เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

EGT 003 ปีศาจคู่หู



จากความทรงจำใหม่ที่เธอได้รับมา เฉินหยานเซียวรู้ว่าพ่อของร่างกายที่เธอครอบครองนี้เป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลหงส์ไฟ เมื่อ 'เฉินหยานเซียว' อายุหนึ่งเดือนพ่อแม่ของเธอถูกลอบสังหารเมื่อออกไปนอกบ้าน สมาชิกในครอบครัวประกอบด้วย 3 คน มีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตในเวลานั้น นั่นก็คือเธอที่ยังเป็นเด็กแบเบาะ

แม้ว่าทุกคนในตระกูลหงส์ไฟจะไม่ได้ให้ความเคารพกับเธออย่างสิ้นเชิงในฐานะขยะ แต่ปู่ของเธอ เฉินเฟิง ที่เป็นหัวหน้าของตระกูลหงส์ไฟ ก็ยังมีความห่วงใยและสนใจต่อความรู้สึกของลูกชายของเขา เขาจึงได้สั่งให้คนคอยดูแลเรื่องอาหารการกินอยู่ของ เฉินหยานเซียว และชีวิตประจำวันของเธอ แต่ก็มีเพียงสิ่งเหล่านี้เท่านั้น เนื่องจากตระกูลหงส์ไฟเป็นตระกูลใหญ่ การที่จะมาเป็นห่วงกับขยะที่ไม่มีความรู้และไร้ซึ่งทักษะการต่อสู้ มันก็อาจกล่าวได้ว่าไม่คุ้มค่าหากจะใช้สิ่งมีประโยชน์ไปกับเธอ ที่มีแต่จะนำมาซึ่งความอัปยศแก่ตระกูลหงส์ไฟ

แม้กระทั่งสำหรับงานเลี้ยงประจำตระกูลประจำปี เธอก็ไม่มีคุณสมบัติใด ๆ ที่จะสามารถเข้าร่วม

ในข้อกล่าวหาเรื่องการบุกรุกสถานกักขังสัตว์เวทในครั้งนี้เป็นไปได้ว่า 'เฉินหยานเซียว' ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่ตาย แต่เธอก็คงจะถูกถลกหนังหัว

ถ้าไม่ใช่เพราะบิดาผู้ให้กำเนิดเธอ มันก็เป็นไปได้ว่าเฉินเฟิงคงจะไม่ยอมรับว่าเธอเป็นหลานสาวของเขา อาจกล่าวได้ว่า ณ ตอนนี้ เฉินหยานเซียว ไม่ได้มีการสนับสนุนใด ๆ

สถานการณ์นี้ไม่มีอะไรนอกจากความมั่นใจที่เธอมี เฉินหยานเซียวกำลังยิ้มแย้มแจ่มใสขณะที่เธอนั่งบนเก้าอี้แล้ววิเคราะห์สภาพแวดล้อมปัจจุบันของเธอ

นี่เป็นเพียงปัญหาที่เรียบง่ายกับการเป็นขยะและยังไม่มีผู้สนับสนุน

'อย่างไรก็ตามยังไม่นับว่าเป็นความหายนะ' พลันปรากฏเสียงหนึ่งกระทบหูของเฉินหยานเซียว

เฉินหยานเซียวรีบลุกขึ้นยืนในทันทีกวาดตามองรอบ ๆ เพื่อทำการสำรวจอย่างระมัดระวัง

แม้ว่าร่างกายนี้จะไม่ได้มีความแข็งแกร่งใด ๆ แต่ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอ เฉินหยานเซียวเป็นจอมโจรที่มีชื่อเสียง เธอได้เขย่าโลกทั้งโลก ไม่มีผู้ใดสามารถอำพรางกลิ่นหลบหนีออกไปจากการรับรู้ของเธอได้ แม้กระนั้นภายในห้องใหญ่นี้เธอก็ยังคงไม่ได้กลิ่นแม้แต่น้อย

เมื่อเป็นเช่นนี้ เสียงนี้มาจากไหน?

“ในเมื่อเจ้ากล้าส่งเสียงออกมา แต่ทำไมถึงไม่กล้าที่จะแสดงตัวตน?"เฉินหยานเซียว กวาดดวงตาของเธอไปรอบ ๆ

"แสดงตัวตนหรือ?" เสียงนั้นดังออกมาอีกครั้ง พร้อมกับความเย็นยะเยือก

"เด็กน้อย เจ้าไม่จำเป็นต้องมองหาข้า เพราะข้าไม่ได้อยู่ที่อื่น แต่ข้าอยู่ในร่างกายของเจ้า"

ภายในร่างกายของเธอ?

เฉินหยานเซียว หยุดชะงักอึ้ง

"ในตอนแรก ข้าคิดว่าเจ้าจะเป็นเด็กที่โง่เขลาไปตลอดชีวิต แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่า เจ้าจะเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นอัจฉริยะในทันทีทันใด สิ่งต่าง ๆ ในโลกกำลังล้อเล่นกับมนุษย์ ดูเหมือนสวรรค์ก็อยากจะให้โอกาสเราด้วย" เสียงที่เย็นชาดังขึ้นอีกครั้งที่ด้านข้างหูของเฉินหยานเซียว แต่คราวนี้เธอเห็นได้ชัดว่า เสียงนี้จริง ๆ ไม่ได้มาจากที่ไหนในโลกใบนี้ แต่...มาจากสมองของเธอ!

"เจ้าเป็นมนุษย์ประเภทไหน?” เฉินหยานเซียวสามารถรับรู้เรื่องเกี่ยวกับการเกิดใหม่ของเธอได้ แต่สำหรับการมาถึงของเสียงนี้อย่างฉับพลัน กับเสียงนี้มันก็ยากที่จะทำให้เธอเชื่อมั่นในตัวมัน

“มนุษย์? ในโลกนี้ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะสามารถพูดกับข้าได้เช่นนี้ พวกเขายินดีที่จะเรียกข้าว่า "ปีศาจ"

‘ปีศาจ?’ เฉินหยานเซียว ขมวดคิ้วของเธอ

"เอาละเด็กน้อย เราจะพูดถึงข้อตกลงแลกเปลี่ยนระหว่างเราได้หรือยังละ?"

‘ข้อตกลงแลกเปลี่ยนอะไร?’ แม้ว่าเฉินหยานเซียวจะไม่สามารถระบุลักษณะตัวตนของคู่หูได้ แต่เธอก็เห็นได้ชัดว่ามารร้ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นปีศาจ เขาก็ควรอยู่ในร่างกายของเธออย่างแท้จรืง

"หากเจ้าช่วยข้า ให้สามารถปรากฏตัวในโลกมนุษย์ได้อีกครั้ง ข้าจะช่วยเจ้าทำการยกเลิกตราประทับซึ่งจะช่วยให้เจ้าได้รับพลังอำนาจที่สมควรจะเป็นของเจ้า"

"ตราประทับ?" ยิ่งเฉินหยานเซียวฟัง มันก็ยิ่งทำให้เธอมึนหัวมากขึ้น

"ม้วนแขนเสื้อแขนขวาของเจ้าขึ้นดูสิ“

เฉินหยานเซียวม้วนแขนเสื้อของเธอตามที่เสียงบอก ที่ด้านบนของแขนขวาของเธอมีรอยสัญลักษณ์ เครื่องหมายขนาดฝ่ามือ ผิวหนังบริเวณนั้นมีสีผิวเข้มกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบริเวณอื่น ๆ ก่อนหน้านี้เธอได้ตรวจสอบร่างกายที่เธอได้ครอบครองแล้ว แต่เธอไม่อาจจดจำถึงสิ่งนี้ได้

"นี่คือตราประทับ?" บ้าจริง! มีความลับอะไรอีกบนร่างกายของเด็กน้อยผู้นี้


3 ความคิดเห็น: