หนึ่งพันล้านปีก่อน ในยุคแรกของความว่างเปล่า
มันล้อมรอบด้วยกาแลคซีนับหมื่นและถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้แสงสว่างของสวรรค์ มียักษ์ตนหนึ่งที่จำศีลมาอย่างยาวนาน
มันสวมเสื้อคลุมสีม่วงและมีลักษณะที่บ่งบอกว่าอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ลมหายใจของมัน
ทำให้เกิดการล่มสลายของกาแลคซีนับไม่ถ้วนและก่อกำเนิดจักรวาลมากมาย
ภายในร่างกายของมันมีหลายล้านทวีป
ภูเขา เมืองโบราณและดินแดนอมตะ เซียนที่นับไม่ถ้วนมีขนาดเล็กเท่ากับมด ต่างคุกเข่าอยู่บนพื้นในขณะที่ตีระฆังราวกับเคร่งในศาสนาและอธิษฐานอย่างไร้จุดหมาย
“โปรดตื่นขึ้นมา จักรพรรดิอมตะ
เพื่อประกาศคำสอน เต๋า สู่หนึ่งพันล้านผู้ศรัทธาในโลกสวรรค์ต้าหลัว…”
“เดี๋ยวก่อน ให้ข้านอนอีกหน่อย
ข้ากำลังฝันถึงเด็กเหลือขอที่น่าสนใจมาก… หนิงฟ่าน อ่า…”
...
เวลาและสถานที่ได้ย้ายไปอีกหนึ่งพันล้านปีต่อมา
บนสวรรค์ทั้งสี่และเก้าโลก…
โลกพิรุณอมตะ อาณาจักรเย่ ภูเขาหลี่เมิ่ง นิกายสุขสันต์
ข้างในประตูของนิกายสุขสันต์
มีเพียงผู้หญิงที่ทำการบ่มเพาะและเคล็ดวิชาบ่มเพาะของพวกเธอนั้นก็ดูมีความชั่วร้ายและไร้ยางอายอย่างมาก
ที่ด้านนอกของห้องเสพสังวาส
มีหญิงสาวหลายคนเดินเปลือยกายออกมา ท่าทางของพวกเธอดูแปลกมาก เหมือนหญิงสามพรหมจารีที่เดินออกมาด้วยความเขินอาย
แต่ด้วยการสังเกตอย่างละเอียดมากขึ้น มันสามารถพบของเหลวเล็กน้อยหยดลงมาตามต้นขาและพื้น
ที่ขาเรียวเหมือนหยกสลักของพวกเธอนั้นมีคราบของเลือด
เลือดนี้เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ของพวกเธอที่ถูกพรากออกไปอย่างฉับพลันตามเจตจำนงของพวกเธอ
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราได้เข้าร่วมกับ
นิกายมารอย่างเป็นทางการ...”
ใบหน้าที่เรียวของพวกเธอเปล่งประกายสีแดงราวกับว่าพวกเธอยังมีความปรารถนา
เกี่ยวกับการสูญเสียความบริสุทธิ์ของพวกเธอ พวกเธอไม่ได้รู้สึกเศร้า แต่กลับรู้สึกเบิกบาน
เมื่อออกจากห้องเสพสังวาส
พวกเธอไปที่บริเวณพักผ่อนของพวกเธอ
ภายในห้องเสพสังวาส ยังคงมีคลื่นเสียงครวญครางของผู้หญิงเช่นน้ำขึ้นน้ำลงดังออกมาเป็นระลอก
ๆ
ภายในห้อง พวกเธอกราบนมัสการเทวรูปสีดำ
ตะเกียงทองแดงยังคงเต็มไปด้วยน้ำมันที่แผ่รัศมีสว่างออกมาท่ามกลางความเงียบสงบ
หญิงสาวกำลังล้อเล่นกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่บนพื้นตรงกลางห้องใต้รูปปั้นเทวรูปสีดำ
เด็กสาวคนหนึ่งที่มีมวยผมเป็นก้อนสองข้างศีรษะ
เธอวางเต้านมสวยของเธอเข้าไปในปากของเด็กหนุ่มและด้วยสีหน้าที่เปล่งปลั่งสดใส ดวงตาของเธอพร่ามัวด้วยความสุข
เด็กสาวอีกคนที่ปล่อยสยายผมของเธอ
กำลังนั่งขัดสมาธิบนส่วนล่างของเด็กหนุ่ม
เด็กสาวคนอีกหนึ่งสวมเสือในแบบจีนโบราณ
เธอเริ่มเลียริมฝีปากหวานของเธอเหมือนงู
เริ่มจากนิ้วเท้าของชายหนุ่มเธอขยับขึ้นไปเรื่อย ๆ
ผู้หญิงทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีใบหน้าที่น่าเกลียด
อย่างไรก็ตามแม้จะถูกกระทำโดยผู้หญิงเหล่านี้ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่สนุกกับมันสักนิด
ดวงตาของเขาซีดจาง ๆ
และแสดงออกอย่างเฉื่อยชาซึ่งมีร่องรอยของความเศร้าโศก
เขาเป็นเตาหลอมมนุษย์ขนาดใหญ่ที่ถูกทรยศโดยตระกูลของเขา
จนถูกขายให้กับ นิกายสุขสันต์ เพื่อให้เป็นนายสนมสำหรับมารหญิงเหล่านี้
ร่างกายส่วนล่างของเขามึนชาแล้ว
ภายในวันเดียวเขาถูกข่มขืนจากเด็กสาวเกือบร้อยคน ครึ่งหนึ่งของพวกเธอเป็นหญิงพรหมจารี
“กระต่ายน้อย อร่อยหรือไม่…?”
