แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน
ให้กำลังใจผู้แปลโดย งดการกอปปี้ งดแชร์
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/
หมายเหตุ: พบเห็นการละเมิดผลงาน งดโพสเรื่องดังกล่าวหนึ่งอาทิตย์
คนที่มีประสบการณ์รู้อยู่แล้วว่าจะมีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในศึกครั้งนี้
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เป็นธรรมตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ด้วยพลังสูญสิ้นของฮั่นหลาง
ซึ่งสามารถริบมหาอำนาจอื่น ๆ ได้ ผลักดันให้ทุกคนในองค์กรเหล่าปีศาจเข้าสู่ภาวะตื่นตระหนก
นอกจากความแข็งแกร่งแล้ว กำลังใจก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทหาร
เมื่อพวกเขาเข้าสู่ความหวาดกลัวเกมก็จะจบลง
กองทัพกลางขององค์กรเหล่าปีศาจได้ถูกสร้างขึ้นจากเหล่าทหารที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรม
พวกเขากลายเป็นเหมือนศพหลังจากผ่านการผสานทางพันธุกรรม และสูญเสียสติของพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกหวาดกลัว
ถ้าทหารจากทั้งสามกองกำลังที่นำโดย ลั่วช็อคสเกล เป็นทหารดัดแปลงพันธุกรรม
พวกเขาจะไม่สูญเสียมากขนาดนี้ อย่างน้อยก็จะไม่พ่ายแพ้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
แต่ลั่วช็อคสเกลนำกองกำลังทหารดัดแปลงพันธุกรรมมาเพียงกองกำลังเดียว
อีกสองกองที่เหลือเป็นมนุษย์ปกติ พวกเขามีภรรยาและลูก และแน่นอนจะต้องรู้สึกหวาดกลัวในขณะที่เผชิญหน้ากับกลุ่มศัตรูที่เข้มแข็งเช่นนี้
เหตุผลหลักเนื่องจากมีข้อบกพร่องสองประการสำหรับทหารดัดแปลงพันธุกรรม
หนึ่งคือระดับของพวกเขาจะถูกจำกัด และจะไม่สามารถปรับปรุงได้อีก
อีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเขาจะเหมือนคนโง่
เนื่องจากสมองของพวกเขาหยุดทำงาน ทหารเหล่านี้จะโจมตีโดยไม่ต้องคิดมาก
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขากลายเป็นเรื่องวุ่นวายมากขึ้นในสนามรบเพราะพวกเขาไม่มีกลยุทธ์
ดังนั้นทหารดัดแปลงพันธุกรรมส่วนใหญ่จึงทำหน้าที่เป็นสมุนในสนามรบขนาดใหญ่
ทหารปกติจะเป็นผู้นำ พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนตาข่ายที่แตกต่างกันเพื่อเปิดการโจมตีอย่างกระทันหันหรือหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกัน
เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของพวกเขา
แต่สถานการณ์ตอนนี้ การสูญเสียพลังอำนาจทำให้เหล่าทหารตื่นตระหนก
จนทำให้ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดน้อยลง แม้ว่ากองทัพทหารดัดแปลงพันธุกรรมจะไม่กลัวการสู้รบในระยะประชิด
แต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีกลยุทธ์ใด ๆ
ความจริงที่ว่าพวกเขายังคงต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงความวุ่นวายของสนามรบ
ความสับสนวุ่นวายยังลดความเชื่อมั่นของทหารปกติจนก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่
สิ่งเดียวที่ ลั่วช็อคสเกล
หวังไว้ก็คือทหารดัดแปลงทางพันธุกรรมสามารถต้านทานศัตรูเอาไว้ได้ เพื่อให้อีกสองกองกำลังสามารถปรับตัวให้เข้ากับการต่อสู้โดยไม่ใช้พลังพิเศษจากกลยุทธ์ที่ฮั่นหลางใช้
ทหารดัดแปลงทางพันธุกรรมจำเป็นที่จะต้องเหนียวและแกร่ง
แต่น่าเสียดายที่ฮั่นหลางและพี่น้องของเขาได้ไปไกลกว่าทหารศพเดินได้เหล่านี้!
กองกำลังผสมผสานทางพันธุกรรมได้ต่อสู้ด้วยสัญชาตญาณของพวกมัน แต่ทีมของฮั่นหลางก็ต่อสู้กับความโกรธของพวกเขา
พลังจิตคือสิ่งที่ทำให้นักรบแข็งแกร่ง!
มันสามารถทำให้นักรบต่อสู้ได้ถึงขีดสูงสุด!
และทุกคนในทีมยังชื่นชมฮั่นหลางและหวังว่าพวกเขาจะกล้าหาญเหมือนฮั่นหลาง
สำหรับฮั่นหลางแล้ว พลังจิตเป็นความเชื่อ
มันเป็นพลังที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งผลักดันตัวเองออกไป
ทุกคนต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงกว่าที่เคย!
นอกจากนี้ทีมเขี้ยวหมาป่า ยังไม่ได้เป็นกลุ่มที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ทั้งหมด
มันยังมีไข่ดำ จิ้งจอกเงิน บลูสตาร์ เสี่ยวบ่าว ไหวลาดดาวและป่าคำราม
พวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากพลังสูญสิ้นของฮั่นหลาง
แม้กระทั่งสำหรับป่าคำราม ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสายเลือดทองคำครึ่งหนึ่ง
พลังสูญสิ้นจะเพียงแค่ชะลอความเร็วในการเคลื่อนย้ายมิติของเขาลงเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับศัตรูที่อยู่อีกด้านหนึ่งที่พลังมหาอำนาจถูกกีดกันอย่างสิ้นเชิงทีมของฮั่นหลางก็โกง
ในขณะที่กองกำลังอื่น ๆ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์
แต่ทีมของฮั่นหลางมีความผสมผสานจากเผ่าพันธุ์ที่ต่างกัน
ไข่ดำ ยังไม่เคยใช้ จิตพิฆาตวิญญาณมาก่อนซึ่งเป็นอาวุธลับ มันสามารถฆ่าได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของศัตรูจากอีกด้านในทันทีเมื่อสถานการณ์กำลังรุนแรงขึ้น
แต่มันก็จะสูญเสียพลังงานอันล้ำค่าไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้านของฮั่นหลางได้เปรียบ ศัตรูถูกตัดออกไป แม้แต่ไข่ดำที่ตระหนี่ก็ตัดสินใจที่จะประหยัดพลังงานมากขึ้นเพื่อใช้งานในภายหลัง
นี่เป็นสิ่งที่ฮั่นหลางสามารถนำเสนอได้ในสนามรบ?
แน่นอนว่าไม่ไช่!
สัตว์พันธุกรรม พืชกลายพันธุ์ สารพิษและแก๊สสังหารเป็นเทคนิคทั้งหมดในการกำจัดของเขา
เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าฮั่นหลางยังนำเทคนิคทั้งหมดของพวกเขาออกมาซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าสะพรึงกลัว
คนเหล่านี้มีเทคนิคแปลก ๆ และยุ่งเหยิงมากมาย
เมื่อเทียบกับกองกำลังปกติพวกเขาเป็นทีมของเด็กป่า!
ไม่มีอะไรที่สามารถหยุดกองกำลังเมื่อมันถูกผลักดันจนบ้าคลั่ง!
ในเวลาไม่นาน กองกำลังของลั่วช็อคสเกลได้ล้มตายไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง
ฮั่นหลางโบกมือและจะเข้าไปจัดการเขา!
ในขั้นตอนของการรบตราบเท่าที่ผู้บัญชาการถูกสังหารส่วนที่เหลือของกองทหารจะพังยับเยิน!
ฮั่นหลางกำลังวางแผนกลยุทธ์ตั้งแต่เริ่มแรก!
ชูวว ~
กองทหารป่านี้ก็เปลี่ยนทิศทางของพวกเขาและรีบวิ่งไปที่ลั่วช็อคสเกล
อย่างรวดเร็วราวกับรถปราบดิน
ฟึบ ~
ฟึบ ~
ทหารที่คุ้มครองลั่วช็อคสเกล จากด้านข้างทั้งหมดถูกสังหารตายด้วย มีด!
เลือดสาดกระเซ็นไปทุกที่ในทันที!
ทีมของฮั่นหลางยังคงก้าวไปข้างหน้าท่ามกลางเลือดของศัตรู
อันตรายอยู่ตรงมุม ตามความเร็วนี้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการที่ฮั่นหลางทำการจัดการกับลั่วช็อคสเกล
"ซวยแล้ว!ลั่วช็อคสเกลกำลังจะตาย!"
บรูชกำลังเฝ้าสังเกตจากระยะไกลและเห็นฮั่นหลางเข้าหา ลั่วช็อคสเกล
"มันไม่ง่ายอย่างนั้น" ดาร์คนอร์ทกล่าวว่า "จงจำไว้ว่า
ลั่วช็อคสเกลเป็นคนของปีศาจเฒ่าลั่ว"
"แล้วไง? ช่องว่างความแข็งแกร่งก็เห็นได้ชัด?" บรูซกล่าวออกไปอย่างไม่มั่นใจ
หลังจากที่ บรูซ พูดจบแล้ว ลั่วช็อคสเกลกัดฟันและวิ่งเข้าหาฮั่นหลาง
เขาทำอะไรแปลก ๆ !
การเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังดังกล่าว มันน่าจะสมเหตุสมผลถ้าจะวิ่งหนี
ไม่นานนัก ฮั่นหลางก็เล็งคันธนูขนนกเวหาของเขาไปที่หัวลั่วช็อคสเกล
ชูวว ~
ร่างของลั่วช็อคสเกลฉีกออกจากกันอย่างฉับพลัน
ขณะที่คันธนูขนนกเวหาพุ่งเข้าไป
สัตว์ประหลาดที่มีหนวดพุ่งออกมาจากร่างของลั่วช็อคสเกลและพุ่งจับฮั่นหลาง!
สัตว์ประหลาดที่มีหนวดเป็นเหมือนทารกในครรภ์ มันมีร่างกายที่ดูพิการ
และดวงตาของมันดำมืดดูน่ากลัว
คลืนน ~
ลั่วช็อคสเกลเสียชีวิตในทันที
และทีมเขี้ยวหมาป่าประสบความสำเร็จในการทำลายทั้งสามกองกำลังขององค์กรเหล่าปีศาจ
แต่ฮั่นหลางก็เป็นลมหมดสติ
บรูซรู้สึกตกใจเขาถาม ดาร์คนอร์ทว่า "เจ้ารู้ได้ยังไง!?"
ดาร์คนอร์ทส่ายหัว "ไม่ชัดเจนนักหรอก ลั่วช่วยหาน
สามารถฆ่าลูกสาวของตัวเองได้ ทำไมเขายังจะสนใจหลานชายของเขา? เห็นได้ชัดนี่เป็นวิธีที่ปีศาจเฒ่าลั่วควบคุมลั่วช็อคสเกล
ใครก็ตามที่ขัดขวางเขาหรือคิดหลบหนี ก็จะจบชีวิตลงเช่นนี้"
"จริง ๆ แล้ว ปีศาจเฒ่าลั่วยังคงมีทางอื่นที่จะควบคุมลั่วช็อคสเกล
ถ้าเขาไม่ได้ใช้วิธีที่ดูรุนแรงนี้ ถ้าลั่วช็อคสเกลหลบหนีไปเช่นนี้ พ่อแม่และครอบครัวของเขาจะถูกฆ่าตายเหมือนเหล่าทหารที่หลบหนี
ไม่มีใครที่จะยังคงมีชีวิตรอดอยู่ได้หลังจากกลับไปที่องค์กรเหล่าปีศาจ
พวกเขาทั้งหมดจะถูกฆ่าตาย"
บรูซเบ้ปากของเขาก่อนกล่าวว่า "เขาเป็นคนเลือดเย็น"
"เขา..." ดาร์กนอร์ทพึมพำว่า "เขาไม่ใช่แม้แต่มนุษย์
..แม้ว่าจะเป็นคนที่มีสายเลือดมืดเดียวกัน แต่เราก็จะไม่สามารถทนกับสิ่งที่เขาทำได้"
"แต่เขาก็มีลูกสาวสองคน" บรูซกล่าวว่าหลังจากคิดในขณะที่
"มันก็จริง" ยิ้มบาง ๆ ออกมาและกล่าวว่า "ขอบคุณพระเจ้า
ที่มีคนเช่นเขาเพียงคนเดียวในโลกนี้เท่านั้น"
ฮั่นหลางหมดสติ ความแข็งแรงของทุกคนลดลง และพวกเขาสูญเสียกำลังใจในการทำงานอย่างเต็มที่หลังจากนั้น
พวกเขาไม่ต้องการไล่ล่าศัตรูที่หลบหนีออกไป
ในกลุ่มนี้ฮั่นหลางเป็นชีวิตที่สำคัญที่สุด ทุกคนอยู่ที่นี่ก็เพราะเขา
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่อายุมากที่สุด
แต่เขาก็มีบุคลิกที่เป็นมิตรที่ทุกคนชื่นชอบและมักนำเสียงหัวเราะมาให้กับกลุ่ม
อี่เว่ยเว่ยและเจียนเจียทั้งคู่เศร้าใจ
พวกเขาเดินเคียงข้างฮั่นหลางและเริ่มทำความสะอาดคราบดำบนร่างของเขา
โชคร้ายที่สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดไม่ได้เป็นคราบ หากแต่เป็นหนวดของสัตว์ประหลาดที่มาจากร่างของลั่วช็อคสเกล
พวกมันเจาะเข้าไปในร่างกายของฮั่นหลางแล้วฉีดพิษร้ายแรงบางอย่างเข้าไป
สีหน้าของฮั่นหลางกำลังเปลี่ยนเป็นสีเขียวมากขึ้น เขาหายใจเร็วขึ้น
พร้อมกับมีอาการหอบหืด
"พวกมันกำลังกัดกร่อนปอดของฮั่นหลาง!"
ผู้เล่นยามค่ำคืนตะโกนเสียงดังออกไป
"เราควรทำอย่างไรดี? รีบรักษาเขาด้วยยาบางอย่างที่เจ้ามี อะไรสักอย่างที่ช่วยได้!"
อู้หวินตะโกนใส่เขา
ผู้เล่นยามค่ำคืนเดินสะดุดและพูดออกไปอย่างโกรธ "เจ้ารู้อะไรไหม!
สิ่งนี้ไม่ได้เป็นยาพิษ แต่มันเป็นจุลินทรีย์ที่กัดกร่อนร่างกายมนุษย์!
พวกมันเป็นแบคทีเรีย!"
ฟึบ ~
ผู้เล่นยามค่ำคืน ฉีดยาสีเขียวเข้าไปในร่างของฮั่นหลางขณะที่ตะโกนใส่
อู้หวิน
“สิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้ตอนนี้คือการต่อสู้กับอันตราย ข้าได้ฉีดยาบริสุทธิ์ของเทพเจ้าบ้าคลั่งเข้าไปในร่างของฮั่นหลางและหวังว่าเขาจะได้รับมันเพื่อต่อต้านจุลินทรีย์พิษนั่น"
"ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วหรือ?"
9527 ถามออกไป
ขณะที่ผู้เล่นยามค่ำคืนส่ายหัว ทุกคนต่างถอนหายใจ
จะไม่มีทางเลือกอื่นอีกถ้าผู้เล่นยามค่ำคืนกล่าวว่าไม่มี
เพราะเขาเป็นคนเก่งที่สุดในเทคนิคยาพิษและยารักษาในทีมเขี้ยวหมาป่า
"ข้าจะฆ่าพวกมันทั้งหมด!" บ่อยารีบวิ่งไปหาศัตรูที่กำลังหลบหนี
"หยุด!" ซือหม่าฮั่นเฟิง ตะโกนออกมาอย่างฉับพลัน ซึ่งทำให้สายตาของทุกคนละจากฮั่นหลางมองออกไปในระยะไกล
พวกเขาได้เห็นผู้คนจากองค์กรเหล่าเทพเจ้าอยู่ไม่ไกล หลังจากที่ศัตรูจากองค์กรเหล่าปีศาจหลบหนีไป
พวกเขาเรียงแถวเหมือนเมฆสีดำ
ทุกคนในทีมก็ยังคงบ้าคลั่ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมความโกรธของพวกเขาเอาไว้ได้
ในขณะนี้พวกเขาได้ยินการสนทนาระหว่างลูชุ่ยชิวหลินและซาไห่
ซาไห่กล่าวว่า "ทำไมเราไม่โจมตี นี่เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ
เราสามารถฆ่าคนเหล่านี้ทั้งหมดได้ในตอนที่ฮั่นหลางยังไม่ฟื้นขึ้นมา"
ลูชุ่ยชิวหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็ตะโกนกลับไปว่า
"เจียนเจียยังคงอยู่ในมือของพวกเขา!"
"ข้าไม่สนใจหรอกว่า เจียนเจียเป็นหลานสาวของเจ้าหรือไม่!" ซาไห่
ตะโกนใส่ลูชุ่ยชิวหลิน น้ำลายของเขากระเด็นใส่ใบหน้าลูชุ่ยชิวหลิน "นี่เป็นคำสั่งของฌาคส์ นี่เป็นคำสั่ง
ถ้าเจ้าไม่ฆ่าฮั่นหลางวันนี้ ฌาคส์ก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป!"
เจียนเจียยกหัวขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความเสียใจ
ลูชุ่ยชิวหลินรู้สึกท้อใจเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของหลานสาว
"คุณปู่ ท่านพ่อ ถ้าฮั่นหลางตาย ข้าก็จะไม่อยู่เช่นกัน"
เจียนเจียกล่าวออกไปอย่างช้า ๆ แต่อย่างแน่วแน่
ลูชุ่ยชิวหลินและลูชุ่ยจิงเต๋าต่างตกใจทั้งคู่
พวกเขารู้จักเจียนเจียดีมาก เธอไม่ได้ล้อเล่นในครั้งนี้!
แม้ว่าลูชุยชิวหลินจะไม่เข้าใจว่าฮั่นหลางมีเสน่ห์อย่างไรถึงกับทำให้
เจียนเจียตกหลุมรักเขาและสามารถตายไปกับเขาได้ นี่ไม่ใช่คำถามที่สามารถตอบได้ในตอนนี้
ทั้งหลานสาวของเขาและองค์กร มันเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"ความตายของเจียนเจียไม่สำคัญหรอก..เจ้าก็สามารถมีหลานใหม่ได้!
แต่ถ้าเจ้าเล่นแง่กับฌาคส์ ทั้งครอบครัวของเจ้าก็จะตาย!"
ซาไห่ยังคงผลักดันลูชุ่ยชิวหลิน
ฉาด!
ลูชุ่ยชิวหลินตบหน้าซาไห่อย่างหนัก ใบหน้าของซาไห่บวมเป่งขึ้นมาในทันทีและเขาก็ต้องคายฟันออกมา!
"เจ้าปิดปากเงียบไปซะ!" ในที่สุดนายพลลูชุ่ยชิวหลินก็คำรามออกมา
เสียงดังเหมือนภูเขาไฟที่ถูกยับยั้งมาเป็นเวลานานจนในที่สุดก็โพล่งออกมา!
"ช่างแม่ง ฌาคส์!"
"ช่างแม่ง องค์กรเหล่าปีศาจ!"
"พวกเขาไม่สำคัญอะไรเลย! ไม่เลย!"
"ยกเว้นครอบครัวของข้า พวกมันไม่มีอะไรสำคัญเลย!"
"หุบปาก! หยุดข่มขู่ข้ากับครอบครัวของข้า!"
ลูชุยชิวหลินเริ่มตบซาไห่ และส่งเขาบินออกไปอีกครั้งและอีกครั้ง
เขาระบายความกดดันและความโกรธไปบนตัวของซาไห่!
กล้าขู่ลูชุยชิวหลินกับเจียนเจีย?
นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยทำมา
ไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบกับครอบครัวได้ เมื่อลูชุ่ยชิวหลินถูกกดดันอย่างรุนแรง
โดยไม่คำนึงถึงความนิ่งสงบและความฉลาดที่เขามักจะเป็น เขาได้สูญเสียการควบคุมตัวเอง
และกลายเป็นบ้า!
ลูชุ่ยชิวหลินตะโกนเสียงดังขึ้น พร้อมด้วยสายตาที่กระหายเลือดว่า
"เจ้ากล้าข่มขู่ข้ากับเจียนเจีย เจ้าต้องตาย!"
"ไปนรกซะเถอะ! น้ำตกสวรรค์พิโรธ!"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น