EGT 248
สร้อยแสงจันทร์ (1)
“เขาอนุญาตให้ข้าเป็นศิษย์คนเดียวในสาขานักเวทมนต์ดำในเวลานั้น
แต่การปรากฏตัวของเขาในคืนนี้ทำให้ข้าประหลาดใจจริง ๆ
เพราะเขาสัญญากับอาจารย์ของข้าว่าเขาจะไม่รบกวนข้าภายในครึ่งปีนี้”
การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของโอวหยางฮันหยูนั้นไม่ใช่สัญญาณที่ดี
ผู้นำสูงสุดที่ไม่น่าเชื่อคนนี้กำลังวางแผนที่จะทำอะไรบางอย่างที่น่ากลัวเพราะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้
ฉีเซียมองไปที่เฉินหยานเซียว
ในขณะที่เขาไตร่ตรองเรื่องต่าง ๆ ท่าทางของโอวหยางฮันหยูนั้นชัดเจนที่จะจับเธอ
จากสิ่งนี้และความมุ่งมั่นก่อนหน้านี้ของเขาดูไม่สอดคล้องกัน
“นักเวทมนต์ดำถูกคว่ำบาตรในทวีปคังหมิง
สำนักเกือบพันแห่งทั่วทั้งทวีป ได้ทำการล้างสาขานักเวทมนต์ดำเหล่านี้ออกไปนานแล้ว
นอกจากสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานที่ยังคงรักษาสาขานักเวทมนต์ดำไว้
จนเป็นสาขานักเวทมนต์ดำแห่งเดียวในทวีปคังหมิง
ก่อนหน้านี้ผู้คนจำนวนมากคิดว่าการตัดสินใจของโอวหยางฮันหยูในการรักษาสาขานักเวทมนต์ดำนั้นไม่มีความหมายในความตั้งใจอันนี้ของโอวหยางฮันหยู
ข้ากลัวว่าสิ่งต่าง ๆ จะไม่ง่ายอย่างนั้น”
เมื่อได้ยินอย่างนี้
เฉินหยานเซียวก็พยักหน้าของเธอ
“ข้าคิดว่าทัศนคติของโอวหยางหวางหยูนั้นดื้อดึงมาก
แต่ไม่มีทางที่ข้าจะไม่สามารถไปที่สาขานักเวทมนต์ดำได้
อาจารย์ของข้ายังอยู่ข้างใน” ถ้าโอวหยางฮั่วหยูตั้งใจที่จะเฝ้าดูสาขานักเวทมนต์ดำ
ต่อไปคงเป็นการยากที่จะบอกได้ว่าเธอจะไม่ถูกจับในสักวันหนึ่ง
ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร เฉินหยานเซียวไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนของเธอ
“เจ้าต้องไม่ไปที่นั่นในคืนนี้อีก
แน่นอนว่าโอวหยางฮันหยูกำลังรอการปรากฏตัวของเจ้าอยู่
เขาจะไม่จากไปไหนอย่างแน่นอน” ฉีเซียเตือน
“เราค่อยคิดกันอีกทีในวันพรุ่งนี้”
เฉินหยานเซียวมีอาการปวดหัว เธอไม่ได้ปรากฏในสาขานักเวทมนต์ดำ
เป็นเวลาสามวันและเธอไม่รู้ว่าตอนนี้หยุนฉีจะเป็นอย่างไร
หยานอู๋ผู้ฟังบทสนทนาของฉีเซียและเฉินหยานเซียว
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “พรุ่งนี้เช้าโอวหยางฮันหยูจะไปที่สาขาหมอเวท
เพื่อทำหน้าที่ชี้แนะ ทำไมไม่ลองใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานั้นดูล่ะ? ไปที่สาขา
นักเวทมนต์ดำพรุ่งนี้แล้วเล่าเรื่องเหตุการณ์ในวันนี้ให้กับอาจารย์ของเจ้า
แล้วถามเขาว่าเขามีความคิดอย่างไร”
“เสี่ยวเซียว
อาจารย์ของเจ้าก็เป็นนักเวทมนต์ใช่หรือไม่?” หยางซือถามออกไปด้วยความอยากรู้
เฉินหยานเซียว ตอบว่า:
“ใช่”
“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานจะมีนักเวทมนต์ดำ
ที่สามารถอยู่รอดจากการกดขี่แบบนั้น เขาย่อมไม่ธรรมดา
ข้าเชื่อว่าอาจารย์ของเจ้าจะสามารถช่วยเจ้าแก้ปัญหานี้ได้” ฉีเซียแตะคางของเขา