หญิงสาวที่มีมวยผมสองก้อนดึงเต้านมเล็ก
ๆ ออกจากริมฝีปากของเด็กหนุ่มและถามออกมาอย่างอ่อนหวาน
“ไม่อร่อย มันน่าขยะแขยง!
พวกเจ้า ฆ่าข้าซะเถอะ!”
เด็กหนุ่มตอบออกไปอย่างดื้อรั้น
“ฮืม เจ้าเป็นเพียงเตาหลอมมนุษย์ขนาดใหญ่
เป็นเครื่องมือในการให้พี่สาวของเจ้าดูดหยางเพื่อเติบโตหยินของเรา แต่เจ้าก็ยังกล้าที่จะพูดปฏิเสธ!”
จิตสังหารที่เย็นชาปรากฏขึ้นท่ามกลางสายตาของเด็กสาวสองคน
เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงและอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เธอตบเด็กหนุ่มไปหนึ่งครั้ง จนทำให้ริมฝีปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด
จากนั้นเธอก็กลายเป็นคนอ่อนหวานและมีเสน่ห์อีกครั้ง
เธอจับหน้าเด็กหนุ่มให้หันมาและถามออกมาอย่างจริงจังว่า:
“หนุ่มน้อยของข้า มันเจ็บหรือเปล่า?”
“ถ้าเจ้าไม่ฆ่าข้า สักวันข้าจะสังหารหมู่
นิกายสุขสันต์!”
เด็กหนุ่มผู้นี้ ไม่มีการบ่มเพาะแม้แต่เล็กน้อย
แต่ในสายตาของเขาคือความเกลียดชังที่สามารถทะลวงไปถึงสรวงสวรรค์
“ฮ่าฮ่า! เจ้ายังเด็กอยู่
แต่น้ำเสียงของเจ้าไม่เล็ก เอาละพี่สาวจะรอดูว่าเจ้าจะทำลาย นิกายสุขสันต์ ของเราได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ฮิฮิ ไม่เคยมีเตาหลอมมนุษย์ไหนที่จะสามารถทนต่อความรักของเราได้นานเกินสามวัน
พลังหยางของเจ้าก็จะหมดไป พลังหยางที่เหลืออยู่ในตอนนี้ มันก็ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่สามารถมีชีวิตรอดผ่านคืนนี้ไปได้
เจ้าจะตายด้วยความเหนื่อยล้า…ฮ่าฮ่ามานี่ มาจูบปากพี่สาวใหญ่…”
หญิงสาวที่มีมวยผมจับหน้าเด็กหนุ่มมาและจูบเขา
เลียเลือดที่กลบปากออกทั้งหมด
นิกายสุขสันต์ – เป็นนิกายสำหรับหญิงสาวที่ทำการบ่มเพาะฝึกฝนทักษะมาร ซึ่งต้องการแก่นแท้หยางจากเพศชาย
พวกเธอถูกดูถูกในสายตาของกลุ่มผู้ชอบธรรม
พวกเธอไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของเด็กหนุ่ม
เนื่องจากมันเป็นการทรมานพวกเขาจนตาย
ดวงจันทร์แรกปรากฎขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนและกลุ่มสาวสุดท้ายก็กลับไปยังห้องพักของตนเอง
ภายในห้องเสพสังวาสมีเพียงเด็กหนุ่มและแก่นแท้หยางที่เหลือน้อยของเขา
ผิวของเขาขาวซีด
แต่ในขณะนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยจูบจากมารสาว ผมของเขายาว
แต่ในขณะนี้มันถูกปกคลุมด้วยน้ำลายและของเหลวในร่างกายของหญิงสาว
แก่นหยางของเขาว่างเปล่าหลังจากที่ชีวิตของเขาถูกคุกคาม
แต่ความเกลียดชังในดวงตาของเขาไม่ลดลง และนอกความเกลียดชังก็มีความกังวลเช่นกัน
“ข้าสงสัยว่าน้องชายกู้จะเป็นอย่างไร
เขาน่าจะถูกขายโดยผู้ทรยศให้กับนิกายมารนี้ด้วย…”
ชื่อของชายหนุ่มคือ หนิงฟ่าน
ลูกชายของคนรับใช้ของตระกูลหนิง ไห่หนิง เขาถูกขายให้กับนิกายมารโดยผู้ทรยศของตระกูลหนิง
เขามีน้องชายคนหนึ่งชื่อหนิงกู้ซึ่งถูกขายออกไปเช่นกัน
นี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะที่ปลาตัวใหญ่กลืนกินปลาตัวเล็ก
ผู้ซึ่งมีอำนาจสามารถรังแกคนอ่อนแอ แม้แต่ผู้หญิง ตราบใดที่การบ่มเพาะของพวกเธอ
สามารถข่มขุ๋สวรรค์ เธอก็ยังสามารถข่มขืนผู้ชายตามความต้องการของเธอ!
“น่ารังเกียจ น่ารังเกียจ
น่ารังเกียจ!”
หนิงฟ่านกัดฟันของเขา
เขาใจดีกับคนอื่นอยู่เสมอ แต่เขาก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้โดยไม่คาดคิด
“ข้าต้องการหนีจาก นิกายสุขสันต์
ข้าต้องการเข้าร่วมกับนิกายอมตะเพื่อแก้แค้น!”
เขาพยายามลุกขึ้น
แต่แม้กระทั่งนิ้วของเขาก็ไม่มีร่องรอยของความแข็งแกร่งเหลืออยู่
ร่างกายส่วนล่างของเขาชา ความรู้สึกนั้นหายไปหมดจากการถูกข่มขี่โดยเด็กสาวทั้งหลาย
เขาในตอนนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
ประตูใหญ่ของห้องเสพสังวาสไม่ได้ถูกปิดไว้อย่างแน่นหนา
และพวกเธอก็ไม่ได้ผูกหนิงฟ่านด้วยเชือก พวกเธอไม่คิดว่าเขาจะมีพลังมากพอที่จะหนีออกจากห้องเสพสังวาสได้
อันที่จริงแล้ว พวกเธอไม่คิดว่าหนิงฟ่านจะสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ในคืนนี้
สิ่งที่ยากที่สุดในโลกนี้คือความอดทนต่อความรักของผู้หญิงที่สวยงาม
มารสาวหนึ่งร้อยคนข่มขืนหนิงฟ่าน ความตายย่อมเป็นผลที่แน่ชัด
“ข้าจะตายหรือไม่? น้องชายกู้ เจ้าต้องเอาตัวรอดและแก้แค้นให้ข้า!”
เขาหลับตาลงอย่างสิ้นหวังและลมหายใจของเขาก็ค่อยๆแผ่วเบาลง
ท่ามกลางความมืดที่เงียบสงบในตอนกลางคืน
มีเพียงเสียงร้องของจักจั่นดังก้องที่ด้านนอกของห้องเสพสังวาส หนิงฟ่านรู้ว่านี่คือเสียงร้องของความรักจากจักจั่นเหล่านี้
เมื่อคิดว่าจักจั่นอยากมีเพศสัมพันธ์อย่างไร มันก็ทำให้เขาก็รู้สึกป่วยมากขึ้น
ในตอนที่เขากำลังจะตาย
ฉับพลันประตูใหญ่ของห้องเสพสังวาสถูกเปิดออกมา
เด็กสาวผู้หนึ่งในชุดสีขาว
อายุประมาณสิบสองหรือสิบสามปี มีซาลาเปาอยู่ในมือของเธอ เธอแอบเข้ามาในห้องนี้
“เจ้าอายุเท่าไหร่ เจ้ายังต้องการข่มขืนข้าเช่นกัน? หืมม เด็กน้อยยังไม่ได้เรียนรู้สิ่งชั่วร้ายอย่างแท้จริง ขอให้ข้าตายอย่างรวดเร็วเสียเถอะ!”
หนิงฟ่านหันกลับมาพร้อมกับความเกลียดชังที่ลุกไหม้และจ้องมองหญิงสาวผิวขาว
“พี่ใหญ่ ข้า…ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อ
“เล่น” เจ้า…”
หญิงสาวพบว่า หนิงฟ่าน เปลือยกายอย่างสมบูรณ์และใบหน้าเล็ก
ๆ ของเธอก็แดงก่ำ จากนั้นเธอหันไปในทิศทางอื่น ในขณะที่พูดออกมาด้วยเสียงสั่น
“หืมมม มีเพียงคนอย่างเจ้า
ที่กล้าที่จะ 'เล่น' ข้า! ฮ่าฮ่าฮ่า! แค็ก
แค็ก…”
หนิงฟ่านหัวเราะออกมาอย่างน่าสังเวช
แต่เพราะความเจ็บป่วยของเขาเขาจึงเริ่มไอออกมาแทน
เด็กผู้หญิงรีบพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็วและทิ้งซาลาเปาไว้บนพื้น
จากนั้นเธอลูบอกของหนิงฟ่านเบา ๆ ด้วยมือที่เพรียวบางของเธอเพื่อทำให้เขารู้สึกดีขึ้น
“ข้าจะไม่แสดงความขอบคุณต่อเจ้า!”
หนิงฟ่านเย้ยหยัน
“ข้า…ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อ
“เล่น” พี่ใหญ่…ข้าเองก็ถูกลักพาตัวมาโดย “ป้าชั่ว” ... พี่ชายใหญ่ของข้าก็กลายเป็นเตาหลอมของพวกเธอและเสียชีวิตเมื่อสามปีก่อน
พวกเธอเห็นว่าข้ายังเด็กอยู่ ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ฆ่าข้า อย่างไรก็ตามเมื่อข้าโตขึ้น
ข้าจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ของข้ากับเตาหลอมมนุษย์จากนั้นเข้าร่วมกับนิกายมาร
..."
เมื่อพูดถึงพี่ชายผู้ล่วงลับของเธอน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลอาบแก้ม
ใบหน้าของเธอดูไร้เดียงสา มันดูแตกต่างจากมารสาว ทำให้หนิงฟ่านรู้สึกนุ่มนวลและเชื่อใจในคำพูดของเธอ
“พี่ใหญ่ เจ้าต้องมีชีวิตรอด
เจ้าไม่สามารถตายอย่างนี้ ...”
ด้วยสีหน้าเศร้า ๆ
เธอรู้สึกว่าหนิงฟ่านและพี่ชายของเธอมีความคล้ายคลึงกันอย่างแท้จริง
นิกายมารไม่อนุญาตให้เตาหลอมมนุษย์กิน
แต่ผู้หญิงคนนี้กลับเสี่ยงต่อผลที่ตามมาและแอบเอาซาลาเปามาเพื่อให้หนิงฟ่านทาน
เธอใจดีจริง ๆ!
“ข้าเองก็ไม่อยากตาย ข้าต้องการแก้แค้น
ข้าต้องการช่วยน้องชายตัวน้อยของข้า ...”
หนิงฟ่านยิ้มอย่างขมขื่น
“พี่ใหญ่กินซาลาเปา
บางทีเจ้าอาจจะไม่ตายถ้าเจ้าอิ่ม…เจ้า... เจ้าถูกดูดจนเหือดแห้งโดยพวกเธอ ดังนั้นเจ้าต้องเติมเต็มด้วยตัวเจ้าเอง
... น่าเสียดายที่ข้าไม่มี "หลอดเลือดดำอมตะ" และไม่สามารถบ่มเพาะได้
ไม่งั้นข้าจะจับไก่ฟ้าแล้วทำซุปที่มีคุณค่าทางอาหารให้เจ้า…”
“เด็กโง่ เจ้ามีแขนและขาเจ้าควรหนี
... หนีออกจากนิกายมาร และสนุกกับชีวิตปกติของหญิงสาวธรรมดา…เจ้าไม่ควรอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้
สถานที่นี้สกปรกเกินไป! แค็ก แค็ก…”
หนิงฟ่านรู้ว่าเขาจะตายและสูญเสียความตั้งใจในการใช้ชีวิต
ก่อนที่เขาจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูแลเขา ให้ความอบอุ่นในชีวิตของเขา
เขามีความสุขและไม่ต้องการให้เด็กสาวตายในสถานที่นี้
“ข้าถูกพวกเธอวางยาพิษ
ไม่มียาแก้พิษและข้าก็จะหนีไม่พ้น…พี่ใหญ่ไม่ต้องพูดแล้ว กินซาลาเปา ข้าจะป้อนเจ้า
..."
