เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

GDN 305 หมอกสังหาร

แปลโดย ข้าแปลเจ้าอ่าน 
ให้กำลังใจผู้แปลโดยงด การกอปปี้ งดแชร์ 
แล้วมาอ่านด้วยกันที่ https://imakeuread.blogspot.com/




ฮั่นหลางตกใจอย่างยิ่งกับการกระทำของซือหม่าฮันเฟิง ผู้ชายคนนี้อยากจะจัดการกลุ่มปฏิบัติการภาคสัตว์อสูรขององค์กรเหล่าปีศาจด้วยตัวของเขาเอง?

โดยไม่ต้องมีคำถาม ซือหม่าฮันเฟิงเป็นคนที่มีบุคลิกที่ซับซ้อนมาก ในแง่หนึ่งเขาเป็นคนปากแข็งที่เล่นตามกฎเสมอ มีความภาคภูมิใจ และมีความมั่นใจอย่างยิ่ง เขาลงโทษผู้ที่ท้าทายกฎของเขา แม้กระทั่งบังคับให้ อาจารย์บ้าทั้งสามหนีไปสู่อาณาจักรที่ถูกลืม

แต่วันนี้ชายชราคนนี้ยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มปฏิบัติการ ภาคสัตว์อสูร ที่มีพลังมหาศาล อย่างกล้าหาญและเต็มใจที่จะตายด้วยความซื่อสัตย์ภักดี

ฮั่นหลางไม่ทราบว่าจะอธิบาย ซือหม่าฮันเฟิง อย่างไรดี  หรืออาจจะคิดว่ามันเป็นโชคอันมหาศาลของกาแลคซีที่มีชายชราคนนี้

เช่นเดียวกับที่สงครามระหว่าง ซือหม่าฮันเฟิงและกลุ่มปฏิบัติการ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ลู่เอียว กล่าวออกมาภายในสมองของฮั่นหลางว่า "ข้ารู้สึกถึงพลังที่มาจากร่างเดิมของข้า"

"ที่ไหน?" ฮั่นหลางถามออกไปด้วยความตะลึงงัน พลังอำนาจเดิมของ ลู่เอียว? หรือจะเป็น ผลึกแห่งความมืดที่ถูกรวบรวมขึ้นหลังจากที่เขาเสียชีวิต?

ลู่เอียว กล่าวด้วยเสียงต่ำ "ข้างหลัง เจ้าไปตรวจสอบร่างกายของไห่หยวน"

ฮั่นหลางไม่กล้าที่จะขยับเยื่อนภายใต้การจ้องมองของกลุ่มปฏิบัติการ แต่เขาให้จิ้งจอกเงินออกไปเพื่อตรวจร่างกายของไห่หยวน

ไม่นานนักจิ้งจอกเงินได้ส่งแหวนมิติของไห่หยวนให้ฮั่นหลาง หลังจากที่ฮันหลางเห็นสิ่งของที่อยู่ภายในแหวนมิติติ เขาก็ตกใจในทันที เนื่องจากภายในแหวนมิติมีผลึกแห่งความมืดอยู่สองชิ้น จากผลึกที่เหลือ!

ฮั่นหลางไม่สามารถรู้ได้ว่าสาวกมืดกำลังวางแผนอยู่เบื้องหลังของเขา เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถเก็บรวบรวมผลึกทั้งเจ็ดชิ้นได้ พวกเขาหวังจะฆ่าฮั่นหลางและดึงพลังแห่งความมืดภายในตัวเขาออกมา

แม้ว่าจะมีความสูญเสียในกระบวนการสกัด แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ เนื่องจากฮั่นหลางได้ครอบครองสี่ในเจ็ดผลึกแล้ว หากไม่ทำเช่นนี้สาวกมืดและเผ่าพันธุ์สามตาก็จะสูญเสียอาวุธมนุษย์ไป

เมื่อเผ่าพันธุ์สามตาได้อนุมัติแผนการนี้ แล้วสาวกมืดเหล่านี้ได้มอบผลึกสองชิ้นนี้ให้แก่ไห่หยวนซึ่งร่วมมือกับองค์กรเหล่าปีศาจ ในฐานะตัวแทนของเผ่าพันธุ์ เขาหวังว่าจะได้รับพลังแห่งความมืดหลังจากที่ฮั่นหลางตาย

มันเป็นแผนที่รอบคอบ เสียแต่ว่ามันได้ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์โดยซือหม่าฮันเฟิง เขาได้สังหารไห่หยวนไปด้วยความโกรธ และในตอนนี้ผลึกมีค่าทั้งสองชิ้นได้ตกอยู่ในมือของฮั่นหลาง

ผลึกทั้งสองเป็นกระดูกแห่งความมืดและเนตรแห่งความมืด ฮั่นหลางต้องหาผลึกที่เหลืออีกผลึกเดียวเท่านั้นและเขาก็จะครอบครองพลังแห่งความมืดทั้งหมด

"ข้าจะเข้าร่วมต่อสู้กับซือหม่าฮันเฟิง และใช้ผลึกในเวลาที่เหมาะสม!" ฮั่นหลางตัดสินใจเงียบ ๆ ยืนอยู่ข้างๆ ซือหม่าฮันเฟิง

จากประสบการณ์ฮั่นหลางรู้ว่าเมื่อเขาใช้ผลึกแห่งความมืดแล้ว เขาจะแข็งแกร่งขึ้นภายในไม่กี่วินาทีและเขาก็วางแผนที่จะใช้พวกมันในช่วงเวลาที่หมดหวังเท่านั้น

ซือหม่าฮันเฟิงกวาดสายตามองฮั่นหลางครั้งหนึ่ง "เจ้าเป็นศิษย์ฝึกหัดของคนโง่สามคนนั่นใช่หรือไม่?"

โง่?

ช่างเป็นคำที่รุนแรง

ฮั่นหลางพยักหน้าตัดสินใจที่จะไม่โต้แย้งกับซือหม่าฮันเฟิง ชายชราคนนี้ภูมิใจมากที่มองทุกคนต่ำกว่า แท้จริงคนบ้าทั้งสามก็เป็นสามคนโง่ในสายตาเขา

"ดี มากับข้า!" ซือหม่าฮันเฟิงกล่าวออกมา

ช่วงเวลาที่เขากล่าวออกมา กลุ่มของนักรบหน้ากากไม่เพียงแต่มีฝีมือและโหดเหี้ยมเท่านั้น แต่พวกเขายังมีความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย การขยับเคลื่อนไหวทุกครั้งคือการฆ่า

การก่อตัวในรูปแบบเหนือธรรมชาตินั้นดูน่ากลัวอย่างเหลือเชื่อ นักรบหน้ากากงูเหลือม สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างรวดเร็ว เชื่ยวชาญในการลักลอบ  นักรบหน้ากากหนูเป็นปีศาจที่เชี่ยวชาญในภาคพื้นดิน นักรบหน้ากากนกอินทรีสามารถบิน และความสามารถพิเศษของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าคลาร์ก!

ชิ้ง -

ชิ้ง -

ตั้งแต่เริ่มต้นนักรบติดตามมากับซือหม่าฮันเฟิงได้ถูกสังหารทีละคน นักรบเหล่านั้นไม่ได้อ่อนแอแม้แต่น้อย ครึ่งหนึ่งของพวกเขาเป็นนักรบระดับขุนศึก เพียงแต่นักรบกลุ่มปฏิบัติการนั้นแข็งแกร่งเกินไป หัวผีดาบยักษ์ในมือของพวกเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รูปร่างของมันเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของพวกเขา บางครั้งมีขนาดเล็ก บางครั้งมีขนาดใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อ

ไม่เพียงแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของซือหม่าฮันเฟิง จำนวนมากได้เสียชีวิต กองทัพสัตว์พันธุกรรมของฮั่นหลางก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นเดียวกัน

แต่เดิมมีแมงมุมแสงดาวเจ็ตตาสองตัว แต่ทั้งสองได้บาดเจ็บไปมากตั้งแต่เมื่อตอนต่อสู้กับราชาแฟนตาซีเนปจูน ฮั่นหลางจึงตัดสินใจที่จะหยุดการใช้กองทัพจำนวนมากและพึ่งพาสัตว์ฟิวชั่นที่สร้างขึ้นมาใหม่อีกยี่สิบตัวพร้อมกับภูตกรงเล็บ ปีศาจกรงเล็บและจิ้งจอกเงินเพื่อสร้างกองทัพเล็ก ๆ

ในการสู้รบในระดับนี้ แมงมุมแสงดาวเจ็ตตาสองตัว มีหน้าที่พิเศษ พวกมันไม่ได้ทำหน้าที่สังหาร แต่ต้องถูกสังหาร เพื่อซื้อเวลาในระหว่างการต่อสู้กับกลุ่มปฏิบัติการที่ทำการฆ่าพวกมันทั้งหมด วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของแมงมุมคือการยื้อเวลาเพื่อสร้างโอกาสให้กับกองกำลังหลัก

ตอนนี้พวกมันพ่ายแพ้ ฮั่นหลางตระหนักถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการใช้สัตว์พันธุกรรม เพื่อยับยั้งศัตรูและยิ่งสัตว์พันธุกรรมอันดับตัวเลขน้อย ๆ ก็ยิ่งหมายความว่าพวกมันทำงานได้ด้อยกว่าแมงมุงแสงดาวเจ็ดตา ซึ่งแม้จะอ่อนแอกว่า แต่ก็มีจำนวนมาก

ในตอนนี้ซือหม่าฮันเฟิงกลายเป็นหมอกควันสีเทา

หมอกสังหารแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงเป็นพิเศษ แต่ก็ยังทำให้ซือหม่าฮันเฟิง ครอบครองโลกด้วยความสามารถพิเศษที่เหนือธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพนี้

หมอกสังหาร มีความสามารถในการกัดกร่อนที่หาได้ยาก ไม่เพียงแต่จะกัดกร่อนศพของผู้คน มันยังกัดกินจิตวิญญาณของพวกเขาด้วยเช่นกัน

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม อาจารย์บ้าทั้งสามและนักรบที่มีฝีมือจำนวนมากในอาณาจักรที่ถูกลืมจึงพยายามหลีกเลี่ยง การถูกสังหารโดยซือหม่าฮันเฟิง เนื่องจากหากเขาถูกสังหารโดยซือหม่าฮันเฟิง จิตวิญญาณของพวกเขาจะถูกทำลายไปด้วย!

ตามตำนานจิตวิญญาณของนักรบที่แข็งแกร่งจะไม่ตาย หากแต่เข้าสู่อาณาจักรหลังจากที่ร่างกายของพวกเขาตาย

ตำนานแบบนี้ในกาแลคซีมีความคล้ายคลึงกับความเชื่อในสวรรค์ของคนในโลก นักรบหลายคนเชื่อว่าจิตวิญญาณของพวกเขาอาจจะกลายเป็นรูปแบบชีวิตที่สูงขึ้น

ดังนั้นหากพวกเขาถูกฆ่าโดยซือหม่าฮันเฟิง พวกเขาก็จะไม่ได้เข้าสู่ดินแดนแห่งจิตวิญญาณนี้

ไม่เพียงแค่นั้น ซือหม่าฮันเฟิงยังสามารถทำลายครอบครัวของพวกเขาได้ ใครก็ตามที่ทำผิดพลาด เขาจะไม่เพียงแต่จะถูกทำลายทั้งร่างกายและจิตใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงครอบครัวและเพื่อนของพวกเขา

ภายใต้ความกดดันทางจิตวิญญาณเช่นนี้ คนส่วนใหญ่ต่างเลือกที่จะยอมจำนน

และซือหม่าฮันเฟิงก็ไม่ได้เป็นคนดี ชื่อเสียงของเขาในเรื่องของการฆ่า มันเป็นการฆ่าที่ไร้ความปราณี

แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าซือหม่าฮันเฟิง ต้องการทำให้กาแลคซีดีขึ้นและยินดีที่จะปกป้องมันด้วยชีวิตของเขาและนั่นก็เพียงพอแล้ว!

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่ายิ่งมีความชาญฉลาดมาก ลักษณะท่าทางก็ยิ่งรุนแรงขึ้น และยิ่งแข็งแกร่งขึ้น การกระทำที่ทำออกมาก็จะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง

คนที่มีบุคลิกที่ธรรมดาไม่อาจกลายเป็นตำนานได้ แต่อาจจะถูกครอบงำและกลายเป็นบ้าคลั่ง!

ชิ้ง -

ซือหม่าฮันเฟิงคนที่มีลักษณะเหล่านั้น เขาปัดนักรบหน้ากากงูเหลือมออกไปด้วยหมอกสีเทา จากนั้นมันก็เหมือนกับว่านักรบหน้ากากงูเหลือมถูกพิษ ชุดเกราะของเขาสึกกร่อนเส้นผมถูกเผาไหม้ ส่งผลให้เขาแผดเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ซือหม่าฮันเฟิงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกาแลคซี เขามีพลังอำนาจ

แต่ฮั่นหลางรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเวลามาก

เมื่อนักรบที่มีทักษะดังกล่าวได้ต่อสู้ มันเป็นการยากที่จะฆ่าคนอื่น ถ้าซือหม่าฮังเฟิงมีเวลามากพอ ฮั่นหลางแน่ใจได้ว่าเขาจะสามารถจัดการนักรบหน้ากากได้มากกว่าหนึ่งคน

เวลาที่ได้มามันจำเป็นต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน สหายจำนวนมากล้วนถูกใช้ไปเพื่อยื้อเวลาของฝ่ายตรงข้าม ในกรณีที่กองทัพสัตว์ทั้งสองของฮั่นหลางและกองทัพของซือหม่าฮันเฟิงพังทะลายลง ซือหม่าฮันเฟิง จะต้องต่อสู้กับ กลุ่มปฏิบัติการ ด้วยตัวเขาเอง

หากเป็นกรณีนี้แม้แต่ซือหม่าฮันเฟิงที่มีอำนาจมหาศาลก็จะสิ้นชีพ

วู้ วู้ -

ทันใดนั้น เมื่อฮั่นหลางเห็นจำนวนกองทัพสัตว์พันธุกรรมของเขาที่ลดจำนวนน้อยลง นักรบหน้ากากคนหนึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดา





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น