เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

EGT 423-425 กล้าที่จะท้าประลองหรือไม่?



EGT 423 กล้าที่จะท้าประลองหรือไม่? (1)


เฉินหยานเซียว หยุดแล้วหันกลับมามอง ถังนาจื่อ ที่จับแขนเธอเอาไว้แน่น ทันใดนั้นความโกรธของเธอก็อ่อนลงและใบหน้าของเธอก็ยิ้มออกมา

ถังนาจื่อ รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งและมองดูใบหน้าของเฉินหยานเซียว อย่างสงสัย เป็นไปได้ไหมว่าเขาสามารถสงบกระต่ายตัวน้อยที่กำลังจะระเบิดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา?

เฉินหยานเซียวเผยรอยยิ้มอันแสนหวานแก่เขาก่อนที่เธอจะค่อยๆยกมือของเธอขึ้นมาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากของถังนาจื่อ

"อ่อนแอ"

"ตุบ!"

ถังนาจื่อ รู้สึกว่าตัวเองโดนก้อนหินก้อนใหญ่ทับลงไปในทันที ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนพื้นพร้อมทั้งแขนและขาของเขาแผ่กว้าง เขาจะลืมได้อย่างไรว่ากระต่ายตัวน้อยนี้นอกจากตัวตนของเธอในฐานะนักปรุงยาแล้ว เธอยังเป็นนักเวทมนต์ดำ

หลังจากนั้นเฉินหยานเซียวหันหลังและเดินออกจากบ่อน ทิ้งถังนาจื่อที่คร่ำครวญออกมาด้วยความทุกข์ร้อน

ในสาขานักปรุงยาของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน

ชางกวนเสี่ยวนั่งอยู่ในหอคัมภีร์ ที่นั่งถัดจากเขาเป็นเด็กหนุ่มรูปงามผู้ที่มาจากแดนไกล

คราวนี้ เห็นทีต้องขอบคุณเจ้า ลั่วฟาน ที่ในที่สุด ข้าก็สามารถจัดการทำให้ถังนาจื่อออกจากสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานไปได้” ชางกวนเสี่ยวซึ่งมักหยิ่งยโสมีกล่าวออกมา

ผู้เยาว์ที่นั่งข้างเขาเป็นศิษย์สาขานักปรุงยาของสำนักยีต - ลั่วฟาน

ถ้าที่สำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน ชางกวนเสี่ยวเป็นศิษย์ที่โดดเด่นเพียงคนเดียว มันก็อาจกล่าวได้ว่า ลั่วฟาน เป็นนักปรุงยาที่ฉลาดและดีที่สุดในทุกสำนักที่มีภายในราชวงศ์หลันเย่วทั้งหมด ด้วยอายุเพียงสิบเก้าปี เขามีคุณสมบัติที่จะเป็นนักปรุงยาอาวุโสแล้ว

ความสามารถตามธรรมชาติดังกล่าว มันน่าละอายใจสำหรับนักปรุงยาคนอื่น ๆ ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้จนแทบตาย

ลั่วฟาน ยิ้มบาง ๆ ออกมาและพูดอย่างไม่เห็นด้วย "สำหรับชัยชนะกับคนขยะที่คิดว่าเขาสามารถเป็นนักปรุงยาได้ เขาดูจะประเมินความสามารถของเขามากเกินไป ชางกวน เจ้าก็ด้วย เหตุใดจึงถือเป็นเรื่องจริงจังเช่นนี้? ข้าสามารถเห็นได้ว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานนั้นก็มีสถานะแค่ปานกลาง ถ้าไม่ใช่ว่าที่สำนักแห่งนี้มีผู้เชี่ยวชาญปรุงยาสองสามคน สำนักแห่งนี้ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกของนักปรุงยา นอกเหนือจากเจ้า มันก็ไม่มีใครในสาขานักปรุงยาทั้งหมดของเจ้าที่จะอยู่ในสายตาของข้า"