เมื่อนักเวทมนต์ดำถูกปราบปรามด้วยความร่วมมือของกองทัพทั่วทั้งทวีป ในเวลานั้นอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาได้รับความเสียหายทั้งหมด
นักเวทมนต์ดำที่มีชื่อเพียงเล็กน้อยนั้นถูกขับออกจากอาณาจักรต่าง ๆ
ผู้ที่เกี่ยวข้องถูกกำจัดให้สิ้นซากโดยกองทัพอย่างสมบูรณ์ และนักเวทมนต์ดำ
ที่เกี่ยวข้องเพียงไม่กี่คนก็ออกจากทวีปคังหมิงหรือซ่อนตัวอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้ง
หลายอาณาจักรรวมถึงจักรวรรดิหลงซวน ไม่สามารถมองเห็นถึงการมีตัวตนของนักเวทมนต์ดำ
ใด ๆ อีกต่อไป
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีนักเวทมาต์ดำซ่อนอยู่ในสาขานักเวทมนต์ดำของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน
ความสามารถในการหลบหนีการตามล่าและการขับไล่
อีกทั้งยังสามารถแฝงตัวอยู่ที่นี่ มันจะต้องได้รับอนุญาตจากโอวหยางฮันหยูเอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โอวหยางฮันหยูยังคงนิ่งเงียบในเรื่องของสาขานักเวทมนต์ดำ
ไม่มีใครรู้ว่ายังมีนักเวทมนต์ดำที่ยังมีชีวิตอยู่
และสำหรับเขาที่จะได้รับความคุ้มครองจากโอวหยางฮั่วหยูแน่นอนว่าเขาจะไม่ใช่บุคคลธรรมดา
แม้ว่าฉีเซียและคนอื่น
ๆ จะสงสัยมากเกี่ยวกับตัวตนของนักเวทมนต์ดำ
แต่พวกเขาก็สุขุมพอที่จะไม่สอบถามเกี่ยวกับอาจารย์ของเฉินหยานเซียวมากเกินไป
หลังจากทรมานกับความทุกข์ยากอย่างมาก
อันมาจากการต่อต้านนักเวทมนต์ดำ ด้วยความหวาดกลัวของผู้อื่น
พวกเขาไม่เต็มใจที่จะทำให้เกิดเรื่องยากสำหรับ
เฉินหยานเซียว
EGT 249
สร้อยแสงจันทร์ (2)
“เอาละข้าจะไปพบอาจารย์ของข้าพรุ่งนี้เช้า”
เฉินหยานเซียว คิดว่าคืนนี้เป็นคืนที่สิ้นหวังอย่างแน่นอน
“ไม่ต้องกังวลถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในพรุ่งนี้เช้า ข้าจะหาหนทางที่จะแจ้งให้เจ้าทราบในทันทีถึงการกระทำของโอวหยางฮั่วหยู…”
ในฐานะศิษย์ชั้นนำของสาขาหมอเวท หยานอู๋มั่นใจมากว่าเขาจะอยู่ข้าง ๆ
ของโอวหยางฮันหยูในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้
ดังนั้นหยานอู๋จะทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่รีบวิ่งไปที่สาขา นักเวทมนต์ดำ เพื่อจับคน
ทั้งห้าคนนั้นอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานเพื่อพูดคุยกัน
มีการตัดสินใจแล้วว่า
เฉินหยานเซียวจะไปสาขานักเวทมนต์ดำในเช้าวันพรุ่งนี้เพื่อพบอาจารย์ของเธอขณะที่
ถังนาจื่อ จะนั่งรอที่นอกสาขาหมอเวทเพื่อรอข่าวจาก หยานอู๋
และในกรณีที่มีอุบัติเหตุใด ๆ เขาจะรีบไปที่สาขานักเวทมนต์ดำทันที เพื่อแจ้งเฉินหยานเซียว
ด้วยความช่วยเหลือของหยานอู๋และถังนาจื่อ
ทำให้ เฉินหยานเซียวรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยในที่สุด
เช้าวันถัดมา
