ยาเม็ดลมปราณระดับสามนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพ
ใคร
ก็ตามที่
สามารถปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสามได้ถือว่าเป็น คนมี
พรสวรรค์พิเศษ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงเม็ดยาเม็ดลมปราณระดับสาม
ที่รู้จักกันดีนั้นเกือบทั้งหมดอยู่ในขั้นผลิดอก
แม้แต่การพบเจอพวกเขาก็
เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนับประสาอะไรกับการที่จะได้รับยาของพวกเขา
แต่น่าประหลาดใจ
หยางเฉินประกาศว่าภายในหนึ่งปีเขาจะสามารถ ปรุง
ยาเม็ดลมปราณระดับสามได้ต่อหน้าพวกเขา
จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ?
หลังออกมาจากหลุมดักเซี่ยนแล้วเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการปรุงยา
เม็ดลมปราณระดับสามหรือ?
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสามในขั้นรวบรวมลมปราณ? อย่าง
นี่ไม่เรียกว่าเป็นพรสวรรค์แต่เป็นสัตว์ประหลาด
ยาใดๆที่เป็น ยาเม็ด
ลมปราณระดับสามแม้ว่าจะเป็นยาเม็ดทั่วไปของยาเม็ดลมปราณก็
สามารถเปรียบเทียบกับ
ยาเม็ดหลินจือหยก เป็นที่รู้กันว่ายาหลินจือหยก
นั้นสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้หมดแม้กระทั่งนำคนกลับมาจาก
ความตาย
ยาตัวนี้ช่างร้ายกาจอย่างสมบูรณ์
“ศิษย์ผู้น้องหยาง
ข้ามาจากนิกายหนึ่งจักรวาลถ้าเจ้าเจอปัญหาอะไร
ที่หลุมดักเซียนนี้แค่บอกข้า”
“ศิษย์ผู้น้องหยางหลังออกมาจากหลุมดักเซี่ยนแล้วเจ้าต้องการอะไร
มองหาข้าได้ที่นิกายโม่หวิน”
ในเวลาไม่นานเสียงจำนวนมากเริ่มพูดคุยกับหยางเฉินเพื่อพยายาม
สร้างความประทับใจแก่เขา
มีกี่คนกันที่จะมีโอกาสเป็นเพื่อนกับ
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสามหรือใครก็ตามที่อยู่ในขั้น
รวบรวมลมปราณแล้วยังไม่ถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับ
สาม
ถ้าพวกเขาสามารถให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จะเป็นประโยชน์
ต่อ พวกเขาในอนาคต
แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้แม้แต่ผู้นำนิกาย นํ้า
ลายหยด
ความวุ่นวายอลหม่านในมุมหนึ่งของตลาดเรียกความสนใจจากทุกคน
คนเหล่านั้นมุ่งความสนใจดูเหตุการณ์เพราะไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลัง
พูดอะไรกัน
พวกเขาสับสนว่าทำไมเหล่าผู้บ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้น
ปลายจึงสามารถก่อสร้างรากฐานได้แม้ในเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญก่อลำต้น
เริ่มไล่ล่าเขา
ผู้บ่มเพาะขั้นรวบรวมลมปราณรวมตัวกันอยู่บริเวณหัวมุมนั้น
เป็นไปได้
ไหม
ว่านั่นคือผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสอง ทันใดนั้นพวก
เขา
ก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดเเละเริ่มพุ่งไปยังทิศทางนั้น
ผู้คนจำนวนมากเริ่มจับตัวชุมนุมกันและนั่นก็ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้หยาง
เฉินอยากหลบออกจากที่เกิดเหตุ
ความชื่นชมที่แสดงออกต่อหยางเฉิน
ของนักบ่มเพาะเหล่านี้ยิ่งทำให้ผู้คนเชื่อว่าเขาเป็นบุคคลที่น่าทึ่งเข้าไป
อีก
หยางเฉินคิดว่าแม้ว่าเจ้าแห่งพระราชวังหยางบริสุทธิ์ปรากฎขึ้น ตรง
นี้เขาก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
“ข้าน้อยหยางเฉินต้องขอบคุณน้ำใจของทุกท่าน”
ในตอนท้าย หยางเฉิ
นกุมมือขึ้นคำนับโดยรอบ
และกล่าวด้วยเสียงดังว่า :
“
ความสามารถอันเพียงผิวเผินของผู้น้อยนี่ไม่สมควรที่จะได้รับการ
ยกย่องจากท่านผู้อาวุโส
ข้ายังขาดเพลิงที่แตกต่างซึ่งสามารถพบเจอ
ได้ในที่ต่างๆ
ถ้าท่านผู้อาวุโสท่านใดมีข้อมูลเกี่ยวกับเพลิงที่แตกต่าง ข้า
เองก็พร้อมที่จะแลกกับเตาหลอมที่เต็มไปด้วยเม็ดยา”
พอได้ยินคำนี้ทุกคนจำบางสิ่งบางอย่างได้
สิ่งที่หยางเฉินพูดก่อนหน้า นี้
เกี่ยวกับความสามารถในการปรับตัวยาสามครั้งหลังจากที่กลับมาจาก
หลุมดักเซียนนั่นหมายความว่าเขาสามารถปรับตัวยาได้เพียงสามครั้ง
เพราะขาดเพลิงชั้นสูงบางส่วน
เมื่อใดที่เขารวบรวมเพลิงได้หมดเขาจะ
สามารถข้ามผ่านกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสาม
ทันที
แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อตอนหยางเฉินเป็นนักบ่มเพาะที่มีคุณลักษณะ
เป็น
ไฟเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถหาเพลิง
‘ไฟสุริยะแท้จริง’ โดย
บังเอิญ
ซึ่งเหมาะสมกับการบ่มเพาะของเขาเป็นอย่างมากไม่ งั้นเขา
คงจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้
ในการจะค้นหาเพลิงเพียงคน
เดียวนั้นเป็นงานที่ยากมาก
บางทีเขาอาจจะได้รับความ ช่วยเหลือจาก
คนเหล่านี้ในการค้นหาเพลิง
ด้วยการมอบของกำนัล บางอย่าง
ไม่ว่าเพลิงจะขั้นสูงหรือต่ำ
แม้ว่าจะไม่เหมาะกับหยางเฉินก็ตาม แต่ยัง
สามารถให้เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณดูดซับและเพิ่มขั้นได้
ดังนั้นข้อ
ตกลงแบบนี้มีแต่ประโยชน์ต่อหยางเฉินและไม่มีอันตรายใดๆ
แล้วทำไม
เขาจะไม่ทำหล่ะ?
สำหรับนักบ่มเพาะเหล่านี่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าว่าที่ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ด
ลมปราณขั้นสามในอนาคตต้องการอะไร
ดังนั้นถ้าพวกเขาต้องการ เม็ด
ยาจากหยางเฉินก็แค่ต้องใช้เส้นสายของพวกเขาในการสืบหา
ข้อมูล
เกี่ยวกับเรื่องนี้
ถ้าพวกเขาสามารถหาข้อมูลอะไรมาได้มันก็ถือ เป็น
โอกาสที่จะทำให้พวกเขาได้รับมิตรภาพจากหยางเฉิน
ในโลกนี้จะมี
ที่ไหนล่ะที่พวกเขาได้รับโอกาสง่ายๆที่จะประจบผู้เชี่ยว
ชาญปรุงยาเม็ด
ลมปราณขั้นสาม
นอกจากนี้ยังอยู่ขั้นรวบรวมลมปราณ
นักบ่มเพาะจำนวนไม่น้อยจากไปพร้อมกับความหวังทั้งหมด
ในที่สุด
หยางเฉินก็ไม่ต้องกุมมือคำนับรอบๆอีกต่อ
เขากลับมาเป็น ตัวเองและ
เริ่มสนใจเรื่องของตน
ในหลุมดักเซียนทุกคนสนใจแต่ตัวเอง และการ
สังหารจิตวิญญาณสัตว์อสูร
สำหรับการผูกมิตรภาพกับผู้เชี่ยวชาญปรุง
ยาพวกเขารู้ว่าจะต้องพยายามฉวยโอกาสที่มี
ถ้ามันจะช่วยอำนวยความ
สะดวกสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในภายหลังหลังจากที่พวกเขาออกมา
ทันทีหลังจากนั้นหยางเฉินก็หายตัวไปอีกครั้งในหลุมดักเซี่ยน
แต่ก็ไม่
ได้ทำให้เกิดความสงสัยใดๆ
ดั่งเช่นทุกคนที่เข้ามาหลุมดักเซี่ยนเพื่อฝึก
สังหารจิตวิญญาณสัตว์อสูร
ทุกคนในหลุมดักเซี่ยนมีวิถีชีวิตแบบนี้ พวก
เขาออกไปและพวกเขารู้ว่าที่ไหนที่สามารถพบจิตวิญญาณสัตว์
อสูร
เพื่อให้พวกเขาสังหารได้
เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรสำหรับหยางเฉิน
เพียงแต่ให้โอกาส
กับคนที่จะประจบเขา
และเป็นโอกาสให้หยางเฉินได้ขอความช่วยเหลือ
จากคนอื่นในการค้นหาเพลิงที่แตกต่าง
ไม่มีอะไรอื่นอีก
ปัจจุบันยางเฉินไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการได้รับ
เปลวเพลิงแกนพิภพ
ภายในห้าปีนี้หยางเฉินต้องเข้าพระราชวังหยาง
บริสุทธิ์ให้ได้
หยางเฉินไม่ลืมที่จะฝึกแม้สักวัน ทั้งหมดที่เขาทำไปเพียง
ปรารถนาที่จะแสดงความเคารพอาจารย์ของเขาอีกครั้ง
ลางสังหรณ์ของหยางเฉินนั้นแม่นมาก
ตราบใดที่เขาสามารถหาเปลว
เพลิงแกนพิภพภายในหลุมดักเซียนการบ่มเพาะของธาตุไฟของเขาก็จะ
สามารถถึงขั้นก่อสร้างรากฐานได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ณ จุดนั้นหยาง
เฉิน
ติดอยู่ในขั้นการรวบรวมลมปราณ หลายเรื่องที่เขาไม่สามารถ
จัดการ
อะไรได้เพราะเขาไม่ได้สร้างรากฐานอย่างเป็นมั่นคงและเชื่อม
ต่อกับพลังจิตวิญญาณของสวรรค์และแผ่นดิน
แม้กระทั่งการปกป้อง ตัว
เองเขาก็ต้องพึ่งพาวิธีการอื่น
การเดินทางไปยังที่ตั้งของเปลวเพลิงแกนพิภพนั้นเป็นไปอย่างผ่อน
คลาย
ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหนสัตว์อสูรใต้ภิพพ ต่างหายตัวไปอย่าง
รวดเร็ว
และไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆทั้งนั้น ในบางที่ทางด้านหลังของหยางเฉิ
นมีบางคนสะกดลอยเขาอย่างคิ้วขมวดแต่ด้วยความเร็วของหยางเฉินทำ
ให้ทุกคนไม่สามารถสะกดลอยเขาทัน
มันอาจเป็นไปได้ว่าพระราชวัง
หยางบริสุทธิ์ได้ค้นพบวิธีการที่จะอยู่ให้ห่างจากจิตวิญญาณสัตว์อสูร
ทำไมเขาจึงสามารถเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วได้อย่างไร? ทำไมสัตว์อสูร
ใต้พิภพโจมตีเขา?
คนนั้นได้แต่สงสัยและในขณะที่กำลังตรวจสอบเรื่องเข็มทิศในมือเขา
เมื่อมองตามไปยังทิศทางนั่นหยางเฉินก็หายไปแล้ว
เขาได้แต่ขมวดคิ้ว
จนหน้าผากย่นอีกครั้ง
“นักบ่มเพาะขั้นรวบรวมลมปราณที่สามารถบรรลุเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยา
เม็ดลมปราณขั้นสาม? คนแบบนี้ไม่ควรจะอยู่ที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์!”
ในอีกทิศทางหนึ่งเงาอีกตัวกล่าวขึ้นขณะถือเข็มทิศที่คล้ายๆกันว่า
การ
แสดงออกของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามีเจตนาที่ไม่ดี
ดูที่เข็มชี้ของเข็ม
ทิศที่มีการสั่นอย่างต่อเนื่อง
“พระราชวังหยางบริสุทธิ์ได้รับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แม้แต่เด็กขั้นรวบรวมลมปราณก็ยังโอ้อวดและคดโกงคนใน
หลุมดัก
เซียน
นี่เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับพวกเขา!”
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกล่าว
"เป็นไปได้ไหมที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์จะได้รับคำชี้แนะจากผู้
เชี่ยวชาญอาวุโส
มิฉะนั้นศิษย์ภายนอกของพวกเขาจะเพิ่มมาก ขึ้นใน
ช่วง 2-3
ปีที่ผ่านมาได้อย่างไร แม้แต่เด็กขั้นรวบรวมลมปราณก็สามารถ
กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณขั้นสองได้โดยง่าย
"
คนที่แต่งตัวประหลาดชุดสีดำกล่าวขึ้นอย่างอิจฉาและมองไปในทิศทาง
ที่หยางเฉินจากไป
“ฉันจะจับตัวเด็กหนุ่มผู้นี้มาทรมานเพื่อให้เขาเปิดเผยความลับของ
พระราชวังหยางบริสุทธิ์!"
ผู้คนจำนวนมากที่ติดตาม
หยางเฉินต่างมีความคิดที่หลากหลาย แต่สิ่ง
ที่น่าประหลาดที่สุดก็คือพวกเขาทั้งหมดถือเข็มทิศลักษณะแบบ
เดียวกันซึ่งชี้ไปที่ตำแหน่งของหยางเฉิน
แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะปลดปล่อยจิตสำนึกทางจิตวิญญาณ
ออกไปแต่
หยางเฉินก็ยังไม่สามารถค้นพบคนเหล่านี้ได้
เพราะพวกเขาติดตาม
หยางเฉินเว้นระยะห่างออกไปครึ่งชั่วยาม
แม้ว่าจิตสำนึกทางจิต
วิญญาณของหยางเฉินจะถึงระดับขั้นกลางก่อลำต้น
แต่พลังจิตวิญญาณ
ยังถือว่าอ่อนแอ
ในระยะทางหลายลี้นี้ หยางเฉินไม่สามารถตรวจพบใคร
สักคนถ้าเขาอยู่นอกระยะนี้
ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะไม่สามารถค้นพบพวกเขาได้
แต่พวกเขาก็ไม่
สามารถตามระดับความเร็วหยางเฉินได้ทัน
สัตว์อสูรใต้พิภพยังคงลุกขึ้น
มาโจมตีพวกเขาเช่นเดิม
นี่ยิ่งทำให้พวกเขาเชื่อว่าที่พระราชวังหยางบริ
สุทธิ๋ต้องมีวิธีที่ทำให้หยางเฉินสามารถรับมือกับสัตว์อสูรใต้พิภพ
วิํธีพวก
นี้พวกเราต้องได้รับมัน!
ที่จริงหยางเฉินไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วแต่อย่างใดแต่นี่คือความเร็วที่ปกติ
ของเขา
ในหลุมดักเซียนเฉินหยางไม่ได้ใช้การเหาะใน การเดินทาง
แม้ว่าเขาบรรลุการรวบรวมลมปราณขั้นที่เจ็ดแล้วก็ตาม
ในขณะที่นักบ่ม
เพาะคนอื่นที่มีความสามารถในการเหาะ
โดยไม่ต้องใช้ยันต์อาคมใดๆ
หลังจากบรรลุการรวบรวมลมปราณขั้นที่หก
แต่ภายใต้พื้นดินวิธีที่
ปลอดภัยที่สุดคือการเดินและสิ่งหนึ่งคือต้องไม่แสดงความสามารถออก
มา
ปัญหาคือแม้ว่าหยางเฉินจะเดินอย่างปกติแต่ผู้คนเหล่านั้นก็ต้องรีบเร่ง
ถ้าพวกเขาต้องการที่จะจับหยางเฉินเมื่อเทียบกับ
สัตว์อสูรหลายร้อย
หลายพันตัว
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญก่อสร้างรากฐานหรือแม้
แต่ขั้นก่อลำต้นก็ตามพวกเขายังคงต้องตัดสร้างทางด้วยเลือดต่อไป
หยางเฉินดูเหมือนไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังเขา
เขาเพียง
แค่เดินมุ่งไปตามทิศทางของเขาอย่างสงบในทิศทางนี้มี
ธารลาวาใต้ดิน
ที่เกิดจากหินหนืด
หลายคนรู้ว่าเปลวไฟแกนพิภพตั้งอยู่ในธารลาวา
เนื่องจากไม่ได้เป็นสถานที่ลึกลับใดๆ
จึงไม่มีใครคิดว่าแปลกที่เขาเดิน
ทางไปที่นั่น
ในกรณีนี้เขาเป็นนักบ่มเพาะคุณลักษณะไฟดังนั้นการมาที่
ธารลาวาจึงเหมาะ
แก่การบ่มเพาะของเขาเป็นอย่างมาก
ธารลาวามีแสงแตกออกมาตามล่องหินหนืดสีแดงเข้ม
และยังเป็นพื้นที่
เฉพาะ
ภายในหลุมดักเซียนที่ส่องแสงตามธรรมชาติ หินหนืดสีแดง
ค่อยๆไหลลงมาที่พื้นดินและบางครั้งจะไหลออกจากธารลาวา
สร้างรอย
เล็กๆน้อยๆ
บนพื้นดินและทำให้สภาพแวดล้อมที่นี่ร้อนอบอ้าวคน
ธรรมดาทั่วไปจะไม่สามารถอดทนต่อความร้อนนี้ได้
สิ่งที่ไม่คาดฝันที่สุดก็คือตอนที่หยางเฉินรีบมาที่นี่เงาทึบที่
สามารถมอง
เห็นกำลังยืนอยู่บนผาหินสูงคอยเฝ้ามองแม่น้ำหิน
หนืดนั่นเอง
"เจ้ามาในที่สุด!"
หลังจากการตรวจพบถึงตัวตนของหยางเฉิน
ผู้ที่ยืนอยู่เหนือหินก็ลงมา
และพูดด้วยความหยิ่งทะนง
:
“เจ้าใช้เวลานานพอสมควร!”
สีแดงเข้มสะท้อนกับผิวหน้าของเขาทำให้การปรากฏตัวของเขาคล้าย
กับหยางเฉินเมื่อตอนเขาออกมาจากแท่นประหารเซียน
"ที่นี่คือธารลาวาและเจ้ายังขาดเปลวเพลิง
บางทีเจ้า อาจลองใช้โชคที่มี
ของเจ้าดูว่าจะสามารถหาเปลวเพลิงแกนพิภพได้หรือไม่”
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ต้องการจะบอกความรู้สึกว่าการปรากฏตัวของหยาง
เฉินนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับเขา
และไม่รอให้หยางเฉินพูดเขาก็
ประกาศบทสรุปของเขาอย่างกระตือรือร้น
"ข้าพูดถูกไหม?"
"ถูกต้องอย่างที่สุด!"
ในที่สุดหยางเฉินก็มีโอกาศที่จะเปิดปาก
แต่เขาไม่ได้หวาดกลัวคนนั้น
ที่รู้เกี่ยวกับตัวเขา
เพราะคนผู้นั้นพูดเร็วเกินไป พูดด้วยความมั่นใจที่
สมบูรณ์โดยปราศจากความอับอายเกี่ยวกับความคิดของเขา
ไม่แม้แต่
จะให้
หยางเฉินมีเวลาที่จะพูด
เมื่อมองไปบนใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่กระหยิ่มใจของคนนั้น
หยางเฉินกล่าว
ว่า
"แม้ว่าเจ้าจะถูกแต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับข้าอย่างไร?"
คำถามวาทศิลป์นี้ทำให้รอยยิ้มที่มุมปากของคนผู้นั้นตกลง
เขาคาดไม่
ถึงว่าหยางเฉินจะตอบคำถามเขาแบบนี้ด้วยน้ำเสียงแบบนี้
สิ่งที่เขาคิดไว้คือหยางเฉินเป็นผู้เยาว์ขั้นรวบรวมลมปราณ
ดังนั้นเขาคาด
เดาแผนและเป้าหมายของหยางเฉินได้อย่างถูกต้องแน่นอน
สิ่งนี้จะ
ทำให้หยางเฉินตกใจและเมื่อเป็นเช่นนั้นหยางเฉินก็จะต้องขอคำชี้แนะ
จากเขา
หลังจากนั้นเขาก็จะประกาศชื่อของเขาให้ ดังก้องซึ่งจะทำให้
หยางเฉินรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าร้อง
แทรกซึมเข้าไปในหูเหมือนข่มขู่ซึ่ง
จะสามารถทำให้เขารู้สึกเลื่อมใสอย่างมาก
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเป็นขั้นต่อไป
อย่างแน่นอน
แต่เขาไม่คาดคิดว่าหยางเฉินจะ
โต้ตอบแบบนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง
แผนการที่เขาคิดวางแผนมานานก็ล้มเหลว
สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเป็นผู้ที่
ได้รับความชื่นชอบมาอย่างยาวนานและหลายคนไล่ตามเขาภายใน
นิกาย
บินออกมาด้วยบันดาลโทสะเนื่องจากความอับอาย
“เข้าประเด็นเลยเด็กน้อย
ข้าต้องการรู้บางอย่างจากเจ้า ถ้าเจ้าตอบ
คำถามข้ามันจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเจ้าอย่างมาก”
คนที่เคยพูดอย่างใจเย็นก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนน้ำเสียงของเขาทันที:
“เจ้าไม่ควรทิ้งชีวิตของเจ้าเพื่อรักษาหน้าตัวเอง”
"ด้วยความยินดี
ตราบใดที่ท่านสามารถให้ประโยชน์แก่ข้ามากพอ ก็ไม่มี
อะไรที่เราต้องปราศรัยอีก"
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยางเฉิน
"พูดถึงเรื่องนี้
ท่านต้องการพูดอะไรเกี่ยวกับอะไร และผลประโยชน์อะไร
ที่ท่านต้องการเสนอให้ข้า?"
คำตอบกลับที่ดูพึงพอใจของหยางเฉินทำให้คนอื่นตกใจ
ความหยิ่งยโส
ที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นเวลานานได้รับการทำลายลง
เรื่องเหล่านี้มันควรจะ
เป็นเช่นการแย่งเอาลูกอมจากเด็ก
แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนถูกปล้นแทน
ในขณะนี้บรรยากาศที่เหนือกว่าของเขาก็ลดลง
เหลือเพียงคนสองคนที่
กำลังใช้แผนการในการแลกเปลี่ยนข้อมูล
นี่เป็นเพียงแค่การทำธุรกิจ
และไมใ่ช่ปัญหา
ว่าใครเหนือกว่าหรือต่ำกว่า
“เจ้าเป็นเพียงผู้เยาว์ขั้นรวบรวมลมปราณ
ทำไมถึง สามารถเคลื่อนที่ไป
มาได้อย่างอิสระในหลุมดักเซียน?”
ไม่ว่าอย่างไรเมื่อหยางเฉินแสดงให้เห็นถึงทัศนคติแบบแลกเปลี่ยนผล
ประโยชน์
ไม่มีเหตุผลใดกับคนที่โกรธ บุคคลนั้นสามารถถามคำถามเขา
ได้
“นอกจากนี้เจ้ายังอยู่ขั้นรวบรวมลมปราณ
ทำไมจึงสามารถเป็นผู้
เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณขั้นสองได้
เบื้องหลังนี้มีความลับอะไร?”
"สองสิ่งนี้ไม่ได้เป็นความลับอันยิ่งใหญ่ใดๆ
"
หยางเฉินยิ้มอ่อนและถามขึ้น
:
"อย่างไรก็ตามผลประโยชน์แบบไหนที่ท่านจะมอบให้ข้า? หากว่ามันมี
ค่าน้อยกว่าความลับ
เราก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้!”
"ตราบเท่าที่เจ้าพูดออกมา
ข้าจะรักษาชีวิตเล็กๆของเจ้าไว้ เจ้าสามารถ
ใช้ชีวิตของเจ้าเพื่อแลกกับความลับทั้งสองนี้!
"
ในที่สุดอีกฝ่ายก็เปิดเผยความดุร้ายออกมา
ในขณะที่พูดอยู่ๆก็มีแรงกดมหาศาลผลักดันอย่างแรงลงมาจากฟากฟ้า
และมีเชือกขนาดใหญ่ตกลงมาที่หยางเฉิน
คนผู้นั้นเปลี่ยนความตั้งใจ
อย่าง
กะทันหันว่าจะต้องจับหยางเฉินมาให้ได้ก่อนเพื่อทรมานเขาและ
เค้นคำตอบในขณะพูดคุยกับเขา
‘ไม่ดี!’
ความอึดอัดของแรงกดดันจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่ว่าหยางเฉินสามารถ
เพิก
เฉยได้ง่าย
ความกดดันดังกล่าวเป็นเรื่อง เล็กน้อยที่เขาจัดการได้ แต่
ตาข่ายขนาดใหญ่นี่แหละที่ทำ
ให้เขาเกิดความกังวล ถ้าเขาโดนจับ อยู่
ในตาข่ายเขาจะไม่
สามารถหลบหนีออกมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ ทันใด
นั้น
หยางเฉินก็วิ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วและตรงดิ่งเข้าไป ในธาร
ลาวาหลังจากนั้นไม่นานร่างของหยางเฉินก็จางหายไปราวกับว่าตัวเขา
เองกลายเป็นหินหนืด
“เอ๊ะ?”
ตาข่ายของคนอื่นๆจบลงด้วยการจับอากาศว่างเปล่า
เขาไม่ได้คาด
การณ์ไว้ล่วงหน้า
ช่างน่าประหลาดใจที่หยางเฉินไม่ได้รับอิทธิพลจาก
แรงกดดันของเขา
แต่สามารถใช้เคล็ดวิชาล่องหนเพื่อหลบหนีได้ เขา
รู้สึกตัวในทันทีและรู้สึกเหน็บหนาว
“ฮึ่ม
เป็นทักษะอัคคีลวงหลบหนีที่เขาแทบไม่ได้เรียนรู้ แต่เขาก็ยังกล้าที่
จะแสดงมันออกไปต่อหน้าข้า
เด็กน้อยขั้น รวบรวมลมปราณ ไหนข้าจะดู
ซิว่าเจ้าจะสามารถหลบหนีไป
ทางไหน?
เกิดประกายแสงที่ร่างกายของเขาครั้งเดียวและหายตัวไปในลาวาทันที
ภายในธารหินหนืด
หยางเฉินราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความร้อนการเผาไหม้
ใดๆ เขาขยับไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้โดยง่าย
เมื่อศัตรูตามเขาลงไป
ในธารลาวาหยางเฉินก็รู้สึกได้ทันทีที่
เขาไม่เต็มใจจะยกโทษให้หยาง
เฉินไม่ช่วยและเผยยิ้มเยาะ
"อยากจะเล่นด้วยไฟไหม? ข้าจะดูว่าเจ้าจะสามารถอยู่ในไฟ ที่โหดร้าย
นี้อย่างไง!”
ทำให้นึกถึงหงอคงในกระถางปรุงยาของไท่ซ่างเหล่าจิน
ตอบลบคงมีทีเด็ดรวมถึงโชคในการคลี่คลายสถานการณ์ไปได้?