เลือกสีพื้นเพื่ออ่านบทความ >>> พื้นขาว พื้นดำ พื้นครีม

วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ZX 064 ต้องการเล่นไฟกับข้า?


ยาเม็ดลมปราณระดับสามนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพ​ ​ใคร
ก็ตามที่​ ​สามารถปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสามได้ถือว่าเป็น​ ​คนมี
พรสวรรค์พิเศษ​ ​ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงเม็ดยาเม็ดลมปราณระดับสาม
ที่รู้จักกันดีนั้นเกือบทั้งหมดอยู่ในขั้นผลิดอก​ ​แม้แต่การพบเจอพวกเขาก็
เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนับประสาอะไรกับการที่จะได้รับยาของพวกเขา

แต่น่าประหลาดใจ​ ​หยางเฉินประกาศว่าภายในหนึ่งปีเขาจะสามารถ​ ​ปรุง
ยาเม็ดลมปราณระดับสามได้ต่อหน้าพวกเขา​ ​จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ?
หลังออกมาจากหลุมดักเซี่ยนแล้วเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ​ ​ด้านการปรุงยา
เม็ดลมปราณระดับสามหรือ?

ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสามในขั้นรวบรวมลมปราณ?​ ​อย่าง
นี่ไม่เรียกว่าเป็นพรสวรรค์แต่เป็นสัตว์ประหลาด​ ​ยาใดๆที่เป็น​ ​ยาเม็ด
ลมปราณระดับสามแม้ว่าจะเป็นยาเม็ดทั่วไปของยาเม็ดลมปราณก็
สามารถเปรียบเทียบกับ​ ​ยาเม็ดหลินจือหยก​​ ​เป็นที่รู้กันว่ายาหลินจือหยก
นั้นสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้หมดแม้กระทั่งนำคนกลับมาจาก
ความตาย​ ​ยาตัวนี้ช่างร้ายกาจอย่างสมบูรณ์
  
“ศิษย์ผู้น้องหยาง​ ​ข้ามาจากนิกายหนึ่งจักรวาลถ้าเจ้าเจอปัญหาอะไร
ที่หลุมดักเซียนนี้แค่บอกข้า”
  
“ศิษย์ผู้น้องหยางหลังออกมาจากหลุมดักเซี่ยนแล้วเจ้าต้องการอะไร
มองหาข้าได้ที่นิกายโม่หวิน”
  
  
ในเวลาไม่นานเสียงจำนวนมากเริ่มพูดคุยกับหยางเฉินเพื่อพยายาม
สร้างความประทับใจแก่เขา​ ​มีกี่คนกันที่จะมีโอกาสเป็นเพื่อนกับ
ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสามหรือใครก็ตามที่อยู่ในขั้น
รวบรวมลมปราณแล้วยังไม่ถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับ
สาม​ ​ถ้าพวกเขาสามารถให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จะเป็นประโยชน์
ต่อ​ ​พวกเขาใ​นอนาคต​ ​แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้แม้แต่ผู้นำนิกาย​ ​นํ้า
ลายหยด

ความวุ่นวายอลหม่านในมุมหนึ่งของตลาดเรียกความสนใจจากทุกคน
คนเหล่านั้นมุ่งความสนใจดูเหตุการณ์เพราะไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลัง
พูดอะไรกัน​ ​พวกเขาสับสนว่าทำไมเหล่า​ผู้บ่มเพาะรวบรวมลมปราณขั้น
ปลายจึงสามารถก่อสร้างรากฐานได้แม้ในเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญก่อลำต้น
เริ่มไล่ล่าเขา

ผู้บ่มเพาะขั้นรวบรวมลมปราณรวมตัวกันอยู่บริเวณหัวมุมนั้น​ ​เป็นไปได้
ไหม​ ​ว่านั่นคือ​ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสอง​ ​ทันใดนั้นพวก
เขา​ ​ก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดเเละเริ่มพุ่งไปยังทิศทางนั้น

ผู้คนจำนวนมากเริ่มจับตัวชุมนุมกันและนั่นก็​ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้หยาง
เฉินอยากหลบออกจากที่เกิดเหตุ​ ​ความชื่นชมที่แสดงออกต่อหยางเฉิน
ของนักบ่มเพาะเหล่านี้ยิ่งทำให้ผู้คนเชื่อว่าเขาเป็นบุคคลที่น่าทึ่งเข้าไป
อีก​ ​หยางเฉินคิดว่าแม้ว่าเจ้าแห่งพระราชวังหยางบริสุทธิ์ปรากฎขึ้น​ ​ตรง
นี้เขาก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้

“ข้าน้อยหยางเฉินต้องขอบคุณน้ำใจของทุกท่าน”​ ​ในตอนท้าย​ ​หยางเฉิ
นกุมมือขึ้น​คำนับโดยรอบ​ ​และกล่าวด้วยเสียงดังว่า​ ​: 

“​ ​ความสามารถอันเพียงผิวเผินของผู้น้อยนี่ไม่สมควรที่จะได้รับการ
ยกย่องจากท่านผู้อาวุโส​ ​ข้ายังขาดเพลิงที่แตกต่างซึ่งสามารถพบเจอ
ได้ในที่ต่างๆ​ ​ถ้าท่านผู้อาวุโสท่านใดมีข้อมูลเกี่ยวกับเพลิงที่แตกต่าง​ ​ข้า
เองก็พร้อมที่จะแลกกับเตาหลอมที่เต็มไปด้วยเม็ดยา”
  
พอได้ยินคำนี้ทุกคนจำบางสิ่งบางอย่างได้​ ​สิ่งที่หยางเฉินพูดก่อนหน้า​ ​นี้
เกี่ยวกับความสามารถในการปรับตัวยาสามครั้งหลังจากที่กลับมาจาก
หลุมดักเซียนนั่นหมายความว่าเขาสามารถปรับตัวยาได้เพียงสามครั้ง
เพราะขาดเพลิงชั้นสูงบางส่วน​ ​เมื่อใดที่เขารวบรวมเพลิงได้หมดเขาจะ
สามารถข้ามผ่านกลายเป็น​ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณระดับสาม
ทันที

แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อตอนหยางเฉินเป็นนักบ่มเพาะที่มีคุณลักษณะ​ ​เป็น
ไฟเขาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถหาเพลิง​ ​‘ไฟสุริยะแท้จริง’​ ​โดย
บังเอิญ​ ​​ซึ่งเหมาะสมกับการบ่มเพาะของเขาเป็นอย่างมากไม่​ ​งั้นเขา
คงจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้​ ​ในการจะค้นหาเพลิงเพียงคน
เดียวนั้นเป็นงานที่ยากมาก​ ​​บางทีเขาอาจจะได้รับความ​ ​ช่วยเหลือจาก
คนเหล่านี้ในการค้นหาเพลิง​ ​ด้วยการมอบของกำนัล​ ​บางอย่าง

ไม่ว่าเพลิงจะขั้นสูงหรือต่ำ​ ​​แม้ว่าจะไม่เหมาะกับหยางเฉินก็ตาม​ ​แต่ยัง
สามารถให้เตาหลอมแก่นจิตวิญญาณดูดซับและเพิ่มขั้นได้​ ​ดังนั้นข้อ
ตกลงแบบนี้มีแต่ประโยชน์ต่อหยางเฉินและไม่มีอันตรายใดๆ​ ​แล้วทำไม
เขาจะไม่ทำหล่ะ?

สำหรับนักบ่มเพาะเหล่านี่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าว่าที่ผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ด
ลมปราณขั้นสามในอนาคตต้องการอะไร​ ​ดังนั้นถ้าพวกเขาต้องการ​ ​เม็ด
ยาจากหยางเฉินก็แค่ต้องใช้เส้นสายของพวกเขาในการสืบหา​ ​ข้อมูล
เกี่ยวกับเรื่องนี้​ ​ถ้าพวกเขาสามารถหาข้อมูลอะไรมาได้มันก็ถือ​ ​เป็น
โอกาสที่จะทำให้พวกเขาได้รับมิตรภาพจากหยางเฉิน​ ​ในโลกนี้จะมี
ที่ไหนล่ะที่พวกเขาได้รับโอกาสง่ายๆที่จะประจบผู้เชี่ยว​ ​ชาญปรุงยาเม็ด
ลมปราณขั้นสาม​ ​นอกจากนี้ยังอยู่ขั้นรวบรวมลมปราณ
  
นักบ่มเพาะจำนวนไม่น้อยจากไปพร้อมกับความหวังทั้งหมด​ ​ในที่สุด
หยางเฉินก็ไม่ต้องกุมมือคำนับรอบๆอีกต่อ​ ​เขากลับมาเป็น​ ​ตัวเองและ
เริ่มสนใจเรื่องของตน​ ​ในหลุมดักเซียนทุกคนสนใจแต่ตัวเอง​ ​และการ
สังหารจิตวิญญาณสัตว์อสูร​ ​สำหรับการผูกมิตรภาพกับผู้เชี่ยวชาญปรุง
ยาพวกเขารู้ว่าจะต้องพยายามฉวยโอกาสที่มี​ ​ถ้ามันจะช่วยอำนวยความ
สะดวกสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในภายหลังหลังจากที่พวกเขาออกมา
  
ทันทีหลังจากนั้นหยางเฉินก็หายตัวไปอีกครั้งในหลุมดักเซี่ยน​ ​แต่ก็ไม่
ได้ทำให้เกิดความสงสัยใดๆ​ ​ดั่งเช่นทุกคนที่เข้ามาหลุมดักเซี่ยนเพื่อฝึก
สังหารจิตวิญญาณสัตว์อสูร​ ​ทุกคนในหลุมดักเซี่ยนมีวิถีชีวิตแบบนี้​ ​พวก
เขาออกไปและพวกเขารู้ว่าที่ไหนที่สามารถพบจิตวิญญาณสัตว์​ ​อสูร
เพื่อให้พวกเขาสังหารได้

เหตุการณ์นี้ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรสำหรับหยางเฉิน​ ​เพียงแต่ให้โอกาส
กับคนที่จะประจบเขา​ ​และเป็นโอกาสให้หยางเฉินได้ขอความช่วยเหลือ
จากคนอื่นในการค้นหาเพลิงที่แตกต่าง​ ​ไม่มีอะไรอื่นอีก

ปัจจุบันยางเฉินไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการได้รับ
เปลวเพลิงแกนพิภพ​ ​ภายในห้าปีนี้หยางเฉินต้องเข้าพระราชวังหยาง
บริสุทธิ์ให้ได้​ ​หยางเฉินไม่ลืมที่จะฝึกแม้สักวัน​ ​ทั้งหมดที่เขาทำไปเพียง
ปรารถนาที่จะแสดงความเคารพอาจารย์ของเขาอีกครั้ง

ลางสังหรณ์ของหยางเฉินนั้นแม่นมาก​ ​ตราบใดที่เขาสามารถหาเปลว
เพลิงแกนพิภพภายในหลุมดักเซียนการบ่มเพาะของธาตุไฟของเขาก็จะ
สามารถถึงขั้นก่อสร้างรากฐานได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น​ ​ณ​ ​จุดนั้นหยาง
เฉิน​ ​ติดอยู่ในขั้นการรวบรวมลมปราณ​ ​หลายเรื่องที่เขาไม่สามารถ
จัดการ​ ​อะไรได้เ​พราะเขาไม่ได้สร้างรากฐานอย่างเป็นมั่นคงและเชื่อม
ต่อกับพลังจิตวิญญาณของสวรรค์และแผ่นดิน​ ​แม้กระทั่งการปกป้อง​ ​ตัว
เองเขาก็ต้องพึ่งพาวิธีการอื่น

การเดินทางไปยังที่ตั้งของเปลวเพลิงแกนพิภพนั้นเป็นไปอย่างผ่อน
คลาย​ ​ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางไหนสัตว์อสูรใต้ภิพพ​ ​ต่างหายตัวไปอย่าง
รวดเร็ว​ ​และไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆทั้งนั้น​ ​ในบางที่ทางด้านหลังของหยางเฉิ
นมีบางคนสะกดลอยเขาอย่างคิ้วขมวดแต่ด้วยความเร็วของหยางเฉินทำ
ให้ทุกคนไม่สามารถสะกดลอยเขาทัน​ ​มันอาจเป็นไปได้ว่าพระราชวัง
หยางบริสุทธิ์ได้ค้นพบวิธีการที่จะอยู่ให้ห่างจากจิตวิญญาณสัตว์อสูร
ทำไมเขาจึงสามารถเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?​ ​ทำไมสัตว์อสูร
ใต้พิภพโจมตีเขา

คนนั้นได้แต่สงสัยและในขณะที่กำลังตรวจสอบเรื่องเข็มทิศในมือเขา
เมื่อมองตามไปยังทิศทางนั่นหยางเฉินก็หายไปแล้ว​ ​เขาได้แต่ขมวดคิ้ว
จนหน้าผากย่นอีกครั้ง

“นักบ่มเพาะขั้นรวบรวมลมปราณที่สามารถบรรลุเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยา
เม็ดลมปราณขั้นสาม?​ ​คนแบบนี้ไม่ควรจะอยู่ที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์!”

ในอีกทิศทางหนึ่งเงาอีกตัวกล่าวขึ้นขณะถือเข็มทิศที่คล้ายๆกันว่า​ ​การ
แสดงออกของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามีเจตนาที่ไม่ดี​ ​ดูที่เข็มชี้ของเข็ม
ทิศที่มีการสั่นอย่างต่อเนื่อง

​ ​“​พระราชวังหยางบริสุทธิ์ได้รับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
แม้แต่เด็กขั้นรวบรวมลมปราณก็ยังโอ้อวดและคดโกงคนใน​ ​หลุมดัก
เซียน​ ​นี่เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับพวกเขา!”

ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงกล่าว

"เป็นไปได้ไหมที่พระราชวังหยางบริสุทธิ์จะได้รับคำชี้แนะจากผู้
เชี่ยวชาญอาวุโส​ ​มิฉะนั้นศิษย์ภายนอกของพวกเขาจะเพิ่มมาก​ ​ขึ้นใน
ช่วง​ ​2-3​ ​ปีที่ผ่านมาได้อย่างไร​ ​แม้แต่เด็กขั้นรวบรวมลมปราณก็สามารถ
กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณขั้นสองได้โดยง่าย​ ​"

คนที่แต่งตัวประหลาดชุดสีดำกล่าวขึ้นอย่างอิจฉาและมองไปในทิศทาง
ที่​หยางเฉินจากไป

“ฉันจะจับตัวเด็กหนุ่มผู้นี้มาทรมานเพื่อให้เขาเปิดเผยความลับของ
พระราชวังหยางบริสุทธิ์!"



ผู้คนจำนวนมากที่ติดตาม​ ​หยางเฉินต่างมีความคิดที่หลากหลาย​ ​แต่สิ่ง
ที่น่าประหลาดที่สุดก็คือพวกเขาทั้งหมดถือเข็มทิศลักษณะแบบ
เดียวกันซึ่งชี้ไปที่ตำแหน่งของหยางเฉิน

แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะปลดปล่อยจิตสำนึกทางจิตวิญญาณ​ ​ออกไปแต่
หยางเฉินก็ยังไม่สามารถค้นพบคนเหล่านี้ได้​ ​เพราะพวกเขาติดตาม
หยางเฉินเว้นระยะห่างออกไปครึ่งชั่วยาม​ ​แม้ว่าจิตสำนึกทางจิต
วิญญาณของหยางเฉินจะถึงระดับขั้นกลางก่อลำต้น​ ​แต่พลังจิตวิญญาณ
ยังถือว่าอ่อนแอ​ ​ในระยะทางหลายลี้นี้​ ​หยางเฉินไม่สามารถตรวจพบใคร
สักคนถ้าเขาอยู่นอกระยะนี้

ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะไม่สามารถค้นพบพวกเขาได้​ ​แต่พวกเขาก็ไม่
สามารถตามระดับความเร็วหยางเฉินได้ทัน​ ​สัตว์อสูรใต้พิภพยังคงลุกขึ้น
มาโจมตีพวกเขาเช่นเดิม​​ ​นี่ยิ่งทำให้พวกเขาเชื่อว่าที่พระราชวังหยางบริ
สุทธิ๋ต้องมีวิธีที่ทำให้หยางเฉินสามารถรับมือกับสัตว์อสูรใต้พิภพ​ ​วิํธีพวก
นี้พวกเราต้องได้รับมัน!

ที่จริงหยางเฉินไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วแต่อย่างใดแต่นี่คือความเร็วที่ปกติ
ของเขา​ ​ในหลุมดักเซียนเ​ฉินหยางไม่ได้ใช้การเหาะใน​ ​การเดินทาง
แม้ว่าเขาบรรลุการรวบรวมลมปราณขั้นที่เจ็ดแล้วก็ตาม​ ​ในขณะที่นักบ่ม
เพาะคนอื่นที่มีความสามารถในการเหาะ​ ​โดยไม่ต้องใช้ยันต์อาคมใดๆ
หลังจากบรรลุการรวบรวมลมปราณขั้นที่หก​ ​แต่ภายใต้พื้นดินวิธีที่
ปลอดภัยที่สุดคือการเดินและสิ่งหนึ่งคือต้องไม่แสดงความสามารถออก
มา

ปัญหาคือแม้ว่าหยางเฉินจะเดินอย่างปกติแต่ผู้คนเหล่านั้นก็ต้องรีบเร่ง
ถ้าพวกเขาต้องการที่จะจับหยางเฉินเมื่อเทียบกับ​ ​สัตว์อสูรหลายร้อย
หลายพันตัว​ ​แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญก่อสร้างรากฐานหรือแม้
แต่ขั้นก่อลำต้นก็ตามพวกเขายังคงต้องตัดสร้างทางด้วยเลือดต่อไป

หยางเฉินดูเหมือนไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังเขา​ ​เขาเพียง
แค่เดินมุ่งไปตามทิศทางของเขาอย่างสงบในทิศทางนี้มี​ ​ธารลาวาใต้ดิน
ที่เกิดจากหินหนืด​ ​หลายคนรู้ว่าเปลวไฟแกนพิภพตั้งอยู่ในธารลาวา
เนื่องจากไม่ได้เป็นสถานที่ลึกลับใดๆ​ ​จึงไม่มีใครคิดว่าแปลกที่เขาเดิน
ทางไปที่นั่น​ ​ในกรณีนี้เขาเป็นนักบ่มเพาะ​คุณลักษณะไฟดังนั้นการมาที่
ธารลาวาจึงเหมาะ​ ​แก่การบ่มเพาะของเขาเป็นอย่างมาก

ธารลาวามีแสงแตกออกมาตามล่องหินหนืดสีแดงเข้ม​ ​และยังเป็นพื้นที่
เฉพาะ​ ​ภายในหลุมดักเซียนที่ส่องแสงตามธรรมชาติ​ ​หินหนืด​สีแดง
ค่อยๆไหลลงมาที่พื้นดินและบางครั้งจะไหลออกจากธารลาวา​ ​สร้างรอย
เล็กๆน้อยๆ​ ​บนพื้นดินและทำให้สภาพแวดล้อมที่นี่ร้อนอบอ้าวคน
ธรรมดาทั่วไปจะไม่สามารถอดทนต่อความร้อนนี้ได้

สิ่งที่ไม่คาดฝันที่สุดก็คือตอนที่หยางเฉินรีบมาที่นี่เงาทึบที่​ ​สามารถมอง
เห็นกำลังยืนอยู่บนผาหินสูงคอยเฝ้ามองแม่น้ำหิน​ ​หนืดนั่นเอง

"เจ้ามาในที่สุด!"

หลังจากการตรวจพบถึงตัวตนของหยางเฉิน​ ​ผู้ที่ยืนอยู่เหนือหินก็ลงมา
และพูดด้วยความหยิ่งทะนง​ ​:

“เจ้าใช้เวลานานพอสมควร!”

สีแดงเข้มสะท้อนกับผิวหน้าของเขาทำให้การปรากฏตัวของเขาคล้าย
กับหยางเฉินเมื่อตอนเขาออกมาจากแท่นประหารเซียน

"ที่นี่คือธารลาวาและเจ้ายังขาดเปลวเพลิง​ ​บางทีเจ้า​ ​อาจลองใช้โชคที่มี
ของเจ้าดูว่าจะสามารถหาเปลวเพลิงแกนพิภพได้หรือไม่”

เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ต้องการจะบอกความรู้สึกว่าการปรากฏตัวของหยาง
เฉินนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับเขา​ ​และไม่รอให้หยางเฉินพูดเขาก็
ประกาศบทสรุปของเขาอย่างกระตือรือร้น

"ข้าพูดถูกไหม?"

"ถูกต้องอย่างที่สุด!"

ในที่สุดหยางเฉินก็มีโอกาศที่จะเปิดปาก​ ​แต่เขาไม่ได้หวาดกลัวคนนั้น
ที่รู้เกี่ยวกับตัวเขา​ ​เพราะคนผู้นั้นพูดเร็วเกินไป​ ​พูดด้วยความมั่นใจที่
สมบูรณ์โดยปราศจากความอับอายเกี่ยวกับความคิดของเขา​ ​​ ​ไม่แม้แต่
จะให้​ ​หยางเฉินมีเวลาที่จะพูด

เมื่อมองไปบนใบหน้าที่มีรอยยิ้มที่กระหยิ่มใจของคนนั้น​ ​หยางเฉินกล่าว 
ว่า​ ​
  
"แม้ว่าเจ้าจะถูกแต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับข้าอย่างไร?"

คำถามวาทศิลป์นี้ทำให้รอยยิ้มที่มุมปากของคนผู้นั้นตกลง​ ​เขาคาดไม่
ถึงว่าหยางเฉินจะตอบคำถามเขาแบบนี้ด้วยน้ำเสียงแบบนี้

สิ่งที่เขาคิดไว้คือหยางเฉินเป็นผู้เยาว์ขั้นรวบรวมลมปราณ​ ​ดังนั้นเขาคาด
เดาแผนและเป้าหมายของหยางเฉินได้อย่างถูกต้องแน่นอน​ ​สิ่งนี้จะ
ทำให้หยางเฉินตกใจและเมื่อเป็นเช่นนั้นหยางเฉินก็จะต้องขอคำชี้แนะ
จากเขา​ ​หลังจากนั้นเขาก็จะประกาศชื่อของเขาให้​ ​ดังก้องซึ่งจะทำให้
หยางเฉินรู้สึกเหมือนมีเสียงฟ้าร้อง​ ​แทรกซึมเข้าไปในหูเหมือนข่มขู่ซึ่ง
จะสามารถทำให้เขารู้สึกเลื่อมใสอย่างมาก​ ​​สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเป็นขั้นต่อไป
อย่างแน่นอน

แต่เขาไม่คาดคิดว่าหยางเฉินจะ​ ​โต้ตอบแบบนี้​ ​กล่าวอีกนัยหนึ่ง
แผนการที่เขาคิดวางแผนมานานก็ล้มเหลว​ ​สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเป็นผู้ที่
ได้รับความชื่นชอบมาอย่างยาวนานและหลายคนไล่ตามเขาภายใน
นิกาย​ ​บินออกมาด้วยบันดาลโทสะเนื่องจากความอับอาย

“เข้าประเด็นเลยเด็กน้อย​ ​ข้าต้องการรู้บางอย่างจากเจ้า​ ​ถ้าเจ้าตอบ
คำถามข้ามันจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเจ้าอย่างมาก”

คนที่เคยพูดอย่างใจเย็นก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนน้ำเสียงของเขาทันที:

“เจ้าไม่ควรทิ้งชีวิตของเจ้าเพื่อรักษาหน้าตัวเอง”

"ด้วยความยินดี​ ​ตราบใดที่ท่านสามารถให้ประโยชน์แก่ข้ามากพอ​ ​ก็ไม่มี
อะไรที่เราต้องปราศรัยอีก"
  
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยางเฉิน

"พูดถึงเรื่องนี้​ ​ท่านต้องการพูดอะไรเกี่ยวกับอะไร​ ​และผลประโยชน์อะไร
ที่ท่านต้องการเสนอให้ข้า?"

คำตอบกลับที่ดูพึงพอใจของหยางเฉินทำให้คนอื่นตกใจ​ ​ความหยิ่งยโส
ที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นเวลานานได้รับการทำลายลง​ ​เรื่องเหล่านี้มันควรจะ
เป็นเช่นการแย่งเอาลูกอมจากเด็ก​ ​แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนถูกปล้นแทน
ในขณะนี้บรรยากาศที่เหนือกว่าของเขาก็ลดลง​ ​เหลือเพียงคนสองคนที่
กำลังใช้แผนการในการแลกเปลี่ยนข้อมูล​ ​​นี่เป็นเพียงแค่การทำธุรกิจ
และไมใ่ช่ปัญหา​ ​ว่าใครเหนือกว่าหรือต่ำกว่า

“เจ้าเป็นเพียงผู้เยาว์ขั้นรวบรวมลมปราณ​ ​ทำไมถึง​ ​สามารถเคลื่อนที่ไป
มาได้อย่างอิสระในหลุมดักเซียน?”

ไม่ว่าอย่างไรเมื่อหยางเฉิน​แสดงให้เห็นถึงทัศนคติแบบแลกเปลี่ยนผล
ประโยชน์​ ​ไม่มีเหตุผลใดกับคนที่โกรธ​ ​บุคคลนั้นสามารถถามคำถามเขา
ได้

“นอกจากนี้เจ้ายังอยู่ขั้นรวบรวมลมปราณ​ ​ทำไมจึงสามารถเป็นผู้
เชี่ยวชาญปรุงยาเม็ดลมปราณขั้นสองได้​ ​เบื้องหลังนี้มีความลับอะไร?”

"สองสิ่งนี้ไม่ได้เป็นความลับอันยิ่งใหญ่ใดๆ​ ​"

หยางเฉินยิ้มอ่อนและถามขึ้น​ ​:

"อย่างไรก็ตามผลประโยชน์แบบไหนที่ท่านจะมอบให้ข้า?​ ​หากว่ามันมี
ค่าน้อยกว่าความลับ​ ​เราก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้!”

"ตราบเท่าที่เจ้าพูดออกมา​ ​ข้าจะรักษาชีวิตเล็กๆของเจ้าไว้​ ​เจ้าสามารถ
ใช้ชีวิตของเจ้าเพื่อแลกกับความลับทั้งสองนี้!​ ​" 

ในที่สุดอีกฝ่ายก็เปิดเผยความดุร้ายออกมา

ในขณะที่พูดอยู่ๆก็มีแรงกดมหาศาลผลักดันอย่างแรงลงมาจากฟากฟ้า
และมีเชือกขนาดใหญ่ตกลงมาที่หยางเฉิน​ ​คนผู้นั้นเปลี่ยนความตั้งใจ
อย่าง​ ​กะทันหันว่าจะต้องจับหยางเฉินมาให้ได้ก่อนเพื่อทรมานเขาและ
เค้นคำตอบในขณะพูดคุยกับเขา
  
‘ไม่ดี!’

ความอึดอัดของแรงกดดันจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่ว่าหยางเฉินสามารถ​ ​เพิก
เฉยได้ง่าย​​ ​​ความกดดันดังกล่าวเป็นเรื่อง​ ​เล็กน้อยที่เขาจัดการได้​ ​แต่
ตาข่ายขนาดใหญ่นี่แหละที่ทำ​ ​ให้เขาเกิดความกังวล​ ​ถ้าเขาโดนจับ​ ​อยู่
ในตาข่ายเขาจะไม่​ ​สามารถหลบหนีออกมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ​ ​ทันใด
นั้น​ ​หยางเฉินก็วิ่งไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็วและตรงดิ่งเข้าไป​ ​ในธาร
ลาวาหลังจากนั้นไม่นานร่างของหยางเฉินก็จางหายไปราวกับว่าตัวเขา
เองกลายเป็นหินหนืด

“เอ๊ะ?”
  
ตาข่ายของคนอื่นๆจบลงด้วยการจับอากาศว่างเปล่า​ ​เขาไม่ได้คาด
การณ์ไว้ล่วงหน้า​ ​ช่างน่าประหลาดใจที่หยางเฉินไม่ได้รับอิทธิพลจาก
แรงกดดันของเขา​ ​แต่สามารถใช้เคล็ดวิชาล่องหนเพื่อหลบหนีได้​ ​เขา
รู้สึกตัวในทันทีและรู้สึกเหน็บหนาว
  
“ฮึ่ม​ ​เป็นทักษะอัคคีลวงหลบหนีที่เขาแทบไม่ได้เรียนรู้​ ​แต่เขาก็ยังกล้าที่
จะแสดงมันออกไปต่อหน้าข้า​ ​เด็กน้อยขั้น​ ​รวบรวมลมปราณ​ ​ไหนข้าจะดู
ซิว่าเจ้าจะสามารถหลบหนีไป​ ​ทางไหน?

เกิดประกายแสงที่ร่างกายของเขาครั้งเดียวและหายตัวไปในลาวาทันที

ภายในธารหินหนืด​ ​หยางเฉินราวกับว่าไม่รู้สึกถึงความร้อนการเผาไหม้
ใดๆ​ ​เขาขยับไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้โดยง่าย​ ​เมื่อศัตรูตามเขาลงไป
ในธารลาวาหยางเฉินก็รู้สึกได้ทันทีที่​ ​เขาไม่เต็มใจจะยกโทษให้หยาง
เฉินไม่ช่วยและเผยยิ้มเยาะ
"อยากจะเล่นด้วยไฟไหม?​ ​ข้าจะดูว่าเจ้าจะสามารถอยู่ในไฟ​ ​ที่โหดร้าย
นี้อย่างไง!”


1 ความคิดเห็น:

  1. ทำให้นึกถึงหงอคงในกระถางปรุงยาของไท่ซ่างเหล่าจิน
    คงมีทีเด็ดรวมถึงโชคในการคลี่คลายสถานการณ์ไปได้?

    ตอบลบ