เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

EGT 1295-1297 เผ่าแสงจันทร์

EGT 1295

เผ่าแสงจันทร์ตั้งอยู่ในเมืองระดับสีดำที่เรียกว่า เมืองวายุ ซึ่งเผ่ารัศมีจันทร์นั้นครั้งหนึ่งเคยอยู่

เฉินหยานเซียวไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าในเมืองวายุ เธอแอบออกมาจากค่ายฝึกเก้าครั้ง ในก่อนหน้านี้เพื่อเดินเล่นแถวนี้

อาวุโสเย่วต้องการที่จะนำเฉินหยานเซียวไปยังเผ่าแสงจันทร์เป็นการส่วนตัว แต่มีบางอย่างในค่ายฝึกขั้นสูงที่อาวุโสเย่วต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นเขาไม่สามารถออกไปได้ซักพัก ดังนั่นเขาจึงบอกที่อยู่ของเผ่าแสงจันทร์แก่เฉินหยานเซียวและปล่อยให้เธอไปก่อนในขณะที่เขาจะตามไปในภายหลัง

ตามที่อยู่ เฉินหยานเซียวพบที่อยู่อาศัยที่เรียบง่ายและกว้างในส่วนตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองวายุ

แม้ว่าจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็นที่อยู่อาศัย แต่มันดีกว่าที่จะกล่าวว่าเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ ทั้งหมด

บ้านทุกหลังทำจากต้นไม้ หลังคาเชื่อมต่อกันโดยตรงกับกิ่งไม้ และความเขียวชอุ่มของใบไม้บนต้นไม้กลายเป็นที่พักพิง บ้านขนาดใหญ่ของเผ่าแสงจันทร์

ในโลกของเอลฟ์รากฐานของแต่ละเผ่าขึ้นอยู่กับต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ซึ่งถูกสร้างโดยเผ่า

ตอนแรกปลูกโดยหัวหน้าเผ่าคนแรก พร้อมกับการพัฒนาของชนเผ่า ต้นไม้ก็จะโตขึ้นในแต่ละวัน จนกลายเป็นสถานที่ที่เป็นของชนเผ่าที่สร้างมันขึ้นมา

ในบริเวณใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยของเผ่าแสงจันทร์  นั้นมีต้นไม้ที่ว่างเปล่าอยู่ มีหญ้าขึ้นสูงราว ๆ ครึ่งหนึ่งของบ้านต้นไม้

ต้นไม้ที่ว่างเช่นนี้แทบจะไม่เคยเห็นในเมืองเอลฟ์

ดูเหมือนว่ามันจะถูกทอดทิ้ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีเอลฟ์อาศัยอยู่ที่นั่น

เฉินหยานเซียวยืนอยู่หน้าประตูของเผ่าแสงจันทร์  และคิดว่าเธอควรเคาะประตูหรือไม่ในตอนนี้

พวกเอลฟ์ที่ผ่านมาสังเกตเห็นร่างของเฉินหยานเซียว และดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

นี่คือที่อยู่อาศัยของเผ่าแสงจันทร์ เอลฟ์เกือบทุกคนรู้ว่าเผ่าผู้กล้านี้เป็นสถานที่แห่งความเคารพสำหรับพวกเอลฟ์หลายคน

ก่อนหน้านี้พวกเอลฟ์หลายคนจะมาที่นี่เพื่อรอให้วีรบุรุษในใจปรากฏออกมาที่ด้านหน้าที่พักขอเผ่าแสงจันทร์

พวกเอลฟ์กำลังสงสัยว่าเอลฟ์ตัวน้อยกำลังรอพวกเอลฟ์เผ่าแสงจันทร์ออกมาหรือไม่

เราต้องรู้ว่าเผ่าแสงจันทร์ ยังคงสามารถรักษาสถานะอันสูงส่งไว้ได้ในวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขามีความสำเร็จทางทหารสะสมมาในประวัติศาสตร์และส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเอลฟ์ในเผ่าแสงจันทร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นที่รู้จักกันทั่ว

อาวุโสเย่วผู้ดูแลค่ายฝึกตอนนี้เป็นหนึ่งในผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้อาวุโสในเมืองรัศมีจันทร์

ชื่อเสียงของเหล่าเอลฟ์อีกหลายคนในเผ่าแสงจันทร์  นั้นไม่น้อยไปกว่า อาวุโสเย่วเช่นกัน

อาจกล่าวได้ว่าถึงแม้จะมีเอลฟ์เพียงไม่กี่คนในเผ่าแสงจันทร์ แต่พวกเขาแต่ละคนก็เป็นจุดสุดยอด

ดังนั้นแม้ว่าเผ่าแสงจันทร์จะมีจำนวนเอลฟ์ที่น้อยนิด มันก็ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกเผ่าแสงจันทร์ แม้จะมีเพียงหนึ่งหรือสองคำ

ศักดิ์ศรีสูงสุดเกิดขึ้นจากการสร้างความแข็งแกร่ง

สหายตัวน้อยเจ้ากำลังยืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไร? มันกำลังจะมืดในไม่ช้า ทำไมเจ้าไม่กลับบ้าน?" เช่นเดียวกับ หยานเซียวกำลังจะเคาะประตู เสียงของคนแก่ดังจากด้านหลังของเธอ

เฉินหยานเซียวหันหลังกลับและเห็นเอลฟ์สูงวัยสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินยืนอยู่ข้างหลังเธอพร้อมกับผมสีเงินยาวของเขาที่มัดไว้ด้านหลังเขาด้วยริบบิ้นสีน้ำเงิน

บนหน้าอกของเอลฟ์ผู้สูงอายุ เฉินหยานเซียวมองเห็นตราเผ่าแสงจันทร์ที่คุ้นเคย

ในขณะที่ เฉินหยานเซียวมองไปที่เอลฟ์ผู้สูงอายุ อีกฝ่ายก็หันกลับมามองเธอ

เอลฟ์ผู้สูงอายุคิดว่าสหายตัวน้อยมาที่นี่อาจเพราะมึนงงในตัวเอง แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะพบตราเผ่าบนหน้าอกของสหายตัวน้อยนี้เป็นเช่นเดียวกับของเขา!

ความประหลาดใจแปลก ๆ เกิดขึ้นในสายตาของเอลฟ์ผู้สูงอายุ

เจ้าคือ หยานเซียวหรือไม่?” เอลฟ์ผู้สูงอายุถาม




EGT 1296

ใช่ ข้าเอง” เฉินหยานเซียวพยักหน้าเธอ

ใบหน้าของอีกฝ่ายเปิดเผยรอยยิ้มออกมาในทันที

ข้าได้ยินว่าหวู่เยว่พูดถึงเจ้า ฮ่าฮ่า สหายตัวน้อยดูน่าพึงพอใจมาก ข้าชื่อหวู่เอิน และเป็นสมาชิกของเผ่าแสงจันทร์" หวู่เอินยิ้มไปที่สหายตัวน้อยที่เพิ่งเข้าร่วมเผ่าใหญ่ของพวกเขา ประกายแห่งความสุขเผยออกมาจากดวงตาของเขา

เนื่องจากการเติบโตของแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของ เฉินหยานเซียว เธอได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในด้านรูปลักษณ์

ก่อนหน้านี้เธอถือได้ว่าเป็นความงามที่น่าทึ่งในหมู่มนุษย์ แต่ในหมู่พวกเอลฟ์เธอเป็นเพียงความงดงามที่ละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตามในขณะที่เธอบุกทะลวงผ่านเอลฟ์ระดับสีเงิน ลักษณะใบหน้าของเธอ ผิวของเธอขาวขึ้นและไร้ที่ติมากขึ้น แม้แต่ในโลกของเอลฟ์เธอในตอนนี้ถือว่าเป็นความงามที่สามารถทำให้เกิดการล่มสลายของเมือง ควบคู่ไปกับรอยยิ้มปกติของเฉินหยานเซียว หวู่เอิน ผู้ที่ไม่เคยเห็นเด็ก ๆ ในชนเผ่าของพวกเขาเองเป็นเวลานาน จะทำตัวถูกได้อย่างไร เมื่อพบเธอ?

เฉินหยานเซียวกระพริบตาของเธอ หวู่เอินผู้นี้ดูเหมือนจะหมายถึงผู้อาวุโสเย่ว?

เฮ้ เด็กน้อยในที่สุดเจ้าก็มาถึงบ้านของเจ้าเอง ทำไมไม่เข้าไปข้างในล่ะ? เดี๋ยวเจ้าก็จะเป็นหวัดเนื่องจสกลมเย็น ๆ ข้างนอกนี้?" หวู่เอินเริ่มชอบเอลฟ์น้อยผู้นี้เมื่อเขาได้เห็นเธอ ยิ่งในตอนนี้ เมื่อเขารู้แล้วว่าเอลฟ์ผู้นี้เป็นคนของเผ่าของเขาเอง เขาก็ยิ่งชอบเธอมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงกลัวอย่างยิ่งว่า เฉินหยานเซียวจะถูกลมพัดปลิวและจะเป็นหวัด

อาจารย์หวู่เอิน!" ทันใดนั้นเด็กเอลฟ์คนหนึ่งรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของหวู่เอิน ในมือของเขาถือขวดยาใส ๆ ไว้หนึ่งขวด

หือ? เด็กน้อยทำไมเจ้ามาที่นี่อีกครั้ง?” หวู่เอินมองไปที่เด็กหนุ่มผู้จู่โจมอย่างกระทันหัน เด็กเอลฟ์อยากร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาขณะที่มองดูหวู่เอินและพูดว่า “อาจารย์หวู่ ข้ารอเจ้าอยู่สองสามวัน ตอนนี้เพียงแค่ช่วยข้าชี้ให้เห็นสิ่งที่เป็นปัญหากับยาฟื้นฟูนี้”

หวู่เอินย่นจมูกขึ้นแล้วตอบว่า “กลับไป ข้าไม่มีเวลาในวันนี้ ข้าจะบอกเจ้าในภายหลัง”

"แต่…"

ไม่รอให้เอลฟ์หนุ่มน้อยพูดจบประโยค หวู่เอินจับมือ เฉินหยานเซียวโดยตรงแล้วเดินเข้าไปข้างในที่อยู่อาศัยของเผ่าแสงจันทร์ ทิ้งเอลฟ์น้อยไว้เบื้องหลังที่กำลังจะร้องไห้จากความกังวลที่อยู่เบื้องหลัง

เฉินหยานเซียวถูกลากโดยหวู่เอินไปตลอดทาง เธอมองกลับไปที่เอลฟ์น้อยที่ร้องไห้น้ำตาไหลคลอ

เธอเคยได้ยินว่า ยาฟื้นฟูเป็นยาระดับเชี่ยวชาญและในบรรดายาระดับเชี่ยวชาญ มันถือได้ว่าเป็นยาระดับสูงมาก อย่างน้อยเธอก็ไม่สามารถทำได้เมื่อเธอเพิ่งทะลวงผ่านมาเป็นนักปรุงยาระดับเชี่ยวชาญ

เอลฟ์น้อยผู้นั้นวิ่งมาถามหวู่เอิน และดูเหมือนว่าหวู่เอินจะไม่คิดว่ามันจัมีปัญหาในการปรุงยาฟื้นฟู

เป็นไปได้หรือไม่ว่า หวู่เอินนั้นอยู่ในจุดสูงสุดของนักปรุงยาระดับเชี่ยวชาญแล้ว?

เฉินหยานเซียวทำการคาดเดาในใจของเธอ ก่อนหันหน้าไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้สังเกตว่าตราเผ่าแสงจันทร์ที่แขวนอยู่บนหน้าอกของเธอตกอยู่ในสายตาของเอลฟ์หนุ่มน้อย เมื่อเธอหันมามอง

เกือบจะในทันทีการร้องไห้ของเด็กน้อยก็หยุดลง!

