เฉินหยานเซียว แอบหัวเราะอยู่ภายในใจของเธอ
ขณะที่เธอมองไปที่ทุกคนอย่างเงียบ ๆ
รวมถึงเฉินอี้เฟิงที่กำลังมองไปที่ไข่ด้วยสายตาราวกับไม่มีอะไรที่จะสามารถเทียบได้
และพวกเขาก็เดินไปที่นั่นและโค้งคำนับลง
"ข้าคงต้องรบกวนท่านนักปราชญ์แล้ว!" ระงับความตื่นเต้นในใจของเขาไว้ได้แล้ว
เฉินอี้เฟิงก็คำนับไปที่นักปราชญ์ ในขณะที่มือของเขาสั่นเล็กน้อย
มันเห็นได้ชัดว่าภายในใจของเขากำลังว้าวุ่น
ในช่วงขณะนี้! หงส์ไฟได้อยู่ตรงหน้าตาของพวกเขา
มันเป็นโอกาสสำหรับตระกูลหงส์ไฟเพื่อที่จะได้รับเกียรติอันสูงสุด! แล้วทำไม
เฉินอี้เฟิงถึงจะไม่รู้สึกตื่นเต้น?
ตั้งแต่เริ่มต้น
เขาไม่เคยแม้แต่จะเห็นเฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ยอยู่ในสายตาของเขา
เพราะพวกเขาไม่ได้มีความสามารถพอที่จะทำเช่นนั้นได้
และไม่สามารถที่จะยืนหยัดต่อสู้กับเขาได้!
หงส์ไฟก็ต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน!
เฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ยแอบจ้องไปที่เฉินอี้เฟิง
แม้ว่าพรสวรรค์ของพวกเขาค่อนข้างดี
แต่พวกเขาก็ไม่มั่นใจในตัวเองมากนักเมื่อต้องเผชิญหน้าไปทางเฉินอี้เฟิง
ในช่วงเวลาปกติพวกเขาไม่กล้าที่จะท้าทายฟรือล่วงเกินเฉินอี้เฟิง
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง เฉินหยิวและเฉินทวน
นั้นมักจะมีเรื่องไม่ลงรอยกันและสัมพันธภาพระหว่างลูก ๆ ของพวกเขาก็ไม่ดีเช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่า
จุดแข็งของพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่าเฉินอี้เฟิง
เฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ยคงจะร่วมมือกันมานานแล้วเพื่อปราบญาติผู้พี่พวกเขา
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ที่ด้านหน้าของพวกเขาเป็นโอกาสที่เหมาะสมมาก
แต่พวกเขาก็ยังต้องปล่อยโอกาสให้ลื่นไถลออกไปจากพวกเขา
ทั้งสองคนอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งให้เฉินอี้เฟิงไม่ให้ได้รับความสนใจจากหงส์ไฟ
และหวังว่าหงส์ไฟจะไม่ลงนามสัญญากับเขา
ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นพวกเขาก็จะได้โอกาสที่จะได้การลงนามสัญญากับหงส์ไฟ
ใครบ้างละที่จะไม่ต้องการโอกาสประสบความสำเร็จแบบนี้? เนื่องจากพวกเขาเองไม่สามารถหามันได้
พวกเขาจึงไม่สามารถยอมให้คนอื่นได้รับมันเช่นกัน
การต่อสู้อย่างเปิดเผยและความขัดแย้งในหมู่รุ่นที่สามของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ
ได้ถูกปกปิดซ่อนไว้ไม่ให้ฑูตเทพเจ้าจากดินแดนเทพเจ้ารับรู้
หรือคาดเดาเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในของครอบครัว
ฑูตดินแดนเทพเจ้าทั้งหมดที่โดดเด่นทั้งสิบแปดคน
ได้ยืนห่างเสาหินออกไปมากกว่าสิบก้าว พวกเขาล้อมรอบหงส์ไฟ เอาไว้ตรงกลาง
นักปราชญ์เดินไปหาไข่หงส์ไฟอย่างช้า ๆ ไข่ยังคงแผ่อุณหภูมิสูงออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเข็มทิศทองคำขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
บนเข็มทิศถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน มีการสลักอักขระโบราณบางอย่างไว้ในแต่ละวงกลม
บนชั้นนอกสุดของวงกลม มันเป็นรูปแบบของสี่สัตว์ตำนานในสมัยโบราณ มันถูกแกะสลักไว้ในทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศตะวันตกและทิศเหนือ
ระยะห่างระหว่างนักปราชญ์และเฉินหยานเซียว
ค่อนข้างไกลดังนั้นเธอจึงสามารถมองเห็นได้ไกลว่าเข็มทิศทองคำที่อยู่ในมือของปราชญ์หมุนวนไม่หยุดหย่อน
พร้อมกับเสียงแตกร้าวที่ดังสะท้อนก้อง เข็มทิศทองคำหยุดหมุน
รัศมีแสงเจิดจ้าที่นับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากเข็มทิศทองคำ ภายใต้การแสงสว่างของรัศมีแสง
เปลวไฟสีแดงลุกโชนและปรากฏเงาขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ที่กลางอากาศ
มันคล้ายกับนกที่โกรธสะยายปีกและทะยานบิน มันเปล่งเปลวไฟที่พร่างพราวไปทั่วลำตัว
นกที่ปกคลุมด้วยเปลวไฟอันยิ่งใหญ่บินหมุนวนอยู่กลางอากาศ
ชั่วพริบตามันกลายเป็นเส้นทางแสงสีแดงที่ไหลเข้าสู่ไข่หงส์ไฟที่ตั้งนิ่งบนแท่นหิน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขาทั้งแปดคนของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ
มันทำให้พวกเขาตกตะลึง
พวกเขาก็ไม่ทราบว่าเข็มทิศทองคำที่อยู่ในมือของนักปราชญ์คืออะไร
พวกเขายังไม่แน่ใจกับการปรากฏอย่างกะทันหัน ตามมาด้วยการหายตัวไปของนกที่ปกคลุมด้วยเปลวไฟภายในไข่หงส์ไฟ
ราวกับเป็นภาพหลอนของพวกเขา
สิ่งเหล่านี้ได้เกินขอบเขตของความรู้ความเข้าใจของะวกเขาไปแล้ว
ในทันทีทันใด เกิดการสั่นสะเทือนอย่างมากเกิดขึ้นภายในถ้ำกว้าง
ในช่วงเวลานั้น พื้นดินที่อยู่ด้านล่างเท้าของเฉินหยานเซียว
สั่นสะเทือนทำให้แผ่นดินแตกออกเป็นหลายส่วนโดยไม่คาดคิด
ผ่านรอยร้าวเธอเห็นได้ชัดว่าใต้พื้นดินมีลาวาไหลตลอดเวลา ลาวาคุกกรุ่น
มีความสูงประมาณสามฉื่อใต้ฝ่าเท้า
ไอน้ำสีขาวพวยพุ่งออกจากรอยแตกของพื้นดินอย่างไม่หยุดยั้ง
อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทำให้คนเกิดภาพลวงตาว่าตัวเองถูกวางไว้ในกลุ่มไอน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น