SOT 275-276

SOT 275 แผนภูมิมูลค่าสัตว์เลี้ยงทั่วโลก

ป้ายเตือนถูกติดไว้ คนจะเชื่อหรือไม่ ฝางจ้าวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

กลับมาที่ มูโจว สัตวแพทย์ที่นั่นได้ทำการตรวจสุขภาพและสภาพของสุนัขที่เลี้ยงแกะเท่านั้น โดยไม่ได้ตรวจสอบแรงกัด ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ คราวนี้ PET ได้ทำการวัดและนี่เป็นไปตามแผนของฝางจ้าว

ฝางจ้าวได้เห็นทางเลือกในการวัดค่าแรงกัดและหลังจากพิจารณาแล้วก็เลือกใช้ ในอนาคตเมื่อเขานำเจ้าขนหยิกออกมา การกัดที่แข็งแรงของเจ้าขนหยิกจะถูกเปิดเผยในวันหนึ่ง ดังนั้นแทนที่จะซ่อนมัน เขาจะใช้ PET เพื่อเปิดมันออกมา

ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่เจ้าขนหยิกไม่ได้แสดงถึงความแข็งแรงที่แตกต่างจากสุนัขทั่วไป ซึ่งมันห่างไกลจากการเครื่องมือที่ใช้วัดของ PET ในระหว่างการทดสอบฝางจ้าวส่งทริกสัญญาณมือกับเจ้าขนหยิกโดยเฉพาะ น่าเสียดายที่กลิ่นของอุปกรณ์ PET ได้รับการกระตุ้นมากเกินไปและเมื่อเจ้าขนหยิกมีความตื่นเต้น มันไม่สามารถควบคุมการกัดได้ดี

แต่ 600 กิโลกรัมเป็นผลจากการควบคุมอยู่แล้ว

ผลลัพธ์นี้ดีพอใช้

หลังจากส่งหว่าคานิงและคนอื่น ๆ ออกไป ฝางจ้าวให้ หยานเปี่ยวและโจวยูกลับไปพักผ่อน ฝางจ้าวเรียกเจ้าขนหยิกเพื่อศึกษาบทเรียน เจ้าขนหยิกยังคงมีอะไรมากมายที่ต้องปรับปรุง - เช่นวันนี้ไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้ดีพอ

อีกฝ่าย หว่าคานิงและคนอื่น ๆ ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลบินตรงไปที่สำนักงานใหญ่ PET

ในระหว่างการเดินทาง หว่าคานิงได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าของเขา

"มันเป็นไปอย่างราบรื่นหรือไม่" คนในอีกด้านถาม

"ฉัน ... เดาว่าคุณจะพูดอย่างนั้น" หว่าคานิงตอบ

"อย่าพูดว่า 'ฉันเดา' มันฟังดูเหมือนว่าคนคุณเจอกับปัญหาที่ยากลำบาก ฝางจ้าวไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่? เขาไม่ปล่อยให้คุณตรวจสอบมากเกินไปหรือเปล่า บอกฉันมา อย่างน้อยคุณก็จัดการทดสอบพื้นฐานที่สุดได้ไหม? การเก็บบันทึกไม่ควรที่จะเรียบง่ายเกินไป"

"ฝางจ้าวให้ความร่วมมือกับเราดีมาก แต่สัตว์เลี้ยงสองตัวของเขา ... "

"อืมม?"

"ดุร้ายมาก"

มีช่วงเวลาสั้น ๆ แห่งความเงียบจากปลายอีกด้าน

พวกมันดุร้ายแค่ไหน?

ในชุมชนสัตว์เลี้ยง หลายต่อหลายครั้งคำว่า "รุนแรงมาก" และ "น่ารักสุด ๆ" อาจหมายถึงสิ่งเดียวกัน

เมื่อนึกถึงสิ่งที่สัตว์เลี้ยงสองตัวที่ฝางจ้าวเป็นเจ้าของ ดูเหมือนหลังจากเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง อีกฝ่ายหัวเราะและพูดว่า "เข้าใจ"

หว่าคานิงถูกก่อกวนขึ้น "ไม่ หัวหน้าคุณไม่เข้าใจ!" แขนของเขาที่เพิ่งฉีดยามา เริ่มเจ็บอีกครั้ง มันเจ็บปวดมากจนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด "บอสสิ่งที่ฉันพูดฉันหมายถึงมันอย่างแท้จริง! พวกมันดุร้ายมากจริง ๆ ! น่ากลัวมาก! ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณสามารถดูในไฟล์ที่ฉันกำลังจะส่งไปให้คุณอ่านด้วยตัวเอง แล้วคุณจะเข้าใจ"

เพื่อเป็นการไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้มีกล้องที่ซ่อนอยู่และพวกเขาจะต้องแสดงให้เจ้าของเห็นถึงอุปกรณ์บันทึกทั้งหมดของพวกเขา วิดีโอและภาพถ่ายทุกรายการที่พวกเขาถ่ายนั้นได้ถูกนำแสดงต่อฝางจ้าวเพื่อตรวจค้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีหลักฐานภาพถ่ายจำนวนมาก แม้กระนั้นบันทึกสำหรับจดหมายเหตุอยู่ที่นั่น หว่าคานิง ส่งไฟล์ไปยังหัวหน้าของเขาทันที เขายังถ่ายและส่งรูปแขนหมูเหมือนเท้าของเขาออกไปด้วย

อีกไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา "คุณทำงานหนัก!"

“ครั้งนี้ฉันทำให้ชีวิตของฉันแขวนอยู่บนเส้นด้ายเพื่อทำการบันทึก ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังจากได้รับความหวาดกลัวอย่างมาก คุณต้องเพิ่มเงินเดือนเพื่อเป็นการปลอบใจฉัน!” หว่าคานิงพูดอย่างจริงจัง

อีกฝ่ายแกล้งทำเป็นตาย

สำนักงานใหญ่ PET หลังจากได้รับไฟล์ที่หว่าคานิง ส่งไปให้ ทีมผู้เชี่ยวชาญเริ่มทำงานเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าของสัตว์เลี้ยงสองตัวที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในคลัง

เมื่อพวกเขาเห็นสำเนาบันทึกของทั้งสองรายการ ผู้เชี่ยวชาญทุกคนต่างเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกัน

"ดูเหมือนว่าทั้งสองรายการนี้มีความพิเศษจริงๆ!"

“ชาร์ตกำลังจะเปลี่ยนไป” ผู้เชี่ยวชาญจากทีมกล่าวขณะที่เขามองดูบันทึกของเจ้าขนหยิกและได้รับการประเมินเบื้องต้นโดยใช้ประสบการณ์ที่มีค่าของเขาเอง

“ค่าของทากทะเลจะไม่ต่ำเช่นกัน หลังจากนั้นมันก็มียีนนอกโลก เมื่อพิจารณาเรื่องนี้ มันจะมีฐานะที่ดีกว่า แต่มันก็ยังเสียเปรียบ"

สัตว์เลี้ยงที่มียีนต่างดาวไม่ได้ให้คุณค่าต่ำเพราะพวกมันหายากและผู้คนต่างก็สงสัยเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้

แต่การประเมินก็ไม่สูงเกินไป นี่เป็นกฎที่เงียบในอุตสาหกรรม มีนโยบายจำกัดในเรื่องนี้เพื่อป้องกันไม่ให้องค์กรการค้าส่งเสริมยีนต่างดาวซึ่งจะทำให้เกิดปัญหามากมาย ดังนั้นแม้ว่ามูลค่าการค้าที่คาดการณ์ของพวกมันจะสูงมาก พวกเขาจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อลดมูลค่ามันลง

"เจ้าขนหยิกกัดได้รุนแรงมาก..."

บางคนพูดติดตลกว่า "เป็นไปได้ไหมที่มีประสบการณ์มากมายบนถนนสายดำทำให้มันมีชีวิตย้อนกลับไปเป็นเช่นบรรพบุรุษของมัน?"

สิ่งที่เขาหมายถึงคือสุนัขตัวนี้หวนกลับไปเป็นบรรพบุรุษของมันตั้งแต่ยุคแห่งการทำลายล้าง สุนัขหลายตัวในช่วงเวลานั้นมีแรงกัด 400 ถึง 500 กิโลกรัมและบางตัวก็มีแรงกัดมากกว่า 600 กิโลกรัม

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ใช้เวลาพิจารณาเรื่องนี้ สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือใช้ประโยชน์จากข้อมูลและข้อมูลและวิเคราะห์แง่มุมต่าง ๆ ก่อนที่จะทำการประเมินค่าในขั้นสุดท้าย

"เราต้องวิเคราะห์ ฝางจ้าว ผู้นี้อย่างเหมาะสมเช่นกัน" คนอื่นพูด

สิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างไร?

มีเพียง "มนุษย์" ที่จะมี "สัตว์เลี้ยง" เท่านั้น

ในที่สุดพวกเขายังคงต้องดูที่ผู้ที่เป็นเจ้าของ

ผู้คนใน PET ชอบคำพูดนี้จากยุคโบราณ: "เมื่อชายคนหนึ่งประสบความสำเร็จ สัตว์ปีกและสุนัขของเขาก็จะขึ้นสู่สวรรค์"

พื้นหลังของเจ้าของ สถานะ มูลค่าและการดำเนินงานล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อการประเมินมูลค่าของสัตว์เลี้ยง

ณ ตอนนี้สถานะของ ฝางจ้าว กำลังสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากคอนเสิร์ต ชื่อเสียงของเขาเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่ลิขสิทธิ์ผลงานคอนเสิร์ตของเขาจะถูกขายในราคาที่สูง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกคนเห็น ฝางจ้าว ในมุมมองใหม่

นอกจากนี้การประเมินของพวกเขา มันก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถในเชิงพาณิชย์ของสัตว์เลี้ยง การได้รับฉายาว่า "สุนัขแข่งขันทองคำ" ฉายาของเจ้าขนหยิกพูดเพื่อตัวของมันเอง

ดังนั้นการประเมินมูลค่าของเจ้าขนหยิกจะสูงกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

"เอาล่ะทุกคนใช้เวลาสามวันในการประเมินมูลค่าให้เสร็จสมบูรณ์สำหรับสองรายการนี้เราจะโพสต์พวกมันในสัปดาห์หน้า"

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

นิตยสาร PET e-magazine ฉบับใหม่ถูกตีพิมพ์แล้ว

มีคนมากมายสมัครเป็นสมาชิก PET ทั่วโลก ร้านค้าสัตว์เลี้ยงบางแห่งสมัครสมาชิกและแสดงสิ่งพิมพ์บนหน้าจอภายในร้านค้าเพื่อให้ลูกค้าดู บางร้านได้เผยภาพเหล่านี้ไว้นอกประตูเพื่อหยุดให้ผู้คนเข้ามาชมร้านมากขึ้น

"เอ๊ะ? เด็กหนุ่มคนนั้นที่อยู่บนปก ใช่คนที่ถูกพูดถึงอย่างมากมายบนอินเทอร์เน็ตเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม?”

เมื่อได้รับฉบับใหม่ของ PET e-magazine หลายคนตระหนักว่าบุคคลบนหน้าปกนั้นดูคุ้นเคยเล็กน้อย เมื่อพวกเขาดูชื่อพวกเขาก็เข้าใจ

"ฝางจ้าว จากหยานโจวนั่นนะเหรอ?"

“ใช่ฉันจำได้แล้ว ตอนนี้เด็กหนุ่มคนนี้ได้ขายลิขสิทธิ์ผลงานได้ค่อนข้างมากหลังจากคอนเสิร์ตของเขา สุนัขตัวนั้นเป็นของเขาด้วย”

“สุนัขบนหน้าปก มันใช่สุนัขที่ได้รับรางวัลสุนัขมีค่ามากที่สุดสำหรับการแข่งขันการไล่ต้อนแกะในมูโจวสองปีซ้อนใช่ไหม?”

"นั่นไม่ใช่ กระต่าย ทะเลทาก ที่มีข่าวลือว่ามียีนต่างดาวหรือไม่?"

บนหน้าปกของฉบับใหม่ ฝางจ้าวนั่งสบาย ๆ บนโซฟาของเขาในเสื้อผ้าอยู่กับบ้านของเขา หูฟังในชุด หูเทพ แขวนอยู่รอบคอของเขาอย่างหลวม ๆ เจ้าขนหยิกนอนอยู่ข้างๆและถังน้ำพิเศษวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขา ข้างในถังเป็นทากทะเลบริสุทธิ์สีขาวที่ดูเหมือน กระต่าย

แสงแดดส่องลอดผ่านหน้าต่างและเสื้อผ้าอยู่กับบ้านของเขาก็ให้โทนสีอบอุ่น มันทำให้ฝางจ้าวดูนุ่มนวลมากขึ้นมาก

ในท่านั้นเจ้าขนหยิกได้ควบคุมการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและกำลังนั่งมองดูเลนส์กล้องอย่างเชื่อฟัง ดวงตาของมันดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสา ขนหยิกของมันที่ถูกหวี ดูเหมือนจะเปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์แสดงให้เห็นถึงรัศมีของชนชั้นสูง

"กระต่าย" ในถังเก็บน้ำดูเหมือนลูกท้อฟู ๆ ลอยอยู่ในน้ำ ใครก็ตามที่มองมันจะรู้สึกอยากหยิกมัน

ภาพถ่ายทั้งหมดดูสงบและมีชีวิตชีวา

จากคำพูดของหยานเปี่ยว ช่างกล้องและเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตคนอื่น ๆ ได้ทำงานล่วงเวลาเพื่อเก็บรายละเอียด แม้แต่ขนที่ไม่เรียบร้อยก็สามารถฉายภาพของขุนนางชั้นสูงได้

ผู้ที่สมัครเป็นสมาชิก PET มุ่งเน้นไปที่สัตว์เลี้ยงสองตัวที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในคลัง

ทุกคนมองที่หน้าปกรู้สึกว่า "สัตว์เลี้ยงสองตัวนี้น่ารักจริงๆ!"

และเมื่อพวกเขาพลิกหน้าและเห็นไฟล์ของสัตว์เลี้ยงสองตัวนี้ปฏิกิริยาของทุกคนก็คือ "เป็นไปไม่ได้!"

บันทึกที่ให้ไว้เป็นเพียงข้อมูลสั้น ๆ และเรียบง่ายที่ตกแต่งเพียงข้อมูลพื้นฐานที่สุด ไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลอื่น ๆ เช่นความแข็งแรงในการกัดและความเป็นพิษ

แต่คำว่า "รุนแรงมาก" ในคำพูดนั้นชัดเจนเป็นพิเศษ

"ดุร้ายมากเป็นพิเศษ?"

เมื่อมองรูปถ่ายของเจ้าขนหยิก ก่อนจะพลิกกลับไปดูที่หน้าปกทุกคนเข้าใจ

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ!"

"ในชุมชนสัตว์เลี้ยงหลายต่อหลายครั้งมันมีความหมายเหมือนกับคำว่า 'น่ารักสุด ๆ!"

“สุนัขตัวนี้ดุร้ายแค่ไหนกันแน่ ถ้ามันดุร้ายจริง ๆ มันจะไม่มีฝูงแกะเหลือรอดเลย พนักงาน PET ทำผิดพลาดหรือเปล่า? ไม่ว่าในกรณีใดฉันก็ไม่เชื่อ!”

"แน่นอนคนใน PET ต้องตั้งใจทำมัน"

"คำพูดเกี่ยวกับ กระต่าย ทากทะเลตัวแสบนั้นรุนแรงมากและอันตรายมาก นั่นหมายความว่าอย่างไร?"

แต่ในเวลาไม่นานความสนใจของทุกคนเปลี่ยนไป

"เจ้าขนหยิกคาดว่าจะมีมูลค่า 210 ล้าน!"

"ทากทะเล Spiky Hare มีมูลค่า 80 ล้าน!

"การประเมินนี้สูงจริงไหม?"

"การประเมินมูลค่าโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของ PET ไม่ควรทำให้เกิดการประเมินสูงเกินไป"

“ลืมไปซะเกี่ยวกับทากทะเลผสมที่มียีนต่างดาว - หลังจากทั้งหมดมันเป็นเพียงชนิดเดียวที่อยู่บนโลก - แต่การประเมินของเจ้าขนหยิกเป็นไปได้อย่างไร ตอนนี้มูลค่าของมันแค่ 100กว่าล้านเท่านั้นไม่ใช่หรอกหร้อ?"

"ฉันคิดว่าคุณค่าของเจ้าขนหยิกจะลดลงเมื่อมันออกจาก มูโจว ฉันไม่คิดว่ามันจะเพิ่มขึ้นอีก!"

"มนุษย์เราไม่สามารถเปรียบเทียบกับสุนัขตัวนั้นได้!"

"เหตุผลอาจเป็นเพราะ ฝางจ้าว หรือไม่"

"ไม่ว่ากรณีใดทีมผู้เชี่ยวชาญจาก PET ก็มีเหตุผลของตัวเองอย่างแน่นอน"

"แผนภูมิมีการเปลี่ยนแปลง!"

เมื่อมีการพูดถึงแผนภูมิ สมาชิกของ PET จะหันตรงไปยังหน้าสุดท้ายทันที เมื่อมันเป็นอันดับใหม่ของสัตว์เลี้ยงจากทั่วทุกมุมโลก มันแตกต่างจากเมื่อก่อน เจ้าขนหยิกมีมูลค่า 210 ล้านบาททำให้มันอยู่ในอันดับที่ห้า! ปัญหานี้ได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าขนหยิกตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อเจ้าขนหยิกถูกหยิบขึ้นมาจากถนนสายดำ จนถึงเมื่อตอนที่มันเข้าร่วมกับฟาร์มตงชานเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันไล่ต้อนแกะ สิ่งเหล่านี้ได้ถูกบันทึกจากคำบอกของฝางจ้าว และการทำงานโดยทีมงานเพื่อแก้ไขเพื่อเสริมแต่งและทำให้เรื่องราวดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

"คิดว่ามันมาจากถนนสายดำจริง ๆ ! ฉันคิดว่าทุกคนล้อมันเล่น!"

"ฝางจ้าว คนนี้โชคดีเกินไปเขาเก็บเงิน 200 ล้านได้!"

เนื่องจากสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับฝางจ้าว สื่อของหยานโจว จึงถูกกระตุ้นและรายงานอย่างจริงจัง ไม่ว่าในกรณีใดเจ้าขนหยิกเป็นสุนัขหยานโจวและเมื่อมองแผนภูมิมูลค่า 10 อันดับแรกของ PET มีสัตว์เพียงตัวเดียวใน 10 อันดับแรกที่มาจากหยานโจว - แน่นอนว่ามันต้องรายงาน!

