เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ZX 088 พวกเจ้าทั้งหมดได้สอนสิ่งใดให้กับเขา?


เจ้ามัวคิดอะไรอยู่ล่ะ ? เข้ามา!”


ในชีวิตครั้งก่อน ยามที่หยางเฉินมาถึงประตูหอฉางอัน เขาจะต้องหยุดเบื้องหน้าชั่วครู่หนึ่งเพราะความตื่นเต้น แล้วรอฟังคำสั่ง ตอนนี้ …ทันทีที่ได้ยินคำสั่งที่คุ้นเคยนี้ เขาแทบลืมว่าเป็นชีวิตเก่าหรือใหม่


ขอรับ !”


เขาระงับความตื่นเต้นอย่างยากลำบาก สืบเท้าข้ามที่คั่นประตูเข้าสู่หอฉางอัน …ปรับนัยน์ตาให้เข้ากับแสงที่ริบหรี่ในนั้น แล้วกวาดสายตาหาที่มาของเจ้าของเสียงคำสั่งนั้น


เรือนร่างสูงที่เปี่ยมด้วยสีสันราวกับดอกไม้ …ใบหน้า..น้ำเสียงที่คุ้นเคย ทุกสิ่งรวมกันในสายตาที่ซาบซึ้งและคาดหวังในสายตานั้น ที่ยิ้มแย้มอย่างน่ารักใคร่มาที่เขา …สิบปี ที่เขาเฝ้ารอหลังกลับมาเกิดภพนี้…


หยางเฉิน เจ้ามีการบ่มเพาะธาตุไฟ งั้นเข้าร่วมวิหารหยางอัคคีของข้า!!”

น้ำเสียงอันคุ้นชินของกั่วหยู่ ก้องในหูของหยางเฉิน


แต่…ข้าพบความน่าแปลกใจ ที่ทำไมท่านไม่ได้ให้เกียรติกับท่านจูเฉินเตา โดยเข้าร่วมในสาขานั้น ดูจากพรสวรรค์ด้านนี้ของท่านแล้ว มันไม่น่าที่จะยากต่อการเป็นนักหลอมโอสถระดับสูงได้”


สำหรับการเข้าร่วมวิหารหยางอัคคีของศิษย์นั้น ย่อมไม่เป็นการขัดต่อเส้นทางการเป็นผู้หลอมโอสถ!”


หยางเฉินระงับความตื่นเต้น ด้วยการใช้พลังกายใจทั้งมวลอย่างยากยิ่ง แม้กระทั่งริมฝีปากยังสั่นยามกล่าววาจา แม้กระทั่งเอ่ยเสร็จก้อยังคงหายใจอย่างเร่งร้อน


แม้ว่าพรสวรรค์ดั้งเดิมของท่านไม่ถึงกับดีเลิศ แต่เจ้ามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งในการขึ้นสู่จุดสุดสูงของบันไดสวรรค์ …กระทั่งการขอเป็นศิษย์ต่อท่านประมุข ก้อยังมิเกินเลย แล้วไยท่านถึงเลือกข้าเป็นอาจารย์”


ในตอนนี้ กั๋วหยู ย่อมมิใช่เป็นประมุขของวิหารหยางอัคคี และในด้านการบ่มเพาะอย่างมากนางก็อยู่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น ของวิหารหยางอัคคี กั๋วหยูพึ่งผ่านการควบแน่นปราณได้ห้าปี และภายในห้าปีนี้เธอก็มุ่งที่จะทำให้ปราณในระดับนี้ของเธอมั่นคง ซึ่งว่าไปแล้วเธอไม่อาจเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้นที่มีประสบการณ์

สิ่งที่ทำให้กั๋วหยูงุนงงมาก เพราะท่านประมุขพระราชวังหยางบริสุทธิ์ ไประกาศเป็นกรณีพิเศษ เป็นการตกรางวัลการขึ้นสู่สุดยอดบันไดสวรรค์ ว่า เขามีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้ใดก็ได้เป็นอาจารย์ และย่อมไม่คาดคิดที่หยางเฉินจะเลือกเธอเป็นอาจารย์ และความประหลาดใจนี้ย่อมไม่ใช่เกิดต่อกั๋วหยูเพียงผู้เดียว ทุกคนในที่นี้ของพระราชวังหยางล้วนงุนงง หรือหยางเฉินคิดว่าการเลือกผู้พึ่งบรรลุระดับก่อลำต้นที่ได้รับสิทธิ์ให้มีศิษย์ได้นั้นเป็นทางเลือกที่ดีแล้ว


สัญชาตญาณมันบอกแก่ศิษย์ว่า ท่านเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการมาเป็นอาจารย์ของข้า”


หยางเฉินมิได้กล่าวเปิดเผยข้อเท็จจริงอันใด เพียงตอบไปเพื่อกำจัดข้อสงสัยของกั๋วหยู


สัญชาตญาณของข้า ไม่เคยผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นตอนขึ้นบันไดสวรรค์ รวมทั้งตอนกลั่นหลอมยาเม็ดคว้าครองสวรรค์”


ลำพังเหตุผลที่ยกมาอาจไม่เพียงพอ แต่เหตุการณ์ที่นำมายืนยันนั้นอาจช่วยให้ดูดีขึ้น เพราะมันเป็นเรื่องที่ดูทรงพลังในการยืนยันคำว่า ‘สัญชาตญาณ’ นั้นถูกต้อง แม้อาจมีคนที่ไม่ยอมรับคำนี้ แต่ก็ไม่อาจโต้แย้งความจริงที่บังเกิดได้


เมื่อกั๋วหยูสำรวจดูหยางเฉินแล้ว ถ้าดูให้ดีจะพบว่าร่างกายหยางเฉินยังสั่นแม้จะกดข่มไว้ ซึ่งสำหรับเธอก็มิใช่อะไรที่แปลก ก่อนหน้านี้บรรดาเหล่าศิษย์ เกือบจะทุกคนล้วนสั่นสะท้านเมื่ออยู่เบื้องหน้าผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น ยิ่งภายใต้การเพ่งจ้องของเธอ อาการเหล่านี้ย่อมมิอาจหลีกพ้นไปได้


บางที!”


กั๋วหยูละทิ้งความสงสัยเหล่านี้ไป เธอพึ่งได้รับโอกาสให้รับศิษย์ได้ ดังนั้นเธอต้องระมัดระวังในการเลือกศิษย์คนแรก ซึ่งตอนนี้มันน่าพึงพอใจทีเดียว ที่ศิษย์แรกนี้เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่งในหมู่ศิษย์ เป็นที่รู้จักไม่เพียงแต่ในพระราชวังหยางบริสุทธิ์ แต่รวมถึงในโลกแห่งการบ่มเพาะนี้

ข้า กั๋วหยูแห่งวิหารหยางอัคคี เมื่อเจ้าต้องการอยู่ในอาณัติของข้าและเข้าร่วมกับวิหารของข้า ตั้งแต่นี้ไป เจ้าถือเป็นศิษย์ของวิหารหยางอัคคี”


ท้ายสุด กั๋วหยูยิ้มแย้มอย่างร่าเริง กับการได้รับศิษย์คนแรกนี้
เจ้าเป็นศิษย์คนแรก ศิษย์ประเดิมของข้า”

ทันทีที่ได้ยินวาจาดังกล่าว ไม่มีสิ่งอื่นใดอีกละ หยางเฉินคุกเข่าในทันที โขกศรีษะลงที่พื้น พร้อมเอ่ยเสียงที่เปี่ยมด้วยความรู้สึก


ศิษย์หยางเฉิน ขอคารวะท่านอาจารย์”


ในทันทีที่ศีรษะสัมผัสพื้น น้ำตาที่เคยกดข่มไว้ก็หลั่งไหลออกมา  หลายพันปีแห่งความคิดถึง สุดท้ายแล้ว บัดนี่เขาได้มาอยู่ที่เบื้องหน้าเธอผู้เป็นอาจารย์อีกครั้ง ทันทีที่ได้ยินเสียงอาจารย์
ในสมองของเขา อุปสรรคทุกอย่างที่เคยผ่าน ความอดทนทั้งมวลหลายปี ที่ผ่านมาในศาลสวรรค์ ถือได้ว่าไม่มีอะไรลำบากเลยกับความอดทนต่อความยากลำบากนับหมื่นปี เพื่อแลกกับการได้มายืนอยู่ ณ.ตรงนี้ …เบื้องหน้าอาจารย์
ของเขาผู้นี้

ในชีวิตครั้งนั้น หยางเฉินได้มาเป็นศิษย์เธอหลังจากการเข้ามายี่สิบปี ตอนนั้นเธอมีระดับการบ่มเพาะระดับกลางของขั้นก่อลำต้น และเขาก็ไม่ใช่ศิษย์คนแรก ไม่เหมือนครั้งนี้ ที่เธอพึ่งผ่านการควบแน่นปราณ และหยางเฉินได้เข้ามาเป็นศิษย์คนแรก
ความสงบนิ่งและมั่นคงที่มีในชีวิตที่แล้วของกั๋วหยู ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับ กั๋วหยูในตอนนี้ที่พึ่งควบแน่นปราณ แต่รับศิษย์คนแรกเป็นประสบการณ์ใหม่ของเธอ ทำให้เธอดุจดังเด็กสาวน่ารักยิ่ง

การหลั่งน้ำตาขณะโขกศีรษะคำนับ หาได้หลบพ้นจากการรับรู้ของกั๋วหยูไม่ แต่กั๋วหยูไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าเกิดจากอะไร ถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ …รึว่าไม่ชื่นชอบในตัวอาจารย์ ? ..จนกระทั่งร้องไห้เลยรึ ? ไม่ว่าจะอย่างไร ดีร้าย เขาก็เป็นศิษย์คนแรกของเธอ


เอ้า เร็วเข้า มาคารวะเหล่าผู้อาวุโส”


กั๋วหยู เร่งเตือนหยางเฉิน ที่เสร็จสิ้นจากการทำความเคารพเธอแล้ว ก็ต้องตามด้วยการคารวะบรรพบุรุษทั้งหลาย การรับศิษย์แรกของเธอจึงจะเสร็จสมบูรณ์


ขอรับ อาจารย์”


หยางเฉินรีบระงับจิตใจให้สงบ แสดงการคารวะบรรพบุรุษด้วยการจุดธูปและคุกเข่ากราบกราน แล้วแสดงความเคารพต่อกั๋วหยูด้วยการยกน้ำชา สุดท้ายจึงกลายเป็นศิษย์ของกั๋วหยูอย่างสมบูรณ์


มันเป็นครั้งแรกของกั๋วหยูต่อพิธีกรรมต่าง ๆ นี้ เธอจึงรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง  แม้จูเฉินเตาและคนอื่น ๆ อยากอยู่ร่วมพิธีก็ถูกเธอห้ามไว้ ดังนั้นในหอเฉิงอันจึงมีเพียงสองศิษย์อาจารย์เท่านั้น

ต่อไปภายหน้า เจ้าต้องฝึกให้มากขึ้น”


สายตาที่เคารพของหยางเฉินที่จ้องมายังนางนั่งอยู่บนที่นั่งอันทรงเกียรติ ยิ่งทำให้กั๋วหยู ต้องทำตัวให้เป็นอาจารย์ และทำเป็นผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์ เริ่มทำการสอนหยางเฉิน


ต่อไป เราสองอาจารย์ศิษย์ ต้องเป็นเสาหลักในวิหารหยางอัคคี”


แน่นอน กั๋วหยูกล่าวถึงการแข่งขันภายในนิกาย นางจึงบอกหยางเฉิน และแสดงความรู้สึกถึงการไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดในตัวนาง ขณะเดียวกันก็ต้องการให้บรรลุเป้าหมายด้วยตัวนางเอง

ขอรับอาจารย์ ตามที่ท่านต้องการ”


หยางเฉินตอบรับเสียงดัง และภายในใจเขาบอกว่า นี่เป็นวาจาที่เขาเคยเอ่ยนับครั้งไม่ถ้วน


อาจารย์ ไม่เพียงเราจะเป็นแกนในการหนุนวิหารหยางอัคคี แต่ข้าจะทำให้ท่านได้เป็นเจ้าวิหาร และในเบื้องต่อจากนั้นท่านต้องได้ขึ้นจุดสูงสุดของพระราชวังหยางบริสุทธิ์ ตราบใดที่ข้าต้องการ? “


กั๋วหยู ถึงกับเผลอจ้องมองที่พื้น ถึงแม้กั๋วหยูจะงุนงง แต่เธอก็เข้าใจความหมายวาจานี้


ตราบเท่าที่ท่านอาจารย์ต้องการ”


หยางเฉินเอ่ยซ้ำ พร้อมพยักหน้าด้วยท่าทีจริงจังหนักแน่น ไม่มีท่าทีล้อเล่น

ถ้าเป็นสิ่งที่ข้าต้องการนั้น ข้าต้องการรักษาความอ่อนเยาว์นี้ไว้ตลอดกาล?”

เมื่อครุ่นคิด กั๋วหยูก็ได้เอ่ยสิ่งที่ต้องการ


ข้ารู้ การฝึกบ่มเพาะสามรูปแบบที่จะหยุดยั้งความแก่ และยังมีโอสถอีกสองชนิดที่จะช่วยหยุดยั้งความแก่นี้”


หยางเฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว


ไม่ต้องคำนึงถึงว่าข้าจะต้องใช้วิธีใด ข้าสามารถทำให้อาจารย์เป็นสาวได้ตลอดกาล!”


แล้วถ้าข้าต้องการสูตรของโอสถคว้าครองสวรรค์ล่ะ ? “


กั๋วหยูจ้องมองหยางเฉินราวกับเห็นสัตว์ประหลาด ด้วยไม่รู้ว่าวาจาเขาจริงหรือเท็จ แต่ทันใดเธอก็ยิ้มและเปลี่ยนคำถาม รอคำตอบหยางเฉิน

กระสายยาพื้นฐานที่สำคัญทีสุดของโอสถคว้าครองสวรรค์คือหญ้าฟ้าคราม
ต้องเป็นหญ้าฟ้าครามที่ดีที่สุด สมุนไพรชนิดนี้เติบโตภายใต้ชั้นหินในส่วนลึกที่สดุของเหมืองหยกระดับสูง นอกจากนั้นส่วนผสมอื่นๆนั้นคือ..."

หยางเฉินเอ่ยต่อ โดยปราศจากการลังเลท่าทีของหยางเฉิน สร้างความงงงวยให้กับกั๋วเฉินไปชั่วขณะ หลังหายตะลึง เธอรีบเอามือตะครุบอุดปากหยางเฉิน


หยุด ห้ามพูด !”


ไหนเลย กั๋วหยูจะคาดไว้เช่นนี้ ? เธอเพียงเอ่ยที่จะพิสูจน์เขา แต่ไม่คาดคิด ที่หยางเฉินจะบอกถึงสูตรโอสถคว้าครองสวรรค์อย่างไม่รอรี มันย่อมไม่ใช่อะไรที่คนนุยทธภพนี้จะยินยอมทำ


ทำไม เจ้าเป็นเช่นนี้”


กั๋วหยูมีความรู้สึกสั่นไหว หลังจากปล่อยมือจากปากหยางเฉิน จึงเอ่ยพร้อมขมวดคิ้ว

เพราะ ท่านเป็นอาจารย์ของข้า”


อย่างไม่ต้องครุ่นคิดหยางเฉินเอ่ยทันที ความนุ่มนวลและอบอุ่นของฝ่ามือกั๋วหยู แทบจะทำให้เขาไม่สามารถควบคุมสติได้ แทบจะแอบจุมพิตที่ฝ่ามือนั้น แต่ก็มิได้ทำเช่นนั้น แม้บัดนี้กลิ่นหอมนั้นยังอบอวลอยู่ระหว่างปากกับจมูกของเขา

กั๋วหยูอยู่ใกล้ ๆ เขา ไหนเลยจะมิได้ยินคำตอบที่เปี่ยมด้วยความจริงใจของหยางเฉิน เธอรู้สึกหวั่นไหวทั้งมึนงงในขณะเดียวกัน ในเมื่อเขารับเธอเป็นอาจารย์แล้ว ทั้งสองมีเวลาอีกมากที่จะอยู่ร่วมกัน ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอดกลั้น

พิธีการรับศิษย์ที่เป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยปราศจากบุคคลที่สามจึงใช้เวลาไม่มากนัก เมื่อหยางเฉินและกั๋วหยูออกจากหอเฉิงอัน จูเฉินเตาและคนอื่น ๆ จึงใช้เวลาในการรอคอยไม่นาน

เกี่ยวกับการเลือกอาจารย์ของหยางเฉิน ซึ่งเมื่อครู่จูเฉินเตาและคนอื่น มิได้แข่งขันแย่งชิงมากนัก เพราะศิษย์ที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์เช่นนี้ ไหนเลยจะเลือกอาจารย์ที่ไม่มีศักยภาพ นี่มันจะมีผลกระทบต่ออนาคตหยางเฉินหรือไม่ ?  แต่หลังจากที่พวกเขาเข้าพบประมุขทุกอย่างก็ได้รับคำตอบ

เมื่อหยางเฉิน ได้ขึ้นจุดสูงสุดของบันไดสวรรค์ รางวัลของเขาคือการให้สิทธิ์แก่เขาที่จะเลือกผู้ใดก็ได้เป็นอาจารย์ของเขา”

ประมุขพระราชวังหยางบริสุทธิ์ที่นั่งอยู่บนเสื่อ เอ่ยช้า ๆ กระทั่งมิได้ลืมตา แล้วกล่าวต่อ

นี่เป็นรางวัลที่สมควรให้แก่เขา”

แต่ไม่ว่าด้านความสามารถการรับรู้ หรือพลังจิตของเขาแข็งแกร่งยิ่ง แล้วกั๋วหยูที่ไม่เคยมีศิษย์มาก่อน จะสอนคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ มันจะไม่เป็นการเสียของรึ ?”

ซูเฉิงซินที่ค่อนข้างรู้ถึงความน่าทึ่งในศักยภาพของหยางเฉิน มิต้องเอ่ยถึงเรื่องอื่นใด แค่การมีส่วนร่วมในการปรุงโอสถคว้าสวรรค์ มันก็เพียงพอที่จะบดบังความสำเร็จของคนอื่น ๆ ทั้งหมด จากแค่ที่เห็น ไม่ว่าผู้ใดย่อมรู้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้ปรุงโอสถที่จะนำความรุ่งเรืองมาสู่พระราชวังหยางบริสุทธิ์ ถ้าผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้ถูกทำลายมันย่อมเป็นการสูญเสียอย่างแท้จริง

ผู้ที่นั่งด้านหน้าประมุขพระราชวัง นอกจากจะมี ซีเฉิงซิน จูเฉินเตา แล้วยังมีเจ้าวิหารรัศมีจันทราเหลียงเซาหมิง  เจ้าวิหารหยางอัคคีเจียวหมิง ถือเป็นผู้ที่มีอาวุโสระดับสูงสุดของพระราชวัง ถ้าไม่นับเหล่าผู้อาวุโสระดับผลิดอกผู้ซ่อนกาย แล้วย่อมเป็นปกติที่พวกเขาต้องใส่ใจกับเรื่องการบ่มเพาะให้กับศิษย์ทีมีพรสวรรค์

กั๋วหยู นับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อลำต้น ที่มีสิทธิ์ที่จะรับศิษย์ได้ แล้วการที่มีอาจารย์เป็นผู้ชี้แนะ มันจะเป็นการเสียหายต่อหยางเฉินได้เช่นไร ? “


ประมุขยังคงมีท่าทีสบาย ๆ ราวกับกำลังพูดถึงศิษย์ทั่ว ๆ ไป มิใช่ผู้มีพรสวรรค์พิเศษ

ท่านประมุข พวกเราทุกคนคิดว่า ควรจะให้ผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้ชี้แนะเขาน่าจะดีกว่า !”

เหลียงเฉาหมิงเอ่ยในสิ่งที่เขาพยายามนำเสนอ แต่ไม่มีผู้ใดทราบว่าเขากำลังคิดทำอันใด

ประมุขยังคงนั่งหลับตาบนที่เดิม และค่อย ๆ เอ่ย

ถ้าท่านคิดเช่นนั้น งั้นให้ข้าถามท่าน ก่อนที่เขาจะขึ้นสู่บันไดสวรรค์ ไม่ใช่ท่านรึที่ทำเหมือนไม่รู้จักเขา หลังจากขึ้นสู่สุดยอดบันไดสวรรค์แล้ว ผู้ใดบ้างที่สอนอันใดแก่เขา ? การบ่มเพาะ …การปรุงโอสถ ท่านต้องการกล่าวอันใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ? “

ขณะกล่าวนั้น สำนึกพลังจิตวิญญาณของประมุขหยุดอยู่เหนือเหลียงเซาหมิง แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว

คำถามนี้ทำให้ทุกคนเงียบกริบ ทุก ๆ คน ย่อมทราบดีของข้อบาดหมางของหยางเฉินกับซูเฮิง ผู้ดูแลการคัดเลือกศิษย์คนก่อน

ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ทุก ๆ คนทราบดีถึงคุณค่าของตัวหยางเฉิน แม้เมื่อครั้งในตำหนักเย่ซิว ซูเฮิงได้ห้ามทุกคนถ่ายทอดสิ่งต่างๆ ต่อเขา ซึ่งทุกคนก็มาทราบในภายหลัง แต่ก็ไม่มีใครว่าอันใด เพราะตอนนั้นใคร ๆ ย่อมรู้การจะเลือกใคร ระหว่างผู้บ่มเพาะลมปราณกับระกดับก่อสร้างรากฐาน แต่ ณ บัดนี้ ไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว หยางเฉินไม่เพียงบรรลุระดับก่อสร้างรากฐาน แต่ยังเป็นผู้ที่ร่วมกลั่นโอสถคว้าสวรรค์ให้กับผู้อาวุโสหวู กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มผู้กลั่นโอสถ มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่โด่งดังยิ่งในกลุ่มพวกเขา

เหลียงเซาหมิงรู้สึกตะขิดตะขวงใจ เพราะซูเฮิงที่พยายามกดดันหยางเฉินนั้น คือศิษย์ของเขา แม้จะไม่มีผู้ใดมาถกเถียงเรื่องนี้กับเขา แต่สถานะตอนนี้ของหยางเฉิน มันราวกับตบหน้าเขา เป็นเรื่องปกติ ที่ความผิดพลาดของศิษย์ ย่อมนำความเสื่อมเสียมาถึงอาจารย์

ทุกคนไร้คำจะกล่าว เพราะรู้ดีถึงเรื่องที่ผ่านมาของหยางเฉิน การที่ความสามารถในการเรียนรู้ของเขาสูงมากนั้น มาจากการอ่านอย่างบ้าคลั่งที่หอเร้นลับของตำหนักเก้าปฐพี และการใช้แต้มสะสมเพื่อเข้าหอเร้นลับนั้น เขาล้วนหามาเองด้วยการแลกเปลี่ยนกับน้ำทิพย์ของเขากับภายในนิกาย มันจริงแท้ที่ไม่มีผู้ใดยื่นมือช่วยเหลือเขา และด้วยการทำงานหนักอย่างเกินคาดเพื่อพระราชวัง ดิ้นรนเพื่อได้รับการยอมรับ พูดชัด ๆ คือ ทุกคนในที่นี้ต้องละอายอยู่บ้าง


ในเมื่อเขาสามารถฝึกการบ่มเพาะด้วยตัวเขาเองมาจนถึงระดับนี้ แล้วพวกเจ้ายังห่วงอันใด รึกลัวว่ากั๋วหยูจะสอนเขาได้ไม่ดีรึ? “


ในที่สุดประมุขก็ลืมตาขึ้น จ้องไปที่ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ แล้วปิดเปลือกตาอีกครั้ง


ถ้าท่านยังเป็นกังวล งั้นข้าอนุญาตให้เขามีสิทธิ์เข้าใช้ หอเร้นลับของพระราชวัง ถ้าต้องการดูอันใดก็อนุญาตตามนั้น ถือเป็นการชดเชยทดแทนที่เขาไม่รับโอสถระดับก่อสร้างรากฐาน”


เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมไม่มีผู้คัดค้าน เรื่องราวการเลือกอาจารย์ของหยางเฉิน ลงเอยด้วยการที่เขามาเป็นศิษย์ของกั๋วหยู


หยางเฉิน บัดนี้เจ้าเป็นศิษย์ฝ่ายในเรียบร้อยแล้ว เจ้าต้องยึดมั่นในกฏของพระราชวังหยางบริสุทธิ์อย่างเคร่งครัด เจ้าอย่าฝ่าฝืนกฏเป็นอันขาด”


จูเฉินเตา ที่คาดหวังในตัวหยางเฉินอย่างสูง ให้ความใส่ใจและเอาใจใส่หยางเฉินอย่างดี


เมื่อกล่าวกันถึงกฏของนิกายแล้ว ศิษย์นี้มีเรื่องจะเรียนให้ทราบ”


บัดนั้นหยางเฉินนึกขึ้นมาได้ แล้วเอากระเป๋าจัดเก็บพร้อมเข็มทิศตามตัวออกมา ทั้งสองอย่างยื่นให้กับตูเชี่ยน


4 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องนี้สนุกนะครับ แต่ทำไมนานๆๆๆๆๆๆๆๆมาทีครับ

    ตอบลบ
  2. มีกลุ่มลับหรือเปล่า อยากอ่านมาก

    ตอบลบ
  3. จะนานแค่ไหนก็รอ ตามอ่านเสมอครับ เรื่องนี้

    ตอบลบ