EGT 329-331 จิตวิญญาณปีศาจ

EGT 329 จิตวิญญาณปีศาจ (1)

เฉินหยานเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมเมื่อเธอได้ยินข้อมูลทั้งหมด เธออดไม่ได้ที่จะคิดว่านี่เป็นพืชที่อันตรายมาก? แต่ทำไมถึงมีพืชชนิดนี้ผสมอยู่ในกองสมุนไพรนี้? เธอมองไปที่ลิ้นชักอีกครั้งซึ่งมีสมุนไพรบึงขาว  แต่สมุนไพรบึงขาวเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่แตกต่างจากสมุนไพรบึงขาวปกติ

"สิ่งนี้อันตรายหรือไม่?" โอวหยางฮั่วหยูช่วยหยุนฉีในการหายาเม็ดโลหิต ซึ่งต้องใช้สมุนไพรบึงขาว ถ้าเย่ชิงและคนอื่นไม่สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างพืชจิตวิญญาณปีศาจและเสมุนไพรบึงขาวและใส่ลงในยาเม็ดโลหิตนั่นจะเป็นอันตรายต่อหยุนฉีหรือไม่?

เฉินหยานเซียว กำลังไตร่ตรองว่าจะทำลายสิ่งนี้ในทันที ไม่เช่นนั้นถ้าสิ่งที่ซิ่วพูดนั้นเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นเย่ชิงหรือหยุนฉีก็เป็นไปได้รับพืชจิตวิญญาณปีศาจและมันจะทำร้ายพวกเขาทั้งคู่

หยุนฉีเป็นผู้มีพระเจ้าและเป็นอาจารย์ของเธอและเธอก็รู้สึกขอบคุณเย่ชิง เธอไม่เต็มใจที่จะเห็นพวกเขาคนใดได้รับบาดเจ็บ

เฉินหยานเซียว อาจเป็นคนที่ใจร้าย แต่เธอก็เคารพนับถือผู้อาวุโสที่ห่วงใยเธอมาก

นี่เป็นกรณีที่เธอได้เรียนรู้ทักษะการขโมย ก่อนหน้านั้นเธอเป็นคนตัวเล็กที่ไม่เป็นที่รู้จักในองค์กร และเธออาจกลายเป็นเหยื่อขององค์กรได้ทุกเมื่อ  หากไม่ใช่ว่าโจรเทพเจ้าในองค์กรคนก่อนไม่ได้รับเธอเป็นศิษย์และสอนทักษะการขโมยให้เธอ เธอก็กลัวว่าเธอจะไม่ได้เป็นโจรเทพเจ้าที่มีชื่อเสียงระดับโลก

เฉินหยานเซียวให้เคารพอย่างสูงต่ออาจารย์ของเธอที่สอนทักษะการขโมยให้เธอ

อาจารย์ของเธอเคยบอกเธอว่าในฐานะคนไร้ยางอายที่อาศัยอยู่ในความมืด ทุกอย่างอาจถูกทอดทิ้ง ยกเว้นความจงรักภักดีที่มีต่ออาจารย์ของเธอ

เฉินหยานเซียวจำคำพูดของเขาได้อย่างชัดเจน

สำหรับเธอแม้ว่าอาจารย์จะคิดถึงเธอเพียงวันเดียว แต่เธอก็ถือว่าพวกเขาเป็นพ่อของเธอไปชั่วชีวิต นี่เป็นหลักการที่เธอยึดถือมาตลอด

ซิ่วกล่าวว่า 'หากใช้ทำยา ยานั้นจะเป็นพิษร้ายแรงที่สุด ด้วยความสำเร็จของยาของมนุษย์ มันจะไม่มีทางรักษาอย่างแน่นอน แต่นี่จะเป็นพืชที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกสำหรับเชลยปีศาจ'

เฉินหยานเซียวไตร่ตรองคำพูดของซิ่ว เธอมักจะรู้สึกว่าคำพูดของซิ่วมักจะแฝงอะไรบางอย่างไว้ในนั้น

"สิ่งนี้สามารถสร้างองค์ประกอบมืดได้จริง ๆ หรือไม่ ถ้าข้าจำได้อย่างถูกต้อง เจ้าเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเจ้าต้องการฟื้นฟูความแข็งแกร่ง เจ้าต้องดูดซับองค์ประกอบแห่งความมืดในแก่นผลึกชีวิต และเหล่าปีศาจสามารถผลิตองค์ประกอบแห่งความมืด ข้าสามารถดึงมันออกมาโดยตรงจากพวกมันได้หรือไม่"

จำนวนแก่นผลึกชีวิตที่ซิ่วต้องการตอนนี้มีมากเกินไป แม้ว่าเธอจะเก็บรวบรวมแก่นผลึกชีวิตในอาณาจักรหลงซวนทั้งหมด เธอก็กลัวว่ามันจะยากที่จะตอบสนองความต้องการของเขา

ถ้าพืชจิตวิญญาณปีศาจมีพลังมาก มันจะดีที่สุดถ้าเธอใช้มันเพื่อผลประโยชน์ของเธอเอง?

ซิ่วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า 'ต้องบอกว่าโดยอาศัยพืชจิตวิญญาณปีศาจเพียงอย่างเดียวข้ากลัวความแข็งแกร่งในปัจจุบันของข้ามันยากที่จะใช้มัน หากเจ้าสามารถหาดอกโครงกระดูกและหญ้าเพลิงและรวมทั้งสามเข้าด้วยกัน พวกมันสามารถแทนที่แก่นผลึกชีวิต จากนั้นข้าอาจใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนในการใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบมืดที่สร้างโดยพืชทั้งสามชนิดและช่วยเจ้าปลดผนึกตราประทับชั้นที่สี่'

ต้องการเพียงหนึ่งเดือน ดวงตาของเฉินหยานเซียวสว่างขึ้นในทันที

ตามความเร็วปัจจุบันของเธอในการรวบรวมแก่นผลึกชีวิตนั้นช้ามาก ใช้เวลานานกว่าหนึ่งปีก่อนที่เธอจะสามารถปลดผนึกตราประทับชั้นที่สี่ได้และนี่ก็เป็นกรณีของการมีแก่ผลึกชีวิตที่เพียงพอ แต่เนื่องจากการความต้องการแก่นผลึกชีวิตในปริมาณที่มากมหาศาล ทำให้แก่นผลึกชีวิตใน จักรวรรดิหลงซวนลดลงปริมาณลงเรื่อย ๆ

EGT 330 จิตวิญญาณปีศาจ (2)

อาจกล่าวได้ว่าสักวันหนึ่งเธออาจจะไม่สามารถรวบรวมอะไรได้อีก

ถ้าเธอสามารถรวบรวมพืชทั้งหมดเข้าด้วยกันได้จริง ๆ เธอก็ไม่ต้องกังวลกับแก่นผลึกชีวิต เธอยังสามารถใช้ส่วนที่เหลือของแก่นผลึกชีวิตกับบารอนม่วงของเธอ

เป็นที่ทราบกันดีว่าจำนวนแก่นผลึกชีวิตนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้นแก่นผลึกชีวิตทั้งหมดที่เธอรวบรวมได้ถูกมอบให้กับซิ่วแล้ว บารอนม่วงอยู่กับเธอมานานแล้ว แต่เธอยังไม่เคยใช้แก่นผลึกชีวิตกับมัน

"ข้าจะหาดอกโครงกระดูกและหญ้าเพลิงได้จากที่ไหน" เฉินหยานเซียว อดไม่ได้ที่จะถูกล่อลวง เธอหวังเพียงว่าต้นไม้สองต้นนี้ไม่ได้เติบโตในภูมิภาคของเผ่าปีศาจ มิเช่นนั้นเธอก็จะอ่อนล้าเกินกว่าที่จะรับมันได้

‘ข้าไม่แน่ใจว่าพืชเหล่านี้กระจายอยู่ที่ไหนในโลกมนุษย์ ข้ารู้แค่ว่าดอกโครงกระดูกนั้นโดยทั่วไปแล้วจะเติบโตในพื้นที่ที่ปีศาจมาบรรจบกันและต้องมีศพเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นสารอาหารสำหรับการเจริญเติบโตของดอกโครงกระดูก สำหรับหญ้าเพลิงนั้นจะเติบโตในรังของเฟิงหวง'