ดังนั้นในการแจ้งเตือนข่าวที่ส่งออกไป ฝางจ้าวก็ได้ปรากฏตัวในหัวข้อข่าวอีกครั้ง แม้ว่าการโฟกัสจะอยู่ที่สัตว์เลี้ยงสองตัวของฝางจ้าว แต่ในฐานะเจ้าของ ฝางจ้าว ก็ถูกสังเกตเห็นได้จากทุกคน

ผู้คนที่อาศัยอยู่ในถนนสายดำ ที่ฝางจ้าวครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยู่ ต่างมีความรู้สึกแบบเดียวกัน เมื่อพวกเขาเห็นข่าวเกี่ยวกับเจ้าขนหยิก: เสียใจ!

ในยุคใหม่แม้ว่าสุนัขจะดูไม่ดีหรือสีขนของมันไม่น่าสนใจ ตราบใดที่มันมีขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็จะมีคนเต็มใจที่จะรับมัน แต่ความสูง 40 ซม. ของเจ้าขนหยิก มันใหญ่กว่าสุนัขขนาดเล็กนิดหน่อย และยังห่างไกลจากสุนัขขนาดใหญ่ มันไม่แม้แต่จะสามารถเทียบได้กับสุนัขขนาดกลาง ดังนั้นจึงไม่มีใครเต็มใจพามันไปเลี้ยงดู ในสภาพที่เขาเก็บมันมา แม้ว่าจะพยายามล้างและจัดระเบียบให้กับมันแล้ว มันก็ยากที่จะมีคนรับมันไปเลี้ยง

เมื่อตอนที่หลายคนเห็นฝางจ้าวเก็บสุนัขตัวนี้ขึ้นมา พวกเขายังพูดตามหลังอีกว่า "เขาไม่สามารถแม้แต่จะดูแลตัวเองได้ แต่เขายังคิดที่จะเอาสุนัขไปเลี้ยง?"

เกิดอะไรขึ้นในที่สุด?

หลังจาก ฝางจ้าว ออกจากถนนสายดำคนเหล่านี้เห็นว่าสุนัขจรจัดมีราคาเพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านในหนึ่งปี ราวกับว่าจรวดถูกมัดไว้กับหลังของสุนัข ปีที่แล้วเขาประสบความสำเร็จด้วยมูลค่าที่มากกว่า 100 ล้านและปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 210 ล้าน! เจ้าขนหยิกได้พุ่งเข้าไปในห้าอันดับแรกของแผนภูมิสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก!

สำหรับคนส่วนใหญ่ 210 ล้านเป็นเพียงเรื่องโกหก!

นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญในฉบับล่าสุดของ PET หากสถานะของ ฝางจ้าว เพิ่มขึ้น ในอนาคตมูลค่าของเจ้าขนหยิกอาจจะตามไปด้วย และมันจะเพิ่มขึ้นอีก

การเปรียบเทียบสิ่งนี้ ทะเลทาก Spiky Hare มีมูลค่า 80 ล้านนั้นมีความอุดมสมบูรณ์น้อยกว่า แต่ก็มีคนจำนวนมากพูดคุยถึงมันเช่นกัน

ปัจจุบัน ผู้เพาะพันธุ์ Spiky Hare เดนเซล กำลังทำการเพาะเลี้ยง เคยl บนมหาสมุทรขั้วโลกของดาวเคราะห์หวาย เมื่อเขาเห็นข่าวนี้ วิสัยทัศน์ของเขาก็จางหายไปและเขากำหน้าอกด้วยความเจ็บปวดที่เขียนอยู่ทั่วใบหน้าของเขา

ผู้ช่วยข้างเขาเห็นสิ่งนี้และถามทันทีว่า "มีอะไรผิดปกติ!"

"ฉันอยากจะกระโดดลงไปในมหาสมุทร!" เดนเซลเต็มไปด้วยความเสียใจมากมายและเขาดึงผมของเขาด้วยความหงุดหงิด ทำไมเขาถึงขายกระต่ายที่มีค่าออกไป!

สีหน้าของเดนเซลเปลี่ยนไป ผู้ช่วยสองสามคนเฝ้าดูเจ้านายของพวกเขาด้วยความกลัว กลัวว่าเขาจะไม่คิดถึงสิ่งต่าง ๆ และจะกระโดดลงสู่ทะเลอย่างแท้จริง

"พวกคุณคิดว่าฉันควรเริ่มโครงการใหม่และเพาะพันธุ์ทากทะเลต่อไปหรือไม่?" เดนเซลถาม

"คุณมีรายได้ค่อนข้างมากจากการเลี้ยง เคยl"

"ใช่บอสการเพาะพันธ์เป็นไปได้ค่อนข้างดี"

"อาจารย์ คุณกำลังพูดถึงการเพาะพันธุ์ทากทะเลที่คุณขายให้กับ ฝางจ้าว หรือไม่? เราไม่ได้พูดถึงความยากลำบากในการผสมพันธุ์มันก่อนหน้านี้? แม้ว่าเราจะสามารถเลี้ยงพวกมันได้เป็นจำนวนมาก แต่นโยบายสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มียีนต่างดาวก็เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตอนนี้กฎค่อยๆผ่อนผอน แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าในอนาคตกฎระเบียบที่รัดกุม? เราจะไม่สูญเสียครั้งใหญ่หรือไม่"

เดนเซลสามารถเข้าใจว่าผู้ช่วยของเขามาจากไหน เมื่อก่อนเขาเลิกใช้ทากทะเลกับยีนต่างดาวเนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิคที่ยากเกินไป อัตราความสำเร็จต่ำมากและใช้เงินจำนวนมากโดยได้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้ม อีกทั้งมีการใช้นโยบายในการป้องกันผู้ที่ไม่ใช่นักวิจัยจากการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงยีนต่างดาว ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะขายพวกมัน

นอกจากนี้อย่างที่ผู้ช่วยของเขาได้กล่าวไว้ เงื่อนไขการเพาะเลี้ยว เคย ดีมาก บริษัทของเขาก็ทำกำไรมหาศาลเช่นกันและมันก็ไม่คุ้มที่พวกเขาจะเสี่ยงและตะลุยในเรื่องอื่น ไม่ว่าคนอื่นจะทำการวิจัยนี้ เขาไม่ควรที่จะมีส่วนร่วม

แม้ว่าลึกลงไป เขาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องเมื่อเห็นข่าวนี้ เดนเซลตอบรับข้อเท็จจริงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าในกรณีใด ฝางจ้าวก็ช่วยเขา เพื่อให้เขาสามารถได้รับแหล่งน้ำที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเลี้ยงเคยl ในมหาสมุทรของดาวเคราะห์หวาย

"ลืมไปเสียเถอะ มันถูกขายไปแล้ว แค่คิดเอาเองว่าหนุ่มน้อยผู้โชคดี!"