ชางกวนเสี่ยวยิ้มพร้อมกับที่รู้สึกอับอาย เหตุผลที่ สำนักยีตส่งศิษย์มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็เพื่อที่จะได้เรียนกับอาจารย์หลายคน ในฐานะศิษย์ปรุงยาที่มีระดับสูงสุด ลั่วฟาน ได้ทำงานกับอาจารย์หลายคนในหอคัมภีร์ เมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับการวิจัยทางนักปรุงยาใหม่ ๆ ลั่วฟาน ยินดีที่จะไว้หน้าชางกวนเสี่ยวบางส่วน เพราะเห็นแก่ปูหลีซือ เขาเพียงแต่ดูถูกส่วนที่เหลือของสาขานักปรุงยา

เหตุผลที่เขายื่นมือช่วยมาทั้งหมดก็เพื่อไว้หน้าของปู่ปูหลีซือ

มันแค่เพียงว่า ลั่วฟานค่อนข้างรู้สึกหดหู่ แม้ว่าปูหลีซือจะเป็นนักปรุงยาที่ทรงพลัง แต่คนที่เขาต้องการพบจริง ๆ ก็คือนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิหลงซวน - เย่ชิง แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขายังคงขอร้องซ้ำ ๆ เพื่อเข้าพบกับอาจารย์เย่ชิง แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิมเสมอ เขาจะถูกบอกให้ออกไปและกลับมาอีกครั้งในครั้งต่อไปด้วยเหตุผลหลายประการ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เข้าพบเย่ชิง

โอ้ ใช่แล้ว เจ้าพูดถึง เฉินจิว ในครั้งที่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ข้ายังไม่เห็นเงาของเขา ข้าอยากเห็นว่าคนแบบไหนที่สามารถทำให้เย่ชิงผู้ยิ่งใหญ่โปรดปรานเขาได้”

หลังจากที่ไม่ได้พบเย่ชิง จากความพยายามหลายครั้ง มันทำให้อารมณ์ของ ลั่วฟาน แย่มาก เขาได้ยินจากชางกวนเสี่ยวว่า เย่ชิงยอมรับศิษย์ชั้นปีแรกจากสาขานักปรุงยาในฐานะศิษย์ของเขาอย่างไม่คาดคิด และเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สาขานักปรุงยาของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน จะมีศิษย์เพียงไม่กี่คนและมีเพียงชางกวนเสี่ยว เท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ต่อหน้าลั่วฟาน ส่วนที่เหลือของสาขานักปรุงยาต่างล้วนเป็นขยะ แต่สำหรับใครบางคนที่ทำให้เย่ชิงถึงกลับยอมรับนั้นมันทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ





EGT 424 กล้าท้าประลองหรือไม่? (2)


เมื่อพูดถึง เฉินจิว แล้ว สีหน้าของชางกวนเสี่ยวก็เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียดในทันที

ใครจะไปรู้ว่าสารเลวผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในตอนนี้ เกือบหนึ่งเดือนแล้วและข้ายังไม่ได้ยินข่าวคราวจากเขาเลย” เขาครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เฉินหยานเซียวทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าผู้คนในการแข่งขันเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

"อย่างไรก็ตามเขาอยู่ในระดับเดียวกับนักปรุงยาระดับกลางมากที่สุด เขาไม่ได้เป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับเจ้า"

ลั่วฟาน เปิดเผยรอยยิ้มที่หยิ่งผยองออกมา

ข้าไม่ได้เห็นเด็กผู้นั้นในสายตาของข้า เพียงแค่การบดขยี้เขา มันจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญเย่รู้ว่าศิษย์ที่เขาเลือกในก่อนหน้านี้เป็นเพียงเศษขยะ และข้าก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขา” ลั่วฟานประสบสำเร็จในระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เขาเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบร้อยปีในทวีปคังหมิง และอัจฉริยะเช่นนี้ต้องการอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีความสามารถเพียงพอ

อาจารย์ที่ปรึกษาจาก สำนักยีต ไม่สามารถสอนเขาได้มากขึ้น ดังนั้นเขาจึงต้องการ เย่ชิง ให้มาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาเนื่องจากเย่ชิงเป็นคนเดียวที่เข้าใกล้ที่จะเป็นนักปรุงยาระดับผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์ในทวีปคังหมิง

และเขาจะไม่อนุญาตให้ใครปล้นโอกาสนี้ไปจากเขาอย่างแน่นอน

นี่คือสาเหตุที่ ลั่วฟาน ใช้พลังงานของเขาเพื่อช่วยชางกวนเสี่ยวจัดการกับเฉินหยานเซียว ไม่เพียงแต่เขาจะทำสิ่งที่ดีแก่ปูหลีซือเท่านั้น เขายังสามารถปล้นอาจารย์ที่ปรึกษาของขยะได้ด้วย เขาจะกำจัดเฉินจิวโดยสมบูรณ์เพื่อให้เยชิงตระหนักว่าเขาเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นศิษย์ของเขา

"แน่นอน เมื่อมองไปทั่วทั้งทวีปคังหมิงทั้งหมด ใครที่จะสามารถกระทบไหล่กับเจ้าในเรื่องของการปรุงยา เฉินจิวเป็นเพียงตัวตลก ผู้หนึ่งเท่านั้น" ชางกวนเสี่ยวกล่าวอย่างโกรธเคือง เมื่อพวกเขามีศัตรูร่วมกัน

ในขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดจาดูถูกเฉินหยานเซียว พร้อมกับกำลังจินตนาการถึงอนาคตที่สดใสของพวกเขา ในขณะนั้นคนที่หายตัวไปนานเกือบหนึ่งเดือนก็มาปรากฏตัวที่หอคัมภีร์สาขานักปรุงยาอย่างเงียบ ๆ

ศิษย์ที่กำลังอ่านคัมภีร์ภายในหอคัมภีร์ต่างพากันประหลาดใจ พวกเขาเผยสีหน้าแปลก ๆ ออกมา หลังจากเห็นร่างที่ก้าวเข้ามาอย่างดุดัน

"รุ่นพี่ชางกวนเสี่ยวอยู่ที่นี่หรือไม่?" ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่งของเฉินหยานเซียว ได้ดังเข้าหูของคนสองคนที่อยู่ท่ามกลางการสนทนาอย่างเยือกเย็น

ชางกวนเสี่ยวยืนขึ้นในทันที เขาจ้องมองไปที่ เฉินหยานเซียว ผู้ซึ่งนำความอัปยศมาให้เขานับไม่ถ้วน!

เฉินจิวในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว" ชางกวนเสี่ยวพูดออกมาภายใต้ฟันที่กัดแน่น

ลั่วฟาน รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเด็กชายตัวเล็กและผอมบาง เขาจินตนาการถึงสิ่งที่ศิษย์ใหม่ผู้ที่สามารถเอาชนะชางกวนเสี่ยวได้ว่าจะมีลักษณะอย่างไร แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกับที่เขาจิตนาการไว้

เฉินจืวภายใต้รูปลักษณ์ขิงเด็กอายุสิบสามปี ด้วยใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไม่ได้สวยงาม ชวนประทับใจ เขาจะไม่มีวันดึงดูดความสนใจของใคร ถ้าเขาถูกโยนลงไปในฝูงชน

นี่เป็นศิษย์ของ เย่ชิง? ศิษย์ใหม่ที่สามารถเอาชนะชางกวนเสี่ยว

ในที่สุดลั่วฟาน ก็เข้าใจว่าทำไมชางกวนเสี่ยวถึงโกรธในความพ่ายแพ้ของเขาเอง

ความพ่ายแพ้นั้นไม่น่ากลัวสำหรับนักปรุงยา หากแต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือ ชางกวนเซียวแพ้ให้กับเด็กที่อายุน้อยกว่าเขามาก อีกทั้งรูปลักษณ์ทั้งหมดไม่มีจุดโดดเด่นใด ๆ เลยซึ่งสำหรับนักปรุงยาทุกคน นี่ถือว่าเป็นความอัปยศอดสู

ศิษย์ชั้นนำที่มีเกียรติของสาขานักปรุงยาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเด็กเหลือขอตัวน้อยที่ยังไม่โตเต็มที่ มันทำให้ผู้คนหัวเราะจนฟันของพวกเขาอาจที่จะร่วงลงมา

ถ้ามันเป็นนักปรุงยาที่แก่เท่ากับชางกวนเสี่ยว บางทีชางกวนเสี่ยวอาจที่จะสามารถทนกับสิ่งนี้ได้

"เจ้าคือ เฉินจิว?" ลั่วฟานหรี่ตามองเด็กน้อยที่ด้านหน้าของเขา ถ้าไม่ใช่เพราะชางกวนเสี่ยวเรียกชื่อของเขาออกมา เขาก็อาจที่จะไม่สามารถเชื่อมโยงเด็กคนนี้ที่ยืนต่อหน้าเขากับเฉินจิวที่ปรากฏในข่าวลือได้





EGT 425 กล้าท้าปะลองหรือไม่? (3)


เฉินหยานเซียว กวาดสายตาไปที่ ลั่วฟาน ในลักษณะที่ไม่รีบร้อนและเย็นชา

"เจ้าเป็นใคร?"

ลั่วฟานกล่าวว่า "ข้าคือ ลั่วฟานมาจากสาขานักปรุงยาของสำนักยีต"

"มันกลายเป็นเจ้า" เฉินหยานเซียวเย้ยหยันออกมา

ดีมาก เจอพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ช่วยให้เธอประหยัดเวลาในการตามหาได้มาก ลั่วฟานขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงของ เฉินหยานเซียวทำให้เขาอึดอัดมาก

"รุ่นพี่ชางกวนเสี่ยว ไม่ใช่ว่าเจ้าตามหาข้าไปทั่วในก่อนหน้าหรือไม่ ในตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว"

เฉินหยานเซียว ละสายตาของเธอจากใบหน้าของลั่วฟาน และหันไปจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของชางกวนเสี่ยว

"ดี ดีมาก! เจ้ากลับมาแล้ว ดีมาก!" ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่หยิ่งหรือสีหน้าที่แย่มาก ชางกวนเสี่ยว ในความเป็นจริงต้องการที่จะตบหน้าสารเลวน้อยในเวลานี้อย่างมาก

"ข้าได้ยินมาว่า รุ่นพี่ชางกวนเสี่ยวยังเพลิดเพลินกับความพ่ายแพ้ในครั้งที่แล้วไม่พอ และต้องการที่จะท้าประลองกับข้าอีกครั้ง?" เฉินหยานเซียวถามออกไป

สนุกเพลิดเพลินกับความพ่ายแพ้ครั้งที่แล้ว... ชางกวนเสี่ยวเกือบจะกระอักออกมาเป็นเลือด

เจ้าเด็กเหลือขอ อย่าหยิ่งให้มันมากเกินไปนัก เจ้าก็แค่โชคดีที่ได้รับชัยชนะในครั้งก่อน มันต้องขอบคุณอาจารย์เย่”

หลังจากแพ้การแข่งขันชางกวนเสี่ยวก็รู้สึกตกต่ำเป็นเวลานาน เขายังคงสงสัยว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับรุ่นน้องได้อย่างไร หลังจากไตร่ตรองเรื่องนี้เป็นเวลานาน เขาพบว่าตัวเองมีเหตุผลสมบูรณ์แบบ

มันเป็นเพราะเย่ชิง! เฉินหยานเซียวเป็นศิษย์ของเย่ชิง ยาที่เขาใช้ในการแข่งขันคือยาปลอมความตาย ที่เย่ชิงได้ทำการวิจัย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แพ้ให้กับเฉินหยานเซียว หากแต่เป็นอาจารย์เย่ชิง! ชัยชนะของเฉินหยานเซียวเป็นเพียงแค่ความโชคดี

"โอ้?" เฉินหยานเซียว หัวเราะเสียงดัง ก่อนมองไปยังทิศทางของ ลั่วฟาน

"ข้าไม่ได้อยู่ในสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานมานานเกือบเดือน ข้าได้ยินมาว่าในช่วงเวลานั้น นอกจากรุ่นพี่ชางกวนเสียวและแขกผู้มาเยือนจากดินแดนที่ห่างไกล ดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับการแข่งขันกับข้า"

ลั่วฟานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดูสุภาพว่า

"ข้าได้ยินชางกวนเสี่ยวพูดในก่อนหน้านี้ว่า เจ้ามีทักษะอยู่บ้างเล็กน้อย แต่หลังจากที่ได้พบกับเจ้าในวันนี้ ข้ารู้สึกว่าจริง ๆ แล้ว เจ้าก็คงไม่ได้เก่งเท่ากับชื่อเสียงอันโด่งดังเช่นที่กล่าวไว้ในข่าวลือ และเจ้าก็น่าจะอยู่ในระดับปานกลางเหมือนคนอื่น"

เขาเกลียดดวงตาของเด็กน้อยผู้นี้ ราวกับว่าในสายตาของเขา เขาเป็นเพียงแค่มด ไม่มีอะไรนอกจากนั้น

"เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าสองคนกล้าที่จะท้าประลองกับข้าหรือไม่?" เฉินหยานเซียว เยาะเย้ย

ไม่ว่าจะเป็น ลั่วฟาน หรือ ชางกวนเสี่ยว หรือแม้แต่ ปูหลีซือ เนื่องจากพวกเขากล้าที่จะเล่นสกปรกกับเธอ เธอจะไม่ยอมปล่อยพวกเขาแม้แต่คนเดียว เธอจะบอกให้พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่าคนบางคนไม่สามารถถูกยั่วยุได้ด้วยคนโง่!

ลั่วฟานและชางกวนเสี่ยวต่างสบตากัน พวกเขาไม่คิดว่า ก่อนที่พวกเขาจะท้าทายออกไป เฉินหยานเซียวกลับเป็นคนที่ผลักดันตัวเองให้ก้าวออกมา ลั่วฟานมองไปที่เฉินหยานเซียวด้วยแววตาที่ดูเหยียดหยันในทันที

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมชางกวนเสี่ยวถึงพ่ายแพ้ในอดีต แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กอายุ 13 ปี ความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน? ในทางกลับกัน เขาเป็นอัจฉริยะนักปรุงยาที่หาได้ยากในทวีปคังหมิง!

ชายผู้นี้กลับกล้าที่จะท้าทายเขาจริง ๆ ราวกับเป็นคนโง่ที่ไม่รู้! ชางกวนเสี่ยวหัวเราะมากยิ่งขึ้น ความสามารถของเฉินหยานเซียว อาจเทียบเคียงกับเขาได้ แต่กับลั่วฟานที่อยู่ด้านหน้า เขาไม่มีค่าที่จะต้องพูดถึง เด็กคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ถึงความทรงพลังของลั่วฟานว่ามีมากเพียงใด สำหรับเขาที่จะกล้าท้าทายพวกเขาพร้อมกันทั้งคู่ มันก็เป็นเช่นการแสดงออกถึงความประมาท

"ดี เอาตามที่เจ้าพูด เราจะทำมัน" ชางกวนเสี่ยวอยากที่จะเห็นนความผิดหวังของ้ขา

อย่างไรก็ตามเขาล้มเหลวที่จะเห็นแววตาเช่นนั้น กลับกลายเป็นว่าแววตาที่ชัดเจนของเฉินหยานเซียวนั่นกำลังเปล่งประกายแสงชั่วร้ายออกมาในในขณะนี้

"เนื่องจากเป็นการท้าประลองระหว่างนักปรุงยา โดยธรรมชาติ เราย่อมทำการแข่งขันการปรุงยา แต่วิธีการธรรมดานั้นก็น่าเบื่อเกินไป ดังนั้นเราจึงอาจแข่งขันกีนด้วยวิธีการใหม่" เสียงของ หยานเซียว เป็นเหมือนปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในตอนกลางคืน ล่อลวงให้คนโง่เขลาเข้าไปในห้วงเหวลึกทีละก้าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น