เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

EGT 1235-1237 เสือไม่แสดงพลังของตนและทำตัวเหมือนแมวป่วย

EGT 1235

ชุยหลิงและกลุ่มของเขากลับไปยังหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์  ชิวเอ๋อยืนอยู่ข้างๆโดยไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา

ชิวเอ๋อชัดเจนถึงความแข็งแกร่งของอันหราน เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของชุยหลิงเทียบเท่ากับอันหราน และเนื่องจากยังมีเอลฟ์คนอื่นมาช่วยอีกด้าน ด้วยการรับมือกับอันหราน ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมาก

ชิวเอ๋อหันไปทางประตูที่เปิดออกของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์  เขารอคอยที่จะได้เห็นร่างเล็ก ๆ มาที่นี่พร้อมด้วยความโกรธ เขาต้องการเห็นพายุแห่งความโกรธเคืองของเฉินหยานเซียวจนต้องทำผิดกฎระเบียบของค่ายฝึกเนื่องจากมีคับแค้นใจจากการที่อันหรานถูกรังแก

ชิวเอ๋อไม่ชอบเฉินหยานเซียว เขาไม่อนุญาตให้เอลฟ์ที่ไร้ต้นกำเนิดมาทำให้เผ่าวีรบุรุษในใจของเขาเสื่อมเสีย

ในเมื่อเธอเข้ามาขวางทาง เขาก็จะทำลายคุณสมบัติของเธอ

ชิวเอ๋อเองก็ไม่ได้ไม่พอใจกับอันหรานมากนัก มันอาจถูกโทษในความจริงได้เท่านั้น กับการที่ค่ายฝึกขั้นสูงทั้งหมด เฉินหยานเซียวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอันหราน เท่านั้น

เพื่อกระตุ้นความโกรธของเฉินหยานเซียว เขาจะต้องขยับมือของเขาไปที่อันหราน

ชุยหลิงกลับมาแล้วและชิวเอ๋อคาดการณ์ว่าเฉินหยานเซียวอาจพบอันหรานแล้ว

บางทีเธออาจเห็นภาพบางส่วน

เอลฟ์ที่ไม่สุภาพผู้นี้จะรุนแรงอย่างสมบูรณ์เพราะสหายของเธอถูกรังแกหรือไม่?

หัวใจของชิวเอ๋อนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ในที่สุดร่างเล็ก ๆ ที่น่าสนใจที่เขารอคอยที่จะเห็น ก็ได้มาปรากฏต่อสายตาของเขา

เฉินหยานเซียวถือคันธนูแล้วเดินไปยังหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ ด้วยสีหน้าที่ดูเฉยเมย อารมณ์ของชิวเอ๋อเริ่มรุนแรงมากขึ้น

เฉินหยานเซียวเดินตรงเข้ามาที่ประตูของหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ เมื่อเธอก้าวเข้ามา ทุกสายตาของพวกเอลฟ์มุ่งไปที่ร่างของเธอ รูปลักษณ์ของเฉินหยานเซียวและคันธนูที่อยู่ในมือ ทำให้เอลฟ์รู้สึกว่าการต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้น

พวกเขาเห็นชุยหลิงและเอลฟ์อื่น ๆ ลากอันหราน หลังจากนั้นมีเพียงชุยหลิงและคนอื่น ๆ กลับมา พวกเขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับอันหราน แม้ว่าพวกเขาจะสามารถใช้นิ้วเท้าเพื่อคิดเท่านั้น

ตอนนี้เฉินหยานเซียวไล่พวกเขาตามมา พร้อมกับถือธนูอย่างจริงจัง โดยไม่มีการปิดบังใด ๆ

กลุ่มเอลฟ์ของชุยหลิงรวมตัวกันและจ้องมองไปที่เฉินหยานเซียว

ชุยหลิง” เฉินหยานเซียวหรี่ตาของเธอลง เมื่อมองไปที่ชุยหลิงซึ่งรายล้อมไปด้วยพวกเอลฟ์อีกสองสามคน

อะไร?” ชุยหลิงเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าเขาแสดงออกด้วยท่าทีที่ดูไม่พอใจ

เฉินหยานเซียว ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า "มือของเจ้ายังไม่หายคันใช่หรือไม่? การประลองกับอันหรานคงไม่สนุกมากนัก เจ้ามาปนะลองกับข้าต่อสักหน่อย ดีหรือไม่?”

ท้าประลอง!

เฉินหยานเซียวท้าทายชุยหลิงโดยตรง

ชุยหลิงชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะหัวเราะ

หยานเซียวเจ้าจริงจังหรือไม่?” เป็นเรื่องตลก การแสดงของหยานเซียวในหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์ อาจเป็นความสามารถที่ดี แต่เธอแย่มากในการฝึกภาคสนาม

ข้าเกรงว่าเธอจะทำได้ไม่ได้ดีเท่ากับอันหราน

ชิวเอ๋อยืนอยู่ในที่เดิม อย่างเงียบงัน ร่องรอยของความเสียใจในดวงตาของเขาถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม

เขาคิดว่าด้วยความอ่อนเยาว์และความเขลาของเฉินหยานเซียว หลังจากค้นพบว่าอันหรานถูกกลั่นแกล้ง เธอจะจัดการกับชุยหลิงโดยตรง แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าสหายตัวน้อยคนนี้ยังมีสมองอยู่เล็กน้อย เธอรู้ว่าการทำร้ายบุคคลโดยตรงเป็นการทำผิดกฏระเบียบของค่ายฝึก

แต่…

ดูเหมือนว่าสติปัญญาของเธอยังจำกัดอยู่เพียงแค่นี้

แม้ว่าความแข็งแกร่งของชุยหลิงจะอยู่ในระดับกลางเท่านั้น แต่ความสามารถของเฉินหยานเซียวในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจริงนั้นแย่มาก จนผู้คนไม่สามารถทนดูได้โดยตรง

แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามันน่าเสียดายที่เขาไม่สามารถกระตุ้นเฉินหยานเซียวให้ละเมิดกฎระเบียบค่ายฝึก เพื่อขับไล่เธอออกไป แต่มันก็ไม่เลวที่จะให้ชุยหลิง สอนบทเรียนให้เธอ ในการแข่งขัน

ไม่มีใครเชื่อเลยว่า เฉินหยานเซียวจะเป็นคู่ต่อสู้ของ ชุยหลิง ในตอนเช้าพวกเขาทั้งหมดได้เป็นสักขีพยานในการแสดงทักษะของเฉินหยานเซียวบนสนามฝึกซ้อม เฉินหยานเซียว ไม่ได้เป็นเอลฟ์ตัวน้อยลึกลับอีกต่อไป




EGT 1236

เมื่อความลึกลับแตกสลายเธอได้กลายเป็นตัวตลกที่น่าเศร้า

พวกเอลฟ์ทุกคนคิดว่าการประกาศการท้าประลองของ เฉินหยานเซียวนั้นไร้สาระ

ชุยหลิงไม่ได้ปกปิดรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้าของเขา

หยานเซียว เจ้าล้อเล่นใช่หรือไม่? เจ้ากับข้า?” ชุยหลิงพูดออกไปอย่างยิ้มแย้ม เขาไม่รู้สึกเลยว่าหยานเซียวอยู่ในสถานะการที่ต้องการล้างแค้นให้กับอันหราน เขากลับรู้สึกว่า เฉินหยานเซียวกำลังมองหาความอับอายให้ตนเอง

เฉินหยานเซียวตอบว่า “ใช่”

รอยยิ้มของชุยหลิงนั้นค่อนข้างโอ้อวด เมื่อเขามอง เฉินหยานเซียวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

พวกเอลฟ์คิดว่าเฉินหยานเซียวนั้นบ้าไปแล้ว ความแข็งแกร่งของชุยหลิงนั้นดีจริงๆ ส่วนอีกฝ่าย ทักษะของเฉินหยานเซียวในการต่อสู้จริงดูเหมือนจะแย่มาก เอลฟ์ทั้งสองนี้มาประลองกัน มันไม่มีอะไรเทียบกันได้เลย

"ดีมาก เจ้าต้องการประลองเมื่อใด” ชุยหลิงไม่ได้คิดถึงมัน ความแข็งแกร่งของเฉินหยานเซียวในสายตาของเขาก็ไม่มีอะไรเลย ไม่ยากเลยที่จะเอาชนะเธอในไม่กี่วินาที

ตอนนี้" เฉินหยานเซียวไม่ต้องการยืดเยื้อ และกำกนดเวลาโดยตรง

เฉินหยานเซียวและชุยหลิงจะ “ประลอง” ดังนั้นพวกเอลฟ์ในหอคอยจิตวิญญาณพิสุทธิ์จึงวิ่งออกมาทั้งหมดเพื่อดูการต่อสู้ ความโดดเด่นของเฉินหยานเซียวก่อนหน้านี้แข็งแกร่งเกินไป เธอยังไม่เป็นผู้ใหญ่แต่เธอได้ครอบงำเอลฟ์ผู้ใหญ่เหล่านี้ลงไปแล้ว เอลฟ์หลายคนอยากเห็น ชุยหลิงสั่งสอนสิ่งนี้ใหเกับเฉินหยานเซียว ผู้ที่ไม่รู้จักบทเรียนที่ดี

ภายใต้การรักษาด้วยยาที่ดี อันหรานกลับไปที่หอพัก อย่างไรก็ตามยิ่งเขาคิดมาก เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เขาหันหลังกลับเพื่อไปตามหาเฉินหยานเซียว และเมื่อเขามาถึงสนามฝึกเขาเห็นเฉินหยานเซียวและชุยหลิง ยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับคันธนูและลูกธนูและมีพวกเอลฟ์หลายคนเฝ้าดูอยู่ข้างๆ

หยานเซียว!” อันหรานร้องอุทาน

อันหราน?" เฉินหยานเซียวมองอันหรานที่ยังเต็มไปด้วยเลือด เธอหรี่ตาลงเล็กน้อย

เธอไม่ต้องการให้เขาเห็นสิ่งนี้ทั้งหมด

หยานเซียว เจ้ากำลังทำอะไรอยู่” อันหรานพยายามระงับความเจ็บปวดของร่างกายของเขาและวิ่งไปที่ด้านข้างเฉินหยานเซียว

ชุยหลิงและข้าแค่ต้องการแลกเปลี่ยนทักษะกัน นั่นคือทั้งหมด” เฉินหยานเซียวกล่าวพร้อมกับยิ้ม

เจ้า…” อันหราน ประหลาดใจมาก “เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา กลับไปกับข้า อย่าทำเช่นนี้"

อันหรานไม่ได้เป็นคนโง่ เขาเข้าใจว่าเฉินหยานเซียว ต้องการที่จะแก้แค้นแทนเขา แต่เมื่อคิดถึงการยิงธนูของเฉินหยานเซียวและชุยหลิง มันต่างกันมากเกินไป เธอไม่มีโอกาสเลยที่จะชนะ

อันหราน เจ้ายังสามารถเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ได้ มันทำให้ข้าประหลาดใจจริงๆที่เจ้ายังสามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ต้องหยุดพักผ่อนอยู่บนเตียงเป็นเวลาสิบวันหรือครึ่งเดือน" ชุยหลิงมองไปที่อันหรานอย่างขึงขังและเขาก็ค่อนข้างประหลาดใจที่อันหรานสามารถยืนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ชุยหลิงตระหนักดีว่าเขาให้ยิงอันหรานไปหลายครั้ง อย่างน้อยก็เพียงพอสำหรับอันหรานที่จะต้องนอนบนเตียงเป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังว่า อันหรานจะยังคงปรากฏอย่างแท้จริง ต่อหน้าต่อตาเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ชุยหลิงจะรู้ได้อย่างไรว่า เฉินหยานเซียวได้มอบยารักษาระดับผู้เชี่ยวชาญให้กับอันหรานเพื่อรักษาบาดแผลบนร่างกายของเขา ซึ่งมันไม่คุ้มค่าน้อยกับเงินที่มากกว่าหนึ่งหมื่นเหรียญผลึก

ชุยหลิง นั่นก็เพียงพอแล้ว เป้าหมายของเจ้าคือข้าไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับหยานเซียว" อันหรานเดินไปที่ด้านหน้าของเฉินหยานเซียว เพื่อปิดกั้นเธอ เขาเข้าใจว่าชุยหลิงไม่ชอบเขา นี่เป็นความขัดแย้งของเผ่าชิงหยวนและเผ่ารัศมีจันทร์ มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินหยานเซียว

ชุยหลิงยิ้มและตอบว่า “เธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่? เจ้าดูเหมือนจะเข้าใจผิด มันเป็นสหายตัวน้อยผู้นี้ที่วิ่งมาท้าทายข้า ข้าไม่ใช่คนที่ตามหาเธอ”

อันหรานชะงักไปเล็กน้อย

เฉินหยานเซียวผลักอันหรานไปที่ด้านข้างแล้วพูดว่า “เจ้าควรพักผ่อนให้เพียงพอ ข้าจะจัดการกับที่นี่”

หยานเซียว เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา” อันหรานเป็นห่วงเฉินหยานเซียวจริงๆ เธอทำไม่ได้แม้แต่เจาะทะลุชั้นป้องกันของเป้าหมาย อย่าว่าแต่การที่จะโจมตีชุยหลิง





EGT 1237

เชื่อข้าเถอะ” เฉินหยานเซียวยิ้มและพูดว่า

อันหราน นี่เป็นการแข่งขันระหว่างหยานเซียวและชุยหลิง หากเจ้าไม่มีอะไรทำก็ออกไป”

ในที่สุด ชิวเอ๋อที่กำลังจะได้เห็นเฉินหยานเซียวได้รับความพ่ายแพ้ แต่เขาไม่คิดว่า อันหรานจะมาทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิงในขณะนี้

ชิวเอ๋อ!” อันหรานมองดูชิวเอ๋ออย่างไม่น่าเชื่อ

เฉินหยานเซียวจ้องมอง ชิวเอ๋อ และเย้ยหยันในใจของเธอ เธอเดินตรงไปข้างหน้าและพูดกับชุยหลิงว่า “อย่ามัวแต่เสียเวลา มาเริ่มกันเลยดีกว่า”

ดี” ชุยหลิงหัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจอย่างมาก

อันหรานไม่สามารถหยุดการต่อสู้นี้ได้ เขาทำได้แค่ดูการแข่งขันระหว่างเฉินหยานเซียวและชุยหลิงที่จะเริ่มขึ้นในฃม่ช้า

ความสามารถในการยิงธนูของชุยหลิงนั้นไม่น้อยไปกว่าอันหราน ทั้งคู่ถือว่าเป็นเอลฟ์ระดับสีดำขั้นกลาง

ในทางตรงกันข้าม เฉินหยานเซียวเป็นเพียงเอลฟ์ระดับสีแดงและดูเหมือนว่าเธอจะไม่สามารถใช้พลังจากแหล่งกำเนิดพลังชีวิตกับคันธนูได้ดี ช่องว่างระหว่างพวกเขาชัดเจนมาก

ไม่มีใครเชื่อว่าเฉินหยานเซียวจะสามารถชนะการแข่งขันนี้ได้ พวกเอลฟ์ทุกคนกำลังรอดูเฉินหยานเซียวกลายเป็นตัวตลก

การสนทนาระหว่างพวกเอลฟ์นั้นง่าย แต่ก็เลวร้ายมากเช่นกัน

ในการแข่งขันประลอง เอลฟ์ทั้งคู่จะต้องใช้คู่ต่อสู้เป็นเป้าหมายในการโจมตี ผู้หนึ่งอาจถูกฆ่าถ้าพวกเขาประมาท

นี่คือสาเหตุที่แม้ว่าค่ายฝึกอนุญาตให้พวกเอลฟ์ประลองกันได้ผ่านการแข่งขันยิงธนู แต่มีเอลฟ์ไม่มากนักที่เต็มใจจะเดิมพันชีวิตของพวกเขาและต่อสู้

ชุยหลิงไม่ได้เห็นเฉินหยานเซียวอยู่ในสายตาของเขา เขาได้เตรียมบทเรียนไว้สำหรับเฉินหยานเซียวแล้ว

เฉินหยานเซียวและชุยหลิงยืนอยู่ตรงข้ามกัน พวกเขาทั้งสองหยิบคันธนูและวางลูกธนูลงในตำแหน่ง ดึงคันธนู

เฉินหยานเซียวสงบจิตใจของเธอและมุ่งเน้นความสนใจของเธอเพื่อระดมพลังของแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอ เธอรู้สึกว่าพลังชีวิตในร่างกายของเธอค่อย ๆ ผ่านมือของเธอออกไปที่คันธนูและลูกธนู

การเหนี่ยวนำพลังนี้ทำให้ เฉินหยานเซียวค่อนข้างประหลาดใจ

เมื่อใช้ธนูของอันหราน ในที่สุดพลังของแหล่งกำเนิดพลังชีวิตของเธอก็สามารถรวมเข้ากับธนูและลูกธนูได้!

ความประหลาดใจเปล่งประกายออกมาทางแววตาชั่วครู่ ก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยความโหดเหี้ยมในพริบตา

เฉินหยานเซียวมองไปที่ชุยหลิงที่ยืนอยู่ตรงข้ามเธอและมุมปากของเธอยกขึ้น เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

เอลฟ์หน้าโง่ แค่รอความตายของเจ้า!

เฉินหยานเซียวและชุยหลิงเกือบจะปล่อยลูกธนูออกมาพร้อมๆ กัน ในวินาทีถัดมา หลังจากปล่อยลูกธนู ร่างของพวกเขาทั้งสองเคลื่อนไหวทันทีเพื่อหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว

ลูกธนูสองลูกถูกแทงทะลุผ่านอากาศและพุ่งออกไป ไม่มีใครสามารถทำร้ายคู่ต่อสู้จากการยิงในดอกแรกได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามการต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้น!

ร่างเงาได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเงาของลูกธนูบิน

การต่อสู้ที่งดงามและสง่างามระหว่างสองเอลฟ์ได้เกิดขึ้น

ความแข็งแกร่งของชุยหลิงนั้นดีจริงๆ การโจมตีและหลบหลีกของเขาอยู่ในระดับของเอลฟ์ระดับสีดำ มันไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นการต่อสู้ที่เล่นเพื่อความสนุกหรือเล่นตลก

แม้แต่เอลฟ์คนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกทึ่งกับทักษะการยิงธนูของชุยหลิง

ในกลุ่มเอลฟ์นี้ เมื่อพูดถึงการยิงธนูมีเพียงอันหราน เท่านั้นที่เทียบได้กับ ชุยหลิง สำหรับเอลฟ์อื่น ๆ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเอลฟ์ระดับสีดำพวกเขาไม่สามารถยิงธนูได้โดดเด่น

พวกเอลฟ์ทุกคนคิดว่า เฉินหยานเซียวจะพ่ายแพ้ในไม่ช้า ท้ายที่สุดความแข็งแกร่งของเธอก็ไม่สามารถเทียบได้กับเอลฟ์ระดับสีดำได้แม้แต่น้อย

แต่แล้วฉากที่น่าทึ่งก็ปรากฏขึ้น

ร่างของเฉินหยานเซียวเคลื่อนไหวเหมือนวิญญาณ เธอหลีกเลี่ยงการโจมตีของชุยหลิงได้ทั้งหมดโดยไม่มีปัญหาใด ๆ อะไรที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือความเร็วในการยิงธนูของเฉินหยานเซียวนั้นเร็วกว่าของชุยหลิง

พวกเขาไม่เห็นว่าส่วนใดของเธอที่เป็นเพียงเอลฟ์ระดับกลาง

ลูกธนูของชุยหลิงทุกดอกไม่สามารถแตะต้องเฉินหยานเซียวได้

มันเป็นความจริงที่ว่าเมื่อพูดถึงอันดับแล้ว ชุยหลิงนั้นดีกว่าเฉินหยานเซียว แต่ไม่ควรลืมว่านอกจากเลือดเอลฟ์ของเธอแล้ว เฉินหยานเซียวก็มีเลือดมนุษย์เช่นกัน ทักษะการยิงธนูของเธอที่สะสมมาตามกาลเวลาได้ส่งให้เฉินหยานเซียวไปยังจุดสูงสุดของนักธนูเวท

เมื่อรวมกับสัญชาตญาณของพวกเอลฟ์ อาจกล่าวได้ว่าเฉินหยานเซียวและชุยหลิงนั้นจับคู่ได้เท่าเทียมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น