เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2563

EGT 1139-1141 เมืองระดับสีฟ้า


EGT 1139


หากไม่มีการเพาะปลูกที่ดินแหล่งอาหารก็หายไป พวกเอลฟ์ส่วนใหญ่ก็เป็นมังสวิรัติเช่นกัน พวกเขาไม่อยากทำร้ายสัตว์ตัวเล็ก ๆ สำหรับพวกเขาสัตว์เหล่านี้ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการบำรุงเลี้ยงจากต้นไม้แห่งชีวิตดังนั้นพวกมันจึงเกี่ยวข้องกับพวกเขามันอย่างใกล้ชิด

ดังนั้นในทวีปเทพจันทราอาหารของพวกเอลฟ์นั้นง่ายมาก สิ่งที่พวกเขากินมักเป็นผลไม้

แต่ความจริงที่ว่าพวกเขาไม่ได้เพาะปลูก ไม่มีพื้นที่เพาะปลูก นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ชอบทานอาหารอื่น ๆ อาหารที่มนุษย์เคยแลกเปลี่ยนเป็นที่นิยมในหมู่พวกเอลฟ์

สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าแลกเปลี่ยนกันระหว่างสองเผ่าพันธุ์เป็นเวลานานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินหยานเซียวได้เรียนรู้ว่าพวกเอลฟ์เริ่มปฏิเสธอัญมณี

มันไม่สมเหตุสมผลเลย!

ลักษณะของพวกเอลฟ์นั้นสวยงามและเป็นชนชั้นสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับรากเหง้าของเผ่าพันธุ์ของพวกเขาด้วย พวกเขาเป็นเหมือนเช่นขุนนางโดยธรรมชาติ แม้แต่เอลฟ์ที่ยากจนที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนางที่โด่งดังที่สุดในทวีปคังหมิง ก็สามารถกลายเป็นสิ่งที่คนต้องการติดตามมากที่สุด

พวกเขาชื่นชอบสิ่งของที่มีความประณีตสูงและสิ่งสวยงาม มันเป็นจุดเด่นของพวกเอลฟ์ พวกเขาชอบที่จะฝังอัญมณีต่าง ๆ ในเครื่องประดับ บ้านของพวกเขา แม้แต่คันธนูและลูกธนูก็มีอัญมณีเหมือนเพชรพลอย

พวกเขาชอบอัญมณีมาก แต่ทวีปเทพจันทราเป็นพื้นที่สีเขียวที่กว้างใหญ่มากและแหล่งแร่อาจกล่าวได้ว่าหาได้ยากในที่นี่ ก่อนหน้านี้เมื่อมนุษย์ยังไม่แลกเปลี่ยนกับพวกเอลฟ์ คุณค่าของอัญมณีในทวีปเทพจันทรานั้นเปรียบได้กับมูลค่าของผลึกแก่นเวทในแผ่นดินใหญ่ของมนุษย์

เฉินหยานเซียวรู้สึกว่าการปฏิเสธอัญมณีทันทีของเหล่าเอลฟ์นั้นน่าสนใจมาก

ชายร่างอ้วนที่ยืนอยู่ตรงนั้นพยายามเกลี้ยกล่อมทหารผู้คุมเอลฟ์ แต่การที่พวกเอลฟ์ไม่สนใจมนุษย์มาถึงจุดที่รุนแรงแล้ว ไม่ว่าชายร่างอ้วนจะบีบบังคับพวกเขาอย่างไร เอลฟ์ก็แสดงสีหน้าที่บ่งบอกว่าเรื่องนี้ไม่สามารถพูดคุยกันต่อไปได้

ชายร่างอ้วนคนหนึ่งยืดตัวของเขาอย่างเฉื่อยชา เขาอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขามองไปที่ดินแดนภายในของทวีปเทพจันทราซึ่งเป็นประตูเดียวไม่ห่างจากเขา หากเขาไม่กลัวจะถูกเอลฟ์ยิง บางทีเขาอาจรีบพุ่งเข้าไปที่นั่นในทันที

"ลืมไปเลย ที่แย่ที่สุด เราแค่เดินทางมาเสียเที่ยวโดยที่ไม่ได้อะไร ครั้งต่อไปเราจะเปลี่ยนสินค้าของเรา" สหายของชายร่างอ้วนทำให้เขาสบายใจ

ชายร่างอ้วนถอนหายใจอย่างขมขื่นและพูดด้วยสีหน้าเศร้า ๆ "การเดินทางครั้งหนึ่งใช้เวลาสองเดือน มีหลายสิ่งที่ล่าช้าเพราะเหตุนี้และข้ายังได้รับอัญมณีจำนวนมากมาก่อน มันกลายเป็นขยะไปแล้ว?" สวรรค์ต้องการให้เขาตายเหรอ อ่าาาาาา!