สำหรับยอดสมัครสมาชิกในฉบับล่าสุดของ PET เพิ่มขึ้น และฝ่ายบรรณาธิการทั้งหมดมีความสุขทั้งหมดยกเว้น หว่าคานิง

แม้จะหยุดพักหนึ่งสัปดาห์อาการบวมที่แขนของ หว่าคานิงก็ยังไม่ลดลงอย่างสมบูรณ์และเขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดจากการขยับเพียงเล็กน้อย วันนี้เขาไปที่สำนักงานเพื่อทำการขยายหน้าปกแล้วพิมพ์สำเนาออกมาปิดบนผนังในสำนักงานของเขาเอง หลังจากนั้นเขาหยิบปากกาขึ้นมาและเขียนคำขนาดใหญ่ใต้เจ้าขนหยิก "น่ากลัว" จากนั้นเขาไปที่ 'กระต่าย' และเขียนว่า "น่ากลัว" ด้านล่าง

หว่าคานิงต้องการเตือนตัวเองและเพื่อนร่วมงานอย่างต่อเนื่องว่าสัตว์เลี้ยงสองตัวนี้เป็นสิ่งอันตรายมาก! จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งถ้าใครพบมันทั้งสองตัวนี้! รูปลักษณ์อาจเป็นการหลอกลวง!

หลังจากเสร็จสิ้น หว่าคานิงตั้งใจจะเก็บปากกาไว้เมื่อสายตาของเขาหยุดอยู่ที่ภาพของฝางจ้าว

เฉดสีอบอุ่นนำมาซึ่งความรู้สึกนุ่มนวลและอ่อนโยนต่อภาพถ่าย ฝางจ้าวคนผู้นี้ก็ดูเหมือนว่าเป็นเยาวชนที่เก่งในด้านศิลปะ อ่อนโยนและมีนิสัยที่ไม่เป็นอันตราย

อย่างไรก็ตามในภาพนี้มีอันตรายที่เกิดขึ้นจริงทั่วไป!

สุนัขที่ถูกกัดอย่างรุนแรง เจ้าขนหยิก และทากทะเลที่เป็นพิษอย่างยิ่งที่จะโจมตีโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ฝางจ้าวดูไม่เป็นอันตรายเช่นรูปลักษณ์ของเขาหรือไม่?

เมื่อคิดย้อนกลับไปยังสิ่งที่เขาเห็นเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฝางจ้าว หว่าคานิงลังเล บุคคลที่ได้รับรางวัลยกย่องบนดาวเคราะห์ไป่จี ยิงผู้ก่อการร้ายตาย และได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตรีเจ้าหน้าที่สำรอง เขาจะไม่เป็นอันตรายได้อย่างไร

เมื่อพิจารณาเพิ่มเติม หว่าคานิงหยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนคำสองคำขนาดใหญ่ภายใต้รูปของฝางจ้าว: "น่ากลัวมาก ๆ!"

 

SOT 276 เราพบกันอีกครั้ง

 

ในขณะที่ผู้คนข้างนอกกำลังพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่มีค่าของฝางจ้าว  แต่ฝางจ้าวไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากนัก เขากลับขอข่าวเกี่ยวกับโครงการภาพยนตร์ปฏิวัติ

อย่างไรก็ตามเช้านี้เขาได้รับโทรศัพท์ ว่ามีคนต้องการที่จะมาเยี่ยมเขา

แผนกผู้กำกับภาพยนตร์ของกองทุนดาวเคราะห์ ผู้ประสานงาน โจเซฟ ได้มาถึงที่พักในหยานโจวของฝางจ้าว จากที่อยู่ที่ฝางจ้าวได้ให้เขาไว้

เขายืนอยู่หน้าประตู โจเซฟ จ้องมองป้ายเตือนที่อ่านได้ว่า "สัตว์ดุร้ายอยู่ข้างใน" เขาจำข่าวชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เขาเพิ่งเห็นเมื่อไม่นานมานี้และสงสัยว่าป้ายเตือนนั้นร้ายแรงจริงหรือเป็นเพียงเรื่องตลก

หลังจากใช้เวลามากกว่า 10 วินาที แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ โจเซฟตัดสินใจที่จะไม่คิดถึงมันต่อไป ท้ายที่สุดแล้วการมาเยี่ยมของเขาไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของฝางจ้าว นอกจากนี้เขาได้แจ้งฝางจ้าวไว้ล่วงหน้า ดังนั้นเขาจึงไม่นับว่าเป็นแขกที่ "ไม่ได้รับเชิญ"

เมื่อเผยรอยยิ้มออกมาเพื่อให้เหมาะกับโอกาส โจเซฟกดกริ่ง

ประตูเปิดออก

"เราพบกันอีกครั้งคุณฝาง" โจเซฟยังคงมีมารยาทของชนชั้นสูง แต่เมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่พวกเขาพบกันความหยิ่งยโสภายในของเขาก็ลดลงค่อนข้างมาก

ครั้งก่อนหน้านี้ที่ด่านหน้าดาวเคราะห์ไป่จี โจเซฟประสบกับเหตุการณที่ระเบิดความรู้สึก หลังจากนั้นเมื่อคำนึงถึงเรื่องของทีมที่ปรึกษา ข่าวสั้น ๆ จากคอนเสิร์ตและจุดประสงค์ของการมาเยือนในวันนี้ โจเซฟจึงไม่มีท่าทีที่ดูว่าหยิ่งเกินไป

"นี่ต้องเป็นเจ้าขนหยิกตัวน้อยที่มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้าน" โจเซฟมองดูสุนัขที่มีขนหยิก มันกำลังวิ่งออกจากห้อง เขามองมันอย่างสังเกตและหัวเราะเบา ๆ “มันน่ารักจริงๆ”

แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เขาพูด แต่โจเซฟก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปใกล้เจ้าขนหยิก

การจ้องมองของเจ้าขนหยิก ก็เป็นเช่นการมองคนแปลกหน้า แต่เนื่องจากฝางจ้าวอยู่ที่นี่ มันก็รู้ว่าเขาจะต้องเป็นแขก ดังนั้นมันจะไม่แสดงความเป็นศัตรูที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในใจของมันนอกจากฝางจ้าว เจ้าขนหยิกจะยังคงระแวดระวังกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่ก้าวเท้าเข้ามาในดินแดนของมัน

แม้ว่าดวงตาของเจ้าขนหยิกจะจ้องเขม็งอยู่กับโจเซฟ มันดูชัดเจนและไร้เดียงสา แต่โจเซฟก็รู้ว่าดวงตาของสุนัขก็สามารถโกหกได้เช่นกัน ม่านตาของมันใหญ่มาก จนทำให้ผู้คนคิดว่าพวกมันไร้เดียงสา แต่นั่นเป็นการหลอกลวง

โจเซฟไม่ชอบสุนัขเป็นพิเศษ ดังนั้นไม่ว่าสุนัขตัวนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่ เขาจะรักษาระยะห่างของเขา หลังจากมองตาพวกนั้นเขาก็ไม่ได้ยุ่งกับเจ้าขนหยิกอีก

วันนี้เขามาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนของกองทุนดาวเคราะห์เพื่อเชิญฝางจ้าว

แม้ว่าสถานะของฝางจ้าวในวงการเพลงมืออาชีพจะยังไม่สูงนัก แต่สไตล์ดนตรีของฝางจ้าวก็เหมาะสมมากสำหรับการเปิดตัวโครงการภาพยนตร์ปฏิวัติ

"ทีมดนตรีของ 'ยุคก่อตั้ง' ได้ถูกก่อตั้งขึ้นแล้ว เรา กองทุนดาวเคราะห์ คิดว่าผลงานของคุณฝางเหมาะอย่างมาก ดังนั้นเราต้องการเชิญคุณเข้าร่วมทีมดนตรี 'ยุคก่อตั้ง'" โจเซฟกล่าว

"ยุคก่อตั้ง" นั่นคือชื่อของโครงการภาพยนตร์ปฏิวัติซึ่งจะมีแนวโน้มว่าจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและทุกทวีปในอนาคตอันใกล้

"ยุคก่อตั้ง" ที่คนในยุคใหม่ได้พูดถึง คือช่วงเวลาระหว่างยุคแห่งการทำลายล้างและยุคใหม่ มันหมายถึงช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากช่วงเวลาแห่งการทำลายล้างสิ้นสุดลง ก่อนเริ่มยุคใหม่จะได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

วัตถุประสงค์หลักของโครงการปฏิวัติคือการบอกเล่าเรื่องราวของเหตุการณ์และความเป็นไปที่เกิดขึ้นในระยะต่อมาของช่วงเวลาแห่งการทำลายล้างไปจนถึงการก่อตั้งยุคใหม่

ในขณะที่เขาเป็นสมาชิกของทีมที่ปรึกษา ฝางจ้าวรู้ว่าเรื่องราวใดอยู่ในสคริปต์ พล็อตของโครงการภาพยนตร์ปฏิวัติ "ยุคก่อตั้ง" จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการประชุมของนายพลผู้ยิ่งใหญ่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนายพลผู้ยิ่งใหญ่ได้รับการปรึกษาคือยุคใหม่

กองทุนดาวเคราะห์ได้ให้ความสำคัญกับ ฝางจ้าว อย่างมากและมีเหตุผลในการเชิญเขาเข้าร่วมทีมโปรเจ็กต์เพลง นอกเหนือจากข้อเท็จจริงที่ว่าสไตล์ดนตรีของเขาถือว่าเหมาะสมพอสมควร มีอีกเหตุผลหนึ่ง: ฝางจ้าวเป็นสมาชิกของทีมที่ปรึกษา เขารู้ว่าพล็อตจะพัฒนาและรายละเอียดของเนื้อเรื่องได้อย่างไรและมีความเข้าใจตัวละครอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดังนั้นมันจะง่ายขึ้นสำหรับเขาที่จะสร้างองค์ประกอบที่เหมาะสม

แน่นอน ฝางจ้าว ยอมรับคำเชิญนี้ เขายินดีที่ได้รับการร้องขอดังกล่าว

"ฉันจะทำให้ดีที่สุด" ฝางจ้าวตอบ

แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับเงิน แต่เขาก็ยังคงเต็มใจที่จะแต่งเพลงสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ สำหรับเรื่องราวและผู้คนในช่วงเวลานี้ ความรู้สึกของฝางจ้าวนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น

"เมื่อคุณฝางเข้าใจเนื้อเรื่องแล้ว คุณสามารถเขียนผลงานได้สองสามชิ้นก่อน เมื่อถึงเวลาอาจจะมีการเลือกงานบางอย่างของคุณ" โจเซฟบอกเขา

ความหมายของคำเหล่านี้คืออะไร: เมื่อคุณเห็นสคริปต์แล้วหากคุณมีแรงบันดาลใจคุณสามารถเริ่มเขียนบทแรก สำหรับว่ามันจะถูกเลือกหรือไม่ ไม่มีการรับประกัน

ฝางจ้าวเข้าใจอย่างสมบูรณ์แบบในสิ่งที่เขาต้องการที่จะสื่อถึง

นี่เป็นสิ่งเดียวกับที่เมื่อ นกเพลิง ค้นหาเขาครั้งแรกเพื่อขอเพลงสำหรับเกม เมื่อพวกเขาได้รวบรวมงานบางอย่าง ครั้งแรกไม่มีการรับประกันว่าจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่

หลังจากส่งคำเชิญและลงนามในสัญญาแล้ว งานมอบหมายของโจเซฟในรอบนี้ก็เสร็จสมบูรณ์และเขาลุกออกไป เขายังคงมีเรื่องอื่นให้เข้าร่วม

หลังจากโจเซฟจากไป ฝางจ้าวนั่งบนโซฟาครุ่นคิดถึงเรื่องอื่น

โดยธรรมชาติเขาจะคว้าโอกาสนี้ไว้ ไม่ว่างานของเขาจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่ ตราบเท่าที่เขามีแรงบันดาลใจเขาก็จะแต่งเพลง

อย่างไรก็ตามฝางจ้าวยังคงไตร่ตรองเรื่องอื่นอยู่

“นักแสดงที่มีบทบาทสำคัญใน 'ยุคก่อตั้ง' ยังไม่ได้ตัดสินใจ"

สำนักข่าวจำนวนมากกำลังไล่ตามลมและจับฟาง แต่ข่าวที่มีมูลค่าจริงมีอยู่น้อยและห่างไกล

อย่างไรก็ตามจนถึงวินาทีสุดท้ายเมื่อมีการเซ็นสัญญา ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ดังนั้นตราบใดที่นักแสดงอยู่ในอุตสาหกรรมมานานพอ คนที่มีประสบการณ์เหล่านั้นจะยังคงระมัดระวังและไม่เปิดเผยอะไรเลยในความคืบหน้าเล็กน้อย มิฉะนั้นหากท้ายที่สุดพวกเขาไม่ได้รับการคัดเลือกหรือถูกคนอื่นบีบออกในนาทีสุดท้ายมันจะเป็นเช่นการตบหน้า

ในขณะนี้ด้วยการแข่งขันจากทุกฝ่ายในบทบาทที่สำคัญมีเพียงสองคนเท่านั้นที่ตัดสินใจ สำหรับคนอื่น ๆ ข่าวลือลอยมาทั้งวัน แต่ก็ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าพวกมันจะเป็นข่าวจริงหรือเท็จ หรือเพียงแค่เป็นควันสีเขียวหรืออาจเป็นการดำเนินงานของบริษัท อย่างไรก็ตามหากมองสถานการณ์ปัจจุบันรวมถึงสิ่งที่กำลังพูดคุยกันในเวทีสนทนาของทีมที่ปรึกษาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของบทบาทนำที่เหลือจะถูกตัดสินในเดือนตุลาคม

เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เวลาที่ใช้ในการสร้างซีรีย์ภาพยนตร์ได้ถูกทำให้สั้นลง แต่เพื่อให้มั่นใจว่ามีคุณภาพหลังจากโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นจะไม่มีความเร่งรีบในการเริ่มถ่ายทำ เกณฑ์สำหรับการเลือกนักแสดงในครั้งนี้มีความเข้มงวดเป็นพิเศษ มีผู้สมัครจำนวนมากสำหรับทุกบทบาทนำและผู้สมัครทุกคนมีระยะเวลาทดสอบค่อนข้างนาน อาจไม่มีข่าวเนื่องจากผู้สมัครยังไม่เสร็จสิ้นช่วงทดสอบ บางทีหลังจากช่วงทดสอบจบลง มันก็จะมีผลลัพธ์เผยออกมา

เขาอยากลองเล่นบทบาทของ "ฝางจ้าว" แต่น่าเสียดายสำหรับบทบาทที่สำคัญบางอย่างไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบเลย

เหตุผลที่ ฝางจ้าว ต้องการลองแสดง นั้นเป็นเพราะบทบาทของ ฝางจ้าว สำหรับบทบาทนี้ซึ่งเหมือนกับบทบาทของนายพลผู้ก่อตั้งคนอื่น ๆ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการทดสอบ แม้ว่าเขาต้องการต่อสู้เพื่อรับบท แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเอง

ที่ Silver Wing บริษัทมีความสามารถจำกัด และนักแสดงและนักแสดงหญิงแต่ละคนต้องใช้วิธีการและความสามารถในการต่อสู้เพื่อรับบทบาท

ฝางจ้าวดูข้อมูลสรุปของเดือนในมือของเขา นิ้วของเขาแตะที่ชื่อ หากเขาต้องการมีโอกาสเขาจะต้องเริ่มจากบุคคลนี้

18 สิงหาคม นกเพลิงสาขาหยานโจวเป็นเจ้าภาพจัดงาน

ฝางจ้าวยังได้พูดคุยกับผู้คนจากสาขาหยานโจว และรับรู้ว่าแขกผู้มีเกียรตินี้ได้รับเชิญและจะแจกรางวัล มันไม่ใช่เพียงแค่การปรากฎตัว

คราวนี้สาขาหยานโจวจัดพิธีมอบรางวัลครึ่งปี นั่นหมายถึงว่าจากวันแห่งความรำลึกในเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมตามข้อมูลสถิติ พิธีนี้มีขึ้นเพื่อมอบรางวัลแก่บุคคลหรือทีมที่มีผลงานดีในกระดานผู้นำในครึ่งปีนี้

มีกิจกรรมที่คล้ายคลึงกันในแต่ละทวีปเพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของนักเล่นเกม หลังจากทั้งหมดเวลาหนึ่งปีนานเกินไป มือสมัครเล่นและแฟน ๆ หลายคนคงไม่มีความอดทนรอทั้งปี

โจวยูและหยานเปี่ยวยังสวมสูทสีดำที่ดูเคร่งขรึม เมื่อมองเข้าไปในกระจกพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขามีความสง่างามเป็นพิเศษ เฉดสีของชุด พวกเขาดูเหมือนจะมีออร่าบอดี้การ์ด!

"ทำไมฉันไม่เคยรู้สึกเหมือนฉันเป็นคนเย็นชาในอดีต?"

หยานเปี่ยวจ้องไปที่เงาสะท้อนของเขาในกระจก เมื่อพวกเขามาถึงอาคารนกเพลิงสาขาหยานโจว เขาเช็ดรอยยิ้มจากใบหน้าของเขาและแสดงออกด้วยความเย็นชาอย่างเยือกเย็น เขาเปลี่ยนเป็นโหมดผู้คุ้มกัน

นับตั้งแต่เขากลายเป็นผู้คุ้มกันนี่เป็นครั้งแรกที่เขาประสบกับสถานการณ์เช่นนี้ ก่อนหน้านี้คอนเสิร์ตไม่ได้ถูกนับขณะที่เขามาถึงก่อนหน้านี้เพื่อเตรียมการและไม่จำเป็นต้องได้รับประสบการณ์ในการเดินผ่านผู้สื่อข่าวและแฟน ๆ

รถมาหยุดที่จุดรับส่งที่นกเพลิงติดตั้งไว้ชั่วคราว มีทางเดินที่นี่นำไปสู่สถานที่จัดงาน

วันนี้ ฝางจ้าว ไม่ได้สวมชุดทีมเดียวกับทีมเกม แต่กลับเป็นชุดที่นกเพลิงออกแบบมาเฉพาะสำหรับเขา มันมีรูปแบบ หูเทพ แต่สัญลักษณ์ต้นไม้แสงขั้วโลกยังคงประดับอยู่บนหน้าอกของเขา

นกเพลิงอยากให้เขาเป็นแรงผลักดันให้กับซีรี่ส์นี้ หากผลลัพธ์ออกมาดีพวกเขาอาจขยายชุด หูเทพ

ในขณะที่ ฝางจ้าว ก้าวออกจากรถเสียงคำรามดังออกมาจากทุกทิศทุกทาง มีคนจำนวนมากตะโกนและกรีดร้องและมันก็กลายเป็นเสียงเอะอะครึกโครม

แม้ว่าเขาจะเตรียมพร้อมไว้ หยานเปี่ยวก็ยังคงตกใจชั่วครู่ บอสไม่ได้เล่นเกมอย่างนักเล่นเกมมืออาชีพอีกต่อไปแล้วใช่ไหม ทำไมพวงเขาเหล่านี้ถึงยังมีปฏิกิริยาเช่นนี้?

หยานเปี่ยวไม่ได้รับประสบการณ์ในครั้งนั้น ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเข้าใจทัศนคติที่คลั่งไคล้ของนักเล่นเกม ในทางกลับกัน โจวยู พบว่าเป็นที่ยอมรับ

จนถึงตอนนี้ในบรรดานักเล่นเกม "การต่อสู้แห่งศตวรรษ" ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือสมัครเล่นคนเดียวที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเทพเจ้าและยังคงรักษาตำแหน่งที่มั่นคงไว้คือ ฝางจ้าว!

แม้ว่าอาจมีการถกเถียงกันในระดับโลกในหยานโจว สำหรับนักเล่นเกมส่วนใหญ่ที่นี่ ฝางจ้าวเป็นเพียงผู้เดียวที่อยู่ในระดับเทพ

นอกจากนี้สมาชิกของทีม SilverWing50PolarLight ได้ยอมรับต่อสาธารณะว่าหากไม่มีฝางจ้าว พวกเขาคงไม่ได้เห็นในวันนี้ เป็นผลให้สถานะของ ฝางจ้าว เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

นอกจากนี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมานักเล่นเกมส่วนใหญ่รู้สึกว่ารัศมีรอบตัวของฝางจ้าวนั้นสว่างยิ่งขึ้น แม้ว่า ฝางจ้าวจะไม่อยู่ในวงการเกมอาชีพอีกต่อไป มรดกของเขายังคงมีอยู่

กิจกรรมนี้จะมีการถ่ายทอดสดแบบออนไลน์และสมาชิกของ SilverWing50PolarLight ที่อยู่ระหว่างทางก็มองดูฝางจ้าวด้วยเช่นกัน

มีทั้งผู้ที่มีประสบการณ์และผู้มาใหม่ในทีมที่จัดโดยSilver Wing

"บอสฝางมาถึงแล้ว!"

"มีคนมากมาย!"

"นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าร่วมในกิจกรรมประเภทนี้ฉันประหม่ามาก! '

ผู้มาใหม่สองคนที่เพิ่งเซ็นสัญญากับ Silver Wing ในปีนี้กำลังพูดคุยและแบ่งปันความคิดของพวกเขาในฐานะผู้มีพรสวรรค์ใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในอุตสาหกรรม

นี่เป็นเพียงแค่อีเว้นท์ที่จัดโดยสาขา รอจนกว่าพวกคุณจะไปงานเลี้ยงประจำปี นกเพลิง เรามาดูกันว่าคุณจะแข็งทื่อตั้งแต่หัวจรดเท้าหรือไม่” ชวาร์เซอร์กล่าว เขาได้รับการพิจารณาให้เป็นรุ่นพี่ในทีมแล้ว

เมื่อได้ยินชวาร์เซอร์พูดแบบนี้ ผู้มาใหม่เริ่มถามเกี่ยวกับงานกาล่าประจำปีของนกเพลิงก่อนหน้านี้ ชวาร์เซอร์ชอบที่จะพูดคุยและอธิบายทุกสิ่งนี้กับผู้มาใหม่

ข้างๆเขาเจ็คพูดทันทีว่า "ฉันได้ยินมาว่านอกจากได้รับเชิญในฐานะแขกผู้มีเกียรติแล้ว บอสฝางก็จะมอบรางวัล"

บรรยากาศภายในห้องเงียบลง แม้แต่ ชวาร์เซอร์ ก็ยังคงปิดปาก

เดอเรียนระเบิดออกมา "ในช่วงครึ่งปีหลัง ฉันคิดว่าเรายังไม่ได้รับรางวัลสำคัญใด ๆ"

แม้ว่าจะไม่สามารถเปรียบเทียบรางวัลภูมิภาคครึ่งปีกับรางวัลจากงานกาล่าประจำปีของสำนักงานใหญ่ได้ แต่รางวัลดังกล่าวยังคงเป็นรางวัล ภายในหยานโจว มันยังคงมีอิทธิพลมาก ทุกคนสามารถเห็นสิ่งนี้ได้เพียงแค่เห็นแฟน ๆ เหล่านั้นที่ด้านนอกอาคารนกเพลิง สาขา หยานโจว

แต่ดูพวกเขาตอนนี้

รางวัลผู้มาใหม่?

ไม่

รางวัลประเภทบุคคล?

อาจจะไม่ทั้งคู่

อาจมีรางวัลทีม แต่มันอยู่ใกล้เกินไป อาจพูดได้ว่าสะดวกสบาย และมันน่าอาย

"ต่อมาในระหว่างพิธีมอบรางวัลคุณคิดว่าบอสฝางจะเปิดเผยไหมถ้าเขาเห็นว่าเราไม่ได้รับรางวัล?" ใครบางคนถาม

“เขาจะไม่ไปไกลขนาดนั้นใช่ไหม” ชวาร์เซอร์พูดอย่างเข้าใจง่าย

เมื่อก่อนมันเป็นฝางจ้าวที่ได้นำพวกเขามาฝึกทักษะและให้ความรู้กับพวกเขา ถึงตอนนี้

มันเหมือนกับอาจารย์ที่ได้รับเชิญไปงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่และพบว่าเด็กฝึกหัดของเขาไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะได้รับคำชมจากคนอื่น มันจะไม่น่าขายหน้าหรอกหรือ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทุกคนที่เคยรู้สึกกระตือรือร้นในก่อนหน้านี้ ความรู้สึกก็จางหายไป

"กัปตันเราควรทำอย่างไรดี" ผู้มาใหม่ถามจินโร่ ที่กำลังนั่งอยู่ข้างหน้า

จินโร่ ไตร่ตรองเล็กน้อยก่อนที่จะตอบว่า "แค่ทำตัวเองให้น่ารักอย่างที่เราควรทำ"