคม
พวกเขาสามารถลงอาคมกับวัตถุใด ๆ สร้างเขตอาคมสำหรับอาคารและเพิ่มความพลังในอาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหลียงฉิวเป็นหนึ่งในนักอาคม ปรากฏว่าตาข่ายเขตแดนอาคมของเมืองวายุนั้นมาจากฝึมือของเหลียงฉิว
เหลียงฉิวเตรียมคัมภีร์อาคมมากมายสำหรับเฉินหยานเซียว ทักษะการใช้ยาเป็นสิ่งปกติสำหรับเอลฟ์ แต่สถานะของนักอาคมในทวีปเทพจันทรา ค่อนข้างคล้ายกับนักปรุงยาในทวีปคังหมิง
เฉินหยานเซียวนั่งอยู่บนเก้าอี้หยิบคัมภีร์อาคมเบื้องต้นและเปิดดูมันแบบผ่าน ๆ
เหลียงฉิวใส่ใจมาก เขาได้จัดเตรียมมันตั้งแต่พื้นฐานเบื้องต้นไปจนถึงขั้นสูง เขาได้เตรียมคัมภีร์อาคมสำหรับเฉินหยานเซียวเพื่อที่เธอจะได้เรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง
การร่ายเวทป้องกันหลายชนิดของทวีปคังหมิง ถูกสร้างขึ้นโดยตาข่ายเวทและตาข่ายเวทเหล่านี้มีข้อบกพร่องอย่างมากเมื่อเทียบกับเขตอาคม
ตาข่ายเวทนั้นจะต้องได้รับพลังเวทอย่างต่อเนื่อง นักเวทจะถ่ายเทพลังเวทของเขาลงไป
ลูกบอลเวทจะสนับสนุนในการสร้างตาข่ายเวท หรือนักเวทจะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับตาข่ายเวทและทำการถ่ายเทพลังเวทไปเรื่อย ๆ
และแม้ว่าจะมีลูกบอลเวท นักเวทก็ยังจำเป็นต้องเติมพลังเวทลงไปข้างในลูกบอลอย่างสม่ำเสมอ
แต่เขตอาคมนั้นไม่เหมือนกันทั้งหมด
เขตอาคมต้องใช้นักอาคมเพื่อสร้างอักขระจารึกของตัวเอง
อักขระจารึกนี้เป็นทักษะเฉพาะของนักอาคม นักอาคมสามารถแนบพลังวิเศษไปที่อาวุธและวัตถุอื่น ๆ ได้โดยตรง หรือเขียนอักขระอาคมบนม้วนการดาษ มันจะทำงานคล้ายกับน้ำยาและมีผลกระทบในเชิงลดกำลังหรือเพิ่มกำลังบางอย่าง
คันธนูของเอลฟ์ไม่ต้องการพลังของผลึกแก่นเวท อย่างแม่นยำ เพราะนักอาคมได้ทำการลงอาคมเสริมพลังในคันธนู ดังนั้นพวกมันจึงไม่จำเป็นต้องใช้กำลังจากภายนอกเพิ่มเติม
เหลียงฉิวเตรียมชุดม้วนอาคมสำหรับเฉินหยานเซียว ซึ่งมีผลทั้งการเร่งความเร็ว กำจัดลมหายใจ บรรเทาผลกระทบเชิงลบ และเพิ่มพลังการต่อสู้ในระยะเวลาอันสั้น
ทักษะในม้วนอาคมนั้นสะดวกกว่าการใช้น้ำยา และมีผลกระทบที่น่าทึ่งและฉับพลัน
แม้ว่าม้วนอาคมที่ใช้กับร่างกายนั้นจะมีอายุสั้นและสามารถอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
พวกมันมีระยะเวลาสั้น ๆ แต่มีผลกระทบที่สามารถระเบิดออกมา ข้อเสียของมันคือมันจะใช้พลังจากแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของนักอาคม มันไม่เหมือนกับการปรุงยา ตราบใดที่พวกเขามีพลังและกำลังทางจิตวิญญาณ พวกเขาก็สามารถปรุงยาได้ไม่จำกัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น