ข้า…กลายเป็นคนตาบอดไปแล้วหรือไม่” เด็กหนุ่มเอลฟ์เอื้อมมือไปขยี้ตา

ทำไมเขาถึงเห็นตราเผ่าแสงจันทร์บนร่างของเอลฟ์ตัวเล็ก?

เป็นไปได้อย่างไร?

คราวนี้เขาต้องทำงานหนักเกินไป ดังนั้นเขาจึงเห็นภาพลวงตา!

เป็นเวลาหลายปีที่จำนวนเอลฟ์ในเผ่าแสงจันทร์ ลดน้อยลง เขาไม่เคยเห็นทารกแรกเกิด เอลฟ์ยังเด็กเกินไปเธอจะเป็นสมาชิกของเผ่าแสงจันทร์ได้อย่างไร?

เขาต้องเห็นภาพลวงตาจริงๆ!

ใช่!

ภาพลวงตา!

มันเป็นภาพลวงตา!

เขาต้องกลับไปนอนพัก เขาเหนื่อยมากจนตาของเขาอาจจะเสียไป!

ในเวลาเดียวกันกับเอลฟ์หนุ่มที่ขยี้ตาที่พร่ามัวของเขา หวู่เอินได้เข้ามาในที่พักชนเผ่าแสงจันทร์ในขณะที่ดึง เฉินหยานเซียวเข้ามาด้วย




EGT 1297 เผ่าแสงจันทร์

การตกแต่งภายในของบ้านของเผ่าแสงจันทร์นั้นใหญ่มาก แต่เฉินหยานเซียวที่เพิ่งถูกหวู่เอินดึงตัวมาเป็นเวลานาน

ขณะนี้พวกเขาไม่พบเอลฟ์แม้แต่คนเดียวภายในบ้านหลังใหญ่ที่ว่างเปล่าและไร้ชีวิตชีวานี้

เมื่อเดินผ่านห้องโถง เฉินหยานเซียวเห็นภาพวาดเอลฟ์มากมาย ไม่มีเอลฟ์คนใดในภาพวาดที่ทำท่าทางที่สวยงาม เธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนวาดภาพเหล่านี้ แต่มันดูมีชีวิตชีวาและสมจริงมาก

เฉินหยานเซียวรู้สึกราวกับเอลฟ์ทั้งหลายที่อยู่ในภาพวาดกำลังจ้องมองเธออยู่

อะ? ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่กลับมาอีก เรารอซักครู่ พวกเรามักจะไม่ค่อยได้กลับมาบ่อยนัก เมื่อหวู่เย่วแจ้งให้เราทราบว่าเขาบอกให้เอลฟ์คนหนึ่งเข้ามา พวกเราต้องจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อน มันอาจต้องใช้เวลาสักครู่ ก่อนที่พวกเขาจะมาถึง” หวู่เอินเดินไปรอบ ๆ และพบว่าเขาเป็นคนแรกที่กลับบ้าน เขาหัวเราะออกมาในทันที

ฮ่าฮ่า” เขาอยู่ในอารมณ์ดี ก่อนจะพาเฉินหยานเซียว ไปนั่งในห้องนั่งเล่น

หยานเซียว ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?" หวู่เอินยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อเขามองเฉินหยานเซียวเช่นเดียวกับผู้อาวุโสในครอบครัวแสดงความห่วงใยและดูแลสมาชิกคนรุ่นใหม่ของเขา

ข้าไม่รู้” เฉินหยานเซียวตอบอย่างเด็ดขาด เธอไม่สามารถคำนวณอายุเอลฟ์ของเธอได้ ชีวิตของพวกเอลฟ์คือห้าเท่าของมนุษย์ เธอไม่รู้จริงๆว่าพวกเขานิยามผู้เยาว์ไว้อย่างไร เมื่อหวู่เอินได้ยินคำตอบของเธอใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความรักเล็กน้อย

เจ้ายังเป็นเด็กน้อย เราได้ยินเรื่องของเจ้าจากหวู่เย่ว เจ้าสามารถมั่นใจได้ว่าถ้าเจ้าต้องการที่จะหาพ่อแม่ของเจ้า พวกเราก็สามารถช่วยเจ้ายืมได้ หากเจ้าต้องการ" หวู่เอินคิดว่า เฉินหยานเซียวไม่รู้อายุเพราะเธอจำไม่ได้เมื่อถูกทอดทิ้ง

เอ่อ…” เฉินหยานเซียวมองดูอาวุโสเอลฟ์ที่มีความรักต่อหน้าเธอแล้วจู่ๆก็มีความรู้สึกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก

บริสุทธิ์!

