EGT 603
เก็บเกี่ยว (1)
เมื่อมองไปที่กลุ่มคนที่วิ่งหนี
เฉินหยานเซียวส่งเสียงขึ้นจมูกและเงยหน้าขึ้นมองเฟิงหวง
นกเฟิงหวงตัวผู้และตัวเมีย
ค่อย ๆ กลายเป็นเปลวไฟเมื่อพวกมันลงสู่พื้นดินและเปลี่ยนกลับไปเป็นร่างมนุษย์
ลุงจิว ตู่หลาง และคนอื่น
ๆ
ที่เฝ้าดูอยู่ด้านข้างต่างได้รับความหวาดกลัวหลังจากที่พวกเขาเห็นเฟิงหวงเปลี่ยนจากรูปร่างของสัตว์เวท
พวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาได้เห็น
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชายหนุ่มหน้าตาดีและหญิงสาวที่งดงาม
ที่อยู่ด้านข้างของเฉินหยานเซียวจะเป็นสัตว์เวทในตำนาน…เฟิงหวง?!
ในอีกมุมมอง
ตลอดการเดินทาง พวกเขาอยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ในตำนานสองตัว ...
และได้พูดคุยกับสัตว์ในตำนานสองตัว
...
นี่เป็นอะไรที่มหัศจรรย์!
“ขอบคุณมาก”
เฉินหยานเซียว มองไปที่เฟิงหวงทั้งสองแล้วยิ้มออกมา ในตอนแรก
เธอตั้งใจจะกำจัดพวกเขาเอง เธอไม่ได้คาดหวังว่าเฟิงหวง
ทั้งสองจะเริ่มทำการโจมตีก่อนและทำให้พวกเขากลัวเพื่อให้พวกเขาหนี
“ไม่เป็นไร
เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย” เฟิงหวงชายยิ้ม
อย่างมากพวกเขาเปลี่ยนเป็นรูปสัตว์เวทและไม่ได้ทำอะไรเลย
อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพราะพลังจิตวิญญาณของชูรุยนั้นแย่มาก
แต่ในทางกลับกันอาจกล่าวได้ว่า
ชูรุย เป็นคนฉลาด เขารู้ว่าถ้าพวกเขามีส่วนร่วมในการต่อสู้
แม้ว่าพวกเขาจะมีสัตว์เวทมากกว่าสองร้อยตัว
พวกเขาก็ยังไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เฟิงหวงทั้งสองต้องออกกำลังมากนัก
เฉินหยานเซียวยิ้มแล้วหันกลับมามองคนหนึ่งร้อยยี่สิบคนด้วยปากที่เปิดกว้าง
ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือทหารรับจ้าง
รูปร่างหน้าตาทั้งหมดของพวกเขาแข็งทื่อเมื่อพวกเขามองเธอราวกับว่าพวกเขามองผี
“เฮ้
เสี่ยวเซียว ทั้งสองเป็น…?” ตู่หลาง
รู้สึกว่าเขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันขณะที่เขามองดูเฟิงหวงทั้งสอง
มีการคาดเดาในหัวใจของตู่หลาง
นกเฟิงหวงสองตัวนี้เป็นนกเฟิงหวงตัวเดียวกันที่อยู่บนภูเขากู่หลัวหรือไม่
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว
เฉินหยานเซียวจัดการกับพวกมันได้อย่างไร
“นี่คือเฟิงหวงชาย
นี่คือเฟิงหวงหญิง พวกเขาคือเฟิงหวงทั้งหมด เจ้าควรเห็นพวกเขาในก่อนหน้านี้ที่ภูขากู่หลัว”
เฉินหยานเซียวไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไรเลย เธอเชื่อใจคนกลุ่มนี้จริง ๆ
เธอไม่ได้สงสัยใครที่อยู่ในกลุ่มของเธอ!
“มันเป็นสัตว์ในตำนานทั้งสองตัว
ยกโทษให้ข้า ถ้าข้าเคยทำให้เจ้าขุ่นเคืองมาก่อนหน้านี้" ตู่หลางเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขา
แม้ว่าเขาจะพยายามสงบสติอารมณ์
เขาก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับสัตว์ในตำนานทั้งสองได้อย่างใจเย็น
สำหรับคนทั่วไป
สัตว์ในตำนานก็เทียบเท่ากับตำนาน
ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการลงนามสัญญากับสัตว์ในตำนาน
แม้แต่ได้พบเห็นพวกมันก็นับว่ายากมาก
เฟิงหวงทั้งสองจำไม่ได้อย่างสมบูรณ์ว่าตู่หลางเป็นใคร
ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงเงียบและยิ้มอย่างต่อเนื่อง
"เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมข้าถึงเห็นว่าเจ้ากำลังจะต่อสู้?” ลุงจิวรู้สึกประหลาดใจอย่างลับ
ๆ ก่อนจะมองเฉินหยานเซียวด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล
เฉินหยานเซียวยักไหล่
“โดยธรรมชาติมันคือการเอาชนะพวกขยะ
ไล่พวกเขาออกไป! เจ้าคิดว่าข้าควรที่จะเชิญพวกเขาเพื่อดื่มชาสักถ้วย?”
ลุงจิวถอนหายใจแล้วพูดว่า
“คนกลุ่มนี้มาจากอาณาจักรไหน?”
“ราชวงศ์หลันเย่ว”
“เจ้า!”
ลุงจิวส่ายหัวของเขา สีหน้าของเขาดูราวกับหมดหนทาง
“มีอะไรผิดปกติ?”
เฉินหยานเซียวสังเกตเห็นท่าทางถอนหายใจของลุงจิวและตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เธอขับไล่ผู้บุกรุกออกไป
เหตุใดจึงมีร่องรอยของความไม่สบายใจและความกังวลปรากฏอยู่บนใบหน้าของลุงจิว
ลุงจิวมองดูเฉินหยานเซียวและพูดออกมาอย่างช้า
ๆ ว่า “เสี่ยวเซียวถึงแม้ว่าเจ้าทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่เวลานั้นผิด”
"ทำไมเจ้าพูดแบบนั้น?"
“อีกสามอาณาจักรมีพลังที่มั่นคงในดินแดนรกร้าง
พวกเขาได้วางรากฐานที่นี่แล้ว ดังนั้นจึงมีความแข็งแกร่งและกำลังคน
แต่เจ้านั้นแตกต่าง เจ้าเพิ่งมาที่นี่และยังคงต้องเริ่มทุกอย่างใหม่
ด้วยการกระทำที่เจ้าเพิ่งทำ
พวกเขาจะนำเจ้าไปสู่ปัญหาที่ไม่จำเป็นในอนาคตขณะที่เจ้ากำลังพยายามสร้างเมืองของเจ้าในดินแดนรกร้าง
คราวนี้แม้ว่าพวกเขาจะจากไปแล้ว
มันก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่เจ็บใจในสิ่งที่เจ้าได้ทำไป”
EGT 604
เก็บเกี่ยว (2)
“แล้วไง?”
เฉินหยานเซียวตอบกลับ
ตู่หลางมองดูลุงจิว
ก่อนที่เขาจะมองดูเฉินหยานเซียวอีกครั้ง แทนที่ลุงจิว เขาอธิบายออกไปว่า “ลุงจิว
หมายถึงกลุ่มคนที่มาที่นี่เพื่อขุดแร่ เพราะที่นี่ไม่มีเจ้าเมืองมาก่อน
คนที่เจ้าพบในวันนี้เป็นเพียงปลาซิว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะจัดการได้ง่าย
แต่ก็จะกระตุ้นพลังที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กระดูกสันหลังที่แท้จริงของพวกเขาอยู่ในเมืองหลักในดินแดนรกร้าง
เจ้าคิดว่าทุกคนที่สามารถสร้างเมืองในดินแดนรกร้าง จะเป็นแค่คนธรรมดาหรือไม่? หากพวกเขาตัดสินใจที่จะต่อต้านเจ้าจริง ๆ มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าที่จะสร้างเมืองที่นี่”
ตู่หลางและลุงจิว
ทั้งคู่ต่างประสบกับความพ่ายแพ้มามากมาย
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกทึ่งกับความแข็งแกร่งและความสามารถของเฉินหยานเซียว
แต่พวกเขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับตัวเธอเนื่องจากเธอขาดประสบการณ์และการพิจารณาในหลายเรื่อง
เรื่องของวันนี้
เฉินหยานเซียวไม่ผิดสำหรับการกระทำของเธอในฐานะเจ้าเมืองดินแดนตะวันออก
อย่างไรก็ตามความผิดพลาดยังคงเป็นข้อผิดพลาด
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพวกเขาอ่อนแอที่สุดในดินแดนรกร้าง
ผู้ที่มีรากฐานลึกอยู่แล้วที่นี่สามารถทำให้พวกเขาเดือดร้อนได้ง่าย พวกเขารู้หลายสิ่งหลายอย่างในดินแดนรกร้าง
ซึ่งต่างจากเฉินหยานเซียวที่ยังใหม่ต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นเวลา
สถานที่หรือผู้คน เฉินหยานเซียวเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง
เจ้าสามารถระงับความโกรธของเจ้าได้
หรืออย่างน้อยก็ต้องทำในเวลาที่ควรที่จะต้องทำ
ในการใช้และซ่อนความกล้าของเจ้าก็เป็นกลยุทธเช่นกัน
ตู่หลางและลุงจิวต่างก็กังวลในเวลาเดียวกัน
พวกเขายังไม่ได้เข้าเมือง แต่พวกเขาก็ยั่วยุราชวงศ์หยานหลันเย่วแล้ว
นี่ไม่ใช่ข่าวดีจริง ๆ
หากพวกเขารู้ว่าเฉินหยานเซียว
ไม่เพียงแต่ขับไล่ผู้คนออกไป แต่ยังตัดหูลูกชายของมาร์ควิส
คนสองคนนี้อาจจะบ้าไปแล้ว
“ดังนั้น
เจ้าต้องการให้ข้ากลืนความโกรธของข้า? และยอมรับพวกเขาเมื่อพวกเขาต้องการทุกสิ่งใช่หรือไม่?”
เฉินหยานเซียวมองดูตู่หลางและลุงจิว
ชายทั้งสองสามารถได้ยินเสียงที่ไม่เห็นด้วยของเฉินหยานเซียว
แต่พวกเขาก็พยักหน้าได้เท่านั้น
‘เราทำได้เพียงแค่ก้มหน้าก้มตายอมรับมัน
เพราะเราเพิ่งใหม่ในสถานที่นี้’
เฉินหยานเซียวเยาะเย้ยและกอดอก
“บางทีเจ้าพูดถูก
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ
ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อควบคุมหรือมาเพื่อดูใบหน้าของขุนนางเหล่านั้น
ข้ามาที่นี่เพื่อสร้างเมืองของตัวเองด้วยพลังของตัวเอง
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในตอนต้นหรือตอนท้าย ต้องไม่มีใครกล้ามาบีบบังคับข้า
ถ้าข้าปล่อยให้พวกเขาบุกรุกตั้งแต่ตอนนี้จากนั้นข้าก็สามารถรับประกันได้ว่าเมืองของข้าจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้น”
เฉินหยานเซียวมองดูตู่หลางและลุงจิวแล้วพูดว่า
“สิ่งที่เจ้าพูดมาในก่อนหน้านี้เป็นที่เข้าใจของผู้คนมากมาย
และข้าแน่ใจว่าผู้คนจากจักรวรรดิหลงซวนที่มาที่นี่ก่อนหน้านี้ได้ตามสิ่งที่เจ้าพูดด้วย
แต่ผลลัพธ์ก็คือพวกเขายังคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้”
เฉินหยานเซียวจ้องมองเมฆมืดเหนือศีรษะเธอแล้วพูดต่อ
“ที่จริง ไม่ว่าข้าจะเชื่อฟังหรือต่อต้านพวกเขา
พลังของอีกสามอาณาจักรก็จะไม่ยอมให้ จักรวรรดิหลงซวนสร้างเมืองในดินแดนรกร้าง
พวกเขาคุ้นเคยกับการใช้ทรัพยากรของภูมิภาคตะวันออกเพื่อการใช้งานของตนเอง
ดังนั้นพวกเขาจะอนุญาตให้คนที่เป็นเจ้าของพื้นที่นี้มาตั้งรกรากที่นี่จริง ๆ? ดังนั้นไม่ว่าทัศนคติของข้าจะเป็นยังไงก็ตาม
พวกเขายังคงขัดขวางไม่ให้ข้าสร้างเมือง”
“นั่นเป็นสาเหตุที่ดีกว่าที่จะต้องทนทุกข์อยู่ในความเงียบ
มันดีกว่าที่จะกระโดดออกไปเดี๋ยวนี้และเตือนพวกเขาว่า ข้า เฉินหยานเซียว
จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้าย ดังนั้นหากพวกเขาต้องการเริ่มทำการต่อสู้ พวกเขาจะต้องชั่งน้ำหนักและวัดความแข็งแกร่งของพวกเขาก่อน”
คำพูดที่ยาวนานของเฉินหยานเซียว ทำให้ตู่หลางและลุงจิวรู้สึกแปลกใจมาก
ความคิดของเฉินหยานเซียวนั้นลึกซึ้งกว่าพวกเขามาก
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็กน้อยจะพูดได้!
EGT 605
เก็บเกี่ยว (3)
อันที่จริงแล้วมันก็เป็นอย่างที่เฉินหยานเซียวพูด
แม้ว่าความกังวลของลุงจิวและตู่หลางก็สมเหตุสมผล ถ้าพวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขาพูด
กองกำลังของอีกสามอาณาจักรอาจจะไม่อนุญาตให้พวกเขาสร้างเมืองขึ้นใหม่ได้สำเร็จ
ทำและไม่ทำผลที่ได้ก็ย่อมเป็นเหมือนกัน
แล้วทำไมต้องกลืนความโกรธของพวกเขาตั้งแต่ต้น?
การกลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอและหวาดกลัวผู้ที่แข็งแกร่งคือนิสัยตามธรรมชาติของมนุษยชาติ
หากเธอไม่ได้ทำอะไรในวันนี้และเพียงแค่ดู
ราชวงศ์หลันเย่วมาปล้นทรัพยากรของเธออย่างไร้ประโยชน์ จากนั้นในอนาคตบริเวณนี้จะกลายเป็นเป้าหมายของกองกำลังอื่น
อย่างไรก็ตาม
เฉินหยานเซียวได้ลงมือทำวันนี้และสัตว์ในตำนานสองตัวอยู่ข้างเธอ
การดำรงอยู่ของสัตว์ในตำนานสองตัวก็เพียงพอสำหรับกองกำลังอีกสามอาณาจักรที่จะต้องชั่งน้ำหนักสถานการณ์ก่อน
แม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะรุกรานเธอ พวกเขาก็จะต้องคำนวนแต่ละก้าวก่อน
ไม่งั้นมันก็จะเป็นความพยายามเพื่อที่จะได้รับผลประโยชน์เท่านั้น
ก่อนที่จะตกลงไปในสถานการณ์ที่แย่ลงไปกว่าเดิม
กำไรของพวกเขาก็จะไม่สามารถชดเชยความสูญเสียได้
“สิ่งที่เจ้าเพิ่งพูดมาก็มีเหตุผล
มันเป็นวิสัยทัศน์ของข้าที่สั้นเกินไป” ลุงจิวถอนหายใจเล็กน้อย
เขาแก่มากและไร้ประโยชน์ลงไปมากในทุกวันนี้
เฉินหยานเซียวหัวเราะ
“ลุงจิวและพี่ใหญ่ตู่มีประสบการณ์มากมาย
ข้ายังต้องพึ่งพาเจ้าทั้งคู่ในการสร้างเมืองขึ้นใหม่ในอนาคต ข้าเป็นคนใจร้อน
ข้าไม่ต้องการให้ทรายเข้ามาในดวงตาของข้า สักวันหนึ่ง ที่เลวร้ายที่สุดเจ้าจะเป็นเจ้าเมืองที่อยู่ภายใน
ในขณะที่ข้าจะเป็นเจ้าเมืองเพียงแค่ด้านหน้า
มันเป็นอย่างไร?”
คำพูดของเฉินหยานเซียว
ทำให้ตู่หลางและลุงจิว ดีใจ รูปแบบการดำเนินการที่เข้มงวดและระมัดระวังของ
เฉินหยานเซียว อาจเหมาะสมกว่าสำหรับดินแดนรกร้างนี้
“มีสิ่งหนึ่งที่ข้าคิดว่ามันแปลก
กองกำลังของราชวงศ์หลันเย่วอยู่ทางทิศใต้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ติดกับภูมิภาคตะวันออก
แต่ถ้าหากมาจากเมืองของพวกเขา มันก็ยังมีระยะทางที่แน่นอน
ดินแดนรกร้างเต็มไปด้วยปีศาจ แล้วพวกเขาจะมาที่นี่ได้อย่าง ปลอดภัยได้อย่างไร?
เราไม่เห็นนักสู้ที่แข็งแกร่งและมีพลังในหมู่พวกเขา
พวกเขามาถึงอย่างปลอดภัยได้อย่างไรและพวกเขาสร้างหลุมขนาดใหญ่เพื่อขุดแร่ได้อย่างไร”
ดินแดนรกร้างเป็นดินแดนที่มีขนาดใหญ่มาก ถึงแม้จะอยู่ระหว่างพื้นที่ใกล้เคียง
แต่มันก็ยังเป็นระยะทางที่ยาวไกล
มันยากเกินกว่าที่จะก้าวไปในสถานที่อันตรายเช่นนี้โดยไม่ได้รับการปกป้องจากสัตว์เวทอันดับสูงและแข็งแกร่ง
“นี่ข้าไม่รู้
แต่เนื่องจากพวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ในดินแดนรกร้าง
พวกเขาย่อมต้องรู้วิธีการเอาชีวิตรอด” ลุงจิวมองหาแนวคิดบางอย่างในใจ
แต่ก็ยังไม่พบคำตอบที่ถูกต้อง
“เราควรทำอะไรกับสิ่งเหล่านี้?”
ตู่หลางเดินไปที่ด้านข้างของเหมืองแล้วมองดูเกวียนขนหินอัคนีและกระโจมว่างเปล่าที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
“ทำความสะอาดและนำออกไป”
ในขณะที่เธอพูดสิ่งนี้ เฉินหยานเซียว
มอบแหวนสำหรับการจัดเก็บที่ว่างเปล่าให้กับตู่หลาง
เนื่องจากพวกเขาใจดีมากที่ช่วยขุดหินอัคนีไว้ให้เธอ
เธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ต้องการพวกมันใช่ไหม?
หลังจากสั่งการลงไป
กลุ่มคนเริ่มยุ่งอยู่นอกเหมือง เฉินหยานเซียวเดินไปที่กระโจมร้าง
ยังคงมีหม้อเนื้อบนกองไฟ เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นเพิ่งจะกินอิ่มเมื่อพวกเขาหนีไป
เฉินหยานเซียวสั่งให้ชาวบ้านค้นหาสิ่งของมีค่าในกระโจมเหล่านี้
เธอไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยของมีค่าอะไรทิ้งไว้ที่เบื้องหลัง
เกวียนหลายคันถูกเก็บเข้าไปในแหวน
สิ่งของส่วนใหญ่ภายในกระโจมเป็นอาหารและเครื่องมือ อาหารได้ถูกแจกจ่ายให้คนอื่น
หลังจากเก็บเครื่องมือเข้าไปในแหวนมิติแล้ว
เฉินหยานเซียวก็ไม่ได้สนใจที่จะเอากระโจมออก
ไม่กี่วินาทีต่อมา
หมาป่าหินก็ออกมาจากกระโจมพร้อมกระสอบที่สูงเท่ากับครึ่งคน
“ข้าไม่พบสิ่งที่น่าสนใจอื่น
ๆ แต่สิ่งที่อยู่ในกระสอบนี้ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร”
“เปิดดู
แล้วมาดูกันว่ามันคืออะไร” เฉินหยานเซียวรู้สึกไม่พอใจกับการเก็บเกี่ยวในวันนี้
ในฐานะบุตรชายของมาร์ควิส เป็นไปได้อย่างไรที่ชูรุยจะไม่มีเครื่องประดับทองคำและอัญมณี?
หมาป่าหินเปิดกระสอบ
และพวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร กับกลิ่นแปลก ๆ ที่ลอยออกมาจากกระสอบ
ขอบคุณมากครับ
ตอบลบ