EGT 1139
หากไม่มีการเพาะปลูกที่ดินแหล่งอาหารก็หายไป
พวกเอลฟ์ส่วนใหญ่ก็เป็นมังสวิรัติเช่นกัน พวกเขาไม่อยากทำร้ายสัตว์ตัวเล็ก ๆ สำหรับพวกเขาสัตว์เหล่านี้ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการบำรุงเลี้ยงจากต้นไม้แห่งชีวิตดังนั้นพวกมันจึงเกี่ยวข้องกับพวกเขามันอย่างใกล้ชิด
ดังนั้นในทวีปเทพจันทราอาหารของพวกเอลฟ์นั้นง่ายมาก
สิ่งที่พวกเขากินมักเป็นผลไม้
แต่ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้เพาะปลูก
ไม่มีพื้นที่เพาะปลูก นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ชอบทานอาหารอื่น ๆ
อาหารที่มนุษย์เคยแลกเปลี่ยนเป็นที่นิยมในหมู่พวกเอลฟ์
สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าแลกเปลี่ยนกันระหว่างสองเผ่าพันธุ์เป็นเวลานานแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินหยานเซียวได้เรียนรู้ว่าพวกเอลฟ์เริ่มปฏิเสธอัญมณี
มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
ลักษณะของพวกเอลฟ์นั้นสวยงามและเป็นชนชั้นสูง
ซึ่งเกี่ยวข้องกับรากเหง้าของเผ่าพันธุ์ของพวกเขาด้วย
พวกเขาเป็นเหมือนเช่นขุนนางโดยธรรมชาติ
แม้แต่เอลฟ์ที่ยากจนที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนางที่โด่งดังที่สุดในทวีปคังหมิง
ก็สามารถกลายเป็นสิ่งที่คนต้องการติดตามมากที่สุด
พวกเขาชื่นชอบสิ่งของที่มีความประณีตสูงและสิ่งสวยงาม
มันเป็นจุดเด่นของพวกเอลฟ์ พวกเขาชอบที่จะฝังอัญมณีต่าง ๆ ในเครื่องประดับ
บ้านของพวกเขา แม้แต่คันธนูและลูกธนูก็มีอัญมณีเหมือนเพชรพลอย
พวกเขาชอบอัญมณีมาก
แต่ทวีปเทพจันทราเป็นพื้นที่สีเขียวที่กว้างใหญ่มากและแหล่งแร่อาจกล่าวได้ว่าหาได้ยากในที่นี่
ก่อนหน้านี้เมื่อมนุษย์ยังไม่แลกเปลี่ยนกับพวกเอลฟ์
คุณค่าของอัญมณีในทวีปเทพจันทรานั้นเปรียบได้กับมูลค่าของผลึกแก่นเวทในแผ่นดินใหญ่ของมนุษย์
เฉินหยานเซียวรู้สึกว่าการปฏิเสธอัญมณีทันทีของเหล่าเอลฟ์นั้นน่าสนใจมาก
ชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่ตรงนั้นพยายามเกลี้ยกล่อมทหารผู้คุมเอลฟ์
แต่การที่พวกเอลฟ์ไม่สนใจมนุษย์มาถึงจุดที่รุนแรงแล้ว
ไม่ว่าชายร่างอ้วนจะบีบบังคับพวกเขาอย่างไร
เอลฟ์ก็แสดงสีหน้าที่บ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่สามารถพูดคุยกันต่อไปได้
ชายร่างอ้วนคนหนึ่งยืดตัวของเขาอย่างเฉื่อยชา
เขาอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา
เขามองไปที่ดินแดนภายในของทวีปเทพจันทราซึ่งเป็นประตูเดียวไม่ห่างจากเขา
หากเขาไม่กลัวจะถูกเอลฟ์ยิง บางทีเขาอาจรีบพุ่งเข้าไปที่นั่นในทันที
"ลืมไปเลย
ที่แย่ที่สุด เราแค่เดินทางมาเสียเที่ยวโดยที่ไม่ได้อะไร
ครั้งต่อไปเราจะเปลี่ยนสินค้าของเรา" สหายของชายร่างอ้วนทำให้เขาสบายใจ
ชายร่างอ้วนถอนหายใจอย่างขมขื่นและพูดด้วยสีหน้าเศร้า
ๆ "การเดินทางครั้งหนึ่งใช้เวลาสองเดือน
มีหลายสิ่งที่ล่าช้าเพราะเหตุนี้และข้ายังได้รับอัญมณีจำนวนมากมาก่อน
มันกลายเป็นขยะไปแล้ว?" สวรรค์ต้องการให้เขาตายเหรอ
อ่าาาาาา!
“เฮ้อ
เราไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ อย่างมากที่สุด
มันอาจเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อสามเดือนที่แล้ว พวกเอลฟ์ไม่มีความสุขอย่างแน่นอน”
"สารเลว!
คนงี่เง่าคนนั้นที่ชื่อว่า เฉินจิง เป็นคนบ้าจริง ๆ หรือไม่? ถ้าเขามาที่ทวีปเทพจันทราเพื่อทำธุรกิจ เขาควรทำธุรกิจของเขาให้เหมาะสม
แต่เขากลับไม่ทำ เขาวิ่งหนีเพื่อรับเสรีภาพพร้อมกับสาวงามเอลฟ์ อาเยี่ยมมาก!
แม้แต่คนบริสุทธิ์อย่างเราก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เงินของข้า อ่าอ่าอ่า ...
นี่มันทำให้ข้าเสียทั้งเงินและเวลาจริง ๆ!”
เฉินหยานเซียวลอบฟังเสียงซุบซิบอย่างเงียบ
ๆ แต่เมื่อเธอได้ยินชื่อที่คุ้นเคย การแสดงออกของเธอก็กลายเป็นความตกใจในทันที
"ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำสักหน่อย"
เฉินหยานเซียวพูดกับคนในตระกูล กิเลน
"ไปได้เลย
การดำเนินการขั้นตอนต่อไปจะใช้เวลาสักครู่"
ผู้คนในตระกูลกิเลนเป็นมิตรมากเมื่อพวกเขาตอบกลับ
เฉินหยานเซียวพยักหน้าและเรียกหงส์ไฟ
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ชายร่างอ้วนที่กำลังกลิ้งอยู่บนพื้นเพื่อหาทางเข้าไป
ชายร่างอ้วนยังไม่ยอมแพ้ในการเข้าร่วม
เขาดึงสหายของเขาเดินเล่นไปรอบ ๆ ทางเข้าคิดหาวิธีอื่นที่จะเข้าไป
เมื่อชายร่างอ้วนรู้สึกสงสารตัวเองเพราะโศกนาฏกรรมของเขาเอง
เสียงอันไพเราะดังมาจากข้างหลังเขา
“พี่ใหญ่
เจ้าเพิ่งพูดว่ามีมนุษย์คนหนึ่งวิ่งเข้าไปใน ทวีปเทพจันทราเพื่อไปก่อกวนพวกเอลฟ์
มันเกิดอะไรขึ้น?”
EGT 1140
ชายร่างอ้วนรู้สึกหดหู่มากขณะที่เขาหันหน้าไปมอง
แต่เมื่อเห็นเด็กสองคนที่เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตแกะสลักจากหยกขาว
เขาชะงักไปในทันที่หลังจากที่แต่เดิมรู้สึกโกรธ
เขาสงสัยว่ากองคาราวานไหนที่นำเด็กน้อยเหล่านี้มาด้วย
พร้อมกับมาถามคำถามหลังจากได้ยินสิ่งที่น่าสนใจ ชายร่างอ้วนคนนี้ไม่ค่อยภูมิใจเท่าไหร่ขณะที่เขาเกาหัวแล้วพูดว่า
"เด็ก ๆ เจ้าไม่รู้ละสิ แต่ก่อนหน้านี้มีคนที่ชื่อ เฉินจิง
ที่มาที่ทวีปเทพจันทรานี้และแลกเปลี่ยนกับพวกเอลฟ์ อย่างไรก็ตาม
มีแต่พระเจ้ารู้ว่าชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาดูเหมือนจะตามจีบเอลฟ์คนหนึ่งในเมืองหยก
เขาวิ่งไปรอบ ๆ อย่างโง่เขลาเพื่อดึงดูดความสนใจของเธอ
แต่เอลฟ์สาวงามผู้นั้นเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองหยก
ดังนั้นเขาจึงถูกจับโดยเจ้าเมืองหยกเมื่อสามเดือนที่แล้ว ... "
ปากของเฉินหยานเซียวกระตุก
มนุษย์ที่กล้าคุกคามเสรีภาพของเอลฟ์? นอกเหนือจากลุงสามของครอบครัวเธอ
เธอกลัวว่าจะไม่มีคนที่สองที่จะทำสิ่งนี้ได้
เธอสามารถพูดได้ว่าการดำรงอยู่ของเฉินจิงในตระกูลหงส์ไฟ
นั้นเหมือนกับดอกไม้แปลก ๆ แทนที่จะเป็นทหารหรือศิลปิน
เป้าหมายที่เขาโปรดปรานที่สุดในวันธรรมดาคือสายลม ดอกไม้ หิมะและดวงจันทร์ [1] ในนครหลวงสาวงามในฐานะคนสนิทหญิงของเขาเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่เธอไม่เคยเห็นเขาแต่งงาน ตลอดทั้งวันเขาจะไปเที่ยวกับกลุ่มชนชั้นสูง
เขาเป็นคนขี้เกียจอันดับหนึ่งของจักรวรรดิหลงซวนอย่างแน่นอน
เฉินจิงชอบความงามและเขาก็ใจดีมากเมื่ออยู่กับพวกเขา
อย่างไรก็ตามเฉินหยานเซียวไม่ได้คาดหวังว่าลุงที่ไม่น่าเชื่อถือของเธอจะยืดกรงเล็บของเขาไปหาพวกเอลฟ์
เอลฟ์ อ่า ...
นั่นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ชอบมนุษย์อย่างมาก
ความคิดในการยั่วยุพวกเขาก็ไม่ดี
แต่เขาก็ยังไปยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวของท่านเจ้าเมือง...
'ผู้คนจะถูกลงโทษเนื่องจากทำอะไรโง่
ๆ' ในที่สุดเฉินหยานเซียวก็รู้ว่าคำพูดนี้เป็นจริง
ชายร่างพ่นเรื่องราวออกมานาน
มันทำให้เฉินหยานเซียวได้รับข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฉินจิง
แม้ว่าเฉินจิงจะถูกควบคุมตัว
แต่ก็มีปัญหาไม่มากนัก เอลฟ์ไม่โหดร้ายขนาดนั้น
หลังจากที่เฉินหยานเซียวได้ฟังข้อมูลของชายคนนั้นเธอก็นำหงส์ไฟ
กลับไปที่ทางเข้า
ผู้คนในตระกูลกิเลนได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนและพาเฉินหยานเซียวผ่านจุดตรวจ
นอกเหนือจากชายฝั่งแสงจันทร์
ทุกที่ด้านหน้าต่างปกคลุมด้วยสีเขียวมันทำให้ผู้คนรู้สึกสบาย
"นี่คือแผนที่ของทวีปเทพจันทรา
ที่ถนนข้างหน้า เจ้าเมืองเฉินสามารถตัดสินใจได้โดยด้วยตัวเจ้าเอง"
คนที่ดูแลตระกูลกิเลนกล่าวขณะที่เขามอบกระเป๋าเงินที่อัดแน่นให้กับเฉินหยานเซียว
"สกุลเงินของทวีปเทพจันทราคือเหรียญผลึกนี้
มีไว้สำหรับให้เจ้าเมืองเฉินใช้เมื่ออยู่ที่ทวีปเทพจันทรา เรามาที่นี่ทุก ๆ
สามเดือน
ถ้าท่านเจ้าเมืองเฉินมีอะไรเจ้าสามารถมาพบเราได้ที่ชายฝั่งแสงจันทร์หลังจากนี้อีกสามเดือน”
"ขอบคุณ"
เฉินหยานเซียวหยิบกระเป๋าเงินและเก็บไว้ในแหวนมิติของเธอ
พวกเอลฟ์รักสิ่งสวยงามมากจนแม้แต่เหรียญที่ใช้ในทวีปเทพจันทราก็ทำมาจากผลึกที่เปล่งประกายแสงระยิบระยับ
ผู้คนในตระกูลกิเลนออกเดินทางหลังจากนั้นไม่นาน
เฉินหยานเซียวและหงส์ไฟ พบสถานที่อันเงียบสงบหลังจากนั้น
เฉินหยานเซียวได้กลับคืนสภาพเอลฟ์อีกครั้ง
ในขณะที่หงส์ไฟเปลี่ยนผมและดวงตาไปเป็นสีแดงเดิมของเขา
นอกจากนี้ยังมีสัตว์เวทในทวีปเทพจันทราดังนั้นตัวตนของหงส์ไฟจะไม่ทำให้คนอื่นสงสัย
หลังจากสวมเสื้อผ้าของพวกเอลฟ์แล้ว
เฉินหยานเซียวก็นั่งอยู่บนหญ้าและดูแผนที่ของทวีปเทพจันทรา
เอลฟ์มีจำนวนน้อยกว่ามนุษย์มาก
ทวีปเทพจันทราที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นใหญ่กว่าอาณาจักรในทวีปคังหมิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การกระจายตัวของเมืองต่าง ๆ ใน ทวีปเทพจันทรานั้นก็แตกต่างจากทวีปคังหมิง
ที่นี่เริ่มต้นจากเมืองในจุดศูนย์กลางของทวีป เมืองอื่น ๆ ได้ขยายออกไปด้านนอก
เมืองในใจกลางของทวีปเทพจันทรา
มีเมืองรัศมีจันทร์ และเป็นที่พำนักของราชาเอลฟ์
ทวีปเทพจันทราทั้งทวีปแบ่งปันต้นไม้แห่งชีวิตที่ปลูกในเมืองรัศมีจันทร์
[1] คำพูดในอีกนัยหนึ่งของโรแมนติก
EGT 1141
ต้นไม้แห่งชีวิตเป็นรากฐานของการเติบโตของพวกเอลฟ์
ยิ่งพวกเขาอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิตมากเท่าไหร่
การเติบโตของแหล่งกำเนิดพลังชีวิตก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น
เอลฟ์ทุกคนพยายามที่จะอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิต
ในบรรดาเอลฟ์ลำดับชั้นนั้นเข้มงวดมาก
ระดับชั้นของเมืองจะกระจายออกไปด้านนอกจากเมืองรัศมีจันทร์ ที่พำนักของเอลฟ์จะมีอันดับแตกต่างกัน
ความแข็งแกร่งของพวกเอลฟ์ระดับสูงหรือมีความสามารถที่ดีมากเท่าไหร่
พวกเขาก็จะยิ่งสามารถเข้าไปในเมืองที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางมากขึ้น
และพวกเขาสามารถอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิตได้มากขึ้น
เฉินหยานเซียวมาที่ทวีปเทพจันทราเพื่อเข้าใกล้
ต้นไม้แห่งชีวิต และปรับปรุงแหล่งกำเนิดพลังชีวิตในร่างกายของเธอ
สำหรับเธอตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการเข้าพักในเมืองรัศมีจันทร์
แต่…
การแบ่งระหว่างเมืองชั้นล่างและเมืองชั้นบนของพวกเอลฟ์นั้นชัดเจนมาก
ถ้าพวกเขาพิสูจน์ได้ว่ากำลังของพวกเขาเพียงพอที่จะเข้าไปในเมืองชั้นบน
มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกพวกเอลฟ์คนอื่นโยนออกไป ถ้าพวกเขาวิ่งไปที่ประตูเมืองชั้นบน
และมันก็เป็นที่น่าเกลียดชังอย่างมากที่เมืองเอลฟ์ทุกแห่งมีเวทอาคมป้องกัน
แม้ว่าเฉินหยานเซียวจะใช้ทักษะของจอมโจรเทพเจ้า
ตราบใดที่เธอเข้าไปในเมืองเอลฟ์โดยไม่ได้รับอนุญาตเธอจะยังถูกค้นพบโดยพวกเอลฟ์
เธอต้องพูดว่า ...
พวกเอลฟ์มีความร้ายกาจอย่างมากในการควบคุมลำดับชั้น
วิธีเดียวที่เฉินหยานเซียวจะเข้าสู่เมืองรัศมีจันทร์คือ
...
ปีนขึ้นไป
เมื่อมองดูแผนที่ในมือของเธอ
เฉินหยานเซียวก็ยกริมฝีปากของเธอขึ้น
เมืองของพวกเอลฟ์ยกเว้นเมืองรัศมีจันทร์แบ่งออกเป็นห้าระดับ
ได้แก่ สีเหลือง สีแดง สีขาว สีดำ ชั้นนอกสุดคือเมืองระดับสีฟ้า
ถัดจากสีฟ้าคือสีเหลือง สีแดง สีขาวจากนั้น
และในที่สุดเมืองระดับสีดำซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองรัศมีจันทร์ ระดับเมืองก็จะสูงขึ้น
มีเมืองระดับสีฟ้ามากกว่า 50 แห่ง
แต่มีเพียงห้าเมืองที่มีระดับสีดำ
เฉินหยานเซียวและหงส์ไฟ
กำลังจะไปถึงเมืองสีฟ้า [1] ชื่อ เมืองราตรีหอมหวน
เมืองระดับสีฟ้า [1] ไม่ได้รับการป้องกัน เอลฟ์ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ตามต้องการ
เฉินหยานเซียวปรากฏตัวในลักษณะเอลฟ์แล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ถูกกีดขวางใด ๆ
ในเมืองราตรีหอมหวน
แม้ว่ามันจะเป็นเมืองระดับต่ำสุด
แต่สถาปัตยกรรมในเมืองราตรีหอมหวน ก็เป็นสไตล์ที่พวกเอลฟ์ชอบ
มันเป็นภาพของสีขาวบริสุทธิ์
พวกเอลฟ์ที่สวยงามเดินผ่านเมืองและไม่มีใครที่ดูไม่ดี
ในความคิดของเฉินหยานเซียว
เธอนึกถึงคำว่า "ความได้เปรียบทางเชื้อชาติ" เท่านั้น
พวกเอลฟ์เกิดมาสวยงาม
แม้ว่าพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นเอลฟ์ที่น่าเกลียด เมื่ออยู่ในทวีปคังหมิง
พวกเขาจะตกอยู่ในหมวดหมู่ของสิ่งสวยงามอย่างแน่นอน
นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทวีปเทพจันทราเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักสิ่งมีชีวิตที่ดูดี
แม้ว่าเจ้าจะดึงเอลฟ์ออกมาแบบสุ่ม แต่เจ้าก็ยังสามารถสร้างมนุษย์ที่สวยงามได้
การปรากฏตัวของเฉินหยานเซียวถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดในหมู่มนุษย์
แต่ก็ถือได้ว่าเป็นความงามตามปกติในหมู่พวกเอลฟ์ มันยังคงมีระยะห่างจากการถูกเรียกว่าความงามอันน่าทึ่ง
แม้ว่าพวกเอลฟ์จะถูกแบ่งออกเป็นเมืองต่าง
ๆ ตามระดับของพวกเขา แต่ละเอลฟ์ก็จะมีเผ่าของตัวเอง
มันเหมือนเผ่าต่าง ๆ
ของทวีปคังหมิง ความแตกต่างคือเอลฟ์ไม่สามารถอยู่ในเผ่าของพวกเขาตลอดเวลา
พวกเขาจะถูกแยกออกเป็นระดับต่าง ๆตามระดับเมืองของพวกเขา
ก่อนที่เฉินหยานเซียวจะมาที่ทวีปเทพจันทรา
เฉินซืออู๋เคยเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับแม่เหวินหยาของเธอ
บิดาของเหวินหยาเป็นมนุษย์
แต่แม่ของเธอเป็นเอลฟ์
แม่ของเหวินหยาซึ่งเป็นย่าของเฉินหยานเซียวเป็นสาขาหนึ่งของชนเผ่าเมืองรัศมีจันทร์
[1] ในต้นฉบับบระบุว่าเป็น
'ระดับสีดำ' แต่จากเนื้อเรื่องตามที่ระบุไว้เมืองระดับล่างที่เฉินหยานเซียวอยู่เป็นเมืองระดับต่ำสุดดังนั้นจึงแก้ไขเป็นเมืองระดับสีฟ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น