ในตอนนี้หนิงฟ่านกำลังหายใจลำบากและไม่สามารถกลืนซาลาเปาได้อีกต่อไป
"เจ้าไปซะ…"
หนิงฟ่านรู้ว่าความตายของเขาใกล้เข้ามาแล้ว
เขาไม่ต้องการให้เด็กสาวที่ไร้เดียงสาเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาก่อนตาย
"พี่ชาย…"
หัวใจของหญิงสาวเจ็บปวด
เธอบอกได้ว่าหนิงฟ่านกำลังจะตาย เตาหลอมมนุษย์ทั้งหมดก่อนหน้านี้มีลักษณะเหมือนหนิงฟ่านในตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะตาย
พี่ชายของเธอก็มีลักษณะเดียวกันในปีนั้น
“เจ้า…ต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”
หนิงฟ่านกัดฟันของเขาแล้วตะโกนออกมา
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรัศมีแห่งความตายและร่างกายของเขาเย็นลง
“พี่ใหญ่ ข้าจะจากไป…ข้าพบจี้หยกนี้บนภูเขา
เจ้าจะไม่หนาวเหน็บหากสวมมันไว้บนร่างกายของเจ้า”
หญิงสาวถอดจี้หยกออกมา ซึ่งยังคงมีความอบอุ่นและวางมันไว้ในมือของ
หนิงฟ่าน
เธอถอนหายใจอย่างแผ่วเบาเช็ดน้ำตาและออกจากห้องเสพสังวาส
"เจ้าชื่ออะไร?"
สติของหนิงฟ่านค่อย ๆ
จางหายไป
“ข้า…ชื่อของข้าคือจือเหอ
...”
หญิงสาวไม่สามารถหันหลังกลับขณะที่เธอกระซิบจากนั้นออกจากห้องเสพสังวาส
“พี่ใหญ่ก็ตายแล้ว วันหนึ่งข้าก็จะตายด้วย
เราทุกคนมีชะตากรรมที่น่ากลัวเช่นนี้”
ลมหายใจของหนิงฟ่านเริ่มแผ่วเบาลง
แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาไม่ได้เย็นชาอีกต่อไป แต่กลับมีร่องรอยของความอบอุ่นเข้ามาแทน
ทันใดนั้นเขาเห็นภาพลวงตา
มือของเขาที่ถือจี้หยกก็อบอุ่นเช่นกัน
เขามีความฝันสั้น ๆ
ในความฝันของเขา เขาอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยควันและหมอก ต่อหน้าต่อตาเขามีแผ่นจารึกเจิดจ้าสูงตระหง่าน
และมีดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า สีขาวครึ่งและดำครึ่ง มีคำบนแผ่นจารึก แต่มันก็พร่างพราวเกินไปและเขาไม่สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน
เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาร้อนขึ้นอย่างช้า
ๆ
เด็กสาว จือเหอ ไม่ได้โกหกเขา
จี้หยกโบราณนี้สามารถทำให้ร่างกายอบอุ่น
หนิงฟ่านไม่ได้สังเกตว่าเมื่อเขาหมดสติ
ของเหลวในร่างกายของเด็กสาวทั้งหลายจากก่อนหน้านี้และเมล็ดของตัวเองได้ย้อมจี้หยก
จนปรากฏแสงสีแดงจาง ๆ ออกมา
แก่นหยางของเขาที่เหือดหายไปในก่อนหน้านี้ได้รับการฟื้นฟู
อาคมโบราณและลึกลับปรากฏขึ้นจากภายในจี้หยก
“สมบัติซวนหยิน
จี้หยินหยาง – รับสรวงสวรรค์ในฐานะภรรยา และปฐพีเหมือนนางสนม
ใช้ชีวิตทางโลกในฐานะเตาหลอมมนุษย์ ถนนขนาดใหญ่แห่งหยินและหยาง คู่บ่มเพาะ…”
เสียงสะท้อนดังก้องอยู่ในหัวของ
หนิงฟ่าน อยู่เป็นเวลานาน นับแต่นั้น ชื่อมารของเขา “กงจื่อ*หนิง” จึงถูกบันทึกไว้ตั้งแต่วันนี้!
TL: กงจื่อ:คุณชาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น