เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

EGT 010 การวางตัวที่ชอบธรรมต่อหน้าครอบครัว Part 1


"เฉินหลิง" เฉินเฟิงตะโกนออกไป

"ข้าอยู่ที่นี่" ชายวัยกลางคนที่อายุน้อยกว่า 40 ปีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาได้ลุกขึ้นยืนและทำความเคารพ

"เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ เพื่อปกป้องสถานที่กักขังสัตว์เวท เจ้าจงพูดออกมาในสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น" เฉินเฟิงดูเคร่งขรึม สายตาของเขาจ้องมองไปที่เฉินหลิง ภายใต้แววตาที่ชาญฉลาดและยาวไกลของเฉินหยานเซียว เธอมองไม่เห็นความอ่อนโยนระหว่างพ่อกับลูกชาย มีแต่เพียงความเกรี้ยวกราดของผู้นำเท่านั้น

เฉินหลิงฝืนยิ้มออกมา เขาเป็นหนึ่งในสี่ลูกชายของ เฉินเฟิง เขาเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดหากไม่นับรวม เฉินอู๋ ในรุ่นที่สอง อย่างไรก็ตามถ้าเขาจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับเฉินอู๋ผู้ที่เก่งทั้งปราชญ์และบู้ เขาก็ดูเหมือนจะแย่มาก ๆ ตามปกติแล้วเขาไม่ได้มีค่าใด ๆ กับเฉินเฟิง แต่คราวนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นในสถานกักขังสัตว์เวท และเกิดขึ้นภายในขอบเขตหน้าที่ของเขา

"รายงานต่อผู้นำตระกูล ในวันนั้นข้าได้ออกมาจัดการกับเรื่องบางอย่างและไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์ มันเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าสามนาย เป็นผู้รับผิดชอบดูแลสถานกักขังสัตว์เวท เมื่อข้ากลับมาที่คฤหาสน์ ข้าได้รับการแจ้งเตือนแล้วว่ามีใครบางคนได้บุกรุกสถานกักขังสัตว์เวท" เฉินหลิงแอบปาดเหงื่อออก เพราะว่าการบุกรุกสถานกักขังสัตว์เวทไม่ใช่ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือสัตว์เวทที่ถูกขังอยู่ในสถานกักขังสัตว์เวทนั้น ในวันนั้นตระกูลหงส์ไฟได้ใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของชนชั้นสูงนับหลายร้อยคนเพื่อจับสัตว์เวทมาสะสมไว้!

ในความเป็นจริงนอกจากเฉินเฟิง เฉินหลิงเป็นคนเดียวในครอบครัวตระกูลหงส์ไฟที่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น เหตุผลที่ว่าทำไม เฉินเฟิงกำลังสร้างว้าวุ่นใจกับปัญหาที่ดูเล็กน้อย ถึงกับต้องออกโรงมาทำการสอบถามเฉินหยานเซียวต่อหน้าทุกคน มันก็ดูเหมือนว่ามันไม่ได้เป็นเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นการบุกรุกสถานกักขังสัตว์เวทเสียแล้ว

เรื่องที่ทำให้เฉินเฟิงผู้นำของครอบครัวตระกูลหงส์ไฟตกใจ มันไม่ได้เป็นเช่นที่ทุกคนคิด

"วันนั้นใครเฝ้าสถานกักขังสัตว์เวท?" เฉินเฟิงเปิดปากถาม

ช่วงเวลาที่เฉินเฟิงกำลังถาม มันทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องหลักรู้สึกชะงักอึ้ง

เรื่องนี้ได้ข้อสรุปที่แน่นอน เนื่องจากในวันนั้น เฉินหยานเซียวถูกค้นพบว่าได้ผ่านเข้าไปในสถานกักขังสัตว์เวท หากพูดอย่างสมเหตุสมผล เฉินเฟิงเพียงต้องการที่จะออกคำสั่งลงโทษให้กับเฉินหยานเซียว และมันก็ควรเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามในวันนี้เฉินเฟิงกลับได้ใช้แนวทางอย่างไม่คาดคิดในการสืบเรื่องราวทั้งหมดนี้ เพื่อตรวจสอบจนกว่าความจริงจะปรากฏขึ้น เรื่องนี้แน่นอนว่าไม่ชอบมาพากล! ทุกคนต่างคิดอย่างไม่แน่ใจว่าข้อผิดพลาดที่เฉินหยานเซียวทำขึ้นนั้นคงไม่ได้เป็นเพียงแค่การบุกรุกสถานกักขังสัตว์เวทเสียแล้ว

และในขณะนี้ใบหน้าของทั้งเฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ยซีดเผือด เพราะพวกเขาไม่ได้คาดคิดว่า เฉินเฟิงจะตรวจสอบลงลึกในเรื่องนี้ ต้องรู้ด้วยว่าในวันนั้นเมื่อพวกเขาหลอกให้เฉินหยานเซียวเข้าไปในสถานกักขังสัตว์เวท พวกเขาหาข้ออ้างกับผู้ดูแลทางเข้าสถานกักขังสัตว์เวทให้ออกห่างที่ขังสัตว์เวท จนพวกเขามีโอกาสให้คนงี่เง่าเข้าไปในสถานกักขังสัตว์เวทได้

โดยไม่คาดคิด เฉินเฟิงต้องการถามคำถามกับผู้ดูแลสามคนนี้ มันก็มีโอกาสว่าพวกเขาจะถูกเปิดโปงออกมา และมีโอกาสมากที่ปู่ของเขาจะสามารถคาดเดาได้ว่าพวกเขาเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของปัญหาที่เกิดขึ้นนี้

ในขณะนี้เฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ยอยากจะร้องไห้ เพราะพวกเขาไม่เคยคิดหรือจินตนาการว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการบุกรุกสถานกักขังสัตว์เวทจะทำให้ผู้นำระดับสูงที่อยู่ห่างออกมาโกรธอย่างฉับพลัน พวกเขาได้วางแผนไว้ว่าหลังจากข่มขู่เฉินหยานเซียวเพื่อปิดปากของเธอ พวกเขาอาจเป็นอิสระจากความกังวล ใครจะคิดว่าเฉินเฟิงยังต้องการที่จะทำแบบนั้นอยู่

ณ ตอนนี้ บรรยากาศของความเย่อหยิ่งและความพึงพอใจได้หายไปบนใบหน้าของพวกเขา และเหลือเพียงสีหน้าที่ตกใจ หวาดหวั่นอยู่ในสายตาของพวกเขา

ชายวัยกลางคน เฉินหยิว ผู้นั่งอยู่ตรงหน้าเฉินเจียอี้และเฉินเจียเว่ย ซึ่งเป็นบิดาของพี่น้องทั้งสองคนนี้ได้รับรู้ถึงความไม่สบายใจของพวกเขา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก

ผู้ดูแลรักษาสถานกักขังสัตว์เวททั้งสามนายได้ถูกนำตัวเข้าไปในห้องโถงหลักอย่างรวดเร็ว พวกเขาทำความเคารพ คุกเข่าต่อหน้า เฉินเฟิง เพื่อรอให้ผู้นำตระกูลถามพวกเขา



1 ความคิดเห็น: