เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2562

EGT 799-801 ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอันดับหนึ่ง


EGT 799
 

เมื่อเขาเริ่มพูดถึงความลึกลับของการล่มสลายของนักเวทมนต์ดำ เขาได้คาดเดาแล้วว่า เฉินหยานเซียวจะไม่ได้มองเขาในแบบเดิมเช่นเดียวกับที่เธอเคยทำ แต่สิ่งต่าง ๆ ได้มาถึงจุดนี้แล้ว หากเขายังคงปกปิดมันต่อไปเขาไม่รู้ว่าจะเกิดผลร้ายเพียงใดตามมา

หากคนเหล่านั้นยังไม่ตาย แน่นอนทวีปคังหมิง อาจทำผิดพลาดซ้ำกันกับที่พวกเขาทำในอดีต

มีสามคนที่เป็นแกนนำหลัก นักเวทมนต์ดำเพื่อไปทำการวิจัยเคล็ดวิชาต้องห้าม ในเวลานั้นทั้งสามคนเป็นผู้อัญเชิญเวทมนต์ดำที่แข็งแกร่งที่สุดของนักเวทมนต์ดำทั้งหมด...ข้าก็เป็นหนึ่งในนั้น”

เฉินหยานเซียวอ้าปากโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมา

ในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะเป็นครั้งแรกที่เราใช้เคล็ดวิชาต้องห้าม เราไม่ทราบว่ามันเป็นอย่างไร เราแค่คิดว่ามันเป็นเพียงอีกเคล็ดวิชาคำสาป เมื่อเราค่อยๆเข้าใจมัน ข้าก็ตระหนักว่าพลังของเคล็ดวิชาต้องห้ามเกินความสามารถของเราในการที่จะควบคุมมัน มันไม่ได้เป็นเพียงคำสาปมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถเปลี่ยนแปลงเผ่าพันธุ์และพรสวรรค์ได้

แม้ว่าข้าจะหมกมุ่นอยู่กับการศึกษาค้นคว้าเคล็ดวิชาคำสาป แต่ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ จากรูปแบบดั้งเดิมของพวกเขา แต่เมื่อข้าคิดที่จะออกจากการวิจัยมันก็สายเกินไปแล้ว สหายทั้งสองของข้าหมกมุ่นอยู่กับเคล็ดวิชาต้องห้ามอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าพยายามหยุดพวกเขา แต่พวกเขาไม่ฟังคำของข้า ด้วยความสิ้นหวังของพวกเขา พวกเขายังลักพาตัวภรรยาและลูกของข้าและข่มขู่ข้าด้วยชีวิตของพวกเขา หากข้าไม่ทำการวิจัยเคล็ดวิชาต้องห้ามกับพวกเขาต่อไป

ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำแม้ว่าข้าจะทนไม่ไหวที่จะเห็นคนบริสุทธิ์กลายเป็นเหยื่อผู้เสียสละเพื่อการวิจัยเคล็ดวิชาต้องห้าม ข้ารู้ว่าข้ามีมุมมองที่ขัดแย้งกับการกระทำดังกล่าว หลังจากผ่านไปนานข้าก็เริ่มชินกับมันจนกระทั่งวันหนึ่งข้าบังเอิญค้นพบว่าภรรยาและลูก ๆ ของข้ากลายเป็นหนูตะเภาไปแล้ว ข้าไม่รู้ว่าภรรยาและลูก ๆ ของข้าถูกพาไปที่เพื่อทำการทดลองหลอมเผ่าพันธุ์ ภรรยาและลูก ๆ ของข้าไม่แข็งแรงและดีนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถทนรับการทดสอบได้ พวกเขาได้เสียชีวิตไปและไม่มีใครบอกข้าเกี่ยวกับการทดลองที่พวกเขาทำ จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่พบศพของพวกเขา" หยุนฉีปกปิดใบหน้าด้วยมือของเขา ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้งในใจของเขา

เวลานั้นเขาพยายามค้นหาร่างภรรยาและลูก ๆ ของเขาในคุกที่ว่างเปล่านั้น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเมื่อนักเวทมนต์ดำหนุ่มคนหนึ่งแอบบอกเขาเกี่ยวกับชะตากรรมของภรรยาและลูก ๆ ของเขา ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่าพวกเขาตายไปแล้ว

"ในเวลานั้นข้าเสียใจ ข้าอัญเชิญสัตว์เวทออกมาทั้งหมดและพยายามเปลี่ยนห้องปฏิบัติการทั้งหมดให้กลายเป็นซากปรักหักพัง แต่สหายทั้งสองของข้าก็เข้ามา พวกเขาร่วมมือกันและทำให้ข้าบาดเจ็บ ถ้าหากไม่ใช่สัตว์ที่ถูกอัญเชิญออกมาของข้าและสัตว์เวทที่ปักหลักต่อต้านเพียงเพื่อช่วยให้ข้าสามารถที่จะหลบหนี ข้าก็กลัวว่าข้าจะตายไปด้วยน้ำมือของพวกเขา”

เพื่อประโยชน์ของเคล็ดวิชาต้องห้าม เขาสูญเสียทุกอย่าง เขาสูญเสียภรรยาลูก ๆ และสูญเสียสัตว์เวทและสัตว์อัญเชิญ

และภายใต้บาดแผลร้ายแรงเช่นนี้ เขาไม่สามารถใช้พลังเวทภายในร่างกายของเขาได้อีกต่อไปและกลายเป็นขยะ

ไม่มีใครเข้าใจความเกลียดชังของหยุนฉีได้ นับตั้งแต่เขาได้เห็นความลับที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ชีวิตของเขาก็ถูกทำลายและแม้แต่อาชีพนักเวทมนต์ดำที่เขารักก็ต้องเผชิญกับความล่มสลาย

เขาไม่มีกำลัง และไม่มีใครอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือเขา แต่เขาไม่ต้องการกลับไปค้นคว้าเคล็ดวิชาต้องห้ามอีก ด้วยความช่วยเหลือของสร้อยแสงจันทร์เขาซ่อนตัวอยู่ เขาไม่สามารถนับได้ว่าเขาอยู่ใกล้ประตูแห่งความตายกี่ครั้ง

ในท้ายที่สุดในช่วงเวลาที่สิ้นหวังเขาถูกบังคับให้ยอมรับการสนับสนุนจากโอวหยางฮันหยู และกลายเป็นชายชราผู้ดูแลสาขานักเวทมนต์ดำของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน





EGT 800
 

"ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นหนึ่งในนักเวทมนต์ดำที่ทำบาปและมือของข้าเปื้อนเลือดของคนบริสุทธิ์" หยุนฉีเปิดเผยรอยยิ้มอันขมขื่น รอยยิ้มของเขาไม่มีความสุข เหลือเพียงความสิ้นหวังและการกลับใจเท่านั้น

เฉินหยานเซียวเดินไปที่ด้านหน้าของหยุนฉี เธอก้มตัวลงจับมือของเขาแล้วกระซิบว่า "ไม่ อาจารย์จะยังเป็นอาจารย์ที่น่านับถือที่สุดของข้าเสมอ"

หลังจากหยุนฉีรู้ว่าเคล็ดวิชาต้องห้ามคืออะไร จริง ๆ แล้วเขาก็ตัดสินใจถอนตัวออกมา เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ มันเป็นสหายที่ทรงพลังอีกสองคนของเขาที่ดำเนินการวิจัยเคล็ดวิชาต้องห้ามซึ่งนำไปสู่การลดลงของนักเวทมนต์ดำ

หยุนฉีเงยหน้าขึ้นมาอย่างลังเลมองดูสายตาที่ยืนยันของเฉินหยานเซียว ก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างช้าๆ

"ความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ข้ามีในชีวิตนี้คือการที่ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ของข้า" บางทีพระเจ้าอาจให้โอกาสเขาชดเชยการกระทำก่อนหน้าของเขาเพื่อที่เขาจะได้เห็นโอกาสที่นักเวทมนต์ดำได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง

หยุนฉีคิดถึงบางอย่าง เขาจ้องไปที่เฉินหยานเซียวและถามว่า "เจ้าเพิ่งพูดว่า เสี่ยวเฟิง มีคุณสมบัติทั้งหมดของเผ่าพันธุ์หลักทั้งเจ็ด แต่ยกเว้นเผ่าพันธุ์เทพเจ้า?”

เฉินหยานเซียวพยักหน้า

ทันใดนั้นหยุนฉียืนขึ้น ใบหน้าของเขาแสดงออกด้วยความประหลาดใจ

"พวกเขาทำได้แล้ว! พวกเขาทำได้จริง ๆ ! ฮ่าฮ่า!”

เฉินหยานเซียวหันไปมองอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปที่หยุนฉีหัวเราะ เธอเป็นห่วงว่าหยุนฉีอาจจะเป็นบ้าไปแล้ว

"เจ้าหมายความว่าพวกเขาทำอะไร?” เฉินหยานเซียวพยายามถาม

หยุนฉียิ้มและพูดว่า “ตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อหลอมรวมเผ่าพันธุ์ทั้งหมด พวกเขาต้องรวบรวมอะไรบางอย่างจากเผ่าพันธุ์หลักแปดเผ่าพันธุ์ทั่วโลก และสิ่งนี้จะต้องมาจากสิ่งมีชีวิตของเผ่าพันธุ์ต่างๆ”

เผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์เอลฟ์ เผ่าพันธุ์เมอโฟร์ก (คล้ายเงือก) เผ่าพันธุ์ปีศาจ เผ่าพันธุ์เทพเจ้า เผ่าพันธุ์ผีดิบ เผ่าพันธุ์คนแคระและเผ่าพันธุ์มังกร ..." เฉินหยานเซียวท่องทั้งแปดเผ่าพันธุ์หลักและพบว่ามันแปลก ทวีปคังหมิงเป็นดินแดนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่พวกเขาสามารถมองหาเผ่าพันธุ์สำคัญอีกห้าเผ่าพันธุ์จากทวีปอื่น ๆ ในโลก แต่กับเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์เทพเจ้านั้นเป็นอย่างไร?

ไม่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจถูกบังคับให้กลับสู่โลกใต้พิภพ นับตั้งแต่การทำสงครามกับเผ่าพันธุ์เทพเจ้า?” เฉินหยานเซียวไม่สามารถคิดได้ว่าจะหาแหล่งทั้งสองนี้ได้จากที่ไหน

หยุนฉีส่ายหัวแล้วพูดว่า "แม้ว่าปีศาจจะถูกบังคับให้กลับสู่โลกใต้พิภพ แต่พวกเขาบางคนยังคงอยู่ในทวีปต่าง ๆ พวกเขาจะต้องจับปีศาจเหล่านั้นและทดสอบเคล็ดวิชาต้องห้ามกับพวกเขา สำหรับเผ่าพันธุ์เทพเจ้า…” หยุนฉีหรี่ตาของเขาลง

ในการทำสงครามกับเผ่าพันธุ์เทพเจ้าและเผ่าพันธุ์ปีศาจ เผ่าพันธุ์เทพเจ้าประสบความสูญเสียครั้งใหญ่เพียงเพื่อต่อต้านเผ่าพันธุ์ปีศาจ ในตอนท้ายของสงครามคนสุดท้ายของเผ่าพันธุ์เทพเจ้าได้ใช้ความเป็นเทพเจ้าของเขาเพื่อผนึกทางเชื่อมจากใต้พิภพสู่พื้นโลก ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่เขาไม่ได้ล่มสลาย ความเป็นเทพเจ้า ซึ่งเทียบเท่ากับการสูญเสียพลังงานส่วนใหญ่ที่เป็นของเทพเจ้า เขาบกพร่องเพียงชั่วคราว ความแข็งแกร่งของเขาลดลงมาก แต่วิญญาณและร่างกายของเขายังมีชีวิตอยู่” เสียงหยุนฉีมีร่องรอยของความเคารพ เขาเคารพเทพเจ้าคนนี้มาก ซึ่งเสียสละความเป็นเทพเจ้าเพียงเพื่อต่อต้านปีศาจ

"มันเป็นแค่ที่ไม่มีใครรู้ว่าร่างกายแช่แข็งของเขาอยู่ที่ไหน แม้กระทั่งหลังจากหลายพันปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้นก็ยังไม่มีใครพบเขา แต่วันหนึ่งมีชายลึกลับคนหนึ่งมาหาเรา ในขณะที่แบกศพที่เคลือบด้วยน้ำแข็ง เขาบอกกับเราว่าคนที่ถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็งคือ เทพเจ้า คนสุดท้าย

พวกเขาจับวิญญาณที่อ่อนแอของเขาจากร่างเทพเจ้า และใช้มันในการวิจัยเคล็ดวิชาต้องห้าม” หยุนฉีบีบคำสุดท้ายออกจากปากของเขา

นี่เป็นการดูหมิ่น!

นี่เป็นการดูหมิ่นของเผ่าพันธุ์เทพเจ้า!




 
EGT 801
 

เฉินหยานเซียว รู้สึกตกใจหลังจากได้ยินทุกสิ่งที่หยุนฉีพูด

นักเวทมนต์ดำค้นพบเทพเจ้าที่ยอมมอบชีวิตของเขาเพื่อช่วยโลกทั้งใบ

และพวกเขายังกล้าที่จะดูหมิ่นเทพเจ้า!

"นั่นมันมากเกินไป!" เย่ชิงผู้เงียบตลอดเวลาไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไปแล้ว ก่อนที่เขาจะปล่อยความโกรธที่สร้างขึ้นภายในตัวเขาออกมา

โดยการปิดผนึกประตูระหว่างโลกใต้พิภพและโลก เทพเจ้ากำจัดความเป็นไปได้ทั้งหมดของปีศาจที่จู่โจมโลก เทพเจ้าสามารถกล่าวได้ว่าช่วยโลก ในที่สุดเขาก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการทดลองโดยกลุ่มคนที่ไร้ยางอาย

"พวกเขาไม่มีความเป็นมนุษย!" แม้แต่คนที่มีอารมณ์ดีก็ไม่สามารถทนต่อความโกรธในใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้

นอกจากเผ่าพันธุ์ปีศาจแล้ว ตระกูลอื่น ๆ ที่เหลือก็นับถือเผ่าพันธุ์เทพเจ้าอย่างเหนียวแน่น แม้ว่าจะมีเทพเจ้าที่ไร้หัวใจในหมู่พวกเขา แต่ก็ยังคงไม่ได้ทำให้สถานะของเทพเจ้ามีรอยด่างพร้อยจากเผ่าพันธุ์เหล่านี้ ทุกคนในโลกนี้รู้สึกขอบคุณเผ่าพันธุ์เทพเจ้า และเป็นที่เคารพนับถืออย่างมาก สำหรับใครบางคนที่จะดูหมิ่นพวกเขาหมายความว่าพวกเขาได้ทิ้งความเชื่อมั่นของพวกเขามานานแล้ว

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย พวกเขาจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าหรือปีศาจ พวกเขาทิ้งความเป็นมนุษย์มานานแล้ว สำหรับพวกเขา สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือที่พวกเขาสามารถใช้สำหรับการทดลอง” หยุนฉียิ้มอย่างน่ากลัว เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าเขาประหลาดใจและเศร้าอย่างไรเมื่อเขาเห็น ร่างของเทพเจ้าที่ถูกแช่แข็ง

นานมาแล้วหลังจากที่ข้าได้รับรู้ถึงการตายของภรรยาและลูก ๆ ของข้า แต่ข้ารู้ว่าข้าไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับพวกเขา ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะมีส่วนร่วมในการรับจิตวิญญาณของเทพเจ้า” ร่องรอยของการเยาะเย้ยนั้นปรากฏขึ้นบนปากหยุนฉี ความกังวลก่อนหน้านี้ของเขาที่มีต่อพวกเขาในเวลานั้นได้หายไปและถูกแทนที่ด้วยความกระหายที่จะแก้แค้น

พวกเขาต้องการรวมเผ่าพันธุ์หลักทั้งแปดไว้ในร่างกายเดียวกันเสมอ แต่การหลอมรวมของ เทพเจ้าและปีศาจนั้นน่ากลัวเกินไป เกือบจะไม่มีใครทนต่อการหลอมรวมของสองเผ่าพันธ์นี้ได้ แต่ข้ารู้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมแพ้ในการทดลอง และในวันหนึ่งพวกเขาอาจค้นพบการทดสอบที่สมบูรณ์แบบที่สามารถตอบสนองความต้องการได้ ข้าคิดว่าข้าไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ดังนั้นข้าจึงปลุกวิญญาณของเทพเจ้าขึ้นมา แต่วิญญาณของเทพเจ้าสามารถกู้คืนสติของเขาได้อย่างช้า ๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตามตราบใดที่เขายังมีสติอยู่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะหยุดคนเหล่านั้นที่ต้องการใช้เขาเป็นหนูตะเภา”

เสี่ยวเซียว เจ้าเพิ่งพูดว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการรวมเจ็ดเผ่าพันธุ์หลักและหลันเฟิงหลี่ เป็นข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้ ข้าเชื่อว่าเหตุผลที่ไม่มีเผ่าพันธุ์เทพเจ้าหลอมรวมในหลันเฟิงหลี่นั้นเป็นเพราะพวกเขาทำมันหายไป พวกเขาสูญเสียจิตวิญญาณของเทพเจ้าคนสุดท้าย!” หยุนฉีรู้อย่างชัดเจนถึงอดีตของเขา พวกเขาจะไม่ยอมแพ้ในการทดลอง พวกเขาจึงสามารถหลอมรวมได้เพียงเจ็ดเผ่าพันธุ์

เหตุผลเดียวที่เป็นไปได้สำหรับพวกเขาที่จะบรรลุถึงจุดนั้นก็คือพวกเขาสูญเสียจิตวิญญาณ เทพเจ้าคนสุดท้าย

เนื่องจากพวกเขาสูญเสียจิตวิญญาณของเทพเจ้า พวกเขาไม่สามารถทำตามความปรารถนาดั้งเดิมของพวกเขาในการรวมเผ่าพันธุ์หลักแปดเผ่าพันธุ์เข้าด้วยกัน

เหลือเพียงเทพเจ้าคนสุดท้ายในโลกนี้

เมื่อพวกเขาทำหายไป พวกเขาจะไม่สามารถหาได้อีกต่อไป

หยุนฉีหัวเราะ น้ำตาไหลออกจากดวงตาเขา เขาสามารถล้างแค้นได้ แต่ในทางกลับกันเขาก็สูญเสียทุกสิ่งไป และที่เลวร้ายที่สุดของทั้งหมดเขาไม่สามารถเรียกคืนทุกสิ่งที่เขาสูญเสียไปให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง

อาจารย์ …” เฉินหยานเซียวรู้สึกเศร้าขณะมองดูหยุนฉี หัวใจของเธอรู้สึกเหมือนถูกตรึงด้วยเข็ม

หยุนฉีก้มลงดวงตาของเขาเริ่มเต็มไปด้วยน้ำตา

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอันดับหนึ่งของพวกเขาได้ อย่างที่เสี่ยวเซียวกล่าวในเมื่อหลันเฟิงหลี่มีอยู่ นั่นหมายความว่าพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ เจ้าควรตระหนักว่ามันอันตรายเพียงใดที่จะปล่อยให้หลันเฟิงหลี่ไปรอบ ๆ ในสถานการณ์ปัจจุบัน หลันเฟิงหลี่ ควรเป็นผลการทดสอบที่ดีที่สุดในปัจจุบัน การสูญเสียของเขาจะทำให้พวกเขาตกใจอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมา หากพวกเขาค้นพบว่า หลันเฟิงหลี่อยู่ที่นี่ข้ากลัวว่าพวกเขาจะพยายามเอาเขากลับไปโดยไม่สนใจในวิธีการ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น