เฉินหยานเซียวไปที่สาขานักเวทมนต์ดำ ภายใต้ความช่วยเหลือของถังนาจื่อ อย่างไรก็ตาม
“เฉินจิว” ลาป่วยไปสองสามวันในสาขาปรุงยา
แม้ว่าเธอจะหายไปอีกหนึ่งวันก็ไม่มีใครสังเกตเห็น
คราวนี้ซิวเริ่มดูรอบข้างก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้สาขานักเวทมนต์ดำ
เพื่อตรวจสอบว่าจะมีใครบางคนเข้ามาซุ่มโจมตีพวกเขาหรือไม่
ในที่สุดเขาก็ไม่ตรวจจับหาอะไรไมพบ เห็นได้ชัดว่าโอวหยางฮันหยูสนใจเฉินหยานเซียว
เป็นอย่างมาก
แต่เนื่องจากเขาตระหนักถึงความสำคัญของการมีอยู่ของนักเวทมนต์ดำในทวีปคังหมิงเขาจึงไม่อนุญาตให้คนอื่นรับผิดชอบเรื่องนี้
เป็นครั้งแรกที่
เฉินหยานเซียวเข้าสู่สาขานักเวทมนต์ดำในเวลาระหว่างวัน
อาคารสีขาวทั้งสองด้านของถนนถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์และสาขานักเวทมนต์ดำ
ซึ่งผู้คนไม่เคยเวะมาเยี่ยมมาเป็นเวลานานดูเหมือนจะโดดเดี่ยวมากขึ้นในตอนกลางวัน
เฉินหยานเซียวเดินผ่านรูปปั้นนักเวทมนต์ดำที่ทรุดโทรมอย่างรวดเร็วเดินเข้าไปทางหอนักเวทมนต์ดำ
แม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางวัน
แต่หอนักเวทมนต์ดำยังคงสว่างจากผลึกแสง
หยุนฉีนั่งอยู่หลังโต๊ะท่ามกลางกองคัมภีร์ตามปกติ
หากมองด้วยความตั้งใจ
ก็จะเห็นได้ว่าดวงตาของชายชราผู้นี้ดูเหมือนจะแฝงด้วยความวิตกกังวล
“เด็กหญิงตัวน้อยไม่ปรากฏตัวมาเป็นเวลาสามวัน
เธอคงไม่พบปัญหาอะไรใช่หรือไม่?” หยุนฉีมองดูคัมภีร์ที่อยู่ในมือของเขา
ความคิดของเขาก็บินไปไกลกว่าเมฆบนท้องฟ้า
แม้ว่าเวลาที่เขาสอนเฉินหยานเซียวนั้นจะไม่ถือว่านานพอ
แต่เขาก็รู้ว่าเด็กหญิงตัวน้อย มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้เส้นทางที่ยากลำบากของนักเวทมนต์ดำ
ก่อนหน้านี้เธอจะปรากฏตัวที่หอนักเวทมนต์ดำตรงเวลาเสมอ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้
กลับไร้ร่องรอยใด ๆ ของเธอ
หัวใจของหยุนฉีอดที่จะรู้สึกกังวลไม่ได้
เขากลัวว่า เฉินหยานเซียวอาจจะประสบอุบัติเหตุ
เมื่อหยุนฉีมีความกังวลเป็นพิเศษ
ร่างที่ว่องไวก็ได้ปรากฏขึ้นในหอเวทมนต์ดำที่เงียบสงบ
“อาจารย์”
เฉินหยานเซียวได้มายืนอยู่ด้านหน้าหยุนฉีอย่างเรียบร้อย
ภายในใจของเธอล้วนมีแต่คำขอโทษ
ตามลักษณะนิสัยของหยุนฉี
เธอกลัวว่าเขาจะตั้งหน้าตั้งตารอเธอจนดึกในทุก ๆ วัน
"เจ้ามาแล้ว"
หยุนฉีมองศิษย์ของเขาที่หายตัวไปเป็นเวลาสามวัน ในที่สุดหัวใจของเขาก็ผ่อนคลาย
“ข้าขอโทษ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าป่วยและไม่สามารถมาตรงเวลาได้ ข้าอยากจะมาเมื่อคืนนี้
แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าจะได้เห็นผู้นำสูงสุดโอวหยางที่ประตูของสาขานักเวทมนต์ดำ”
เฉินหยานเซียวอธิบาย
หยุนฉีตื่นตกใจอยู่ครู่หนึ่ง
คำพูดสุดท้ายของเฉินหยานเซียว ทำให้เขาประหลาดใจจริง ๆ
การแสดงออกที่ผ่อนคลายของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เขา?”
“อาจารย์
ข้าคิดว่าผู้นำสูงสุดโอวหยางต้องการเห็นข้า แต่ข้าห่วงที่จะเปิดเผยตัวตนของข้า
ดังนั้นข้าจึงคิดหาวิธีที่จะหลบหนีไป” เฉินหยานเซียว ไม่ได้เปิดเผยเรื่อง
ฉีเซียและคนอื่น ๆ แม้ว่าเธอจะเชื่อใจทั้งสี่คน
แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าหยุนฉียินดีที่จะเห็นเธอมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาชีพอื่น ๆ
หรือไม่
EGT 250
สร้อยแสงจันทร์ (3)
อาจกล่าวได้ว่าเกือบทุกคนที่เข้ามาในเส้นทางของนักเวทมนต์ดำจะมีอารมณ์แปลก
ๆ
“บ้าจริง!”
หยุนฉีคำรามออกมา ในขณะที่เขายืนขึ้นจากเก้าอี้
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเมื่อเขามองออกไปที่นอกประตู
“ข้ารู้ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ!
ในการที่จะทำสิ่งนี้ เขาต้องอยากรู้ตัวตนของเจ้าจริง ๆ โอวหยางฮันหยู
เจ้าเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่า อย่าคิดที่จะทำอะไรกับศิษย์ของข้า!”
เขาไม่เชื่อคำพูดของโอวหยางฮันหยูอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นไม่มีใครรู้จักคนผู้นี้ดีไปกว่าเขา
ดูเหมือนว่าผู้นำสูงสุดของสำนักศักดิ์สิทธิรั่วหลานที่บริสุทธิ์และใจบุญ
ดูเหมือนจะสนใจนักเวทมนต์ดำที่ได้รับความเดือดร้อน
อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ยอมเปิดเผยตัวตนของเฉินหยานเซียว
เพราะเมื่อโอวหยางฮันหยูรู้จักตัวตนของ เฉินหยานเซียว
เขากลัวว่าจะมีปัญหามากมายในอนาคต
“ครั้งต่อไปเมื่อเจ้าเห็นเขา
เจ้าต้องระวังเป็นพิเศษ” หยุนฉีบอกศิษย์คนเดียวอย่างเคร่งครัด โอวหยางฮันหยู
เป็นคนที่อันตรายมาก
ที่แม้แต่เขาก็ไม่สามารถหาวิธีจัดการกับคนผู้นี้ได้อย่างเต็มที่
“แน่นอนข้าจะระวังตัว
แต่ด้วยความแข็งแกร่งของโอวหยางฮันหยู มันคงเป็นเรื่องยากที่จะหลอกเขาเมื่อใดก็ตามที่ข้าจะเข้ามาในสาขานักเวทมนต์ดำ”
เฉินหยานเซียวค่อนข้างหดหู่ ทักษะการขโมยของเธอนั้นแข็งแกร่งมาก
แต่โลกนี้ไม่เหมือนกับโลกก่อนหน้าของเธอ
ที่นี่มีเวทอาคมที่สามารถช่วยให้ผู้คนรับรู้การปรากฏตัวของเธอได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเป็นแค่ศิษย์ธรรมดาเธอก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก
แต่ โอวหยางฮันหยู นั้นอยู่ในระดับจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็น
แต่ก็ไม่มีทางที่เธอจะหนีจากเวทอาคมแห่งการรับรู้ของเขาได้
“ไม่ต้องกลัวข้าอยู่ที่นี่
ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้าเข้าและออกได้อย่างอิสระ” หยุนฉีหรี่ตาของเขาลง
ในขณะที่เขาสาปแช่งโอวหยางฮั่วหยูหลายครั้งอยู่ภายในใจ
เขาเปิดแหวนมิติที่นิ้วของเขาในทันทีและจากนั้นก็หยิบสร้อยคอที่ส่องแสงระยิบระยับ
มันดูเหมือนจะเคลือบด้วยสีเงินออกมา
“นี่คือสร้อยคอที่ทำจากผลึกแสงจันทร์
โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งของโอวหยางฮันหยู ตราบใดที่เขามองไม่เห็นตัวของเจ้า
ด้วยของพลังเวทอาคมของเขา มันจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการดำรงอยู่ของเจ้า”
หยุนฉีมอบสร้อยแสงจันทร์ให้เฉินหยานเซียว
เฉินหยานเซียวหยิบสร้อยจากมือของเขา
ช่วงเวลาที่สร้อยคอสัมผัสบนฝ่ามือของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่อบอุ่นที่แผ่ออกมาจากมัน
‘มันเป็นสิ่งที่ดี’
ซิวพูดออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ถึงต้นกำเนิดของสร้อยคอนี้
‘ผลึกแสงจันทร์เป็นผลึกที่หาได้ยากจากทวีปเทพจันทรา
ที่นั่นเป็นแผ่นดินใหญ่ของพวกภูตเอลฟ์และในโลกของพวกเอลฟ์นั้นมีพลังลึกลับมากมาย
ผลึกแสงจันทร์มีพลังเวทของดวงจันทร์ซึ่งทำให้ผู้ถือสามารถสร้างกำแพงธรรมชาติได้
แม้ว่าโอวหยางฮันหยู ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นจะเป็นถึงจอมเวท
มันก็คงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะตระหนักถึงการมีอยู่ของเจ้าด้วยเวทอาคมของเขา
ดูเหมือนว่า หยุนฉี จะห่วงเจ้าอย่างแท้จริง ข้าเองก็ไม่ได้เห็นผลึกแสงจันทร์มากนัก
ข้ากลัวว่าในปัจจุบันในทวีปคังหมิงทั้งหมดนี้จะมีผลึกแสงจันทร์เพียงสองหรือสามชิ้นที่สามารถพบได้’
‘เด็กพวกนั้นไม่ได้บอกว่ามันคงไม่ง่ายนักที่นักเวทมนต์ดำจะหนีจากการถูกขับไล่?
ความสำเร็จของการหลบหนีของหยุนฉีนั้นต้องขอบคุณสร้อยคอแสงจันทร์นี้'
มีเพียงไม่กี่สิ่งในโลกนี้ที่สามารถดึงดูดสายตาของซิวและผลึกแสงจันทร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
เฉินหยานเซียวถือสร้อยคอไว้ในมือของเธอเพราะความใจดีของหยุนฉี
มันสัมผัสไปถึงหัวใจของเธออย่างไม่หยุดยั้ง
เพียงแค่ฟังคำอธิบายของซิวเธอก็สามารถเดาได้ว่าสร้อยคอนี้มีค่ามากแค่ไหน
สร้อยคอนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้หยุนฉีประสบความสำเร็จในการหลบหนีการไล่ล่าของนักเวทมนต์ดำและรักษาชีวิตของเขาไว้
และตอนนี้เขาก็มอบมันให้กับเธอตอนนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น