เฮ้อ เราไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ อย่างมากที่สุด มันอาจเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อสามเดือนที่แล้ว พวกเอลฟ์ไม่มีความสุขอย่างแน่นอน”

"สารเลว! คนงี่เง่าคนนั้นที่ชื่อว่า เฉินจิง เป็นคนบ้าจริง ๆ หรือไม่? ถ้าเขามาที่ทวีปเทพจันทราเพื่อทำธุรกิจ เขาควรทำธุรกิจของเขาให้เหมาะสม แต่เขากลับไม่ทำ เขาวิ่งหนีเพื่อรับเสรีภาพพร้อมกับสาวงามเอลฟ์ อาเยี่ยมมาก! แม้แต่คนบริสุทธิ์อย่างเราก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เงินของข้า อ่าอ่าอ่า ... นี่มันทำให้ข้าเสียทั้งเงินและเวลาจริง ๆ!”

เฉินหยานเซียวลอบฟังเสียงซุบซิบอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อเธอได้ยินชื่อที่คุ้นเคย การแสดงออกของเธอก็กลายเป็นความตกใจในทันที

"ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำสักหน่อย" เฉินหยานเซียวพูดกับคนในตระกูล กิเลน

"ไปได้เลย การดำเนินการขั้นตอนต่อไปจะใช้เวลาสักครู่" ผู้คนในตระกูลกิเลนเป็นมิตรมากเมื่อพวกเขาตอบกลับ

เฉินหยานเซียวพยักหน้าและเรียกหงส์ไฟ หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ชายร่างอ้วนที่กำลังกลิ้งอยู่บนพื้นเพื่อหาทางเข้าไป

ชายร่างอ้วนยังไม่ยอมแพ้ในการเข้าร่วม เขาดึงสหายของเขาเดินเล่นไปรอบ ๆ ทางเข้าคิดหาวิธีอื่นที่จะเข้าไป

เมื่อชายร่างอ้วนรู้สึกสงสารตัวเองเพราะโศกนาฏกรรมของเขาเอง เสียงอันไพเราะดังมาจากข้างหลังเขา

พี่ใหญ่ เจ้าเพิ่งพูดว่ามีมนุษย์คนหนึ่งวิ่งเข้าไปใน ทวีปเทพจันทราเพื่อไปก่อกวนพวกเอลฟ์ มันเกิดอะไรขึ้น?”





EGT 1140


ชายร่างอ้วนรู้สึกหดหู่มากขณะที่เขาหันหน้าไปมอง แต่เมื่อเห็นเด็กสองคนที่เป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตแกะสลักจากหยกขาว เขาชะงักไปในทันที่หลังจากที่แต่เดิมรู้สึกโกรธ

เขาสงสัยว่ากองคาราวานไหนที่นำเด็กน้อยเหล่านี้มาด้วย พร้อมกับมาถามคำถามหลังจากได้ยินสิ่งที่น่าสนใจ ชายร่างอ้วนคนนี้ไม่ค่อยภูมิใจเท่าไหร่ขณะที่เขาเกาหัวแล้วพูดว่า "เด็ก ๆ เจ้าไม่รู้ละสิ แต่ก่อนหน้านี้มีคนที่ชื่อ เฉินจิง ที่มาที่ทวีปเทพจันทรานี้และแลกเปลี่ยนกับพวกเอลฟ์ อย่างไรก็ตาม มีแต่พระเจ้ารู้ว่าชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เขาดูเหมือนจะตามจีบเอลฟ์คนหนึ่งในเมืองหยก เขาวิ่งไปรอบ ๆ อย่างโง่เขลาเพื่อดึงดูดความสนใจของเธอ แต่เอลฟ์สาวงามผู้นั้นเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองหยก ดังนั้นเขาจึงถูกจับโดยเจ้าเมืองหยกเมื่อสามเดือนที่แล้ว ... "

ปากของเฉินหยานเซียวกระตุก มนุษย์ที่กล้าคุกคามเสรีภาพของเอลฟ์? นอกเหนือจากลุงสามของครอบครัวเธอ เธอกลัวว่าจะไม่มีคนที่สองที่จะทำสิ่งนี้ได้

เธอสามารถพูดได้ว่าการดำรงอยู่ของเฉินจิงในตระกูลหงส์ไฟ นั้นเหมือนกับดอกไม้แปลก ๆ แทนที่จะเป็นทหารหรือศิลปิน เป้าหมายที่เขาโปรดปรานที่สุดในวันธรรมดาคือสายลม ดอกไม้ หิมะและดวงจันทร์ [1] ในนครหลวงสาวงามในฐานะคนสนิทหญิงของเขาเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เธอไม่เคยเห็นเขาแต่งงาน ตลอดทั้งวันเขาจะไปเที่ยวกับกลุ่มชนชั้นสูง เขาเป็นคนขี้เกียจอันดับหนึ่งของจักรวรรดิหลงซวนอย่างแน่นอน

เฉินจิงชอบความงามและเขาก็ใจดีมากเมื่ออยู่กับพวกเขา

อย่างไรก็ตามเฉินหยานเซียวไม่ได้คาดหวังว่าลุงที่ไม่น่าเชื่อถือของเธอจะยืดกรงเล็บของเขาไปหาพวกเอลฟ์

เอลฟ์ อ่า ...

นั่นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ชอบมนุษย์อย่างมาก ความคิดในการยั่วยุพวกเขาก็ไม่ดี แต่เขาก็ยังไปยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวของท่านเจ้าเมือง...

'ผู้คนจะถูกลงโทษเนื่องจากทำอะไรโง่ ๆ' ในที่สุดเฉินหยานเซียวก็รู้ว่าคำพูดนี้เป็นจริง

ชายร่างพ่นเรื่องราวออกมานาน มันทำให้เฉินหยานเซียวได้รับข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเฉินจิง

แม้ว่าเฉินจิงจะถูกควบคุมตัว แต่ก็มีปัญหาไม่มากนัก เอลฟ์ไม่โหดร้ายขนาดนั้น

หลังจากที่เฉินหยานเซียวได้ฟังข้อมูลของชายคนนั้นเธอก็นำหงส์ไฟ กลับไปที่ทางเข้า ผู้คนในตระกูลกิเลนได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอนและพาเฉินหยานเซียวผ่านจุดตรวจ

นอกเหนือจากชายฝั่งแสงจันทร์ ทุกที่ด้านหน้าต่างปกคลุมด้วยสีเขียวมันทำให้ผู้คนรู้สึกสบาย

"นี่คือแผนที่ของทวีปเทพจันทรา ที่ถนนข้างหน้า เจ้าเมืองเฉินสามารถตัดสินใจได้โดยด้วยตัวเจ้าเอง" คนที่ดูแลตระกูลกิเลนกล่าวขณะที่เขามอบกระเป๋าเงินที่อัดแน่นให้กับเฉินหยานเซียว

"สกุลเงินของทวีปเทพจันทราคือเหรียญผลึกนี้ มีไว้สำหรับให้เจ้าเมืองเฉินใช้เมื่ออยู่ที่ทวีปเทพจันทรา เรามาที่นี่ทุก ๆ สามเดือน ถ้าท่านเจ้าเมืองเฉินมีอะไรเจ้าสามารถมาพบเราได้ที่ชายฝั่งแสงจันทร์หลังจากนี้อีกสามเดือน”

"ขอบคุณ" เฉินหยานเซียวหยิบกระเป๋าเงินและเก็บไว้ในแหวนมิติของเธอ

พวกเอลฟ์รักสิ่งสวยงามมากจนแม้แต่เหรียญที่ใช้ในทวีปเทพจันทราก็ทำมาจากผลึกที่เปล่งประกายแสงระยิบระยับ

ผู้คนในตระกูลกิเลนออกเดินทางหลังจากนั้นไม่นาน เฉินหยานเซียวและหงส์ไฟ พบสถานที่อันเงียบสงบหลังจากนั้น เฉินหยานเซียวได้กลับคืนสภาพเอลฟ์อีกครั้ง ในขณะที่หงส์ไฟเปลี่ยนผมและดวงตาไปเป็นสีแดงเดิมของเขา

นอกจากนี้ยังมีสัตว์เวทในทวีปเทพจันทราดังนั้นตัวตนของหงส์ไฟจะไม่ทำให้คนอื่นสงสัย

หลังจากสวมเสื้อผ้าของพวกเอลฟ์แล้ว เฉินหยานเซียวก็นั่งอยู่บนหญ้าและดูแผนที่ของทวีปเทพจันทรา

เอลฟ์มีจำนวนน้อยกว่ามนุษย์มาก ทวีปเทพจันทราที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นใหญ่กว่าอาณาจักรในทวีปคังหมิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การกระจายตัวของเมืองต่าง ๆ ใน ทวีปเทพจันทรานั้นก็แตกต่างจากทวีปคังหมิง ที่นี่เริ่มต้นจากเมืองในจุดศูนย์กลางของทวีป เมืองอื่น ๆ ได้ขยายออกไปด้านนอก

เมืองในใจกลางของทวีปเทพจันทรา มีเมืองรัศมีจันทร์ และเป็นที่พำนักของราชาเอลฟ์ ทวีปเทพจันทราทั้งทวีปแบ่งปันต้นไม้แห่งชีวิตที่ปลูกในเมืองรัศมีจันทร์

[1] คำพูดในอีกนัยหนึ่งของโรแมนติก




EGT 1141


ต้นไม้แห่งชีวิตเป็นรากฐานของการเติบโตของพวกเอลฟ์ ยิ่งพวกเขาอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิตมากเท่าไหร่ การเติบโตของแหล่งกำเนิดพลังชีวิตก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น เอลฟ์ทุกคนพยายามที่จะอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิต

ในบรรดาเอลฟ์ลำดับชั้นนั้นเข้มงวดมาก ระดับชั้นของเมืองจะกระจายออกไปด้านนอกจากเมืองรัศมีจันทร์ ที่พำนักของเอลฟ์จะมีอันดับแตกต่างกัน ความแข็งแกร่งของพวกเอลฟ์ระดับสูงหรือมีความสามารถที่ดีมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งสามารถเข้าไปในเมืองที่อยู่ใกล้กับศูนย์กลางมากขึ้น และพวกเขาสามารถอยู่ใกล้กับต้นไม้แห่งชีวิตได้มากขึ้น

เฉินหยานเซียวมาที่ทวีปเทพจันทราเพื่อเข้าใกล้ ต้นไม้แห่งชีวิต และปรับปรุงแหล่งกำเนิดพลังชีวิตในร่างกายของเธอ

สำหรับเธอตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการเข้าพักในเมืองรัศมีจันทร์

แต่…

การแบ่งระหว่างเมืองชั้นล่างและเมืองชั้นบนของพวกเอลฟ์นั้นชัดเจนมาก ถ้าพวกเขาพิสูจน์ได้ว่ากำลังของพวกเขาเพียงพอที่จะเข้าไปในเมืองชั้นบน มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกพวกเอลฟ์คนอื่นโยนออกไป ถ้าพวกเขาวิ่งไปที่ประตูเมืองชั้นบน

และมันก็เป็นที่น่าเกลียดชังอย่างมากที่เมืองเอลฟ์ทุกแห่งมีเวทอาคมป้องกัน แม้ว่าเฉินหยานเซียวจะใช้ทักษะของจอมโจรเทพเจ้า ตราบใดที่เธอเข้าไปในเมืองเอลฟ์โดยไม่ได้รับอนุญาตเธอจะยังถูกค้นพบโดยพวกเอลฟ์

เธอต้องพูดว่า ...

พวกเอลฟ์มีความร้ายกาจอย่างมากในการควบคุมลำดับชั้น

วิธีเดียวที่เฉินหยานเซียวจะเข้าสู่เมืองรัศมีจันทร์คือ ...

ปีนขึ้นไป

เมื่อมองดูแผนที่ในมือของเธอ เฉินหยานเซียวก็ยกริมฝีปากของเธอขึ้น

เมืองของพวกเอลฟ์ยกเว้นเมืองรัศมีจันทร์แบ่งออกเป็นห้าระดับ ได้แก่ สีเหลือง สีแดง สีขาว สีดำ ชั้นนอกสุดคือเมืองระดับสีฟ้า ถัดจากสีฟ้าคือสีเหลือง สีแดง สีขาวจากนั้น และในที่สุดเมืองระดับสีดำซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองรัศมีจันทร์ ระดับเมืองก็จะสูงขึ้น มีเมืองระดับสีฟ้ามากกว่า 50 แห่ง แต่มีเพียงห้าเมืองที่มีระดับสีดำ

เฉินหยานเซียวและหงส์ไฟ กำลังจะไปถึงเมืองสีฟ้า [1] ชื่อ เมืองราตรีหอมหวน

เมืองระดับสีฟ้า [1] ไม่ได้รับการป้องกัน เอลฟ์ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ตามต้องการ เฉินหยานเซียวปรากฏตัวในลักษณะเอลฟ์แล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ถูกกีดขวางใด ๆ ในเมืองราตรีหอมหวน

แม้ว่ามันจะเป็นเมืองระดับต่ำสุด แต่สถาปัตยกรรมในเมืองราตรีหอมหวน ก็เป็นสไตล์ที่พวกเอลฟ์ชอบ มันเป็นภาพของสีขาวบริสุทธิ์

พวกเอลฟ์ที่สวยงามเดินผ่านเมืองและไม่มีใครที่ดูไม่ดี

ในความคิดของเฉินหยานเซียว เธอนึกถึงคำว่า "ความได้เปรียบทางเชื้อชาติ" เท่านั้น

พวกเอลฟ์เกิดมาสวยงาม แม้ว่าพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นเอลฟ์ที่น่าเกลียด เมื่ออยู่ในทวีปคังหมิง พวกเขาจะตกอยู่ในหมวดหมู่ของสิ่งสวยงามอย่างแน่นอน

นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าทวีปเทพจันทราเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักสิ่งมีชีวิตที่ดูดี แม้ว่าเจ้าจะดึงเอลฟ์ออกมาแบบสุ่ม แต่เจ้าก็ยังสามารถสร้างมนุษย์ที่สวยงามได้

การปรากฏตัวของเฉินหยานเซียวถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงที่สุดในหมู่มนุษย์ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นความงามตามปกติในหมู่พวกเอลฟ์ มันยังคงมีระยะห่างจากการถูกเรียกว่าความงามอันน่าทึ่ง

แม้ว่าพวกเอลฟ์จะถูกแบ่งออกเป็นเมืองต่าง ๆ ตามระดับของพวกเขา แต่ละเอลฟ์ก็จะมีเผ่าของตัวเอง

มันเหมือนเผ่าต่าง ๆ ของทวีปคังหมิง ความแตกต่างคือเอลฟ์ไม่สามารถอยู่ในเผ่าของพวกเขาตลอดเวลา พวกเขาจะถูกแยกออกเป็นระดับต่าง ๆตามระดับเมืองของพวกเขา

ก่อนที่เฉินหยานเซียวจะมาที่ทวีปเทพจันทรา เฉินซืออู๋เคยเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับแม่เหวินหยาของเธอ

บิดาของเหวินหยาเป็นมนุษย์ แต่แม่ของเธอเป็นเอลฟ์ แม่ของเหวินหยาซึ่งเป็นย่าของเฉินหยานเซียวเป็นสาขาหนึ่งของชนเผ่าเมืองรัศมีจันทร์

[1] ในต้นฉบับบระบุว่าเป็น 'ระดับสีดำ' แต่จากเนื้อเรื่องตามที่ระบุไว้เมืองระดับล่างที่เฉินหยานเซียวอยู่เป็นเมืองระดับต่ำสุดดังนั้นจึงแก้ไขเป็นเมืองระดับสีฟ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น