EGT 423
กล้าที่จะท้าประลองหรือไม่? (1)
เฉินหยานเซียว
หยุดแล้วหันกลับมามอง ถังนาจื่อ ที่จับแขนเธอเอาไว้แน่น
ทันใดนั้นความโกรธของเธอก็อ่อนลงและใบหน้าของเธอก็ยิ้มออกมา
ถังนาจื่อ
รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งและมองดูใบหน้าของเฉินหยานเซียว อย่างสงสัย
เป็นไปได้ไหมว่าเขาสามารถสงบกระต่ายตัวน้อยที่กำลังจะระเบิดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา?
เฉินหยานเซียวเผยรอยยิ้มอันแสนหวานแก่เขาก่อนที่เธอจะค่อยๆยกมือของเธอขึ้นมาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากของถังนาจื่อ
"อ่อนแอ"
"ตุบ!"
ถังนาจื่อ
รู้สึกว่าตัวเองโดนก้อนหินก้อนใหญ่ทับลงไปในทันที ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่บนพื้นพร้อมทั้งแขนและขาของเขาแผ่กว้าง
เขาจะลืมได้อย่างไรว่ากระต่ายตัวน้อยนี้นอกจากตัวตนของเธอในฐานะนักปรุงยาแล้ว
เธอยังเป็นนักเวทมนต์ดำ
หลังจากนั้นเฉินหยานเซียวหันหลังและเดินออกจากบ่อน
ทิ้งถังนาจื่อที่คร่ำครวญออกมาด้วยความทุกข์ร้อน
ในสาขานักปรุงยาของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน
ชางกวนเสี่ยวนั่งอยู่ในหอคัมภีร์
ที่นั่งถัดจากเขาเป็นเด็กหนุ่มรูปงามผู้ที่มาจากแดนไกล
“คราวนี้
เห็นทีต้องขอบคุณเจ้า ลั่วฟาน ที่ในที่สุด
ข้าก็สามารถจัดการทำให้ถังนาจื่อออกจากสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานไปได้”
ชางกวนเสี่ยวซึ่งมักหยิ่งยโสมีกล่าวออกมา
ผู้เยาว์ที่นั่งข้างเขาเป็นศิษย์สาขานักปรุงยาของสำนักยีต
- ลั่วฟาน
ถ้าที่สำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน
ชางกวนเสี่ยวเป็นศิษย์ที่โดดเด่นเพียงคนเดียว มันก็อาจกล่าวได้ว่า ลั่วฟาน
เป็นนักปรุงยาที่ฉลาดและดีที่สุดในทุกสำนักที่มีภายในราชวงศ์หลันเย่วทั้งหมด
ด้วยอายุเพียงสิบเก้าปี เขามีคุณสมบัติที่จะเป็นนักปรุงยาอาวุโสแล้ว
ความสามารถตามธรรมชาติดังกล่าว
มันน่าละอายใจสำหรับนักปรุงยาคนอื่น ๆ ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้จนแทบตาย
ลั่วฟาน ยิ้มบาง ๆ
ออกมาและพูดอย่างไม่เห็นด้วย "สำหรับชัยชนะกับคนขยะที่คิดว่าเขาสามารถเป็นนักปรุงยาได้
เขาดูจะประเมินความสามารถของเขามากเกินไป ชางกวน เจ้าก็ด้วย
เหตุใดจึงถือเป็นเรื่องจริงจังเช่นนี้? ข้าสามารถเห็นได้ว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานนั้นก็มีสถานะแค่ปานกลาง
ถ้าไม่ใช่ว่าที่สำนักแห่งนี้มีผู้เชี่ยวชาญปรุงยาสองสามคน สำนักแห่งนี้ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกของนักปรุงยา
นอกเหนือจากเจ้า
มันก็ไม่มีใครในสาขานักปรุงยาทั้งหมดของเจ้าที่จะอยู่ในสายตาของข้า"
ชางกวนเสี่ยวยิ้มพร้อมกับที่รู้สึกอับอาย
เหตุผลที่ สำนักยีตส่งศิษย์มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็เพื่อที่จะได้เรียนกับอาจารย์หลายคน
ในฐานะศิษย์ปรุงยาที่มีระดับสูงสุด ลั่วฟาน ได้ทำงานกับอาจารย์หลายคนในหอคัมภีร์
เมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับการวิจัยทางนักปรุงยาใหม่ ๆ ลั่วฟาน
ยินดีที่จะไว้หน้าชางกวนเสี่ยวบางส่วน เพราะเห็นแก่ปูหลีซือ
เขาเพียงแต่ดูถูกส่วนที่เหลือของสาขานักปรุงยา
เหตุผลที่เขายื่นมือช่วยมาทั้งหมดก็เพื่อไว้หน้าของปู่ปูหลีซือ
มันแค่เพียงว่า
ลั่วฟานค่อนข้างรู้สึกหดหู่ แม้ว่าปูหลีซือจะเป็นนักปรุงยาที่ทรงพลัง แต่คนที่เขาต้องการพบจริง
ๆ ก็คือนักปรุงยาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิหลงซวน - เย่ชิง
แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขายังคงขอร้องซ้ำ ๆ เพื่อเข้าพบกับอาจารย์เย่ชิง
แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิมเสมอ
เขาจะถูกบอกให้ออกไปและกลับมาอีกครั้งในครั้งต่อไปด้วยเหตุผลหลายประการ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เข้าพบเย่ชิง
“โอ้ ใช่แล้ว
เจ้าพูดถึง เฉินจิว ในครั้งที่แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ ข้ายังไม่เห็นเงาของเขา
ข้าอยากเห็นว่าคนแบบไหนที่สามารถทำให้เย่ชิงผู้ยิ่งใหญ่โปรดปรานเขาได้”
หลังจากที่ไม่ได้พบเย่ชิง
จากความพยายามหลายครั้ง มันทำให้อารมณ์ของ ลั่วฟาน แย่มาก
เขาได้ยินจากชางกวนเสี่ยวว่า
เย่ชิงยอมรับศิษย์ชั้นปีแรกจากสาขานักปรุงยาในฐานะศิษย์ของเขาอย่างไม่คาดคิด
และเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สาขานักปรุงยาของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน
จะมีศิษย์เพียงไม่กี่คนและมีเพียงชางกวนเสี่ยว เท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ต่อหน้าลั่วฟาน
ส่วนที่เหลือของสาขานักปรุงยาต่างล้วนเป็นขยะ
แต่สำหรับใครบางคนที่ทำให้เย่ชิงถึงกลับยอมรับนั้นมันทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ
EGT 424
กล้าท้าประลองหรือไม่? (2)
เมื่อพูดถึง เฉินจิว
แล้ว สีหน้าของชางกวนเสี่ยวก็เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียดในทันที
“ใครจะไปรู้ว่าสารเลวผู้นั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในตอนนี้
เกือบหนึ่งเดือนแล้วและข้ายังไม่ได้ยินข่าวคราวจากเขาเลย”
เขาครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่เฉินหยานเซียวทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าผู้คนในการแข่งขันเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
"อย่างไรก็ตามเขาอยู่ในระดับเดียวกับนักปรุงยาระดับกลางมากที่สุด
เขาไม่ได้เป็นอะไรเลยเมื่อเทียบกับเจ้า"
ลั่วฟาน
เปิดเผยรอยยิ้มที่หยิ่งผยองออกมา
“ข้าไม่ได้เห็นเด็กผู้นั้นในสายตาของข้า
เพียงแค่การบดขยี้เขา
มันจะทำให้ผู้เชี่ยวชาญเย่รู้ว่าศิษย์ที่เขาเลือกในก่อนหน้านี้เป็นเพียงเศษขยะ และข้าก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขา”
ลั่วฟานประสบสำเร็จในระดับนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า
เขาเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบร้อยปีในทวีปคังหมิง
และอัจฉริยะเช่นนี้ต้องการอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีความสามารถเพียงพอ
อาจารย์ที่ปรึกษาจาก
สำนักยีต ไม่สามารถสอนเขาได้มากขึ้น ดังนั้นเขาจึงต้องการ เย่ชิง
ให้มาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาเนื่องจากเย่ชิงเป็นคนเดียวที่เข้าใกล้ที่จะเป็นนักปรุงยาระดับผู้เชี่ยวชาญศักดิ์สิทธิ์ในทวีปคังหมิง
และเขาจะไม่อนุญาตให้ใครปล้นโอกาสนี้ไปจากเขาอย่างแน่นอน
นี่คือสาเหตุที่
ลั่วฟาน ใช้พลังงานของเขาเพื่อช่วยชางกวนเสี่ยวจัดการกับเฉินหยานเซียว
ไม่เพียงแต่เขาจะทำสิ่งที่ดีแก่ปูหลีซือเท่านั้น
เขายังสามารถปล้นอาจารย์ที่ปรึกษาของขยะได้ด้วย เขาจะกำจัดเฉินจิวโดยสมบูรณ์เพื่อให้เยชิงตระหนักว่าเขาเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นศิษย์ของเขา
"แน่นอน
เมื่อมองไปทั่วทั้งทวีปคังหมิงทั้งหมด
ใครที่จะสามารถกระทบไหล่กับเจ้าในเรื่องของการปรุงยา เฉินจิวเป็นเพียงตัวตลก
ผู้หนึ่งเท่านั้น" ชางกวนเสี่ยวกล่าวอย่างโกรธเคือง เมื่อพวกเขามีศัตรูร่วมกัน
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดจาดูถูกเฉินหยานเซียว
พร้อมกับกำลังจินตนาการถึงอนาคตที่สดใสของพวกเขา
ในขณะนั้นคนที่หายตัวไปนานเกือบหนึ่งเดือนก็มาปรากฏตัวที่หอคัมภีร์สาขานักปรุงยาอย่างเงียบ
ๆ
ศิษย์ที่กำลังอ่านคัมภีร์ภายในหอคัมภีร์ต่างพากันประหลาดใจ
พวกเขาเผยสีหน้าแปลก ๆ ออกมา หลังจากเห็นร่างที่ก้าวเข้ามาอย่างดุดัน
"รุ่นพี่ชางกวนเสี่ยวอยู่ที่นี่หรือไม่?"
ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่ดูเย่อหยิ่งของเฉินหยานเซียว
ได้ดังเข้าหูของคนสองคนที่อยู่ท่ามกลางการสนทนาอย่างเยือกเย็น
ชางกวนเสี่ยวยืนขึ้นในทันที
เขาจ้องมองไปที่ เฉินหยานเซียว ผู้ซึ่งนำความอัปยศมาให้เขานับไม่ถ้วน!
“เฉินจิวในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว"
ชางกวนเสี่ยวพูดออกมาภายใต้ฟันที่กัดแน่น
ลั่วฟาน
รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเด็กชายตัวเล็กและผอมบาง
เขาจินตนาการถึงสิ่งที่ศิษย์ใหม่ผู้ที่สามารถเอาชนะชางกวนเสี่ยวได้ว่าจะมีลักษณะอย่างไร
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกับที่เขาจิตนาการไว้
เฉินจืวภายใต้รูปลักษณ์ขิงเด็กอายุสิบสามปี
ด้วยใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไม่ได้สวยงาม ชวนประทับใจ เขาจะไม่มีวันดึงดูดความสนใจของใคร
ถ้าเขาถูกโยนลงไปในฝูงชน
นี่เป็นศิษย์ของ เย่ชิง? ศิษย์ใหม่ที่สามารถเอาชนะชางกวนเสี่ยว
ในที่สุดลั่วฟาน
ก็เข้าใจว่าทำไมชางกวนเสี่ยวถึงโกรธในความพ่ายแพ้ของเขาเอง
ความพ่ายแพ้นั้นไม่น่ากลัวสำหรับนักปรุงยา
หากแต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือ
ชางกวนเซียวแพ้ให้กับเด็กที่อายุน้อยกว่าเขามาก อีกทั้งรูปลักษณ์ทั้งหมดไม่มีจุดโดดเด่นใด
ๆ เลยซึ่งสำหรับนักปรุงยาทุกคน นี่ถือว่าเป็นความอัปยศอดสู
ศิษย์ชั้นนำที่มีเกียรติของสาขานักปรุงยาไม่สามารถเปรียบเทียบกับเด็กเหลือขอตัวน้อยที่ยังไม่โตเต็มที่
มันทำให้ผู้คนหัวเราะจนฟันของพวกเขาอาจที่จะร่วงลงมา
ถ้ามันเป็นนักปรุงยาที่แก่เท่ากับชางกวนเสี่ยว
บางทีชางกวนเสี่ยวอาจที่จะสามารถทนกับสิ่งนี้ได้
"เจ้าคือ
เฉินจิว?" ลั่วฟานหรี่ตามองเด็กน้อยที่ด้านหน้าของเขา
ถ้าไม่ใช่เพราะชางกวนเสี่ยวเรียกชื่อของเขาออกมา
เขาก็อาจที่จะไม่สามารถเชื่อมโยงเด็กคนนี้ที่ยืนต่อหน้าเขากับเฉินจิวที่ปรากฏในข่าวลือได้
EGT 425
กล้าท้าปะลองหรือไม่? (3)
เฉินหยานเซียว
กวาดสายตาไปที่ ลั่วฟาน ในลักษณะที่ไม่รีบร้อนและเย็นชา
"เจ้าเป็นใคร?"
ลั่วฟานกล่าวว่า
"ข้าคือ ลั่วฟานมาจากสาขานักปรุงยาของสำนักยีต"
"มันกลายเป็นเจ้า"
เฉินหยานเซียวเย้ยหยันออกมา
ดีมาก
เจอพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ช่วยให้เธอประหยัดเวลาในการตามหาได้มาก
ลั่วฟานขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงของ เฉินหยานเซียวทำให้เขาอึดอัดมาก
"รุ่นพี่ชางกวนเสี่ยว
ไม่ใช่ว่าเจ้าตามหาข้าไปทั่วในก่อนหน้าหรือไม่ ในตอนนี้ข้ากลับมาแล้ว"
เฉินหยานเซียว
ละสายตาของเธอจากใบหน้าของลั่วฟาน
และหันไปจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของชางกวนเสี่ยว
"ดี ดีมาก!
เจ้ากลับมาแล้ว ดีมาก!"
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่หยิ่งหรือสีหน้าที่แย่มาก ชางกวนเสี่ยว
ในความเป็นจริงต้องการที่จะตบหน้าสารเลวน้อยในเวลานี้อย่างมาก
"ข้าได้ยินมาว่า
รุ่นพี่ชางกวนเสี่ยวยังเพลิดเพลินกับความพ่ายแพ้ในครั้งที่แล้วไม่พอ
และต้องการที่จะท้าประลองกับข้าอีกครั้ง?" เฉินหยานเซียวถามออกไป
สนุกเพลิดเพลินกับความพ่ายแพ้ครั้งที่แล้ว...
ชางกวนเสี่ยวเกือบจะกระอักออกมาเป็นเลือด
“เจ้าเด็กเหลือขอ
อย่าหยิ่งให้มันมากเกินไปนัก เจ้าก็แค่โชคดีที่ได้รับชัยชนะในครั้งก่อน
มันต้องขอบคุณอาจารย์เย่”
หลังจากแพ้การแข่งขันชางกวนเสี่ยวก็รู้สึกตกต่ำเป็นเวลานาน
เขายังคงสงสัยว่าเขาพ่ายแพ้ให้กับรุ่นน้องได้อย่างไร
หลังจากไตร่ตรองเรื่องนี้เป็นเวลานาน เขาพบว่าตัวเองมีเหตุผลสมบูรณ์แบบ
มันเป็นเพราะเย่ชิง!
เฉินหยานเซียวเป็นศิษย์ของเย่ชิง ยาที่เขาใช้ในการแข่งขันคือยาปลอมความตาย
ที่เย่ชิงได้ทำการวิจัย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แพ้ให้กับเฉินหยานเซียว
หากแต่เป็นอาจารย์เย่ชิง! ชัยชนะของเฉินหยานเซียวเป็นเพียงแค่ความโชคดี
"โอ้?"
เฉินหยานเซียว หัวเราะเสียงดัง ก่อนมองไปยังทิศทางของ ลั่วฟาน
"ข้าไม่ได้อยู่ในสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานมานานเกือบเดือน
ข้าได้ยินมาว่าในช่วงเวลานั้น นอกจากรุ่นพี่ชางกวนเสียวและแขกผู้มาเยือนจากดินแดนที่ห่างไกล
ดูเหมือนจะมีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับการแข่งขันกับข้า"
ลั่วฟานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลดูสุภาพว่า
"ข้าได้ยินชางกวนเสี่ยวพูดในก่อนหน้านี้ว่า
เจ้ามีทักษะอยู่บ้างเล็กน้อย แต่หลังจากที่ได้พบกับเจ้าในวันนี้ ข้ารู้สึกว่าจริง
ๆ แล้ว เจ้าก็คงไม่ได้เก่งเท่ากับชื่อเสียงอันโด่งดังเช่นที่กล่าวไว้ในข่าวลือ
และเจ้าก็น่าจะอยู่ในระดับปานกลางเหมือนคนอื่น"
เขาเกลียดดวงตาของเด็กน้อยผู้นี้
ราวกับว่าในสายตาของเขา เขาเป็นเพียงแค่มด ไม่มีอะไรนอกจากนั้น
"เมื่อเป็นเช่นนี้
ข้าไม่รู้ว่าเจ้าสองคนกล้าที่จะท้าประลองกับข้าหรือไม่?" เฉินหยานเซียว เยาะเย้ย
ไม่ว่าจะเป็น ลั่วฟาน
หรือ ชางกวนเสี่ยว หรือแม้แต่ ปูหลีซือ เนื่องจากพวกเขากล้าที่จะเล่นสกปรกกับเธอ
เธอจะไม่ยอมปล่อยพวกเขาแม้แต่คนเดียว เธอจะบอกให้พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่าคนบางคนไม่สามารถถูกยั่วยุได้ด้วยคนโง่!
ลั่วฟานและชางกวนเสี่ยวต่างสบตากัน
พวกเขาไม่คิดว่า ก่อนที่พวกเขาจะท้าทายออกไป
เฉินหยานเซียวกลับเป็นคนที่ผลักดันตัวเองให้ก้าวออกมา
ลั่วฟานมองไปที่เฉินหยานเซียวด้วยแววตาที่ดูเหยียดหยันในทันที
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมชางกวนเสี่ยวถึงพ่ายแพ้ในอดีต
แต่อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กอายุ 13 ปี
ความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนกัน? ในทางกลับกัน
เขาเป็นอัจฉริยะนักปรุงยาที่หาได้ยากในทวีปคังหมิง!
ชายผู้นี้กลับกล้าที่จะท้าทายเขาจริง
ๆ ราวกับเป็นคนโง่ที่ไม่รู้! ชางกวนเสี่ยวหัวเราะมากยิ่งขึ้น ความสามารถของเฉินหยานเซียว
อาจเทียบเคียงกับเขาได้ แต่กับลั่วฟานที่อยู่ด้านหน้า เขาไม่มีค่าที่จะต้องพูดถึง
เด็กคนนี้เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ถึงความทรงพลังของลั่วฟานว่ามีมากเพียงใด
สำหรับเขาที่จะกล้าท้าทายพวกเขาพร้อมกันทั้งคู่
มันก็เป็นเช่นการแสดงออกถึงความประมาท
"ดี
เอาตามที่เจ้าพูด เราจะทำมัน" ชางกวนเสี่ยวอยากที่จะเห็นนความผิดหวังของ้ขา
อย่างไรก็ตามเขาล้มเหลวที่จะเห็นแววตาเช่นนั้น
กลับกลายเป็นว่าแววตาที่ชัดเจนของเฉินหยานเซียวนั่นกำลังเปล่งประกายแสงชั่วร้ายออกมาในในขณะนี้
"เนื่องจากเป็นการท้าประลองระหว่างนักปรุงยา
โดยธรรมชาติ เราย่อมทำการแข่งขันการปรุงยา แต่วิธีการธรรมดานั้นก็น่าเบื่อเกินไป
ดังนั้นเราจึงอาจแข่งขันกีนด้วยวิธีการใหม่" เสียงของ หยานเซียว
เป็นเหมือนปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในตอนกลางคืน
ล่อลวงให้คนโง่เขลาเข้าไปในห้วงเหวลึกทีละก้าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น