เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

EGT 239-241 ความเจ็บป่วย



EGT 239 ความเจ็บป่วย (1)


ภายใต้การชี้แนะของหยุนฉี เฉินหยานเซียวใช้เวลาส่วนใหญ่ในการฝึกบ่มเพาะพลังเวทของเธอแทนที่จะเรียนรู้เคล็ดวิชาผสานคำสาปอื่น ๆ

แม้ว่าเธอจะยังไม่ปลดผนึกตราประทับชั้นที่สามของเธอ แต่ด้วยคำชี้แนะที่เหมาะสม เฉินหยานเซียวก็สามารถเร่งทำการฝึกบ่มเพาะพลังเวทของเธอได้ หยินฉีอนุญาตให้เธอเรียนรู้เคล็ดวิชาคำสาปขั้นพื้นฐานที่สุดก่อนเท่านั้นและฝึกกับพวกมัน เพื่อให้เธอควบคุมการไหลของพลังเวทอย่างต่อเนื่องและไม่ยอมให้เธอฝึกใช้งานเคล็ดวิชาผสานคำสาปที่มีระดับที่สูงขึ้นในตอนนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ เฉินหยานเซียวจะสามารถทำได้เพียงแค่สองเคล็ดวิชาคำสาปในระดับสูงพร้อมกัน แต่เธอในตอนนี้ก็ค่อย ๆ เริ่มใช้งานคำสาปได้มากขึ้น

ประโยชน์ที่มีเพียงสองคน เฉินหยานเซียว และ หยุนฉี เท่านั้นที่รู้

ในขณะที่ เฉินหยานเซียว แสดงความเคารพต่อหยุนฉีในฐานะอาจารย์ของเธอ หยุนฉีให้ตราสัญลักษณ์ ที่มีรูปร่างคล้ายดาวมี 6 แฉก กับเฉินหยานเซียว มันเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นศิษย์ในสาขานักเวทมนต์ดำ ไม่เหมือนกับตราสัญลักษณ์ของสาขานักธนูและนักปรุงยาที่เต็มไปด้วยประกายแวววาว ตรานักเวทมนต์ดำ ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นที่บดบังความเปล่งปลั่ง แต่เฉินหยานเซียว ก็ยังคงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

เธอรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของมัน

ทุกคืน เฉินหยานเซียว จะไปที่สาขานักเวทมนต์ดำ ในขณะที่สวมตรานี้บนหน้าอกของเธอและแม้กระทั่งเอายาปรับเปลี่ยนใบหน้าของเธอเพื่อให้ปรากฏในรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอ

[เฉินจิว - นักปรุงยา (เรียนเช้า)
เสี่ยวหยาน- นักธนู (เรียนบ่าย)
เฉินหยานเซียว - นักเวทมนต์ดำ (เรียนกลางคืน)]

เมื่อหยุนฉีเห็นการกระทำของ เฉินหยานเซียว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกพอใจลึก ๆ อยู่ภายใน

ด้วยการฝึกที่เพิ่มขึ้นของหยุนฉี ชีวิตของ เฉินหยานเซียวก็ยุ่งมากขึ้น ในตอนเช้าเธอจะเข้าเรียนที่แผนกปรุงยา จากนั้นในช่วงบ่ายเธอจะเข้าเรียนในสาขาธนูแล้วในตอนเย็นเธอจะออกไปอย่างเงียบ ๆ อีกครั้งเพื่อไปที่สาขานักเวทมนต์และฟังคำชี้แนะของหยุนฉี

วิถีชีวิตที่วุ่นวายแบบนี้ถ้าเป็นอีกคนหนึ่งมันอาจจะทำให้พวกเขากลายเป็นบ้า

ความแข็งแกร่งทางจิตใจของเฉินหยานเซียวนั้นต่างจากคนปกติทั่วไปเหมือนเป็นระบบระดับสูง เธอจัดการกับกิจกรรมทั้งสามนี้ทุกวันโดยแบ่งวันของเธอออกเป็นสามส่วนและในแต่ละส่วนเป็นชั้นเรียนที่แตกต่างกันซึ่งเธอจะใช้เวลาอย่างตั้งใจ หลังจากส่วนหนึ่งเสร็จสิ้นเธอก็จะดำเนินการต่อในส่วนอื่นทันที

