เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

EGT 021 การกินผลไม้รสขมของตัวเองส่วนที่ 3



อย่างไรก็ตามในขณะนี้ที่ เฉินหยานเซียว ที่เคยถูกเยาะเย้ยและถูกรังแกมาเป็นเวลานาน ได้มายืนอยู่ข้างหน้าของเธอและได้มองไปที่เธอที่กำลังอยู่ท่ามกลางกองไฟที่ลุกโชน

ภายในคู่ดวงตาคู่นั้น ที่ฝังอยู่ในหัวมาอย่างยาวนาน มันได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล จากแววตาที่โง่เขลาและเบาปัญญา ท่ามกลางความสับสนทั้งหมดมันได้ปรากฏมาในรูปลักษณ์ที่ไม่คุ้นเคย ที่ดูน่ากลัวในขณะที่มองไปที่เฉินเจียอี้

เฉินหยานเซียวยืนอยู่หน้ากองไฟอย่างเงียบ ๆ และมองไปที่รูปลักษณ์ที่น่าสังเวชของเฉินเจียอี้ เธอกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยเปลวเพลิง

เฉินหยานเซียวรู้อย่างแน่ชัดว่าเปลวเพลิงชนิดนี้จะไม่สามารถเผาผลาญเฉินเจียอี้ ผู้ซึ่งเป็นนักบ่มเพาะพลังเวทให้ถึงกับความตายได้ แต่มันจะเพียงแค่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานกับบาดแผลที่ได้รับ ดังนั้นเฉินหยานเซียวจึงไม่ต้องกังวลว่าเฉินเจียอี้จะตายหรือไม่ เฉินหยานเซียวก็เพียงแค่ต้องยืนอยู่ในจุดเดิมของเธออย่างเงียบ ๆ เพลิดเพลินไปกับใบหน้าของเฉินเจียอี้ที่กำลังบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

ช่วงเวลาเดียวกัน เฉินเจียเว่ยผู้เฝ้าอยู่ที่ด้านนอกของประตูได้ยินครวญครางที่ดูน่าสงสารเขาก็รู้สึกถึงกลิ่นเหม็นไหม้ หลังจากทั้งหมดพร้อมกับเสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาอย่างน่าสังเวชมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขาก็ตระหนักว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น เขาก็รีบกระแทกประตูเปิดเข้าไป

ในชั่วพริบตาที่เขาเปิดบานประตู มันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก กับภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเขา ในขณะนั้นเฉินเจียอี้กำลังดิ้นรนอยู่ในกองเปลวเพลิว แต่กระนั้นเฉินเจียเว่ยก็อดที่จะรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ นั่นก็คือคนที่ยืนอยู่ข้างเปลวเพลิงกลับกลายเป็นเฉินหยานเซียว และเธอก็กำลังส่งยิ้มมา

“เจี่ยเว่ย! ช่วยข้าด้วย!" เฉินเจียอี้ร้องขอความช่วยเหลือจากน้องชายของเธอ ขณะที่เธอไม่สามารถออกมาจากโต๊ะไม้ที่กำลังถูกไฟเผาไหม้อย่างไร้ความปราณีได้และมันกำลังอบย่างร่างกายของเธอ

เฉินเจียเว่ยได้สติ เขาไม่ได้มีเวลาที่จะไตร่ตรองรอยยิ้มที่ไม่คุ้นเคยและน่ากลัวมากที่อยู่บนใบหน้าของเฉินหยานเซียว ขณะที่รีบวิ่งออกจากห้องเพื่อขอความช่วยเหลือ

หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ เฉินหยิวได้พาคนกลุ่มหนึ่งและรีบไปที่ห้องเฉินหยานเซียว หลังจากที่สาดน้ำไม่กี่ถัง เปลวไฟก็ลดความรุนแรงลง

สำหรับเฉินเจียอี้ที่ถูกทรมานด้วยเปลวไฟมานาน เธอก็หมดสติไปเนืองจากความน่าสะพรึงกลัวของเปลวไฟตลอดจนความแข็งแรงทางร่างกายของเธอที่ลดน้อยลง

อีกราว ๆ หนึ่งเค่อก่อนจะถึงเวลาตอนเย็น คนเหล่านั้นรวมทั้งเฉินเฟิงและเฉินซืออู๋ได้ทำการสอบถามพร้อมกับได้มองไปที่ห้องที่ยุ่งเหยิง หลังจากที่พวกเขามองไปที่ห้อง สีหน้าของพวกเขาก็ไม่ค่อยน่าดูนัก

เฉินเฟิงผู้ยืนอยู่หน้าประตูกำลังขมวดคิ้ว ขณะที่เขามองไปที่ใบหน้าของเฉินหยิวซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธ ในขณะที่เขาประคองเฉินเจียอี้ ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงยังไม่มีเวลาที่จะเปิดปากของเขาออกมา เฉินซืออู๋ผู้ซึ่งอยู่ข้างเขาได้เดินไปทางฝั่งเฉินหยานเซียวก่อน จากนั้นเขาก็ดึงเธอไปอีกด้านหนึ่งและตรวจสอบทุกส่วนของร่างกายเพื่อดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือไม่

"เฉินหยานเซียว เจ้าทำได้ดีมาก!" เฉินหยิวมองไปที่ลูกสาวของเขาซึ่งยังแนบอยู่ที่อกของเขาด้วยอาการวิตกกังวล ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าเฉินเฟิงอยู่ที่นี่ ในตอนนี้มันเป็นไปได้มากว่าเขาจะต้องกระพือตัวไปหาเฉินหยานเซียวนานแล้วและแยกร่างเธอออกเป็นชิ้นส่วน

ขณะที่ เฉินซืออู๋มีเฉินหยานเซียวที่ได้รับการคุ้มครองอยู่ด้านหลังของเขา เขามองไปที่เฉินหยิว และพูดว่า "ลุงรองทำไมพูดจาออกมาเช่นนั้น? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหยานเซียวอย่างไร?"

"มันเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้? เจี่ยอี้ได้รับบาดเจ็บในห้องของเธอและเห็นได้ชัดว่านี่คือเมล็ดพันธุ์ที่ชั่วร้าย เธอได้ปกปิดเจตนาร้ายนี้ไว้เพื่อทำร้ายเจียอี้! ไม่ว่าเฉินเฟิงจะคิดอย่างไร เฉินหยิวตั้งแต่เริ่มแรกก็ไม่ถือว่าเฉินหยานเซียวที่เป็นถังขยะไร้ค่าผู้นี้จะเป็นหนึ่งในสายเลือดของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ

การเก็บขยะที่ไร้ค่าผู้นี้เอาไว้ในตระกูลนั้นนับว่าเป็นความอัปยศอดสูให้กับครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ และปัจจุบันนี้เธอกำลังนำพาความหายนะมาสู่ตระกูลอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เธอทำให้ลูกสาวของเขาได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้แล้วเขาจะอดทนต่อเธอต่อไปได้อย่างไร

เฉินซืออู๋ที่ปกติดูสุภาพอ่อนโยน ในตอนนี้ดวงตาของเขาเปล่งประกายแววตาที่เป็นอันตรายออกมา

"พวกเจ้าทุกคน หุบปากซะ!" เฉินเฟิงตะโกนออกไปเสียงดังก่อนจะจ้องมองไปที่เฉินหยิว

"ข้าจะพูดอีกครั้งหนึ่ง เธอเป็นลูกของเฉินหยิว ถ้ามีใครกล้าที่จะตำหนิอย่างฉาบฉวยอีกครั้ง คนนั้นก็สมควรที่จะถูกผลักออกไป!"

เฉินหยิวกัดฟันของเขา ก่อนที่จะกักเก็บความโกรธไว้ในหัวใจของเขา ขณะที่เขากล่าวว่า "ท่านพ่อ เจียอี้เป็นหลานทางสายเลือดของท่าน และในตอนนี้เธอได้รับบาดเจ็บอย่างกะทันหันจากขยะผู้นี้ เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านจะไม่กังวลหรือเป็นห่วงในเรื่องนี้!"

ความสัมพันธ์ในครอบครัว ถ้าเฉินเจียอี้เป็นหลานของเฉินเฟิง แล้วเฉินหยานเซียวไม่ใช่หลนหรอกหรือ? เฉินหยานเซียว หัวเราะเยาะในใจขณะที่เธอยืนอยู่ข้างหลังเฉินซืออู๋


2 ความคิดเห็น: