เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2562

EGT 114-115 ชายชราผู้ลึกลับ



EGT 114 ชายชราผู้ลึกลับ


ชั้นคัมภีร์ที่อยู่ด้านหน้าเธอปกคลุมไปด้วยฝุ่นละออง ขณะที่พวกมันอยู่ในชั้นวางคัมภีร์มาเป็นเวลานานโดยที่มีใครแตะต้องมัน

เฉินหยานเซียวเดินไปที่ตู้คัมภีร์ที่ใกล้ที่สุด จากนั้นหยิบคัมภีร์เวทมนต์ดำที่ระบุบอกว่าเป็นเล่มแนะนำนักเวทมนต์ดำขึ้นมา

เนื่องจากเธอเลือกที่จะเดินไปตามเส้นทางของเวทมนต์ดำเธอจึงต้องมั่นคงและต้องโจมตีอย่างหนัก ดังนั้นถ้าอาชีพนี้ถูกลืมโดยสาธารณชน จะมีวันที่เธอจะทำให้อาชีพนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้งในทวีปคังหมิงด้วยความรุ่งโรจน์!

...

ในช่วงเวลากลางวันของสองสามวันต่อมา โดยทั่วไปเฉินหยานเซียวจะพักอยู่ในหอพักของเธอและศึกษาคัมภีร์ปรุงยาเท่านั้น ในตอนกลางคืนเธอจะหลบออกไปที่หอคัมภีร์ของสาขาเวทมนต์ดำเพื่อขโมยคัมภีร์มาศึกษา

ในตอนกลางคืนตามปกติ เฉินหยานเซียวจะใช้ประโยชน์จากความมืดเพื่อหลบเข้าไปในสาขาเวทมนต์ดำอีกครั้ง เหตุผลที่เธอเลือกที่จะศึกษาในวิชาของเวทมนต์ดำก่อนนักธนูนั้นเป็นเพราะความจริงที่ว่าการกำกับดูแลของสาขาเวทมนต์ดำนั้นหละหลวมเกินไป มีเพียงชายชราผู้เดียวเท่านั้นที่ดูแลหอคัมภีร์ของสาขาเวทมนต์ดำตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเป็นสิ่งที่สะดวกมากสำหรับเธอ ในทางตรงกันข้ามการควบคุมศาลาหอคัมภีร์ของสาขานักธนูนั้นเข้มงวดกว่ามาก เธอไปที่นั่นอย่างลับ ๆ ล่อๆ แต่ก็ยังมีอาจารย์สองสามคนที่คอยดูแลอยู่ แม้ว่ามันจะเป็นตอนกลางดึกก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอจะศึกษาสิ่งที่สะดวกกว่าก่อน

ก่อนที่ เฉินหยานเซียวจะแอบเข้าไปในหอคอยนักเวทมนต์ดำ  เธอต้องรอจนแน่ใจว่าชายชราผู้มีหน้าที่ดูแลหอคอยยังคงทำในสิ่งที่เขาทำทุกวัน ๆ จากนั้นเธอก็แอบเข้าไปอย่างเงียบ ๆ ภายใต้แสงสลัว ในขณะที่เขาทำการซ่อมแซมคัมภีร์เวทมนต์ดำ

โดยไม่ต้องสงสัยเธอสามารถแอบเข้าไปในชั้นสองของหอคัมภีร์เวทมนต์ดำจนเข้าสู่วันที่สิบวันติดต่อกันแล้ว ด้วยความทรงจำที่ไม่ลดทอน เธอจึงจดจำคัมภีร์ส่วนใหญ่จากเนื้อหาของชั้นนี้ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เพียงแต่เธอไม่มีความเข้าใจในอาชีพเวทมนต์ดำ ซิวก็เหมือนกัน หากไม่มีระบบการศึกษามันทำให้เธอก้าวหน้าได้ค่อนข้างช้า

เธอหยิบคัมภีร์คำสาปที่เธอยังอ่านไม่จบเมื่อวานนี้ขึ้นมา เฉินหยานเซียวยังอยู่ในมุมที่อบอุ่นและนั่งลง

ทักษะของเวทมนต์ดำนั้นแปลกมาก มันต้องจับคู่กับสัญลักษณ์มือหลากหลายรูปแบบจนไม่สามารถนับได้ ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแต่รูปแบบการโจมตีของพวกมันที่จำกัดการสาปแช่งเท่านั้น แต่มันยังออกฤทธิ์ช้า มีเคล็ดวิชาคำสาปที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้น ที่อาจทำให้ความแข็งแกร่งของผู้อื่นลดลงภายในระยะเวลาอันสั้น สำหรับคนที่หลบซ่อนอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ดีจริง ๆ แต่บันทึกสำหรับคำสาปประเภทนี้ก็กระจัดกระจายค่อนข้างมาก เฉินหยานเซียวพลิกเปิดดูคัมภีร์ไม่กี่เล่ม เคล็ดวิชาคำสาปในทางปฏิบัติที่เธอพบมีไม่มากนัก

เคล็ดวิชาคำสาปทั้งหมดนี้มีคาถาอาคมเป็นพื้นฐาน บ้าจริง! ในตอนนี้ข้ายังไม่พบคาถาอาคมดังกล่าว”  เฉินหยานเซียวโยนคัมภีร์ที่อยู่ในมือของเธอไปด้านข้างด้วยความรู้สึกหดหู่ จากนั้นจึงหยิบคัมภีร์อีกเล่มจากตู้คัมภีร์เพื่อค้นหาทักษะที่เธอต้องการ

อาชีพนักเวทมนต์ดำ เดิมทีเป็นอาชีพที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นตราบใดที่มีการใช้อย่างถูกต้อง ระดับหนึ่งดาวก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับความพยายามในความร่วมมือกันของสามคนจากอาชีพอื่น ๆ อีกสามสาขา ทำไมเจ้าคิดว่ามันน่าเกรงขาม? มันเป็นเพราะความยากลำบากที่สุดในการเรียนรู้’ ซิวพูดปลอบโยนอารมณ์ของเฉินหยานเซียว ในความเป็นจริงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เฉินหยานเซียวได้เรียนรู้บางอย่างแล้ว เช่นเดียวกับหมวดคาถาโลหิตของเคล็ดวิชาคำสาป นี่เป็นที่แน่นอนสำหรับเธอแล้ว แม้กระนั้นเหล่านี้ก็เป็นเพียงเคล็ดวิชาคำสาปเดียว เฉินหยานเซียวยังไม่ได้เรียนรู้เคล็ดวิชาผสานคำสาป

ถ้าไม่ใช่เพราะท่านปู่ที่ให้ข้าเข้ามาเรียนสาขาปรุงยา ข้าก็จะพยายามเข้าสาขานักเวทมนต์ดำอย่างแท้จริง ไม่ว่าในกรณีใด ถ้าข้าได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ กระบวนการเรียนรู้จะง่ายกว่ามาก” เฉินหยานเซียวค่อนข้างกระวนกระวายใจเพราะในขณะที่บางสิ่งสามารถศึกษาได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้

เมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่บางคนได้รับคำแนะนำแล้ว การศึกษาด้วยตนเองคนหนึ่งจะเห็นได้ชัดว่ามีความเหลื่อมล้ำอย่างมาก แต่เธอไม่สามารถหาคนที่ไว้ใจได้จริง ๆ ที่สามารถให้คำแนะนำของเธอบนเส้นทางของนักเวทมนต์ดำ

ถ้าไม่มีอะไร พรุ่งนี้ข้าจะไปเที่ยวที่สาขาธนูเพื่อยืมคัมภีร์ทักษะบางอย่าง ทักษะที่นักเวทมนต์ดำต้องการสำหรับเปิดใช้งานคำสาปแบบผสมผสานนั้นทำได้ยากเกินไปเพราะพวกมันต้องการเจ็ดหรือแปดเคล็ดวิชาคำสาปเพื่อหลอมรวมเข้าด้วยกัน ข้าจะหาพวกมันได้จากที่ไหน?”

เธอรู้สึกกระวลกระวายใจและรู้สึกหดหู่ เธอมีพรสวรรค์พิเศษในการบ่มเพาะพลังเวทและพลังลมปราณสองอย่าง แต่เนื่องจากไม่มีแนวทางที่ถูกต้องจึงทำให้เธอต้องล่าช้าออกไป ความซึมเศร้าของเธอเพราะสิ่งนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างแท้จริง






EGT 115 ชายชราผู้ลึกลับ ส่วนที่ 2


เป็นการดีกว่าสำหรับเจ้าที่จะทำความคุ้นเคยกับทักษะเวทมนต์ดำ อย่าโลภมากเกินไปเพราะเจ้าจะไม่สามารถดูดซับได้ทั้งหมด หากเจ้าต้องการทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ เจ้าจะต้องมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่านี้’ ซิวชี้แนะเธอ

เฉินหยานเซียวทำได้แต่เพียงทิ้งความคิดนั้นไว้และต่อสู้กับความตายกับคัมภีร์เวทมนต์ดำในมือของเธอ

ในช่วงเวลานี้ เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากบันไดที่มุ่งสู่ชั้นสอง

เฉินหยานเซียวปิดผลึกแสงสว่างในทันที จากนั้นซ่อนตัวอยู่ในที่มืด

ชายชราผู้ดูแลของหอนักเวทมนต์ดำเดินขึ้นมาพร้อมกับถือโคมไฟผลึกในขณะที่เขาเดินเข้าสู่ความมืดสนิทที่ล้อมรอบชั้นสองโดยไม่รีบร้อน เขาเดินอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้าตู้คัมภีร์และวางกองคัมภีร์อย่างระมัดระวังลงบนตู้คัมภีร์ หลังจากนั้นเขาหันกลับและเดินลงไปที่ชั้นแรก

เมื่อเห็นว่าชายชรากำลังจะจากไป เฉินหยานเซียวสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

ภายในหอคอยขนาดใหญ่แห่งนี้ มีชายแก่เพียงคนเดียวที่คอยดูแลมัน ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เวลาทั้งหมดของเขาในทุกวันเพื่อทำการซ่อมคัมภีร์สองสามเล่มนี้ - ทำให้จิตใจและวิญญาณของเขาเข้าร่วมในคัมภีร์เหล่านี้ทั้งที่ไม่เคยมีใครสัมผัสมานาน

เฉินหยานเซียวเดินไปยังจุดที่ชายชราวางคัมภีร์ไว้ในก่อนหน้านี้ก่อนที่จะหยิบคัมภีร์ออกมาสองสามเล่ม

พวกมันเป็นเพียงคัมภีร์ทักษะ เคล็ดวิชาคำสาปและบันทึก

ความสนใจของเฉินหยานเซียวพุ่งไปที่คัมภีร์หนังแกะที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างรวดเร็ว คัมภีร์เก่านี้เป็นบันทึกที่ชัดเจนเกี่ยวกับเส้นทางของเวทมนต์ดำ ไม่เพียงแต่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเคล็ดวิชาผสานคำสาป ยิ่งไปกว่านั้นคือบันทึกที่เกี่ยวกับสถานการณ์โดยละเอียดของเคล็ดวิชาคำสาปแบบเดี่ยวที่เคล็ดวิชาผสานคำสาปต้องใช้จริง

บันทึกนี้ เป็นเหมือนกับถ่านหินที่ส่งมาในกลางฤดูหนาว มันคือสิ่งที่เฉินหยานเซียวต้องการมากที่สุดในตอนนี้

เมื่อเธอเปิดไปถึงหน้าสุดท้ายของคัมภีร์หนังแกะ เธอสังเกตเห็นชื่อที่ถูกเขียนไว้ มันดูหนักแน่นและแข็งแกร่ง

หยุนฉี ‘

เป็นที่ชัดเจนว่าคัมภีร์เล่มนี้เต็มไปด้วยบันทึกที่ถูกเขียนโดยบุคคลที่ชื่อหยุนฉี และเห็นระดับความทรุดโทรมที่ปกหนังแกะมีคัมภีร์เล่มนี้ย่อมมีอายุมาไม่น้อยไปกว่าห้าสิบถึงหกสิบปี

มันควรที่จะเป็นชายชราผู้นั้น ...

เฉินหยานเซียวรีบทำการคาดเดาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากซิ่วยืนยันแล้วว่าชายชราไม่มีพลังเวทและพลังลมปราณภายในร่างกาย เขาไม่น่าที่จะเป็นเพียงชายชราธรรมดา หากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่รู้สึกถึงตัวตนของเธอเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ไม่ว่าหยุนฉีจะเป็นใคร แค่เพียงคัมภีร์บันทึกเล่มนี้เท่านั้นที่มีความสำคัญต่อเฉินหยานเซียว เธอเก็บคัมภีร์หนังแกะใส่ในแหวนมิติในทันที หลังจากนั้นเธอก็ออกจากหอเวทมนต์ดำไปอย่างเงียบ ๆ

ช่วงเวลาที่เฉินหยานเซียวออกจากหอเวทมนต์ดำ พลันปรากฏแขกที่ไม่ค่อยได้เห็น

เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว เจ้าก็ยังไม่เหนื่อย?” แขกผู้มาใหม่เป็นชายชรา เขามีหนวดเคราสีขาวซึ่งดูเหมือนจะอายุราว ๆ หกสิบหรือเจ็ดสิบปี เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวที่ปกคลุมร่างกายของเขาซึ่งดูเหมือนจะยิ่งใหญ่และสง่างาม บนใบหน้าที่ดูแก่นั้นปรากฏดวงตาคู่หนึ่งที่แฝงด้วยรอยยิ้มออกมา

ผู้ดูแลหอคัมภีร์ที่แช่ตัวอยู่ในกองคัมภีร์เงยหัวขึ้นมาโดยไม่คาดคิด เมื่อมองไปที่แขกผู้นั้น เขาก็ก้มหัวลงอีกครั้งและซ่อมคัมภีร์ในมือของเขาต่อไป

ทำไมข้าถึงต้องเหนื่อย คัมภีร์เหล่านี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดสำหรับนักเวทมนต์ดำ ข้าไม่สามารถทำให้พวกเขาหลงทางได้ โอวหยางฮันหยู ผู้อาวุโสสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลาน ทำไมเจ้าถึงมีเวลา มาทำให้เกียรติของเจ้าเสื่อมถอยลงในการมาในที่ของข้า?”

ไม่คาดคิดว่าแขกที่มาเยี่ยมหอคอยนักเวทมนต์ดำ ไม่ใช่ใครอื่น  เขาเป็นผู้อาวุโสสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานที่มีชื่อเสียง โอวหยางฮันหยู และยังเป็นนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ อาณาจักรหลงซวน

ข้ามาที่นี่เพื่อดูว่าเจ้า เฒ่าหัวโบราณที่ยังคงยืนยันทำงานที่ไม่มีความหมายนี้” โอวหยางฮันหยู มองดูหอคอยนักเวทมนต์ดำที่ว่างเปล่าและถอนหายใจเบา ๆ

ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมเหล่าผู้มีพรสวรรค์ แต่ด้วยเส้นทางที่ไม่มั่นคงของนักเวทมนต์ดำ สาขาเวทมนต์ดำก็ไม่สามารถได้รับศิษย์แม้แต่คนเดียวในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น