สาขานักปรุงยา!
ทุกคนจาก ครอบครัวตระกูลหงส์ไฟต่างหายใจเอาลมเย็นเข้าไป อาจกล่าวได้ว่า
ถ้ามีอะไรในโลกนี้ที่คนยังมีค่ายิ่งกว่านักรบและนักเวทที่น่าเกรงขามแล้วละก็
นั่นก็คือนักปรุงยาเท่านั้น
แม้ว่านักปรุงยาจะมีความสามารถด้านพละกำลังที่น้อยกว่า
แต่ก็มีความสามารถในการปรุงยาที่ลึกลับทุกชนิด ด้วยความสามารถของนักปรุงยาระดับสูง
คนหนึ่งจะสามารถกลั่นสกัดยาระดับที่สูงขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้เขาได้รับรางวัลจากผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก
นักปรุงยาไม่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
แต่ก็ยังมีเครือข่ายการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพมาก ใครบางคนอาจที่จะคุกคามนักเวทมากกว่าจะยินดีที่จะไปคุกคามนักปรุงยาระดับสูง
เพราะในขณะที่เขาไปกระตุ้นนักปรุงยาระดับสูง
มันก็จะมีโอกาสมากที่คนนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่มีพลังอำนาจที่น่ากลัวที่อยู่เบื้องหลังนักปรุงยาผู้นั้น!
เห็นได้ชัดว่าเจตนาของเฉินเฟิงนั้นต้องการให้เฉินหยานเซียวละทิ้งการไล่ตามความแข็งแกร่งของการสู้รบที่น่าเกรงขาม
เพื่อไปสู่เส้นทางพัฒนาเส้นสายที่ทรงพลังยิ่งขึ้น
ช่วงเวลาที่เฉินหยานเซียวสามารถสร้างความก้าวหน้ากลายเป็นนักปรุงยาในระดับสูง
ยาที่สมบูรณ์แบบของเธอจะสามารถดึงดูดพลังอำนาจอันมหาศาลและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้กับเธอได้อย่างรวดเร็ว
และถ้าหากเธอได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งเช่นนั้น
แม้ว่าจะเป็นสี่ตระกูลใหญ่ แต่พวกเขาก็จะไม่กล้าที่จะก้าวร้าวทำสงครามกับ
ครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ
เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาต้องการจัดการกับเฉินหยานเซียว
พวกเขาทั้งหมดต้องพิจารณาเครือข่ายความสัมพันธ์ทางเบื้องหลังของเธออย่างจริงจัง
"ท่านพ่อ ... ท่านกำลังพูดเรื่องตลกหรืออย่างไรกัน?" มุมปากของเฉินหยิวบิดเบี้ยวโดยไม่หยุดหย่อน
มีผู้คนจำนวนมากที่อยากจะเป็นนักปรุงยา
แต่จำนวนของคนที่มีความสามารถที่จะได้รับสิทธิในตำแหน่งนั้นยังคงมีน้อยมาก
เนื่องจากสถานการณ์ที่ว่า ผู้คนจำนวนมากที่ต้องการจะเป็นนักปรุงยานั้นมีมากกว่านักบ่มเพาะพลังลมปราณและพลังเวท
ไม่เพียงแต่จำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งทางจิตใจและการรับรู้ที่ฉับไว
แต่ยังต้องมีอารมณ์ที่มั่นคง นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับบรรดาผู้ที่มีทุกสิ่งเหล่านี้แล้ว
พวกเขายังต้องมีทักษะโดยธรรมชาติที่เกี่ยวกับยาสมุรนพร ทั้งหมดเหล่านี้จะเป็นเพียงการพูดคุยในอุดมคติ
ที่หาได้ยาก
ถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะเป็นนักปรุงยา
ถ้าเช่นนั้นยาทุกชนิดคงจะไม่มีราคาแพงมากภายในจักรวรรดิหลงซวน
เฉินหยานเซียวเคยเป็นคนโง่เขลา แต่ทำไมเฉินเฟิงถึงคิดว่า
ขยะผู้นี้จะสามารถได้รับสิทธิ์เข้าไปเรียนสาขานักปรุงยาในสำนักศักดิ์สิทธิ์รั่วหลานได้?
เฉินเฟิงเหลือบตามองไปที่เฉินทวนอย่างเย็นชา ก่อนพูดว่า
"ความกล้าหาญของเจ้าดูจะแข็งกล้ามากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้าถึงกับกล้าที่จะมาถามคำถามกับข้า?"
เฉินหยิวปิดปากของเขาในทันที
"มันยังไม่ถึงจุดที่พวกเจ้าจะต้องโต้แย้งเกี่ยวกับวิธีการที่ข้าทำ
ทุกคนฟังให้ดี เซียวเซี่ยวจะเป็นทายาทของข้า ข้าได้ตัดสินใจแล้ว
และถ้าสักวันหนึ่งในอนาคต พวกเจ้ากล้าที่จะพูดประโยคที่ไร้สาระเช่นนี้
พวกเจ้าก็สามารถเก็บข้าวของแล้วไสหัวไปอยู่ในตระกูลสาขาได้เลย!” เฉินเฟิงรู้สึก
โกรธเขาลุกขึ้นยืนจ้องมองทะลุผ่านทุกคนที่อยู่ในนั้น
เพื่อเตือนพวกเขาว่าจะไม่พูดเรื่องไร้สาระใด ๆ ออกมาอีก
สมาชิกของตระกูลหงส์ไฟที่กำลังมีอารมณ์รุนแรงมากมายต่างพากันนิ่งสงบในทันที
เฉินหยานเซียวนั่งอยู่ข้าง ๆ ดูไปเรื่อย ๆ
การสนับสนุนเฉินหยานเซียวของเฉินเฟิงอย่างเข้มงวด มันทำให้บางคนรู้สึกลำบากใจที่จะยอมรับมัน
ถ้าเธอจำได้ไม่ผิด เฉินเฟิงและตัวเธอเองก็ไม่ได้ใกล้ชิดเลย
แต่อย่างการสนับสนุนของเฉินเฟิงอย่างฉับพลัน แม้ว่าจะมีการกล่าวว่านี่เป็นเพราะ
หงส์ไฟ แต่ก็ยังค่อนข้างเป็นเหตุผลที่ไม่หนักแน่นพอ
ไม่รู้ว่าภายในหัวใจของเฉินหยานเซียวนั้นมีอะไร
ถึงได้มีความคิดที่ไร้เหตุผลบางอย่างเกิดขึ้นเช่นนี้
ทัศนคติที่เฉินเฟิงมีต่อเฉินหยานเซียวในระหว่างการปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันของพวกเขาก็ไม่มาก
แต่ แม้ว่าคนอื่น ๆ จะพยายามโน้มน้าวมากแค่ไหน
เฉินเฟิงก็ไม่เคยมีทีท่าที่จะขับไล่เฉินหยานเซียวออกไปจากสาขาหลักของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ
และเธอก็ไม่เคยขาดแคลนในเรื่องของอาหารและเสื้อผ้าในทุกวันนี้
ในความเป็นจริงในวันนั้น ที่เฉินชิวได้ไปเยี่ยมเธอ เฉินหยานเซียวรู้สึกว่ามันค่อนข้างแปลกสำหรับเฉินชิวที่เป็นแพทย์ที่เชื่อถือได้ของเฉินเฟิง
ถึงแม้ว่าเธอจะต้องการแพทย์ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะเป็นเฉินชิวที่มาคอยดูแลเธอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น