บริสุทธิ์เกินไปจริงๆ

ความรักของหวู่เอินที่มีต่อเธอถูกเปิดเผย แม้แต่อารมณ์ที่ปรากฎในดวงตาของเขาก็ยังมีความรักเผยออกมามากกว่า เฉินเฟิงปู่ของเธอ

ไม่ต้องกังวล มีเอลฟ์คนอื่นในเผ่าแสงจันทร์ นอกเหนือจากข้าและหวู่เย่วแล้ว ก็มีอีกห้าคน เจ้าจะได้พบพวกเขาในภายหลัง” เมื่อเห็นเฉินหยานเซียวไม่ได้พูดอะไรมากมายหวู่เอินคิดว่าสหายตัวน้อยน่าจะกังวล เขาจึงรีบปลอบใจเธออย่างรวดเร็ว

เฉินหยานเซียวพยักหน้าอย่างดี เธอไม่เก่งในการเข้าหากับคนแก่

เฉินเฟิงปฏิบัติต่อเธอได้เป็นอย่างดี แต่เพราะเธอทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเองและเพิ่มพูนความแข็งแกร่งในทวีปคังหมิง เมื่อปรากฏตัวต่อหน้าฉินเฟิง  เธอมีแรงผลักดันในการเป็นอิสระมากกว่า

สำหรับการประพฤติตัวเพื่อเป็นสมาชิกที่แท้จริงของคนรุ่นใหม่และทำตัวให้ดูน่ารัก เธอก็ทำไปแล้ว

เมื่อเปรียบเทียบกับหวู่เอิน คำพูดของเฉินเฟิงก็ดูจะอ่อนไปอย่างมากจริงๆ ดูเหมือนว่าเฉินเฟิงจะยังคงเป็นผู้สูงอายุที่ค่อนข้างสุขมนิ่งสงบ

เช่นเดียวกับที่หวู่เอินและเฉินหยานเซียว กำลังพูดคุยกัน ร่างสูงร่างหนึ่ง ได้เดินเข้ามาทางประตู

หวู่เอิน ศิษย์ของเจ้าบอกว่าเจ้ากลับมาก่อน ข้าตั้งใจจะกลับมากับเจ้า เด็กน้อยที่หวู่เย่วหลอกให้เข้าร่วมเผ่าของเรามาถึงแล้วใช่หรือไม่?” เสียงลึกและต่ำดังเข้ามาอย่างน่าประทับใจ

ร่างยังไม่ปรากฏ แต่เสียงของเขาดังเข้ามาล่วงหน้าแล้ว

ใบหน้าของหวู่เอินที่แต่เดิมเต็มไปด้วยรอยยิ้มแสดงให้เห็นถึงการกระตุกอย่างฉับพลัน

เฉินหยานเซียวรีบกลั้นเสียงหัวเราะของเธอเอาไว้ได้แทบจะไม่ทัน

หลอก ...

ดังนั้นในสายตาของพวกเอลฟ์เผ่าแสงจันทร์  เธอถูกอาวุโสเย่วหลอกหรือไม่?

เสียงหัวเราะของเฉินหยานเซียวที่เล็ดรอดดังออกมา ทำให้สีหน้าของหวู่เอินบิดเบี้ยวมากขึ้น เขายืนขึ้นตรงและพุ่งไปที่ร่างสูง

ตะโกนเข้าไป ร้องตะโกนให้พอ! เด็กน้อยมาแล้ว เจ้าจะตะโกนอะไรออกมาอีก! คำพูดของเจ้าพูดให้น้อยและให้มีสาระได้หรือไม่!?"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น