แต่ถึงแม้ว่าจิตใจของเฉินหยานเซียวจะสามารถรับมือกับมันได้ แต่ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเกินไป

ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว ร่างกายที่มีสุขภาพดีของ เฉินหยานเซียวก็เริ่มเผยอาการออกมา ในตอนเช้าตรู่ เธอตื่นมาด้วยความเหนื่อยล้า มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบาย

“ …” เฉินหยานเซียวนอนอยู่บนเตียง มองดูเพดานอย่างเงียบ ๆ เธอต้องการลุกขึ้น แต่ร่างกายของเธอกลับรู้สึกหนักอึ้ง

เจ้าควรพักผ่อนบ้าง ตอนนี้เจ้าป่วย” เมื่อเห็นว่าเฉินหยานเซียวป่วย ถังนาจื่อก็ลาเรียนในสาขาปรุงยาเพื่อดูแลเฉินหยานเซียวเป็นพิเศษ คอยอยู่ข้างเตียงของเธอ ทุกวันนี้เด็กน้อยผู้นี้ทำตัวมีความลับ ไม่น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แต่เขาก็ยังคงดูแลเธออย่างเอาใจใส่ ในขณะนี้ สหายซื่อตรงถือมีดบาง ๆ ในมือข้างหนึ่งในขณะที่มืออีกข้างของเขากำลังถือแอปเปิ้ลสีแดงที่ส่องประกายวาว เขากำลังเตรียมที่จะปอกมันให้กับเฉินหยานเซียว

เจ้ายังคงยืนยันที่จะทำตัวให้ยุ่งในทุกวัน โดยไม่รู้สาเหตุ จนเมื่อร่างกายของเจ้าอ่อนแอ จริง ๆ แล้วเจ้าคิดว่าร่างกายของเจ้าทำจากเหล็กหรือไม่ บอกความจริงกับข้า ไม่งั้น ข้า ปู่น้อยของเจ้าผู้นี้จะทุบตีเจ้าจนกว่าเจ้าจะยืนไม่ไหวแล้วคลานเท่านั้น” เมื่อมองคนป่วยของเขาที่พยายามจะลุกจากเตียง แม้จะมีร่างกายที่ป่วย ถังนาจื่อก็ยังคงปอกและหั่นแอปเปิ้ล ก่อนมันลงในปากเล็ก ๆ ของเธออย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะตบเธอเบา ๆ และผลักให้เธอกลับไปนอนพักที่บนเตียง

เมื่อเห็นถังนาจื่อดูแลเธอ เฉินหยานเซียวอยากร้องไห้ถ้าเธอมีน้ำตาก็คงจะเป็นเช่นนั้น เธอไม่ต้องการพักผ่อนหรือมีแนวโน้มว่าเธอจะไม่มีเวลาที่แม้แต่จะพักผ่อน มีเวลาเหลือเพียงครึ่งปี ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะสามารถชนะการต่อสู้ได้ เธอต้องฝึกอย่างหนัก เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งสามด้านของเธอสำหรับการแข่งขัน

เธอไม่มั่นใจว่าจุดแข็งของตัวตนทั้งสามของเธอในปัจจุบันสามารถรวมเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการแข่งขันหรือไม่ แต่เธอก็ยังต้องเตรียมตัว!





EGT 240 ความเจ็บป่วย (2)


เป็นเพราะเหตุนี้ เธอจึงไม่ต้องการที่จะละเลยต่อการศึกษาของเธอไม่ว่าจะเป็นในด้านนักปรุงยา นักธนูหรือนักเวทมนต์ดำ

เหตุการณ์ในวันนั้น ใบหน้าของหยุนฉีที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความสลดใจยังคงปรากฏอยู่ในใจของเฉินหยานเซียว แม้ว่าเธอจะไม่มีความทะเยอทะยานและไม่รู้สึกถึงความเป็นเจ้าของในโลกนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกต่อความรักและความห่วงใยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นเฉินเฟิง เฉินซืออู๋หรือหยุนฉี เฉินหยานเซียสัมผัสได้ถึงความรักและความเอาใจใส่ดูแลที่พวกเขามีต่อเธอ ในฐานะโจรเธอได้เห็นว่าโลกอันอบอุ่นที่กลับกลายเป็นหนาวเย็นได้อย่างไร เธอเคยเห็นผู้คนมากมายแสวงหาชื่อเสียงและเงินทองเพื่อดูแลครอบครัวของพวกเขา และในที่สุดก็กลายเป็นศัตรูกัน แต่ความสนใจของทั้งสามคนนี้สำหรับเธอนั้นแตกต่างออกไป สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วงเธออย่างแท้จริง นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่สามารถรอที่จะชดใช้และต้องการที่จะปกป้องพวกเขา

ถึงแม้ว่าโจรจะฉลาดแกมโกงและเห็นแก่ตัว แต่ก็ยังมีบางส่วนในใจที่ยังคงบริสุทธิ์

และคนสามคนนั้นอยู่ในส่วนนั้นของหัวใจของเธอ

ดังนั้นเธอจึงต้องการช่วยให้หยุนฉีบรรลุความต้องการในขณะเดียวกันก็ทำภารกิจที่ซิวมอบให้เธอ

ข้าสบายดี” เฉินหยานเซียวคายแอปเปิ้ลออกมาด้วยความยากลำบาก เธอค่อนข้างจะปวดหัวเพราะถังนาจื่อ

ฮ่าฮ่า” ถังนาจื่อหัวเราะขณะที่พยายามจับแอปเปิ้ลโดยไม่สนใจการต่อต้านของเฉินหยานเซียว คราวนี้ด้วยมีดของเขา เขาอดทนตัดแอปเปิ้ลเป็นชิ้น ๆ แล้วยัดมันเข้าไปในปากของเธอ

“…” ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้ป่วยในตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเพิกเฉยต่อความปรารถนาของเธอได้!

คุณชายน้อยของตระกูลเต่าดำยังคงเป็นคนที่เหมาะสมที่จะรู้วิธีดูแลคนป่วยได้” เสียงที่ฟังดูขี้เกียจเล็กน้อยดังออกมาจากที่หน้าประตู

ฉีเซียยืนพิงขอบประตูอย่างเฉื่อยชา สุนัขจิ้งจอกยิ้มออกมาในขณะที่กำลังเฝ้าดูสถานการณ์ที่อบอุ่นภายในห้อง เบื้องหลังฉีเซียคือหยานอู๋และหยางซือ พวกเขามาด้วยกัน แต่แตกต่างจากฉีเซีย พวกเขาดูใจดีมากพอที่พวกเขาไม่ได้ออกความเห็นเกี่ยวกับฉากที่ผิดปกติเล็กน้อยนี้

ทำไมวันนี้พวกเจ้าถึงว่างมาที่นี่” ถังนาจื่อเพิกเฉยต่อการเยาะเย้ยของฉีเซีย และยังคงพยายามป้อนอาหารให้เฉินหยานเซียวต่อไป

วันนี้ก่อนเริ่มชั้นเรียน ข้าเห็นสหายตัวน้อยร่วมห้องของเจ้า เลยได้รู้มาว่าเสี่ยวจิวป่วย ดังนั้นเราจึงพากันมาเยี่ยม” ฉีเซียยักไหล่และเดินเข้ามา

เฉินหยานเซียวพูดไม่ออก ถ้าเธอจำได้อย่างถูกต้องชั้นเรียนของพวกเขาควรจะเริ่มแล้ว คนเหล่านี้มีความกล้าหาญมากที่จะโดดชั้นเรียน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เดือดร้อน?

เสี่ยวจิว เปราะบางอย่างแท้จริง ร่างกายผอม ๆ ของเจ้าไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม” ฉีเซียนั่งลงบนเตียงของเฉินหยานเซียว และนอนลงบนด้านข้างของ เฉินหยานเซียวอย่างไร้มารยาท ใบหน้าหล่อที่ไม่มีใครเทียบของเขาเกือบติดอยู่กับจมูกของเฉินหยานเซียว

และเมื่อเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นทันใดนั้นก็ทำให้เฉินหยานเซียวหายใจเอาอากาศเข้าไปในปากจนถึงจุดที่เธอเกือบหายใจไม่ออก เนื่องด้วยแอปเปิ้ลที่อยู่ในปากของเธอ

ให้ข้าตรวจสอบเจ้า” ใบหน้าซีดของหยานอู๋มีรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขาเดินไปที่ด้านข้างของ เฉินหยานเซียว เขาตรวจสอบสภาพของเฉินหยานเซียว

อู๋มาจากตระกูลเสือขาวนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเชื่อถือได้มากกว่าพยาบาลประจำสำนัก” ฉีเซียยังคงยิ้มแย้ม

ขอบคุณ…” เฉินหยานเซียว พยักหน้าให้หยานอู๋และขอบคุณเขา

หยานอู๋ หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า: "ไม่เป็นอันตรายมันเป็นแค่ความเหนื่อยล้าและตอนนี้เจ้ารู้สึกอ่อนแอเท่านั้น ข้ามียาซวนจิว สองสามเม็ด เจ้าจะรู้สึกดีขึ้นในไม่ช้าเมื่อเจ้ากินมัน”

ถึงแม้ว่ายาเม็ดซวนจิวจะไม่ได้มีค่า แต่มันก็ค่าหลายร้อยเหรียญทอง หยานอู๋ยื่นขวดยาให้เฉินหยานเซียว โดยตรง

คนทั้งสามยังอยู่ภายในหอพักของเฉินหยานเซียวพักหนึ่ง ก่อนจะออกไปเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน ถังนาจื่อ รู้ว่าจะใช้ประโยชน์จากพวกเขาอย่างไรและขอให้ ฉีเซียนำอาหารมาให้ ในขณะที่เขารออยู่ในห้อง





EGT 241 ความเจ็บป่วย (3)


เมื่อศิษย์นักปรุงยากลับมาที่หอพักและเห็นสัตว์สามตัวออกมาจากหอพัก ศิษย์เหล่านั้นก็เริ่มตกใจจนถึงจุดที่ขากรรไกรเกือบจะหล่นลงไปที่พื้น

สามในศิษย์ชั้นนำของสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานได้มาปรากฏตัวขึ้นในเวลาเดียวกันในหอพักของพวกเขา?

มันก็ผ่านไปโดยไม่มีอะไร แต่ทว่าสัตว์สามตัวก็ได้กลับมาอีกครั้งในขณะที่ถืออาหารจำนวนมากมาด้วย นี่ทำให้พวกเขาทั้งหมดไร้คำพูดอย่างสมบูรณ์

อัจฉริยะทั้งสามนี้จะมาอาศัยอยู่ในหอพักของพวกเขาในตอนนี้หรือไม่?

แม้ว่า เฉินหยานเซียวจะต้องการให้สัตว์ทั้งสี่ออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นการยากที่จะปฏิเสธการต้อนรับที่ดีเยี่ยมของพวกเขา ดังนั้นเธอจึงสามารถยอมรับการต้อนรับของคนทั้งสี่ได้อย่างเงียบ ๆ

แม้ว่าคนทั้งสี่มักจะชอบเที่ยวเล่น แต่วิธีการดูแลของพวกเขา มันก็เข้มงวดพอที่ทำให้เฉินหยานเซียวดีขึ้นเล็กน้อย

ในวันที่สามหลังจากการเจ็บป่วย ในที่สุดเฉินหยานเซียวก็สามารถฟื้นพลังชีวิตกลับมาแข็งแกร่งและมีชีวิตชีวาเช่นเดิมได้

สามวันที่ผ่านมาเธอไม่ได้เข้าเรียน

แน่นอนว่าเธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชั้นเรียนปรุงยาและนักธนู สิ่งเดียวที่เธอกังวลคือฝั่งของหยุนฉี หยุนฉีจะคิดอย่างไรหลังจากสามวันที่เธอหายตัวไป?

เฉินหยานเซียว ตัดสินใจในทันทีและไปที่สาขานักเวทมนต์ดำในตอนดึก เช่นเดียวกับที่เท้าของเฉินหยานเซียวก้าวออกไปข้างนอกหอพักที่มืด ถังนาจื่อก็นั่งตัวตรงบนเตียงของเขา ใบหน้าของเขามีรอยดำที่ทำให้คนไม่สามารถเข้าใจได้ เขาจ้องมองที่เตียงว่างเปล่าของเฉินหยานเซียวและขมวดคิ้ว

เฉินหยานเซียวมาที่ประตูสาขานักเวทมนต์ดำ แต่เธอยังไม่ได้เข้าไป เมื่อเธอได้ยินเสียงของ ซิว: ‘ระวัง มีใครบางคนอยู่ใกล้ ๆ’

เสียงฝีเท้าของเฉินหยานเซียวหยุดลงในทันทีเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง

พลังเวทของนักเวทที่รู้จักกันดีและน่าเกรงขามอยู่ใกล้กับบริเวณนั้น แม้ว่าเขาจะพยายามลดการปรากฏตัวของเขา แต่ลมหายใจของเขายังอยู่ที่นั่น' หลังจากที่เกิดความผิดพลาดในครั้งก่อน ซิวเริ่มระวังตัวมากขึ้นและตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่านักเวทคนนั้นจะซ่อนตัวได้ดี แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังถูกค้นพบในตอนท้าย

เฉินหยานเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อยทำไมคนผู้นั้นถึงซ่อนตัวอยู่ใกล้กับประตูของสาขานักเวทมนต์ดำ

ในตอนแรกเฉินหยานเซียวรู้สึกสับสนกับสถานการณ์ แต่ในทันใดนั้น ร่างสง่างามก็เดินออกมาจากความมืด

มันคือ โอวหยางฮันหยู!” เฉินหยานเซียวกำหมัดของเธออย่างลับ ๆ ถ้าซิวไม่บอกเธอ เธอก็จะไม่ทราบถึงสถานะของโอวหยางฮันหยู

ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่อีกครั้ง?

เฉินหยานเซียวมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี เธอไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่โอวหยางฮันหยูปรากฎเธอจะรู้สึกราวกับว่าเธอไม่สามารถหนีไปได้แล้วหัวใจของเธอก็จะต้องระวังเขาไว้

ผู้นำสูงสุดสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานนั้นไม่ง่ายอย่างที่เห็นจากฉากหน้าของเขา

โอวหยางฮันหยูมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาขณะที่เขายืนอยู่หน้าประตูสาขานักเวทมนต์ดำและมองที่ซ่อนของเฉินหยานเซียว

แม้ว่าเขาสัญญากับหยุนฉีว่าเขาจะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการของสาขานักเวทมนต์ดำ แต่เขาก็อยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับบุคคลที่กล้าพอที่จะเผชิญกับอันตรายในการต่อสู้กับความเชื่อมั่นของทวีปคังหมิง โดยการเดินไปตามเส้นทางของนักเวทมนต์ดำ ในท้ายที่สุดใครคือเด็กน้อยผู้นี้

ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาย่อมสามารถรับรู้ได้ถึงจุดที่เด็กน้อยผู้นั้นที่ซ่อนตัว เขากำลังรอโอกาสที่จะได้ไปหา สัตว์ร้ายที่ดุร้าย ทีละก้าว เขาเดินไปที่ซ่อนตัวของเฉินหยานเซียว

หัวใจของ เฉินหยานเซียวเต้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ความรู้สึกของเธอบอกเธอว่าหากโอวหยางฮันหยูพบเธอสิ่งนั้นอาจจะแย่

ผู้นำสูงสุดเป็นอันตรายจริงๆ

เมื่อเห็นโอวหยางฮันหยูกำลังจะมาถึงอาคารด้านหน้าที่ซึ่งเธอซ่อนตัวอยู่ หัวใจของเฉินหยานเซียวแทบจะกระโดดขึ้นไปถึงลำคอของเธอ

เมื่อถึงเวลาที่เธอพร้อมจะหนี มือเรียวก็ปิดปากเธอไว้ในทันที

1 ความคิดเห็น: