เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 324 ราชาฮาร์วีย์

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/




แปะ แปะ แปะ ~

เสียงปรบมือดังออกมาจากห้องโถง ฮั่นหลางหันไปทางต้นเสียง และเห็นเฉินเทียงพ่อบ้านคนสำคัญของหลี่เซียง มีข่าวลือว่าเฉินเทียงไม่มีพลังพิเศษและเขาก็ไม่ได้เข้าร่วมทีมนักล่าเพื่อทำภารกิจ

แต่เขากลับมาถึงที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ก่อนคนอื่น ฮั่นหลางยังจำได้ว่าเมื่อตอนที่ทีมนักล่ากำลังออกเดินทาง เฉินเทียงยังกล่าวคำอำลาและยืนส่งราชาของเขา แต่เขากลับมาถึงที่นี่ก่อนทีมนักล่า

ฮั่นหลางยังรู้จักชายอีกคนหนึ่ง เขาเป็นชายหัวล้านและตาบอดที่เฝ้าวิหารของราชาเทพเจ้า

ฮั่นหลางขมวดคิ้ว การสู้รบในวันนี้เป็นเรื่องแปลกอย่างแท้จริง ทุกคนจากโลกรังผึ้งดูเหมือนจะมารวมตัวกันที่นี่

เฉินเทียงและชายตาบอดหัวล้านดูเหมือนจะไม่มีท่าทีเกรงกลัวอะไร ทั้งสองคนแทบจะไม่ได้มองมาที่ฮั่นหลางที่กำลังรู้สึกแปลกใจ เมื่อไม่กี่วันก่อนเฉินเทียงได้ลอบติดตามฮั่นหลางไปรอบ ๆ เมือง

"เฉินเทียงทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ทำไมถึงมาอยู่กับชายตาบอด?" หลี่เซียงถามออกไปด้วยเสียงทุ้มต่ำ

แม้ว่าหลี่เซียงและเฟิงหว่านโจวจะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ ทั้งสองคนเกลียดชายหัวโล้นคนตาบอดอย่างเข้าไส้

เฉินเทียงยิ้มและลุกขึ้นยืน "ข้าจะพลาดงานปาร์ตี้ที่มีชีวิตชีวานี้ได้อย่างไร?"

“หลี่เซียง เจ้าโง่ เจ้าไม่ตระหนักถึงความแปลกประหลาดของสถานการณ์นี้หรืออย่างไร? เจ้าจำได้หรือไม่ว่าใครที่เล่าให้เจ้าฟังเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ของเฟิงหว่านโจว?"

หลี่เซียงชะงัก ความรู้สึกของเขาราวกับถูกแช่แข็ง "มันคือเจ้า" เขาตอบออกไป

"ใครบอกเจ้าเกี่ยวกับสมบัติของราชาเทพเจ้า?"

"เจ้า"

"ใครแนะนำให้เจ้าไปบอกให้เฟิงหว่านโจวเข้าสู่ทีมสำรวจ?"

"เป็นเจ้า"

หลังจากตอบคำถามของเฉินเทียง อาการหลี่เซียงเริ่มแย่ลง ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าการตัดสินใจที่สำคัญทั้งหมดที่เขาทำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทั้งหมดอยู่ภายใต้อิทธิพลของเฉินเทียง เขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของเฉินเทียง!

แต่ยังคงมีคำถามของเฉินเทียงที่ถามต่อมาว่า "ใครบอกเจ้าเกี่ยวกับ สัตว์จิตวิญญาณที่ฮั่นหลางนำมา?"

"สัตว์จิตวิญญาณไม่เคยเข้าไปใกล้กำแพงถอนหายใจ ทำไมมันถึงแตกต่างกันกับในครั้งนี้ ทำไมสัตว์จิตวิญญาณถึงวิ่งมาที่กำแพงถอนหายใจในขณะที่พวกเจ้ามาที่นั่น เจ้าคิดเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้หรือไม่"

"เจ้าหลอกข้ามาตลอดเวลาอย่างงั้นหรอกหรือ?" หลี่เซียงชี้ไปที่เฉินเทียงและตะโกนออกไป

เฉินเทียงหัวเราะอย่างเย็นชาและพูดว่า "หลอกเจ้า? ข้าจะถือว่ามันเป็นคำชมเชยสำหรับสติปัญญาของเจ้า"

ในเวลานี้เฒ่าหัวล้านพูดออกมาว่า "เฉินเทียงเจ้าเป็นคนที่ได้รับเลือกให้เป็นราชาของสมาคมคนต่อไป..เจ้าควรจะให้บทเรียนใครบางคนที่กำลังจะตายเหล่านี้"

เฉินเทียงคำนับเฒ่าหัวล้านและพูดออกมาด้วยเสียงต่ำว่า "รับทราบ ท่านพูดถูก ข้าเพียงแค่รู้สึกหงุดหงิดกับหลี่เซียง หลังจากที่ข้าต้องเป็นทาสของเขามาหลายปี ข้าจะให้บทเรียนกับเขา"

"ตาแก่ เจ้าเป็นใคร?" เฟิงหว่านโจวอดที่จะถามออกไปไม่ได้ หลังจากที่เขาครุ่งคิดถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง

ชายตาบอดยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า "พวกเจ้ากำลังยืนอยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าเคยสร้างมา แล้วเจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร?"

"เจ้าเป็นราชาเทพเจ้า!" เฟิงหว่านโจวชะงักก่อนกล่าวออกไปว่า "เป็นไปไม่ได้ ราชาฮาร์วีย์เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ไม่มีทางที่เจ้าจะเป็นราชาเทพเจ้า!"

ชายตาบอดพูดออกไปโดยไม่หยุดชะงักว่า "ถ้าข้าตาย ข้าจะปกป้องความลับอันใหญ่นี้ได้อย่างไร?"

"กลับมา ข้ามาที่โลกรังผึ้งคนเดียว และพบทางเข้าจากโลกรังผึ้งเพื่อไปเมืองจิตวิญญาณ นี่คือที่ที่ข้าประสบความสำเร็จสูงสุดและความมั่งคั่งในชีวิตของข้า"

"โชคร้าย หลังจากนั้นก็มีนักรบมาที่มาโลกรังผึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ"

“ตอนแรกข้าฆ่าพวกเขาทั้งหมด..แต่ข้ารู้ว่า ไม่มีทางที่ข้าจะฆ่าทุกคนได้ ดังนั้น ข้าจึงตัดสินใจที่จะหลอกทุกคนว่าข้าตาย และทำการควบคุมสิ่งต่าง ๆ จากที่มืด"

"มันไม่สำคัญว่านักล่าเหล่านั้นสร้างปัญหาวุ่นวายขนาดไหน หรือจำนวนสัตว์จิตวิญญาณที่พวกเขาสามารถฆ่าได้ ข้าไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย..สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่มีใครแตะต้องสิ่งที่ข้าฝังไว้ใต้พีรามิดเพชร"

"หลังจากหลายปีที่ผ่านมา โลกรังผึ้งและเมืองจิตวิญญาณไม่ได้แข็งแกร่ง เมื่อใดก็ตามที่เมืองจิตวิญญาณได้รับพลังอำนาจบางอย่างจะมีโศกนาฏกรรมอยู่เสมอและพวกเขาต้องถูกควบคุมโดยข้า"

สิ่งที่ข้าต้องการคือความสมดุล ข้าสามารถยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายเช่น เจ้าและเฟิงหว่านโจวเป็นสองนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกรังผึ้ง ถ้าเจ้าทั้งสองและนักล่าทั้ง 200 คนในทีมตาย เมืองจิตวิญญาณก็จะสูญเสียความแข็งแกร่งมากที่สุด ในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้าก็จะไม่มีใครที่จะเป็นภัยคุกคามต่อความลับนี้ของข้า

"หลังจากนั้นอีกร้อยปีข้างหน้า หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้อีกครั้ง ข้าก็จะใช้สมบัติของราชาเทพเจ้าเป็นเหยื่อล่อ เพื่อนำนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองจิตวิญญาณเข้าสู่พีระมิด ข้าจะฆ่าพวกมันทั้งหมดและคืนความสงบได้อีกร้อยปี"

"มันจะเป็นวัฏจักร..เมืองจิตวิญญาณจะไม่มีวันแข็งแกร่ง ความลับของข้าก็จะปลอดภัยตลอดไป สมบัติของราชาเทพเจ้าก็จะดำรงอยู่ได้ มันก็จะไม่เป็นของใคร"

ทุกคนต่างหายใจไม่ออก ช่างเป็นแผนการณ์ที่ร้ายกาจ!

เพื่อปกป้องความลับของเขา ราชาฮาร์วีย์แกล้งทำเป็นคนบ้า โดยที่ไม่มีใครรู้ถึงความร้ายกาจภายในตัวเขา

กลุ่มนักล่าในเมืองจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งได้ถูกฆ่าตายในลักษณะนี้โดยราชาฮาร์วีย์

หลี่เซียงตะโกนออกไปด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด "ตาแก่ ข้าไม่เชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด อย่าลืมว่า พวกเจ้ามีเพียงสองคนและพวกเรามีถึงห้าคน!"

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เฟิงหว่านโจวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

สำหรับเฟิงหว่านโจวการฆ่าหลี่เซียงเป็นสิ่งสำคัญ แต่เพื่อความอยู่รอด เฟิงหว่านโจวดูจะไม่มีทางเลือกอื่น นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับหลี่เซียง

บูม ~

ทันใดนั้นสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป

ราชาฮาร์วีย์ได้ปรากฏเป็นเงาที่ด้านหลังหลี่เซียง เขาใช้ดาบรูปเขาสัตว์ตัดคอหลี่เซียงอย่างเงียบเชียบ

เลือดพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุและห้องโถงเต็มไปด้วยกลิ่นเลือด

ราชาฮาร์วีย์ได้ขยับดาบเลือดและพูดว่า "เหลือเพียงสี่คนเท่านั้น"

“หลี่เซียงไม่รู้จักพลังของตัวเอง แม้กระทั่งตอนที่ตาย เขาไม่เคยรู้เลยว่าพวกเจ้าสี่คน แต่ละคนแข็งแกร่งกว่าเขา เขามีเกราะคุ้มกันของเทพเจ้า..หากไม่ได้มัน เขาก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ใครได้ แม้แต่อาจารย์ของเขา เฟิงหว่านโจว"

"ตอนนี้ ข้าควรจะฆ่าใครต่อไป? ลูกเจี๊ยบที่รู้เทคนิคซาตานดูเหมือนจะน่าอร่อย"

ภาพลักษณ์ของราชาฮาร์วีย์น่าขยะแขยง เขาเป็นตาแก่ ร่างผอม ตาสีขาวเหมือนปลาตาย หัวล้าน เขาใช้จมูกของเขาดมกลิ่นเหมือนหมาป่าตาบอด

แปะ แปะ แปะ ~

เวลานี้ฮั่นหลางตบมือและเขาก็พูดออกมาว่า "นี่เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ตอนที่ข้าได้พบเจ้าครั้งแรก เจ้าแนะนำให้ข้านำ เฟิงหว่านโจวเข้าสู่ทีมนั่นเป็นเพราะเจ้าต้องการให้เขาตาย"

"ข้าต้องยอมรับว่า หากเป็นเรื่องของสัตว์จิตวิญญาณ สติปัญญา และทักษะการหลอกลวงของเจ้า มันนับได้ว่าเจ้าต้องได้รับตำแหน่งอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการหลอกลวงของเจ้าไม่สมบูรณ์แบบ"

"เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?!" ราชาฮาร์วีย์ตะโกนออกมา

"เจ้าไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นสัตว์จิตวิญญาณ" ฮั่นหลางพูดอย่างสงบ

ทุกคนตกใจ ฮั่นหลางบอกว่าฮาร์วี่ย์เป็นสัตว์จิตวิญญาณ มันไม่สมเหตุสมผล! เป็นไปได้อย่างไรที่สัตว์จิตวิญญาณจะมีสติปัญญาและทักษะการหลอกลวงที่เยี่ยมยอด? แม้แต่เฟิงหว่านโจวที่ใช้ชีวิตร่วมกับ สัตว์จิตวิญญาณ ก็ไม่อาจเชื่อคำพูดของฮั่นหลางได้

"ไหนลองบอกเหตุผลข้ามา!" ฮาร์วีย์ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ

ฮั่นหลางหัวเราะและพูดว่า "ครั้งแรกที่ข้าได้พบเจ้า ไข่ดำมันส่งเสียงหอนออกมาราวกับว่ามันได้พบกับศัตรูของมัน ในตอนนั้นข้าก็ยังไม่แน่ใจนัก"

"และเมื่อตอนที่เราได้พบกับสัตว์จิตวิญญาณ ปฏิกิริยาของไข่ดำก็เหมือนกับปฏิกิริยาเมื่อตอนที่เจอกับเจ้า..แต่ข้าก็ยังไม่แน่ใจ"

"แต่ตอนนี้ข้ามั่นใจ 90% ว่าเจ้าเป็นสัตว์จิตวิญญาณ เป็นเพราะเจ้าไม่กลัวเขตแดนสิ้นสลายของข้า ซึ่งเป็นพลังพิเศษที่สามารถริบพลังอำนาจของเอสเปอร์ทั้งหมดได้โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ในขณะที่ข้ายังเปิดใช้งานเขตแดนสิ้นสลาย เจ้ายังสามารถเปิดใช้การเคลื่อนย้ายมิติเพื่อฆ่าหลี่เซียงได้"

"ตอนนี้ข้าแน่ใจได้แล้วว่า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร เจ้าต้องไม่ใช่มนุษย์หรือเผ่าพันธุมนุษย์ที่ฉลาดอันใด"

"แล้วข้าก็เริ่มคิดพิจารณาว่า ทำไมเจ้าถึงสนใจเรื่องลึกลับที่อยู่ใต้พีรามิดแห่งนี้?"

“ถ้ามีสมบัติฝังอยู่ใต้พีรามิด เจ้าก็สามารถเอามันไปได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่และปกป้องมันมาเป็นเวลานานมากเช่นนี้ และพยายามที่จะซ่อนความลับของเจ้าไว้ มันไม่สมเหตุสมผล"

"บางทีสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้พีรามิดนี้ อาจจะไม่ใช่สมบัติ แต่เป็นสิ่งที่เจ้าไม่ต้องการให้คนอื่นเห็น สัตว์จิตวิญญาณล้วนต่างมีความภาคภูมิใจ ข้าคิดว่า เมื่อเรารู้ความลับของเจ้า เจ้าจะรู้สึกอับอาย ดังนั้นเจ้าจึงต้องปกป้องความลับนี้แม้ว่าเจ้าจะต้องตาย"

"หยุดพูด!" ฮาร์วีย์คำรามออกมา นิ้วมือที่เหี่ยวย่นข่วนไปบนเสาหินอัคนีสีดำ พวกมันถูกบดขยี้ในทันที

สำหรับเจียนเจีย ลั่วอิ๋ง เฟิงหว่านโจวและเฉินเทียง พวกเขาทั้งหมดต่างตกใจ!

ราชาฮาร์วีย์นักล่าสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ชายคนแรกที่มาถึงโลกรังผึ้งไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นสัตว์จิตวิญญาณ?!

มันเป็นไปได้อย่างไร?

เฟิงหว่านโจวและเจียนเจียต้องการผ่าสมองของฮั่นหลางออกมาเพื่อตรวจดูว่ามีการกลายพันธุ์หรือไม่ เขาถึงสามารถสรุปเรื่องราวได้อย่างน่ากลัว จากรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ได้อย่างไร?

ในขณะที่ลั่วอิ๋งกำลังมองไปที่ฮั่นหลางอย่างชื่นชม เมื่อฮั่นหลางเปิดเผยความลับที่แท้จริงของฮาร์วีย์และทำให้มันรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ลั่วอิ๋ง คิดว่าฮั่นหลางดูเจ๋งมาก

"มันไม่ง่ายอย่างที่เจ้าคิด แต่ก็ไม่สำคัญหรอก..เจ้ากำลังจะตายในวันนี้ ไม่มีใครจะเดินหนีออกไปได้!" ราชาจิตวิญญาณฮาร์วีย์โกรธเป็นอย่างมาก

เฟิงหว่านโจวมองไปตามเส้นทางที่อยู่เบื้องหลังเขา...ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น