เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

GDN 152 สี่คิงคอง



ห้องฝึกซ้อมที่ป้อมปราการคลื่นใต้น้ำ เป็นมรดกที่ทิ้งไว้ข้างหลังโดยโฟริน ฮั่นหลางไม่จำเป็นต้องปรับปรุงเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น เนื่องจากมันดีมากพอแล้ว

ฮั่นหลางยังมีเวลาพอที่จะทำการประกอบชิ้นส่วนลิงดวงดาวที่พบมาก่อนหน้านี้ โดยใช้เครื่องมือการประกอบอสูรมืดผสมที่เขานำติดตัวมาด้วย เขาได้สร้างอสูรมืดผสมขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของลิงดวงดาวที่ถูกสังหาร ผลที่ได้มีเพียงอสูรมืดผสม 30 ตัวเท่านั้น เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากแขนขาที่มีพลังมากที่สุด ดังนั้นลิงดวงดาวผสมแต่ละตัวจึงมี 4 ขาและ 6 แขน

หลังจากการประเมินของฮั่นหลางแล้ว พลังการต่อสู้ของลิงดวงดาวผสมมีประมาณหนึ่งในสามของอสูรเทพผู้พิทักษ์ ซึ่งเป็นผลงานที่อู้หวินได้สร้างพวกมันขึ้นมาทั้งหมด 130 ตัวตลอดในช่วงชีวิตของเขา และเขาทุ่มเทความพยายามให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับแต่ละตัว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับฮั่นหลางที่จะผลิตอสูรมืดผสมให้มีพลังการต่อสู้ในระดับเดียวกัน

แต่เหล่าลิงดวงดาวผสมของฮั่นหลางทั้ง 30 ตัว ก็ไม่ได้ถือว่าอ่อนแอแม้ว่าจะไม่มีการป้องกันที่แข็งแกร่ง เนื่องจากไม่ได้มีหุ้มเกราะหรือเกล็ดเช่นเดียวกับ อสูรเทพผู้พิทักษ์ ที่สามารถป้องกันการเจาะด้วยเลเซอร์ได้ฮั่นหลางวางแผนว่าถ้าเขาพบชิ้นส่วนอวัยวะที่ดีขึ้นในภายหลังเขาจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับลิงดวงดาวผสมเหล่านี้

ในระยะสั้น ปีศาจกรงเล็บและ ลิงดวงดาวผสมสองตัวจะทำหน้าที่เป็นยามของป้อมปราการ ฮั่นหลางชอบที่จะซ่อนศักยภาพพลังของเขา และส่วนใหญ่ของลิงดวงดาวผสมทั้งหมดถูกซ่อนไว้ในจันทราทมิฬ ที่มองไม่เห็นของเขา

บนหน้าจอขนาดใหญ่ในห้องฝึกอบรม ไร้จุดหมายผู้ซึ่งมักจะไม่หัวเราะกำลังหัวเราะออกมา "เจ้าต้องการปล้นผู้ครองเมืองและจบลงด้วยการเป็นผู้ครองเมือง ฮั่นหลางเจ้าเป็นคนนอกกฎหมายที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา"

ฮั่นหลางบุ้ยปาก "เราจะไม่พูดถึงปัญหานี้อีกดีหรือไม่? พวกท่านหัวเราะข้ามาตลอดหนึ่งเดือนแล้ว มันเป็นเรื่องเก่าแล้วนะ?"

ไร้จุดหมายส่ายหน้าของเขาและกล่าวด้วยความจริงใจว่า "ไม่ละ จากนี้ไปเมื่อใดก็ตามที่ข้านึกถึงเรื่องนี้ ข้าก็จะหัวเราะเยาะเจ้า ว่าแต่ว่ามันก็เป็นเรื่องดี ในตอนนี้อย่างน้อยเจ้าก็มีอาณาจักรของตัวเองในถิ่นทุรกันดารกาแลคซี"

"เส้นทางถัดไป คือเส้นทางแห่งมนุษย์ แยกท้องฟ้าและสั่นสะเทือนปฐพีหากเทียบกับเส้นทางแห่งสวรรค์และเส้นทางแห่งปฐพี ความยากลำบากจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า แน่นอนว่าเมื่อเจ้าเข้าถึงพลังที่ว่านี้ พลังที่เจ้าจะได้ไปจะมากจนน่าตกใจมาก"

"ข้าได้สังเกตการณ์ฝึกซ้อมของเจ้าอย่างละเอียด ไม่เลว แต่ยังมีช่องว่างที่เจ้าจะต้องเรียนรู้อยู่อีก ลองฝึกใช้วิธีเดิม ๆ ก่อนอื่นคือการเคลื่อนไหวแล้วไปทำความเข้าใจ หลังจากที่เจ้าข้าใจแล้ว ทักษะนี้ก็จะเป็นของเจ้า"

ฮั่นหลางพยักหน้า เขายังสามารถเชื่อมต่อกับดาร์คเน็ตกาแลคซี่จากถิ่นทุรกันดารได้ มันทำให้ฮั่นหลางสะดวกสบายมาก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้ แต่ฮั่นหลางก็สามารถขอข้อมูลจากไร้จุดหมายผ่านการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

หลังจากที่ฮั่นหลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฮั่นหลางก็กล่าวออกมาว่า "ตอนนี้สิ่งที่ข้ากังวลมากที่สุดคือดัชนีพลังต้นกำเนิดของข้าถึงจุดสูงสุดของระดับ 5 ดาวอย่างชัดเจน แต่ข้าไม่สามารถทะลวงผ่านคอขวดนี้ได้"

ไร้จุดหมายกล่าวออกมาราวกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร "เจ้าจะรีบร้อนไปไหน เจ้าอายุเพียงแค่ 18! เมื่อตอนที่ข้าอายุ 18 ปี ข้ายัง...อย่าไปสนใจเลย เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ในช่วงเวลานี้เจ้าพึ่งพาพลังสืบทอดและหัวใจแห่งความมืด มันทำให้เจ้าพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว"

"แต่ตอนนี้การส่งเสริมจากผลึกสืบทอดและหัวใจแห่งความมืดได้ผ่านไปแล้ว การพัฒนาของเจ้าจึงเริ่มค่อยๆกลับมาสู่ความเร็วในการพัฒนาตามปกติและนั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจใด ๆ"

"ตอนนี้เจ้ามีสองทางเลือก หนึ่งคือเพิ่มพลังไปอย่างมั่นคง ฝึกฝนไปทีละขั้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เช่นที่เจ้าทำมาตลอด ทางเลือกที่สองคือการใช้ เข่าแห่งความมืด แต่ข้าจะไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้ คงมีเพียงเฒ่าดำที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเภสัชวิทยา"

ฮั่นหลางตอบออกมาอย่างจริงใจว่า "ครั้งนี้ข้าตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ และมั่นคง ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ข้าจะยังไม่ใช้ เข่าแห่งความมืด แต่ในระหว่างนี้ข้าจะคุยกับผู้เล่นยามค่ำคืนเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จาก เข่าแห่งความมืดอย่างเต็มที่ ข้าเดาว่ามันเป็นการควบทั้งสองวิธี ข้าจะไม่หยุดการฝึกซ้อม และก็จะทำการวิจัยและศึกษาเกี่ยวกับ เข่าแห่งความมืด

ไร้จุดหมายพยักหน้าเห็นด้วยและกล่าวว่า "จิตใจของเจ้าหนักแน่นมาก สมบัตินั้นสามารถช่วยให้เจ้าก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วก็จริง แต่การที่เจ้าเลือกที่จะไม่ใช้มันเพื่อเพิ่มพลังในเวลาที่รวดเร็ว มันไม่ใช่ทุกสิ่งที่ทุกคนจะสามารถทำได้"

"หลังจากใช้ เข่าแห่งความมืด เจ้าก็ยังเป็นเจ้าอยู่ แต่ถ้าเจ้าไม่ใช้มัน มันก็จะกลายเป็นไพ่ในมือของเจ้า ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าจะมีไพ่มากขึ้นเท่าไรในแขนเสื้อของเจ้า และมันก็เป็นสิ่งที่ดีมาก! ในทางช้างเผือกอันกว้างใหญ่นี้ คนฉลาดมักจะช่วยตัวเองด้วยการมีไพ่สองสามใบในแขนเสื้อของพวกเขา"

หลังจากที่จบการฝึกซ้อมแล้ว ฮั่นหลางไปที่ตลาดเสรีอีกครั้งเพื่อตรวจตราไปรอบ ๆ

นโยบายภาษีที่ฮั่นหลางสร้างขึ้นนั้นแตกต่างจากโฟริน เขาได้ปฏิบัติตามกฎปกติของถิ่นทุรกันดารกาแลคซีเพื่อเรียกเก็บภาษี 10% ต่อการทำธุรกรรม แต่ลดค่าธรรมเนียมจอดเรือบิน ค่าเข้าต่อหัว ค่าเดินทาง และภาษีทั่วๆไป

และสำหรับธุรกิจการค้าสินค้าต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับการดำรงชีวิตและการสร้างดาวเคราะห์ เช่น ของใช้ประจำวัน สินค้าเกษตร เครื่องใช้ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ฮั่นหลางใช้นโยบายพิเศษที่ลดภาษีการทำธุรกรรมเป็น 5%

เหตุผลที่ฮั่นหลางทำการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเพราะความรู้สึกของเขาสำหรับคนงานที่ยากจนที่เข้ามาอยู่ในป้อมปราการคลื่นใต้น้ำ กล่องนมมีราคาแพงมากกว่า 10 เท่าของราคาที่ขายในกาแลคซี่ทางช้างเผือก ผู้ปกครองมักไม่เต็มใจที่จะซื้อมันให้กับลูก ๆ ของพวกเขา และมันไม่สมควรที่จะเป็นเช่นนี้

เมื่อเปรียบเทียบกับความเจริญรุ่งเรืองของการค้าอาวุธแล้ว ฮั่นหลางหวังว่าการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์จะเป็นประโยชน์ต่อคนธรรมดา มันสามารถนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองได้เช่นเดียวกับเมืองที่ทำงานได้ผลผลิตที่ดีเพราะทุกคนต้องกินและสวมเสื้อผ้า

โรงเรียน สนามบินใหม่ ห้างสรรพสินค้า ทางหลวง การก่อสร้างทีละขั้นของโปรแกรมต่าง ๆ จะถูกนำออกมาใช้ เขาเป็นผู้ครองเมืองนี้ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจทำงานที่นี่ให้ดี

มีดาวเคราะห์ที่สามารถอยู่อาศัยอยู่ได้เพียงไม่กี่แห่งในถิ่นทุรกันดารกาแลคซีและความยากจน ที่ป้อมปราการคลื่นใต้น้ำเกิดสงครามอย่างไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งทำให้มีพื้นที่ว่างเพียงเล็กน้อยสำหรับการพัฒนา แต่ตอนนี้ด้วยความรอบคอบและภูมิปัญญาของมนุษย์ ดาวเคราะห์ดวงนี้จะสมบูรณ์แบบมากขึ้น

รักชาติ รักโลก รักบ้านของเขา นั่นคือสิ่งที่น่ายกย่องที่สุดเกี่ยวกับบุคลิกของฮั่นหลาง

ตอนนี้โลกกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่ฮั่นหลางไม่สามารถกลับบ้านและช่วยสร้างบ้านได้ ดังนั้นเขาจึงเอาความคิดถึงบ้านของเขามาใส่ไว้ในป้อมปราการคลื่นใต้น้ำ และต้องการที่จะเห็นสถานที่นี้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในแต่ละวัน ฮั่นหลางรู้สึกมีความสุขจริง ๆ จากหัวใจของเขา

โดยทั่วไปแล้วฮั่นหลางจะปล่อยให้คนที่ป้อมปราการคลื่นใต้น้ำ จัดการตัวเอง เขาเป็นเพียงผู้ครองเมืองในนามเท่านั้น

ฮั่นหลางชอบดาวเคราะห์ที่บ้านของเขา และยินดีที่จะยอมแลกมันกับทุกสิ่งทุกอย่าง ลินซ์และคนอื่น ๆก็รักป้อมปราการคลื่นใต้น้ำและยินดีที่จะทำงานหนักเพื่อทำให้มันเป็นสถานที่ที่ดีขึ้น ฮั่นหลางปล่อยให้คนที่รักป้อมปราการคลื่นใต้น้ำจัดการและพัฒนาสถานที่แห่งนี้ มันจะไม่มีอะไรผิดพลาด

หลังจากที่ทำการตรวจตราไปรอบ ๆ ตลาดแล้ว ฮั่นหลางก็ขับเรือรบปีศาจกรงเล็บไปที่ทางแยกสามทางเพื่อข้ามไปที่ระบบดวงดาวที่ไร้ชื่อ มันเป็นสถานที่ที่คนงานเรียกว่าหุบเขาเรือล่ม

......

เรือรบปีศาจกรงเล็บหลุดออกจากรูหนอน และฮั่นหลางเพิ่งเห็นซากปรักหักพังที่ลอยอยู่นับไม่ถ้วนในหุบเขาลึกที่น่ากลัวนี้

ได้มีการบันทึกว่าเรือบรรทุกหุ่นยนต์ยักษ์ของยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีหุ่นยนต์นับร้อยล้านตัว ได้ถูกทำลายลงในที่แห่งนี่ หลังจากที่เรือบรรทุกสินค้าระเบิดขึ้น หุ่นยนต์ก็กลายเป็นซากปรักหักพังกระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งกาแลคซี

เรือกู้ภัยกำลังยุ่งกับการทำงานโดยใช้คานรถแทรกเตอร์เพื่อตรวจจับซากปรักหักพังของหุ่นยนต์ที่ลอยอยู่ โหลดพวกมันเข้าสู่คลังสินค้าแล้วนำพวกมันไปผ่านกระบวนการคัดแยกและประกอบการขาย

งานเหล่านี้เคยเป็นงานกู้ซากของป้อมปราการคลื่นใต้น้ำ แต่ตอนนี้หุ่นยนต์เหล่านี้ได้ทำหน้าที่แทนพวกเขาแล้ว คนขับเรือเป็นหุ่นยนต์ คนที่รับผิดชอบในการเรียงลำดับและประกอบก็เป็นหุ่นยนต์ และคนที่คอยปกป้องที่ด้านนอกของระบบดวงดาวไร้ชื่อก็เป็นหุ่นยนต์

หุ่นยนต์เหล่านี้มาจากไหน? ในตอนนี้หุ่นยนต์อื่น ๆ มีหน้าที่ในการรวบรวมชนิดของตัวเอง ประสิทธิภาพการทำงานจึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

นอกไปจากเรือหลายร้อยแห่งแล้วยังมีเรือที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันอีกสองแห่งในกาแลคซี เรือบรรทุกสินค้าระดับพีระมิดที่ทอดสมออยู่ที่ปลายสุดของระบบดวงดาว

หลังจากที่เก็บรวบรวมซาก มันได้รับการจัดหมวดหมู่ในเรืออุตสาหกรรมแล้ว พวกมันก็จะถูกส่งไปยังเรือบรรทุกสินค้าสองลำ No.1  เก็บรวบรวมชิ้นส่วนที่ดี ทุกชิ้นที่พร้อมจะประกอบ ในขณะที่ No. 2 เก็บรวบรวมชิ้นส่วนที่เสียหาย ซึ่งจะมีโรงงานขนาดเล็กทำการซ่อมแซมหุ่นยนต์ที่ทำการซ่อมง่ายๆ ชิ้นส่วนที่ไม่สามารถซ่อมได้จะถูกหลอมละลายและส่งไปที่ No.1

เรือรบปีศาจกรงเล็บของฮั่น จอดที่ No.1 เรือบรรทุกสินค้า

เดินเข้าไปในคลังสินค้าขนาดใหญ่ ฮั่นหลางเห็นแถวของหุ่นยนต์ที่ได้รับซ่อมแซมประกอบขึ้นมาใหม่ พวกมันดูเหมือนกลุ่มทหารที่กล้าหาญ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ติดตาม หุ่นยนต์บินความเร็วสูง หุ่นยนต์มัลติฟังก์ชั่น(ทำงานได้หลายอย่าง) จำนวนและความหลากหลายเป็นที่น่าอัศจรรย์

ฮั่นหลางยิ้มแล้วเดินลงไปที่ชั้นล่างสุดของคลังสินค้า พบหุ่นยนต์สองสามตัวที่กำลังรออยู่ที่นั่น นอกจากหยวนหยวน มีหุ่นยนต์อีกสี่ตัวที่เป็นหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งฮั่นหลางทำการคัดเลือกใหม่ ในสมองของพวกเขามีชิปความคิดติดตั้งอยู่ พวกเขาเป็นเหมือนหยวนหยวน พร้อมกับภูมิปัญญาที่น่าทึ่ง

หุ่นยนต์นักรบ: รักษา
หุ่นยนต์ก่อสร้าง: โบตั๋น
หุ่นยนต์แนวหน้า: สตาร์มาร์ค
หุ่นยนต์วิจัย: ซอส

ฮั่นหลางได้ตั้งชื่อคู่หูใหม่ว่า สี่คิงคอง

ในบรรดาคิงคองทั้งสี่ รักษาเป็นหุ่นยนต์ต่อสู้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และเรือรบทั้งหมดอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา สตาร์มาร์คคือหุ่นยนต์แนวหน้า การสอดแนม การสำรวจระยะไกล และการสะกดรอยทั้งหมดอยู่ภายใต้เขตอำนาจของเขา โบตั๋นเป็นหุ่นยนต์ด้านวิศวกรรมซึ่งเชี่ยวชาญในการทำงานที่แห้งและสกปรก รวมถึงการรวบรวมหุ่นยนต์การปรับเปลี่ยนเรือ การซ่อมระบบ และแม้กระทั่งการทำความสะอาด

สำหรับซอส เขาเป็นหุ่นยนต์วิจัย ถ้าฮั่นหลางต้องการเพิ่มพลังของปืนใหญ่ของเขา เขาต้องการหาข้อมูล ถ้าเขาต้องการที่จะหาทางที่จะเพิ่มความเร็วโดยการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เขาต้องการหาข้อมูล ซอสเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด จากบรรดาสี่คิงคอง

"ตอนนี้ เรามีกองทัพนับล้านใช่ไหม?" ฮั่นหลางยิ้มและถามออกมา

2 ความคิดเห็น:

  1. กองทัพหุ่นยนต์เกรียงไกร แบบนี้ ไม่ต้องเกรงกลัวพวกสภาล่ะ

    ตอบลบ