เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ZX 086 เขาเป็นคนที่ช่างเจียมเนื้อเจียมตัวจน




วิหารได้พังทะลายลงมา ภาพวาดของเหล่าเทพเจ้าและส่วนกำแพงถูกทำลายแตกหักร่วงหล่นลงมาเหลือไว้เพียงโครงสร้างเท่านั้น ไม้เลื้อยต่างๆปรากฎขึ้นในทุกๆที่ แมงมุมก็พบเจอได้ในทุกๆมุม มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้คนเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวโยงกับอัญมณีและสิ่งล้ำค่า
Support by ImakeUread

ด้วยเหตุผลนี้ปู่ของหยางซีจึงพาพวกเขามาหลบซ่อนในที่แห่งนี้ ศูนย์กลางที่เขาใช้ในยามฉุกเฉินนั้นก่อให้เกิดความคลางแคลงใจกับคนจำนวนหนึ่ง

ต้นฮวายฉู้สมบัติล้ำค่าที่หยางเฉินขุดเจอก็เติบใหญ่ แล้วเวลานับสิบปีนั้นมากพอทำให้มันเติบโตกลายเป็นต้นไม้ที่เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำ

การไม่สมหวังของเทพภูเขาผู้ที่อยู่ที่ประตูมรณะในตอนนั้น หยางเฉินมั่นใจเลยว่าทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจโดยไม่มีความสงสัยเลยว่าจริงๆแล้วเขานั้นมีหินจิตวิญญาณเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น

แต่การเตรียมเวทย์จิตวิญญาณที่จะใช้จัดการกับหินจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งนั้นเป็นเหมือนการจัดการปัญหาเล็กๆที่มีแต่ความยุ่งยากมากมาย แต่หยางเฉินเข้าใจดีว่ามันต้องอยู่ภายใต้การป้องกันการรั่วไหลของจิตวิญญาณเพื่อรักษาระดับขั้นของหินจิตวิญญาณ มากไปกว่านั้นแน่นอนว่าต้องป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นค้นพบ

เชื่อได้อย่างแน่นอนว่าหากไม่ใช่เพื่อหยางเฉิน เทพภูเขาจะไม่โกหกหรือหากว่าหยางเฉินไม่ได้เจอเวทย์จิตวิญญาณที่ถูกเก็บรักษาไว้ โดยทั่วไปแล้วเขาไม่สามารถแยกภาพควันออกและค้นพบกล่องที่ถูกฝั่งไว้ใต้ดิน

มันเป็นกล่องไม้มะค่าสีแดงทั่วไปธรรมดาๆที่หักบิ่น เมื่อเปิดออกก็พบกับกล่องเหล็กใบเล็กๆอยู่ภายใน แม้ว่าจะหนักแต่สภาพที่ถูกกัดกร่อนตามกาลเวลาทำให้มันดูบอบบาง เมื่อเปิดฝากล่องเหล็กออกก็พบกับหินจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งที่ส่องแสงเปล่งประกายออกมาจากภายในกล่อง

มันจริงอยู่ที่ว่าภายในนั้นจะมีเพียงหินจิตวิญญาณจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่หินจิตวิญญาณเพียงบางส่วนภายในนั้นก็มีค่ามากกว่าหินจิตวิญญาณขั้นต่ำทั่วๆไปสองถึงสามล้านเท่า หินจิตวิญญาณทั้งเก้าที่ถูกห่อหุ้มอยู่ภายในกล่องนั้นเป็นหินจิตวิญญาณชั้นเยี่ยมที่สามารถบดบังหินจิตวิญญาณคุณภาพดีๆได้อย่างง่ายดาย หินทุกๆก้อนมีขนาดเท่าๆกันและรูปทรงเหมือนๆกันถูกบรรจงเรียงซ้อนกันอยู่ภายในผลึกโลหะที่สามารถดึงลมหายใจของทุกๆคนที่พบเห็นได้

หยางเฉินร้องถามเสียงดังออกไปอย่างไม่จริงจังว่าหินจิตวิญญาณที่ยังเหลืออยู่เหล่านี้มาจากการสิ้นเนื้อประดาตัวและความผิดหวังของเทพภูเขาหรือ? หลังจากได้ยินคำพูดของเทพภูเขาในตอนแรกหยางเฉินก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากนัก อย่างไรก็แล้วแต่มันก็แค่หินจิตวิญญาณเพียงจำนวนนึงแค่นั้น

หินจิตวิญญาณชั้นเยี่ยมหนึ่งก้อนมีมูลค่าเท่ากับหินจิตวิญญาณชั้นสูงหนึ่งร้อยก้อน
หินจิตวิญญาณชั้นสูงหนึ่งก้อนมีมูลค่าเท่ากับหินจิตวิญญาณชั้นกลางจำนวนหนึ่งร้อยก้อน
หินจิตวิญญาณชั้นกลางจำนวนหนึ่งก้อนมีมูลค่าเท่ากับหินจิตวิญญาณชั้นต่ำหนึ่งร้อยก้อน
อย่างนั้นภายในกล้องนี้มีหินจินจิตวิญญาณชั้นเยี่ยมอยู่จำนวนเก้าก้อนก็เท่ากับว่ามีมูลค่าเท่ากับหินจิตวิญญาณชั้นต่ำเก้าล้านก้อน

หินจิตวิญญาณชั้นต่ำจำนวนเก้าล้านก้อนสามารถซื้อนิกายระดับกลางส่วนใหญ่ได้เลย นี่คือความยากจนที่ต้องขนานนามว่า “เทพภูเขาผู้ยากจน” หรือ? สิ่งนี่เป็นการแสดงความเจ็บปวดของการไม่เหลืออะไรเลยน่ะหรือ? ทั้งหมดในชีวิตที่ผ่านมาของหยางเฉินเมื่อรวมกันแล้วยังไม่ได้เท่านี้เลย แล้วอย่างเขาควรจะเป็นอะไร? ขอทานหรือเปล่า?

การเก็บหินจิตวิญญาณเหล่านี้ได้ไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี หยางเฉินเก็บหินไว้ในวงแหวนแห่งความสำเร็จ ในขณะที่เพิ่งจะวางลงไปจู่ๆเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้ เขาหยิบกล่องเหล็กขึ้นมาและเริ่มพิจารณากล่องอีกครั้ง

กล่องหีบนี้ถูกฝังอยู่ลึกลงไปมีน้ำหนักมากกว่าหินจิตวิญญาณที่ถูกบรรจุอยู่ภายใน ก่อนหน้านี้หยางเฉินไม่ได้ให้ความสนใจกับกล่องนี้มากนัก แต่เมื่อเขาถือมันไว้ในมือก็ค้นพบความน่าอัศจรรย์ของกล่องใบนี้ ภายใต้ร่องรอยของการกัดกร่อนมีร่องรอยของความกระจ่างใสชัดเจนปรากฏขึ้น

หลังจากหยางเฉินมองดูและเริ่มเดาออกเขาก็อยากที่จะประนามเทพภูเขาอย่างยิ่ง แม้แต่กล่องเหล็กที่บรรจุหินจิตวิญญาณใบนี้ก็ทำมาจากผลึกทองคำฟ้าคราม! วัตถุที่ถูกกลั่นจากวัสดุคุณภาพชั้นยอดเช่นนี้ต้องใช้โชคเท่าไหรถึงจะพบเจอ และไม่ได้เกิดจากการค้นหาแต่กลับถูกพบเจอโดยเขาอย่างน่าประหลาดใจ ช่างน่าเสียใจยิ่งนักหากว่าเขาไม่สังเกตุอย่างละเอียดถี่ถ้วน หากเพียงแค่เขาหมกหมุ่นอยู่กับหินจิตวิญญาณเหล่านั้น เขาคงตัดสินใจผิดพลาดไปอย่างแน่นอน

ผลึกทองคำฟ้าครามนี้สามารถแลกเปลี่ยนเป็นหินจิตวิญญาณชั้นเยี่ยมได้มากกว่าในกล่องนับสิบเท่า แค่หินจิตวิญญาณจำนวนเท่านี้ก็เกินพอที่จะให้หยางเฉินเลื่อนระดับชั้นของเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ กล่องกระบี่และกระบี่บินที่เขามีอยู่ทั้งหมดอย่างน้อยก็สองขั้น

ตลอดที่ผ่านมาเขายังกล้าที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นคนยากจนข้นแค้นอีกหรือ? หยางเฉินพูดอะไรไม่ออกเลยในคราวเเรกเขารับของเหล่านี้ไว้เพียงเพราะเขาเป็นเจ้าของมันแล้ว และไม่ต้องการให้ของต้องตกไปอยู่กับผู้อื่น แต่หลังจากได้เห็นหินจิตวิญญาณชั้นเยี่ยมเหล่านั้นแล้ว ก็รู้สึกว่าโชคชะตาช่างเข้าข้างตนจู่ๆความคิดของเขาก็เปลี่ยนเป็นไม่อยากจะเชื่อว่าก่อนหน้านี้เขาช่างเป็นคนงี่เง่าสิ้นดี

ทันใดนั้นหยางเฉินก็คิดขึ้นได้ว่าการที่เขาเก็บรักษาหีบผลึกทองคำฟ้าครามนี้ไว้ แล้วเกิดมีคนล่วงรู้เข้าจะเป็นเช่นไร? พวกเขาเหล่านั้นจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อได้เห็น? จะประนามว่าเขาใช้ทรัพยากรอันมีค่าอย่างไม่คุ้มค่าที่สุดหรือจะชักดาบออกมาเพื่อกำจัดเขากัน? แน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก

เมื่อได้หีบมาครอบครองแล้วก็ถึงเวลาที่เขาต้องไปต่อ ก่อนจะไปหยางเฉินนึกอะไรบ้างอย่างขึ้นได้จึงเดินย้อนกลับไปที่หลุมใหญ่ที่ถูกเจาะ เขาก้มหัวลงไปดูภายในอีกครั้งหินจิตวิญญาณถูกห่อไว้ภายในหีบผลึกทองคำฟ้าครามแล้วเจ้ากล่องไม้ที่รุ่งริ่งที่ใช้เก็บหีบผลึกทองคำฟ้าครามนั่นหล่ะ เป็นเพียงแค่หีบไม้ธรรมดาๆจริงเหรอ?

หยางเฉินเอื้อมมือไปหยิบหีบไม้ออกมาและเริ่มพิจารณาอย่างช้าๆ หีบไม้เก่าๆนี้ถึงแม้ว่าดูเหมือนจะทำขึ้นจากไม้ปกติที่เน่าผุธรรมดาๆ แต่เขายังไม่ยอมแพ้เขาใช้จิตสำนึกจิตวิญญาณห่อหุ้มรอบๆหีบไม้และเรื่มสำรวจที่ละนิดๆ ในทุกๆมุมทุกๆรอยแตก

ท้ายที่สุดจิตสำนึกจิตวิญญาณเขาก็สัมผัสถึงพลังจิตวิญญาณได้ในมุมนึงของหีบ หยางเฉินจับความผิดปกตินี้ได้ก็เริ่มวิเคราะห์อย่างกระตือรือร้น

หน้าของหีบไม้ที่ดูรุ่งริ่งใบนี้มันไม่สามารถแตกหักได้อย่าง่ายดาย หยางเฉินเริ่มต้นรื้อค้นความทรงจำทั้งหมดที่เขามีขึ้นมาที่ละนิดๆ หลังจากผ่านไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนเต็มก่อนที่จะเข้าวันที่สองหยางเฉินก็ใช้เคล็ดลับวิชาหยินหยางห้าธาตุที่มุมหนึ่งของหีบไม้เวทย์มนต์ ค่อยๆคลอบคลุมลงไปที่หีบที่ละนิดๆและระเบิดลักษณะของเนื้อไม้ที่แท้จริงออกมา

มันดูสดใหม่เหมือนกับเพิ่งถูกตัดออกมาจากต้น กิ่งก้านที่แผ่กระจายออกมานั้นตรงได้สัดส่วนอย่างสมบูรณ์พอดิบพอดีการวางซ้อนทับถมกันทำให้เกิดหีบไม้ธรรมดาๆ แต่จู่ๆก็มีพืชเขียวชอุ่มเติบโตขึ้นมาหากถูกฝั่งอยู่ในดินจะสามารถเจริญเติบโตได้สูงมาก

ไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหล! เทพภูเขาผู้นั้นใช้ไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลทำหีบ ใบนี้ช่างทำให้ผู้อื่นประหลาดใจแท้ในที่สุดหยางเฉินก็คิดได้ว่า หากการใช้ผลึกทองคำฟ้าครามในการทำหีบเหล็กนั้นช่างเป็นเรื่องเสียของอย่างไร้ค่า แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาค้นพบในตอนนี้คือหีบไม้ที่ทำมาจากไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหล เมื่อเทียบกับหีบผลึกทองคำฟ้าครามนั้นช่างเป็นงานของคนขี้เหนียวจริงๆ

ช่างเป็นเรื่องเสียเปล่า! เทพภูเขาผู้นี้ช่างเป็นอัจฉริยะในการทำให้เสียของโดยแท้ เทียบกับเมื่อครั้งที่หยางเฉินใช้ผลไม้หยางล้ำเลิศพันปีเป็นอาหารแล้ว เขาช่างเป็นเหมือนขอทานในชุดมอมแมมที่เดินมาขออาหาร

ภายหน้าหากใครก็ตามในศาลสวรรค์บอกกับเขาว่าตนเองนั้นยากจนข้นแค้นและครึ่งหนึ่งมีชีวิตที่น่าสลดใจ ให้ตายอย่างไรเขาก็จะไม่มีวันเชื่อ แค่นี้เขาก็คิดได้แล้วว่าคำที่ว่ายากจนของใครก็ตามจากศาลสวรรค์นั้นเป็นคำพูดที่ช่างเจียมเนื้อเจียมตัว หากว่าเขาถือคำพูดของคนคนนั้นเป็นจริงเขาก็เป็นคนโง่เขลาเต็มทน

หลังจากหายตกใจหยางเฉินก็ได้แต่หัวเราะอย่างหนักไปรอบๆให้กับความมั่งคั่งที่มีเพียงเขาคนเดียวที่ได้ครอบครอง แม้แต่อาวุโสหวู่ยังตกเป็นรองเขา หยางเฉินเก็บของทั้งหมดเข้าไปในวงแหวนแห่งความสำเร็จอย่างจากนั้นก็เริ่มต้นเดินทางมุ่งตรงไปยังพระราชวังหยางบริสุทธิ์

หลังจากผ่านไปสองวันหยางเฉินก็หายจากอาการตกใจ หัวสมองของเขาโล่งขึ้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะเคยเป็นอมตะทองคำได้พบเจอเล่ห์เหลี่ยมของผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจำนวนไม่น้อย แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับความมั่งคั่งที่ตกเป็นของตนเอง

อา! ไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลเพียงแค่มีรากไม้ที่หนาสมบูรณ์เพียงแค่นิ้วเดียว กับการกลั่นแบบธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์ใดๆ ด้วยคุณสมบัติไม้ที่แข็งแกร่งก็สามารถกลายเป็นกระบี่บินชั้นสูงได้ แต่หากว่าการกลั่นนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบและใช้การบ่มเพาะที่เหมาะสม ก็จะกลายเป็นวัตถุชั้นเยี่ยมยอดแบบที่ไม่มีระดับใดมาเทียบได้ แม้แต่ระดับจักรพรรดิหรือแม้แต่ระดับอมตะก็ไม่ใช่ปัญหา

เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณที่ผ่านมาของเขานั้นล้วนเป็นวัตถุขั้นสูงสุด ในระดับอมตะไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลที่มีค่านั้นไม่สามารถพบเจอได้ทั่วๆไป หีบไม้ที่ทำมาจากไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลที่หน้าเท่าข้อมือนี้ต้องทำมาจากเนื้อไม้ที่หนาเป็นนิ้วๆเท่านั้น

ตั้งแต่ถูกขนานนามว่าไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหล แน่นอนว่าต้องมีเหตุผลว่าเนื้อไม้ของไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลนั้นมีส่วนประกอบของความศักสิทธ์ เมื่อมีบางอย่างที่เรียกว่า “วัตถุศักดิ์สิทธิ์” ก็ไม่จำเป็นต้องบอกแล้วว่ามันมีดีอย่างไรบ้าง

ตั้งแต่หยางเฉินได้สิ่งของน่ามหัศจรรย์เหล่านี้มาครอบครอง เขาก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเหตุใดเทพภูเขาถึงไม่ใช้พวกมันในการกลั่นอาวุธวิเศษมากกว่าทิ้งไว้ให้เขาที่โลกแห่งนิรันดร์ เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาได้แต่ตั้งข้อสันนิฐานเบื้องต้นไว้ก่อนว่า แม้แต่ตัวเทพภูเขาเองก็ไม้รู้ว่านี่คือไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหล หรือว่าเขากลัวที่จะเก็บรักษาแหวนหยกมีแต่คนที่เคยขึ้นสวรรค์แล้วเท่านั้นที่จะอยากได้ของสิ่งนี้ มันจึงทำให้เขาคิดว่าควรฝังไว้ที่นี่ซะทำเหมือนไม่เคยพบเห็นมาก่อนนับตั้งแต่วันนั้น

แต่ว่าทำไมถึงได้ทิ้งไว้ให้หยางเฉิน เหตุผลเดียวที่สามารถเป็นไปได้คือการที่หยางเฉินสัญญาว่าจะสังหารใครบางคนในศาลสวรรค์ และอีกเหตุผลหนึ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือเทพภูเขาเชื่อว่าหยางเฉินคงไม่ฉลาดพอที่จะรู้ว่ามันมีค่าเพียงไร ยังเป็นไปได้อีกว่าเทพภูเขาเห็นภาพว่าหยางเฉินต้องรับมือ กับภัยหายนะเช่นไรหากต้องครอบครองสมบัติล้ำค่าชิ้นใหญ่โดยไม่รู้ถึงมูลค่าของมัน ดูได้จากแหวนหยกที่ต้องรักษาไว้ มันทำให้แม้แต่ศพของตนยังไม่ถูกฝัง ถ้าเป็นเช่นนั้นอย่างไรเทพภูเขาก็เป็นเพชรฆาตในศาลสวรรค์ที่เลวร้ายน่ารังเกียจ ดังนั้นแล้วหยางเฉินก็ไม่รู้สึกเสียใจสักนิดที่ต้องสังหารเขาในช่วงเวลาสุดท้าย

แต่หย่างเฉินก็ยังคงเดาว่าเทพภูเขาไม่รู้และทำว่ามันเป็นเหมือนสมบัติทั่วๆไป หากว่าเขาอยู่ในจุดเดียวกับเทพภูเขาแล้วรู้ว่าแหวนหยกล้ำค่าที่เก็บรักษาไว้จะนำภัยมาสู่ตน เขาก็คงยังที่จะเสี่ยงกลั่นมันออกมาเพียงเพราะความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาเติบโตขึ้นหลังจากที่ได้ลงมือทำ

จะพูดอย่างไรตอนนี้สิ่งของเหล่านี้ก็มาอยุ่ในมือของหยางเฉินแล้ว ดังนั้นหยางเฉินจะไม่ให้ไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลเป็นเพียงหีบอย่างแน่นอน เพราะเขาไม่จำเป็นต้องกลั่นผลึกทองคำฟ้าครามแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลาใส่ใจต่อมัน แต่อย่างไรเขาก็รู้สึกว่าจะปล่อยให้ไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลนี้อยู่อย่างไร้ค่าเช่นนี้ไม่ได้เช่นกัน มองดูหีบไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลที่อยู่ตรงหน้ากิ่งก้านนับสิบเริ่มปรากฏออกมาให้เห็นแล้ว

หยางเฉินรื้อกล่องไม้นี้อย่างระมัดระวัง โชคดีที่มีเพียงเถาวัลย์เท่านั้นที่ผูกรัดโดยรอบๆทำให้ไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลไม่ได้รับความเสียหาย

หยางเฉินไม่มีระดับการบ่มเพาะที่ชำนาญเพียงพอและเหมาะสมในการกลั่น แต่สำหรับการเพาะปลูกนั้นไม่น่าจะใช่ปัญหาขวดสวนโอสถ นั่นน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุดในเวลานี้โดยธรรมดาแล้วสมุนไพรจำนวนมากสามารถเติบโตข้างในนั้นได้ และที่มากไปกว่านั้นตอนอยู่ในหลุมดักเซียนขวดได้ดูดรับพลังจิตวิญญาณไว้มากพอดังนั้นจึงเป็นที่ที่ดีและเหมาะสำหรับลงเพาะปลูก

เมื่อครั้งแรกที่กลั่นขวดสวนโอสถนั้นมีคุณสมบัติเป็นน้ำเท่านั้น แต่หลังจากผสมผสานกับโลกและปลูกส่วนผสมต่างๆลงไป มันก็ก่อเกิดระบบนิเวศน์ของโลกใบเล็กๆและคุณสมบัติไม้ขึ้นมา ถ้าหากว่านับโถงพิทักษ์ของฝาขวดเข้าไป และเพิ่มการเลียนแบบคุณสมบัติของพระอาทิตย์ เหล็กและไฟเข้าไปอย่างละเล็กน้อยคุณสมบัติทั้งห้าก็จะหลอมรวมเข้าด้วยกันและมีอำนาจขึ้น

แต่ถึงแม้ว่าคุณสมบัติทั้งห้าจะหลอมรวมเข้ากันยังไม่สมบูรณ์และอยู่ในช่วงที่ดีพอ แต่คุณสมบัติน้ำที่สร้างขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มาจากการดูดซับพลังจิตวิญญาณธาตุน้ำ มันจึงเหมือนกับว่าเป็นอาวุธเวทธาตุน้ำ

 ก็สามารถสร้างให้เหมือนกับว่าคุณสมบัติน้ำที่มีอยู่นั้นเป็นอาวุธวิเศษ

หยางเฉินเริ่มลงมือปลูกกิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลอย่างระมัดระวังลงในพื้นที่ว่าง หลังจากนั้นก็เริ่มควบคุมพลังจิตวิญญาณในสวนโอสถให้ชุ่มชื้นเพื่อรักษากิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงนี้

เป็นไปตามที่หยางเฉินคาดการณ์ไว้เพียงแค่เขาเริ่มต้น พลังจิตวิญญาณระดับสูงในสวนโอสถใช้ในการดูดซับก็ไหลเชี่ยวลงสู่รากของไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลทั้งสิบ

กิ่งของไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลนั้นเหมือนบ่อลึกที่ไม่มีก้นบ่อ มันดูดซับพลังจิตวิญญาณทั้งหมดลงไปในหลุมนั้นโดยไม่สนว่าได้รับพลังจิตวิญาณไปมากเพียงไร มันดูดซับอย่างสมบูรณ์โดยไม่ปล่อยให้เล็ดรอดแม้แต่นิดเดียว หลังจากที่หยางเฉินเพิ่มพลังจิตวิญญาณลงไปเมื่อตอนเริ่มต้นจากนั้นจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของหยางเฉินแล้ว พลังจิตวิญญาณทั้งหมดภายในขวดถูกควบคุมโดยไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลอย่างสมบูรณ์แบบปราศจากความกังวลใดๆ วุ่นวายอยู่แต่กับการดูดซับเท่านั้น

ตราบใดที่ยังมีเส้นดายของของเหลวสีฟ้าปรากฏอยู่ในขวดนั้น มันแสดงให้เห็นว่ามีพลังจิตวิญญาณเพียงพอให้กับสวนโอสถดูดซับนานนับสิบปี แต่ตอนนี้เส้นด้ายพลังจิตวิญญาณสีฟ้าเหล่านั้นเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว เหมือนวิ่งลงหายไปในฟองน้ำมีเพียงกิ่งไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลทั้งสิบเท่านั้นที่ได้รับการบำรุงและฟื้นฟูพลังชีวิต ที่สำคัญที่สุดคือพลังจิตวิญญาณจำนวนมหาศาลนี้สามารถทำให้ใครก็ตามที่พบเห็นตกตะลึงได้

หยางเฉินยังไม่คิดที่จะใช้หินจิตวิญญาณระดับสูงในตอนนี้ ตราบเท่าที่สถานการณ์พลังจิตวิญญาณยังเพียงพอ หากเมื่อไรที่มันลดลงจนวิกฤตเขาจะใช้หินจิตวิญญาณระดับสูงเหล่านั้นทันทีเพื่อเติ่มพลังจิตวิญญาณให้กับขวดสวนโอสถและไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหล เป็นธรรมดาที่หินจิตวิญญาณเหล่านี้สมควรที่ต้องเสียสละพลังจิตวิญญาณอย่างคุ้มค่าที่สุด

โชคดีอย่างยิ่งที่สถานการณ์เช่นนั้นยังไม่เกิดขึ้นเมื่อพลังจิตวิญญาณในขวดโอสถถูกใช้ไปสามในสี่ส่วน หยางเฉินก็เตรียมพร้อมที่จะใส่หินจิตวิญญาณระดับสูงบางส่วนลงไปในขวดสวนโอสถ ก่อนที่พลังจิตวิญญาณในขวดจะอยู่ในระดับวิกฤตความเร็วของพลังจิตวิญญาณที่ถูกดูดซับก็เริ่มช้าลงเรื่อยๆ

หยางเฉินรู้สึกยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่ง มองดูสิ่งเหล่านี้ซิ! เขาเข้าไปในขวดสวนโอสถและมองดูฉากที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด

รากของไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลทั้งสิบนั้นฝังลึกลงไปในพื้นดินและเริ่มแตกหน่อแตกใบใหม่ออกมา ไม่มีอะไรจะต้องให้พูดมาก แน่นอนแล้วว่ารากไม้เหล่านี้กำลังเริ่มเจริญเติบโตอยู่ใต้ดินกิ่งก้านนั้นไม่ใช่หนาแค่ข้อมืออีกต่อไป แต่ตอนนี้มันหนาได้เท่ากับน่องของคนหนึ่งคนเลยที่สำคัญที่สุด ในตอนนี้รากของไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลไม่ใช่แค่รากอีกต่อไป แต่กลายเป็นลำต้นของไม้ใหญ่อย่างสมบูรณ์

กิ่งไม้นั้นสูงมากอย่างน้อยๆก็สี่ฉื่อ แต่คาดว่าหลังจากนี้มันจะต้องสูงต่อได้อีก กิ่งก้านนั้นโตและตรงอย่างสมบูรณ์แม้แต่ใบอ่อนก็เริ่มแตกหน่อออกมา ตรงบริเวณยอดและเกิดกิ่งก้านใหม่ๆยื่นออกมา กิ่งของไม้ศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลทั้งสิบในตอนนี้ กลายเป็นป่าไม้เทวรูปศักดิ์สิทธิ์เผิงไหลขนาดเล็กๆที่สมบูรณ์แบบแล้ว

ที่รวมกันอยู่ตรงนี้มันสมควรเรียกว่าคุณสมบัติธาตุไม้ การเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่ไม้ระดับนี้ก็สามารถเริ่มรวบรวมลมปราณครอบคลุมเต็มพื้นที่แล้ว เมล็ดทับทิมสายฟ้าระดับรวบรวมลมปราณที่หยางเฉินเพาะเลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้ถูกละเลยอย่างสมบูรณ์ เมื่อเที่ยบกับไม้ระดับรวบรวมลมปราณเหล่านี้

ไม้ระดับรวบรวมลมปราณต้นแรกเริ่มเจริญเติบโตและท้ายที่สุดก็ขยายไปทั่วทั้งสวนโอสถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายใน ตามมาด้วยเสียงดังกึงก้องไปทั่วสวนโอสถเริ่มกลับด้านหัวท้ายและสั่นอย่างรุนแรง

3 ความคิดเห็น: