EGT 1253
สหายคนนี้เป็นคนที่ผิดปกติ?
พวกเขารู้ว่าเฉินหยานเซียวนั้นมีศักยภาพสูง แต่พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าเธอจะมีความผิดปกติมากจนถึงจุดนี้
ในวันแรกของการเข้าสู่หอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เธอสามารถบ่มเพาะได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสิบวัน ...
แม่เจ้า! ใครก็ได้ช่วยตบพวกเขาและบอกพวกเขาว่านี่เป็นเพียงแค่ความฝัน!
เฉินหยานเซียวหัวเราะเบา ๆ และมองดูเหอซุ “จากนั้นให้ข้าบอกนายพล เพียงครึ่งเดือนที่ผ่านมาข้ามีระดับเป็นเพียงเอลฟ์ระดับสีฟ้า ข้าไม่รู้ว่านายพลเหอซุเห็นข้าที่สามารถกระโดดจากเอลฟ์ระดับสีฟ้าเป็นระดับสีดำได้ทันทีในเวลาเพียงยี่สิบวัน”
“อะไรนะ…” หลังจากได้ยินสิ่งนั้นการแสดงออกอย่างจริงจังบนใบหน้าของเหอซุไม่สามารถช่วยได้ แต่แสดงสัญญาณของการแตกร้าว
เขารู้ว่าเนื่องจากคำแนะนำของ ม่อหยูและคนอื่น ๆ เฉินหยานเซียว เข้ามาในค่ายฝึกขั้นสูงได้โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่สำหรับระดับเอลฟ์ของหยานเซียว นอกเหนือจากม่อหยู สหายคนอื่นและอาวุโสเย่วแล้ว ไม่มีเอลฟ์คนอื่นที่รู้เรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า อาวุโสเย่วตกลงและเห็นด้วยกับการให้หยานเซียวเข้ามา ดังนั้นระดับของเฉินหยานเซียวไม่ควรต่ำเกินไป อย่างน้อยเธอก็ต้องเป็นเอลฟ์ระดับสีขาว มิฉะนั้น เธอจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าค่ายฝึกขั้นสูง
ยิ่งกว่านั้นเธอยังเด็กมาก อาวุโสเย่วต้องจินตนาการถึงพรสวรรค์ของเธอเพื่อทำการยกเว้นและยอมรับเธอเข้ามาฝึกในค่ายฝึกขั้นสูง เขาต้องคิดมาเช่นนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังว่า ก่อนที่เฉินหยานเซียวจะเข้าค่ายฝึกขั้นสูงเธอเป็นเพียง…เอลฟ์ระดับต่ำสุด!
เอลฟ์ระดับสีฟ้าและระดับสีดำ ระดับแรกเป็นระดับต่ำสุดในขณะที่อีกระดับคือระดับสูงสุด ความไม่เสมอภาคกันระหว่างคนทั้งสองเห็นได้ชัดตามธรรมชาติ
นอกจากเหอซุจะคิดอย่างอื่น แต่เหอซุก็คงไม่เชื่อว่า หยานเซียวที่เป็นเอลฟ์สีฟ้าจะสามารถทะลุผ่านจนกลายเป็นเอลฟ์ระดับสีดำได้ในเวลาเพียงยี่สิบวันแม้ว่าเขาจะถูกฆ่า
แม้แต่กับหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ มันก็ยังเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งชั้นของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ ที่ซึ่งเฉินหยานเซียวได้รับการฝึกฝนมาก่อนไม่ใช่ชั้นที่เจ็ดซึ่งมีพลังชีวิตที่ทรงพลังที่สุด
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้การพึ่งพาความสามารถของตนเองเพียงเพื่อที่จะฝ่าฟันขึ้นจากชั้นหนึ่งได้นั้นถึงขีดจำกัดแล้ว ถ้าใครอยากกระโดดมากกว่าสี่หรือห้าชั้นโดยตรง … นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้อย่างเต็มที่!
ข้อเท็จจริงที่ระบุโดยเฉินหยานเซียวนั้นคว่ำการอ้างถึงของเหอซุอย่างสมบูรณ์ในก่อนหน้านี้ ความแตกต่างระหว่างระดับของเอลฟ์จะทำให้พลังโจมตีของเอลฟ์ระดับต่ำลดลงอย่างมากเมื่อเผชิญหน้ากับเอลฟ์ระดับสูง ไม่ต้องพูดถึงเอลฟ์ระดับสีฟ้าถึงแม้ว่า เฉินหยานเซียวจะเป็นเอลฟ์ระดับสีขาวอย่างมากเธอก็สามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ไม่ถึงแก่ชีวิตของชุยหลิง ตราบใดที่แหล่งกำเนิดพลังชีวิตของ ชุยหลิง ยังไม่หมดไป เขาไม่มีโอกาสตายอย่างแน่นอน
“ม่อหยูสิ่งนี้จริงหรือไม่?" เหอซุมองไปที่ม่อหยู อย่างไม่ใจ นอกจากม่อหยูและสหายของเขา อีกคนที่รู้ระดับที่แท้จริงของ เฉินหยานเซียว คือ อาวุโสเย่ว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าพวกเขายังรับผิดชอบบางส่วนในค่ายฝึกขั้นสูง พวกเขายังคงไม่มีสิทธิ์ตั้งคำถามกับอาวุโสเย่ว
ม่อหยูกดหัวใจของเขาลงและแสร้งทำเป็นสงบในขณะที่เขาพยักหน้า
“มันเป็นเรื่องจริง หากคนทั่วไปไม่เชื่อ เจ้าสามารถไปที่เมืองระดับสีฟ้า เมืองราตรีหอมหวน ไปที่จุดทดสอบ วันที่ข้าได้รับหยานเซียว ข้าให้เธอลองทำการทดสอบในพื้นที่ทดสอบ มีเอลฟ์หลายร้อยคนที่สามารถเป็นพยานได้” เมื่อเฉินหยานเซียวเข้ารับการทดสอบมันทำให้เกิดความปั่นป่วนและนั่นก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้นานมาแล้ว แม้ว่าเขาจะดึงเอลฟ์ที่อยู่ในเวลานั้นมาสอบสวนเขาจะรู้ว่าสิ่งที่ เฉินหยานเซียวกล่าวออกมา ว่าเป็นจริง
เหอซุโดยธรรมชาติไม่สงสัยคำพูดของม่อหยู แต่ด้วยวิธีนี้ ข้อสมมติฐานก่อนหน้าของเขาก็ไม่ถูกต้องทั้งหมด
อย่างไรก็ตามเอลฟ์ระดับสีฟ้าสามารถบ่มเพาะได้ต่อเนื่องเป็นเวลาสิบวันในวันแรกที่เข้าสู่หอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ได้อย่างไร?
เธอจะทำร้ายอีกฝ่ายที่เป็นเอลฟ์ระดับสีดำได้อย่างไร?
EGT 1254
เขาหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปยังเฉินหยานเซียวที่ได้กลายเป็นตัวประหลาด
ตอนแรกเขาถือว่าสิ่งนี้เป็นการต่อสู้ที่น่ารังเกียจ แต่หลังจากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เขามีอยู่ในมือดูเหมือนว่าเขาจะทำการสรุปได้อย่างไร้สาระมาก
สหายตัวน้อยที่เพิ่งเป็นเอลฟ์ระดับสีฟ้าเมื่อยี่สิบวันก่อนหลังจากเข้าค่ายฝึกขั้นสูงไม่นาน ทำร้ายเอลฟ์ระดับสีดำได้รับบาดเจ็บ
และเอลฟ์ระดับสีดำคนนี้ก็ตายหลังจากนั้นไม่กี่วัน ...
ในอีกด้านหนึ่งเหอซุ สงสัยว่าชุยหลิงเสียชีวิตในที่สุดในขณะที่อีกด้านหนึ่งเขาประหลาดใจกับการต่อสู้ที่กล้าหาญของเอลฟ์ที่อยู่ต่อหน้าเขา
ด้วยข้อเสียเปรียบในระดับ เจ้ายังสามารถได้รับชัยชนะ?
ไม่น่าแปลกใจที่ ม่อหยูและคนอื่น ๆ จะไม่พยายามแนะนำเธออย่างมาก และก็ไม่น่าแปลกใจที่อาวุโสเย่ว จะยอมรับเอลฟ์นี้แม้จะอยู่ในอันดับต่ำ
"แค่ก หยานเซียว ในปัจจุบันของเจ้า ระดับของเจ้าเป็นเท่าไหร่?” เหอซุอยากรู้มากเกี่ยวกับระดับปัจจุบันของ เฉินหยานเซียว
มุมปากของเฉินหยานเซียวเบ่งบานออกกลายเป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจขณะที่เธอตอบว่า “นายพลเหอซุยังจินตนาการว่าข้าได้ฝ่าทะลวงระดับกลายเป็นเอลฟ์ระดับสีดำแล้ว?”
ใบหน้าของเหอซุมืด การคาดเดาของตัวเองตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลกที่สมบูรณ์ เพราะเขาปฏิบัติต่อ เฉินหยานเซียวว่าเป็นผู้ต้องสงสัย น้ำเสียงของเขาที่ใช้กับเฉินหยานเซียวในก่อนหน้านี้ก็ไม่ดีมาก แต่ในปัจจุบันเฉินหยานเซียวมีพื้นฐานที่ไม่สามารถฆ่าชุยหลิงได้
การปฏิบัติก่อนหน้าของเขาค่อนข้างหยาบคาย
“หลังจากหยานเซียวออกจากหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ ข้าให้เธอทำการทดสอบ ตอนนี้เธอมีความแข็งแกร่งของเอลฟ์ระดับสีแดง” ผู้อาวุโสผู้ซึ่งเงียบมาตั้งแต่แรกเริ่มเปิดปากของเขาขึ้นมาและรอยยิ้มบนปากของเขาก็ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงความจริงใจอย่างมาก
“แดง?” เหอซุชะงักไปซักครู่
ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนเธอก้าวทะลวงระดับจากเอลฟ์ระดับสีฟ้าไปเป็นเอลฟ์ระดับสีแดง กระโดดข้ามสองระดับ ความเร็วนี้ ... น่ากลัวจริงๆ
“สหายน้อยที่รัก อ้า เธอคนนี้มีความสามารถจริงๆ อา!” ม่อหยู และคนอื่น ๆ ก็แค่อยากให้กำลังใจ มันยังไม่ได้ถึงเดือน แต่ทว่าสาวน้อยผู้นี้ได้ก้าวหน้าไปอีกหนึ่งระดับอีกครั้ง ด้วยความเร็วในการก้าวหน้าที่บ้าคลั่งเช่นนี้ หลังจากครึ่งปีผ่านไปหลังจากที่เธอเข้าร่วมกับ หน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ โดยทั่วไปแล้วอาจกล่าวได้ว่าเป็นบทสรุปที่คาดเดาได้มาก่อน!
อ๊ะ! ข้อมูลเชิงลึกของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมที่สุด!
เจ้าไม่คิดเช่นกันหรือว่า พวกเขามีจิตใจเช่นที่ว่าได้ค้นพบไข่มุกเม็ดงาม!
อาวุโสเย่วพูดออกมาอย่างยิ้มแย้ม “สาเหตุของการเสียชีวิตของหลิงชุงยังไม่ได้ถูกสอบสวน ข้าไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับหยานเซียวเลย อย่างไรก็ตามเนื่องจากเจ้ามีข้อสงสัยเกี่ยวกับเธอ ข้าจึงได้ให้โอกาสเจ้าในการสอบถาม ในตอนนี้เจ้ายังคิดว่าการตายของ ชุยหลิงเกี่ยวข้องกับหยานเซียวหรือไม่?”
นายพลทั้งสามในห้องประชุมแลกเปลี่ยนสายตากัน มันมีร่องรอยความขมขื่นอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
อาวุโสเย่วไม่เห็นว่าเฉินหยานเซียวเป็นผู้ต้องสงสัยตั้งแต่เริ่มต้น เขาได้ยอมให้การเคลื่อนไหวเหล่านี้เพื่อกำจัดข้อสงสัยของพวกเขาในตัวของเฉินหยานเซียว หากเขาไม่ทำเช่นนี้ เขาก็กลัวว่า ไม่ว่าเฉินหยานเซียวจะเป็นนักฆ่าหรือไม่ เธอจะแบกรับบทบาทของผู้ต้องสงสัยในค่ายฝึกขั้นสูง
นายพลทั้งสามคนนั้นไม่ใช่คนโง่ ไม่ว่าความเร็วในการเลื่อนระดับของเฉินหยานเซียวจะเร็วแค่ไหน จนกระทั่งเธอมาถึงระดับของเอลฟ์ระดับสีขาว เธอจะไม่มีความสามารถในการฆ่าชุยหลิง
“อาวุโสเย่วฉลาด นี่คือความผิดพลาดของเรา หยานเซียวไม่มีพลังฆ่าฟันชุยหลิง ดังนั้นนักฆ่าจึงไม่ใช่เธอ ในอนาคตเราจะทำการสอบสวนต่อไปและพยายามหาฆาตกรตัวจริงให้ได้เร็วที่สุด” เหอซุยอมรับความผิดพลาดของเขาโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและมองดูเฉินหยานเซียว จากนั้นก็พูดอย่างจริงใจว่า “ข้าต้องขออภัย วันนี้เจ้าได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมเนื่องจากข้อมูลของเราไม่ครอบคลุมพอ"
เฉินหยานเซียวเลิกคิ้วเล็กน้อย จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะขอโทษเธอ
“เอาล่ะ พวกเจ้าก็สอบสวนตามเรื่องนี้ต่อไป หยานเซียวมากับข้าไปที่ห้องทำงานกับข้าสักหน่อย” อาวุโสเยว่กล่าวออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม
EGT 1255
อาวุโสเย่วออกจากห้องไปก่อน ตามด้วยนายพลเอลฟ์ทั้งสาม
ข้างในห้องประชุมมีเพียง เฉินหยานเซียว ม่อหยู และคนอื่น ๆ ที่เหลือ
ม่อหยูเดินไปที่ด้านหน้าของเฉินหยานเซียว อย่างอดไม่ได้ เขายิ้มจากหูถึงหู เมื่อมองดูเฉินหยานเซียว เขาพูดว่า
“หยานเซียวเจ้าเป็นคนที่ไม่มีใครเสมอเหมือน! สิบวัน?! เจ้าจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไร อ่าว! เมื่อคิดว่าเจ้าสามารถก้าวเข้าสู่เอลฟ์ระดับสีแดงได้! ข้าภูมิใจในตัวเจ้ามาก!"
ถ้าหาก ม่อหยู ไม่กลัวว่าจะถูกกล่าวหาข่มแหง “สาวน้อย” เขาจะเข้าไปกอดเฉินหยานเซียวและจูบเธอ
สาวน้อยตัวนี้ทำให้เขามีใบหน้าใหญ่โตจริงๆ !!!
เฉินหยานเซียวลูบจมูกของเธอแล้วมองไปที่เอลฟ์ทั้งห้าพร้อมด้วยดวงตาที่เปล่งประกายระยิบระยับ
“ขอบคุณที่ให้โอกาสข้าในการเข้าค่ายฝึกขั้นสูงนี้” เฉินหยานเซียวจะไม่สามารถได้รับทรัพยากรที่ดีเช่นนี้หากเธอไม่ได้รับความช่วยเหลือจากม่อหยูและคนอื่น ๆ เธอทำได้แค่ต้องดิ้นรนจาก ค่ายฝึกขั้นต้น พึ่งพาความสามารถของเธอเอง ผลลัพธ์อาจเหมือนกัน แต่ความเร็วก็จะไม่เร็วเช่นนี้
“ฮะ! ไม่จำเป็นสำหรับสิ่งนั้น เจ้าเพียงแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าได้เข้าสู่ หน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ และปกป้องต้นไม้แห่งชีวิตกับเรา จุดประสงค์ดั้งเดิมของเราคือค้นหาเอลฟ์ที่มีศักยภาพในทุกเมือง โอ้ แต่เจ้านั้นดีที่สุด พวกเอลฟ์ที่ม่อเฟิงและคนอื่น ๆ หามา ไม่สามารถเทียบเจ้าได้” เสียงหัวเราะของม่อหยูไม่สามารถระงับการโอ้อวดได้อีกต่อไป
เมื่อคิดว่าม่อเฟิงและคนอื่น ๆ นั้นตกใจแค่ไหนในตอนเริ่มแรกเมื่อเขาแนะนำเฉินหยานเซียว และดูผลลัพธ์ปัจจุบันขณะนี้ ม่อหยูรู้สึกว่าวิสัยทัศน์ของเขาดีมากจริงๆ!
ม่อเฟิงไอออกมาเล็กน้อย ในขณะที่ใบหน้าของม่อเล่ยและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย แต่ละคนเลือกเอลฟ์ที่จะส่งไปยังค่ายฝึกขั้นสูงและพวกเอลฟ์ที่พวกเขาเลือกล้วนเป็นพวกเอลฟ์ระดับสีดำ พวกเอลฟ์เหล่านี้และหยานเซียว เข้าค่ายฝึกในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าศักยภาพของพวกเขานั้นจะดีเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับเอลฟ์น้อยที่ผิดปกติผู้นี้ พวกนั้นกลายเป็นคนอ่อนแอ
“ข้าเพิ่งเข้าค่ายฝึก ข้ายังไม่แน่ใจว่าข้าจะสามารถเข้าสู่ หน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ จริงๆได้หรือไม่” เฉินหยานเซียวยิ้มอย่างนั้น อาจเป็นเพราะลักษณะนิสัยของ ม่อหยูค่อนข้างคล้ายกับถังนาจื่อ เธอจึงไม่ค่อยเป็นแสดงออกอย่าเป็นทางการกับเขา
“ยังไม่แน่ใจเหรอ? ข้ากล้ารับประกัน ถ้ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่ หน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ ในกลุ่มเอลฟ์กลุ่มนี้ได้ มันก็ต้องเป็นเจ้า!” ม่อหยูประกาศออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้ม เขาและเฉินหยานเซียวรู้จักกันน้อยกว่าหนึ่งเดือน
แต่ในช่วงเวลานั้นเขาได้เห็นเอลฟ์ระดับสีฟ้าเพิ่มขึ้นมาถึงระดับของเอลฟ์ระดับสีแดง ความเร็วนี้เป็นเพียงแค่ประวัติการณ์!
อีกห้าเดือนต่อมา ถ้าเฉินหยานเซียวไม่สามารถเข้าสู่ หน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ ม่อหยู จะถูกบังคับให้แขวนหัวของเขา
เฉินหยานเซียวหัวเราะเบา ๆ และไม่พูดอะไรออกมาอีก
ม่อหยานที่อยู่ข้างๆได้พูดออกมาว่า “ชิวเอ๋อ เป็นคนรับผิดชอบต่อกลุ่มของเจ้าหรือไม่? เขาไม่พอใจเจ้าใช่หรือไม่?” เขาสังเกตเห็นว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่เขาได้รับมาจากปากของชิวเอ๋อ และพวกมันทั้งหมดลำเอียงอย่างชัดเจน
เฉินหยานเซียวเม้มริมฝีปากของเธอออกแล้วตอบว่า “มันคือเขา แม้ว่าข้าจะไม่เป็นที่พอใจต่อสายตาของเขา แต่มันก็ไม่สำคัญสำหรับข้า”
“เจ้าควรให้ความสนใจกับเรื่องนี้ดีกว่า เจ้ายังมีเวลาอีกห้าเดือนในค่ายฝึกขั้นสูง ถ้าชิวเอ๋อมีปัญหากับเจ้าจริง ๆ ผลลัพธ์ของเจ้าในอนาคตอาจไม่ดีนัก นอกจากนี้ในการคัดเลือกครั้งสุดท้ายสำหรับหน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ การประเมินผู้สอนของเจ้าก็สำคัญเช่นกัน” ม่อหยานแนะนำ เฉินหยานเซียวพยักหน้า เธอไม่ได้สนใจที่จะเล่นกับผู้ชายอย่างชิวเอ๋อ
แต่ถ้าการเลือกสุดท้ายสำหรับทหารเข้าหน่วยทหารจันทราศักดิ์สิทธิ์ นั้นต้องผ่านการประเมินของชิวเอ๋อ ดังนั้น ...
เธอต้องหาเวลาพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตกับเขา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น