แม้ว่าเขาจะมีผงพิษจากภายในของมังกรวารีเพียงเล็กน้อยแต่ก็เป็นส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงอย่างยิ่ง
ดังนั้นการกลั่นยังคงต้องใช้เวลาหนึ่งวันอยู่ดี โชคดีที่ส่วนประกอบของจิตวิญญาณนั้นง่ายที่จะควบคุมจึงไม่เป็นปัญหาใหญ่แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มกลั่นยาอย่างเป็นทางการเขาต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ความเป็นพิษที่อยู่ภายในนั้นหมดฤทธิ์ลงก่อน
ภายใต้อำนาจของพลังจิตวิญญาณและพลังโอสถจากการกลั่นหญ้าฟ้าครามทำให้เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณนั้นเลื่อนระดับขึ้นอีกหนึ่งขั้นและได้หลอมรวมกับอำนาจจิตวิญญาณ
ซึ่งยังคงมีรัศมีของสมบัติล้ำค่าเอาไว้ส่วนภายในเตาหลอมแก่นจิตวิญญาณนั้นอยู่ในกระบวนการที่จะกลายเป็นอาวุธวิเศษระดับกลาง
หยางเฉินมั่นใจว่าหลังจากขั้นตอนของการกลั่นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนจากอาวุธวิเศษระดับล่างเป็นอาวุธวิเศษระดับกลางที่น่ามหัศจรรย์
หลังจากบรรลุระดับก่อสร้างรากฐานมีบางสิ่งบางอย่างในพลังจิตวิญญาณและจิตสำนึกจิตวิญญาณระดับสูงของเขาได้เปลี่ยนไป
เมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ในระดับรวบรวมลมปราณ
ไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่นใดเอาแค่ความจริงที่ว่าเขาในตอนนี้สามารถเชื่อมต่อกับอำนาจจิตวิญญาณระหว่างโลกและสรวงสวรรค์ได้โดยทันทีทันใด
และยังอนุญาตให้เขารักษาพลังที่น่ากลัวนี้ไว้ได้โดยไม่คำนึงถึงว่าเขากำลังบ่มเพาะหรือต่อสู้กับอะไรอยู่
การปรุงยานั้นก็เหมือนกันน้ำอมฤตที่เมื่อก่อนหน้านี้เขาไม่สามารถกลั่นได้ ก็มีโอกาสที่จะสามารถกลั่นให้สำเร็จได้โดยทันที
หยางเฉินต้องการให้จิตวิญญาณของยานั้นมีพลังอำนาจมากขึ้นและส่วนประกอบของจิตวิญญาณของพิษมังกรวารีน่าจะอ่อนเกินไปสำหรับจะช่วยสนับสนุนจุดประสงค์ของของยาเม็ดคว้าสวรรค์
ดังนั้นขั้นตอนระหว่างการกลั่นนี้เขาต้องผสมคุณสมบัติมากกว่าสิบของน้ำอมฤตระดับรากฐานทั้งหมด
เพราะมีความเป็นไปได้มากว่าการกลั่นนี้จะล้มเหลวและหยางเฉินยังคงต้องการกลั่นสิ่งอื่นที่ในระยะเวลาสั้นๆ
สามารถผสมกลมกลืนกับหยินหยางห้าธาตุได้อย่างสมบูรณ์
เขาต้องการเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง
ทั้งสองฝ่ายต่างพิถีพิถันในการกลั่น
เมื่อพูดเปรียบเทียบกันกับทางฝั่งของหยางเฉินนั้นค่อนข้างเรียบง่าย
ดังนั้นขั้นตอนแรกจึงเสร็จสมบูรณ์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มีสิ่งเหล่านี้พร้อมแล้วหยางเฉินในตอนนี้น่าจะสำเร็จขั้นตอนสุดท้ายของยาเม็ดคว้าสวรรค์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ แล้ว หยางเฉินนั้นมีความเข้าใจเกี่ยวกับยาเม็ดคว้าสวรรค์มากกว่ามาก
แม้ว่าเขาจะไม่ได้กินหมูแต่เขาก็เห็นหมูวิ่ง
ถึงแม้ว่าจะเป็นอาวุโสหวูผู้ซึ่งมีระดับบ่มเพาะสูงสุดเหนือพวกเขาก็ไม่สามารถมีความรู้และประสบการณ์เช่นหยางเฉินได้
แม้ว่าหยางเฉินจะไม่รู้วิธีการกลั่นยาเม็ดคว้าสวรรค์ในขั้นตอนสุดท้ายแต่ถ้าหากว่าเขาอยู่ในระดับบ่มเพาะที่เทียบเท่าอาวุโสหวู
เขาคงมีความเชี่ยวชาญในการกลั่นโดยไร้ปัญหามากกว่านี้อย่างแน่นอน
ปัญหาใหญ่ที่สุดที่เป็นจุดอ่อนของเขาคือระดับบ่มเพาะดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกที่จะให้คนอื่นเข้าร่วมในการกลั่นยาครั้งนี้
เขาต้องคิดหาวิธีที่จะแก้ไขภายหลัง
น้ำอมฤตพื้นฐานทั้งหมดถูกดูดซึมเข้าสู่หญ้าฟ้าครามทั้งหมดแล้ว
การกลั่นยาเม็ดคว้าสวรรค์เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย
ตอนนี้ในหญ้าฟ้าครามก็มีส่วนผสมที่ประกอบทั้งหยินและหยางทั้งห้าธาตุ
นั่นหมายถึงส่วนผสมทั้งหมดของน้ำอมฤตพื้นฐานจะไม่มีปัญหาใด ๆ
เกิดขึ้นตราบเท่าที่วิธีการกลั่นนั้นถูกต้อง
ขณะนี้ทุกสิ่งทุกอย่างสมบูรณ์ไร้ซึ่งอุปสรรคใด ๆ
ชัดเจนแล้วว่าคนทั้งสามนั้นร่วมมือกันได้อย่างดี
ในตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทั้งสามไม่จำเป็นต้องผลัดกันควบคุมเตาหลอมปรุงยาอีกต่อไป
แต่เปลี่ยนมาเป็นช่วยกันกลั่นยาภายใต้การนำของเติ้งอี้และอีกสองคนก็ช่วยกันนับสนุนเธอการหลอมโอสถน้ำนั้นต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะสำเร็จ
และหลังจากนั้นก็จะเป็นเวลาของการเพิ่มจิตวิญญาณยาลงไป
นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่สุดไม่ว่าจิตวิญญาณยาจะหลอมสำเร็จหรือไม่มันจะเป็นตัวกำหนดชี้ว่ายาจะสามารถกลั่นได้หรือไม่
ส่วนประกอบจิตวิญญาณนั้นได้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
พิษของมังกรวารีถูกเก็บรักษาไว้ในกระเป๋าจัดเก็บสัตว์ป่าของฟั่นฉาน
หลังจากถูกทรมานอย่างไม่หยุดหย่อนจากฟั่นฉานและอาวุโสหวู
ตอนนี้มันอยู่ในขั้นลมหายใจสุดท้ายแล้ว พวกเขาเพียงแค่รอเวลาที่ส่วนประกอบจิตวิญญาณนั้นต้องใช้พวกเขาก็จะสกัดพิษออกมา
ในขณะที่มังกรวารียังมีชีวิตอยู่
หยางเฉินก็ถึงขั้นตอนของการกลั่นแล้วเช่นกันตอนนี้
เขามองดูคนทั้งสามทำงานอย่างตั้งใจเหมือนกับว่าเขาต้องการเรียนรู้วิธีในการกลั่นจากคนเหล่านี้
ในเวลานี้เเม้แต่เค่อเหลียนหยุ่นที่มักจะแสดงความไม่พอใจต่อหยางเฉิน
ก็ไม่มีกำลังเหลือพอที่จะมาใส่ใจเขาผู้เชี่ยวชาญปรุงยาระดับสูงทั้งสามนั้นทุ่มสมาธิทั้งหมดไปกับการควบคุมเตาหลอม
โดยไม่กล้าเสียสมาธิแม้แต่วินาทีเดียว
เตาหลอมยาที่กำลังถูกกลั่นโดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูงนั้นเดือดพล่านปล่อยกลุ่มควันสีม่วงลอยออกมาจากเตาหลอม
และเปลี่ยนเป็นควันกลุ่มใหญ่กระจายรัศมีไปทั่วยึดพื้นที่หลายเมตร
นักบ่มเพาะที่ยังอยู่ในระดับเริ่มต้นนั้นไม่สามารถเข้าใกล้ได้โชคดีที่หยางเฉินเป็นนักบ่มเพาะธาตุไฟ
อีกทั้งยังอยู่ภายใต้อำนาจของเปลวไฟแกนพิภพดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขามากนัก
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทั้งสามต่างนั่งตามทิศทางของขาเตาหลอมยาทั้งสามขาต่างคนต่างจัดการกับเปลวไฟที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละคน
เพื่อกลั่นโอสถน้ำในเตาหลอมยาอย่างไม่หยุดหย่อน
ตั้งแต่ฝาเตาหลอมถูกปิดหยางเฉินก็ไม่รู้ความเคลื่อนไหวภายในเตาหลอมยา
ดังนั้นเขาจึงได้แต่จับตาเฝ้าสังเกตคนทั้งสามไว้อย่างระมัดระวัง
ขณะเดียวกันก็ใส่เส้นด้ายจิตสำนึกจิตวิญญาณตรวจสอบและรอการมาถึงของ
ช่วงเวลาสุดท้าย
ภายใต้การควบคุมของคนทั้งสามเปลวไฟภายในเตาหลอมนั้นแรงค่อนข้างสม่ำเสมอ
แต่เหมือนจะเอนเอียงไปในทางเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
การหมักของส่วนผสมนับหมื่นถูกผสมเข้าด้วยกันภายในเตาหลอม
เพื่อที่จะกลั่นยาเม็ดเล็กๆซึ่งต้องใช้ความสามารถอย่างสูง
แม้ว่าอาวุโสหวูและฟั่นฉานจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการกลั่นนี้
แต่พวกเขาก็นั่งห่างออกไม่ประมาณห้าก้าวจากแท่นกลั่น เตรียมพร้อมเสมอสำหรับเอาส่วนประกอบจิตวิญญาณมังกรวารีออกมา
หลายวันผ่านไปความรุนแรงของเปลวไฟของเตาหลอมยาก็ถึงจุดเดือดเตากลอมยาสีม่วงเปลี่ยนเป็นสีขาวอ่อน
เกิดเม็ดเหงื่อเป็นประกายขึ้นที่หน้าผากของเติ้งอี้ เพิงจูและเค่อเหลียนหยุน
แต่ในเวลานี้ไม่มีเวลา แม้แต่จะเช็ดออกมือทั้งสองข้างนั้นกดลงบนเตาหลอมยาเพื่อให้ความแรงของเปลวไฟที่วุ่นวายนั้นมีประสิทธิภาพที่สุด
“ส่วนประกอบจิตวิญญาณ!”
เติ้งอี้ตะโกนบอกในทันทีที่ฝาของเตาหลอมยาเปิดออกสูงขึ้นในอากาศและเผยให้เห็นสถานการณ์ภายในของเตาหลอมยา
โอสถน้ำลักษณะเป็นลูกบอลขนาดเท่าหัวคนกลิ้งไปมาล้อมรอบไฟทั้งสามดวงปล่อยกลิ่นหอมหวานไปทั่ว
เพียงแค่ร่างกายของหยางเฉินได้สูดดมกลิ่นพลังจิตวิญญาณของเขาก็เคลื่อนไหว
ส่งผลให้หยางเฉินหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยความตื่นเต้น
แม้ยาเม็ดจะไม่สมบูรณ์ก็ให้ผลได้ขนาดนี้ไม่เสียชื่อยาเม็ดคว้าสวรรค์เลย
อาวุโสหวูและฟั่นฉานที่อยู่ด้านข้างไม่กล้าที่จะนิ่งเฉย
พวกเขาปรากฎตัวขึ้นข้างเตาหลอมรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ
ฟั่นฉานเปิดกระเป๋าจัดเก็บสัตว์อสูรของเขาและดึงมังกรวารีขนาดยาวนับสิบเมตรออกมา
ขนาดตัวที่ใหญ่มหึมากินพื้นที่ว่างทั้งหมดของฝั่งบริเวณการกลั่น
มังกรวารีหลังจากออกมาแล้วก็ขยับเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มันอยู่ในระยะลมหายใจเฮือกสุดท้าย
มีเพียงสายตามันเท่านั้นที่ยังพอเห็นว่ามันยังมีชีวิตอยู่
อาวุโสหวูกดมือข้างหนึ่งลงไปที่หัวของมังกาวารีและใช้มืออีกข้างชกลงไปที่หัวของมันอย่างแรง
ปัง!
หัวขนาดใหญ่ถูกเปิดออกในจุดที่ชกและลูกบอลแสงอ่อนๆก็ลอยออกมาจากหัว
อาวุโสหวูรีบคว้ามันไว้อย่างรวดเร็วและโยนลงไปในเตาหลอมยา
ฟั่นฉานเก็บซากมังกรวารีเข้าในกระเป๋าจัดเก็บอย่างทันทีทุกคนต่างจ้องไปที่เตาหลอมยาด้วยตาเปล่งประกาย
ลูกบอลแสงสีขาวหลอมรวมเข้ากับโอสถน้ำอย่างทันที
หลังจากนั้นเตาหลอมยาก็ถูกปิดลงอีกครั้งเติ้งอี้เพิงจูและเค่อเหลียนหยุนก็เริ่มต้นที่จะการกลั่นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
นี่เป็นขั้นตอนสุดท้ายและเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด
ถ้าหากว่าขั้นตอนนี้สำเร็จยาเม็ดคว้าสวรรค์ก็จะออกมาจากเตาหลอมอย่างเรียบร้อย
แต่ถ้าหากว่าพวกเขาทำอะไรผิดพลาดไปในขั้นตอนนี้ก็เท่ากับว่าสิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็ไม่มีความหมาย
ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทั้งสามก็ทุ่มกำลังทั้งหมดของตนสำหรับการสู้ขั้นสุดท้าย
ในตอนนี้อาวุโสหวู
หยางเฉินและฟั่นฉานไม่จำเป็นต้องทำอะไรทั้งนั้นเพียงแค่เฝ้ารอเวลาให้ฝาเตาหลอมยาเปิดออก
การหลอมดำเนินต่อเนื่องไปอีกหลายวันหลายคืน
ในช่วงเวลานี้โอสถน้ำจำนวนหนึ่งกำลังต่อต้านที่จะหลอมรวมกับส่วนประกอบจิตวิญญาณที่อ่อนแอ่ของมังกรวารี
เสียงของการหลอมรวมของโอสถน้ำภายในเตาหลอมยาดังก้องออกมาถึงด้านนอก
ในขณะที่อาวุโสหวูป้อนน้ำอมฤตเพื่อฟื้นฟูพลังจิตวิญญาณให้ผู้เช่ียวชาญปรุงยาทั้งสามทุกชั่วโมงหยาดเหงื่อบนใบหน้าของพวกเขายังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นเตาหลอมที่กำลังโอสถน้ำอยู่ก็ยังไม่หยุดสั่นและเสียงหลอมยาภายในเตาหลอมก็ยังคงดังก้องกัง
วานตลอดเวลา
ผู้คนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างเป็นกังวลอย่างมากรวมไปถึงผู้ปรุงยาและคนที่นั่งอยุ่ข้างๆ
แต่คนที่ดูกระวนกระวายสุดก็คืออาวุโสหวูการจะกลั่นยาเม็ดคว้าสวรรค์ในครั้งนี้
เขาใช้เวลาเตรียมตัวมาหลายร้อยปีกว่าจะได้มาซึ่งสูตรปรุงยากว่าจะตามหาส่วนผสมต่าง
ๆ ของยาเม็ด อีกไม่นานเขาก็จะได้รู้ผลแล้ว
ไม่ว่าเขาจะทำสำเร็จหรือล้มเหลวคำถามที่เกิดขึ้นกับอาวุโสหวูคือเขาจะยังคงรักษาท่าทางที่สงบนิ่งมั่นคงของผู้เชี่ยวชาญระดับออกผลที่เขามักจะแสดงออกมาได้หรือไม่
ในที่สุดเสียงของการหลอมรวมก็เบาลงระหว่างช่วงเวลานี้เสียงนั้นดังขึ้น
ๆ เรื่อย ๆ ราวกับว่าความแข็งแกร่งของส่วนประกอบจิตวิญญาณเริ่มอ่อน กำลังลง ๆ
และในที่สุดก็หยุดลงอย่างสมบูรณ์
อาการผ่อนคลายค่อย ๆ
ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทั้งสามคน อาวุโสหวูก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ
เช่นกันบนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้ม
“เหมือนว่าพวกเขาจะทำสำเร็จแล้ว!”
“ไม่จำเป็น!”
เสียงของหยางเฉินดังออกมาจากด้านข้างคำพูดของเขาหนึ่งประโยคทำให้ทุกคนย่นคิ้ว
ผู้เชี่ยวชาญระดับผลิดอกสี่คนและผู้เชี่ยวชาญระดับออกผลหนึ่งคนไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเลย
แต่เด็กหนุ่มที่เพิ่งบรรลุระดับรากฐานไม่สำคัญผู้นี้กลับเอ่ยคำที่ทำให้ท้อใจเช่นนี้ออกมา
ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจนัก
“หากการที่น้ำอมฤตนั้นเรียบง่ายเช่นนี้
กิตติศัพท์ของการคว้าสวรรค์ก็ช่างเป็นเรื่องง่ายดายนัก!”
ภายใต้ความรู้สึกไม่พอใจของผู้เชี่ยวชาญทั้งสามนั้นหยางเฉินยักคิ้วและพูดต่ออย่างไม่มีกลัว
“บางทีน้ำอมฤตอาจยังคงมีการตีกลับอยู่!”
หยางเฉินไม่ได้กล่าวเช่นนี้เพื่ออธิบายผ่าน
ๆ ให้ตนเองหลุดจากปัญหาแต่สิ่งที่เขาได้ยินมาเกี่ยวกับยาเม็ดคว้าสวรรค์
ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้นั้นมันไม่ใช่อะไรที่เรียบง่ายเช่นนี้หากว่าพวกเขาละเลยขั้นตอนสุดท้ายและผ่อนคลายกันในเวลานี้บางทีพวกเขาอาจจะไม่มีทางรักษายาเม็ดไว้ได้
ถึงแม้ว่าคำพูดเหล่านี้ไม่น่ายินดีที่จะได้ยินนักแต่ทุกคนก็เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
ดังนั้นทุกคนต่างรวบรวมกำลังในทันทีไม่กล้าที่จะผ่อนคลายสักนิด
โอกาสที่จะจารึกชื่อพวกเขาไว้นั้นอยู่ตรงหน้าแล้วไม่มีใครอยากจะพลาดเพราะความสะเพร่า
เพ็ง!
เสียงดังกึกก้องดังออกมาจากข้างในเตาหลอมยาเตาปรุงยาขนาดใหญ่
ถูกเคลื่อนย้ายไปตามแนวนอนหลายสิบเมตร
เนื่องจากเเรงกระแทกผลจากแรงกระแทกนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามหล่นมาด้านหลัง
โชคดีที่หยางเฉินเตือนพวกเขาจึงทำให้ปลอดภัย
แม้ว่าจะโดนพลังมหาศาลกระแทกก็ไม่ส่งผลต่อการกลั่นของผู้เชี่ยวชาญปรุงยามือทั้งหกยังคงกดลงอยู่บนเตาปรุงยาเช่นเดิม
ความแรงของเปลวไฟยังคงส่งพลังอยู่ต่อเนื่องตลอดเวลาอาวุโสหวูมองไปยังหยางเฉินก็พยักหน้าให้เป็นการแสดงออกถึงการขอบคุณเขาจากนั้นก็หันกลับไปที่เตาปรุงยาอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าผลกระทบครั้งนี้ได้ใช้พลังจิตวิญญาณของยาไปจนหมด
เนื่องจากไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้นอีก
การกลั่นอย่างเงียบสงบยังคงต่อเนื่องอีกหนึ่งวันหนึ่งคืน
หลังจากเห็นว่าอุณหภูมิภายในนั้นมากพอแล้วเติ้งอี้ก็ตะโกนออกมา :
“ระวังข้ากำลังจะควบแน่นเม็ดยาให้แข็งตัว!”
เติ้งอี้ใช้มือข้างหนึ่งกดลงบนเตาหลอมเพื่อควบคุมความร้อน
ส่วนอีกข้างยกขึ้นและทำสัญญาณที่ซับซ้อนบางอย่างติด ๆ กันเพื่อกระตุ้นโอสถ
น้ำภายในเตาหลอมและเริ่มต้นที่จะควบแน่นเม็ดยาให้แข็งตัว
เมื่อยาเม็ดแข็งตัวและรวมตัวกันแล้วก็ถือว่านี่เป็นขั้นตอนสุดท้าย
งานทุกอย่างก็จะเสร็จสมบูรณ์ ใบหน้าของอาวุโสหวูมองดูด้วยความคาดหวัง
หากไม่เกิดเหตุผิดพลาดอะไรหลังจากขั้นตอนนี้แล้วเขาก็จะได้ครอบครองยาเม็ดคว้าสวรรค์
เขาไม่สามารถบรรยายความตื่นเต้นออกมาเป็นคำพูดได้
ไม่ใช่เพียงแต่อาวุโสหวูเท่านั้นที่แสดงออกถึงความคาดหวัง
ทั้งเติ้งอี้เพิงจูเค่อเหลียนหยุนและฟั่นฉานก็เช่นกัน
รอยยิ้มยังไม่ทันที่จะได้ปรากฏบนใบหน้าของทุกคน
เมื่อท่าทางของเติ้งอี้เปลี่ยนไปในทันทีทันใดสีหน้าของเพิงจูและเค่อเหลียนหยุนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
ท่าทางสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนทั้งสามทำให้หัวใจของอาวุโสหวูและฟั่นฉานเย็นวาบ
เพราะทั้งสามคนนั้นรู้สถานการณ์ภายในเตาหลอมเป็นอย่างดี
เป็นไปได้ไหมว่าการกลั่นนี้ล้มเหลว แต่ทั้งสามนั้นยังไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
ดังนั้นจึงไม่มีใครรุ้จริงๆว่าอะไรเกิดขึ้นภายในเตาหลอม
มีเพียงหยางเฉินคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงใจเย็นอยู่น้ำอมฤตนี้อ่อนแอมาก
มันจะสามารถอ้างชื่อว่าเป็นยาเม็ดคว้าสวรรค์ได้อย่างไร
หากว่าการกลั่นนั้นสำเร็จก็คงเป็นได้เพียงการขโมยสวรรค์เท่านั้น
มันไม่มีอะไรที่จะเกี่ยวข้องกับคำว่าคว้าได้เลยคงเป็นปาฏิหาริย์หากว่ามันสำเร็จได้
ท่าทางของเติ้งอี้แสดงออกถึงความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ
นางได้ทดลองวิธีการต่างๆอย่างสิ้นหวัง เพิงจูและเค่อเหลียนหยุนต่างขมวดคิ้วแน่นและคอยช่วยเหลือนางโดยไม่กล่าวอะไรออกมาทั้งสิ้น
หลังจากที่เติงอี้ได้ลองวิธีสุดท้ายนางก็หยุดมืองลงอย่างสิ้นหวังและกล่าวกับเพิงจูและเค่อเหลียหยุน
“ข้าไม่สามารถควบแน่นเม็ดยาให้แข็งตัวได้ เจ้าทั้งสองต้องลองดู!”
คำเหล่านี้สามารถอธิบายสถานการณ์ภายในเตาหลอมได้ทั้งหมด
ได้ยินเช่นนี้ความรู้สึกของอาวุโสหวูก็จมดิ่ง
แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเขาก็มองไปยังเพิงจูและเค่อเหลียนหยุนที่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น
เวลานี้เพิงจูไม่ต้องสนใจในมารยาทใด ๆ
ทั้งสิ้น
เขาก็ผายมือใหญ่ของเขาออกมาและเริ่มใช้วิธีของตนเองในการควบแน่นเม็ดยาให้แข็งตัว
ในเวลาเพียงสั้นๆเขาก็ได้ใช้วิธีไปมากกว่าสิบ
แต่ท้ายที่สุดผลของเขาก็เป็นเหมือนเติงอี้เช่นกัน
เขาหยุดมือลงโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอย่างชัดเจน
คนสุดท้ายที่ถูกนึกถึงคือเค่อเหลียนหยุนจิตวิญญาณของเขาถูกกระตุ้นอย่างยิ่ง
โดยไม่สนใจเสียงที่ได้ยินเขาใช้ความรู้ที่มีทั้งหมดในชีวิตอย่างไม่มีซ่อนเร้นไว้
แม้กระทั้งหยางเฉินก็เห็นว่าวิธีการในการควบแน่นเม็ดยาให้แข็งและรวมเม็ดยาของเขานั้นดูดีกว่าทั้งสองคนที่ผ่านมา
เขารู้สึกทึ่งในพวกนั้นมาก
เมื่อเติ้งอี้และเพิงจูไม่สามารถควบแน่นเม็ดยาให้แข็งตัวได้ก็เป็นโอกาสของเขาที่จะฉวยเอาไว้
หากว่าเป็นเขาที่สามารถเติ่มเต็มสิ่งปรารถนาในชีวิตของอาวุโสหวูได้ท่านก็คงจะยินดีที่จะช่วยให้เขาไม่ต้องเสียงรางวัลไปกับการพนันครั้งนั้น
ไม่ใช่เพียงแค่นั้นป้ายชื่ออันใหญ่ที่จะจารึกว่าเขาเป็นผู้ที่สามารถกลั่นยาเม็ดคว้าสวรรค์จะส่งผลให้
เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาอันดับหนึ่งและอยู่เหนือผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทุกคนในโลกแห่งนิรันดร์
เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะกอบโกยทุกสิ่งไว้เพียงแค่คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้วินาทีนี้เองที่เค่อเหลียนหยุนเสียสมาธิ
ความหวังที่กระจายออกมาจากใบหน้าของอาวุโสหวูที่มองดูความมั่นใจของเค่อเหลียนหยุนก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสิ้นหวัง
เมื่อมือของเค่อเหลียนหยุนวางมือลงอย่างช้าๆ
“ล้มเหลว!”
ท่าทางที่ผู้เชี่ยวชาญระดับออกผลแสดงออกมานั้นช่างสง่างามมากกว่าผู้อื่นและเขาก็ไม่ได้แสดงออกเหมือนคนแพ้จากสถานการณ์นี้
เห็นได้ว่าผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทั้งสามได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว
เขาก็ต้องยอมรับว่าการกลั่นครั้งนี้นั้นล้มเหลว
“หยุดมือเถอะ! อย่างไรสูตรยาก็ไม่สมบูรณ์อยู่แล้วข้าไม่โทษพวกเจ้าหรอก”
คำพูดของอาวุโสหวูเป็นการประกาศความพ่ายแพ้ต่อทุกคนอย่างเป็นทางการ
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาทั้งสามต่างปล่อยมือจากเตาหลอมอย่างผิดหวังฝาของเตาหลอมถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติเผยให้เห็นเหตุการณ์ภายใน
นอกเหนือจากก้อนดำๆในนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่ถึงแม้ว่าจะปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งออกมาเหมือนก่อน
แต่ก็ชัดเจนแล้วว่านี่คือตะกอนของการกลั่นที่ล้มเหลวไม่ใช่ยาเม็ดคว้าสวรรค์ที่พวกเขามองหาอยู่
มองดูก้อนดำๆนี่แล้วก็เกิดแสงสว่างในดวงตาของหยางเฉิน
หาเรื่องจิ๊กมาหรือไง
ตอบลบถึงมันจะเป็นขี้ยาแต่มันใช้ผสมยาระดับรองๆได้ถ้าใช้เป็น
ตอบลบ