EGT 044 หุบเขาลาวาส่วนที่ 2

เนื่องจากการเข้าสู่หุบเขาในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญเฉินเฟิงได้เตรียมการที่เหมาะสม ก่อนถึงเวลาที่พวกเขาจะออกเดินทาง รถสองสามคันนี้ได้ใช้โลหะดำเยือกแข็งเพื่อสร้างเป็นโครงหลัก แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในที่ร้อนที่สุดร้อน แต่คนที่อยู่ในรถก็จะไม่รู้สึกแม้กระทั่งความร้อนที่ร้อนฉับพลัน

ต้นทุนการก่อสร้างของรถลากชุดนี้ มันเพียงพอที่จะซื้อเมืองได้ทั้งเมือง แม้ว่าจะเป็นตระกูลหงส์ไฟ ที่มีมั่งคั่ง ตระกูลนี้ก็สามารถสร้างได้แค่สิบคันเท่านั้น

ในครั้งนี้ครั้งเดียวได้ใช้ ไปแปดคันจากทั้งหมด

นอกเหนือจากที่ โลหะดำเยือกแข็งยังป้องกันการเป็นลมแดด ทุกคนที่กำลังเดินทางไปที่หุบเขาลาวา พวกเขาต่างสวมชุดเกราะใยไหมเยือกแข็งที่ต่อต้านความร้อน เนื่องจากยิ่งเข้าไปใกล้กับที่อยู่ของหงส์ไฟ ความร้อนก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ถ้าหากพวกเขาไม่ได้สวมใส่ชุดเกราะใยไหม้ยือกแข็ง มันก็อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะถูกคั่วจนแห้งจากอุณหภูมิที่สูง เมื่อพวกเขาต้องการเข้าไปเหยียบบนสถานที่ที่ หงส์ไฟ จำศีลอยู่

พูดตามเหตุผล เมื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่เลวทรามเช่นนี้และที่นี่คือสถานที่ที่มีอันตรายแฝงตัวอยู่ทุกด้าน เฉินเฟิงย่อมต้องรอบคอบ เขาทำการส่งสี่ผู้ติดตามเพื่อตามพวกเขาทั้งหมดมา สิ่งนี้มันเป็นความคิดของปัญญาชน

ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนต่างเผ่า ทุกอย่างเกี่ยวกับดินแดนเทพเจ้าเป็นเรื่องลึกลับ ความสามารถของนักปราชญ์ในการปลุกสัตว์ในตำนานเป็นความลับยิ่งขึ้นในกลุ่มดินแดนเทพเจ้า ถ้าไม่ใช่เพราะความวิตกกังวลกับสี่คุณชายและคุณหนูซึ่งเคยอาศัยอยู่เช่นเจ้าชายและเจ้าหญิง เมื่อได้พบกับความยากลำบากและยาวนานเนื่องจากการเดินทาง มีโอกาสมากที่ผู้คนจากดินแดนเทพเจ้าจะไม่แม้แต่จะเต็มใจที่จะมีสี่ผู้ติดตามนี้ไปพร้อมกับพวกเขา

แต่เพื่อความปลอดภัย ...

ดินแดนเทพเจ้าเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากและในระหว่างการเดินทางนี้มีทูตของเทพเจ้าจำนวนสิบแปดคนในดินแดนเทพเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ยังนั่งอยู่หน้ารถก็คือการดำรงอยู่ของดินแดนเทพเจ้า - ปราชญ์

แม้ว่าจะเป็นสัตว์ปีศาจระดับสูงที่ต้องการจะโจมตีกลุ่มคนกลุ่มนี้ มันก็ต้องหยุดนึกถึงเรื่องนี้

เมื่อสำรวจทวีปคังหมิง ทั้งหมดมันก็จะเป็นเพียงดินแดนเทพเจ้าที่จะกล้าที่จะตบหน้าอกของพวกเขา และบอกว่าไม่มีแม้แต่เส้นขนเดียวของสัตว์ปีศาจที่จะสามารถเห็นได้ในดินแดนของพวกเขา

มันเป็นที่รู้กันดีว่ายิ่งสัตว์ปีศาจมีระดับสูงมากขึ้น มันก็ยิ่งมีสติปัญญาสูงขึ้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่จะมีพลังที่สามารถเอาชนะศัตรู พวกมันก็ยังมีไหวพริบเหมือนกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ แน่นอนว่าพวกมันจะไม่โจมตีกองกำลังชนิดนี้ที่ได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและจะทำให้ชีวิตของพวกมันก็จะเป็นอันตราย

ภายในตัวรถตัวนี้กลิ่นของเผ่าพันธุ์มนุษย์แผ่กระจายออกไป และเมื่อรถได้เข้าไปในหุบเขาลาวา มันก็ดึงดูดสัตว์ปีศาจที่เลวร้ายออกมาในทันที แม้ว่าสติปัญญาของสัตว์ปีศาจจะมีน้อยมาก แต่พวกมันก็ยังคงรู้สึกถึงพลังที่ถูกปล่อยออกมาจากรถคันแรก แม้จะมีกลิ่นหอมและหอมหวานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ความกลัวที่มาจากสัญชาตญาณของพวกมัน ยังคงบอกอีกว่าคนที่อยู่ในรถไม่สามารถตอบสนองความต้องการอาหารของพวกมันได้

สัตว์ปีศาจหิวโหยมานานหลายปี แต่ไม่ว่าพวกมันจะหิวโหยมากขนาดไหน พวกมันก็สามารถหลบซ่อนตัวอยู่ในความมืดและสูดกลิ่นหอมและหวานที่พวกมันไม่ได้รับมาเป็นเวลานาน เพื่อที่จะปลอบโยนตัวเองเล็กน้อย

นับจากด้านหลังของขบวนรถ คันที่เฉินหยานเซียว กำลังนั่งอยู่ เป็นคันที่สองจากขบวน อยู่ภายในกองทัพ แม้ว่าทูตเทพเจ้า จากดินแดนเทพเจ้าจะเป็นคนหยิ่ง แต่พวกเขาก็รู้ถึงอันตรายรุนแรงของส่วนหัวและหางของรถม้า และพวกเขาทั้งหมดมีหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ปีศาจพุ่งเข้าโจมตี

"จิ๊ ฉากนี้น่าจะยิ่งเลวร้ายมากและคล้ายกับตอนที่จะปล่อยระเบิดหัวรบนิวเคลียร์" ผ่านผ้าม่านสีเหลืองในห้องโดยสาร เฉินหยานเซียว ได้สังเกตการณ์สถานการณ์ภายนอก

ในหมู่รถทั้งหมดมีเพียงเธอคนเดียว ผู้ติดตามของเธอได้ถูกเฉินเจียอี้ขอยืมไป ภายใต้เหตุผลที่ว่าไม่มีกำลังมากพอ ในวันที่สองเมื่อพวกเขาออกเดินทาง สำหรับม้าที่กำลังดึงลากรถม้าที่ทำจากโลหะดำเยือกแข็ง พวกมันเป็นม้าทหารทั้งหมดที่ทนต่อความหนาวเย็นและได้รับการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญ พวกมันสามารถเดินตามม้าตัวแรกได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีคนบังขับรถ

ไม่ว่าเฉินหยานเซียวกำลังทำอะไร ตีลังกาภายในรถ ในรถก็ตาม ตราบเท่าที่เธอไม่ได้ออกจากรถแล้วก็จะไม่มีใครค้นพบเธอแม้ว่าเธอจะทำอะไร และแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องระวังตัวในเรื่องของคำพูดและการกระทำของตัวเองที่อาจก่อให้เกิดความประหลาดใจต่อผู้อื่น