เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ZX 84 เดิมเป็นข้าที่เป็นฝ่ายรอ



ในตอนที่ออกจากหมู่บ้านหลีโลวนั้น ยานเหาะหลีกเร้นสวรรค์ ใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันกว่าจะถึงหมู่บ้านที่ใช้ในการปรุงโอสถ แต่ในขากลับนี้ใช้เวลาแค่เพียงนั่งพูดจาจิบชาได้คนละไม่กี่ถ้วย นั่นแสดงถึงผู้อาวุโสหวูได้รับประโยชน์มากมายที่ระหว่างการปรุงโอสถนี้

ผู้อาวุโสหวูมิได้ปรากฏกายที่หมู่บ้านหลีโลว เขาเพียงปล่อยหยางเฉินลงไปยังห้องพักเล็ก ๆ ของเขา ด้วยระดับการบ่มเพาะที่สูงยิ่งของเขา จึงมิมีผู้ใดสังเกตเห็นเขา ทุก ๆ คน เพียงพบว่า จู่ ๆ หยางเฉินพลันปรากฏตัวขึ้นทันที

อันที่จริงแล้ว การกลับมายังหลุมดักเซียนอีกคราของหยางเฉิน ก็เพื่อสะสางหนี้เก่า พวกที่ไล่ล่าเขาที่ธารลาวา อันมีเพียงเผิงฮุ่ยและอีกคนเท่านั้น ที่จัดการไปแล้ว ส่วนพวกที่เหลือยังลอยนวลอยู่

 สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือการต้องรู้ตัวตนและศักดิ์ฐานะของคนพวกนั้น ในตอนนี้มีผู้คนมากมายที่ต้องการใกล้ชิดและเป็นมิตรกับหยางเฉิน ดังนั้น การจะปิดบังฐานะตัวตนของพวกการบ่มเพาะแค่ระดับก่อสร้างรากฐานอย่างคนพวกนั้น ย่อมไร้ประโยชน์ สู้เอามาเป็นโอกาสทองที่จะได้สนิทชิดเชื้อกับหยางเฉินย่อมจะดีกว่า  ซึ่งตัวตนคนเหล่านั้นเป็นที่รู้กันแล้วตั้งแต่ตอนหยางเฉินออกจากหมู่บ้านหลีโลวพร้อมผู้อาวุโสหวู

แน่นอน หยางเฉินย่อมไม่ปล่อยคนเหล่านั้นให้เล็ดรอดไปได้ อย่างดีที่สุดพวกนั้นก้อแค่ระดับสูงสุดของก่อสร้างรากฐาน แต่คนพวกนั้นก็อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจควบแน่นปราณให้เสถียร อย่างน้อยต้องใช้เวลาสิบปี ซึ่งขีดความสามารถในการประเมินเรื่องนี้ของเขาไม่ผิดแน่ ๆ

หยางเฉินจะรอจัดการพวกนั้นที่ละคนอยู่ภายในหมู่บ้านหลีโลว และในครั้งนี้ผู้อาวุโสหวูจะไม่มาปรากฏตัว เพื่อยับยั้งเขา ดังนั้นเขาควรจะจัดการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายในหลุมดักเซียน

และนอกจากเรื่องล้างแค้นนี้แล้ว ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกเล็กน้อย นั่นคือหลังจากที่เขาขึ้นสู่ระดับก่อสร้างรากฐาน เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ และกล่องกระบี่ ยังไม่ทำการปรับแต่งแต่ประการใด อันเนื่องจากไม่มีเวลา แต่โชคดีที่ตอนนี้ภายในหลุมดักเซียนนี้เป็นเวลาที่เหมาะที่จะทำ

เมื่อหยางเฉินปล่อยพลังจิตวิญญาณการรับรู้ออกไปเบื้องนอก เขาพลันประหลาดใจที่มีเสียงเรียก

ท่านอาจารย์หยางอยู่ข้างในหรือไม่?”

ตามมาด้วยเสียงวิ่งอย่างเร่งร้อน เมื่อเห็นหยางเฉินอย่างชัดเจน เขายินดีเหลือประมาณแล้วตะโกนอย่างดัง

ท่านอาจารย์หยางกลับมาแล้ว !”

ปรมาจารย์หยางกลับมาแล้ว…ข่าวนี้สร้างความวุ่นวายในหมู่บ้านหลีโลวในทันที  …มันเป็นเวลามากกว่าสามปีหรือเกือบสี่ปี ที่เขาถูกผู้อาวุโสหวูพาจากไป แต่บัดนี้เขาปรากฏกายที่หมู่บ้านหลีโลวอีกครั้ง โดยไม่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยแม้แต่กับเส้นผมของเขา ..นั่นหมายความว่ากระไร ? นั่นแปลว่าภารกิจสำคัญมากๆ ของผู้อาวุโสหวูแล้วเสร็จ หยางเฉินสามารถจัดการภารกิจของบุคคลระดับออกผลได้เสร็จสมบูรณ์

และไม่มีผู้ตาบอดพอที่จะมองไม่ออกว่า หยางเฉินได้บรรลุขั้นก่อสร้างรากฐานแล้ว จากการติดตามผู้อาวุโสหวูไม่กี่ปี จากระดับปลายของรวบรวมลมปราณมาสู่เบื้องต้นระดับก่อสร้างรากฐาน ถ้าผู้อาวุโสหวูไม่โปรดปรานเขา แล้วผลลัพธ์เยี่ยงนี้จะเกิดกับหยางเฉินได้อย่างไร ?

หยางเฉินรับการยืนยันถึงความสามารถของเขา โดยการทำงานบางประการของผู้อาวุโสหวูได้สำเร็จ นอกจากนี้ การที่เขายกระดับการบ่มเพาะขึ้นมาเป็นระดับก่อสร้างรากฐานได้แล้ว

มันเป็นนัยว่ายาที่เขาปรุงออกมาต้องมีคุณภาพสูงกว่าเดิม ซึ่งหลาย ๆ คนยังจำวาจาของหยางเฉินก่อนออกไปจากหลุมดักเซียนได้ ว่าเขาเอ่ยว่าเขาอาจจะปรุงโอสถระดับสามได้ ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มแล้ว ใช่ว่าเขาจะสามารถทำมันได้รึยัง ?

ข้าต้องการทราบเบาะแสที่อยู่ของคนบางคน”

หยางเฉินมิได้อำพรางจุดมุ่งหมายแม้แต่น้อยและเอ่ยตรง ๆ ต่อ

ข้าต้องการการแจ้งข่าวในทันทีที่คนเหล่านี้ กลับมาถึงหมู่บ้านหลี่โลว และข้ากำลังปรุงโอสถระดับสอง เพื่อเป็นค่าตอบแทน”

หลังเอ่ยวาจานี้เสร็จ เขาก้อได้บอกถึงรายละเอียดของคนเหล่านี้ทีละคน

เรื่องที่หมอใหญ่หยางพยายามค้นหาคนเหล่านี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ความลับของหมู่บ้านหลีโลวแต่ประการใด และคราวนี้เมื่อระดับการบ่มเพาะของเขาที่สูงขึ้น และนำเรื่องนี้มาเอ่ยอีกครั้ง แล้วไฉนพวกเขาจะไม่เข้าใจถึงสิ่งที่หยางเฉินต้องการ ?

ผู้ใดกล้าขัดขวางและเข้าข้างคนเหล่านั้น ? หากพวกนั้นต้องการจะตำหนิใครสักคน ก็คงต้องโทษตัวเองเท่านั้นที่บังอาจขัดขวางหมอใหญ่หยางอย่างไร้เหตุผล  หลาย ๆ คนได้พยายามสืบเสาะว่าเกิดอะไรขึ้น และพบว่าเมื่อสามสีปีที่แล้ว กลุ่มคนเหล่านี้ได้ร่วมมือกันจู่โจมหมอใหญ่หยางโดยไม่สนใจ กฏข้อห้ามอันเคร่งครัดที่ว่าห้ามฆ่ากันในหลุมดักเซียน

แต่ก่อนหน้านี้ หมอใหญ่หยางมิได้ร้องขอความช่วยเหลือในการจัดการพวกนั้น ดังนั้นบัดนี้โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ไม่มีใครกล้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เมื่อหมอใหญ่ต้องการแก้แค้นกำจัดกวาดล้างคนเหล่านั้น

ถ้าพวกเขากระทำอย่างนั้น มันคงไม่มีอะไรน่ายินดี แต่บัดนี้หยางเฉินได้สร้างความประหลาดใจ พวกเขาจะมีโอกาสได้รับโอสถระดับสอง โดยแลกกับตำแหน่งที่อยู่ของคนเหล่านั้น นี่เรื่องที่น่ายินดีเกินการคาดหมาย

ข้ารู้  …ข้ารู้”

ทีละคน ละคน พากันยกมือ และฝ่าฝูงชนออกมา ท่ามกลางสายตาอิจฉาของบุคคลอื่น ภายใต้การเชื้อเชิญของหยางเฉิน พวกเขาตามหยางเฉินเข้าไปในห้องของเขา และยังไม่รู้จะกล่าวอันใด  พวกด้านนอกไม่มีผู้ใดกล้าใช้จิตวิญญาณรับรู้สำรวจความเป็นไปภายในนั้น จากนั้นชั่วครู่  …ก็มีผู้คนที่ออกมาจากภายในนั้นด้วยรอยยิ้ม ราวกับจะลอยละล่องด้วยความยินดี

ไม่จำเป็นต้องถาม ทุกคนรู้ว่าพวกนั้นได้รับผลตอบแทน ด้วยเม็ดยาระดับก่อสร้างรากฐานระดับที่สองแน่ ๆ …แต่พวกเขาได้แต่เศร้า แม้ว่าทุกคนจะมีระดับการบ่มเพาะระดับก่อสร้างรากฐานเช่นกันก็ตาม

โดยมิต้องสนใจว่ากำลังทำสิ่งใดในทันทีที่พบเห็นร่องรอยของคนพวกนั้น พวกเขาต้องกลับมาแจ้งข่าวต่อหยางเฉินในทันที

หลังจากคนเหล่านั้นได้รับรางวัลอย่างชื่นมื่นจากหยางเฉินแล้วจากไป หยางเฉินได้วางค่ายกลเตือนภัยไว้ภายนอกห้องของเขา แล้วเข้าในห้องเพื่อเตรียมปรับแต่งเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณและกล่องกระบี่  นอกจากผู้อาวุโสหวูแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าฆ่าคนภายในหลุมดักเซียน ดังนั้นหยางเฉินจึงรู้สึกวางใจส่วนค่ายกลที่วางไว้ก็เพื่อได้รู้ยามมีผู้มาแจ้งข่าวเท่านั้น

หลังการตระเตรียมทุกอย่างดีแล้ว หยางเฉินนำเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณออกมาแล้วเริ่มต้นด้วยรายละเอียดอย่างดีที่สุด หลังการได้รับอิทธิพลจากปราณยาของโอสถคว้าสวรรค์ นอกจากเตาจะยกระดับขึ้นหนึ่งระดับแล้วยังเปลี่ยนสีเป็นฟ้าเขียว จากเดิมที่รังสีของสมบัติที่มันไม่เคยมี ตอนนี้เริ่มมีขึ้นมาแล้ว

เคล็ดวิชาหยินหยางห้าธาตุ ตอนนี้เข้าสู่ขั้นที่เก้าระดับรวบรวมลมปราณไปแล้ว และก่อนนี้เขาได้ใช้ธาตุไฟในการปรับแต่งเคล็ดวิชาการกลั่นสมบัติดวงดาวสวรรค์เข้าสู่ขั้นที่สี่ และเคล็ดวิชาเซ่นสรวงก่อร่างปีศาจปฐพีเข้าสู่ขั้นที่หก หลังการปรับแต่งนี้เรียบร้อย หยางเฉินได้ใช้เคล็ดวิชาหยินหยางห้าธาตุอีกครั้งเพื่อปรับแต่งเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณ

รัศมีของเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณเรืองรองอีกครั้ง ยิ่งกว่านั้นเส้นไยพลังจิตของเคล็ดวิชาหยินหยางห้าธาตุของหยางเฉินได้ปรับแต่งมันอีกครั้ง ขั้นที่สี่ดวงดาวสวรรค์และขั้นที่หกก่อร่างสร้างปฐพี เมื่อเทียบกับที่มันเคยถูกยกระดับก่อนหน้านั้นด้วยพลังจิตธาตุไฟล้วน ๆ มันต่างกันมากมายนัก

ร่างทั้งร่างของเขาเอ่อล้นไปด้วยพลังจิตวิญญาณทำให้เขาถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง เขาไม่ได้ต่อสู้กับใครมาสี่ปีเต็ม ๆ มันคล้าย ๆ สนิมจับ ตอนนี้หลังจากที่เขาทะลวงมาอยู่ที่ระดับก่อสร้างรากฐานแล้ว เขาต้องการทราบหลักแหล่งเจ้าพวกนั้นและให้มันได้สัมผัสถึงการถูกล่าบ้าง

แต่ก่อนอื่น  เขาต้องปรับแต่งกล่องกระบี่ก่อน เพราะเพียงมันเท่านั้นที่เป็นอาวุธพิฆาตพวกนั้น

กระบี่บินทีอยู่ในมือหยางเฉินในตอนนี้ได้รับมาจากผู้อาวุโสหวู พอจะกล่าวได้ว่าผู้อาวุโสหวูได้ให้ความสำคัญกับหยางเฉินและต้องการที่ช่วยเขาอย่างมาก

ไม่เพียงเท่านั้น จิตสำนึกเจ้าของกระบี่เดิมได้ถูกลบล้างไปหมดสิ้น จึงไม่มีผู้ใดครอง ตอนนี้หยางเฉินอยู่ในระดับก่อสร้างรากฐานแล้ว เขาเพียงปล่อยพลังจิตสำนึกวิญญาณลงไปในมัน ก้อจะกลายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์

โชคไม่ดีที่หยางเฉินพบจุดบกพร่องของกระบี่บินนี้ บางทีต้องตอนอยู่ในระดับก่อลำต้นจึงจะใช้มันได้เต็มที่ และเมื่อถึงระดับผลิดอกแล้วไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ไม่สามารถยกระดับกระบี่นี้ขึ้นได้อีก บางทีผู้อาวุโสหวูคงไม่ได้คิดอะไรมากมาย ให้กระบี่นี้ไว้เพื่อป้องกันตัว

ปกติแล้วหยางเฉินก็มิได้ใช้กระบี่บินนี้เป็นจิตวิญญาณกระบี่ของกล่องกระบี่ เพียงใส่มันเข้าไปในฐานะกระบี่ธรรมดาเล่มหนึ่ง หยางเฉินได้เตรียมการสำหรับจิตวิญญาณกระบี่แล้ว เพียงแต่มันต้องใช้เวลาในการค้นหาและกลั่นมัน

ตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องคิดเรื่องปัญหาของกล่องกระบี่ เขาใช้
เคล็ดวิชาหยินหยางห้าธาตุเพื่อประยุกต์เอาเคล็ดวิชาการกลั่นสมบัติดวงดาวสวรรค์เข้าสู่ขั้นที่สี่และเคล็ดวิชาเซ่นสรวงก่อร่างปีศาจปฐพี ไปปรับแต่งกล่องกระบี่อีกรอบ ทันทีจากนั้นกล่องกระบี่ ที่มีรูปลักษณ์ราวกับดาบแห่งลานประหารเซียน เริ่มแปรเปลี่ยนไปที่ยิ่งดูยิ่งธรรมดาราบเรียบยิ่ง

เมื่อเทียบกับเตาหลอมล้ำเลิศแล้ว กล่องกระบี่เคยถูกปรับแต่งโดยระดับสูงสุดของระดับก่อลำต้นมาแล้ว มันจึงนับว่าอยู่ในระดับสูงตั้งแต่แรก ตามสายตาของหยางเฉินแล้ว ตอนนี้มันจัดเป็นขั้นกลางของอาวุธเวทแล้ว

หยางเฉินหวังที่จะทำมันให้ดียิ่งขึ้น เพียงแต่ตอนนี้เขาอยู่ในระดับก่อสร้างรากฐาน เมื่อกลับนิกายเขาก็จะถูกรับเข้าเป็นศิษย์ใน เขาต้องได้รับการจัดหาอาจารย์ แค่นึกแค่นี้ภาพใบหน้าอาจารย์ก้อผุดขึ้นมาทันที มันช่างน่าตื่นเต้นจริง

ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาต้องระงับความตื่นเต้นในเรื่องการกลับนิกาย และเลือกอาจารย์ไว้ก่อนในตอนนี้ และอดทนรอคอยข่าวคราวของคนเหล่านั้น

จากหลักฐานของกระเป๋าจัดเก็บของเผิงฮุ่ย และคนอื่น ๆ ที่เขาฆ่า หยางเฉินพบว่ามันมีเข็มทิศที่บ่งบอกถึงตำแหน่งกระเป๋าจัดเก็บของตัวเขา ด้วยความสามารถของเขาแล้ว เขาเพียงสามารถบ่งบอกทิศทางของกระเป๋าตัวเอง ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่อยู่ของผู้อื่นของศิษย์พระราชวังหยางได้ นี่เป็นประการหนึ่งที่คนพวกนั้น รู้ที่อยู่ของเขาด้วยกระเป๋าจัดเก็บที่เขามี

เขาได้รับกระเป๋าจัดเก็บจากตำหนักเย่ซิว จากมือของหวังหยวนโดยตรง ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่หยางเฉินได้สัญญาว่าจะให้ผลหยางล้ำเลิศพันปีแก่หวังหยวน ดังนั้นหวังหยวนไม่มีเจตนาร้ายต่อเขาแน่ ความเป็นไปได้ที่เหลือหนึ่งเดียวก็คือ ..ซูเฮิง มีเพียงศิษย์ที่ถูกส่งออกภายนอกเท่านั้น ที่จะมีโอกาสกระทำเช่นนี้ได้ แม้แต่ซุนไห่จิ้งก็มิสามารถทำได้

ซูเฮิงได้กระทำการร้ายต่อเขาสามสี่ครั้งแล้ว ดังนั้นเขาไม่ปล่อยไปแน่ ๆ แต่เขาก็ยังมิได้ต้องการฆ่าศิษย์จากนิกายเดียวกัน ในขณะที่เขายังมิได้เป็นศิษย์อย่างเป็นทางการหรือพึ่งจะเป็นก็ตาม  ดังนั้นตอนนี้เขาเพียงรวบรวมหลักฐานการปองร้ายต่าง ๆ เพื่อลงโทษตามกฏของนิกาย อันที่จริงแล้วไม่ใช่ว่าเขาจะไม่มีโอกาสเหมาะ ๆ ในการกำจัดซูเฮิง แต่ทำอย่างนั้น ..มันจะสะใจเท่ากับ ให้มันได้รับการลงโทษจากนิกายและถูกขับไล่ไม่มีที่ไหนให้มันหลบซ่อนตัว ?

หลังการกลั่นปรับแต่งทุกอย่างเรียบร้อย หยางเฉินก้อรอฟังข่าวพวกนั้นอย่างสงบ มีบางคนได้บอกกับเขาก่อนนี้แล้ว ว่ามีบางคนของคนเหล่านั้นที่ออกจากหลุมดักเซียนไปแล้ว และเขาก็จะไปจัดการพวกนั้น ภายหลังเขาออกไป แน่นอนตอนนี้เขาจะจัดการพวกที่ยังอยู่ตรงนี้ก่อน

พวกคนที่หาข่าวให้หยางเฉินไม่ได้กลับมาที่หมู่บ้านหลีโลวครึ่งปีแล้ว แต่อย่างมากอีกไม่เกินสามเดือนพวกเขาต้องกลับมาเติมเสบียง แล้วโอกาสของหยางเฉินก็จะมาถึงในตอนที่พวกนั้นจะย้อนเข้าไปหลุมดักเซียนอีกครั้ง

มันเป็นโชคร้าย ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนหยางเฉินจะเป็นคนมีโชคที่สุด เวลานี้โชคดี ๆ ไม่ย่างกรายเข้ามา แม้ว่าสามเดือนให้หลังของการปรับแต่งกล่องกระบี่และเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณแล้วเสร็จ บุคคลที่เขาอยากจะฆ่าก็ไม่ปรากฏกาย มันดูไม่ปกติ เขาจึงนำยาเม็ดพลังหยวนไปให้ ผู้ดูแลหลุมดักเซียนเพื่อสอบถามข่าวจากเขา

แต่ผู้ที่ทำหน้าที่นี้อยู่นั้นไม่ต้องการที่จะช่วยหยางเฉิน เขาไม่ชอบหยางเฉินตั้งแต่เรื่องราวที่เกิดกับจินเตาก่อนนี้  แม้หยางเฉินจะเป็นผู้ปรุงโอสถที่มีอนาคตอันยิ่งใหญ่ ก้อมิอาจดึงความสนใจจากเขาได้ …แต่เขาก็ไม่กล้ามองข้ามเรื่องความเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น และผนวกกับยาเม็ดพลังหยวน เขารีบบอกตำแหน่งที่อยู่พวกนั้นทันที  (5555 นึกว่าแน่)

คนพวกนั้นได้ออกจากหลุมดักเซียนไปแล้ว มันเป็นเหตุที่เกิดตอนที่เขาเข้ารับหน้าที่นี้พอดี และเป็นการไปอย่างลับ ๆ ดังนั้นนอกจากเขา ไม่มีผู้ใดทราบเรื่องนี้  “เจ้าพวกนี้ ช่างอายุยืนเสียจริง”

เรื่องนี้ หยางเฉินมิได้รู้สึกผิดหวังแต่ประการใด มันก็เป็นแค่การหลบหนีการตามฆ่าเท่านั้น แค่เรื่องของเวลา เขาสามารถที่จะใช้ยาเม็ดการบ่มเพาะระดับที่สองต่อคนจำนวนมากเพื่อแลกกับศีรษะพวกนั้น ที่น่าเสียดายก็แค่ไม่ได้ตัดหัวพวกมันด้วยตัวเอง

ในเมื่อไร้ประโยชน์ที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป เขาก็ตัดสินใจที่จะไปจากหลุมดักเซียน ทันทีนั้นเลย และเขาพบผู้ดูแลที่หวนกลับมาปฏิบัติหน้าที่ ที่ค่ายกลของหลุมดักเซียน

ในใจของเขาคือเร่งกลับบ้าน ตอนนี้เขาห่างจากค่ายกลของปากทางหลุมดักเซียนไม่ถึงสองร้อยลี้

ทันใดเขารับรู้ได้ถึงรังสีแห่งการฆ่ามาจากทุกทิศทุกทาง เมื่อตรวจสอบด้วยจิตวิญญาณการรับรู้แล้ว รอยยิ้มพลันปรากฏบนใบหน้าของ
หยางเฉิน

ข้าท่องเที่ยวควานหากว้างไกล ไหนเลยกลายเป็นพวกเจ้ามาหาข้าเอง”

หยางเฉินหยุดเอ่ยแล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

ท่ามกลางเสียงหัวเราะของหยางเฉิน เงาร่างนับสิบกระจายโอบล้อมเขาไว้ เจ็ดคนในนั้นเป็นพวกที่เคยพยายามฆ่าเขาที่ธารลาวา ส่วนคนอื่นเขาไม่ทราบ ดังนั้นการอยู่ในสถานที่นี้น่าจะเป็นการบ่งบอกว่าเพื่อช่วยคนเหล่านี้

น่าคิดการที่ผู้บ่มเพาะระดับรวบรวมลมปราณ จะสามารถเข้าถึงก่อสร้างรากฐานในเวลาไม่กี่ปี”

ผู้เอ่ยวาจาเป็นบุคคลแรกที่ไล่ล่าหยางเฉิน จ้องมองหยางเฉินด้วยท่าทีซีดเซียว และเอ่ยต่ออย่างยิ้มแย้ม

ในช่วงสองสามปีมานี้ เพราะเจ้าพวกเราต้องอยู่อย่างระแวงในทุกที่ของหลุมดักเซียน นักสู้หยางสำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จในวัยขนาดเจ้า มันมากพอที่จะภาคภูมิแล้วล่ะ …แต่ถ้าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเราคงไม่มีวันสุขสงบ เอาล่ะพูดพอละ เราคงต้องส่งเจ้าไปตามทางซะที

ข้ารอพวกเจ้าในหลุมดักเซียนมาตลอดสามเดือน แต่ข้าไม่คาดคิดว่าพวกเจ้าจะมารอข้าที่ด้านนอกหลุมดักเซียน!”

หยางเฉินมองกวาดไปแล้วหัวเราะเสียงดัง แล้วเอ่ยด้วยเสียงก้องกังวาน

ดี …ดีจริง ๆ ! สำหรับข้าจัดการข้างนอกก็มีค่าเท่าเดิม”

หลังจบวาจา หยางเฉินแบมือออก ดาบลานประหารเซียนปรากฏในมือของเขา เขาถือดาบเอียงลง สายตากวาดไปยังทั้งสิบคนรอบกาย หลังจากมองแต่ละคนจนครบ เขาเอ่ยว่า

มันต้องมีผู้รับผิดชอบต่อเรื่องราวครั้งนี้ หนี้สินทุกรายต้องมีลูกหนี้ พวกเราไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องในอดีต พวกเจ้าเคยตามล่าเอาชีวิตข้า ดังนั้นอย่ามาตำหนิข้าที่ต้องเอาชีวิตของเจ้า”

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ21 พฤษภาคม 2561 เวลา 08:12

    รอพี่หยางร่ายบทสวดเสร็จก็เตรียมฌาปนกิจต่อได้เลยฮะ

    ตอบลบ
  2. ในที่สุดคำว่าลูกหนี้ต้องชดใช้หนี้ก็มาถึง รอมานานนนนนนนนนนนนนมากกกกกกกกกกกก

    ตอบลบ
  3. อยากจ้างพี่หยางมาเก็บเงิน ใครกล้าไม่จ่าย...

    ตอบลบ