"เฟิงหวง?" เฉินหยานเซียว กะพริบตาของเธอ เฟิงหวงของโลกนี้ไม่เหมือนกับที่อยู่ในความทรงจำของเธอ เฟิงหวงที่นี่ก็เป็นสัตว์เวทเช่นกัน แต่ตามบันทึกของคัมภีร์ความหายากของสัตว์เวทชนิดนี้สามารถจับคู่กับเฟิงหวงที่เธอรู้จักได้

"อันดับของเฟิงหวงไม่สูงนัก ดังนั้นถ้าข้าเจอมัน ข้าจะลองดู" เฉินหยานเซียวลูบคางของเธอ คัมภีร์เล่มนั้นได้บันทึกไว้ว่าเฟิงหวงอยู่ในอันดับที่แปดหรือเก้าของสัตว์เวท ถ้ามันเป็นเพียงสัตว์เวทในระดับสูง ในตอนนี้เธอมีนก หงส์ไฟ ซึ่งเป็นสัตว์ตำนานอันดับที่สิบสอง มันจะเป็นเรื่องง่ายหรือไม่ที่จะจัดการกับเฟิงหวง?

แต่ในเวลานี้มันเป็นเหมือนอ่างน้ำเย็นเทราดหัวเฉินหยานเซียว

‘อันดับแปดหรือเก้า เฟิงหวงที่เจ้ากำลังพูดถึงคือตัวที่เพิ่งเกิด? เฟิงหวงมีความแข็งแกร่งอันดับแปดตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งโตเต็มวัย มันจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยตรงมากกว่าสิบอันดับ แม้ว่าหงส์ไฟเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับเฟิงหวง แต่มันก็มีลักษณะตามธรรมชาติซึ่งก็คือการเกิดใหม่ หากสถานที่ที่พวกมันตายถูกล้อมรอบด้วยองค์ประกอบของไฟที่ทรงพลัง พวกมันจะไม่เพียงแต่เกิดใหม่ แต่ยังพัฒนาจากอันดับสิบสองไปยังอันดับที่สิบสามโดยตรง กลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน'

"อันดับสิบสาม…สัตว์ศักดิ์สิทธิ์?" เฉินหยานเซียวกลืนน้ำลายของเธอ เธอไม่สามารถจินตนาการถึงพลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์

หงส์ไฟมีความแข็งแรงเป็นอันดับที่สิบสอง และเขาสามารถเอาชนะสัตว์เวททั้งหมดในทวีปนี้ได้โดยไม่ต้องกดดัน

สัตว์ในตำนานก็เพียงพอที่จะทำให้ตระกูลเฉินเติบโตขึ้นจากการเป็นตระกูลเล็ก ๆ และไม่รู้จักกลานเป็นกองพลังอันทรงพลังซึ่งช่วยจักรพรรดิหลงซวนในการก่อตั้งอาณาจักร ถ้าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ...

เธอไม่สามารถจินตนาการได้

เฉินหยานเซียวหันไปมองด้านข้างของหงส์ไฟที่ยังกอดอกของเขา เธอลังเลก่อนที่จะถามว่า "หงส์ไฟความแข็งแกร่งของเจ้าเทียบกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แล้วเป็นอย่างไร"

หงส์ไฟขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพูดพึมพำอย่างไม่เต็มใจ

"เจ้าล้อข้าเล่น? เอาข้า สัตว์ในตำนานไปเทียบกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มันก็เหมือนกับการเปรียบเทียบสัตว์เวทระดับสูงเหล่านั้นกับตัวข้าเอง"

สัตว์เวทระดับสูงและสัตว์ในตำนาน ...

เฉินหยานเซียว จำได้ว่า เฉินเฟิงใช้ความพยายามอย่างมากในการจับสัตว์เวทอันดับแปดเพื่อเป็นของขวัญให้กับนักปราชญ์ที่มาจากดินแดนเทพเจ้า ในการปลุกหงส์ไฟ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องยากที่จะจับสัตว์เวทอันดับแปด เฉินเฟิงก็จะไม่เป็นทุกข์และส่งคนไปมากกว่าสิบหัวสำหรับภารกิจนี้

นี่คือความแตกต่างระหว่างสัตว์เวทระดับสูงและสัตว์ตำนาน และด้วยสิ่งนี้เราสามารถคาดเดาความแตกต่างทางอ้อมระหว่างสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และสัตว์ในตำนานได้

ปากของเฉินหยานเซียวกระตุกเล็กน้อย ทารกแรกเกิดยังมีระดับสูงถึงอันดับแปด จากนั้นเมื่อมันโตเต็มวัย มันก็จะมีระดับของสัตว์ในตำนาน เมื่อมันพบกับธาตุไฟอันทรงพลังและเกิดใหม่มันจะกลายเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน ตอนนี้เธอรู้สึกว่าการรับหญ้าเพลิงจากรังของมันเป็นกระบวนการที่น่ากลัวมาก

EGT 331 จิตวิญญาณปีศาจ (3)

ตราบใดที่พวกเขาสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้แล้ว ดอกโครงกระดูก ก็ไม่ยากที่จะได้รับ ปัญหาเดียวคือหญ้าเพลิงที่ได้รับมัน ...

ยากมาก…ยากมากอย่างแท้จริง

เฉินหยานเซียวถอนหายใจและพูดว่า "ทุกสิ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของโชคชะตาหรือไม่ เราไม่สามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่าเราไม่สามารถรับได้ บางทีเราอาจมีโอกาส แต่ข้าอยากรู้ว่าถ้าข้าสามารถจับพืชสามชนิดนี้ข้าจะสามารถใช้มันเพื่อจับปีศาจได้หรือไม่?"

เหตุผลเดียวที่ทำให้เธอสนใจในการแข่งขันระหว่างสำนักทุกแห่งของ จักรวรรดิหลงซวน หลังจากนี้อีกครึ่งปีเป็นเพราะ ซิ่ว

เนื่องจากการรวมกันของพืชจิตวิญญาณปีศาจเข้าด้วยกันทั้งสามชนิด มันสามารถผลิตองค์ประกอบพลังแห่งความมืดได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องจับปีศาจใด ๆ หรือไม่?

อย่างไรก็ตามคำตอบของซิ่วทำให้ เฉินหยานเซียว รู้สึกหดหู่มากขึ้น

'ปีศาจก็ยังต้องการ พืชทั้งสามนี้สามารถผลิตองค์ประกอบที่มืดได้ แต่ผลของพืชทั้งสามนี้จะถูกขยายให้มากที่สุดในที่ซึ่งปีศาจมาบรรจบกัน ปีศาจพึ่งพาธาตุมืดที่พวกมันสร้างขึ้นและพืชจิตวิญญาณปีศาจต้องการกลิ่นของปีศาจเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโต พืชจิตวิญญาณปีศาจในมือของเจ้าเป็นเพียงต้นอ่อนและองค์ประกอบความมืดที่มันสามารถผลิตได้มีจำกัด หลังจากเติบโตแล้วมันจะสร้างองค์ประกอบที่มืดในปริมาณที่มาก'

ดังนั้น…หมายความว่าเธอยังต้องการเข้าร่วมการแข่งขันหลังจากนี้หกเดือน?

เฉินหยานเซียว ถอนหายใจอย่างไร้ประโยชน์ ความรับผิดชอบที่วางอยู่บนบ่าของเธอเพิ่มขึ้นและดูเหมือนว่าการปลดผนึกตราประทับนี้จะใช้เวลาชั่วนิรันดร์

การปฏิวัติยังไม่ประสบความสำเร็จและสหายยังคงต้องทำงานหนัก [ปัญหายังไม่แก้และพวกเขายังต้องต่อสู้ต่อไป] ในเวลาเดียวกันเธอยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ถึงระดับผู้เชี่ยวชาญปรุงยา เพื่อปรุงยาเม็ดโลหิตและแก้ปัญหาของหยุนฉี

"ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ดีกว่าหรือไม่? ก่อนอื่นข้าจะเอาพืชจิตวิญญาณปีศาจออกไป" ดวงตาของหยานเซียวเปล่งประกายออกมาแฝงความหมายบางอย่าง ในหัวของเธอเริมคิดแผนการอะไรบ่งอย่าง

เนื่องจากสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานได้เข้าใจผิด คิดว่าพืชจิตวิญญาณปีศาจเป็นสมุนไพรบึงขาว จากนั้นเธอก็จะได้รับผลประโยชน์จากความเข้าใจผิดนี้ และนำพืชจิตวิญญาณปีศาจนี้ออกไป ไม่อย่างนั้นถ้ามีคนอื่นเอามันไปใช้มันไม่เพียงแต่พวกเขาจะล้มเหลวในการปรุงยา แต่พวกเขาก็จะเสียพืชจิตวิญญาณปีศาจที่หายากเช่นนั้นด้วย

มันจะต้องรู้ว่าหลังจากสงครามระหว่างเทพเจ้าและปีศาจจบลง เหล่าปีศาจได้ถอยกลับไปสู่นรกและเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าเผ่าปีศาจอาศัยอยู่ที่ไหน ที่ตั้งของพวกเขายิ่งยากกว่าการค้นหาสวรรค์ ซึ่งทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพบพืชจิตวิญญาณปีศาจชิ้นที่สอง

หลังจากคิดขึ้นมาแล้ว เฉินหยานเซียวก็รีบหยิบพืชจิตวิญญาณปีศาจขึ้นมาไว้ในมือของเธอทันที หงส์ไฟถอนตัวอย่างไม่เต็มใจเข้าไปในร่างกายของเธอก่อนที่เธอจะเดินไปที่ประตูเพื่อออกไปข้างนอก

อาจารย์ที่ปรึกษากำลังรออยู่นอกประตูคลังยาและรู้สึกประหลาดใจที่เห็นร่างของเฉินหยานเซียวหลังจากผ่านไปเพียงครู่หนึ่ง

เธออยู่ภายในเพียงสองหรือสามชั่วโมง ครึ่งหนึ่งของเวลาที่มอบให้เธอ

จริง ๆ แล้วเธอออกมาเร็วมาก

ก่อนหน้านี้ชางกวนเสี่ยวใช้เวลาอยู่ในคลังยาหลายครั้ง และในทุกครั้งเขาจะออกมาในนาทีสุดท้ายเท่านั้น เด็กคนนี้ทำไมเขาถึงออกมาเร็วขนาดนี้

อาจารย์ที่ปรึกษารู้สึกงงงวยมากที่เฉินหยานเซียวออกมาเร็ว ก่อนที่เขาจะเตือนเธอว่า "เจ้าได้เลือกสมุนไพรที่เจ้าต้องการแล้วหรือยัง? คลังยามีสมุนไพรมากมายและไม่ขาดสมุนไพรที่มีค่า มันยังเหลือเวลาอีกมากก่อนหมดเวลา เลือกช้า ๆ และระมัดระวัง โอกาสนี้มาเดือนละครั้งเท่านั้น อ่า!"

มีสมุนไพรอยู่อย่างน้อยหนึ่งหมื่นชนิดในคลังยามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะดูพวกมันทั้งหมดในเวลาอันสั้น

น่าเสียดายที่ เฉินหยานเซียว ไม่ใช่คนธรรมดา แม้ว่าเธอจะไม่สามารถเห็นสมุนไพรทั้งหมดได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่เธอก็มีสัตว์ในตำนานที่เป็นหงส์ไฟที่สามารถค้นพบสมบัติล้ำค่าสำหรับเธอ

เฉินหยานเซียว ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า "ไม่ต้องการ ข้าเลือกสิ่งที่ข้าต้องการแล้ว" เฉินหยานเซียว พูดขณะที่แสดงพืชจิตวิญญาณปีศาจให้อาจารย์ที่ปรึกษาดู เธอรอดูปฏิกิริยาของอาจารย์ที่ปรึกษา