เฉินหยานเซียวกำลังจ้องมองกลับด้วยท่าทางที่ดูมึนงง
เมื่อหัวข้อสนทนาได้พุ่งกลับมาหาตัวเธอเอง มันเป็นไปได้อย่างไร?
หงส์ไฟคือออะไร? จิ้งจอกหิมะจิตวิญญาณคืออะไร? เธอเองก็ไม่รู้เลยว่าพวกมันเป็นตัวอะไร
ภายในสมองของเธอเกี่ยวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในสถานกักขังสัตว์เวท
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความมืด เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในสถานกักขังสัตว์เวท
แม้กระนั้นก็ตาม เฉินหยานเซียวก็ยังคงจับใจความได้ว่า จิ้งจอกหิมะจิตวิญญาณตายแล้ว
จึงเป็นเหตุให้ทุกสายตาต่างจ้องมองมาที่เธอ
ราวกับมีดที่แหลมคมที่พุ่งผ่านร่างของเธอเอง
ถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะการขัดขวางของเฉินเฟิง
มันก็เป็นไปได้มากที่คนเหล่านั้นจะยื่นมือเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอ!
เธอไร้เดียงสา
... ..
ในช่วงเวลาที่
เฉินหยานเซียวรู้สึกหดหู่ใจที่ตัวเองกลายเป็นเป้าหมายของสายตาที่มุ่งร้ายมากมาย
เสียงของซิว ก็ดังขึ้นมาภายในใจเธอ
'เป็นแค่สัตว์ตัวเล็ก ๆ
ที่มีพลังเวทเพียงแค่ระดับแปดถึงกับทำให้ทำให้มนุษยโง่เขลาเหล่านี้ตกสู่ความขมขื่น
ช่างไร้ค่าเสียจริง’
เฉินหยานเซียวยังคงเงียบ
แม้ว่าเธอไม่ได้พบกับสัตว์เวทระดับแปดที่ลึกลับนี้
แต่เธอเข้าใจดีว่าในโลกใบนี้มีพลัง ความร่ำรวยและความกล้าหาญของตระกูลหงส์ไฟ
เฉินเฟิงเป็นเพียงคนเดียวที่มีสัตว์เวทระดับแปด สำหรับคนอื่น ๆ
อาจที่จะสามารถสร้างพันธสัญญากับสัตว์เวทระดับหกหรือเจ็ดได้
ซึ่งก็ถือว่ามีสัตว์เวทคุณภาพที่ดีที่สุด
และสำหรับคนธรรมดาแล้วพวกเขาก็จะขอบคุณสวรรค์และปฐพีถ้ามีสัตว์เวทระดับสามหรือสี่
ตระกูลของหงส์ไฟมีเอกลักษณ์
มันสูงกว่าระดับแปด และไม่สามารถที่จะเรียกมันได้ว่าเป็น
"สัตว์เวทตัวเล็ก ๆ ระดับแปด" หลังจากผ่านปากของซิว
...
ถ้าเฉินเฟิงรู้ว่า
เขาจะต้องได้รับการประเมินเช่นนี้กับการเสียสละของสมาชิกชนชั้นสูงในหงส์ไฟหลายร้อยคนเขา
สำหรับจิ้งจอกหิมะจิตวิญญาณ เขาก็จะโกรธหรือไม่สำหรับเรื่องนี้
ทันใดนั้น
เฉินหยานเซียวก็ผุดความคิดที่ไม่ดีขึ้นมา
เป็นไปได้ไหมว่า
ซิวผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ได้ทำอะไรบางอย่างกับจิ้งจอกหิมะจิตวิญญาณ.....
"เพียงแค่สะบัดมือออกไป มันก็ตายแล้ว" ซิวดูเหมือนจะสามารถคาดเดาคำถามที่เฉินหยานเซียวต้องการถามได้และ
ซิวกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส
สะบัดมือ...
ถึง ... ตาย ........
เฉินหยานเซียวในขณะนี้ได้เสียสติของเธอไปแล้ว
มันก็เหมือนกับว่ามีคนบอกเธอว่า เมื่อคนที่เดินแบบไม่ได้ตั้งใจ
เขาใช้นิ้วเท้าของเขาบดถังหนักจนเป็นแบน......
เธออยากจะพูดกับเซียนผู้ยิ่งใหญ่นั้น
ซิว...... โปรดตบข้าให้ตายไปเลย!
น่าเสียดายที่เสียงของ
ซิว สามารถได้ยินแต่เธอเท่านั้น
มิฉะนั้นเธออาจจะถือเทวรูปพิเศษที่น่านับถือและทุบลงบนใบหน้าของทุกคน
แล้วก็หัวเราะใส่หน้าพวกเขาขณะที่พวกเขาก้มหัวลงทำความเคารพ
ณ
ขณะนี้…
เฉินหยานเซียวสามารถจ้องมองไปที่สายตาที่โหดเหี้ยมจากดวงตาของพวกเขาได้เท่านั้น
หัวใจเจ็บเหมือนคนที่อาจจะไม่ได้อยู่ในความรักอีกต่อไป
เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก
ๆ เหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเรียกสมาชิกตระกูลหลัก ๆ ให้มาร่วมประชุมด้วย
เนื่องจากเขาต้องการจะแจ้งเรื่องนี้ให้ทุกคนรับทราบ สำหรับการลงโทษ ...
มองใบหน้าที่ไม่เหมือนลูกชายคนเล็กของเขาแม้แต่น้อย
เฉินเฟิงถอนหายใจออกมาเพียงเล็กน้อย
ถ้าแค่
เฉินอู๋ ยังคงอยู่ ...
"เฉินหยานเซียว! เจ้าได้กระทำผิดอันยิ่งใหญ่
โดยเกือบจะทำลายครอบครัวตระกูลหงส์ไฟ มันน่ารังเกียจยิ่งนัก!” เฉินหยิวกวาดตามองที่เฉินหยานเซียวด้วยความโกรธ เพราะเขารู้ว่าลูกทั้งสองคนของเขามีส่วนส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดนี้
และในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
ดังนั้นเขาจะต้องออกโรงเพื่อปกป้องทำให้ลูกสองคนของเขาปลอดภัยและกันไม่ให้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
หลังจากรู้ว่าเขาพลาดโอกาสที่ดีเนื่องจากคนบ้าคนนี้สำหรับเฉินอี้เฟิงที่ก่อนหน้านี้มีเจตนาที่จะช่วยปกป้องเฉินหยานเซียว
- ช่วยเธอ? ไม่มีทาง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร
และผลักดันครั้งสุดท้าย สิ่งนั้นก็เกิดขึ้นแล้ว "มันแย่มาก"
"นี่เป็นเพียงปัญหา
ผู้นำตระกูลให้ความสงสารกับเด็กคนนี้เนื่องจากเห็นว่าเป็นเด็กกำพร้า
แต่ช่างไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กคนนี้จะได้กัดมือคนที่เลี้ยงดูเธอมา
และเธอจะต้องรับผิดชอบในภัยพิบัติดังกล่าว
เด็กสาวที่ไร้ค่าผู้นี้ได้นำภัยมาสู่ทุกที่
เราไม่สามารถเลี้ยงดูเธอที่นี่ได้อีกต่อไป! ท่านผู้นำตระกูล โปรดลงโทษ!"
เฉินทวนรู้สึกจุกที่ท้องจนเกือบจะกระอักออกมาเป็นเลือด เมื่อเขาเห็นว่าลูกชายของเขาเองได้เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาจะสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าตระกูล
แต่มันก็ถูกทำลายอย่างไม่คาดคิดโดยถังขยะที่งี่เง่าผู้นี้
เขาปรารถนาอย่างยิ่งที่จะทำให้เธอสำลักตายขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้เขารู้สึกเกลียดมากขึ้น
และต้องการให้เฉินเฟิง ลงโทษถังขยะผู้นี้อย่างรวดเร็ว
ขอบคุณครับ
ตอบลบ