GDN 214 ความจงรักภักดี

ฮั่นหลางไขว้มือทั้งสองข้างของเขาและวางลงบนต้นแบบในตำแหน่งที่ดูแปลก ๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นกระตุ้นแหล่งพลังงานของเขา

นี่เป็นเทคนิคการประสานยีนให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบตามเทคนิคหมื่นสัตว์อสูร เพื่อเป็นการกระตุ้นเปิดการทำงานของอสูรมืดผสม ในเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ มันเป็นที่รู้จักกันดีว่าขั้นตอนนี้มีความสำคัญที่แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เขาเคยศึกษามา

พลังงานต้นกำเนิดถูกถ่ายเทลงไปในร่างกายของสัตว์ที่นำมาทำการฟิวชั่น พร้อมกับการกระตุ้นเพื่อทำให้เกิดการแบ่งเซลล์ทุกเซลล์ หลังจากนั้นพวกมันจะทำการรวมดีเอ็นเอเพื่อเร่งอัตราการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม

มันก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับเผ่าพันธุ์พระเจ้าที่มองเห็นว่ามนุษย์นั้นมีสถานะที่ด้อยกว่า นั่นเป็นเพราะพวกเขามีการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมซึ่งทำให้พวกเขาสามารถปลุกพลังพิเศษได้ 100% ของเด็กแรกเกิด ในขณะที่มนุษย์นั้นมีเปอร์เซ็นต์ในการปลุกพลังพิเศษที่น้อยกว่ามาก

เผ่าพันธุ์พระเจ้ามียีนที่คล้ายคลึงกับมนุษย์มาก และอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาก็คือมนุษย์ที่กลายพันธุ์ จากมุมมองทางปรัชญามันไม่ควรกล่าวว่าเป็นเผ่าพันธุ์พระเจ้าที่ทิ้งมนุษย์ แต่ควรที่จะเรียกแบบอื่น ๆ เช่นการกลายพันธุ์

จักรวาลนี้มันมีกฏเกี่ยวกับผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดอยู่เสมอและมนุษย์ที่กลายพันธุ์เช่นเผ่าพันธุ์พระเจ้าด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา อาจทำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจที่สามารถอยู่เหนือมนุษย์ และต้องการที่จะกวาดล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์เพราะพวกเขาคิดว่ามันเป็นความอัปยศของพวกเขาที่มีต้นกำเนิดเดียวกันกับมนุษย์ที่ไร้ความสามารถ

ไม่นานหลังจากนั้น ฮั่นหลางรู้สึกประหลาดใจที่พบว่าต้นแบบอสูรมืดผสมที่เขาทำนั้นกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่ว่าจะเป็น สีผิว มวลกล้ามเนื้อ ความหนาแน่นของกระดูกทุกอย่างเปลี่ยนไป หลังจากไม่กี่ชั่วโมงเมื่อฮั่นหลางหยุดให้พลังงานแหล่งต้นกำเนิด มันได้กลายเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง สายพันธุ์ใหม่!

"ไดโนเสาร์?" ฮั่นหลางมองรูปแบบสุดท้ายของสิ่งมีชีวิตนี้บนโต๊ะผ่าตัดเขาขมวดคิ้วและพูดพึมพำออกมา

ใช่มันมีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ ที่มีคอยาวและปากใหญ่ ตลอดหางของมันเป็นกระดูกสันหลังมี่ดูแหลมคมสีขาว ทั้งตัวไม่มีขน ผิวหนังมีสีเทาที่ดูเหนียวมากและน้ำหนักมากกว่าตัน

ฮั่นหลางนำสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์นี้เข้าไปในห้องฝึกซ้อมและให้ปีศาจกรงเล็บทำการทดสอบความแข็งแกร่งมัน

แต่ผลที่ได้ทำให้ฮั่นหลางรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

หลังจากการประเมิน ฮั่นหลางได้สังเกตเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยมีอยู่ในโลกนี้มาก่อน

ความผิดหวังของฮั่นหลางไม่ได้มาจากความด้อยในด้านพลังของมัน ในความเป็นจริงมันมีพลังมาก ที่แม้แต่ปีศาจกรงเล็บก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน ฮั่นหลางจำเป็นต้องใช้อสูรมืดผสมที่แข็งแกร่งที่สุดของเขานั่นก็คือ "ภูตกรงเล็บ" เพื่อปราบมัน

จากมุมมองในด้านพลังของสายพันธุ์นี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

แต่มันก็ไม่จงรักภักดี!

มันพยายามที่จะทำร้ายฮั่นหลาง เมื่อเขาไม่ได้ระวังตัว แต่โชคดีที่จิ้งจอกเงินวิ่งพุ่งชนและทำการตวัดกรงเล็บออกไป พร้อมกับทิ้งร่องรอยข่วนบนใบหน้าของมันเอาไว้

จิ้งจอกเงินไม่ได้ทำตามคำสั่งของฮั่นหลาง แต่มันทำเพื่อปกป้องเจ้านายของมันด้วยความจงรักภักดี ในขณะที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นี้กล้าที่จะลอบโจมตีเจ้านายของมัน?

ฮั่นหลางไม่ค่อยสนใจหรอกว่า มันจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งหรือไม่ แม้ว่ามันจะดูอ่อนแอ แต่ก็ยังไม่เป็นไร สถานการณ์ที่แย่ที่สุดฮั่นหลางก็ยังสามารถเก็บมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยงได้ แต่สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์นี้ไม่สามารถแม้แต่จะไว้วางใจมันได้!

“ดูเหมือนว่าการประสานยีนของสัตว์ต่าง ๆ จะไม่ได้เป็นงานง่าย ๆ การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมทำให้มันกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่ โดยที่ความจงรักภักดีของยีนได้หายไป และถูกแทนที่ด้วยสัญชาตญาณของมัน ดูเหมือนว่าข้าต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้อสูรมืดผสมแบบฟิวชั่นเหล่านี้ประสานยีนและยังคงจงรักภักดีข้าอยู่"

ฮั่นหลาง พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุวิศวกรรมที่โดดเด่นอย่างแท้จริง เขาประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้แต่ในการทดลองทำครั้งแรกของเขา เขาสามารถสร้างสายพันธุ์ใหม่ที่มีพลังมากกว่าปีศาจกรงเล็บ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมากซึ่งเกือบจะเทียบได้กับภูตกรงเล็บ

การที่อสูรมืดผสมนี้ไม่มีความจงรักภักดีไม่ใช่ความผิดพลาดของฮั่นหลาง หากแต่เพราะเทคโนโลยีหมื่นสัตว์อสูรไร้ขอบเขต ไม่มีวิธีการควบคุมทำให้สัตว์ที่ทำการประสานยีนมีความจงรักภักดี และผู้คิดค้นเทคโนโลยีนี้ก็ต้องเผชิญกับปัญหาอสูรมืดผสมที่เขาสร้างขึ้นไม่มีความจงรักภักดีเช่นกัน

ฮั่นหลางไม่อาจยอมรับอสูรมืดผสมที่ไม่สามารถไว้วางใจเช่นนี้ได้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงสัตว์เดรัจฉานตราบเท่าที่มันไม่ซื่อสัตย์ต่อเจ้านายของมัน ฮั่นหลางก็จะไม่ชอบมัน

ฮั่นหลางได้ออกมาจากห้องแล็บและเริ่มคิดถึงวิธีการที่จะทำการปรับปรุงลักษณะความภักดีของอสูรมืดผสม

ในเวลานั้นแลนซ์ก็ได้มาพบเขา

"ฮั่นหลาง เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ในช่วงเวลานี้?" แลนซ์รีบถามในขณะที่เขาเห็นฮั่นหลาง

"โอ้ ข้ายุ่งมาก ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีบางอย่างที่ข้าต้องทำ" ฮั่นหลางตอบ

"เจ้าต้องล๊อกอินเข้าไปในเส้นทางของเหล่าเทพเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะวุ่นวายมากมายแต่ไหน! หากภายใน 3 เดือนเจ้าไม่ล๊อกอินเข้าระบบ เจ้าจะตาย!" แลนซ์กล่าวออกมาด้วยความกังวล

ฮั่นหลางรู้ว่าแลนซ์เป็นห่วงเขา มือสังหารที่มีความเมตตา เขาไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับคนในครอบครัวแลนดิส ที่น่าอับอาย แต่เป็นเหมือนคนดีที่ไม่สามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตใด ๆได้

ฮั่นหลางยิ้มออกมาเล็กน้อย "ดูจากสีหน้าท่าทางที่ดูจะมีความภูมิใจมากของเจ้า ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังไปได้ดีในเส้นทางของเหล่าเทพเจ้า"

"แน่นอน!" แลนซ์ตอบว่า "นับตั้งแต่ที่ข้ารู้ว่าจริง ๆ แล้วข้าไม่จำเป็นต้องฆ่าใครบนเส้นทางของเหล่าเทพเจ้า อารมณ์ของข้าก็ดีขึ้นมาก ข้าได้เลือกอาชีพเป็นนักสำรวจเอาไว้ แม้ว่าจะไม่ใช่งานที่สำคัญ แต่ก็เหมาะสำหรับการพัฒนาของข้ามาก"

ฮั่นหลาง ถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น "เจ้าเพิ่งพูดถึงอาชีพ?"

แลนซ์พยักหน้าและพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยว่า "เจ้ายังไม่ได้เข้าสู่เส้นทางเหล่าเทพเจ้าทั้งหมดอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ทราบสถานการณ์ภายในนั้น ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟัง ในความคิดของข้าเส้นทางของเหล่าเทพเจ้าทั้งหมดเป็นวัฒนธรรมและระบบการประเมินผล"

"มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก ที่นั่นชนชั้นนำจากจักรวาลทั้งหมดอาจรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ข้าคาดว่าบางคนมาจากสถานที่ที่ห่างไกลนับหลายร้อยล้านหรือแม้แต่พันล้านปีแสงห่างจากเรา"

"ถ้าอยู่ในเอกภพที่แท้จริง แม้ว่าเราจะมียานอวกาศความเร็วสูงที่ทนทาน เราก็ยังไม่สามารถเดินทางไปยังสถานที่ซึ่งห่างออกไปหลายพันล้านปีแสง เพราะมันไกลเกินไป แม้แต่เรือดวงดาวที่มีความเร็วสูง ก็ยังต้องใช้เวลาหลายหมื่นปี"

"มันจะใช้เวลานับหมื่นปีบนห้วงอวกาศเพียงลำพัง นั่นคือความสูญเปล่าของชีวิต"

"แต่เส้นทางของเหล่าเทพเจ้าทั้งหมดจะแตกต่างกัน นี่คือช่องทางเดินที่สามารถเชื่อมต่อจักรวาลทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน หากเจ้ามีตำแหน่ง เจ้าสามารถเดินทางได้นับพันล้านปีแสงภายในไม่กี่นาที! ในสังคมจักรวาลแบบนี้นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!"

"เดี๋ยวก่อน" ฮั่นหลางหยุดแลนซ์ไม่ให้พูด เพื่อที่จะถามออกไปว่า "ตำแหน่ง? ตำแหน่งอะไรที่สามารถใช้ช่องเดินทางความเร็วสูง?"

แลนซ์อธิบายว่า "ตำแหน่งของเจ้าอย่างน้อยก็ต้องเป็นลอร์ดดาว นี่คือตำแหน่งระดับต่ำสุด และเหนือลอร์ดดาวขึ้นไปก็เป็น ระดับกาแลคซีและระดับนักษัตร นี่เป็นสามระดับที่ข้ารู้ในตอนนี้ เป็นไปได้มากว่า น่าจะมีระดับที่สูงขึ้นไปอีก เพียงแต่ว่าข้ายังไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลย"

"ในทุกเส้นทางของเหล่าเทพเจ้าทั้งหมด มันเป็นเหมือนระบบที่ยอดเยี่ยมสำหรับจักรวาล ประกอบด้วยบุคคลที่มีพรสวรรค์ที่สุดทั่วจักรวาลทั้งหมด สิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้คือการได้รับตำแหน่งลอร์ดดาว ด้วยตำแหน่งที่ได้รับ เราก็จะสามารถที่จะได้ทรัพยากรที่ไม่สามารถหาได้ง่าย ๆ และยังใช้ช่องความเร็วเพื่อไปยังสถานที่ที่คนอื่นไม่อาจคาดฝันได้"

"เจ้ารู้หรือไม่? ในจักรวาลนี้มีกาแลคซีจำนวนมากที่ไม่ได้เปิดสู่โลกภายนอก แต่ถ้าเจ้าเป็นสมาชิกกลุ่มของเทพเจ้า พวกเขาจะไม่กล้าที่จะห้ามเจ้าเข้าไป เจ้าสามารถไปได้ทุกเวลาที่เจ้าต้องการเนื่องจาก พันธมิตรเทพเจ้าดูเหมือนจะแข็งแกร่งและลึกลับที่สุดในจักรวาล!"

"ในขณะที่เจ้าเป็นสมาชิกของพันธมิตรเทพเจ้า เจ้าจะได้รับป้ายพันธมิตรซึ่งจะสามารถช่วยให้เจ้าทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย เช่นการใช้ช่องความเร็วสูงระดับลึกของดาร์คเน็ต และสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ส่วนใหญ่ในจักรวาลได้อย่างอิสระ และยังสามารถซื้อได้เกือบทุกอย่างที่เจ้าต้องการ"

"มีผู้กล่าวว่า ค่าของป้ายพันธมิตรนั้นมีค่าสูงกว่าค่าของกาแลคซีทั้งหมด"

ฮั่นหลางรู้สึกตกใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วเขาก็เปิดปากถามขึ้นมาว่า "ตอนนี้ข้าจำได้ว่ามีบางอย่างในสถานีเปลี่ยนที่ถูกทำเครื่องหมายว่าเป็นวีไอพีเท่านั้นและยังมีบางส่วนที่ทำเครื่องหมายว่าสามารถแลกได้เฉพาะเมื่อทำภารกิจบางอย่างเท่านั้น พวกมันขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเจ้า?"

แลนซ์ตอบว่า "ถูกต้อง! พันธมิตรเทพเจ้ากำลังดึงดูดเราแบบนี้ เจ้าสามารถมองเห็นสิ่งที่น่ากลัวเหล่านั้น แต่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนพวกมัน มันจึงเป็นการบังคับให้เราทั้งหมดพยายามที่จะไต่ตำแหน่งของตัวเองให้สูงขึ้น"

ฮั่นหลาง ถามอีกครั้งว่า "ถ้าเราเป็นสมาชิกของพันธมิตรเทพเจ้า มันจะเพียงพอหรือไม่ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามกับเผ่าพันธุ์พระเจ้า?"

แลนซ์ส่ายหัว "ไม่ เพราะพันธมิตรเทพเจ้าเป็นเพียงกลุ่มที่ประกอบด้วยชนชั้นสูงของจักรวาล แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองและสงคราม แม้แต่การฆ่าระหว่างสมาชิกก็จะไม่ขัดต่อกฎ"

"พันธมิตรเทพเจ้าจะไม่สนใจเกี่ยวกับการอยู่รอดของทางช้างเผือก พวกเขารับผิดชอบเฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้น"

"ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอย่างไร ไม่ใช่แค่เจ้าที่ต้องการปกป้องบ้านของเจ้า ใครจะอยากให้บ้านของตัวเองถูกทำลาย?"

"บางที ซันเฉิงพูดถูก เส้นทางของเหล่าเทพเจ้าทั้งหมดในระดับลึกของดาร์คเน็ตก็เหมือนสนามรบ ถ้าเราสามารถชนะในสนามรบนี้ บางทีมันอาจมีผลโดยตรงต่อสถานการณ์ทางช้างเผือกอยู่ในขณะนี้"

"เมื่อคิดเกี่ยวกับมัน ถ้าเจ้าประสบความสำเร็จในเส้นทางของเหล่าเทพเจ้าทั้งหมด เผ่าพันธุ์พระเจ้าจะไม่กล้าละเลยอิทธิพลของเจ้า ดังนั้นก่อนอื่นเจ้าควรเริ่มต้นท้าทายเส้นทางของเหล่าเทพเจ้าทั้งหมดโดยเร็วที่สุด มันก็จะเป็นประโยชน์กับเจ้า"

"ข้าเห็นด้วย มีอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบสาเหตุ มีผู้เสียชีวิตแปลกประหลาดหลายคนในหมู่คนของเรา ซันเฉิงแจ้งให้เราทราบเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ระมัดระวังปัญหาที่เกิดขึ้น ในตอนนี้เขากำลังสืบหาที่มาที่ไปอยู่ ดังนั้นเจ้าควรระมัดระวังด้วยเช่นกัน"